ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสรรพกิจบุญญาธิการวงแหวนควบคุมชะตา(ดึงกุศลกรรม) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 10 เมษายน 2015.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ลูกกรอกกายแก้วพรหมอารักษ์ (พ่อศรีจอมปราชญ์ลูกพระไพร)
    แต่เดิมนั้นหากพูดถึงลูกกรอกแล้วหลายๆคนย่อมปรารถนาที่จะมีไว้บูชาในชีวิตซักตนหนึ่ง ด้วยทราบดีว่าลูกกรอกที่ได้มาอย่างถูกต้องตามตำราทั้งการได้มาตัวมารดานั้นจะต้องเต็มใจยกให้ ไม่ใช่ได้มาด้วยการฆ่า การทำแท้งต่างๆซึ่งลูกกรอกนั้นจะถือว่ามีคุณมาก มีฤทธิ์มหาศาลดุจของวิเศษ หลายๆคนที่ทราบว่าพ่ออาจารย์ท่านมีลูกกรอกที่คนเอามาถวายอยู่เนืองๆ จึงมักจะขอบูชากันบางท่านเรียกว่าขอให้มีของเขาจะไม่เกี่ยงราคาค่างวดเลย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าลูกกรอกอาคมนั้นเป็นของวิเศษจริง แต่หากเอาให้คนเพียงคนเดียวไปใช้ ประโยชน์มันก็น้อยเพราะว่าของมันไปไม่ถึงมือคนที่เขาเดือดร้อน คนมีเงินส่วนใหญ่ไม่เอาไว้สะสมประดับบารมีก็เอาไว้สนองตัณหาตัวเอง ดังนั้นท่านจึงมีดำริจะทำลูกกรอกหรือยอดกุมารขึ้นมาเสียครั้งหนึ่ง

    หากพูดถึงวิชาการเสกกุมารบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเดรัจฉานวิชา แต่สำหรับพระอรหันต์และฆราวาสที่ทรงภูมิแล้วย่อมจะทราบดีว่าสิ่งนี้ไม่ใช่ของเลวร้าย พ่ออาจารย์ท่านว่ามันเป็นวิชาทางจิต กุมารนั้นเป็นเครื่องรางนำโชคที่มีมาตั้งแต่ยุคสมัยบรรพบุรุษย้อนกลับไปไม่อาจนับได้ว่ากี่ชั่วโคตร วิชาการทำกุมารนี้มีสืบกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา แม้นอยุธยาก็ว่าสืบมาตั้งแต่วงศ์พระร่วง ด้วยทราบดีถึงคุณวิเศษจึงเป็นที่นิยมทำกันสืบมา กล่าวกันว่าถ้าใครที่ประกอบกิจการใดๆก็ดีมีกุมารทองเก่งๆ จะสามารถเรียกคนเรียกคู่ข้าได้กิจการนั้นจะมีลูกค้าเดินเข้ามาติดต่อย่างอุ่นหนาฝาคลั่งไม่ขาดสายเขาจะนำพาซึ่งโชคลาภ ความรุ่งเรืองมาสู่ผู้ดูแลอย่างคาดไม่ถึง

    เมื่อกล่าวถึงกุมารทอง พ่ออาจารย์ท่านว่าเจ้ากุมารนี่แหละสำคัญ เพราะยุคปัจจุบันนี้มันมีอยู่เกลื่อนเมือง เป็นของที่ใครก็คิดว่าตนก็ทำได้แต่เมื่อทอดสายตาไปจะแลหากุมารที่เก่งๆซักตนก็นับได้ว่ายากเต็มที ท่านว่าเราเห็นมีแต่เด็กที่ไร้สมอง ไม่มีความคิด ส่วนมากแล้วช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ มีไว้ก็รังแต่จะเป็นภาระคนดูแล และหากพิจารณากันดีๆกุมารทองนั้นเป็นของสำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ค่อยสร้างให้ใครใช้เลย ยิ่งกุมารเก่งๆนั้นท่านจะหวงแหนเป็นอย่างมาก

    พ่ออาจารย์ท่านได้นำลูกกรอกที่มีรกพันคอสามตนอันมีคนถวายไว้นำมาพลีป่นเป็นผงเพื่อจะทำการชุบจิตวิญญาณเสียใหม่แล้วนำมาเข้ากับว่านวัวละแกออย(เครือให้)อันมีลักษณะคล้ายกับพระธาตุพระฉิมดีทางเรียกโชคลาภและเสี่ยงโชคอย่างเอกอุเป็นที่สุด จากนั้นจึงนำผงสำคัญคือผงลูกกรอกตะเคียนใส่ลงไปด้วย อันลูกกรอกตะเคียนนี้ท่านว่าจะเกิดในท้องแม่ตะเคียนหรือต้นตะเคียนที่ลำต้นมีลักษณะบวมเหมือนคนท้อง เมื่อครบเก้าเดือนบริเวณที่บวมนั้นก็จะปล่อยแก่นไม้ออกมาดุจแม่คลอดบุตรหากได้นำมาทำเป็นกุมารแล้วจะมีคุณเอกอุเป็นที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าลูกกรอกตะเคียนนั้นเกิดด้วยกำลังของพระไพรในป่าที่สมสู่กับแม่ตะเคียน เมื่อนำมาทำยอดกุมารจะได้กุมารที่มีชาติตระกูลสูงซ้ำยังถือว่าจุติเช่นผู้มีกำลังมาก มีบารมีเหนือผู้ใดด้วยกำลังของพระไพรต่างจากกุมารผีน้อยทั่วไป เมื่อได้ผงสำคัญแล้วท่านจึงนำมานวดกับน้ำมันนางหลง ผงเทพเจ้าแห่งการพนัน ผงเสี่ยงโชค ผงเสี่ยงดวง ผงสยบมหาอำนาจ ผงเสริมวาสนา ผงเสริมดวง ผงเร่งรวย ผงพระเจ้าทันใจ ผงพระลักษณ์หน้าทอง ผงกลับดวง ผงกลับร้ายกลายดี ผงนิพพานสูตร (ท่านตั้งใจเอาไว้ให้เป็นกุมารที่โกงที่สุด สามารถพลิกดวงผู้บูชาได้ และแสวงหาลาภจากการเสี่ยงดวงเสี่ยงโชคได้) และเหนือสิ่งอื่นใดเลยท่านว่ากุมารของเรานี้จะโง่ไม่ได้ ท่านจึงลงผงหัวใจพระมโหสถโพธิสัตว์บัณฑิตและหัวใจพระสารีบุตรเอาไว้โดยแยกทำการปลุกเสกขอกำลังเสด็จพระใหญ่เจริญปัญญาบารมี ปัญญาอุปะบารมี และปัญญาปรมัตถะบารมีเป็นชนวนตั้งต้นภูมิกำลังของขุมปัญญา ความคิด แลจิตวิญญาณอันเป็นที่สุดก่อนผสมลงไปด้วยอีกคำรบหนึ่ง ท่านนำผงนั้นมาปั้นเป็นหัวเด็กหรือกุมารไว้ด้วยถือคติว่ามีแต่หัวแล้วยังมีชีวิตนี่ก็คือเด็กอมตะมีพลังมีชีวิตล้นเหลือไม่มีวันตาย ใครก็รังแกไม่ได้เอาชนะไม่ได้ ซ้ำที่ท่านลงผงหัวใจพระมโหสถแลพระสารีบุตรนั้นก็เพื่อให้กุมารมีความคิด มีอุปนิสัยช่างคิดเป็นเด็กฉลาดปราดเปรื่องรู้เท่าทันโลกและยุคสมัย สามารถใช้อุบายเล่ห์กลต่างๆเพื่อบรรลุความสำเร็จและนำผู้บูชาออกจากสถานการณ์คับข้องใจได้ ท่านเสกไปวัดพลังและภูมิปัญญาไปจนกระทั่งตั้งชื่อให้กับกุมารว่าเจ้าศรีธนญชัยโดยเรียกสั้นๆแค่พ่อศรีเพราะเขามีอุปนิสัยฉลาดแกมโกงอย่างมาก พ่ออาจารย์ท่านว่า " อ้ายศรี...พ่อตัวดีของฉันมันกลิ้งกลอก เจ้าเล่ห์เพทุบาย ฉลาดแกมโกง มักซ้อนกลอุบายในการแก้ปัญหาอยู่เสมอ"


    หลังจากสำเร็จกุมารทนสิทธิ์มีฤทธิ์ดุจภูมิเทวดาแล้ว ท่านว่ามีแต่หัวก็จะไม่น่าเอ็นดูเท่าไหร่ จึงหลอมร่างสถิตย์ให้พ่อศรี ท่านใช้ธาตุกายสิทธิ์มาลงสูตรพรหมกุมารเทร่างให้ในลักษณะลูกกรอกพร้อมกับกล่าวว่า "พ่อตัวร้ายของฉันต้องดูดรกจกปากเท่านั้น"


    "พ่อศรีดูดรกจกปาก" ท่านว่าเก่งที่สุดของกุมารก็ต้องเป็นลูกกรอกท่านจึงทำพ่อศรีให้มีลักษณะเป็นลูกกรอกเพราะเขามีฤทธิ์เป็นกายสิทธิ์ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่บันดาลให้แม่มีโชคมีลาภ แคล้วคลาดอันตรายตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง ซ้ำยังถือคติเมื่ออยู่ในท้องจะมีรกพันตัวเลยเรียกว่ากุมารดูดรก พ่ออาจารย์ท่านว่าที่กุมารดูดรกก็คือกุมารที่กินหรือดูดตลอดเวลาที่อยู่ในท้องแม่เป็นเคล็ดว่าอมไม่รู้สิ้น กินไม่รู้จบ เช่นนั้นลูกกรอกที่มีรกพันตัวจึงถือเป็นสุดยอดของศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์เหนือกุมารทองทั่วไป แต่ที่สำคัญที่สุดคือการจะปลุกเสกให้สำเร็จได้นั้นนับว่ายากมาก กุมารเช่นนี้เมื่อมีบูชาไว้ ท่านว่าจะไม่พบพานความลำบาก ไม่รู้ยาก รู้จน ชีวิตไม่มีทางอับจนลงได้เลย ด้วยเป็นกุมารทองกายสิทธิ์มีอิทธิฤทธิ์อิ่มอุดม ให้คุณค้ำคูณผู้เลี้ยงอย่างเดียวดังเลี้ยงลูกกรอก ถือคติว่าเป็นกุมารที่อยู่ในครรภ์มารดาตอนยังไม่คลอด มีกิน รู้อิ่มด้วยสายสะดือที่ป้อนเข้าถึงปาก แถมยังมี“แม่ซื้อ”เทวดารักษาตัวคอยอุ้มสม จึงถือเป็นเคล็ดให้คนครอบครองมีกินมีใช้อิ่มหนำสำราญไม่รู้จักอดตลอดเวลาใครได้ใช้ดุจมีลูกกรอกเทวดาบูชาอยู่ช่วยให้คุณค้ำคูณให้พ่อแม่มีแต่ความเจริญร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐีอย่างเดียว โบราณจึงบอกเล่ากันว่าใครเลี้ยงกุมารดูดรก ไม่พานพบความจน


    พ่ออาจารย์ท่านเสกบรรจุปราณใส่หายใจให้แก่กุมารทอง ตรึงรูป ตรึงนาม ปลุกเสกประจุพลังอาถรรพณ์มนตรานิพพานสูตร ว่าสูตรมหาภูติคืนครรภ์ลงในกุมารเพื่อให้กุมารเป็นทิพย์ อิ่มทิพย์ดั่งอยู่ในครรภ็มารดาท่านเสกจนกุมารทองดูดรกเคลื่อนไหวได้ ทั้งปรากฏเสียงเด็กร้องดั่งมีชีวิตมีชีวิต แล้วก็ค่อยๆทำการเสกหนุนต่อไปทีละด้าน หาฤกษ์หายามวันไหนฤกษ์ไหนเป็นมงคล ท่านก็จะประจุมนต์ปลุกเสกไปเรื่อยๆ วันไหนท่านคำนวณเลขยามแล้วดีถือเป็นวันมงคลท่านก็จะนั่งเดินมนต์ปลุกเสกไป เช่น

    - วันไหนตรงกับฤกษ์เศรษฐีท่านก็จะเสกด้วยมนต์หัวใจเศรษฐี หัวใจพระฉิม หัวใจเงินล้านเสกให้รวยกันถ้วนหน้า
    - วันไหนเข้าโจโรฤกษ์หรือฤกษ์มหาโจรท่านก็จะเสกด้วยหัวใจโจรเพราะโจรเป็นที่เกรงกลัวของผู้คน สะกดคน น่าเกรงขาม จิตใจเด็ดเดี่ยว โหดเหี้ยม ดีเด่นด้านมหาอำนาจทำให้เหนือคนชนะศัตรูทำให้เราเด่นกว่าใคร
    - วันไหนเข้าเพชรฆาตฤกษ์หรือเรียกว่าฤกษ์พิฆาต ท่านก็จะเสกด้วยมนต์มหาสะกดสยบคนให้ดวงเหนือกว่าเด่นกว่าคู่แข่ง แม้ทำการพนันขันต่อเสี่ยงดวงก็จะสะกดเจ้ามือเรียกว่าเป็นมหาสยบ มหาสะกด พิฆาตคู่แข่ง
    ถ้าตรงกับฤกษ์ยามมงคลไหนท่านก็จะเสกมนต์คาถาตามฤกษ์นั้นไปเรื่อยๆคนครบทุกบทเพื่อให้ดีทุกทางเก่งทุกด้านทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆนับวันเดือนปี หลังจากนั้นจึงอธิษฐานขอบารมีเสด็จพระใหญ่หนุนภูมิเขาไปเรื่อยๆตั้งแต่ภูมิเทวา อากาศเทวาหนุนไปเรื่อยๆจนเป็นพรหมกุมาร ท่านว่าพ่อศรีของฉันนั้นฉันหนุนจนเป็นพรหมกุมารมีกายแก้วเป็นกุมารรู้ความ คนที่บูชาเขาจะอิ่มด้วยโภคทรัพย์ ทั้งยังใช้เขาให้วิ่งหาทรัพย์ให้ คอยจับ คอยสนับสนุนเราก็ย่อมได้ ใช้ได้ทั้งอนุเคราะห์และสงเคราะห์ ช่วยพ่อ ช่วยแม่ ช่วยคนเลี้ยงเพื่อเป็นกำลังค้ำคูณอุดหนุนชักนำให้ดีขึ้นแบบรวดเร็ว ท่านว่าฉันทำไว้ให้คนใช้ขอทรัพย์รับโชคจำไว้เท่านี้ก็พอ

    ท่านว่าเสกกุมารให้เขามีปัญญา ให้เขาเก่งและฉลาดไปพร้อมๆกันนั้นถือว่าทำได้ยาก ท่านมักนำกุมารของท่านไปเสกตรงจุดที่มีพลังธาตุพลังธรรมชาติแรงๆอยู่เนืองๆจนพวกชาวเขาเห็นดวงไฟลอยไปลอยมา ดุจลอยเล่นแสงพระจันทร์คืนเพ็ญ บ้างก็วิ่งแข่งกัน ทำให้หลงเข้าใจว่าเป็นพระธาตุและสิ่งศักดิ์สิทธิ์จึงเดินตามมาดูจนเห็นลูกไฟเหล่านั้นค่อยๆลอยเข้าไปในกองกุมารของพ่ออาจารย์เช่นนั้น ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า " ไอ้ศรีนี้ฉันเสกจนเต็มหมดแล้ว เสกต่อไปไม่ได้อีกแล้วเพราะพลังงานมันไม่พร่องเลย ใครมีบุญก็มาเอาไปนะ เอาไปช่วยทำการ ทำงาน ทำไปเถอะนะจะทำอะไรก็สำเร็จ "


    พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงกุมารทั่วไปว่าเวลาเลี้ยงเราต้องเลี้ยงเขาตั้งแต่เป็นเด็กจนเขาโตและพัฒนาไปพร้อมกับเรา แต่กุมารฉันนอกจากทำให้จะทำให้เก่งมีฤทธิ์มากแล้ว มันยังต้องรู้ความมีปัญญามาก รู้หน้าที่ รู้จักรับผิดชอบงานของตน ซ้ำกุมารฉันไม่ต้องเลี้ยงเขาก็โต พร้อมที่จะรับปัญหาใหญ่ๆเรื่องหนักๆได้ทุกสิ่งเพราะฉันทำตามตำราเก่าเสกแล้วก็ต้องหนุนภพภูมิ ทั้งเสกเก็บทุกฤกษ์ให้เก่งทุกด้าน ตั้งใจทำให้เป็นกุมารเพื่อให้คนเอาไปใช้งาน ไม่ใช่ทำเพื่อให้เอาไปเลี้ยงเป็นขี้ขา เป็นภาระ เป็นคนรับใช้กุมารเช่นนั้น ท่านว่ากุมารของท่านตนนี้ประหลาดกว่ากุมารทั้งปวงเพราะเป็นกุมารเจ้าเล่ห์แสนกล นอกจากนั้นยังขยันทำได้ทุกวิธี เมื่อพูดถึงกุมารที่มีอาคมสูงทั้งนิสัยเป็นจอมเจ้าเล่ห์ แต่แรกนั้นพ่ออาจารย์ท่านพูดถึงเจ้าศรีหรือกุมารรุ่นนี้ว่าฤทธิ์เขาแรง แต่ไอ้ที่แรงกว่าฤทธิ์ก็คือสมองของมันที่ฉันตั้งใจทำตั้งแต่เริ่ม ฉันต้องการกุมารที่มีสมอง คิดเองเป็นไม่ใช่ใช้งานอะไรเจอปัญหาก็ทำตัวไม่ถูก ทำงานไม่เป็น ต้องมานั่งเลี้ยงซื้อของซื้อขนมให้เขาทุกวันรอความหวังรอมันโตมันเก่ง เข้าทำนองงานก็ไม่เดิน ทรัพย์ก็ร่อยหรอ ดังนั้นเมื่อสร้างฉันจึงขอเสด็จพระใหญ่ท่านหนุนปัญญาบารมีให้เขาเป็นพิเศษเปิดสติปัญญาให้รู้แจ้งแทงตลอดบวกกับนิสัยแกมโกงทำงานทุกวิธีขอให้สำเร็จ เอาว่าพ่อศรีมันไม่เกี่ยงวิธีการเช่นนั้น


    โบราณนั้นเขาว่าถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องเอาด้วยคาถา แต่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าพ่อศรีของท่านนั้นมีครบทั้งเล่ห์กลมนต์คาถาหรือพูดอีกอย่างคือ อะไรมันก็ทำได้ ไม่มีอะไรเกินมือพ่อศรีไปได้เลย เพราะว่ามันเจ้าเล่ห์แสนกลและร้ายกาจในอุบายไม่ขี้เกียจท่านจึงตั้งชื่อเทียบเทียมไว้กับศรีธนญชัยแล้วก็เรียกสั้นๆแค่เจ้าศรีหรืออ้ายศรี ด้วยเป็นกุมารทองช่างคิดที่ฉลาดแกมโกง และเรื่องที่เจ้าศรีเขาโกงเขาทำ พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่ามีแต่เรื่องใหญ่ๆพอที่จะพลิกเหตุการณ์วุ่นวายยุ่งยากได้ทั้งสิ้นและเหนือสิ่งอื่นใดเลย เจ้าศรีของท่านนั้นจำไว้ว่าไม่ต้องเลี้ยง เป็นกุมารที่ทำให้ติดตัวไว้ใช้ ไม่ต้องเลี้ยงต้องเซ่น ไม่ต้องบน ไม่ต้องถวายข้าวปลาอาหารหรือของเล่นใดๆทั้งสิ้นเกินไปกว่าตรรกะของกุมารทองโดยทั่วไป พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมาะแก่คนที่ไม่ชอบอะไรยุ่งยาก ไม่มีเวลา ไม่ค่อยสะดวกในการไหว้บูชาทั้งกลัวได้หน้าลืมหลัง กังวลว่าจะลืมสัญญา ลืมถวายข้าวของขนมต่างๆ กลัวได้ไปแล้วจะลืมเลี้ยงดู ซึ่งกุมารเจ้าศรีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องหยุมหยิมไม่เป็นเรื่องเหล่านั้นไม่ต้องกังวลหรือคิดถึงเลย เพราะฉันทำมาให้ใช้อย่างเดียวยิ่งใช้ยิ่งแรง


    โดยปกติแล้วพ่ออาจารย์ท่านจะใช้เจ้าศรีก็ต่อเมื่อมีเรื่องตึงมือหรือคิดไม่ตกจริงๆว่าจะไปช่วยเขาอย่างไร เพราะท่านว่าเมื่องานถึงมือมันแล้ว ยากนักที่จะไม่ได้เรื่อง ดังนั้นหนนี้ท่านจึงให้นำออกให้บูชา ท่านว่าคนที่มีทุกข์ มีภาระหนักอะไรก็พูดก็บอกพ่อศรีเขา พูดกับเขาเพราะๆ จำเอาไว้ว่าพ่อศรีของฉันอิ่มทิพย์ไม่ต้องเลี้ยง เขาช่วยเราเขาก็ได้บุญมีบารมีเพิ่มขึ้นเป็นวงจรของเขา ขอแค่คนเลี้ยงหมั่นชวนคุย หมั่นขอ หมั่นพูดถึงเขาเพียงเท่านี้ก็พอ คิดเสียว่าพ่อศรีก็เหมือนคน พูดมากๆหน่อย เรียกใช้บ่อยๆหน่อย เดี๋ยวก็จะสนิทกันเอง พอสนิทกันแล้วอะไรก็ดีไปหมด


    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าควรอาราธนาพ่อศรีเป็นคู่เพื่อให้เขามีสหายมีหัวโจกมีบริวาร ทั้งการสิ่งใดที่เราขอเขาจะจัดแจงแบ่งงานกันทำเอง หรือใครที่มีห้างร้านสถานที่ต่างๆก็ดีให้เอาเขาไปฝังไปทำอาถรรพ์ไว้ หรือจะตั้งบูชาในเคหะสถานก็ได้ เอาไว้บอกกล่าวให้เขาดูแลที่ทางหรือทำให้สถานที่และกิจการของเรานั้นเจริญรุ่งเรืองไร้คู่แข่งก็หมดปัญหา ท่านว่าจะใช้กี่ตนก็ตามแต่วาสนาบารมีของแต่ละคน แต่ตามตำราเลี้ยงลูกกรอกนี้เขาว่ายิ่งมีเยอะยิ่งดีเพราะมันจะช่วยเหลือกันดันเราหนุนเราจนเจริญรุ่งเรือง


    คาถาบูชา

    เอหิตาตะ ปิยะปุตตะปุเรถะ มะมาปาระมิง หะทะยัง เมพิสินเจถะ กะโรถะ เอหิกุมาโรวามะมะ นะมะพะทะ
    โอม มหาพรหมาปิยะกุมาโร มหาภูโตมหิทธิโก สัพเพธิเสสุวัตถิโก สัพพะคาเมสุโคละโส สัพพะชะนานังหะทะเย มหาเตโชปะวัตติโก รัตตะนัตยานุภาเวนะ รัตตะนัตยะเตชะสา เทวานังอิทธิพะเสนะ พรหมมะกุมาโรจะโลกะวิทู อะหังนุกา อะคัจฉายะ อาคัณฉาหิ มหิทธิโก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าของที่มีฤทธิ์เสมอ แลมีชาติตระกูลสูงกว่าลูกกรอกเช่นนี้ทำยากและท่านตั้งใจจะทำเพียงครั้งเดียวเพราะมวลสารนั้นหายากและมีราคาสูงมาก ดังนั้นใครมีวาสนาก็ให้เอาไว้เถิด เพราะสมัยนี้ต่อให้คนดีมีคุณธรรมแค่ไหน หากไม่มีกุนซือที่ฉลาดแกมโกงคอยช่วยเหลือแล้วมันก็ไปต่อไม่ได้จริงๆนั่นแหละ พ่ออาจารย์ท่านว่าคบเจ้าศรีไว้ถือมันเป็นเพื่อนรับรองว่าชีวิตจะพุ่งขึ้นต่อไปได้เรื่อยๆ ซ้ำเจ้าศรีของฉันใครพกก็เป็นสง่าราศรีสมชื่อมัน หน้าเธอจะหวานดุจครอบพระลักษณ์หน้าทองนั่นทีเดียวเพราะฉันทำให้เป้นเสน่ห์มหานิยมดึงดูดคนอยู่ในที


    ร่วมทำบุญบูชา ลูกกรอกกายแก้วพรหมอารักษ์(พ่อศรีจอมปราชญ์บุตรพระไพร) บูชา 900 บาท


    42413605_1981431478616774_4641150653719117824_n.jpg 42356592_229650684570882_5145625598067998720_n.jpg
    42435612_661299147578027_3322668626686771200_n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสัวทรงเรือจ้างอุดมลาภแหวกม่านรอดทุกข์ (เงินเต็มมือ)

    พ่ออาจารย์ท่านได้ดำริสร้างพระเจ้าสัวในบารมีหลวงพ่อปานท่านไว้รุ่นหนึ่ง ท่านว่าสายบารมีของหลวงพ่อท่านนั้นดีด้านหากิน หนุนคนที่ประกอบอาชีพต่างๆได้ทุกอาชีพอย่างน่าอัศจรรย์ พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริที่จะเอาชนวนมวลสารสำคัญต่างๆที่เกี่ยวข้องกับหลวงพ่อปานซึ่งท่านได้รวบรวมไว้ยาวนานแล้ว นำมาสร้างพระบูชาครูให้คนที่ประกอบอาชีพทำมาหากินฝืดเคืองได้บูชา


    พระเจ้าสัวนี้เป็นองค์จำลองขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นสรรเพชุดาญาณ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เป็นกำลังที่มีครบทั้วบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ พระมหากรุณาธิคุณ ทั้งยังเป็นคลังแห่งโภคทรัพย์ที่จักไหลมาจากจตุรทิศด้วยทรงเป็นประธานแห่งอริยทรัพย์ทั้งภายในและภายนอก พ่ออาจารย์นั้นแต่เดิมตั้งใจจะทำพระเจ้าสัวเพชรกลับ ท่านจึงเริ่มแกะแม่พิมพ์ตามความตั้งใจของท่าน แต่ท่านว่าแกะออกมาอย่างไรก็กลายเป็นมารวิชัยไปดื้อๆซะอย่างนั้นไม่ใช่เพรชกลับแต่อย่างใด ท่านจึงเริ่มแกะใหม่พอเสร็จออกมาก็เป็นมารวิชัยอีก ถึงขนาดในครั้งที่สามท่านวาดแม่พิมพ์ไว้คร่าวๆและแกะด้วยมือท่านเองก็ยังแกะออกมาเป็นมารวิชัย พ่ออาจารย์ท่านเห็นอัศจรรย์ถึงสามครั้งสามหน ท่านจึงประหลาดใจและสอบถามกับหลวงปู่ปานในขณะนั้นว่าทำไมทำออกมาได้อย่างนี้ไม่ตรงกับความตั้งใจของท่าน


    ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตาบอกให้แจ้งแก่ใจว่า " จะทำพระให้คนเขารวย ก็พระแบบนั้นพระกลับพระพลิกชีวิตคนก็มีถมไปแล้วไม่ใช่หรือ สมัยนี้จะเอาอะไรไปพลิกให้เขารวยได้อย่างไร... ก็สมัยนี้มารมันเยอะ ก่อนจะรวยก็ต้องผจญมารก่อน เช่นนั้นก็ต้องชนะมาร ข่มมารได้เรื่องรวยถึงไม่ใช่ปัญหา หากชนะไม่ได้ก็จะตายเพราะมารแล้วจะเอาอะไรไปรวยไปมั่งมี " อุปมาดังพระบรมศาสดาเมื่อท่านบำเพ็ญบารมีทั้งสี่อสงไขยกำไรแสนกัลป์นานแสนนานนับประมาณไม่ได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมโพธิณาณเป็นพระบรมศาสดาผู้เลิศกว่ามนุษย์ เทวดา มาร พรหม ไม่มีใครเสมอเหมือน ก็ท่านผ่านอุปสรรคและชนะมารทั้งหมดทั้งสิ้นฉันใด การอัญเชิญพระพุทธบารมีของพระองค์ในลักษณะชนะมารก็ย่อมแหวกม่านพ้นจากปัญหาเหนือจากอุปสรรคทั้งปวงเช่นนั้น ย่อมมีพลานุภาพให้ปัญหา อุปสรรค หรือตัวมารของเราเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ให้เรามีชัย ให้เราชนะ ให้มารอันตรธานหายหมดไปฉันนั้น


    เมื่อเข้าใจเช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้แม่พิมพ์เจ้าสัวมารวิชัยนี้โดยทำตามคำชี้แนะเพิ่มเติมของหลวงพ่อปานท่าน คือให้พ่ออาจารย์ท่านทำพระเจ้าสัวทรงเรือจ้างพิมพ์แหวกม่าน ด้วยว่าพระเจ้าทรงเรือจ้างหรือนั่งไปในพาหนะนี้ ท่านว่าดุจชีวิตคนที่ว่ายอยู่ในกระแสธารแห่งสังสารวัฏ มีทั้งคลื่นทั้งลมต้องใช้กำลังทั้งหมดฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกรากกว่าจะไปหาที่เกาะที่ยึดได้ซักสิ่งหนึ่งก็ดิ้นรนกันแทบตาย ท่านว่าระหว่างคนที่ใช้แต่กำลังว่ายไปกับคนที่ไม่ต้องออกแรงมาก นั่งเฉยๆแต่ก็ไปถึงไว อย่างไหนดีกว่ากันก็คิดดู ให้พิจารณากันเอาเองว่าชีวิตทุกวันนี้ตัวเองเป็นประเภทไหน เป็นคนนั่งเรือ หรือคนแหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรที่ต้องใช้ทั้งกำลังและความคิดสติปัญญามากกว่าคนอื่นเขา เข้าทำนองว่าไปถึงก็ช้าซ้ำใช้กำลังไปทั้งตัวจนเหนื่อยเจียนตาย ซ้ำบางทีก็อาจไปไม่ถึง


    ซ้ำหลวงพ่อปานท่านยังเปรียบเป็นเช่นพ่อแม่ครูอาจารย์ เป็นครู เป็นเสมือนเรือจ้างที่จะดูแลให้ชีวิตของลูกก้าวหน้าโดยไม่ย่อท้อ พ่ออาจารย์ท่านว่าน้ำใจของหลวงพ่อท่านเต็มเปี่ยมดุจเรือจ้างแหวกวังวนทะเลทุกข์แม้จะเจอปัญหาหรืออุปสรรคใดท่านก็ไม่เคยหยุดความตั้งใจที่จะส่งศิษย์ให้ถึงฝั่ง ด้วยท่านเปรียบดั่งครู เป็นดั่งเรือจ้างที่ต้องส่งเราผ่านม่านหมอก แหวกทุกข์โศก ส่งขึ้นให้ถึงฝั่งถึงความสำเร็จเช่นนั้น นี่จึงเป็นพลังแฝงอันแท้จริงของพระพิมพ์เจ้าสัวรูปนี้


    พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ดินท้องพระคลังพระเจ้าพิมพิสารที่ท่านได้รวบรวมไว้ด้วยถือเป็นมงคลเสมือนเป็นกระแสแห่งกำลังของคลังจักรพรรดิ ท่านว่าดินนี่อยู่ที่ไหนก็เรียกสมบัติได้เต็มท้องพระคลัง ท่านนำดินสำคัญมาเข้ากับผงวิเศษทั้งห้าและผงจินดามณีปั้นเป็นแท่งชอล์ก ก่อนจะนำมาลบถมผงวิเศษอีกหลายประการตั้งแต่ เศรษฐีนวโกฏิ ยอดเศรษฐี สุริยันทอแสง โภคทรัพย์จินดามณี ธนทรัพย์เก้าฤกษ์ หงส์คาบทรัพย์ มอญแปลงหาทรัพย์ ครุฑตะปปเหยื่อ ปัจเจกโพธิ์ พระเจ้าขอลาภ บุญญานุภาพพระสีวลี ซึ่งผงต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นถึงความสำคัญอย่างมากเมื่อทำก็ต้องทำในเศรษฐีโยค เทวีฤกษ์ ภูมิปาโลฤกษ์ เป็นต้น เพื่อให้เป็นผงสำเร็จไม่มีอัปมงคลใดแฝงอยู่


    ท่านว่าผงบางตัวนี่แรงมาก ผงหลายๆตัวนี่ถ้าไม่ใช่สร้างพระเพื่อตั้งใจเรียกเงินเข้ามือคนท่านจะไม่ทำเลย อย่างเช่น

    - ผงยอดเศรษฐี นี่จะเรียกว่าโคตรเศรษฐีก็ได้ผงนี้ใครได้ไว้ท่านว่าทำอะไรไม่มีสะดุดเลย ด้วยเทวดาท่านแปลงมารักษาทุกอณูผงหากตั้งใจทำมาหากินแม้คำว่าเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีก็ยังถือว่าน้อยไปพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องได้เป็นถึงยอดถึงโคตรเช่นนั้นพูดอีกทางนึงคือเป็นที่สุดนั่นเอง
    - ผงสุริยันทอแส ท่านว่าผงนี้สำคัญอุปมาเหมือนดวงอาทิตย์ ตราบใดที่โลกยังต้องแสงอาทิตย์ หรือตราบใดที่แหงนหน้ามองฟ้ายังเห็นแสงอาทิตย์ ท่านว่าตราบนั้นคนที่มีผงนี้อยู่จะตกอับอาภัพโชคไม่ได้เลย เมื่อแสงตะวันยังอยู่ฉันใดเราจะรุ่งเรือง รุ่งโรจน์ เจริญก้าวหน้าเช่นนั้น เสมอ ดุจว่าพระอาทิตย์ยังอยู่ยันต์นี้ผงนี้ก็ยังขลังตลอดไป คนที่ถือผงไว้จะหาความตกต่ำย่ำแย่ลำบากไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติยันต์นี้เป็นของสูงซึ่งโบราณจารย์ใช้ผูกกับดวงเมืองที่เสาหลักเมือง หนนี้ท่านเมตตานำมาทำเป็นผงลงให้ด้วยถือคติว่าเมื่อโลกแตกตะวันดับนั้นแหละเมืองถึงจะหายไป พระเจ้าสัวนี้ก็เช่นกัน ตราบใดไม่สิ้นแสงตะวันคนใช้เขาก็ย่อมรุ่งโรจน์ไม่ขาดเงินเช่นนั้น
    - โภคทรัพย์จินดามณี ท่านว่าผงนี้ก็สำคัญเพราะเป็นผงที่ใช้เบิกฤกษ์เปิดทาง ด้วยชีวิตคนนั้นหากทางปิด ดวงไม่เปิด ต่อให้ใช้พระทางโชคลาภก็ไร้ผล ท่านว่าแม้ถือฉลากรางวัลที่หนึ่งอยู่ในมือก็ยังมีเหตุให้ขึ้นเงินไม่ได้ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำให้เพื่อเปิดทางโภคทรัพย์แบบเต็มกำลังทั้งเก้าฤกษ์ ให้กำลังนั้นหนุนนำ นำพาวาสนาเงินทองเข้าหาชีวิต
    - ธนทรัพย์เก้าฤกษ์ ท่านว่าดีทุกวัน ดีทุกฤกษ์ จะเรียกว่าผงห้ามจนหรือจนไม่เป็นก็ได้ ผงนี้จะมีคุณเน้นไปทางหาทรัพย์ง่าย ได้ทรัพย์แต่ละครั้งเป็นกอบเป็นกำ ดั่งที่โบราณว่าไว้ว่าผงยันต์นี้อยู่กับใครจะเป็นเจ้าสัวมีทรัพย์มาก ด้วยทรัพย์นั้นใช้ทั้งชาตินี้ไปจนถึงชาติหน้าก็ยังไม่หมด
    - หงส์คาบทรัพย์ ท่านว่าผงนี้เร่งให้เจริญ เจริญไปพร้อมกับความสุขไม่มีทุกข์เจือปน ห้ามเจ็บ ห้ามจน สุขล้นไปกับเงินทอง
    - มอญแปลงหาทรัพย์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาหาทรัพย์ เพิ่มทรัพย์ ใช้ให้เงินทองไหลมาเทมา ทำอะไรก็สะดวก มีแต่กำไรไม่ขาดทุน จับอะไรก็ได้กำไร
    - ครุฑตะปบเหยื่อ ท่านว่าหมายมั่นปั้นมือจะทำกิจใดแล้วไม่มีรอด ไม่พ้นมือ ดุจเรากำหนดได้ ทุกสิ่งอยู่ในกำมือเราเช่นนั้น
    - ปัจเจกโพธิ์ ท่านว่ามีเงินทองทั้งยามหลับยามตื่น ลาภไหลมาไม่ขาด ทุกความปรารถนาจะต้องสำเร็จสมหวัง มีลาภสักการะมาก แลจักร่ำรวยในที่สุด
    - พระเจ้าขอลาภ ตำราว่าแม้มีทุกข์เข็ญเมื่อเอ่ยปากก็ต้องผ่านพ้นไป แม้เกิดทุพภิกขภัยหากปรารถนาแล้วไซร้ก็ยังผ่านพ้นกลับคืนความเจริญได้ฉันใดก็ฉันนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาสั้นๆขออะไรกับองค์พระท่านก็ให้
    - บุญญานุภาพพระสีวลี ท่านว่าผงนี้อยู่ไหนที่นั่นร่มเย็น อิ่ม อุดมสมบูรณ์ ไม่อดไม่อยาก เจริญด้วยเงินทองโภคสมบัติ พร้อมทั้งศุภมงคลได้แก่อายุ วรรณะ สุขะ พละ แกร่งกล้าบริบูรณ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านอุปมาดุจบุญของพระสีวลี ท่านว่าต่อให้บ้านเมืองเข้าสู่ยุคเข็ญแต่ด้วยบุญญานุภาพฝนที่แล้งก็ยังตก น้ำคลองที่แห้งขอดยังกลับมาเต็ม ป่าไม้ที่ยืนต้นตายยังกลับมาเขียวชอุ่ม เปลี่ยนจากความแห้งแล้งอดอยากเป็นความอุดมสมบูรณ์ คนที่เจ็บที่จนจะฟื้นตัว

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงสำคัญมาผสมกับไม้รอดคุก ด้วยท่านถือคติว่าหากติดอยู่ในคุกก็โดนจำกัดสิทธิเสรีภาพเป็นทุกข์อย่างที่สุด แต่หากรอดจากคุกแล้วนั่นก็คือชีวิตพ้นจากความจำกัด รอดแล้ว พ้นแล้ว รอดจากความทุกข์แล้ว โดยท่านได้นำไม้รอดคุกหรือทุกข์นี้มาเสกเพิ่มอาถรรพ์ก่อนพลีเป็นผงผสมผงวิเศษทั้งสิ้นดังกล่าวข้างต้น ท่านว่าเท่านี้ก็ถือว่าพ้นทุกข์และก็รอดทุกข์ได้ถ้วนทุกประการ


    ท่านทำเจ้าสัวเรือจ้างแหวกม่านนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อปานท่านดำริไว้ให้คนใช้เป็นเศรษฐี ดังนั้นพระนี้จึงเป็นทั้งพรและกำลังอันประเสริฐที่ต้องย้ำเน้นว่าเมื่ออาราธนาติดตัวแล้วต้องเป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐีทุกคน จะรวยน้อยรวยมากอันนี้ท่านว่าย่อมขึ้นอยู่กับวาสนา แต่ที่เป็นเจตนาเปลี่ยนแปลงไม่ได้และสำคัญเหรือสิ่งอื่นใดคือต้องรวยขึ้นทุกคน ด้วยแรงครูและคุณพระรัตนตรัย พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพระที่ทำยากและมีอะไรที่ลึกเกินไปกว่าตาจะมองเห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าพระทุกองค์นั้นจะต้องจำเพาะเจาจงอาราธนาบารมีพระอรหันต์ขีณาสพซึ่งก่อนบวชเคยเป็นเศรษฐีมีโคตรมีต้นตระกูลสูงมีชีวิตที่สุขสบายมารักษาทั้งแปดทิศ ได้แก่พระยสะกุลบุตร...เป็นต้น เพื่อจะให้กำเนิดพระเศรษฐีที่เป็นของใช้ของเศรษฐี ให้ใช้แล้วเกิดเป็นเศรษฐี พ่ออาจารย์ท่านว่าขอแค่พร้อมและตั้งใจทำงาน หมั่นทำทานรักษาศีล ทุกสิ่งจะดีขึ้นโดยฉับพลัน


    ด้วยเป็นเจ้าสัวพิมพ์แหวกม่านท่านว่าก็ต้องแหวกมันได้จริงๆ เพราะหากคนจะรวยแต่อุปสรรคเยอะได้มาเท่าไหร่มันก็หมด หลายคนบอกว่าพอบูชาเครื่องมงคลของท่านเงินเข้ามากจริงแต่ก็มีใช้ออกไปมากตามจังหวะชีวิตเช่นกัน ดังนั้นท่านเห็นว่าทำเท่าไหร่เขาก็ไม่รวยทำได้แต่เพียงทรงตัวไม่ทรุดตัวเช่นนั้น ทั้งนี้ด้วยมติบูรพาจารย์ในโลกทิพย์ให้ทำพระเจ้าสัวแหวกม่านเพื่อลบทั้งปัญหาแลปัดเป่าอุปสรรคขัดขวางนานัปการ ตรงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราที่ชีวิตมีปัญหานี่ก็ย่อมหลีกไม่พ้นปัจจัยเหล่านี้ไม่ว่าจะความจน การเงิน หนี้สิน การงาน สังคม การเรียน ความรัก ครอบครัว เพื่อนฝูงและปัญหาเกี่ยวกับคน เมื่อแหวกม่านก็ต้องแหวกปัญหาทั้งหมดพร้อมทั้งส่งให้ชีวิตดีขึ้นเจริญรุ่งเรืองขึ้น ท่านว่าต่อจากนี้หันหน้าไปทิศใดทางไหนย่อมมองไม่เห็นปัญหาเลย ดั่งที่กล่าวไปแล้วนั่นเป็นคุณของพระพิมพ์แหวกม่านที่ควรมีและควรจะเป็น แต่พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเพียงเท่านั้นยังไม่พอ เพราะสมัยนี้คนเราเขาไม่ได้มีปัญหาแค่เรื่องเพียงเท่านั้น ด้วยว่าสิ่งเหล่านั้นยังเป็นสิ่งที่มองออก คิดตก หรือเห็นได้รู้สึกได้ แต่สิ่งที่มองไม่เห็น คิดไม่ตก รู้สึกไม่ได้เล่า พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นแหละคือปัญหาและอุปสรรคอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นคุณผีคุณไสย เคราะห์กรรม คำสาป อำนาจฝ่ายต่ำที่ฉุดให้เราจมลง เจ้ากรรมนายเวรที่ตามล้างตามผลาญให้ตายไปข้างหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำพระแหวกม่านพอเขาเอาไปอาราธนาแล้ว ไอ้ตัวปัญหาที่มองไม่เห็นเหล่านี้ก็ต้องแหวกต้องคลี่คลายด้วย ต้องค่อยๆเบาลง บางลง และหมดสิ้นไปตามลำดับนั่นแหละจึงจะใช้ได้


    ด้านหลังพ่ออาจารย์ท่านได้นำสิ่งมงคลสักการะของครูบาอาจารย์มาฝังกำกับอิทธิคุณไว้ ท่านว่าพระรุ่นนี้แรงครูสูงมาก ให้ใช้กันให้ดีๆ ด้วยแรงครูนั้จะพลิกและเปลี่ยนชีวิตได้เลย
    - ขวดน้ำมันแทนครู พ่ออาจารย์ท่านได้นำสิ่งแทนครูของหลวงพ่อปานที่ท่านเก็บเอาไว้ใส่ลงไปในขวด ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นของมีค่า ไม่สามารถประเมิณค่าได้ทั้งสิ้น ท่านได้จารตะกรุดโภคทรัพย์ตำรับหลวงพ่อปานใส่ไว้ด้วย ท่านว่าตะกรุดนี้ฉมังนักเราเชิญหลวงพ่อท่านมาเสกเต็มวิชาเสียคำรบหนึ่งก่อน ท่านยังอุทานว่า "ตะกรุดนี้ใครมีไว้เงินไม่ขาดมือ" ซึ่งปกติแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยก่อนหลวงพ่อท่านจะทำตะกรุดนี้ให้กับเฉพาะคนที่มีแววจะเป็นเจ้าสัวเป็นเศรษฐีไปชั่วลูกชั่วหลานเท่านั้น ท่านได้นำตะกรุดบรรจุลงไปในขวด พร้อมกับหัวเชื้อสีผึ้งของหลวงพ่อปานแท้ๆขนาดเมล็ดถั่วเหลือง ท่านว่าสีผึ้งนี้แม้เมล็ดถั่วเหลืองยังมีอานุภาพมากสามารถนำไปหุงขยายใส่สีผึ้งธรรมดาได้นับพันนับหมื่นตลับ ทั้งมีอานุภาพมากใช้ได้ไม่เว้นไม่ว่าจะเสน่ห์หรือโชคลาภ ท่านแม้เอาไปอธิษฐานสร้างโบสถ์ก็ยังสร้างเสร็จได้ อธิษฐานปลดหนี้ก็ได้ขอให้เป็นเรื่องเงินๆทองๆท่านว่าใช้ได้ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าสีผึ้งนี้เปรียบดั่งดาบสองคมท่านกลัวคนจะเอาไปป้ายกันจึงจำต้องบรรจุไว้ในขวดให้ใช้เฉพาะขอเงินขอโชคอย่างเดียว ท่านว่ามีเงินเดี๋ยวทุกอย่างมันก็เข้ามาเองห้ามเอาไปขอเรื่องเพศเด็ดขาด นอกจากนี้ท่านยังได้นำทรายเสกของหลวงพ่อปานที่ใสดุจพระธาตุมีอานุภาพดุจกำแพงแก้วเจ็ดชั้น ทั้งดับล้างภูติผีและอัปมงคลทั้งหลายใส่ลงไปด้วยพร้อมกับผงทำพระของหลวงพ่อปาน สุดท้ายท่านนำน้ำมันงาเก่าของหลวงพ่อปานที่แข็งเป็นก้อนแล้วนำมาหุงกับน้ำมันหัวไพรของท่านเป็นสุดยอดน้ำมันเมตตา น้ำมันชาตรีตำรับเก่าใส่ลงไปในขวดหล่อเลี้ยงอิทธิวัตถุธาตุเหล่านี้อีกรอบหนึ่งด้วย ท่านว่าขวดน้ำมันนี้สำคัญเป็นของแทนครู แค่หลับตานึกถึงหลวงพ่อปานท่าน ขอบารมีท่าน อยากได้อยากอธิษฐานอะไรก็ขอเอาย่อมสำเร็จทั้งสิ้น
    - แร่ทองบันดาล เป็นแร่ทองแดงบาดาลของหลวงพ่อปานที่ครูท่านมอบให้ไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่รู้จะเอาไปทำหรือไปหล่ออะไรดี จึงนำมาตัดเป็นชิ้นชนวนฝังไว้ในองค์พระ ท่านว่าทองแดงบาดาลที่หลวงพ่อปานท่านเสกไว้ย่อมเป็นของมีอานุภาพ ซ้ำยังพ้องกับนามมงคลว่าทองบันดาล ก็คือบันดาลโภคทรัพย์เงินทอง ด้วยถือคติว่าแม้ไม่มีทางได้ ไม่มีทางมี ไม่มีทางรวย ท่านว่าขนาดขึ้นชื่อว่าไม่มีหนทางก็ยังบันดาลเอาได้ เป็นมงคลดั่งอุปมาเช่นนั้น
    - ชิ้นแร่เงินล้าน เป็นชิ้นแร่เกาะล้านของหลวงพ่อปานที่สมัยก่อนท่านเสกไว้และใช้ผสมในเนื้อพระบางอย่างของท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าถือคติคำว่าล้านเหมือนกันจึงนำมาอธิษฐานด้วยคาถาเงินล้านขอบารมีหลวงพ่อปานอีกคำรบหนึ่งเลยเรียกว่าแร่เงินล้าน ท่านว่าแร่นี้ดุจมีกำลังเป็นทั้งหลักให้ยึดเกาะนำพาเงินล้านมาให้เรา ทั้งบันดาลเงินทองโชคลาภได้สารพัด ท่านว่าไม่ว่าใครจะมีเก็บกันเท่าไหร่ต่อไปต้องตั้งต้นกันที่หลักล้านขึ้นไปเท่านั้น ไม่เช่นนั้นก็เป็นเศรษฐีไม่ได้
    - ตะกรุดคู่ยกตน ท่านว่ามีคุณยกตรให้เป็นใหญ่ ยิ่งใหญ่ ยิ่งโตกว่าอะไรทั้งหมด ซ้ำยังเป็นที่รักของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เทวดาทุกชั้นฟ้าให้ความช่วยเหลือมนุษย์และอมนุษย์ถ้วนหน้าให้ความเอ็นดูเกื้อกูล เป็นผู้ปราศจากภัยพิบัติทั้งหลายทั้งปวง ท่านว่าไม่ว่าจะภัยใหญ่ทุกข์ใหญ่เอาว่าจะไม่เกิดกับเรา ไม่ว่าจะคิด จะทำ จะจับต้องอะไรจะสำเร็จเจริญงอกงามรุ่งเรืองสถาพร ไม่ว่าจะไปทิศไหนเขาก็ให้การต้อนรับ จะให้ความช่วยเหลือ จะให้การอุดหนุน จะยกให้เหนือกว่าผู้อื่น

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรุ่นนี้ฉันตั้งใจเสกให้มีปาฏิหาริย์มาก ทุกขั้นตอนตั้งแต่ทำผงไปจนถึงกดองค์พระ เพื่อให้คนนำไปใช้เจอปาฏิหาริย์เสมอกัน ท่านว่าคนใช้พระที่องค์หนึ่งทำในฤกษ์กับอีกองค์ ไม่ตรงฤกษ์หรือฤกษ์ต่างกันเช่นนี้ผลที่ได้ก็ย่อมไม่เท่ากัน พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นเรื่องฤกษ์ยามมาก ท่านว่าขอแค่มีฤกษ์แม้บางครั้งตีสามตี่สี่ก็ต้องนั่งรอทำ ท่านว่าพระรุ่นนี้ฉันอธิษฐานฝากหลวงพ่อปานให้ท่านส่งคนใช้ให้ถึงฝั่ง ให้เขามีความสุขไม่เดือนร้อนทั้งกายและใจ มีพลังมากทั้งกำลังกายและกำลังสติปัญญา ประสบความสุขความเจริญครบถ้วน ท่านว่าทำให้ทุกอย่างแล้ว ต่อให้แย่แค่ไหนได้ไปก็ต้องดีขึ้น ต้องดีวันดีคืน ไม่มีคำว่าขาดแคลน

    คาถาบูชา
    อุอากะสะ นะชาลิติประสิทธิลาภา มหาลาโภ โชคะวันตัง เอหิจงมา ธะนะปาตัง มากะมายังอักขะโต ปาระติโย วันทิตตะวา นะมามิหัง (ท่านว่าหมั่นสวดบูชาแล้วเงินเต็มมือ ทรัพย์ไม่พร่อง)

    * พระเจ้าสัวเรือจ้างพ่ออาจารย์ท่านว่ามีอยู่แค่หกองค์เท่านั้นและท่านเก็บไว้อาราธนาเององค์หนึ่งจึงเหลือให้บูชาเพียงห้าองค์ ท่านว่าองค์พระนี้ล้วนแต่มีเจ้าของที่มีตราบุญบัญญัติกำหนดไว้แล้วเสมอกันทุกองค์ โดยท่านพูดทิ้งเอาไว้ว่าเดี๋ยวเค้าเห็นเค้าก็รู้สึกกันได้เพราะหลวงพ่อปานท่านจะจัดสรรค์เฉพาะคนของท่านให้มาเอาไปใช้เอง


    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสัวทรงเรือจ้างอุดมลาภแหวกม่านรอดทุกข์ (เงินเต็มมือ) บูชา 4,000 บาท



    42627993_733634626992463_3106975304657141760_n.jpg 42645589_2085550781774130_7984898984189624320_n.jpg
    42629582_717396908652983_5119804198849871872_n.jpg
    2016-02-12--08-26-27.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พญาโจรมุสิกราชกระชากทรัพย์ (ลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง)

    พ่ออาจารย์ท่านเคยทำตะกรุดวิชาพญาหนูขนคำคนใช้ได้ผลกันมาก ใครมีก็เห็นประสบการณ์ร่ำรวยใหญ่ ท่านจึงมีดำริจะทำวิชาพญาหนูขนคำในลักษณะลอยองค์แบบจับต้องได้ให้คนทำงานหาเช้ากินค่ำได้ไว้เป็นขวัญกำลังใจ โดยผนวกรวมเอาวิชาลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง รวมลงไปด้วย


    เมื่อท่านมีดำริจะทำหนูที่ลงวิชาสำคัญเป็นหนูมหาโจรนั้น ท่านว่านิสัยหนูก็รู้ๆกันอยู่มันชอบลักเล็กโขมยน้อย ซ้ำยังเป็นนักย่องเบาที่หาจับตัวได้ยากยิ่งเรียกว่าไปได้ในทุกที่แม้ลงกลอนล๊อคประตูมันก็ยังหาโอกาสเข้าไปได้ เรียกว่าเมื่อมีเป้าหมายแม้มีอุปสรรคเสี่ยงชีวิตมันก็ยังทำ พ่ออาจารย์ท่านรู้ว่าหนูนั้นมันขโมยได้ทุกอย่าง ต่อให้เจ้าของจะรักจะหวง หรือต่อให้มีการดูแลคุ้มกันรักษาดีและประณีตเพียงใด ท่านว่าขอแค่เธอกะพริบตาเถิด แค่เผลอๆมันก็ไปเอา ไปขโมยมาได้ทั้งนั้น


    ด้วยคุณลักษณะดังกล่าวนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริทำพญาโจรมุกสิกราชที่ใช้ลักวาสนา โมยโชค ชิงดวง ขึ้นมา เอาไว้ให้คนที่ทำงานหรือมีกิจกรรมซึ่งรู้ตัวว่าแข่งอำนาจวาสนากับคนอื่นเขาไม่ได้ เรียกว่ารู้ตัวเลยแหละว่าทำไปก็เจ๊ง ทำไปก็แพ้เขาตั้งแต่เริ่ม หรือคนที่คู่แข่งมีบารมี มีชื่อเสียง มีความสามารถ นำหน้าไกลเราไปหลายขุม พ่ออาจารย์ท่านเจตนาทำเพื่อให้คนเอาไปใช้ทำมาหากินใช้แข่งขันในภาวะสังคมปัจจุบันที่ท่านทายเอาไว้ว่าต่อไปการแข่งขันจะสูงยิ่งขึ้นจนน่ากลัว และหลายๆคนจะตามกันไม่ทัน


