ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จิตสิงห์ดำดิ่งไป ภาพขรัวอินทร์ ลอยขึ้นเหมือนควันในภวังค์ จิตให้กระตุกดีใจจนแทบหลุดจากสมาธิ แล้วก็เลือนหายไปดั่งควัน กลายเป็นภาพเจ้าหอหน้ามาทดแทน พลันเจ้าหอหน้าก็มีเงาของสัตว์ปีกขนาดใหญ่มาอยู่เบื้องหลัง ค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น จนแทบจะบดบังแผ่นฟ้าในสมาธิ
    สิงห์ใช้จิตตามติดไป แต่ภาพเจ้าพี่กับเงาอันมีปีกใหญ่ที่ซ้อนทับ กลับห่างไประยะเท่าเดิม สิงห์รวบรวมจิตอีกครา เจ้าพี่ กับเงาปีกใหญ่นั้น รวมกัน สลายเป็นสิ่งเดียวกัน แล้วดั่งเมฆหมอกสลายไป เงานั้นเปล่งแสงสีขาวประกายทอง สิงห์ประจักษ์แก่สายตา และได้สบสายพระเนตร ของพญาครุฑอันงดงาม
     
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ให้ตกใจนัก พยายามเพ่งจิตให้ออกจากภาพพญาครุฑนั้น สิงห์เคยเห็นพญาครุฑก็ตามจิตรกรรมฝาผนัง แลเครื่องปั้นทองเหลืองในวัดแลวัง แต่มิเคยซักครา สิงห์จักได้คิดว่า จักได้สัมผัสด้วยจิตว่ามีจริง กระแสของสายพระเนตรที่พญาครุฑมองมา ช่างแน่วแน่ พุ่งตรง ทรงพลัง
    พลังจิตที่พุ่งตรงมา ไหลแรงเร็ว เป็นสีขาวเข้มนัก ดั่งสายน้ำตก แล้วดวงตาของพญาครุฑ ก็หดเล็กลงเปลี่ยนรูปไป กลายเป็นเจ้าหอหน้าอีกครา
     
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ถอนจิตออกจากสมาธิ ลืมตาขึ้น แลได้สบตากับเจ้าหอหน้า สิงห์ให้อุทานในใจ
    "มิใช่นิมิตลวง สายตาเดียวกัน พลังจิตเดียวกันเยี่ยงนี้ คงจักแสร้งทำมิได้"

    เจ้าหอหน้าดั่งรู้ใจสิงห์
    ทรงตรัสเบาๆ " น้องคงรู้แล้ว ว่าเหตุใด พี่จึงอยู่เหนือมนต์คาถา อาคมคุณไสย
    มิว่าจักอาคมใด จักล้างอาถรรพ์ด้วยฤทธาพญาครุฑ แต่มิใช่ผู้ใดจักมีฤทธิ์ หากมีเคยมีอดีตามาแต่หนหลัง สิ่งใดที่เจ้าเห็นในนิมิต จงอยู่กับเจ้าผู้เดียว เจ้าจงเป็นดั่งเงา ที่รู้เห็นทุกสิ่ง แต่ไม่มีสรรพเสียง กะไรเสียกายเนื้อของพี่ ก็จักทำคุณแก่แผ่นดิน แลในแผ่นดินนี้ มีเพียงเจ้าผู้เดียวที่มีวาสนาได้ชมบุญญาของพี่"
     
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    *** ย้ำรอบที่..... ว่ามาจากจิตของเจ้าของกระทู้ ถ้าไม่ชอบ ก็อ่านข้ามไป 5555
     
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    "เพลานี้ จิตเจ้ายังไม่ตั้งมั่น คาถาอาคม ก็คลายฤทธิ์ลงมาก จงหมั่นสมาธิให้จิตแกล้วกล้า ดั่งดาบที่พร้อมชักออกจากฝักมิให้ฝืดเฝอ หาไม่ศึกนี้ เจ้าจักทำให้พี่วุ่นวายใจ แลห่วงหน้าพะวงหลัง นับจากราตรีนี้ เจ้าจงให้คำมั่นกับข้าว่า จักรวมจิตไม่สอดส่าย จงทิ้งทุกอย่างให้สิ้น แล้วค้นหาฐานรากแห่งจิตให้พบ มีหลากคาถาอาคมที่พี่อยากจักประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แก่เจ้า แต่เพลานี้จิตเจ้ามิอาจประทับคาถาลง "
    สิงห์ให้งงงวยนัก ใยเจ้าพี่พูดดั่งสิงห์เป็นทารก ที่มิประสา แต่ก็มิกล้าขัด ได้แต่พยักหน้าน้อยๆ รับพระราชดำรัส นิ่ง ทำตาม ดั่งเงา
     