    ท่านตระหนักรู้ว่าหลายๆครั้งความปรารถนา ความตั้งใจ ความพยายามของแต่ละคนนั้น บางครั้งมันก็มีเกินตัวมากไป ด้วยตัวเองไม่มีวาสนา ไม่มีบารมีในทางที่กำลังทำอยู่นี้เลยพูดให้กระจ่างคือไม่มีสิทธิ์ที่จะทำสำเร็จหรือไปให้ได้ตลอดรอดฝั่งเพราะเดินมาผิดที่ผิดทาง ผิดไปแล้ว ผิดมาทั้งชีวิตแล้ว และก็ยากที่จะเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ เพราะทนทุกข์ยากลำบากในสิ่งที่ไม่ใช่ชะตาวาสนาของตัวเอง และในทุกการแข่งขันที่เกิดขึ้นจนเป็นวงจรชีวิตนี้ก็มักจะล้มเหลว ล้มคะมำอยู่ร่ำไป ท่านว่าเมื่อคนเหล่านั้นเขาไม่มีสิทธิ์แต่เขามีกำลังใจและความพยายามเพื่อจะขวนขวายเป้าหมายทำตามฝันของตน เช่นนั้นก็ต้องใช้วิชาช่วยเขาเพื่อให้เขาทำในสิ่งที่เขาไม่มีสิทธิ์ ไม่ได้รับอนุญาติจากชะตาชีวิตให้สำเร็จตั้งแต่เริ่มเหล่านั้น


    พ่ออาจารย์ท่านจึงนำแผ่นธาตุกายสิทธิ์พันคาถาที่ท่านหล่อหลอมทับถมไว้จากชนวนยันต์ต่างๆมาตีมาทุบและรีดเป็นแผ่นลงอักขระจารวิชาลักวาสนา โมยโชค ชิงดวงและทำการปลุกเสกจนเต็มวิชาเสียคำรบหนึ่งก่อน ท่านว่าวิชานี้สำคัญนักเพราะคนทั่วไปที่อับโชค เวลาเห็นใครที่เขามีชีวิตที่สุขสบายก็จะนึกน้อยใจในชะตาของตน เข้าทำนองว่าได้แต่มอง มองสิ่งที่สูงแล้วก็สูงยิ่งขึ้น มองจุดที่ตัวเองไม่มีวันไปถึง บางครั้งเห็นใครได้ดีเราก็อยากได้แบบเขาบ้าง พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจลงวิชาสำคัญนี้เพื่อให้คนใช้เปิดดวงและเห็นสิ่งที่ดี ได้สิ่งที่ดีดุจบุคคลที่เราปรารถนา เป็นวิชาว่าด้วยการลักวาสนา โมยโชค ชิงดวง ของบุคคลที่เราต้องการมาเสริมดวงของตน

    ในวันที่ตัวเองตกอับ ดวงตก ปีชง ต้องอุบาทว์สิ่งต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันมักจะมาหยุดชีวิตเราและก็อยู่กับเรานานเกินความคาดหมาย แต่ความจริงแล้วชีวิตของเราของเรานั้นไม่ได้หยุด ต้องสู้ต้องแข่งกับเขาอยู่ทุกวัน มันจึงเกิดเป็นความทุกข์ที่พูดไม่ออกบอกใครไม่ได้เพราะไม่รู้สาเหตุ ท่านพิจารณาเห็นแล้วว่าในช่วงเวลาเหล่านี้ไม่ควรจะเสียไปเปล่าๆอย่างยิ่ง ก็เมื่อใดที่มีทุกข์จรเข้ามาจะได้รีบเอาพญามุกสิกราชขึ้นมาใช้ให้ดวงที่ไม่ดีกลับดี ให้โชคที่ไม่มีกลับได้ ให้วาสนาที่ไม่พบมาถึงดั่งเจตนานั้น ท่านจึงนำแผ่นยันต์ลักวาสนา โมยโชค ชิงดวง หล่อหลอมกับยันต์หัวใจโจร ในโจโรฤกษ์ให้กำเนิดพญามุกสิกราชขึ้นมาและทำการปลุกเสกชุบธาตุขันธ์ในเพชรฆาตฤกษ์เป็นปฐม ท่านว่าด้วยพญามุสิกราชนี้จะได้มีกำลังมากสามารถโมยโชควาสนาได้ทุกสิ่งไม่ว่าจากคนหรืออมนุษย์ใดๆ ทั้งยังมีอำนาจย่ำยีสิ่งเลวร้ายในชะตาชีวิตคนใช้ได้ อุบาทว์ทั้งหลายจะถูกกำจัดหมดไป กาลอัปมงคลจะเปลี่ยนเป็นมงคลไปชั่วชีวิต ทั้งยังเป็นผู้ฆ่า ผู้ล่าวาสนาและชะตาฟ้าที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าของสิ่งนี้มันน่าอัศจรรย์ยิ่งนักแม้ในโลกทิพย์เทพพรหมครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านยังมาช่วยกันอธิษฐานจิตให้ด้วยความเมตตา เพื่อจะช่วยสัตว์โลกที่มากความเพียรพยายามมีกำลังใจสูงมีค่าความเป็นคนเต็มคนเหล่านั้นออกจากทุกข์ภัย ซ้ำด้านหลังท่านยังได้ลบผงวิชาพญาหนูขนคำใส่เอาไว้ด้วย วิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จพระศรีอาริย์เเต่เดิมถือนักว่ามีอาถรรพ์เเรงกล้าเป็นอาถรรพ์ที่จะสนองตอบความต้องการของเจ้านายผู้ครอบครอง ท่านว่าถึงคนธรรมดาแม้จะเป็นมหาเศรษฐีก็อย่าคิดหวังว่าจะมีไว้ในครอบครองเพราะเป็นวิชาที่จะทำให้เฉพาะกับพระราชาเพียงเท่านั้น เเละเเม้พระราชาได้ไปแล้วก็ยังต้องบูชาเเละเทิดทูนไว้ดุจเครื่องมงคลคู่ชีวิตเก็บรักษาให้ดีตลอดพระชนม์ชีพ วิชานี้มีดีหลายด้านเมื่อได้ไว้บูชาด้วยอำนาจพระบรมโพธิสัตว์ พ่ออาจารย์ท่านเเยกเยะไว้ ดังนี้
    - บุคคลที่มีความทุกข์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะทุกข์ต่างๆประการใด จากภายในหรือภายนอก จากภาวะสังคม หรือสิ่งเเวดล้อมใดๆก็ดี ก็ย่อมหลุดพ้นจากมหาทุกข์ดังกล่าว ท่านว่าพ้นจากทุกข์ ประสบซึ่งความสุขอิ่มเอิบในทุกด้าน เมื่อมีวิชานี้อยู่กับตัว ท่านว่าไม่ใช่สุขฉาบฉวยสามัญชั่วคราว หากเป็นความสุขที่เเท้จริง
    - บุคคลที่หมดหวัง ไร้ที่พึ่ง ไม่สามารถกระทำสิ่งที่คิดหวังไว้ให้ได้สมใจปรารถนา ชีวิตรันทดหมดหนทาง ท่านว่านั่นเเหละ วิชานี้มันพลิกกลับได้ทุกอย่าง เขาจะสำเร็จ ถึงซึ่งความสมหวัง มีสุขเสมอใจเขา ด้วยอำนาจเเห่งพระบรมโพธิสัตว์
    - บุคคลที่ได้บูชาด้วยใจทั้งหลาย ต่อไปเขาย่อมเเวดล้อมด้วยข้าทาสบริวาร ไร้เรือนก็จะมีเรือน มีคฤหาสต์ปรารถนาคนรักก็จะมีคู่ครอง มีทรัพย์สมบัติ ด้วยชะตาชีวิตนั้นพลิกผันไป
    - ผู้ที่ถือครองวิชาพญาหนูขนคำนี้ จะมีจิตตั้งอยู่ในกุศล ฝักใฝ่คุณงามความดี ความชั่วร้ายอวมงคล ปีศาจ สัมภเวสีทั้งหลายมิได้กล้ำกราย วิชานี้เมื่อผู้ใดได้ครอบครองไว้บูชาให้ดี ด้วยบารมีครูต้นองค์ปฐมท่านว่าภพชาติต่อไปมิรู้จักนรกเลย จะได้เสวยทิพย์สมบัติในเทวโลกเป็นเเม่นมั่น
    - ปิดหนทางตกต่ำ ปิดความมืดมนในชีวิต ไม่ให้ผู้ครอบครองต้องมีอันเป็นไป มีชะตาวิบัติขัดสนตกลงจากเดิมเด็ดขาด
    - ดึงดูดกัลยาณมิตร เเละสิ่งที่ดีทุกประการเข้ามาหาเจ้านาย ผู้ที่บูชาไป
    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวเพียงคร่าวๆเท่านี้ ท่านว่าวิชานี้เสมือนผู้บูชาเชิญสมเด็จพระบรมโพธิสัตว์มาไว้กับตัว สิริเเละมหามงคลย่อมเกิดแก่ตนเอง จะเปลี่ยนจะพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดึงเเต่สิ่งที่ดีงามเข้ามา นับจากได้ไปจะมีเเต่เจริญขึ้นเเละไม่ขาดความสุขเเม้ซักวินาทีเดียว

    ซ้ำท่านยังได้อุดตะกรุดหัวใจมหาโจรนำพาเสริมทับเข้าไปอีก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้สำคัญ ท่านลงไว้ก็เพื่อชักนำให้พญามุกสิกราชเค้าทำงานตลอดเวลา ด้วยหนูนี้มีชาติตระกูลสูง สำเร็จด้วยเมตตาครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์ทั้งยังมีรัศมีพระศรีอาริย์คลุมกายเขาจึงมีอำนาจมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้ใช้ได้เต็มที่เลยไม่ต้องกลัวบาปกรรมใดๆ ไม่ใช่เพราะเราโมยโชควาสนาดวงชะตาเขามาแล้วชีวิตเค้าจะตกต่ำเราจะติดกรรมแต่อย่างใด สิ่งนี้ท่านว่ามันเป็นเพียงนามธรรม เมื่อไม่มีรูปจึงไม่มีความผิด ซ้ำคนที่เราไปเอาโชคเค้ามาเค้าก็ยังมีดวงมีโชคอยู่เท่าเดิมหาได้ลดลง มีแต่ตัวเราที่จะอยู่ในจุดที่ดวงดี โชคดีมากกว่าเขา เรียกว่าหากเรามีคู่แข่งก็เหมือนกับเรามองเขาทะลุและเราอยู่เหนือกว่าเขาขั้นนึงเสมอไป ไม่ว่าจะเปลี่ยนคู่แข่งอีกกี่คนเราก็เหนือกว่าเขาเสมอเพราะเมื่อโชคของเขาและของเรามารวมกันมันย่อมมีมากกว่าของคนเดิมนั่นเอง


    วรรคทองควรอ่าน

    พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้พลิกแพลงใช้ได้หลายด้าน แม้มีคุ่แข่งอยู่กี่คน ท่านว่าเขียนชื่อนามสกุลเขานำพญามุกสิกราชนี้ทับไว้ก็เป็นการข่มนาม ลักวาสนา โขมยโชค ชิงดวงเขามาส่งเสริมเรา(ท่านว่าวิธีนี้ทำได้หนึ่งตัวกับคนหนึ่งคนเท่านั้น) เช่นนี้จึงพลิกแพลงใช้ได้ไม่รู้จบ บางคนที่เขาเคยเอาไปใช้เขามาเล่าเผยเคล็ดให้ฟังว่าไปเอาชื่อพวกเศรษฐีระดับโลกมาทำ แม้แต่บางคนยังถึงขนาดใช้ชื่อกษัตริย์โซโลมอนก็ยังมี พวกเขาทุกคนล้วนบอกว่าชีวิตเปลี่ยนแบบดีดและก้าวกระโดดมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกนี้มันหัวขี้โกงไปเอากำลังวาสนามหาเศรษฐี มหาจักรพรรดิ์มาทำแต่ก็ถือว่าทำได้ไม่ผิด *** พ่ออาจารย์ท่านให้เคล็ดไว้ว่าคนที่บูชาพญามุสิกราชนั้นหนึ่งคนควรใช้ทั้งหมดสามตัว ตัวหนึ่งนำชะตาวาสนาที่สูงเทียมฟ้าของคนที่เราปรารถนาอยากเป็นเหมือนเขาทับไว้ อีกตัวหนึ่งเอาไว้คอยทับสะกดข่มชื่อศัตรูขู่แค่งของเรา ส่วนตัวสุดท้ายเอาติดตัวไว้กลับดวงแก้อุบาทว์โขมยพลังงานโชคลาภวาสนาคนที่เราหมายตาเจอในแต่ละวันแบบเป็นพักๆตามวงจรชีวิต (ท่านว่าคล็ดนี้ถ้าทำได้นับว่าเปลี่ยนคนหนึ่งให้ดีขึ้นจนกลายเป็นอีกคนหนึ่งได้ทันตาเห็นทีเดียว)


    พระคาถาบูชา
    โอม อะนะวะชะ สะระมะศรีอาริย์นามัง ชีวิตัง ถุมัง อุตันทะรานัง ชีวิตัง ปะนะวันดุงลัง ถุมัง ตันดะลัง วิสะเชตวา ปะนะขะทะเรติ เอเตนะ สัจจะยะ โสตถิ ภวันตุโน(ภาวนาทุกวันอย่าให้ขาด ท่านว่าทุกข์ไม่กล้ำกราย วันไหนมีทุกข์ท่านให้เร่งภาวนา หากสามารถกระทำความเพียรภาวนาพระคาถานี้ได้ถึงพันคาบในวันเดียวครั้งเดียว ท่านว่าบุคคลนั้นนิราศทุกข์ ไกลทุกข์ ชีวิตที่เหลือจะประสบเเต่ความสุขโดยเเท้เช่นนั้นเเล)

    พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าพญามุสิกราชของฉันนั้นเป็นของเฉพาะกาล และวิชาโขมยดวงนี้ครูในโลกทิพย์ท่านก็ขอไว้ว่าไม่ให้ทำอีก ด้วยท่านว่าพวกท่านมาช่วยกันทำให้ทั้งหมดและอธิษฐานไว้ให้ตกถึงคนที่คู่ควรแล้ว ต่อไปอย่าทำอีกเพราะวิชานี้อันตรายมากเกินไป ให้ใช้ได้เฉพาะสัตว์ที่มีวาระปลดแอกชะตากรรมรอบนี้เท่านั้น ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็รับปากไว้ว่าจะทำหนเดียวและท่านก็เสกเก็บไว้มานานยิ่งยวด ท่านว่าเราเองลึกๆก็กลัวใจคนเอาไปใช้เหลือเกินเพราะมันเป็นวิชาพิศดารอยู่แล้ว แต่ใจคนนั้นกลับพิศดารยิ่งกว่า ท่านว่าแรกเริ่มให้เขาบูชาไปก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครไปเอาชื่อกษัตริย์โซโลมอนมาเขียนจนเขามาฟ้องว่าเราไปรบกวนเขา ท่านว่าใช้กันให้ดีให้เหมาะให้ควรท่านพูดได้เท่านี้อะไรที่มันดูแล้ว ชั่งใจแล้วว่ามากเกินไปก็อย่าไปทำเพราะวิชานี้ใครได้ไว้ก็ถือว่าโกงเขาไปไกลมากแล้ว


    ร่วมทำบุญบูชา พญาโจรมุสิกราชกระชากทรัพย์ (ลักวาสนา ขโมยโชค ชิงดวง) บูชา 900 บาท



    42913328_332590740828401_4699162489223380992_n.jpg 42970438_400344680498126_6263362296794316800_n.jpg
    43085182_275557533289499_4485431791154364416_n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาถรรพ์ไตรภูมิมหาวิภูติศิลาชิต(สยมภูวญาณมหาโยคี)

    ยุคนี้...ทำไมต้องครูพระสยม พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยคติที่ครูพระสยม(พระศิวะ) ท่านเป็นเทพเจ้าที่โอบอุ้มจักรวาลทั้งยังดำรงค์สถานะพระผู้ไม่มีวันตาย(ดวงชีพนิรันดร์) หรือจะเป็นเทพเจ้าแห่งอาตมัน(วิญญาณทั้งหลาย) ด้วยนามนับพันนับหมื่นที่แสดงสภาวะธรรมสูงสุดต่างๆนั้นแน่นอนว่าพระองค์ท่านย่อมมีสถานะสำคัญ พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระสยมเป็นครูใหญ่และท่านยังรู้ดีว่าบารมีของครูนั้นฉุดกระชากเปลี่ยนวิบากกรรมให้ศิษย์ทั้งหลายได้จริง เพราะท่านมีหน้าที่สำคัญด้วยเป็นเทพเจ้าผู้ปัดเป่าทำลายบาปอันชั่วร้ายทั้งหมด ทั้งยังประสาทพรให้ผู้ที่รักและศรัทธาเต็มหัวใจอยู่เสมอ ด้วยสถานะเทพเจ้าผู้เป็นใหญ่ในสามโลก เทพบดีผู้ปกครองหมู่เทพที่เป็นสัมมาทิฏฐิและเป็นเทวาธิเทพของมหาเทพและเทพทั้งปวง ...ด้วยกาลปัจจุบันนั้นเกิดความเดือดร้อนและยุคเข็ญไปถ้วนทั่ว ส่งผลกระทบถึงพลังงานธรรมชาติและจิตวิญญาณทั้งหลายให้แปรปรวน ชนทั้งร้ายขาดผู้ที่จะปกป้อง ปลดเปลื้อง และปลดปล่อย ด้วยสถานะของพระผู้ทำลายล้างอกุศลธรรมและสถาปนาหลักคุณธรรม เมื่อพิจารณาอย่างแยบคายแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงขออนุญาตครูพระสยมท่านเพื่อสร้างของที่เป็นสื่อแทนตัว แทนใจ กันระหว่างครูกับศิษย์เสียครั้งหนึ่ง


    ซึ่งครูท่านก็ได้เมตตานิมิตกำหนดรูปแบบให้พ่ออาจารย์ท่านแกะแม่พิมพ์ในลักษณะประทานพรเต็มกำลัง(ให้พรด้วยมือสองข้างด้วยมือที่คอยโอบอุ้มสรรพสิ่งและจักรวาลนั่นเอง) โดยพ่ออาจารย์ท่านได้ทำพิมพ์พระเเละเสกเก็บไว้ตามหลักไศวะศาสตร์ เรียกได้ว่าขลังและประสิทธิ์เต็มกำลังตั้งเเต่เเม่พิมพ์ เพราะท่านนำไม้เสาชิงช้าเก่าของกรุงเทพมาเเกะสลัก ท่านบอกว่าเป็นไม้ที่ผ่านพิธีพราหมณ์รับส่งพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามมานับร้อยปีเป็นของที่มีความศักดิ์สิทธิ์เเละมีอานุภาพในตัวเอง เหมาะที่จะถ่ายพลังและกำลังขึ้นรูปเป็นพระเป็นเจ้าให้คนได้บูชา


    ด้วยความตั้งใจตั้งต้นอันประเสริฐที่ท่านจะทำพระรุ่นนี้โดยมีดำริว่าจะ "สร้างไว้แทนตัวครูของเรา พระเป็นเจ้าของเรา" เป็นคำสั้นๆที่มีความหมายลึกซึ้งจริงๆเพราะท่านใช้คำว่าทำไว้แทนตัวครู ไม่ใช่เพียงของแทนครูแต่มันลึกเสียยิ่งกว่านั้นคือแทนตัวครู ดุจตัวครู และเป็นตัวครูนั่นเอง ท่านว่าเราจะทำให้เสียหนหนึ่งกับพระเป็นเจ้าแห่งศรัทธาและปาฏิหาริย์ที่จะสร้างปาฏิหาริย์ เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาให้อยู่ในมหาปาฏิหาริย์การสงเคราะห์ของครูพระสยมไปตลอดช่วงชีวิต

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตามหลักพราหมณ์นั้นการจะทำรูปแทนครูนี้ย่อมต้องใช้ของเฉพาะทางหลายอย่าง แต่พ่ออาจารย์ท่านดำริว่าอยากจะทำสิ่งที่ดีที่สุดดังนั้นมวลสารเฉพาะทางบางอย่างจึงต้องมีทั้งกำลังของครูและพลังชีวิตของครูเช่นนั้นด้วย ท่านได้นำมวลสารอันเป็นมงคลที่ท่านสะสมไว้หลายชนิดมาเป็นตัวปรุงแต่เสริมสร้างสิริมงคลให้กับบรมครูรุ่นนี้ ได้แก่ พญากาฝากที่เป็นสิริมงคล คดไม้มงคล ไม้มงคลที่ตายพราย ต้นว่านมงคล เกสรดอกไม้ ไม้ไผ่ตัน ไม้รวกตัน คดข้าวสารดำ ข้าวสารหิน สมุดใบข่อย สมุดใบลานเก่าๆ ที่ขาดไม่ได้ใช้ ผงธูปไหว้พระ ข้าวสุกก้นบาตรพระนำมาตากแห้ง ลูกมะพร้าวกะลาตาเดียวเป็นมหาเสน่ห์ ลูกมะพร้าวกะลาไม่มีตาเป็นมหาอุตม์ คดมะพร้าว กิ่งโพธิ์นิพพานคือโพธิ์ที่หักมาเองทางทิศตะวันออก ไม้ไก่กุก ปูนากระตุกเดือน5นำขุยที่อยู่ปากรูมา กบจำศีลเดือน5ตายคารูกบนำมาเผาไฟป่นเป็นผง เขี้ยวงูจงอางตัวที่ฟักไข่จนตายคาไข่ที่ฟัก(ตัวนี้โดนไฟครอกตาย) ไม้คานคุก ไม้คานประตูคุก ตัวชันโรงที่ต้องอยู่กลางเเจ้งเท่านั้นถ้าอยู่ตามโพรงไม้ใช้ไม่ได้ เวลาพลีต้องให้ดวงอาทิตย์ส่องตรงกับปากรูพอดีจึงนำมาทำเป็นผงได้ ไม้คานเเม่หม้ายที่ใช้หาบของขาย สากเบือเเม่หม้ายที่สามีตายเป็นอาถรรพ์แก้คุณไสยต่างๆ ไม้คานและสากของผู้หญิงที่ไม่มีสามีจนเเก่ตายเเละตายวันเสาร์เผาวันอังคาร เขาควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย เขี้ยวเสือโปร่งเป็นมหาอำนาจ เขี้ยวหมูตันเป็นมหาอุตม์ คดสมองวัวจะเป็นก้อนหินที่อยู่ในสมองวัวมีอานุภาพทางตบะเดชะ ผู้เจตนาร้ายไม่กล้าขยับปากด่าว่า ให้ร้ายป้องกันเขี้ยวงาอยู่ยงคงกระพัน คดขนุนเป็นของที่เกิดในพืชถือว่า ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ คดขนุนที่เกิดจากลูกขนุนที่มีลูกขึ้นอยู่ใต้ดิน เมื่อผ่าดูจะพบคดขนุนเชื่อว่า มีเทพยดารักษามีอานุภาพค้ำดวงชะตา เมตตามหาอุตม์ งาช้างดำ(งาที่กลายเป็นหิน)มีอานุภาพครอบจักรวาล งากำจัด งากำจาย งาช้างน้ำ เขากวางคุด ใช้ทางมหาอุตม์คงกระพันเสน่ห์เมตตา ถ้าค้าขายก็จะได้ชัยชนะค้าขายดี เขากระจงคุดมีอานุภาพทางคลาดแคล้ว พญางูปากเบ็ดมีอานุภาพทางโชคลาภ ตะไคร่โบสถ์ ตะไคร่เสมา ตะไคร่เจดีย์ใหญ่ กระเบื้องหลังคาโบสถ์เก่าที่เลิกใช้เเล้ว ดินสังเวชนียสถานทั้ง4 แร่ธาตุต่างๆ ได้เเก่ เพชรหน้าทั่ง ดินกากยายักษ์ เหล็กสังขวานร เหล็กน้ำพี้ รังเหล็กไหล ข้าวตอกพระร่วง สัตว์ที่มีรูปร่างแปลกๆ เช่นจิ้งจกสองหาง กิ้งก่าสองหาง นำมาเลี้ยงไว้จนตายเผาไฟเเละบดเป็นผง อัญมณี 12 สี ตะไคร่หลักเมืองเก่า น้ำฝนเดือนห้าตกรดหลังคาโบสถ์โดยนำโอ่งมารองกลางเเจ้งใช้ผสมทำผง ผงลบมือสูตรต่างๆตั้งแต่ผงสยมภูวปราบไตรจักร ผงศิวะกลึงจักร ผงสยมภูวทรงเมือง ผงพระสยมพลิกแผ่นดิน ผงพระศิวะบันลือสีหนาท ผงองการพินธุมเหศวร... ผงต่างๆที่กล่าวมาแต่ละชนิดมีอุปเท่ห์การใช้และวิธีการลบถมที่แตกต่างกันไป เป็นผงที่นำมาสร้างรูปอาถรรพ์ในองค์พระศิวะอย่างแท้จริงหาใช่ใช่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ดูขลังเล่นแต่อย่างใด ท่านได้นำมวลสารที่มีฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์สูงสุดทั้งหลายมาเข้ากับผงไม้เสาชิงช้าของเก่าที่มีกำลังของสามมหาเทพ และผสมผงยอดแก้วแม่ธรณีของท่านที่มีอานุภาพทางค้ำจุนผู้บูชาถึงขนาดว่าว่าคนไม่มีบ้านจะมีบ้าน คนมีบ้านมีหลักแหล่งจะมั่นคง ที่ใดร้างจะกลับรุ่งเรืองเฟื่องฟูดุจมหานคร...

    หลังจากได้มวลสารทั้งหมดแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงนำสิ่งต่างๆมาป่นให้ละเอียดที่สุดเพื่อสร้างเป็นแท่งผง โดยนำแท่งผงนั้นมาลบถมผงมเหศวรยันตรา วนเวียนไปมาถึง 84,000 รอบด้วยความอุตสาหะอย่างยิ่ง เพราะมวลสารตั้งต้นที่เลอค่าและทรงพลังอย่างสูงสุดนี้เมื่อก่อเกิดเป็นมเหศวรยันตราแล้ว ท่านว่าผงนี้ย่อมมีอานุภาพและกำลังบริบูรณ์อย่างที่สุด อันผงมเหศวรยันตรานั้นท่านว่าเปรียบเสมือนอำนาจแห่งครูที่จะกลับกลายเป็นปกาศิตคำพรสูงสุด เป็นความรัก ความปรารถนาดี ความสุข ความเจริญอันสูงสุดที่ครูพระสยมท่านจะประทานให้กับศิษย์ที่ท่านรักดุจลูกแลท่านโปรดปรานเป็นที่สุด เป็นพลังอันนิรันดร์ เป็นคำพรอันเป็นนิรันดร์ และเป็นอำนาจที่จะประสิทธิ์แก่เราเสมอชั่วนิรันดร์กาล

    เมื่อได้มวลสารมงคลที่เกิดจากอุตสาหะของมนุษย์เป็นชนวนตั้งต้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเท่านี้ยังไม่พอด้วยหากจะสร้างสิ่งแทนครูให้ดีที่สุดก็ต้องอาศัยกำลังและจิตวิญญาณครูบาอาจารย์เป็นหัวใจหลัก ท่านจึงได้นำผงมเหศวรยันตรานั้นมาผสมด้วยผงกุมของครูพระสยม และผสมด้วยผงวิภูติ ซึ่งผงวิภูตินี้ก็คือผงเถ้าที่พระศิวะทรงโปรดมากเสมือนขี้เถ้าที่พระองค์นำมาทาพระวรกาย หรืออีกนัยหนึ่งคือผงขี้เถ้าที่ท่านเผาทำลายพระกามเทพจนกลายเป็นอณูผงและทรงโปรดให้เป็นผงเจิมใช้ในการสถาปนากาลมงคลทั้งปวง โดยผงวิภูติของครูพระสยมนั้นจะมีอยู่สามชนิด พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะให้มีฤทธิ์สูงสุดก็ต้องใช้ทั้งสามชนิดนี้มาผสมเป็นกำลังให้กันและกันทั้งเถ้าที่เกิดจากมหาพิธีของเครื่องหอม เถ้าที่เกิดจากอัคคีบูชา และเถ้าอศุภที่เกิดจากฤาษีหรือมหาโยคีเผาร่างตนเองด้วยศรัทธาเพื่อบูชาพระเป็นเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าชนิดหลังนี้จะหายากที่สุดและในปัจจุบันก็หาแทบไม่เจอแล้วถึงมีก็มักจะเก็บไว้ในนิกายลับและเขาก็จะสงวนไว้ใช้ในศาสตร์ลับและพิธีลับอันเกี่ยวเนื่องกับครูพระสยมเท่านั้น

    ท่านได้นำผงวิเศษที่เข้ากับตรีวิภูติมาเสกชุบมนต์ด้วยโองการครูอย่างเต็มกำลัง และนำมาผสมกับมวลสารสำคัญคือศิลาชิตอันเป็นว่านวิเศษ พ่ออาจารย์ท่านว่าว่านนี้หายากอย่างมากและทั้งโลกในทุกจุดก็ย่อมไม่มีปรากฏ เพราะว่านนี้จะขึ้นอยู่ที่เดียวในบริเวณเขาไกรลาสเท่านั้น เขาจะเกิดขึ้นเฉพาะบริเวณศิลาบัลลังค์ที่องค์พระศิวะ(ครูพระสยม)นั่งบำเพ็ญตบะญาณเท่านั้น ดังนั้นว่านนี้จึงอุปมเหมือนกำลังตบะ กำลังชีวิตของครูพระสยมที่ถ่ายทอดและแปรออกมาเป็นมหาพฤกษาโดยท่านตั้งใจทิ้งไว้ให้เป็นตัวแทนพลังยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์ ซึ่งศิลาชิตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสำคัญที่ต้องใช้ถวายครูพระสยมมานานนับพันปี พ่ออาจารย์ท่านว่าว่านตัวนี้มีทั้งกำลังตบะและกำลังชีวิตของครู ทั้งยังมีอานุภาพและพลังงานมหัศจรรย์ที่จะบันดาลความสุข ความบริบูรณ์ ทำให้ทุกสิ่งที่ตั้งใจหวังได้สมหวัง ทั้งยังมีสุขภาพแข็งแรงอายุยืนยาวปราศจากโรคภัย ด้วยเป็นสิ่งที่มีกำลังญาณของครูพระสยม มีพลังชีวิตของครูพระสยม และเป็นอาถรรพ์สำคัญในการทำรูปท่านทั้งครูพระสยมยังเน้นให้ใช้แทนตัวของท่าน ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจะทำให้เต็มสูตรชนิดแทนตัวของท่านเลยย่อมจะขาดสิ่งเหล่านี้ไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงอาถรรพ์ทั้งหมดมาขึ้นพิมพ์กดบูชาครูโดยท่านว่าต้องค่อยๆทำไปและต้องละเมียดละไมอย่างมาก ค่อยๆทำเก็บไปองค์ต่อองค์สะสมไว้ บางทีทั้งเดือนทำได้องค์เดียวก็มีเพราะการขึ้นรูปครูพระสยมนี้ดุจจำลองมหาอนันตจักรวาลชุบรูปนามเคลื่อนสภาวะองค์ธรรม...ท่านว่ามีขั้นตอนและวิธีการยุ่งยากใช่เล่น ด้วยพระศิวะท่านเป็นครูสูงสุดของไศวะศาสตร์(ไสยศาสตร์)จะทำเล่นๆไม่ได้ องค์เดียวนี้เอาว่าใครได้ไปเขาห้อยไม่หนักคอหรอกท่านว่าแบบนั้น ซึ่งครูพระสยมนั้นจะฝังเครื่องรางพิเศษต่างๆ ดังนี้
    - พระแม่กาลี(แม่ย่าเทวดา) ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านเสกไว้ครบ มีเทวานุภาพเด่นทางด้านข่มสะกด ปราบไพรี สะกดเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้สำหรับศิษย์ที่ศรัทธาและยึดถือท่านเป็นที่พึ่งแล้ว ท่านมักจะประทานพรด้วยอำนาจอันไม่อาจยับยั้งเรียกว่าเป็นแม่ผู้ให้ชนิดไม่ลืมหูลืมตาก็ว่าได้ ด้วยหากผู้ใดบูชาจนพระนางพอพระทัยท่านก็มักจะประทานพรชนิดลืมตัวและให้ผลไวกว่าการบูชาเทพองค์ใดเพราะแม่ย่าเป็นลักษณะอำนาจของการปลดปล่อยผู้มีศรัทธาออกจากความเลวร้ายทั้งปวง เป็นอำนาจแห่งการปกป้องในฐานะแม่ที่แสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดซึ่งอยู่เหนือเหตุผล กฏเกณฑ์วัฏจักรและอำนาจความสมดุลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าที่เลือกฝังพระแม่นี้เพราะท่านเชื่อว่ามนุษย์ทุกวันนี้หลายคนมีชีวิตที่เรียกว่าทุกข์จนเสียสมดุลไปแล้ว เจอเรื่องหนักๆ เจอสิ่งเร้า เจออุปสรรคใหญ่ๆที่สู้ชีวิตต่อไปไม่ไหว สำหรับยุคแปดในปัจจุบันซึ่งมีภัยพิบัติและภยันอันตรายต่างๆมากมายรวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ท่านว่าต้องใช้แม่ย่านี่แหละ ขอให้ท่านผลักดันเราให้พ้นจากสภาวะการณ์เลวร้ายต่างๆด้วยอำนาจเกรี้ยวกราดของผู้เป็นมารดาเท่านั้น
    - ศิวลึงค์ ที่พ่ออาจารย์ท่านแกะสลักและปลุกเสกผ่านพิธีกรรมมาอย่างโชกโชนทั้งบูชาไฟ ประสระโลหิต... ท่านว่าศิวลึงค์นี้เป็นสัญลักษณ์ชีวิตขององค์ครูที่จะอยู่กับมนุษย์ เป็นองค์เกิด องค์กำเนิดที่จะทำให้อะไรเกิดขึ้นก็ได้ ทำสิ่งที่ไม่มีให้เป้นจริงก็ย่อมได้ มีอานุภาพใหญ่ ท่านว่าทำลายได้แม้กระทั่งยมราชเพียงขอให้ผู้ใช้มีศรัทธาอย่างแท้จริงเท่านั้น ด้วยเมตตาในครูและแรงครูแล้วท่านว่าครูท่านลงให้ครบใช้ได้ทุกด้าน ถ้าจะเล่นทางเสน่ห์ก็ถึงขั้นที่ว่าหมายตาชายหญิงใดที่จะไม่ได้เป็นไม่มี อีกทั้งคุ้มชีวิตให้รุ่งเรืองเฟื่องฟูไม่ตกต่ำต้องดีกว่าใครเขาทั้งหมด แลดึงดูดโชคโภคทรัพย์มหาศาลหากินไม่นานก็เป็นเศรษฐีมั่งมีสมใจ จะเรียกขานบนบานกล่าวขอสิ่งใดไม่ว่าเรื่องยากหรือง่ายย่อมสำเร็จดั่งใจประสงค์ ทั้งยังเป็นตบะเดชฤทธิ์มีวาสนาคนเกรงกลัว ท่านว่าท่านขอครูเอาไว้ลงเอาไว้ให้ครบทั้งหมดแล้ว
    - ตะกรุดฤาษีแปลงสาร พ่ออาจารย์ท่านว่าดอกนี้สำคัญ เป็นวิชาครูเก่าที่เอามาทำเล่นไม่ได้เพราะเสมือนหนึ่งว่าอำนาจครูนั้นฝืนและต่อต้านทุกกฏ เป็นตะกรุดที่ใช้แปลงชะตาชีวิต อุปมาว่าต่อให้ดวงยาจกหนทางภายหน้าเดินไปต้องตกตาย ฉิบหาย ล่มจมอย่างเดียวเท่านั้นไม่มีคติเป็นอื่นใดไปได้ แต่ก็ยังกลับมาเสพย์สุขจากยาจกกลายเป็นพระราชาได้ จากคนจะตายกลายเป็นเสวยความสุขมีอายุยืนยาวได้ด้วยอำนาจแรงครู ท่านว่าวิชานี้ครูเขาแรง และย่อมเปลี่ยนแปลงชีวิตเราทังหมด อะไรที่มันว่าแย่ อะไรที่ไม่ดีผิดที่ผิดทาง ครูท่านจัดสรรค์เปลี่ยนให้ทั้งหมด เหมือนมีมือมืดที่เราไม่เห็นแต่ก็รู้ว่ามีคอยกำกับปรับเปลี่ยนตกแต่งชีวิตเราให้ดีวันดีคืน
    - ว่านผูกชะตา ท่านได้นำส่วนหนึ่งของว่านศิลาชิตอันเป็นกำลังและตบะของครูพระสยมนั้นมาขมวดปมไว้ดุจผูกสายสัมพันธ์ ผูกวาระกรรม ผูกวาสนาร่วมภพ สร้างสายสัมพันธ์ความเป็นพ่อกับลูกให้เกิดขึ้นในขันธ์สันดาน เชื่อมต่อวาสนาบารมีคนอาราธนาเข้ากับพระศิวะเจ้าโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าของทุกอย่างต่อให้ดีอย่างไรหากไม่มีวาสนาร่วมกันมันก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้นท่านจึงแก้ปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดให้ ท่านว่าถ้ามันไม่มีก็ผูกขึ้นมาเท่านั้น ต่อไปนี้ก็ถือว่ามีเป็นพ่อเป็นลูกกันต้องช่วยกันไปจนตาย


    พ่ออาจารย์ท่านเสกและอัญเชิญครูเน้นหนักให้คุ้มครองป้องกันภัย ทั้งอำนวยพรชัยท่านว่ามีค่าดั่งได้แก้วจักรพรรดิ์ครบ 7 ประการ ทั้งหนุนชะตาค้ำชีวิตกันและแก้ดวงชงพระเคราะห์พระเสาร์พระราหูเสวยอายุ ทั้งทำลายอุปสรรคแลศัตรู แม้ต้องธรณีสารระยะยาวประเภท 3 ปี 5 ปี 10ปี ยังอยู่ที่เดิมไร้ความเจริญก้าวหน้า ทำอะไรไม่ขึ้น จับอะไรก้หลุดคว้าน้ำเหลว ถึงขั้นชะตาตกต่ำ ชะตาขาด คนรอบข้างไม่รัก เจ้านายไม่สนับสนุน หรือติดแรงสินบนทำอะไรไม่สำเร็จมีแต่เจ๊งกับเสมอตัว แลมีเรื่องเข้ามากระทบใจบ่อยๆ มีปัญหาประหลาดๆให้แก้ไขวันต่อวันสารพัดเรื่อง ท่านว่าเราขอให้ครูท่านรับรักาาดวงชะตาดูแลเกื้อกุลกันแล้ว รับรองว่าท่านไม่ทิ้งไปไหน สิ่งเลวร้ายและวิกฤตต่างๆจะผ่อนปรนและคลี่คลาย พลิกฟื้นชีวิตขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ....พ่ออาจารย์ท่านว่าบอกได้เท่านี้ มากกว่านี้ก็เอาไปใช้เอง เราขอให้คุณครูคุ้มหัว คุ้มโทษโทสาทั้งปวง (ท่านย้ำว่าครูเรามีตัวมีตนนะ ถ้าวันไหนท่านออกมาให้เห้นกันทางตาเนื้อก็ไม่ต้องตกใจ แต่เอาว่ากำลังใจมาเต็มอาราธนาท่านไว้จะรู้สึกเองว่าเวลามีครู มีอำนาจลี้ลับจับตา จับตัว ค่อยๆผ่านปัญหาชีวิตไปกับเราดุจครอบครัวเดียวกันนั้นเป็นอย่างไร)

    คาถาบูชา
    โอม กระปูระเคารัม กรุณาวะตารัม สัมสาระสารัม ภุชะเคนทระหารัม สะทาวะสันตัม หะริทะยาระวินเท ภะวัมภะวาณิ สะหิตัมนะมามิ

    * พระสยมรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านพูดแปลกๆว่า ดุจเป็นทั้งกำลัง เลือดเนื้อและชีวิตของครู ทั้งท่านยังกดพิมพ์ไว้เพียงหกองค์และท่านอาราธนาเององค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียงห้าองค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านว่าของนี้เอาไว้ให้ทดสอบบารมีถ้าใครไม่ใช่คู่บารมี ไร้วาสนาก็ไม่มีวันพบด้วยเป็นพ่อที่มีแต่ให้ เป็นพ่อที่ยิ่งกว่าพ่อทั่วไป คนในที่นี้ถึงมีบุญแต่ไร้วาสนาก็ยากที่จะได้เจอ กรรมเขาจะจัดสรรค์เอง รายได้ทำบุญโลงศพไร้ญาติให้ชาวขาสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงอาถรรพ์ไตรภูมิมหาวิภูติศิลาชิต(สยมภูวญาณมหาโยคี) บูชา 4,000 บาท

    43398200_1970450443252623_4395934688569458688_n.jpg 43331090_467706040406687_5914720001578762240_n.jpg
    43365916_352619168810638_4473451207515439104_n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    [​IMG]ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจิ๋วแม่ย่าเทวดามหาปราบโลก(ชนะชัย ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม ศักติมหากาลี)

    กะซิบกันมาหลายคนว่าอยากได้เฉพาะพระแม่กาลี(แม่ย่า) แต่บอกไว้ก่อนนะ ว่าอันนี้องค์จะจิ๋วๆหน่อย เพราะเป็นแม่ย่ารุ่นแรกสุดตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านทำพระสยมพิมพ์ใบมะตูมนับเวลานานปีมาแล้ว ซึ่งแม่ย่าชุดนี้จะเสกเข้มมากๆถึงมากที่สุดและเป็นชุดพิเศษที่ท่านฝังตะกรุดเฉพาะไว้ เอาแค่เสกก็ยาวนานแล้วเต็มสูตร เต็มพิธี เต็มพลังจิตวิญญาณ แต่ขนาดนี่น่ารักกำลังใช้จริงๆ


    แม่ย่ากาลีผู้มีอานุภาพ สำหรับแม่ย่ากาลีนั้นเป็นครูสำคัญของสำนัก ที่พ่ออาจารย์ได้สร้างแบบเป็นทางการและเปิดบารมีไว้เป็นครั้งแรก พระแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ท่านมักจะทำพิธีคู่กันกับครูพระสยม โดยเป็นครูทางอิตถีเทวะที่ทรงพลานุภาพแกล้วกล้าดุดันสูงสุดให้คุณได้มากที่สุด


    แม่ย่านั้นมีอานุภาพแรงกล้า ท่านจะคอยปราบปรามสิ่งชั่วร้าย ทุกข์โทษโทสาทั้งหลายเข้าไม่ถึงตัว ด้วยแม่ย่านั้นเป็นเทวีที่มีอานุภาพสูงสุดทรงไว้ด้วยพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ สามารถขจัดศัตรูตลอดจนทำลายอุปสรรคขัดขวางให้แก่ผู้บูชาได้ ใครโดนกลั่นแกล้งใส่ความ กระทำด้วยทุจริต ชีวิตโดนรังแกไม่ได้รับความเป็นธรรมแต่อย่างใด ท่านแก้ไขได้หมด หรือแม้แต่คุณไสย ไสยศาสตร์มนตร์ดำชาติไหนภาษาใด พ่ออาจารย์ท่านว่านี่พ่ายแพ้อานุภาพของท่านไม่มีได้กิน ซ้ำยังปรับเสริมแก้ไขอุบาทว์ตัวทุกข์ตัวเคราะห์ตลอดจนสิ่งอัปมงคลทั้งหลายทั้งภายในภายนอกด้วย


    เพราะท่านมีคุณถึงปานนี้ถึงกับว่าผู้บูชานั้นจะไม่เจออุบัติเหตุร้ายแรงสิ่งใดเลยมาแพ้วพาลกับชีวิต จะไม่เจอเหตุที่ทำให้ตื่นตระหนก ไม่พบสาเหตุใดที่นำเราออกจากชีวิตอันสันติและผาสุกจากการครองเรือน นอกจากการกันแก้อาถรรพ์ร้ายล้างบางอวิชชา ให้โทษกับมารยาทุจริต ประทานพลังอำนาจให้กับผู้ทรงธรรมสุจริตแล้ว พระนางยังปรารถนาจะเติมเต็มความรู้สึกรักใคร่ชอบพอของเหล่าผู้ศรัทธาให้สุขสมหวัง


    พ่ออาจารย์ท่านมักจะกล่าวว่าพระนางนั้นให้ค่ากับคำว่าความรักและความรู้สึกมาก มากเกินจะทำความเข้าใจได้ทีเดียว ในทางกลับกัน หากผู้บูชาเข้าใจนัยยะที่แฝงอยู่ในรูปกายอันเสียสละและทรงพลังอำนาจของพระนาง สามารถรักพระนางได้ดุจแม่บังเกิดเกล้า ค่าของความรู้สึกนั้นมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย สายสัมพันธ์แม่ลูกนั้นมีอานุภาพยิ่งใหญ่ ยิ่งเป็นสายสัมพันธ์ที่มีต่อมหาเทวีอันเป็นร่างจำแลงของฤทธานุภาพสูงสุดในมหาศักติด้วยแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าการได้เป็นลูกท่านและรับการอุ้มชูนั้นถือว่าคุ้มค่าโดยแท้ เพราะแม่ยอมปกป้องลูกเสมอ และแม่ยอมให้ลูกได้ทุกสิ่ง


    กาลี คำๆนี้หากกล่าวเฉยๆ ในความรู้สึกคนฟังนับว่าเลวร้ายนัก ด้วยมีความเข้าใจผิดสืบทอดกันมาเป็นเวลานาน ว่าการบูชาพระนางจะต้องสังเวยด้วยเลือดบ้าง ต้องใช้เลือดสาวพรหมจรรย์บ้าง ก็สุดแท้แต่จะเชื่อตามลัทธินิกายใด แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าได้มีการสังเวยพระนางด้วยชีวิตมนุษย์มายาวนานนับร้อยนับพันปี ซ้ำยังมีความเข้าใจว่าพระนางนั้นเป็นเทพเจ้าแห่งอำนาจมืดและความชั่วร้ายต่างๆ เพราะว่ารูปลักษณะของพระนางนั้นดูอย่างไรก็แตกต่างจากมหาเทวีทั่วไปอย่างพระลักษมี พระสุรัสวดีเป็นอาทิ ด้วยว่ามีรูปลักษณะเช่นนั้น คนจึงยิ่งเข้าใจว่าพระนางเป็นเทพแห่งไสยศาสตร์มนต์ดำ ตันตระ ความมืดอำนาจมืดต่างๆ เสริมให้คนที่เป็นศิษย์คิดบูชานิยมกันอยู่ในซ่องโจรบ้าง พวกที่ประกอบกรรมทำชั่วต่างๆบ้างๆ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าคนที่ทำผิดคิดอุบาทว์ ไปบูชาแม่ย่า สุดท้ายไม่มีตายดีกันซักคน ทั้งนี้เพราะเหตุผลสองประการ หนึ่งคือเพราะท่านไม่ใช่ สองคือเพราะท่านไม่ชอบ ไม่ใช่ในที่นี้หมายถึง ไม่ใช่ตัวตนในรูปแบบที่ความรู้สึกมนุษย์เข้าใจและพยายามจะให้ท่านเป็น ไม่ชอบคือ ท่านไม่ชอบคนใจบาปหยาบช้ากระทำการอกุศล ดังนั้นแม่ย่าจึงเป็นมหาเทวีที่จะเข้าถึงได้ด้วยความเพียร ความศรัทธา ตลอดจนคุณธรรมความดีเฉกเช่นเทวะพระองค์อื่น


    ด้วยว่าพระพิมพ์นี้เป็นการประดิษฐานรูปครูสำคัญไว้โดยเฉพาะแม่ย่ากาลีนั้น ที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างเพราะท่านอยากให้ทุกคนสุขสมหวังไม่ว่าจะในเรื่องใดก็ตาม ให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้กลับเป็นไปได้ อย่างเช่นเรื่องความรักของแม่ย่า* สำหรับแม่ย่านี้พ่ออาจารย์ได้แยกมาประกอบพิธีบูชาอัญเชิญปลุกเสกให้พระรูปมีภูติพระเจ้าของพระนางกาลีสถิตย์ทุกองค์ ท่านว่าแม่ย่านี้มีอาถรรพ์สูงมีความรักความเป็นห่วงลูกหลานอย่างจริงใจและรุนแรง ให้คุณมาก ให้ผู้บูชาอาราธนาบูชาด้วยความรักและจะเห็นเองว่าแม่รักลูกเป็นอย่างไร


    พ่ออาจารย์ท่านเสกไว้ครบ มีเทวานุภาพเด่นทางด้านข่มสะกด ปราบไพรี สะกดเภทภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้สำหรับศิษย์ที่ศรัทธาและยึดถือท่านเป็นที่พึ่งแล้ว ท่านมักจะประทานพรด้วยอำนาจอันไม่อาจยับยั้งเรียกว่าเป็นแม่ผู้ให้ชนิดไม่ลืมหูลืมตาก็ว่าได้ ด้วยหากผู้ใดบูชาจนพระนางพอพระทัยท่านก็มักจะประทานพรชนิดลืมตัวและให้ผลไวกว่าการบูชาเทพองค์ใดเพราะแม่ย่าเป็นลักษณะอำนาจของการปลดปล่อยผู้มีศรัทธาออกจากความเลวร้ายทั้งปวง เป็นอำนาจแห่งการปกป้องในฐานะแม่ที่แสดงออกมาอย่างเกรี้ยวกราดซึ่งอยู่เหนือเหตุผล กฏเกณฑ์วัฏจักรและอำนาจความสมดุลทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าท่านเชื่อว่ามนุษย์ทุกวันนี้หลายคนมีชีวิตที่เรียกว่าทุกข์จนเสียสมดุลไปแล้ว เจอเรื่องหนักๆ เจอสิ่งเร้า เจออุปสรรคใหญ่ๆที่สู้ชีวิตต่อไปไม่ไหว สำหรับยุคแปดในปัจจุบันซึ่งมีภัยพิบัติและภยันอันตรายต่างๆมากมายรวมถึงภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบัน ท่านว่าต้องใช้แม่ย่านี่แหละ ขอให้ท่านผลักดันเราให้พ้นจากสภาวการณ์เลวร้ายต่างๆด้วยอำนาจเกรี้ยวกราดของผู้เป็นมารดาเท่านั้น




    โดยปกติเครื่องรางเกี่ยวกับพระแม่ย่านี้ พ่ออาจารย์ท่านจะไม่ได้ออกให้ใครบูชาเท่าไหร่ จะมีบ้างก็เฉพาะคนที่ถามกันเข้ามาหรือแจ้งความประสงค์ว่าอยากได้ไว้เคารพสักการะจริงๆท่านก็จะลงตะกรุดขอบารมีแม่ย่าให้สมัยก่อน ซึ่งตะกรุดแม่ย่ากาลีนี้เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก ที่ว่ามากนั้นเพราะเล่ากันสามวันก็ไม่จบ โดยผู้ที่ได้รับไปก็นำไปบอกกล่าวกันต่อ มาขอให้ท่านทำเพิ่มบ้าง ให้ญาติพี่น้องบ้างกระจายกันไปทั่ว เค้าไม่ได้เข้าใจเลยว่าท่านทำให้เฉพาะกิจ แต่ด้วยความเมตตาพอใครขอมาก็สนองตอบทำให้เขาไป จนในที่สุดบางท่านถึงกับจองบูชากันมาเป็นร้อยดอก ด้วยเหตุผลกลใดไม่ทราบพ่ออาจารย์ท่านจึงหยุดลงตะกรุดแม่ย่าเสียแต่นั้นมา แม้ใครถามท่านก็ไม่เคยทำอีก และไม่เคยตอบรับใดๆ ซึ่งก็น่าแปลกใจว่าแม้เพียงตะกรุดยังขลังถึงปานนี้


    ดังนั้นเมื่อท่านทำตะกรุดแม่ย่าให้ใครไปใช้ในยุคก่อน ท่านจะย้ำสั้นๆด้วยคำว่า"รัก"เสมอ แม่ย่าของท่านไม่ต้องเซ่นด้วยเลือด ไม่ต้องถวายอามิสสินจ้างใดๆ เพียงแต่ให้ความรู้สึกรักเท่านั้น เพราะในปางนี้สิ่งที่ท่านขาดจากพระสวามีก็คือความรัก เรียกว่าถวายใจ มีสายสัมพันธ์ มีความรักคให้ท่าน ท่านก็จะหยิบยื่นพลังชีวิตและความปรารถนาดีให้แก่เรา ง่ายๆเพียงเท่านี้ แม้ท่านจะไม่ได้บอกกล่าวอย่างละเอียดแต่ก็มีประสบการณ์เข้ามามากมายเกินคำว่าปาฏิหาริย์ มากจนกระทั่งบางครั้งคนเดียวขอบูชาร้อยดอกบ้าง สี่สิบดอกบ้างก็มี สำหรับผู้ศรัทธาในสายแม่ย่ากาลี จนพ่ออาจารย์ท่านต้องหยุดทำ


    หนนี้ก็เป็นโอกาสอันดีที่พ่ออาจารย์ท่านนำพระแม่กาลีรุ่นแรกที่ท่านเสกเก็บไว้อย่างยาวนานตั้งแต่พิธีสมัยพระจันทรโมเลศวร(พระสยมใบมะตูม) ซ้ำยังเป็นชุดพิเศษที่ท่านทำไว้ด้วยการฝังตะกรุดมนต์เฉพาะบทพิเศษของพระแม่ ซึ่งตะกรุดนี้ก็คือตะกรุดที่ท่านเลิกทำไปแล้ว เป็นตะกรุดที่ก่อประสบการณ์มาก เป็นตะกรุดในสายบารมีพระแม่ที่จะหาใครทำเสมอเหมือนได้เป็นไม่มีอย่างแน่นอน เป็นเป็นตะกรุดแห่งความรัก ความห่วงหาอาทร ความปราถนาดีและสายสัมพันธ์ระหว่างมารดาที่จะมีเกิดขึ้นแก่บุตร พ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นย้ำก่อนออกให้บูชาว่า "ชุดนี้จะเป็นชุดประสบการณ์ เพราะคนที่เอาไปแขวนคอเขาจะพบเจอสัมผัสลี้ลับ ด้วยเจตน์จำนงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เขาจะได้ดีเพียงไหนอันนี้ก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขาแล้ว ว่าเขาจะรักและให้ค่าทางความรู้สึกและจิตวิญญาณกับคำว่าแม่ได้มากมายเท่าไหร่ เราบอกได้แค่ว่าให้รักท่านเหมือนแม่แท้ๆ เดี๋ยวจะสนิทกันเอง อะไรก็ล้วนจะดีไปหมด จะเจริญก้าวหน้าง่าย ชีวิตมีโชคอย่างง่ายๆ จะมีความรักง่ายๆ เปลี่ยนผันศัตรูเป็นมิตรได้ง่ายๆ... พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งรักกันมากอะไรมันก็ง่ายถึงปานนั้น เพราะไม่มีหรอกซักเรื่องที่แม่จะไม่เดือดร้อนแทนลูก"