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ได้ยินเสียงไฟประทุจากกองฟืน ใบหน้าของเจ้าหอหน้า แลดวงตาช่างดุดุัน แลตั้งมั่นนัก แล้วพระองค์ก็ทรงลุกไปที่ผ้าที่ปูถวายไว้ ข้างผ้าที่ทรงใช้แทนที่ประทับนอน มีผ้าฝ้ายหนาอีกฝืน
    สิงห์รู้หน้าที่ เมื่อทรงลงประทับนอน สิงห์ก็เอนกายนอนข้างๆ แล้วเจ้าหอหน้าก็เข้าสมาธิหลับไป

    คำถามมากมายล้นเอ่อในใจสิงห์ ทั้งเรื่องพญาครุฑ ทั้งเรื่องคาถาอาคมที่เจ้าหอหน้าจักสอน เรื่องประทับคาถาในจิต แต่ก็มิกล้าถาม ด้วยเริ่มรู้พระทัยว่า เจ้าหอหน้ามิชอบให้ซักถาม หากทรงโปรด ก็จักประทานเล่าเอง จึงได้แต่รอเพลาอันเหมาะสม ในใจเพิ่งคิดถึงเจ้าพี่องค์เล็ก อยากให้พระองค์มาอยู่เสียที่แห่งนี้ แล้วยังพี่เข้ม พี่ทอง พี่แก้ว ป่านนี้จักเป็นเช่นใด หรือกลับสองแควไปตอนไหน ก็มิอาจรู้ แล้วสิงห์ก็หลับไหลไป ด้วยภาพอันตรึงตราตรึงใจ ของพญาครุฑ
     
  7. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จริงๆว่าจะตัดหรือข้ามตอนนี้ไป เกี่ยวเนื่องกับพญาครุฑ แต่คงจักต้องเล่าตามพระบัญชา ในกาลต่อมาชุดเกราะของพระนเรศ ก็มีพญาครุฑอยู่ทุกชุด แต่จักมีใครรู้ที่มา มิใช่เพียงสัญลักษณ์ แต่เป็นชาติกำเนิด เป็นที่มา หากอยากรู้ว่านิสัยของครุฑเป็นเช่นใด จงศึกษาพระอุปนิสัย พระนเรศจักเข้าใจถ่องแท้ ปกป้อง รักษา ศักดิ์ศรี เยี่ยงชายชาตินักรบที่แท้ แม้นหากต้องตายจักมิยอมตายอย่างคนไร้เกียรติไร้วงค์
     
  8. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    แวะมาทัก เดี๋ยวจะกลับไปอ่านต่อ ต้องทิ้งไว้นานๆ จบแล้วคนอ่านค้าง 555
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เมื่อคืนฝันพิศดารมากค่ะ ฝันว่าเจอพระภิกษุชรารูปหนึ่ง ผอมสูง โหนกแก้มสูง ที่พิศดารคือท่านนั่งสมาธิมาบนเต่าสีทอง เต่าตัวนั้น ตัวใหญ่มาก หัวแหลมยืดยาวออกมา เหาะมาบนอากาศ ในฝันป้าก็พิศดารตามไป คือเหาะหรือลอยตามท่านไป แต่ท่านไปไวมาก จนป้าต้องร้องเรียก ท่านพาไปท่องสวรรค์ ลงนรก ลงบาดาล โผล่หิมพานต์พิศดารพันลึก เหาะตามจนลิ้นห้อย ท่านก็ลอยสูงหนีไปอีก จนเกือบจะตื่น รู้สึกว่าจิตเหนื่อยล้ามาก เลยบอกท่านว่า ไปไม่ไหว้แล้ว ขอพักก่อน แต่เป็นเต่าที่หันมาตอบแทน ด้วยน้ำเสียงใหญ่เยาะเย้ยว่า "ฝีมือตกไปเยอะ 555" แล้วพระรูปนั้นก็ว่า "ศิษย์โง่ไม่รู้จักหาครูบาอาจารย์" เสียงท่านแหบแต่ใหญ่มาก เสียงเป็นเอกลักษณ์ แล้วท่านก็หัวเราะ หัวเราะจนลงลูกคอ ป้าก็สะดุ้งตื่น หยิบโทรศัพท์มา หาพระขี่เต่า แล้วก็ช็อคไปหน้าจอโทรศัพท์ เจอรูปท่าน เป็ะเลย หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง จ.นครปฐม วันอาทิตย์นี้ คงต้องไปกราบแทบเท้า ทั้งเต่าและอาจารย์
    ป.ล. รอบๆ ตัวท่าน ในนิมิต มีอักขระยันต์สีทองเต็มไปหมด จิตท่านไวมาก เหมือนท่านเป็น F1 ส่วนจิตป้าในนิมิต เป็นกะบะ เครื่อง 3 พัน ควบยังไง ก็เห็นแต่หางเต่าลิบๆ