    แม่ย่ารุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านทำให้มีขนาดเล็กสวยงามห้อยกำลังดีเป็นศิลปะแบบชาวบ้าน สวยมีเสน่ห์คลาสสิคแบบงานโบราณที่ของใหม่ๆจะทำไม่ได้ ซึ่งองค์พระนั้นก็จะมีขนาดจิ๋วๆเพียงใหญ่กว่าพระนาคปรกใบมะขามไม่มาก ท่านว่าเล็กพริกขี้หนู เพราะมีบารมีเต็ม และเราเชิญท่านมาทำให้เองเสกกันจนอัดไม่เข้าแล้ว ท่านว่าใครเอาไปเพียงแค่ห้อยเฉยๆอำนาจบารมีแม่ย่าเขาก็จับตัว สัมผัสกายพร้อมที่จะปกปักรักษาแล้ว รุ่นนี้ท่านจึงเน้นตลอดว่าใช้งาย ถ้าเป็นคนมีหัวใจ รักแม่เป็นนี่ใช้ได้เลย


    คาถาบูชา

    โอม ชยะตีมหากาลี ชยะตีอาธยะกาลีมาตา ชยะรูปะประจัญทิกา มหากาลิกะเทวี ชยะตีรักตาสะนะ เราทะระมุขี รุทะรานี อริ โศนิตขะไประ ภะระนี ขัททะคะ ธรณี ศุจี ปาณนี ฯ

    เหรียญรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเน้นเป็นพิเศษ ด้วยเป็นอำนาจแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของแม่ย่าท่าน ดังนั้นคนใช้จึงแพ้ไม่เป็น ด้วยแรงครูหนุนนำคุ้มเกล้าคุ้มเกศไปแข่งอะไรใครเขาก็ชนะหมด ไอ้ความเชื่อที่ว่าตัวเราต่ำต้อยแข่งกะใครเขาก็ย่อยยับ เพราะแข่งเรือแข่งพายมันแข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนาย่อมแข่งกันไม่ได้แบบนั้น ท่านว่าตัดทิ้งมันไปได้เลยเพราะวาสนาของแม่ย่านี้ ใครก็มาแข่งกับท่านไม่ได้ ชนะโลก ชนะอสูร ชนะเทวดา เมื่อท่านคุ้มเราท่านก็จะดลให้คนใช้มีแต่คำว่าชนะๆๆ ชนะโชค ชนะชัย ชนะไพรี ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม และเมื่อเป็นลูกแม่ย่าแล้วก็ต้องชนะอย่างราบคาบเท่านั้น


    *** เหรียญหล่อรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าควรจะใช้อย่างน้อยคนละสององค์ถึงจะดีเป็นที่สุด องค์หนึ่งนั้นท่านให้อาราธนาไว้ในบ้าน ในถิ่นที่อยู่ของตน ตรงหิ้งพระหรือหิ้งเทพที่ตนเองกราบไหว้บูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าประดิษฐานท่านไว้ตรงนั้นให้ท่านล้างบางอวิชชาพลังงานเลวร้ายทั้งหลายเพื่อจะขับส่งพลังงานบริสุทธิ์ทางจิตวิญญาณสูงสุดให้เกิดขึ้นและเป็นมหามงคลแก่สถานที่อันเราพักอาศัยเพื่อเชื่อมต่อพลังงานนั้นเข้ากับเรา ท่านว่าถ้าที่พักมีอาถรรพ์เยอะนอกจากที่ไม่ดีแล้ว คนที่อยู่ก็จะแย่ลงๆไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวด้วย ส่วนอีกองค์นั้นท่านว่าให้อาราธนาไว้ติดคอ ติดตัวตลอดขอความรักขอบารมีแม่ย่าท่านเปลี่ยนชีวิตเรา สำหรับใครที่จะบนอะไรแม่ย่านั้นจริงๆแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องบน แต่ถ้าอยากหรือทนไม่ไหวมีเรื่องใหญ่อะไรจริงๆก็ให้บนด้วยมาลัยดอกกุหลาบหรือจะเป็นน้ำแดงซักแก้วง่ายๆเท่านี้ก็ได้


    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่อจิ๋วแม่ย่าเทวดามหาปราบโลก(ชนะชัย ชนะวาสนา ชนะชะตากรรม ศักติมหากาลี) บูชา 900 บาท



    k6i9p8.jpg
    k6ik9q.jpg
    k6i3jz.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่ออาถรรพ์พระร่วงรุ่งโรจน์แสวงพ่ายสร้างบารมี(จับเสือมือเปล่า จ้าวพยัคฆ์นอนกิน)

    "แสวงพ่ายก็คือไร้พ่าย คำๆนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหากนำมาใช้ย่อมจะมีความหมายลึกซึ้งนัก ดุจว่าหาความพ่ายแพ้ไม่เจอ หาผู้ที่จะชนะมีชัยเหนือตัวเองไม่ได้ พูดง่ายๆก็คือไร้พ่ายแข่งยังไงก็แพ้ไม่เป็น แม้กระทั่งต้องเที่ยวเสาะแสวงหาไปทั่วไอ้ตัวคำว่าพ่ายแพ้ก็ยังไม่มีปรากฏ"
    รู้กันดีว่าใช้พระร่วงที่ไหนก็ไม่เหมือนพระร่วงของพ่ออาจารย์ เพราะท่านจงใจทำแบบเสกเรียงเหรียญเป็นการเชิญองค์พระร่วงเจ้ามาสถิต หรือที่ภาษาครูที่รู้ลึกเขาจะเรียกว่าแบ่งภาคญาณพระร่วงเจ้าให้มาสถิตประจำที่เครื่องมงคลของท่าน การที่จะเชิญบารมีพระร่วงได้หรือไม่นั้นอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับญาณบารมีของผู้เสกหรือผู้เชิญเป็นสำคัญด้วย

    พระร่วงเจ้าแห่งกรุงสุโขทัยท่านเป็นกษัตริย์ที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์พูดอะไรต้องเป็นเช่นนั้นไม่มีคติอื่นใดแทรกแซง พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งนี้เป็นด้วยเพราะแรงกุศลจากอานิสงส์ที่ชาติก่อนพระองค์ท่านได้เอาผลมะชางทำน้ำอัฐบานหรือน้ำปานะถวายองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าโกนาคม กล่าวคือเมื่อพระองค์ทรงเปล่งวาจาอะไรออกไปก็จะเป็นไปตามนั้น ได้ชื่อว่าเป็นยอดกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการยิ่งใหญ่มาก อันพ่อขุนพระร่วงนี้แน่นอนว่าหากพูดถึงชื่อท่านขึ้นมาแล้วหลายคนถึงไม่รู้จักแต่ก็รู้ว่าชื่อนี้หมายถึงยอดกษัตริย์สุโขทัย เป็นชื่อบุคคลผู้เป็นวีรบุรุษอันมีบุญญาภินิหารสูงและมีฤทธิเดชซึ่งทรงอานุภาพเลิศล้ำเป็นที่ยำเกรงแก่นานาประเทศใกล้เคียงและคงเลื่องลือระบือพระเกียรติไปทั่วทิศานุทิศ แม้กาลผ่านมานับร้อยปี หรือพันปีต่อไป ก็ยังปรากฏนามนี้ให้เป็นที่จดจำได้ว่าพระร่วงเป็นอดีตบูรพกษัตริย์ผู้ที่พลเมืองนิยมนับถือมาก ด้วยความสำเร็จของพระองค์ท่านไม่ว่าจะทำอะไร จะมีบัญชาสั่งอะไร ก็ได้ชื่อว่าเป็นไปตามบัญชาทุกประการ

    ด้วยความเชื่อในบุญญาภินิหาร คนแต่โบราณย่อมนับถือสืบทอดกันมาว่าองค์สมเด็จพระร่วงเจ้านั้นท่านมีฤทธิ์มากแม้จะให้ชีวิตแก่พืชพันธุ์ก็ยังทำได้ ทั้งปราบความทุกข์เข็ญ สร้างความเจริญ ผาสุก รุ่งโรจน์ ให้กับผสกนิกรเรียกได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่เป็นดั่งพ่อของลูก เป็นพ่อที่พึ่งพิงได้ทุกครา ไม่ใช่ว่าต้องยกใส่หัวไว้ดั่งเทวดาเช่นนั้น


    "ถ้ามึงไม่ทิ้งกู กูจะทิ้งมึงได้อย่างไร มีอะไรก็ขอให้มึงนึกถึงกูเถิดแล้วกูจะไปช่วยมึงเอง" ด้วยคำสั้นๆที่เป็นเสมือนสัญญาใจระหว่างกันและกันนี้ของพ่ออาจารย์และองค์พ่อขุนท่าน พ่ออาจารย์ท่านจึงปรารถนาที่จะสร้างพระเครื่องเสียซักรุ่นเพื่อเอาไว้เป็นอนุสรณ์ถึงพระองค์และให้พระองค์ได้ช่วยเหลือคนที่มีเคราะห์ภัยทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระร่วงครั้งนี้ด้วยความตั้งใจหลักของท่านเลยก็คือทำเพื่อบูชาคุณของบูรพกษัตริย์ในราชวงศ์สุโขทัยหรือที่เรียกว่าวงศ์พระร่วงเจ้าทั้งหมด ท่านว่าด้วยคำว่า"ร่วง"นั้นท่านบอกเราว่ามาจากคำว่า"รุ่ง" ฉันจึงถือเป็นลักษณะมงคลนามที่คนเอาไปใช้และมีจิตใจนอบนบเคารพบูชาทุกคนจะต้องรุ่งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

    ท่านเน้นย้ำกับฉันมาว่าให้บอกลูกๆทุกคนนะว่าพ่อตั้งใจให้ตัวเขาได้มีโอกาสสร้างบารมีดังนี้พ่อจึงช่วยคนที่เสียโอกาสทั้งหลายไป ย้ำว่าต้องมีคำว่าสร้างบารมี เพื่อเป็นการสร้างบารมีมาบูชาครู สร้างบารมีให้ชีวิตตัวเองสำเร็จ เท่ากับว่ารุ่นนี้ใครได้ใช้ก็จะเจอแต่เรื่องก้าวหน้า พัฒนาขึ้นเสมอไป ไม่ตกต่ำ เพราะบารมียิ่งทำยิ่งเพิ่ม ยิ่งทำยิ่งมี ยิ่งให้ยิ่งได้ เขาจะมีกุศลแรงส่งให้เรื่องที่ปรารถนาสำเร็จ ใครมีเหรียญนี้ไม่ว่าเรื่องราวอะไรก็ขอให้ตั้งจิตให้มั่นคงในพระรัตนตรัยและสมเด็จพระร่วงเจ้าก็พอ พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อขุนท่านปรารถนาจะมาช่วยลูกๆให้เดินไปบนหนทางแห่งการสร้างบารมี ให้ทุกอย่างที่ไม่ผิดในธรรมนองคลองธรรมสำเร็จสมหวังดังจุดมุ่งหมายทุกอย่างทุกประการ ทั้งจะน้อมนำทั้งพระเดชและพระคุณปกป้องเกล้าเกศา คุ้มครองตัวตน ของเราทุกกาลเวลา


    พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารศักดิ์สิทธิ์และธาตุกายสิทธิ์มาเข้ากับยันต์และวิชาอาถรรพ์ต่างๆที่พ่อขุนท่านสั่งให้ทำให้ใส่ลงไป แม้วิชาบางอย่างนั้นท่านว่าเราก็ไม่เคยรู้จักแต่ท่านก็ยังสอนให้เพราะบอกว่าจำเป็นต้องใช้และขาดไม่ได้เมื่อจะหล่อรูปแทนตัวท่าน โดยพ่ออาจารย์ท่านได้หล่อออกมาให้มีลักษณะไปทางพระร่วงรางปืนอันเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาที่คนจะมีไว้ในครอบครอง ด้วยพุทธลักษณะที่งามสง่า ผึ่งผาย ทรงอำนาจดูองอาจห้าวหาญ ทั้งยังถือคติว่าองค์ “พระร่วงเจ้า” พิมพ์ยืนพิมพ์นี้ท่านกันไฟกันฟ้าต้านเคราะห์กรรมได้ ท่านเรืองโรจน์ทรงฤทธิ์พิชิตภัย ปราบได้ทุกทิศ เป็นที่สุดของความเด็ดขาดและเป็นสุดยอดมหาอำนาจ มหาบารมี

    เหรียญนี้มีอานุภาพสูงด้วยพ่อขุนท่านตั้งอยากช่วยให้ชีวิตลูกอยู่เย็นเป็นสุข ทำมาค้าขึ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงเหรียญจะใหญ่ไปหน่อยแต่ให้พกอาราธนาไว้เถิดไม่ว่าจะไล่เคราะห์ ไล่ผี ขับเสนียดจัญไร อัปมงคล สิ่งไม่ดี ขับทุกสิ่งเหล่านี้ออกไปจากชีวิตล้วนไม่ใช่เรื่องยาก ทั้งพ่อขุนท่านอำนวยพรให้ลูกเจริญด้วยอายุวรรณะ สุขะ พละ มีสติปัญญา มีไหวพริบปฏิภาณ ฉลาดหลักแหลม มีความผาสุกก้าวหน้าในทุกทิศทาง สำเร็จได้ทุก ไม่ว่าจะขายของก็ขายดี ขายบ้านขายที่ดินติดอะไรที่ว่าใหญ่ๆหินๆท่านว่าเดี๋ยวก็ง่าย ทั้งผีเข้าเจ้าสิงถึงมือพ่อขุนท่านบัดเดี๋ยวเดียวก็วิ่งกันกระเจิงกระจาย อีกคนเจ็บไข้ไม่สบาย ดวงตกมีเคราะห์กรรม ชะตายังไม่ฟื้นยังไม่ได้บรรเทาก็ผ่านพ้นวิกฤตได้สะดวกรวดเร็ว

    ซ้ำยังเด่นดีทางมหาอำนาจ วาสนา ตบะเดชะ ท่านอุปมาว่าขุนหลวงหรือพ่อขุนเป็นเจ้าโลกเจ้าชีวิตมีอำนาจดุจพญาราชสีห์ คำรามก้องป่า ปราบสะกดไพรีพินาศราพณาสูร ขอให้มีความทุกข์ยากจริงๆเถิด ยิ่งมีความทุกข์เดือดร้อนมากเท่าไหร่ยิ่งดี ท่านให้อาราธนาองค์พระทำน้ำมนต์อาบ ทุกข์ภัยต่างๆจืดจาง ซีดหายไปทันที พ่อขุนท่านเป็นจอมกษัตริย์มีบารมีมากแม้ไม่ต้องออกหากินก็มีแต่คนหามาป้อนให้ถึงปาก แสดงว่ามีโภคพลาหารมาก อยู่เฉยก็มีคนหาทรัพย์มาให้ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย หากินสบาย หากินง่ายดายเรียกว่ามีคุณให้คนใช้หากินคล่อง เงินทองก็คล่องมือไหลเข้ามาได้ง่าย เหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เอาไประงับดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีเถิด ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนที่ประชิดตัวได้ทุกอย่าง ด้วยท่านลงมหาอำนาจทางสะกดทัพเอาไว้ครบสูตรเพื่อตั้งใจให้คนใช้ระงับดับพิษดับภัยกันอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ ท่านว่าพ่อขุนท่านทำให้ลูกเพื่อให้ลูกมีชีวิตที่สดใสทุกภัยไม่มี ปัญหาต่างๆจะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อนๆ เรื่องร้ายๆ เรื่องไม่ดี จะปราบคู่แข่งขันก็ได้ ระงับเหตุได้ แม้ขึ้นโรงขึ้นศาล มีเรื่อง มีปัญหา มีคดีความกับใครก็จับเขาสะกดไว้ทั้งหมด

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเสกเหรียญนี้นิมิตดีมาก เพราะพ่อขุนท่านแบมือชูให้ดูและผลิกฝ่ามือกลับจากหลังเป็นหน้า ดุจท่านตั้งใจสื่อให้รู้ว่าจะทำให้เพื่อช่วยคน เพื่อให้เค้าพลิกชีวิต จากมืดเป็นสว่างมีคติเพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่มีวันผันแปรเป็นสิ่งอื่น ทั้งปัดเรื่องร้ายทำลายเคราะห์ ไม่ว่าจะมีความทุกข์ เรื่องเดือดร้อนอะไรมาก็ตามให้เอาองค์พระทำน้ำมนต์อาบทุกข์ภัยต่างๆจางหายไปทันที ท่านว่าหายไวปานหมอกควัน ถ้าจะถามว่าองค์พระนี้มีอานุภาพแค่ไหนก็ขอบอกไว้ก่อนว่าสูงมากใครที่จับพลังได้ให้ลองดูว่าเคยมีใครสร้างพระร่วงเจ้าได้ขนาดนี้ไหม

    องค์พระร่วงเจ้านี้ท่านเสกกำกับวิชาไว้ครบ ที่สำคัญมากจะไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยนอกจากเรื่องพลิกชีวิตแล้วอีกเรื่องหนึ่งก็คือท่านปิดโอกาสให้ศัตรูทำอันตรายเราไม่ได้ อันนี้คือปิดช่องเภทภัย การกระทำ การรังแกเราทั้งหลายทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ห้อยไปเถิดภายใน 3 เดือนจะต้องดีขึ้นทุกคนไปขอแค่ต้องทำมาหากินและเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยและบารมีพระร่วงเจ้าเท่านั้น

    ตะกรุดสำคัญ
    ด้านหลังท่านลงวิชาทำตะกรุดจับเสือมือเปล่าที่เป็นวิชาสายพราหมณ์พาราณสีโบราณซ้ำยังกำกับไว้ให้อานุภาพเด่นชัดขึ้นไปอีกด้วยวิชาเสือนอนกิน ซึ่งตะกรุดวิชานี้มีคุณวิเศษอย่างน่าอัศจรรย์อุปมาดั่งการใช้แรงงานและต้นทุนที่เราสามารถแสวงหาผลประโยชน์ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย เรียกว่าได้เต็มร้อยแบบที่ไม่ต้องอาศัยต้นทุนหรืออาจใช้ทุนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เรียกว่าพวกที่คาดหวังความสำเร็จสูงจากต้นทุนที่ต่ำหรือคนที่ไม่มีทุนแต่อยากไปต่อ และไปได้จนสุดนั่นเอง นอกจากทุนจะไม่ต้องใช้แล้ว แรงก็ยังไม่ต้องลงด้วย ดั่งคนที่วันๆไม่ต้องทำอะไรแต่ทำไมกลับโชคดีจัง ทำไมถึงรวยเอาๆ ต่างกับคนที่ทุ่มกำลัง ความคิด สติปัญญาแทบตาย แต่ทำไมงานมันถึงไปได้ไม่สุด ทำไมมันไม่สำเร็จ ทำไมวาสนาคนถึงต่างกันขนาดนี้ คนที่ทำงานแบบชุบมือเปิบโกยเอาๆโดยใช้แค่โชคไม่ใช้ทุน ไม่ลงแรง คนเช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าคนประเภทจับเสือมือเปล่า ซึ่งท่านก็ตั้งใจทำตะกรุดลงวิชาโบราณเพื่อเปลี่ยนคนที่ล้าหลังที่ปากกัดตีนถีบ คนที่ได้ทรัพย์ ได้ผลประโยชน์ไม่เท่ากับแรงที่ลงหรือทุนที่ใช้ไปให้เป็นคนประเภทจับเสือมือเปล่าได้ ทั้งกลับโชคเปลี่ยนวาสนาคนให้ถึงพร้อมด้วยความโชคดีเช่นนั้น เป็นที่สุดแห่งความมั่งคั่ง ความมั่งมี ความสำเร็จและอิสรภาพทางชีวิตและจิตวิญญาณดังนี้


    ทั้งท่านยังถือคติที่เสืออันเป็นเจ้าป่าแม้ไม่ออกล่าก็มีมาให้กินถึงปาก แสดงว่ามีวาสนามาก แค่หิว แค่อยาก แค่มีอารมณ์ ทุกอย่างก็ไหลมาเทมาให้กินได้อย่างง่ายดาย หากินสบาย หากินง่าย หากินคล่อง สะดวกเหมือนมีคนเปิดทางให้ โภคทรัพย์พลาหารวิ่งเข้าหาเงินทองไหลเข้ามาง่ายไม่รู้จักหยุดหย่อน ทั้งแก้เรื่องเลวร้ายที่เกิดจากดวงตกให้ชงัดนัก ด้วยผลหลายประการนี้ล้วนดีทั้งสิ้น และยังเป็นทั้งมหาอำนาจและอิทธิฤทธิ์มากครบทุกทางแล้วแต่จะบอกกล่าวอธิษฐานใช้

    ท่านว่าวิชาชาติเสือกับเชื้อพ่อขุนเจ้านั้นย่อมมีดีเสมอกัน ด้วยพ่อขุนท่านเป็นมหาจักรพรรดิมีขุมทรัพย์อยู่มาก ดังนั้นเหรียญนี้จึงมีคุณดั่งดวงแก้วสารพัดนึกอันล้ำค่า ทั้งยังสร้างเพื่อเชื่อมบุญสำหรับผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นที่พึงจะได้ครอบครอง ด้วยพระทุกองค์ ของทุกชิ้น วิชาทุกอย่างล้วนเลือกเจ้าของไว้อยู่แล้ว ถึงเวลาเขาจะมารับไปเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าบุคคลใดได้พบได้เห็น ก็ได้ชื่อว่ามีบุญยิ่งแล้ว อย่าได้กลัวตกทุกข์ได้ยากไปเลย ได้พบแล้วให้บูชาให้จงดี ก็จักเต็มไปด้วยข้าวของสมบัติเป็นอันมากมายเกินคณานับ จักได้เป็นคหบดี เป็นเศรษฐี แม้นว่าจักปรารถนาสิ่งอันใดก็จักสัมฤทธิ์ผล มีบุญวาสนาดีเกื้อหนุนให้ชีวิตวัฒนาสถาพรสืบไป

    สมเด็จพระร่วงเจ้านี้พ่ออาจารย์ท่านเรียกของท่านอย่างแฝงความหมายไว้ว่าพระรุ่งโรจน์ ด้วยหมายใจว่ลูกที่มีพ่อคอยดูแลย่อมต้องมีชะตาชีวิตที่ดี ที่รุ่ง ไม่มีวันล่วงวันดับ ซ้ำยังนับว่ามีวาสนาจะได้สร้างบุญ สร้างบารมีสืบต่อไปเป็นที่มาแห่งทรัพย์และความรุ่งเรืองไม่รู้สิ้น สมกับคำที่พระศาสดาตรัสไว้ว่า ผู้ไม่มีบุญถึงเขาจะเป็นผู้มีศิลปะหรือไม่มีศิลปะก็ตามย่อมขวนขวายรวบรวมทรัพย์ใดไว้เป็นอันมาก ส่วนผู้มีบุญย่อมใช้สอยทรัพย์เหล่านั้นและโภคะเป็นอันมากย่อมล่วงเลยสัตว์เหล่าอื่นทั้งสิ้นไปเสีย ลาภสักการะทั้งหลายจะเกิดขึ้นในที่ทั้งปวงแก่ผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แล้ว ใช่แต่เท่านั้นแม้รัตนะทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นแม้ในที่อันมิใช่บ่อเกิด...

    คาถาบูชา
    โปรดก่อนพระร่วงเจ้า ทุกข์ร้อนเหลือเกินแล้วพระพุทธเจ้าขา...(ความทุกข์เรื่องเดือดร้อนที่อยากระบาย)....นะโมพุทธายะ สัพพะสิเนหา จะปูชิโต สัพพะโกรธาวินาสสันตุอะเสสะโต เมตตากรุณายัง ทะยะวิสา โสปิยามะนา โปเม สัพพะโลกัสสมิง โพธิ มะหิสะกะ อิถิพุนะ อิถิสัตโต อิถีวาโย เอหิมะมะ นะกาโร โหติ สัมภะโว


    วิชาจับเสือมือเปล่านี้ถือเป็นวิชาเฉพาะที่ท่านหวงแหนว่าไม่คู่ควรกับมนุษย์ที่มีสันดานเกียจคร้านแต่จะออกมาให้บูชาช่วยเหลือคนให้ผ่านวิกฤติเหล่านี้ไปได้ ท่านบอกว่าให้ถือเสียว่าเราเอาออกมาเพื่อสร้างคน สร้างบารมี และต้องเน้นคำว่าเพื่อสร้างบารมีเท่านั้นทั้งกับองค์พระร่วงเจ้าและกับเขา เพราะคนที่เขาจะได้ใช้ย่อมต้องมีความผูกพันธ์เป็นลูกหลาน เคยเกื้อกูลกันมา ในเชื้อสายสมเด็จพระร่วงเจ้ากันทุกคน


    * พระรุ่งโรจน์นี้มีให้บูชาทั้งหมด 5 องค์ รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้จองกรุณาแจ้งชื่อนามสกุลไวด้วยเพื่อพ่ออาจารย์ท่านจะได้ประสิทธิ์ประสาทให้ รายได้ร่วมสมทบทุนหล่อพระใหญ่ไว้ในวัดทางภาคใต้สืืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญหล่ออาถรรพ์พระร่วงรุ่งโรจน์แสวงพ่ายสร้างบารมี(จับเสือมือเปล่า จ้าวพยัคฆ์นอนกิน) บูชา 4,000 บาท

    44043289-721482974898936-5755880789438889984-n.jpg 44074918-146605259627652-7745174023058751488-n.jpg
    44107678-309771849816154-3914266398519459840-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2023
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าอวตารปราบโลกปราบแผ่นดินสี่ทวีป (มหาทัณฟาดมารล้มยักษ์)

    "การล้มยักษ์นั้น จริงๆเราทำขึ้นเพื่อให้เค้าใช้โค่นพวกที่มีอำนาจ มีวาสนาบารมี ทั้งเหนือกว่า แข็งแกร่งกว่า มีภูมิหลังยิ่งใหญ่และหักเอาไม่ลง"

    พ่ออาจารย์ท่านเปรียบคนประเภทที่มีความพร้อม อยู่ในจุดที่เป็นต่อ มีชื่อเสียงน่าเกรงขาม มีอำนาจทำลายเราได้...ท่านเปรียบคนเหล่านี้ไว้กับคำว่ายักษ์ อุปมาคือมีอำนาจมาก มีบารมีมาก และยิ่งเราเป็นคนสองมือตัวเล็กๆหากต้องไปสู้กับยักษ์ ก็เป็นได้เพียงไก่รองบ่อนเช่นนั้น ด้วยวาสนาเหล่านี้เป็นของจริงท่านว่าหากคนที่เขายังมีวาสนาเสวยอยู่แม้เราจะห้อยพระดีหรือกระทำด้วยวิธีทางไสยศาสตร์ใดๆก็ตามการกระทำเหล่านั้นก็จะไม่เกิดผลสำเร็จหากดวงเขาไม่อ่อนหรือร่วงลงมาก่อนทำไปก็เสียเวลาเท่านั้น ดังนั้นในยุคสมัยที่การแข่งขันเกิดขึ้นทุกวันเช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านจึงคิดจะทำเครื่องมงคลสำคัญชนิดหนึ่งเอาไว้ เพื่อใช้เฉพาะตัว เฉพาะสถานการณ์พิเศษโดยเรียกติดปากของท่านว่าเหรียญล้มยักษ์

    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำคุณวิชามหาปราบเต็มวิชาโดยตั้งใจว่าจะทำให้เขาเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านตั้งใจจะทำให้พวกคนที่ไม่มีอาคม ไม่มีตบะ ไม่มีสมาธิให้เขาใช้ได้ เรียกว่าใครเอาไปถือครองก็ใช้ได้โดยเฉพาะพวกคนที่คิดการณ์ใหญ่ คนที่โดนเบียดเบียนรังแก เป็นไก่รองบ่อน วาสนาน้อย เหล่านั้น ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ท่านว่าหากคนใช้เขาปราดเปรื่องก็ยังเล่นใช้ได้หลายทาง พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวิชาทำตะกรุดมหาปราบทุกตำรับของท่านมาเข้ากับที่สุดของวิชาสายมหาปราบคือวิชาสายปราบโลกและปราบแผ่นดินทั้งสี่ทวีป อันเป็นอะไรที่เกินและมากกว่าวิชามหาปราบทั่วไป โดยหลอมรวมกับธาตุกายสิทธิ์และชนวนสำคัญเพื่อเทเหรียญล้มยักษ์นี้

    เหรียญสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านทำตามตำรับกลับดวง พลิกดวง ฟื้นวาสนา เปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต โดยอุปมาเหมือนกับว่า ตัวเราเป็นเพียงมนุษย์สองมือ ไร้กองหนุน ตกต่ำ ไร้วาสนา ก็ยังสามารถล้มยักษ์ ฆ่ายักษ์ที่มีอำนาจรุ่งเรืองในวาสนาบารมีดุจเจ้าโลกอย่างถึงที่สุดได้ เรียกว่าทำให้เอาไว้ใช้เฉพาะกาล ใช้เพื่อชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของชีวิต ใช้เพื่อทำเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ไร้หนทาง ไร้กำลังและสิ้นความคาดหวังให้เกิดขึ้นได้เปรียบเปรpตัวเราเป็นมดตัวเล็กๆก็สามารถฆ่าช้างได้เช่นนั้น

    พ่ออาจารย์ท่านได้กำหนดรูปแบบทำพิมพ์เป็นองค์พระอวตาร ท่านว่าต้องใช้พิมพ์นี้เท่านั้นเพราะองค์พระอวตารนั้นเป็นการแบ่งภาคของพระเป็นเจ้าลงมาปราบยุค ล้างอธรรม เป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์ ด้วยกำลังพระอวตารอันเป็นผู้เป็นใหญ่ เป็นแม่ทัพสยบศึก มีอานุภาพทางมหาอำนาจ มหาปราบ มหาระงับ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เหรียญนี้ไปตกอยู่กับใคร เขาก็จะมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปโดยเร็วพลัน ดั่งพระรามปราบโลก ล้างยุคเข็ญ ชนะพญายักษ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลก เป็นศัตรูที่เหนือกว่ามนุษย์และเทวดาอย่างทศกัณฐ์ได้ฉันใด ท่านบอกว่าแม้ตัวคนที่เอาไปใช้ก็ต้องชนะอุปสรรคขวากหนามทุกอย่างได้ฉันนั้น

    เหรียญสำคัญนี้ท่านว่าครูท่านปกาศิตไว้ ให้ใช้ทางดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนได้ทุกอย่าง ปราบเขาได้ทั่ว สยบเขาได้ทั้งโลก ท่านว่าต่อให้เป็นมดตัวเล็กๆก็ล้มช้างได้ เป็นคนตัวเล็กๆก็ฆ่ายักษ์ได้เช่นนั้นดุจองค์พระอวตารฟาดมารล้มยักษ์ได้ฉันใดเหรียญนี้นี้จึงดีครบสูตร ย่อมระงับดับพิษ ดับภัย ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น ท่านว่าเอาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะสดใสทุกข์ภัยไม่มี ขอเพียงอย่างเดียวคือให้พกติดตัวจริงๆท่านจะแก้กันปัญหา แรงกรรมจะเสื่อมถอย คราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อน เรื่องร้าย เรื่องไม่ดี ทั้งใช้ปราบคู่แข่งขันในทุกๆด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องท่านว่าปราบเขาได้หมดทุกท่วงทำนองแห่งชีวิตเพราะครูท่านปกาศิตไว้ให้ใช้ปราบและปราบเท่านั้น ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นยอดแห่งการปราบปรามและสะกดข่มทุกสรรพชีวิต ท่านว่าหนนี้เน้นไปที่พวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูง ปกติเจอคนพวกนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลย แม้ห้อยพระชั้นครูอย่างไรก็เงียบ แต่ท่านว่าครานี้เหรียญนี้ทำมาเพื่อแก้กลเหตุเหล่านั้นโดยเฉพาะ ให้ปราบโลกสะกดไว้ทั้งหมด ระงับเหตุได้แม้ขึ้นโรงขึ้นศาล พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้พกไว้เถิดแล้วก็ใช้ชีวิตของเราไปแบบปกติรับรองว่าสยบ ได้ทั้งหมดทุกคน ทุกจำพวก และแม้แต่วิชาที่เขาจะใช้หรือบูชาติดตัว ทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีฤทธิ์เก่งกาจปราบไตรจักรหมายถึงปราบอันตรายของสามโลก ทรงอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศ มีมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง

    นอกจากเหรียญนี้จะปราบและสะกดข่มเรื่องราวและปัญหาที่เข้ามาถึงตัวเราเป็นประจำสารพัดเรื่องทุกเช้าค่ำเเล้ว เมื่อต้องเผชิญเคราะห์ภัย ทุกข์เข็ญ เวรร้าย รู้สึกว่าดวงไม่ดี โชคชะตาราศีเศร้าหมองไม่ผ่องใส เน้นว่าเรื่องหนักๆ พวกมีกรรมมาก มีเรื่องทุกข์มากควรจะกระทำ ท่านให้อัญเชิญเหรียญออกมาทำน้ำมนต์ไว้ลูบหน้าลูบตาเพื่อล้างเคราะห์ภัยเหล่านั้น และเหนือสิ่งอื่นใดทุกกิจ ทุกการกระทำที่ผู้อาราธนาตราบใดที่ยังห้อยเหรียญพระอวตารนี้อยู่ ท่านว่าทุกความปรารถนานั้นจะต้อง “สัมฤทธิ์ผล” พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีติดคอให้หมั่นท่องคาถาอาราธนาเถิด ชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายได้ทั้งปวง ยิ่งหมั่นสวดบริกรรมด้วยก็ยิ่งดี เพียงเท่านี้เรื่องร้ายก็จะกลายเป็นดี เคราะห์หนักก็จักเบาบาง เคราะห์ดีก็จะยิ่งดีทวีขึ้นแบบฉับพลันทันใด

    ด้วยเน้นเทวานุภาพในด้านแคล้วคลาดปลอดภัย ปราบศัตรูหมู่มาร ปราบสิ่งชั่วร้าย สิ่งไม่ดี กันคุณไสย เป็นที่สุดของชัยชนะสยบผู้มากด้วยตบะบารมีทั้งหลายแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังได้ลงวิชาทางมหาโภคทรัพย์เสริมไว้ด้วยเพื่อเน้นขับเคลื่อนพลังให้คนใช้มีชัยชนะทางทำมาหากิน ชนะคน ชนะตน ชนะชีวิต ทั้งใช้ทางโภคทรัพย์ เรียกทรัพย์ได้ตามต้องการ ท่านว่าเหรียญนี้มีคุณมากดุจฝอยท่วมหลังช้างให้พิจารณากันให้ดีสุดแล้วแต่จะนำไปใช้ได้ทุกทางนั่นทีเดียว ท่านว่าจะใช้ทำน้ำมนต์เวลามีคดีความให้ชนะความกลับมาก็ยังได้ จะพกพาเป็นมหาอำนาจ เป็นนะจังงัง เป็นมหากำบังย่อมใช้ได้ทั้งสิ้นออกได้ทุกทาง เช่นนั้นเหรียญนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นของวิเศษ อยู่กับผู้ใดนอกจากเปลี่ยนชีวิตให้เจริญในลาภยศมิขาดแล้ว ยังมีความศักดิ์สิทธิ์สามารถนำพาให้ผู้อาราธนาฟันฝ่าอุปสรรคเคราะห์กรรมที่ไหลเข้ามารบกวนได้ ย่อมคุ้มกันสรรพเสนียดจัญไรสารพัดแม้แต่คุณไสยนานาประการ หากนำติดตัวไปทิศทางใดข้าศึกศัตรูก็จะพ่ายแพ้ไปสิ้น มิอาจทำอันตรายแก่เราได้เลยซ้ำยังเป็นที่รักใคร่แก่มนุษย์และเทวดาทั้งหลายทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่รักของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นฟ้าหนุน ดินหนุนเช่นนั้น ขอเพียงให้รู้จักทำมาหากินทรัพย์สมบัติก็จะงอกเงยเพิ่มพูนขึ้นมาเองจะมีเงินทองมิขาดเลย แม้ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้ตามต้องการ สัมฤทธิ์ผลทุกประการ ท่านว่านี่ว่ากันไว้แบบคร่าวๆตามอานุภาพวิชาและพระยันต์ต่างๆที่ท่านพิจารณามาว่าดีที่สุดแล้วจึงนำมาหล่อหลอมเท่านั้น

    และที่พิเศษที่สุดในเหรียญหล่อชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านได้นำยันต์พิเศษทำตะกรุดสังวาลย์ตัวสำคัญฝังลงไปด้วย(ซึ่งปกติวิชาทำสังวาลย์นานๆครั้งมากๆท่านถึงจะทำซักที) ท่านเรียกวิชาทำสังวาลย์นี้ว่าสังวาลย์มหาวิเศษ เพราะมีคุณหลายทางเป็นมหาวิเศษสมชื่อนั่นเอง ท่านว่าวิชาทำตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มากถึงขนาดว่าแม้ประสงค์จะใช้ทางใด จะทำอะไร จะให้เป็นอย่างไรก็จงปรารถนาอธิษฐานเอาตามใจเถิด แต่สิ่งที่ดีที่สุดของชุดสังวาลย์นี้ก็คือใช้อาราธนาทำน้ำมนต์ได้หลายทาง พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่ามีความสำคัญและตรงกับคุณของเหรียญนี้ท่านจึงนำมาฝังไว้ให้คู่กัน ท่านว่าหากนำมาใช้ทำน้ำมนต์แล้ว นี่ถือได้ว่าเป็นของชั้นยอด เป็นที่สุดในสายทำน้ำมนต์เลยเพราะใช้ได้ทุกด้าน ทำก็ง่ายเพียงแค่อธิษฐานเท่านั้น ทั้งกันถ้อยถอดความ ใช้ได้ทั้งทำน้ำมนต์เป็นเกราะป้องกันภัยทั้งปวง ทั้งลูบหน้าสระหัว แล้วอาบซ้ำ เคราะห์จะลด ความจะหาย ภัยร้ายจะหมด แม้ต้องธรณีสารก็หาย แม้โรคภัยไข้เจ็บก็หาย น้ำมนต์ที่ได้จากอานุภาพของสังวาลย์มหาวิเศษนั้นท่านว่ามันสารพัดจะใช้จริงๆนะ จะเอาไปแช่น้ำต้มกินก็ได้ จะเอาไปแช่น้ำที่ใช้ต้มยาก็ได้เป็นการเพิ่มสรรพคุณให้กับว่านยาสูงนัก หรือจะนำมาแช่น้ำรดว่านรดต้นไม้ก็ได้ท่านว่านอกจากจะเจริญงอกงามแล้วว่านเหล่านั้นจะยิ่งมีพลังและสรรพคุณครบถ้วนตรงตามตำราดีนักทีเดียว ท่านว่ามันใช้ทำน้ำมนต์ได้ทุกทางเลยเพียงแต่อธิษฐานขอบารมีครูบาอาจารย์ว่าจะทำน้ำมนต์ด้านใดย่อมใช้ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะค้าขาย ขอลาภ ปราบความลำบากยากจน...ใช้ได้ทั้งสิ้นแม้ปรารถนาสิ่งใดก็จะสมความปรารถนาทุกประการ

    เมื่อนำมาฝังเข้ากันแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าของสองสิ่งนี้ย่อมเกื้อหนุนกัน คนใช้ คนถือ จงปรารถนาเอาตามใจเถิด ของสิ่งนี้จะเป็นสื่อเป็นพลังนำมาซึ่งความสำเร็จ นำมาซึ่งชัยชนะ ทั้งระงับเหตุร้าย ระงับอันตรายต่างๆ ระงับดับทุกข์ ดับร้อน บันดาลให้เกิดความสุขความร่มเย็น พัดพาสิ่งไม่ดีออกไปได้ เหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเน้นหนักไปทางทำอิทธิฤทธิ์ หากคนใช้มีสมาธิจิตที่แน่วแน่จริงๆ ท่านว่าแค่ถือไว้หากเจออันตรายหรืออยู่ในเหตุการณ์อื่นๆก็สามารถทำให้หายตัวได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าลงไว้ครบทั้งกันไฟไหม้ กันฟ้าผ่า กันห่าฝน กันทุกข์ ดับเคราะห์ได้สารพัด

    พ่ออาจารย์ท่านรับรู้ได้ว่ายุคสมัยนี้คนที่ดีก็จะดียิ่งๆขึ้นไป ส่วนที่ร้ายก็จะเกิดทุกข์ภัย ลำบากยากจน ท่านว่าต่อให้ขยันอย่างไรก็มีแต่หน้าจะดำคล้ำหมองลงไม่สามารถยืนหรือตั้งตัวได้ เพราะไม่มีอะไรจะไปสู้เขาได้ เช่นนั้นท่านจึงพิจารณาให้นำเหรียญสำคัญนี้ออกให้บูชาเพื่อความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ให้เจ้านายรัก-ลูกน้องหนุน แก้ทุกข์ภัยจากดวงตก ดวงไม่ดี เคราะห์ภัยเวรกรรมให้บรรเทาลงโดยพลัน

    ท่านว่าตอนเสกนั้นท่านทำพิธีปลุกเสกใหญ่ต้องขึ้นครูด้วย หัวหมู บายศรี ค่าครู หมากพลู บุหรี่เปิดทั้งสิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน สิบสี่ชั้นบาดาล เชิญครูทุกทิศทุกทางมาช่วยเสก ต่อไปคนใช้ชีวิตเขาจะได้เปิดทั้งหมดไม่มีสิ่งใดมาปิดกั้นเอาไว้ได้...หากจะบนบานศาลกล่าวองค์พระอวตารท่านพ่ออาจารย์ท่านว่าให้บนง่ายๆ โดยบนด้วยดอกดาวเรืองเก้าดอก(ชีวิตจะได้รุ่งเรืองเหมือนชื่อ) และเหรียญสำคัญนี้ท่านว่าเวลาเอาติดตัวไว้***เมื่อเรามีภัยเขาจะจะขยับสั่นเตือนเป็นการบอกกล่าวเราล่วงหน้า พ่ออาจารย์ท่านว่าหากวันไหนเหรียญสั่นก็ให้รู้ไว้ว่าวันนั้นจะเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างใดอย่างหนึ่งกับชีวิตเราแน่นอน ให้แก้กันล่วงหน้าด้วยการอธิษฐานเอาเหรียญทำน้ำมนต์ดื่มกินลูบหน้าลูบตา ถ้าจะให้ดีก็อาบไปเลย แล้วค่อยออกไปทำงานไปใช้ชีวิตตามปกติ หากทำได้ดังนี้จากภัยก็จะเปลี่ยนเป็นโชค เป็นความสุข ความสำเร็จเช่นนั้น


    ชีวิตคนนั้นก็เสมือนดอกบัว พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เลือกเอาเองว่าจะอยู่ในโคลนในตมหรือเลือกที่จะเป็นบัวซึ่งโผล่พ้นโคลนตมขึ้นมาแล้ว เพราะเหรียญนี้ที่ครูท่านให้ทำไว้ก็ด้วยเหตุที่ว่าจะได้เป็นวาสนาบารมีให้กับบุคคลที่ไร้วาสนา แม้มีกาลทุกข์กาลร้อน หรือมีเหตุอาเพทใดกับชีวิตก็ให้ตั้งจิตบอกครูท่านเถิด ให้จำไว้ว่าเธอจะไม่มีวันตกอับตกต่ำกว่าใคร คำว่าอดอยากยากจนหม่นหมองสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ให้อธิษฐานเอาให้ดีจะได้ผลยิ่งกว่าถือแก้วมณีโชติ แก้วสารพัดนึกเหล่านั้นเสียอีก จำเอาไว้ให้ดีว่าเหรียญนี้ปราบได้ทั้งหมด เราพูดมากไปกว่านี้ไม่ได้แต่เอาว่าปราบได้ทั้งสิ่งที่ตาเธอมองเห็นแล้วก็มองไม่เห็นก็แล้วกัน



    คาถาบูชา
    ฆเฏสิ ฆเฏสิ กิงการณา อหังปิตัง ชานามิ ชานามิ นะโมพุทธายะ อิติปาระมิตาติงสา โนวะปะตานุภาเวนะ มาระเสนา อะติกกันตา มาระนิทรา ทัสสะปาระมิตา ทะมาระนิทรา ปาระชังฆานิทรา ทัสสะปาระมิตา โลหะกันตา นามะเตนะโม มาตาปิตุพุทธะคุณัง สัพพะสัตรูวิธังเสนตุ อะเสสะโต เอวังทัสสะวัณโณ ปฏิฐิตัง จักรวาฬะ สัพพะสัตตานุภาเวนะ มาราโมระอะติกกันตา ทัสสะพรหมมานุภาเวนะ สัพพะสัตรูวินาสสันติ


    พ่ออาจารย์ท่านว่า****เหรียญนี้เป็นมหาทัณฑ์ที่ใช้ลงโทษหมู่มารทั้งหลาย ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก ติดแต่ว่าครูเขาไม่ให้พูดเพราะกลัวจะเอาไปรังแกกัน ให้เป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับความโชคดีและวาสนาของคนใช้ก็พอไม่ต้องให้เขารู้อะไรลึกๆมากไปกว่านี้ ท่านว่าก็คิดเอาเองคำตอบมันเห็นๆกันอยู่แล้ว ชีวิตใครมีมารก่อกวนเยอะก็รู้ตัวกันดี รู้อยู่แก่ใจ อะไรคือมหาทัณฑ์ อะไรคือฟาดมาร กำราบเทพจ้ามิจฉาทิฏฐิทั้งหลาย พูดได้เท่านี้ก็น่าจะเข้าใจ พ่ออาจารย์ท่านว่าฉันลงนารายณ์อวตารทั้ง 108 ปางแบบพิศดารกำกับไว้ครบหมดแล้ว เชื่อได้ว่าแรงครูจะบันดาลให้สิ่งที่ปราถนาในใจเจ้าสำเร็จประสงค์ น้อมนำให้เกิดผลดีทั้งร้อยพันประการแก่ตัวเธอทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจำไว้นะว่าคำว่าปราบของเรา มันมีความหมายมากกว่าการเอาไปรบทัพจับศึกที่ไหนเป็นไหนๆ ท่านว่าเหรียญนี้คนที่เขาเคยใช้ เค้ามาเล่าให้ฟังว่าเอาไปทดลองเล่นทางเสน่ห์ก็เห็นผลมาแล้ว ไอ้คนที่ว่าใจแข็ง ผู้หญิงที่เชิดใส่ ที่ไม่มองไม่คุยด้วยเป้นปกติ ลองเอาเหรียญพระอวตารนี้เขียนชื่อนามสกุลเอาเหรียญทับรูปทับนามมันไป เพียงเท่านั้นเขาว่าอยู่ดีๆกลับโทรมาหาเค้าเองคุยทีเป็นชั่วโมงผูกสัมพันธ์สานต่อกันอย่างกับไม่ใช่คนๆเดียวกัน ดังนั้นเหรียญนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงว่าใช้ได้ทุกด้าน หากมีปาก พูดเป็น ขอเป็นแล้วย่อมใช้ไ้ดทั้งหมด

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าอวตารปราบโลกปราบแผ่นดินสี่ทวีป (มหาทัณฟาดมารล้มยักษ์) บูชา 2,500 บาท

    44224957-350910738804251-2000340997606735872-n.jpg 44130489-250698908950404-6845217334747987968-n.jpg
    44290368-283163419204871-599501636938760192-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2023
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงสมพรปาก(แกขอฉันให้)องค์ต้นธาตุต้นธรรม (บรรเทาอุปฆาตกรรมและอกาลมรณะ)

    ในวาระสังคมในปัจจุบันนั้นหลายคนประสบพบเคราะห์กรรมที่เข้ามาริดรอนก่อนอายุขัย คืออุปฆาตกรรมที่แสดงผลไวกว่าเวลากำหนดและไม่สามารถแก้ไขได้ เรียกว่าไม่ถึงที่จนก็ต้องจน ไม่ถึงที่เจ็บก็ต้องเจ็บ ไม่ถึงที่ตายก็ต้องตาย หลายคนเจอความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่เข้ามาริดรอนก่อนเวลาอันควรและแก้ไม่ตก เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงให้นำพระผงองค์ต้นธาตุต้นธรรมวาระพิเศษที่สร้างขึ้นเพื่อบรรเทาอำนาจกรรมริดรอนทั้งหลายออกมาให้เฉพาะผู้มีบุญอันจะพ้นวาระได้บูชาคลายวิบากเหล่านั้น

    อุปฆาตกรรม เป็นกรรมชนิดหนึ่งซึ่งให้ผลตัดรอนกรรมอื่นๆ เช่นกรรมบางอย่างส่งผลตัดรอนผลของกรรมอื่น อุปมาว่าถ้ามีกรรมอื่นส่งผลให้ชีวิตเราดีขึ้น กำลังได้ดี ชีวิตกำลังไปได้สวย ก็จะมีอีกกรรมอีกตัวหนึ่งมาตัดรอนให้ได้รับผลดีน้อยลงก็มี ให้ผลดีเสมอตัวก็มี หรือจะยังความพินาศฉิบหายจนไม่สามารถรับได้ก็เป็นไปได้เช่นกัน ทั้งนี้อุปฆาตกรรม เป็นกรรมชนิดที่มีอำนาจมากเพราะสามารถตัดรอนกรรมอื่นๆได้อย่างเด็ดขาด เรียกว่าเมื่อแสดงตัว แสดงผลของมันแล้วแน่นอนว่าย่อมส่งผลทันตาเห็นแบบฉับพลันทันที เมื่ออุปฆาตกรรมนี้เกิดขึ้นหรือริดรอนตัดกรรมใดแล้ว กรรมที่เราเสวยอยู่ เช่นมีชีวิตมาดีๆกำลังเสวยผลบุญอยู่นั้น ต่อให้เป็นกรรมดีที่เกิดจากกุศลกรรมของเราก็ตาม(อันนี้ฟังเอาไว้ชัดๆเลย)ย่อมไม่สามารถส่งผลให้เกิดขึ้นได้เลยตลอดไปเรียกว่าอุปฆาตกรรมนั้นเมื่อแสดงผลแล้วย่อมระงับผลของกรรมปัจจุบันได้ฉับพลันทันที และถ้าตัดวิบากของกรรมนั้นแล้ว ย่อมหมายถึงร่างกายหรืออวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของผู้นั้นย่อมเสียไปตลอดชีวิต หรือไม่ก็ตัดชีวิตและวงจรชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคตของผู้นั้นให้เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลอาจถึงกาลดับสิ้นไปเลย
    อุปฆาตกกรรม มีหน้าที่ 2 อย่าง คือ
    1. ตัดชนกกรรมที่เป็นตัวนำเกิด ไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป
    2. ตัดชีวิต (รูปนาม) ที่เกิดจากชนกกรรมนั้น ให้สิ้นไป
    อุปฆาตกรรม มีหน้าที่ตัดชนกกรรมอื่น ๆ เพื่อไม่ให้มีโอกาสส่งผลนี้ มี 3 ประเภท คือ
    1.1 กุศลอุปฆาตกรรมตัดอกุศลชนกกรรมไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป(บุญตัดบาป) ไม่เกิดในอบายภูมิ ยกตัวอย่างเช่น องคุลิมาลก่อนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้เคยฆ่าคนเป็นจำนวนมาก เมื่อตายแล้วจะต้องตกนรกแน่นอน แต่เมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก็ไม่ต้องตกนรกเพราะไม่ต้องเกิดอีก ด้วยอำนาจของอรหัตตมรรคกุศลกรรม(บุญ) ที่เกิดขึ้นตัดอกุศลชนกกรรม(บาป)ที่ได้ทำในภพนี้และภพก่อนให้หมดไปไม่ต้องรับผลกรรมที่ทำไว้
    1.2 กุศลอุปฆาตกรรมตัดกุศลชนกกรรมอื่นไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป (บุญตัดบุญ)
    1.3 อกุศลอุปฆาตกรรมตัดกุศลชนกกรรมอื่นไม่ให้มีโอกาสส่งผลตลอดไป (บาปตัดบุญ)
    อุปฆาตกรรมที่มีหน้าที่ตัดรูปนามที่เกิดจากชนกกรรมอื่นให้สิ้นไป มี 4 ประการ คือ
    2.1 กุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากอกุศลชนกกรรม
    2.2 กุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากกุศลชนกกรรม
    2.3 อกุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากกุศลชนกกรรม
    2.4 อกุศลอุปฆาตกรรมตัดรูปนามที่เกิดจากอกุศลชนกกรรม
    จะเห็นว่าอุปฆาตกรรมนี้มีทั้งดีและร้าย ซึ่งถ้าให้ผลร้ายก็จะพินาศดับสูญและส่วนใหญ่จะร้ายมากกว่าดี พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าด้วยเพราะเป็นวงจรที่ทุกชีวิตต้องพบเจอ ถึงอยากหลีกหนีก็หนีไม่พ้น ทั้งหลายคนยังถามว่าทำไมทำบุญมาหนักหนาชีวิตถึงแย่ลงๆ ยิ่งทำบุญหนักก็ยิ่งไม่ช่วยอะไร ทำจนท้อ จนถอย จนไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรมไปแล้ว ท่านว่าตรงนี้ก็เพราะชีวิตไปตกอยู่ในวงจรร้ายแรงของอุปฆาตกรรมนั่นเอง