    1.jpg U11667846364134177400168521.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2018
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    จริงๆก่อนฝัน คือคุยกับพี่ท่านนึงที่เคารพว่า อยากฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง พี่เค้าก็ว่าควรหาอาจารย์ที่ดี ในใจเราก็ว่า ยังไม่เจอที่ถูกใจ ในฝันท่านเลยพาไปแบบพิศดาร ประมาณว่า แค่นี้พอมั้ยจะได้เป็นศิษย์อาจารย์กัน แต่คุ้น รู้สึกคุ้นกับน้ำเสียง สำเนียงของเต่าตนนั้นมาก แต่นึกไม่ออกว่าใคร รู้สึกเหมือนเป็นเพื่อนกับเต่า 555

    อธิบายเรื่องฝันอีกอย่าง ปกติคนชอบฝันแบบป้า จะแยกออกแล้วนะว่า ฝันเพ้อ หรือฝันจริง เมื่อคืนเวลาในโลกมนุษย์ แค่ไม่กี่ ชม ที่นอน แต่ที่ตามท่านไป เวลาในภพนั้น นานมาก ไปเที่ยวสวรรค์ นรก หิมพานต์ แดนพญานาค แดนพญาครุฑ และที่สุดของที่สุด คือ ความเร็วของจิตในการไปแต่ละที่ ท่านไม่มีพลังตกเลย แต่ป้าซิ แรกๆ ก็ตามติด หลังๆ ห่างไปเป็นโยชน์ สมที่พี่เต่าว่า 555 ฝีมือตกไปเยอะ กำลังจิตอ่อนแอ ต้องสู้ ต้องฝึก ฝันนี้จริงจังเหนือจินตนาการ จนต้องรีบเปิดหา ว่าท่านเป็นใครกันแน่ จนเจอของจริง หน้าเป็ะ บุคลิก ท่านั่งเป๊ะ เต่าเป๊ะ แต่ ทำไมไม่บอกชื่อมาเลยหนอ 555 ขอถวายตัวเป็นศิษย์เลย
     