    นอกจากนี้ยังมีอกาลมรณะซึ่งเป็นกรรมที่เข้ามาบีบคั้นอย่างกระทันหันอีกประเภทหนึ่ง โดยอกาลมรณะก็คือ การตายในโอกาสที่ยังไม่ถึงกาลควรตาย แต่ต้องตายเพราะกรรมบางอย่างที่เป็นอกุศลเข้ามาบีบคั้นให้ตาย การตายประเภทนี้พอมีทางต่อให้อายุยืนยาวต่อไปได้ตามสมควรแก่กรรมในอดีตแต่จะต่อให้พอดีนั้นไม่ได้ ซึ่งพวกที่ตายแบบกาลมรณะเมื่อตายไปแล้วก็จะเสวยผลกรรมทันที แต่พวกที่ตายแบบอกาลมรณะนั้นเมื่อตายแล้วยังไม่ไปเสวยผลกรรมทันที ต้องไปเป็นสัมภเวสีแสวงหาที่เกิดก่อน คือรอกาลที่จะถึงกาลมรณะก่อนเมื่อถึงเวลาแล้วจึงจะได้รับผลกรรมดีและกรรมชั่วที่ทำไว้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเหตุด้วยกรรมทั้งสองนี้มีอานุภาพมาก และเมื่อเกิดขึ้นก็จะเป็นอันตรายร้ายแรงยากที่จะหลีกเลี่ยง ซ้ำยังมีอำนาจใหญ่เหนือระบบเวลาในห้วงหนึ่งของวงจรชีวิตสัตว์โลก เช่นนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านได้เคยให้พ่ออาจารย์ลบถมผงวิเศษประเภทหนึ่งเอาไว้ เมื่อท่านพิจารณาแล้วว่าคนเดือดร้อนในกรรมที่ไม่สมควรเกิดก็ดี ยังไม่ถึงเวลาแสดงผลกรรมก็ดี โดยกรรมเหล่านี้เป็นกรรมริดรอนที่แทรกซ้อนระหว่างเราสร้างกรรมหลักขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขออนุญาติเสด็จพระใหญ่สร้างพระไว้บรรเทาแรงกรรมดังกล่าว ซึ่งครูเสด็จพระใหญ่ท่านก็ได้เมตตาบอกลักษณะและพิมพ์ทรงให้ว่าต้องให้พ่ออาจารย์ท่านทำพระปางวันทาหรือที่ท่านเรียกว่าพระรับไหว้เท่านั้น

    ซึ่งการสร้างพระผงวาระนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ยากอย่างมากด้วยขึ้นชื่อพระอันจะบรรเทากรรมซึ่งมาริดรอนชีวิตคนได้ แน่นอนว่าการทำย่อมไม่ง่ายเลย เพราะท่านต้องใช้ผงธาตุธรรมตามที่เสด็จพระใหญ่ระบุไว้มาทำการลบผง อันผงธาตุธรรมนี้ก็คือผงที่เกิดจากกายสังขารซึ่งเคยรองรับอมตะธรรมทั้งหลาย กล่าวง่ายๆคือเถ้ากระดูกบูรพาจารย์ผู้สำเร็จธรรมนั่นเอง เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ผงเถ้าอัฐิพระผู้บรรลุธรรมและบูรพาจารย์ในสายพระอาจารย์มั่นลงมาและสายล้านนาตั้งแต่ต๋นบุญครูบาเจ้าศรีวิชัยลงมาซึ่งท่านรวบรวมมาตลอดชีวิตโดยเก็บไว้สักการะบูชามาเป็นธาตุธรรมตั้งต้น นำผงอัฐิพระอรหันต์เหล่านั้นมาเข้ากับผงบัวผุดซึ่งเป็นดอกบัวเนรมิตที่เทวดาถวายไม่ได้เกิดขึ้นจากโคลนตมเช่นบัวทั่วไป ก่อนที่จะนำมาปั้นเป็นแท่งผงลบพระยันต์ตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านบัญชาตั้งแต่ยันต์ดวงประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ยันต์พระพุทธหัตถ์ ยันต์พระพุทธบาท ยันต์นะคาบ ยันต์พระจตุราริย์สัจ ยันต์ธาตุพระกรณี....ยันต์นวโลกุตรธรรม พ่ออาจารย์ท่านว่ากว่าจะทำได้ก็ไม่ง่ายเพราะต้องลบและเก็บผงมาปั้นใหม่แล้วลบยันต์ต่อไปทำไปเรื่อยๆ ท่านว่าต้องทำจนผงทะลุกระดานจึงจะสำเร็จโดยท่านเรียกผงนี้ว่าผงต้นธาตุ ต้นธรรม กลายเป็นผงที่มีอานุภาพบรรเทากรรมอันจะมาริดรอนชะตาคนได้

    เมื่อได้มวลสารหลักแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงแสวงหามวลสารต่างๆตามที่เสด็จพระใหญ่ท่านแนะนำว่าต้องใช้และต้องมี ทั้งมหาว่าน ผงยันต์108 แป้งปถมังมหาคุณ ผงกอขอ ผงสิบสองนักษัตร ผงเทพนพเคราะห์ ผงดวงเศรษฐี ผงฟื้นชะตา ผงพลิกชะตา ผงกลับชะตา ผงวิชาหนุมานทุกตัว ผงยันต์วิชาวัวธนู ผงยันต์วิชาควายธนู ไคลหลักเมือง ไคลเสมา ไคลประตูโบสถ์ ปูนเพชรมหาธาตุเจดีย์ ไม้รอดคุก รอดโรงพยาบาล รอดพระบรมธาตุ รอดเมรุ ว่านแตกดอกเจ็ดสิ่ง ว่านรู้นอนเจ็ดสิ่ง ว่านไม่รู้นอนเจ็ดสิ่ง ว่านไม่ตกดินเจ็ดสิ่ง น้ำมันกะลาตาเดียว น้ำมันกะลามหาอุตม์ น้ำผึ้งทั้งสาม น้ำทั้งสี่....เรียกว่ามวลสารพันแปดชนิด ท่านว่าต้องหามวลสารตามที่ท่านสั่งไปเรื่อยๆมาสะสมไว้จนครบไม่เช่นนั้นก็กดพิมพ์ไม่ได้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระรุ่นนี้สำคัญมาก เพราะเสด็จพระใหญ่ท่านให้ทำพระพิมพ์วันทา ท่านว่าเป็นพระรับไหว้โดยเฉพาะ ซึ่งกิริยาเช่นนี้ก็คือการรับไหว้หรือไหว้ตอบเป็นการรับรองความศรัทธาและความเคารพเวลาผู้อาราธนาตั้งจิตยกมือขึ้นไหว้นั่นเอง ทั้งยังเป็นการอวยชัยให้พรทุกวาระการอธิษฐานจิตของเราอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านกดพิมพ์ในฤกษ์และขอเมตตาเสด็จพระใหญ่อธิษฐานจิตเป็นปฐมตั้งแต่กดพิมพ์ทุกองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้มีอานุภาพเป็นมหัศจรรย์ยิ่งนักนอกจากบรรเทากรรมหนักต่างๆแล้ว ยังช่วยให้ผู้บูชามีสมาธิสูงจิตรวมตัวไว ทั้งจะเกิดลาภผลมากมาย ไม่ตกต่ำ ไม่รู้ยากรู้จน มิหนำซ้ำเงินทองโภคทรัพย์สมบัติ จะเจริญวัฒนาเพิ่มพูนขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์

    องค์พระรุ่นนี้พ่ออาจารย์ท่านเห็นว่าในยุคที่เศรษฐกิจฝืดเคืองซ้ำคนยังมาโดนกรรมของตนริดรอน เรียกได้ว่ามีปัจจัยรุมเร้าทั้งภายนอกและภายในพร้อมๆกัน ท่านจึงตั้งใจจะสร้างพระรุ่นนี้ให้พิเศษที่สุดจริงๆ ดั่งคำว่าพระบรรเท่ากรรมนั้นไม่ใช่ของที่จะทำได้ง่ายเลยเพราะนอกจากจะใช้บรรเทากรรมแล้ว เวลาอาราธนาขอพรสิ่งใดจะต้องสำเร็จเสมือนมีมือมืดคอยช่วยเหลือด้วย พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำนางอัปสราทาริกาหรือทาริกาเทวี ตำหรับขอมโบราณพันปีฝังลงไปด้วย ....ของสำคัญสิ่งนี้คือนางฟ้าหรือสาวสวรรค์ผู้เป็นข้ารับใช้ส่วนตัวของเรา ทำทุกสิ่งตามที่เราบัญชา ไม่ใช่ผี ไม่ใช่พราย แต่เป็นข้าทาสบริวาร เป็นทาสในเรือนเบี้ยที่เป็นนางพญา นางฟ้า นางสวรรค์ นั่นเองพ่ออาจารย์ท่านว่าการสร้างทาริกาเทวีนั้นจะต้องทำด้วยการเล่นแร่แปรธาตุเท่านั้น ซ้ำยังต้องเสกกำกับให้มีจิตวิญญาณขึ้นมาโดยไม่มีสัญญาความจำได้หมายรู้ผูกพันธ์อยู่กับสิ่งอื่นใดนอกจากดวงจิตและความต้องการของผู้เป็นนายเท่านั้น ท่านว่าอาจจะฟังดูเหมือนง่าย แต่เอาจริงๆแล้วทำไม่ง่ายเลย เพราะเมื่อทำได้แล้วเขาจะถือเอาความคิดและความต้องการทั้งหมดของเราเป็นใหญ่แต่ผู้เดียว ดุจเด็กที่เราจะสอนเราจะใช้อะไรเขาก็ว่าง่ายทำง่าย ไม่มีมารยา ไม่มีจริต จะมีนิสัยอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับผู้เป็นนายดูแลเช่นนั้น เรียกว่าเป็นข้ารับใช้ที่มีนิสัยเหมือนผู้เป็นนายก็ไม่ผิด เป็นทาสที่ไม่ยอมทิ้งงาน ทั้งยังคอยดูแลเอาใจใส่ในทุกความปลอดภัย พ่ออาจารย์ท่านว่าทาริกาเทวีตำรับนี้เขาจะให้ความรักและถือว่าเป็นผู้ช่วยที่จะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด ท่านว่าเราพูดได้แค่นี้ จะให้เขาช่วยอะไรก็เรื่องของเธอ ไม่ต้องเลี้ยง ไม่ต้องเซ่น เป็นของทิพย์มีอำนาจดุจกายสิทธิ์เพราะเกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุ ตำรับนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะดีหน่อยเพราะคนใช้ไม่ต้องเสียเวลาเลี้ยง ท่านจึงนำมาฝังไว้เฉพาะองค์พระรุ่นพิเศษหนนี้

    ทั้งท่านยังทำตะกรุดบรรเทากรรมทั้งปวงฝังลงไปด้วย ท่านว่าตะกรุดตำรับนี้หากไม่ใช่ทำใส่พระสำคัญที่มีอานุภาพบรรเท่ากรรมได้จริงๆแล้วท่านจะไม่ทำเลย แต่หนนี้เห็นว่าตั้งใจทำแล้วและคนก็เดือดร้อนกันมากโดยแท้จริงท่านจึงมีดำริว่าจะทำให้สุดๆไปเลยเช่นกัน ท่านว่าตะกรุดนี้มีผลเฉพาะกับกรรมเพราะท่านต้องลงเคราะห์วันเคราะห์เดือนเคราห์ปีผูกเข้ากับกรรมทุกสถานเป็นพื้นคลุมไว้ด้วยวิชามหาระงับ ท่านว่าเพราะเกี่ยวกับคนเกี่ยวกับกรรมนี่เองก็แล้วไอ้คนที่เกิดๆหายใจกันอยู่ทุกวันนี้มีอะไรไม่เกี่ยวข้องกับกรรมบ้างท่านว่าให้คิดดูเอาเอง ทั้งกรรมอันจะมาริดรอนระหว่างชะตามนุษย์ทั้งหลาย ถ้าเป็นเคราะห์ก็ดี เป็นวิบากกรรมเก่าก็ดี กรรมทั้งหลายเหล่านี้จะบรรเทาลง เรียกได้ว่าจากหนักหนาจะกลายเป็นเบาอย่างมาก เอาว่าเขาจะไม่ริดรอนก่อนวาระหรือทำให้เราเจ็บเราตายก่อนอายุขัย แม้ถึงกาลถึงวาระแล้วก็จะบรรเทาจากหนักให้เป็นเบา จากเบาให้ไม่ส่งผลกระทบเลย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้ดีนะฉันบอกได้แค่ว่าถ้ากรรมแรงหนักหนาถึงเจ็บตาย ก็จะคลายบรรเทาให้เป็นป่วยไข้เล็กน้อยธรรมดาชั่วคืนชั่ววันก็หายเช่นนี้ บอกได้เท่านี้แหละอย่างอื่นให้คิดเองท่านว่าเช่นนั้น

    ด้วยเป็นพระที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาอำนาจกรรมซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าพ่ออาจารย์นั้นไม่ควรยุ่งเกี่ยวมากและก็ไม่ให้ท่านทำอีก ท่านว่าองค์พระที่ทำมาแล้วนี้มีเทพเทวดาอารักขาทุกอณูผง มีคุณอนันต์ และให้จำไว้ว่าไม่ใช่ของเล่น ***มีข้อห้ามสำหรับคนใช้อยู่อย่างหนึ่ง ท่านว่าห้ามทำตกให้คนเดินข้าม ให้คนใช้อาราธนาห้อยคอให้ดี ด้วยเป็นพระที่มีอานุภาพมากเรียกว่ามีคุณอนันต์ย่อมต้องมีโทษมหันต์เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนเช่นกัน ท่านว่าถ้าเกิดคนเดินข้ามนี่ทั้งคนใช้และคนข้ามตกนรกหัวแตกเป็นเจ็ดภาคเจ็ดเสี่ยงนะ ดังนั้นข้อห้ามอย่างเดียวก็คือเก็บดีๆ ไม่ห้อยก็เอาไว้ที่สูง เอาไว้ที่หิ้งพระ เพราะการที่จะทำพระที่ห้อยตกจนมีคนเดินข้ามได้นี่ท่านว่าต้องเป็นคนที่มีนิสัยสะเพร่ามากๆเท่านั้น ถ้าบูชาดีๆไว้ที่สูงๆติดคอตนเองชีวิตก้มีแต่เจริญรุ่งเรืองเป็นคติเดียว

    พ่ออาจารย์ท่านได้ทำพิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้นานมากเป็นพิเศษ ท่านว่าเสกให้ครอบคลุมทั้งหมดแล้ว และเสด็จพระใหญ่ท่านก็บอกเอาไว้ว่"แกเดือดร้อนอะไร แกขออะไรก็จะได้ตามที่ขอ" เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงยึดถือเอาคำครูนี้มาตั้งเป็นมงคลนามว่าพระผงสมพรปาก(แกขอฉันให้) นั่นหมายถึงคำของพระท่านว่าแกขออะไรก็จะได้ในสิ่งนั้นนั่นเอง

    คาถาบูชา(ไม่ต้องสวดก็ได้เพียงระลึกถึงพระพุทธเจ้าก็พอ พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ระลึกถึงแล้วใช้ได้เลย)
    อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสสะทัมมะสาระถิ สัตถา เทวะมนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

    * พระผงสมพรปากนี้ ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาลเฉพาะวาระ เฉพาะใช้สำหรับคนที่มีกรรมหนัก ถ้าไม่เจอกฏแห่งกรรมริดรอนเล่นงานก็อย่าเอาไป จะได้แบ่งๆกันใช้ให้ทั่วถึงกัน

    ร่วมทำบุญบูชา พระผงสมพรปาก(แกขอฉันให้)องค์ต้นธาตุต้นธรรม (บรรเทาอุปฆาตกรรมและอกาลมรณะ) บูชา 2,500 บาท

    44573215-557049181399296-7869852469780545536-n.jpg 44792212-197818197782161-734072900876763136-n.jpg
    44581836-375947279614157-2000131188454326272-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดหนุนพลังอินฟินิตี้(แก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ใช้ของไม่ขึ้น)

    *** ของเล็กๆที่ทำได้ยากยิ่ง และหาผู้ทำเสมอเหมือนมิได้ เพราะเป็นของจากข้างใน ....ในยุควัตถุนิยมที่สภาพบ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับความเจริญและพัฒนาการเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ความเชื่อความศรัทธาทางด้านเครื่องรางของขลังนั้นลดน้อยลงทั้งมีความเชื่อหรือทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนี้เปลี่ยนแปลงไป แต่ก็มีผู้คนอีกเป็นจำนวนมากที่ยังเชื่อและศรัทธาในศาสตร์ลี้ลับอยู่ทั้งยังมีผู้คนอีกจำนวนมากที่ยังหาของขลังหรือของดีไว้บูชาเพื่อหวังพึ่งทางด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ หลายคนได้บูชามาแล้วก็สำเร็จสมหวังหรือที่เรียกว่าเห็นผล หลายคนบูชาแล้วก็ไม่เกิดผลเป็นเพราะเหตุใด

    พ่ออาจารย์ท่านแยกและจำแนกเกี่ยวกับสาเหตุการบูชาของแล้วไม่พบอิทธิคุณไว้ดังนี้
    - จิตไม่เป็นสื่อนำพา ในเรื่องนี้ท่านว่าเป็นที่จิตใจของผู้ใช้เอง ถ้าเขามีจิตใจที่ด้านเกินไปจนไม่อาจสื่อเข้ากับพลังงาน ครูบาอาจารย์ หรือความศักดิ์สิทธิ์ ความลี้ลับใดๆรวมทั้งอำนาจของเครื่องรางต่างๆ ด้วยพื้นฐานที่ขัดแย้งหรือมีความรู้สึกลึกๆว่าไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้ว่านี้มีอยู่จริง ความรู้สึกต่างๆที่ต่อต้านในตนเองนี่แหละจะส่งผลให้พลังงานปิดตัวและปิดตาย ทั้งคนที่มีจิตใจชอบความท้าทาย อยากพิสูจน์ ชอบลองของแบบลบหลู่อันนี้ก็จะหนักหน่อยเพราะเขาจะใช้สิ่งใดไม่ขึ้นทั้งยังไม่ได้ผลและอาจเกิดโทษต่างๆในเวลาอันใกล้อีกเสียด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าปัจจุบันนี้หลายคนต้องการพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องการเฉพาะผลลัพธ์โดยปราศจากฐานเริ่มต้นอุปมาเหมือนอยากใช้ของอยากได้ผลแต่ตัวเองไม่ได้ศรัทธาเช่นนั้น เรียกว่าจิตใจทื่อๆเห็นเครื่องรางเหมือนสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสียบไฟปุ้ปจะติดปั้ป เช่นนี้ย่อมไม่เข้ากันดุจดังเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่เสียบไฟ ถือเอาไปก็ใช้งานไม่ได้
    - ไม่มีบุญสัมพันธ์ ข้อนี้จะเรียกว่าขาดวาสนาเชื่อมต่อซึ่งกันและกันก็ได้ ทั้งวาสนาจากอดีตและปัจจุบัน เพราะไม่เคยระลึกตรึกถึงครูบาอาจารย์ ไม่เคยนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่เคยทำบุญถวายครูบาอาจารย์และเทพเทวดาที่รักษาของเหล่านั้นเลย เรียกว่าไม่เคยสร้างวาระกรรมให้สัมพันธ์กันทั้งจากอดีตถึงปัจจุบันนั่นเอง
    - เคยปรามาสพระรัตนตรัย ข้อนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ส่งผลให้เทวดาไม่รักษา ใช้ของไม่ขึ้น ซึ่งสาเหตุนี้ไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะพระรัตนตรัยเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ายังหมายรวมไปถึงสิ่งที่มีคุณท่วมหัวเช่นบิดามารดาบังเกิดเกล้า ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และผู้มีพระคุณต่อเราทั้งหลายด้วย เคยหลบหลู่เขาไว้อย่างไร ผลของการที่ถูกละเลยเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สนใจก้มีเหตุมาจากเรื่องเช่นนี้
    - จิตมีมิจฉาทิฐิมาก คือมีความเห็นผิด มีทิฐิมานะความถือตัวตนของตนเองมาก เรียกว่าพวกหลงตัวเองก็ได้ ประเภทกูมี กูเก่ง กูสำคัญ กูดีที่สุด ตัวกูของกูคือศูนย์กลางของโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าจิตมีมิจฉาทิฏฐิมาก หลงมาก โลภมาก มีอารมณ์อันไม่ควรจะมีอยู่มากมันก็จะไประงับอำนาจของวัตถุมงคลที่สร้างจากสัมมาทิฏฐิได้เช่นกัน ประดุจว่าคลื่นของคนให้และคนรับไม่ตรงกันจึงเข้ากันไม่ได้เช่นนั้น
    - มีกรรมเป็นเครื่องขัดขวาง สาเหตุนี้นับว่าสำคัญที่สุดและหลายคนลืมนึกถึงไปในเรื่องอำนาจของกรรม ถ้ามีแรงกรรมหนักมากั้นขวางให้ใช้ของไม่ได้ผลเพราะอานุภาพของวัตถุมงคลนั้นจะเป็นเหตุนำออกจากอำนาจกรรมเดิมที่กำหนดไว้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทั่วไปกับผู้ที่บูชาเครื่องรางของขลังเพราะโดยทั่วไปเมื่อมีปัญหาเรื่องใด มักจะหาเครื่องรางของขลังที่แก้ทางด้านนั้นมาช่วยให้ดีขึ้น แต่บางทีก็ลืมไปหรือไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนที่มีกรรมและกำลังรับผลกรรมอยู่ เมื่อไปบูชาสิ่งใดมาแรงกรรมนั้นย่อมจะขัดขวางอยู่เช่นนี้ทำให้บูชาสิ่งใดก็ไม่ได้ผลเต็มที่หรือไม่เห็นผลเลยก็มี


    ด้วยหลากหลายเรื่องราวที่เป็นสิ่งปิดกั้นอำนาจพุทธคุณและครูบาอาจารย์ ทำให้ผู้ใช้ซึ่งเป็นเสมือนเครื่องรับสัญญาณสื่อไม่ถึงกับสถานีส่งอย่างต่อกันไม่ติด พ่ออาจารย์ท่านจึงมีความเห็นส่วนตัวว่า ถ้าจะทำเครื่องมงคลให้ติดอยู่ในกฏไตรลักษณ์แล้ว เราจะทำขึ้นมาเพื่ออะไร แล้วของทั้งหลายนั้นจะไปช่วยฉุดดึงใครได้ นบางคนถ้าดวงเขาเปิดเขาถือของดีไว้ดวงเขาจะวิ่งพุ่งแรงแซงทะลุวาสนาเดิมของตัวเขาด้วยซ้ำ แต่ของชิ้นเดียวกันอยู่ในมืออีกคนหนึ่งกลับไม่ส่งผลอะไร ท่านพิจารณาเช่นนี้แล้วจึงน้อมจิตถามครูพระสยมว่าจะมีสิ่งใดเป็นเครื่องนำออกจากสถานการณ์ปิดกั้นเหล่านี้ทั้งหมดทั้งมวลบ้างหรือไม่....นี่คือเหตุการณ์เริ่มต้นอันเป็นที่มีของตะกรุดแก้เงียบ

    ด้วยท่านประสงค์จะให้คนมีความหวัง เดินไปได้ตามความหวังและความฝันของตนเอง ไม่ใช่ซ้ายก็ผิด ขวาก็ไม่ดีแม้จะพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ยังต้องระวังทั้งหน้าทั้งหลังมีข้อจำกัดที่ตนเองไม่อาจจะล่วงรู้ได้มาก่อนชนิดที่เรียกว่าตั้งแต่เกิดจนต่อให้ตายไปแล้วก็ยังไม่อาจทราบเลยว่าทำไมตัวเองถึงใช้ของไม่ขึ้น ไม่ได้ดีเหมือนคนอื่นๆที่ใช้ของเหมือนกัน

    ซึ่งครูพระสยมท่านเปี่ยมด้วยมหากรุณาเป็นที่สุดต่อมนุษย์ผู้มีทุกขเวทนาอันแรงกล้า พ่ออาจารย์ท่านว่าครูท่านให้เราทำตะกรุดแก้เงียบดอกนี้โดยใส่ยันต์และวิชาเฉพาะซึ่งเป็นของบังบดหลายชนิดเพื่อให้ผลครอบคลุมทั้งหมด โดยเริ่มต้นท่านให้นำแผ่นตะกั่วที่จะใช้ลงวิชานั้น ไปหนุนรองฐานศิวลึงค์ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านปั้นขึ้นเพื่อบูชาครูพระสยมเป็นปฐม พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องมีอาถรรพ์ตั้งแต่ยังเป็นแผ่นตะกั่วกันเลยทีเดียว ครูท่านให้เราเอาตะกั่วเหล่านั้นไปรองฐานนานนับปีเพื่อให้ตะกั่วซึมซับไศวะมนตรามากมาย และถือเคล็ดที่เข้าใจได้ง่ายๆว่าแผ่นตะกั่วนั้นหนุนพ่อ(ครูพระสยม)ให้สูงขึ้นได้ฉันใด เมื่อนำมาทำตะกรุดแล้วไซร้ก็ย่อมหนุนชีวิตลูกให้สูงขึ้นได้ฉันนั้น เป็นการสร้างพันธะความสัมพันธ์กันระหว่างพ่อและลูก ซึ่งแผ่นตะกั่วชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าลำพังยังไม่ต้องทำอะไรเลยตัวมันเองก็จะมีอิทธิคุณแฝดอยู่แล้ว ตรงนี้จะดีไปในทางหนุนชีวิตเรา หนุนดวงชะตาของเรา หนุนหมดทั้งฐานะการเงิน ฐานะการงาน หนุนทรัพย์สมบัติ หนุนกิจการให้เจริญงอกงาม

    มื่อความโลภบังตา ความอยาก ความต้องการ ความปรารถนาทุกสิ่งที่มากเกินพอดี เกินขอบเขต เกินขีดจำกัดย่อมเป็นสาเหตุที่นำมาซึ่งความทรุดโทรมและความเสื่อมในใจมนุษย์ ครูพระสยมท่านจึงให้พ่ออาจารย์สร้างตะกรุดแก้เงียบ หรือที่ท่านเรียกว่าหนุนพลังอินฟินิตี้นี้ขึ้นมา เพื่อต้องการหมุนวนและขับถ่ายพลังงานอันไม่จำเป็นออกไปจากจิตใจและร่างกายของคนใช้เพื่อให้มีจิตเบิกบาน ทั้งยังแจ่มใสในส่วนเดียว พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ลงทางแก้กันไว้ครบทุกสิ่งทั้งกันเจ็บไข้ได้ป่วย แก้โรคร้ายต่างๆ แก้โรคเวรโรคกรรมทั้งกันสรรพภัยในทศทิศและท่านยังลงเวทย์ใหญ่ของครูพระสยมให้อธิษฐานใช้ได้ร้อยแปดพันประการ ท่านว่าเมื่อไม่มีโรคจิตใจย่อมแจ่มใส เมื่อไม่ประสบพบเรื่องเลวร้ายอันจะนำออกจากอำนาจคุณพระรัตนตรัยและครูบาอาจารย์ ชีวิตย่อมได้ชื่อว่าเป็นปรกติสุข

    ท่านว่าทำยากเพราะต้องแบ่งแผ่นตะกั่วเป็นหัวท้ายลงจารวิชาให้หนุนและผลักดัน ให้หมุนวนถ่ายเทพลังงานทั้งขับเข้าและถ่ายออกแบบไม่จบสิ้น พอนำมาม้วนบรรจบกันเป็นเลขแปดก็เป็นสัญลักษณ์ของพลังอินฟินิตี้ที่ไม่มีจุดสิ้นสุด ครูพระสยมท่านเน้นให้ทำเช่นนี้เพื่อให้ได้ตะกรุดอันมีอานุภาพไม่มีประมาณและสามารถใช้ได้ครอบคลุมทุกเรื่อง ทั้งแก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ร้ายในชีวิต