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เพลาเช้า สิงห์ก็รู้สึกตัวตื่น แต่ก็มิทันเจ้าพี่ สิงห์รีบจัดการธุระตน แล้วรีบมานั่งข้างที่ประทับ ทหารองครักษ์ที่มาด้วย เตรียมม้า หุงหาอาหาร กลบร่องรอย จนหมดสิ้น สิงห์รีบเปิบอาหารตามเจ้าพี่
    ด้วยเกรงพระทัย ตั้งแต่ที่สิงห์ตื่น ทรงมิได้ตรัสการใดกับสิงห์แลทหารเลย ดั่งทรงหมกหมุ่นอยู่ในพระดำริส่วนพระองค์ เป็นพระอุปนิสัยที่ชินตาของเหล่าทหาร ทรงขมวดพระขนงค์น้อยๆ ดั่งตรึกตรอง กองทหารยังไม่เคลื่อนพล รอสัญญานจากเจ้าหอหน้า
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์กำลังจะเอ่ยถาม เจ้าหอหน้าก็ลุกไปทรงม้า เป็นเช่นนี้อีก สามราตรี ขบวนม้า ควบโดยไม่แวะพักที่แขวงเมืองใด พักตามชายทุ่ง ออกเดินทัพเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น หยุดพักเมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ไม่เดินทางเพลาจันทราส่องแสง ไม่มีการสนทนา เป็นทัพที่ดูเข้มงวดนัก สิงห์ก็ทำตนดั่งเงา มิว่าเจ้าหอหน้าจะทำการใด ก็ทำตาม มิเว้น แม้จะอึดอัดใจนัก ด้วยเจ้าพี่มิตรัสวาจาใดกับตนเลย แลมิได้สั่งการทหารคนใด แต่การเดินทัพ ก็เป็นไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคืนสิงห์จะรอให้เจ้าพี่เข้าบรรทม หรือเข้าสมาธิ สิงห์จึงจักกล้าหลับตา แลรีบตื่นก่อนเจ้าพี่ สิงห์ทำได้ดี จนทัพเดินทางมาถึงชายเขตเมืองสองแคว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2019
  13. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ทัพม้าที่ควบเต็มฝีเท้า ชะลอฝีเท้าลง เมื่อเห็นทัพม้าที่มารอเบื้องหน้า ทัพหลวงจากวังสองแคว มีทหารมารอรับเกือบ70 นาย แลที่เด่นเป็นสง่า ก็พระอุปราช เจ้าพี่องค์รอง ที่ฉลองพระองค์เต็มยศ รีบควบม้ามา แต่เจ้าหอหน้าดูไม่สนใจ แลหยุดพักเพียงมินาน ก็ควบม้าฝ่ากองทหารที่มารอรับ ที่รีบแหวกทัพให้เจ้าหอหน้าแลทัพที่ติดตาม แล้วทัพทั้งสองก็รวมพล แล้วเคลื่อนตัวเข้าสู่เขตวังจันทร์ สิงห์ชำเลืองมอง เห็นทหารม้าเร็ว ควบเฉียงขึ้นไปทางขวา ถือธงพญาครุฑ สัญลักษณ์ประจำพระองค์ ทหารทุกคนใส่ชุดสีเข้ม ดูองอาจนัก เจ้าหอหน้าควบม้าเข้าวังหลวง เหล่าทหารต่างแยกย้ายไปประจำกรมกอง กว่าจะถึงวังหลวงก็เป็นเวลาบ่ายจัด
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าหอหน้า ทรงเข้าพระตำหนักชั้นใน สิงห์รีบตามไปดั่งเงา เจ้าหอหน้าทรงสรงน้ำแลผลัดฉลองพระองค์ สิงห์มองนางกำนัลทั้งหลายถวายงานรับใช้ เจ้าหอหน้าพระพักตร์บึ้งตึงนัก สิงห์สงสัยหนักหนาว่าทรงไม่โปรดอันใดหนอ นางกำนัลนำฉลองพระองค์อันงดงามมาให้ทรงผลัด เจ้าหอหน้าโบกพระหัตถ์เป็นเชิงไล่ เหล่านางกำนัลลนลานรีบหมอบกราบ คลานออกไป มินาน ก็มีหญิงสาวหน้าหวาน นางแต่งตัวงาม กว่านางกำนัลที่เพิ่งรีบแจ้นออกไป ผิวสีน้ำผึ้ง ผมยาวดำขลับ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นนัก นางเดินเข้ามา ปรายตามองสิงห์อย่างมิพอใจ แล้วพยักหน้าเป็นเชิงไล่ให้สิงห์ออกไป สิงห์ให้งุนงงนัก หรือจักเป็นนางในเจ้าหอหน้า สิงห์คิดว่าเจ้าหอหน้ามิได้ข้องแวะอิสตรีมานาน ตนช่างอยู่ผิดที่ผิดทาง ที่ทรงตรัสว่าให้เป็นดั่งเงา คงเว้นตำหนักใน สิงห์เลยเตรียมแจ้นตามนางกำนัลไปอีกคน พึ่งมาคิดได้ว่า ขนาดพระอนุชายังมิตามเข้ามา ไอ้สิงห์ช่างโง่เขลา สิงห์เห็นเจ้าหอหน้าหันพระวรกายอย่างรวดเร็ว แล้วทรงตวาดด้วยพระสุรเสียงดุนัก " ออกไป อย่ามาให้ข้าเห็นหน้า ข้ามิชอบ มิรู้จักตน บังอาจนัก"
    สิงห์สะดุ้งสุดตัว กับพระอารมณ์กริ้วถึงเพียงนี้ ยังมิทันได้ก้าวข้ามธรณีประตู พระสุรเสียงก็ตามมาสำทับ " ไอ้สิงห์ จงลากนางออกไปบัดเดี๋ยวนี้ ข้าไม่โปรด แล้วไปตามพระอนุชามา" สตรีนางนั้นหน้าซีดเผือดหน้าเวทนานัก น้ำตาหยดจากตานางทันที ที่ทรงตรัสจบ นางค่อยๆ ออกจากห้องไปด้วยกิริยาอิดเอื้อน
     