    แก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ สามแก้นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นสิ่งที่แก้ได้ยากเย็นที่สุดในชีวิตของคน ไม่มีอะไรจะแก้และถอดถอนได้ยากไปมากกว่านี้ เพราะมันเชื่อมโยงกับเวรกรรมและอุปนิสัยตลอดจนเกี่ยวเนื่องกับทุกสิ่งที่เป็นตัวของเราชนิดที่ว่าแยกแยะไม่ออก ดังนั้นเมื่อท่านเชิญครูและอธิษฐานจิตจนสำเร็จแล้วท่านจึงนำตะกรุดฝังดินเอาไว้ด้วยตั้งใจจะฝากไว้กับแม่พระธรณี นานๆหนถึงจะนำมาใช้ทีเวลามีผู้เดือดร้อนซึ่งแก้ไม่ตกจริงๆ ชนิดที่ว่าเป็นปัญหาโลกแตกแก้ไขไม่ได้เช่นนั้น และต้องเป็นเรื่องเป็นปมที่ท่านเห็นว่าผูกพันธ์กับกรรมยุ่งเหยิงเท่านั้นท่านจึงจะให้คนมีเคราะห์เช่นนี้บูชา

    พ่ออาจารย์ท่านไม่ให้พูดถึงตะกรุดตัวนี้มาก ท่านว่าเพราะการทำงานของมันนั้นสัมพันธ์กับร่างกายคนใช้และผูกเป็นฐานรากให้กับชีวิตของคน ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สัมผัสจับต้องอาราธนาแรงครูท่านจะหนุนทั้งหมด พลังงานจะเข้าไปปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ถ่ายเทสิ่งที่ติดขัดอันอยู่ข้างใน สิ่งที่ตาเราไม่เห็น ปัญหาที่เราไม่มีวันรู้หรือสัมผัสได้ตลอดชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้แต่เดิมมันไม่มีถ่ายทอดให้แก่กัน นี่ถ้าครูพระสยมท่านไม่สอนฉันก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นวิชาของพวกบังบดที่ผุดขึ้นและให้รู้ได้ทางจิตเฉพาะคน มันหมุนเวียนผันเปลี่ยนพลังงานการแสดงออกได้ร้อยแปดพันประการ ฉันจึงไม่รู้ว่าจะพูด จะบอก จะบรรยายให้เข้าใจกันได้อย่างไร

    ท่านว่าเอาเป็นว่าเชื่อเราไอ้ชีวิตที่เงียบ ที่มันต่ำจนไม่รู้ว่าจะต่ำไปมากกว่านี้ได้อย่างไรอีก ทั้งชีวิตที่มีปมยุ่งเหยิงจนไม่รู้จะจับเจอหรือควานหาปลายเชือกของบ่วงกรรมเส้นไหนมาแก้ไขก่อน ทั้งอาถรรพ์ลึกซึ้งที่พันผูกจิตวิญญาณเป็นเอนกอนันต์ในชาติสงสารทั้งหลายเหล่านี้ ด้วยพลังงานของแรงครูพระสยมและอาถรรพ์วิชานั้น จะได้ขับเคลื่อนถ่ายเทพลังงานต่างๆ เอาว่าเราพูดอะไรมากไม่ได้แต่พอจะบอกได้คร่าวๆว่าถ่ายเทให้วางอยู่ในจุดที่ถูกที่ถูกทางเช่นนั้นก็แล้วกัน

    ใครที่รู้ตัวว่ากระแสพลังงานผันผวน เวรกรรมไม่สัมพันธ์กับบุญที่ทำไว้ ซ้ำชีวิตยังมีความปรารถนาใหญ่โตจนมองไม่เห็นปลายทางความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้เอาตะกรุดนี้ไปใช้และไหว้คุณครูพระสยมเสีย ขอให้มีศรัทธามั่นคงอย่างแท้จริงแล้วปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นในฉับพลันทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดมากกว่านี้ไม่ได้เอาว่าแค่เขาฟังภาษาคนรู้เรื่องก็คงเข้าใจได้ว่าหมายถึงอะไรและเหมาะสมกับเขาหรือไม่


    ให้หมั่นไหว้ หมั่นบูชา หมั่นภาวนา หมั่นขอ ไปเรื่อยๆ ท่านว่ามีแค่นี้แหละ สะดวกและง่ายดายถึงปานนั้นขอไปเรื่อยๆขอจนกว่าจะได้ จนกว่าจะสำเร็จ ท่านว่าเธอเชื่อฉันมั๊ยจากคนที่ดวงซวยๆใช้ของไม่ขึ้นแล้วเขาเคยใช้ตะกรุดรุ่นนี้ เขานั่งบ่นนั่งพล่ามนั่งภาวนาขอกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอจนเขาถูกรางวัลที่หนึ่งสองใบ เช่นนี้ก็มีปรากฏมาแล้ว ฉันจึงไม่อยากจะพูดว่าดีอย่างไรแต่ให้จำไว้ว่าจงขอและอย่าหยุดขอจนกว่าจะได้ ส่วนข้อห้ามใหญ่เลยของผู้บูชาก็คือควรเลี่ยมกันน้ำไว้และนำติดร่างกายไว้ตลอดอย่าให้ห่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดนี้เปรียบเสมือนความโชคดี เหมือนแรงครูที่จะหนุนนำชะตามนุษย์ ควรจะเอาติดตัวไว้ให้ได้ตลอดเพราะเมื่อใดที่ออกห่างแล้วชีวิตก็จะหมุนวนกลับไปตามอำนาจกรรมเช่นเดิมอีกแบบนั้น

    วิชานี้เป็นวิชาของข้างใน พ่ออาจารย์ท่านย้ำอยู่หลายครั้งว่านี่ไม่ใช่ของนอก หากแต่เป็นของข้างใน ทั้งไม่มีให้สืบทอดและก็มอบให้กับสงฆ์ทำไม่ได้ ด้วยเป็นพลังงานอันหมุนวนเปลี่ยนแปลงได้ตลอด หาได้ตายตัวเพราะเขาจะพลิกแพลงตลบแตลงไปมาอยู่เสมอ ดุจว่าพลังงานที่แสดงออกในแต่ละครั้งจะไม่เหมือนกัน ดุจว่าเขาเป็นตะกรุดที่มีภูติพระเจ้า เป็นตะกรุดที่มีชีวิต เมื่ออยู่กับตัวเราเขาจะรู้เองว่าอะไรที่เป็นจุดพอดี เป็นพลังงานที่เหมาะสมกับตัวกับร่างกายของเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าพวกที่มีตาในทั้งหลาย ตลอดจนคนที่รู้ค่าของคำว่าวิชาจากข้างใน เขาจะรู้และวิ่งหากันให้แทบพลิกแผ่นดิน เพราะวิชาเช่นนี้ยากนักที่จะมีปรากฏในโลก และยากนักที่จะมีคนทำให้แก่ผู้อื่น

    คาถาบูชา
    โยโทโส โมหะจิตเตนะ อาจาริยัสมิง ปะกะโตมะยา ขะมะขะเมกะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินาสสันติ อะตีตังโทสัง ปัจจุบันทังโทสัง อนาคตังโทสังกายกิริยากัมมัง วะจีกัมมัง ผัสสะวัตถุ วัตถาโทสัง อนุเสสะโทสัง ภันเต ขะมามิ (และว่าทุติยัมปิ...ตะติยัมปิ...ต่อด้วยคาถาข้างต้น)
    ข้าแต่พระรัตนตรัยและพ่อแม่ครูอาจารย์ หากมีสิ่งใดที่ตัวข้าพเจ้าประมาทพลาดพลั้ง เคยล่วงเกินครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แลท่านผู้สูงส่งทั้งหลาย จะโดยตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ที่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี กรรมใดที่ส่งผลให้ใช้วัตถุมงคลแทนครูต่างๆได้ไม่ดีไม่เกิดผล ขอท่านทั้งหลายผู้ทรงพรหมวิหารมีจิตใจเอื้อเฟื้ออย่าได้ถือโทษและจงอดโทษแก่ข้าพเจ้า ขอให้แรงครูนั้นผลักดันและหนุนส่งผลให้กับตัวข้าพเจ้านับแต่กาลบัดนี้เป็นต้นไป


    *** ตะกรุดตัวนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะวาสนาและบารมีของแต่ละคน รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น มีเปลือให้บูชาทั้งหมด 5 ดอก รายได้ร่วมสมทบทุนมหากุศลสร้างพระใหญ่ประดิษฐานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดหนุนพลังอินฟินิตี้(แก้เงียบ แก้ปม แก้อาถรรพ์ใช้ของไม่ขึ้น) บูชา 4,000 บาท

    44873762-312787802870971-5349590060196954112-n.jpg
    44901101-511641939352693-5884929829240832000-n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2023
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,107
    ค่าพลัง:
    +16,625
    ร่วมทำบุญบูชา เทพศาสตราวิญญาณมหากาลสุทรรศนจักรราชัน(วิถีหมื่นพันผันแปร)

    ตามคติความเชื่อในเรื่องเทพศาสตรานั้น จักรรัตนะนับว่าเป็นอาวุธวิเศษซึ่งมีอานุภาพมากและก็มีหลายชนิด ทั้งจักรของพระเป็นเจ้า จักรของเทพเจ้า จักรของพระโพธิสัตว์และจักรของพระจักรพรรดิ์ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าจักรแต่ละตัวก็มักจะมีชื่อเรียกต่างๆเป็นชื่อเฉพาะของเค้าไปดุจชื่อที่เราเรียกคน เช่นนายเอ นายบี ทั้งนี้ก็เพราะเค้ามีชีวิต แต่หากจะกล่าวถึงจักรที่เป็นเจ้าแห่งจักรทั้งปวงแล้วก็ต้องยกให้จักรพระนารายณ์นั่นเอง

    พ่ออาจารย์ท่านว่านามของจักรนารายณ์นั้นถูกยกอ้างอิงขึ้นมาพูดหลายครั้ง และคนทำก็หาได้เข้าใจถึงแก่นแท้ของเขาไม่ จึงทำได้เพียงชื่อไม่อาจสมบูรณ์พร้อมทั้งรูป นาม และพลังเทพวิญญาณ ตามลัทธิพราหมณ์ถือว่ากงจักรของพระนารายณ์นี้ปราบได้ทั้งโลก แม้สวรรค์ อสูรพิภพและใต้บาดาล มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับเป็นอาวุธวิเศษที่ใช้ทำลายจักรวาลได้อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งพระนารายณ์จะทรงอาวุธนี้เสมอ เมื่อกล่าวถึงจักรพระนารายณ์แล้วพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำสุทรรศนจักรที่ท่านทำพิธีหล่อเก็บไว้เมื่อสามปีก่อนออกมา ท่านว่าหากจะทำจักรพระนารายณ์ก็ต้องทำให้ได้อย่างนี้

    ***สิ่งที่น้อยคนนักยากจะรู้
    สุทรรศนจักรนั้นเป็นตัวแทนของมหาจักรวาลที่หมุนวนแสดงถึงห้วงสังสารวัฏ อันเป็นสถานที่ตั้งอยู่ให้สิ่งมีชีวิตทั้งหลายได้พึ่งพาอาศัย เปรียบได้กับวงโคจรของมหาจักรวาลนั้นเอง ทั้งการปรากฏของสุทรรศนจักรยังได้ชื่อว่าเป็นตัวแทนสิ่งดีงาม เป็นรูปลักษณะของกาลอันเป็นมงคลทั้งปวง ซึ่งในอำนาจของเทพอาวุธนั้นนับว่ามีพลังทำลายล้างร้ายแรงยิ่ง ด้วยสามารถใช้ประหารศัตรูอันเป็นสิ่งมีชีวิตไม่จำกัดเผ่าพันธุ์ได้ทุกชนิด ทั้งยังเลือกจำกัดอำนาจพลังทำลายเฉพาะคนหรือจะทำลายให้เป็นภัยพิบัติในวงกว้างก็ได้ ทั้งนี้สุทรรศนจักรยังใช้เปลี่ยนวิถีวงโคจรของดวงดาวที่แม้แต่อำนาจของเทพเจ้ายังทำไม่ได้ ทั้งยังบันดาลสุริยคราสและกดขี่ดาวบาปเคราะห์ได้ทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะเปลี่ยนวิถีดวงดาวจึงเท่ากับเปลี่ยนกฏวัฏจักร ทำลายกฏแห่งกรรมที่ดำเนินอยู่ตลอดได้ทั้งสิ้น ทั้งยังใช้พลิกแพลงปรับเปลี่ยนวิถีดวงดาว วิถีชีวิตและชะตาลิขิตให้พลิกกลับผันแปรได้นับหมื่นนับพันหนทาง "แม้จะตัดมงจรของกรรมกลางวิถีก็ยังทำได้" เช่นนั้นอำนาจของสุทรรศนจักรจึงเป็นจักรที่ทำได้มากกว่าการทำลายล้าง ซ้ำเขายังมีชีวิตของเขา มีฐานะเป็นเทพวิญญาณองค์หนึ่ง และเป็นดุจเจ้าชีวิตในบรรดาจักรรัตนะทั้งหมดด้วยเขาดำรงค์อยู่ในสถานะจักรเทวะราชัน คือผู้ปกครองและเจ้าแห่งเทพวิญญาณในจักรรัตนะทั้งปวง

    ในโลกทิพย์นั้นเมื่อกล่าวถึงจักรราชันย่อมหมายถึงสุทรรศจักรแห่งพระนารายณ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะทำจักรแล้วก็ต้องทำให้มีอานุภาพแบบสุทรรศนจักร ด้วยเขาเป็นเทพวิญญาณ ดังนั้นเราก็จะเชิญให้เขาลงมาทำหน้าที่ เมื่อสำเร็จเป็นเครื่องรางแล้วเทวานุภาพแห่งจักรนารายณ์นั้น จะดีเด่นด้านคุ้มภัยทั้งปราบศัตรู และยังใช้ส่งเสริมการงานให้สำเร็จ ด้วยอำนาจเฉพาะทางเขาจะปราบทุกข์เข็ญทั้งอุปสรรคทั้งปวงให้สลายหายสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ว่าจะพิชิตหมู่มาร มีชัยเหนือศัตรูทำลายทะลุทะลวงคุณไสยมนต์ดำอวิชชาต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงเรื่องเล็กๆ นอกจากใช้เสริมอำนาจบารมีและทำให้วงจรชีวิตและการงานไหลลื่นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าเขายังทำอะไรได้มากกว่านั้นไม่เสียชื่อจักเทวะราชันแน่นอน

    สุทรรศนจักรนั้นเป็นของทิพย์ แม้สำหรับทวยเทพเองก็ยังได้ชื่อว่าเป็นสิ่งเร้นลับไม่อาจเข้าใจอำนาจของเขาได้ทั้งหมด คุณสมบัติของผู้ที่ถือครองสุทรรศนจักรนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยทั่วไปเมื่อบังเกิดจักรรัตนะขึ้นในโลก จักรจะสามารถมอบให้ซึ่งความเป็นใหญ่ในทวีปใหญ่ทั้งสี่มีทวีปน้อยสองพันเป็นบริวารแก่ผู้ครอบครอง แต่กับผู้ถือครองสุทรรศจักรนั้นเค้าจะมอบความเป็นใหญ่ในมหาจักรวาลทุกมิติให้กับผู้ครอบครองไว้เช่นนั้น ทั้งนี้ด้วยวาสนาคนมิได้เสมอกันดุจยอดเขาและลำธาร จะเห็นว่าผู้ได้จักรรัตนะต้องมีวาสนามหาจักรพรรดิ์ราชพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจจะใช้อำนาจแห่งสุทรรศนจักรยกวาสนาของคนบูชา ให้บุคคลเหล่านั้นอยู่ในเงาของมหาจักรเทวะราชัน มีวาสนาที่รุ่งเรืองขึ้นดุจวาสนาจักรพรรดิ์หรือโพธิสัตว์ที่มาทำงานในยุคปัจจุบัน


    ทั้งนี้อำนาจอันเป็นเอกเทศน์ของจักรเทวะราชันนั้นยังใช้ชี้และแก้ไขสิ่งต่างๆได้ เช่นการปรับภพปรับภูมิของตนเองให้ดีขึ้น แก้ไขประหารสิ่งชั่วร้ายในเบื้องหลังวัฏจักรกรรมทั้งอดีตกาล ปัจจุบัน และอนาคต ด้วยจักรนี้ถือว่าเป็นยอดแห่งจักรมหาจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากได้อะไรก็บอกพี่จักรเขา อยากจะปราบอะไรก็บอกพี่จักรเขา

    เช่นไปทำงานเรามีเพื่อนร่วมรุ่น เพื่อนร่วมงานหรือใครๆก็ดีที่วันๆหนึ่งเราต้องประสบพบเจอ พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ยกพี่จักรนี่แหละบอกกล่าวเขาไปเลยว่าใครทำอะไรไม่ดีกับเราทั้งต่อหน้าและลับหลังให้พี่จักรจัดการได้เลย ถ้าเขาคิดร้ายและทำเรื่องเลวร้ายกับเราจริงพ่ออาจารย์ท่านว่าจักรนี้จะตัดวาสนาของเขาทันทีคิดง่ายๆดุจเราปาจักรไปตัดหัวเขานั่นแหละ แต่นี้หัวเขาไม่ได้หาย ชีวิตเขาก็ยังอยู่ แต่เมื่อตัดวาสนาแรงกฏแห่งกรรมที่เขาทำไว้อันควรจะเป็นก็จะถาโถมเข้ามา พ่ออาจารย์ท่านว่าจักรตัวนี้ให้ใช้กันให้ดี เพราะหากผู้ใดใช้เป็นสามารถทำลายได้แม้กระทั่งแรงตบะอันสะสมมาทุกชาติภพ ท่านว่าเราพูดมากกว่านี้ไม่ได้ แต่อย่าเอาไปอธิษฐานความคิดพิกลพิการกันเท่านั้นก็พอ

    แม้คนแสวงหาทรัพย์ หาลู่ทางการเงิน อยากได้ทรัพย์พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บอกพี่จักรเขาได้เลย เพราะนี่คือสุทรรศนจักรของพระเป็นเจ้าเป็นจักรเทวะราชัน เป็นจักรเทพวิญญาณซึ่งมีบารมีมากที่สุดแล้ว จะปราบปรามตัดอุปสรรคลดทอนแรงกรรมหรือแก้อาถรรพ์ใด จะเปลี่ยนแปลงกฏเปลี่ยนแปลงมหาวิถีทั้งหมื่นพันพ่ออาจารย์ท่านว่าแค่จักรหมุนก็ไม่เหลือแล้วให้อธิษฐานกันให้ดีบอกพี่เขา ใช้ได้ทั้งทางโลกและทางธรรม คนที่ชอบทางสมาธิปัญญาก็จะเกิดง่ายขึ้น ความรู้และวิชชาต่างๆก็จะเข้าถึงง่ายขึ้น ด้วยพลังที่หนุนได้ทั้งมหาจักรวาลไปพร้อมๆกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องของมนุษย์คนเดียวนั้นจึงเป็นเรื่องเล็กอย่างถึงที่สุด

    จักรนี้พ่ออาจารย์ท่านหล่อและเสกมาหลายปี ท่านพูดยิ้มๆเหมือนปัดออกไปว่ากว่าจะสำเร็จได้เรียกกันว่าเสกจนลืมตายทีเดียว ลืมไปเสียแล้วว่าทำอะไรไปบ้างเพราะมันยากเหลือเกิน ยากจนไม่อยากจะจำ ด้วยความเป็นเทพวิญญาณและฐานะจักรเทวะราชัน ไม่ใช่นึกจะทำนึกจะเอาชื่อเขามาใช้ก็ทำได้ มหาจักรนี้พ่ออาจารย์ท่านให้พกติดตัวท่านว่าป้องกันภัยทุกอย่าง ปรับธาตุกันแก้ ล้างคุณไสยเสนียดจัญไร อาถรรพณ์วิชาชั้นต่ำ แถมยังขอบารมีท่านให้ตามไปปราบคนสั่ง คนกระทำใส่เราได้ด้วย จะดูดทรัพย์ ดูดคน ดูดโชคลาภ ดูดสิ่งมงคลในสากลโลกท่านว่าแลล้วแต่จะอธิษฐานเลย จะนำมาแช่ทำน้ำมนต์ก็มีฤทธิ์สารพัดตามอธิษฐาน ป่วยไข้ให้นำจักรมาวางตรงจุดที่มีอาการโรคนั้นก็จะบรรเทา นั่งสมาธิทำกรรมฐานวางบนฝ่ามือจะรวมจิตได้เร็ว ใครชอบสายวิชาพลังจักรวาล จักนี้ก็จะดูดพลังงานเข้าร่างคนใช้ได้เร็ว ทั้งยังตรึงรูปพลังงานนั้นไว้ให้อยู่ในร่างกายเราให้เราสามารถใช้ประโยชน์ได้นานตามบุญวาสนา ทั้งคุ้มครองป้องกันภัย ปราบศัตรู แก้คุณไสยมนต์ดำอวิชาต่างๆ เพิ่มพูนอำนาจวาสนาบารมี หนุนเสริมหน้าที่การงานให้สำเร็จ อานุภาพใหญ่ๆเลยที่จักรจะหนุนเรา พ่ออาจารย์ท่านว่ามีดังนี้
    1. ตัวกูผู้ชนะ
    2. มหาอำนาจราชศักดิ์
    3. เมตตาชนนิยม
    4. ป้องกันโรคภัย
    5. ความมั่นคงและมั่งคั่ง
    6. ป้องกันภัยพิบัติ
    7. ปรับภพหนุนนภูมิ
    8. เปลี่ยนลิขิตดวงดาวหลีกเลี่ยงบาปเคราะห์
    9. บารมี โชคลาภ ความก้าวหน้า


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของที่ใช้ได้ทุกภาค ไม่ว่าจะเล่นทางปราบหรือทางโปรดแล้วแต่ใจแล้วแต่สถานการณ์ทีเดียว ขอให้ยึดมั่นในคุณพระนารายณ์จักรนี้จะใช้ได้ร้อยแปดพันประการดุจพระนารายณ์ท่านใช้งานทีเดียว เพียงเราใช้อาราธนาพกไว้เฉยๆ จักรนั้นก็จะครอบตัวเราหมุนติ้วๆอยู่ตลอดเวลาเช่นนั้น ตามที่ฉันบอกว่าอยู่ในเงาของสุทรรศจักรแม้ดาวบาปเคราะห์ก็กล้ำกรายไม่ได้ด้วยเป็นมหาศัตรูกัน แม้เราเจอภัยอะไร ทั้งที่รู้ตัวก็ดี ไม่รู้ตัวก็ดี จักเขารจะออกหน้ารับแทนอย่าได้กังวล นั่นก็เพราะว่าเขาเป็นเทพวิญญาณซึ่งมีชีวิต อะไรเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมเขาตัดสินใจได้เอง อะไรที่มันไม่ดี เห็นอะไรผิดสังเกตแค่นี้เขาก็พุ่งออกไปแล้ว จะใช้ทางอบรม กำจัด ปราบปรามนี่เขาทำให้อัตโนมัติหมดเลย แค่คิดก็แล่นไปเลย ยิ่งถ้าใจเราเกิดความระแวงใครขึ้นมาแล้วเขาเหล่านั้นผิดจริงๆก็จะเป็นไปตามกฏแห่งกรรมได้รวดเร็วเพราะอำนาจเร่งเร้าของจักรสำคัญนี้

    ด้วยจักรสำคัญนี้จะมีพลังพิเศษเพราะเขาสามารถหนุนชีวิตเราให้ลอยขึ้นสูงดุจดาวค้างฟ้าได้ พ่ออาจารย์ท่านว่า******อย่าลืมเชียวว่านอกจากจะเป็นอาวุธแล้วจักรรัตนะยังเป็นพาหนะในพระจักรพรรดิ์ด้วย ดังนั้นจึงสามารถแบก ยก และหนุนชะตาชีวิตขึ้นไปได้ ทั้งการทำงานที่จะหมุนตัวเข้าหรือคลายตัวออก หากหมุนเข้าก็คือเร่งรัดกฏวัฏจักรหากคลายออกก็จะคลายกฏชาติสงสาร เวลาจะใช้ก็ให้เรากำหนดจิตบอกกับพี่จักรเขาว่าจะเร่งหรือคลาย จะขออะไรก็ตามก็บอกเขาไป ทั้งนี้ยังใช้เล่นทางดูดพลังงานได้อีกด้วย จะใช้ดูดพลังงานอะไร ถ่ายพลังงานใส่สิ่งไหนก็ให้อธิษฐานเอา พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ง่ายๆเช่นเราไปงานเสกพระ เราก็กำหนดจิตบอกพี่จักรไปว่าให้เขาช่วยกักเก็บพลังงานในพิธีนี้ให้หน่อย พอจะถ่ายลงอะไรให้ประสิทธิ์กับวัตถุมงคลชิ้นไหนก็ให้เอาพี่จักรไปวางทับไว้และบอกให้พี่เขาถ่ายพลังงาน พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่ช้างกะดิกหูงูแลบลิ้นชั่วพริบตาก็เป็นอันสำเร็จ เรียกว่าเราสามารถดัดแปลงใช้งานเขาได้อีกมากสุดแล้วแต่ความต้องการ ความปรารถนาของเรานั่นทีเดียว แต่จำไว้ข้อปฏิบัติใหญ่สำหรับคนใช้ คือต้องใช้ด้วยความเคารพและให้เกียรติเขา เรียกเขาว่าพี่ทุกคำได้ยิ่งดี

    ***สุทรรศนจักรสำคัญนี้พ่ออาจารย์ท่านนำมาเจาะติดพลอย(คละสี)หรือที่ท่านเรียกว่าแก้วจักรพรรดิ์ทุกชิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าแก้วนี้เสกลงไว้ครบมีอำนาจดุจมณีรัตนะ ท่านติดไว้ให้หนุนส่งเสริมพลังงานซึ่งกันและกัน ท่านว่าต่อไปทุกความปรารถนาของเรา จะได้สำเร็จด้วยอานุภาพแห่งมณีรัตนะ ซ้ำจักรรัตนะก็จะช่วยหนุนตัวเราในทุกที่ ทุกเวลา

    คาถาบูชา
    หริโอม ตัสสะ สุเมรุนารายัสสะ ศรีนาราเยน สุทัศนะจักราวุธธัง


    * เทพอาวุธอันมีจิตวิญญาณซึ่งเป็นราชันแห่งอาวุธนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาเป็นของเฉพาะบุคคลเรียกว่ามีคู่บารมี มีคู่บำเพ็ญเพียรอยู่แล้ว แม้ใครสั่งสมบารมีมาทางสายโพธิสัตว์ สายมหาจักรพรรดิ์ เขาเห็น เขาจะรู้ ว่านี่คือเครื่องบริโภคของเขา คือคู่บารมี คู่บำเพ็ญเพียรอันจะตามติดตัวเขาไปทุกภพ และเขาก็จะมานำของคู่บารมีของเขาไปใช้เอง พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าคนที่มีปัญหาเยอะหรือชีวิตอยู่ในที่ต่ำตั้งแต่เบื้องต้นให้ถือได้เต็มที่คนละสองเล่ม ให้กำหนดเป้าหมายแบ่งแยกหน้าที่บอกพี่จักรเขาให้ชัดเจนหนึ่งนั้นไว้เพื่อนหนุนชูชีวิตตน อีกหนึ่งนั้นเอาไว้เพื่อทำลายสิ่งขัดขวางทั้งปวง

    ร่วมทำบุญบูชา เทพศาสตราวิญญาณมหากาลสุทรรศนจักรราชัน(วิถีหมื่นพันผันแปร) บูชา 2,500 บาท

    45043822-1892646610817602-4970462512316153856-n.jpg
    45204283-730508240632221-6707808802529345536-n.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...