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ยังมิทันได้ออกไปตามพระอนุชา ก็ทรงดำเนินมาประทับ เจ้าหอหน้า ทรงเดินไปผลัดฉลองพระองค์ด้วยพระองค์เอง ทรงหยิบผ้าโสร่งไหมสีเข้ม มาผลัด แล้วทรงพระดำเนินไปอีกห้องที่สิงห์เคยเข้าเฝ้า ทรงพระดำเนินไปประทับนั่งที่ตั่ง พระอนุชารีบประทับนั่งที่ตั่งข้างๆ สิงห์รีบคลานเข่าไปนั่งแทบพระบาท ยังไม่ทันนั่งเรียบร้อยดี ก็ต้องสะดุ้งอีกครา
    " เจ้ามันมากเรื่อง มากความนัก จงอย่าจักจัดทัพไปรับข้ากลับวัง ทำดั่งกระบวนแห่เอิกเกริก มิหนำใจยังให้มันผู้นั้นมารอข้า เจ้าก็รู้ข้ามิชอบหญิงพิรี้พิไร มิชอบหญฺิงมารยา หากเจ้าโปรดนางสงสารนางนัก เจ้าก็นำนางไปอยู่ฝ่ายในของเจ้า ข้าพูดเพียงนี้ หากมีคราหน้า ข้าจะไม่เว้น จักโบยนางเสีย"

    สิงห์ถึงกับกลืนน้ำลาย ในพระอารมณ์เจ้าหอหน้า ใจก็คิดว่า เจ้าพี่นี้ก็แปลกหนักหนา มีหญิงงามมาเอาใจ พะเน้าพะนอกลับไม่โปรด แล้วโปรดหญิงเยี่ยงไรหนอ
    ส่วนพระอนุชา ได้แต่ก้มพระพักตร์ แล้วตรัสว่า พะย่ะค่ะ

    เจ้าหอหน้าหันมาตรัสกับสิงห์ ดุดันมิแพ้กัน
    "ไอ้สิงห์ ข้ามิใช่เจ้า จักได้หลงใหลอิสตรี โดยมิได้เฟ้นหา ต้องถูกตาถูกใจ จึงจักได้ถวายตัวรับใช้ ข้ามิชอบหญิงพิรี้พิไร ต้องรู้จักที่ของตนว่าเพลาใดควรจักอยู่ที่ใด"

    พระอนุชาตรัสเบาๆว่า "เจ้าพี่ กะไรเสีย นางก็เป็นลูกสาวเจ้าหัวเมือง เจ้าพี่มิโปรดก็น่าจักเข้าหอกับนาง มิใช่ทอดทิ้งนางเยี่ยงนี้ จักมิเป็นการดีนะพะย่ะค่ะ"

    ครานี้เจ้าหอหน้า ทรงตรัสดุดันเช่นเดิมว่า " งั้นข้ายกให้เจ้า นางมากความริษยาดั่งงูพิษ ทำให้ตำหนักข้าวุ่นวายหลายครา ข้าเว้นโทษให้ก็เยี่ยงนี้ ยิ่งจักกำเริบเสิบสาน เรื่องบ้านเมืองสำคัญยังจักให้ข้าระคายใจ เช่นนี้ ถือว่าเป็นศตรูเมือง ข้ามิโปรด"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2019
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    นางกำนัลสองคนยกพระสุคนธารสเข้ามาขัดจังหวะการสนทนาเสียก่อน พร้อมด้วยขนมไทยอันงดงามในถ้วยชามเบญรงค์ เจ้าหอหน้า เทพระสุคนธารส แล้วตวัดพระเนตรมองสิงห์
    " เห็นสายตาที่นางมองเจ้า ยังจักกล้าไล่ตนของข้าออกไป ใยนางจักมิรู้ว่าสิงห์เป็นผู้ใด บังอาจนัก นางคิดว่านางคงจักได้เป็นอัครมเหสีของข้าในภายหน้า พูดแล้วยิ่งให้ข้ามิอยากเห็นแม้แต่หน้า"

    "ครานี้นางทำอันใด ใยเจ้าพี่กริ้วนัก" พระอนุชาตรัสถามย้ำ

    " นางมองสิงห์ ดั่งมองทหารยาม ดั่งสิงห์เป็นกา ตัวนางเป็นหงส์ ยังใช้สายตาไล่สิงห์จากตำหนัก"

    พระอนุชา รีบแก้ต่างให้ว่า " นางคงคิดว่าไม่สมควรกะมังเจ้าพี่ ที่นี่เป็นตำหนักใน มิควรมีชายหรือทหารองครักษ์เข้ามาล่วงล้ำนะพะยะค่ะ"

    เจ้าหอหน้าทรงตวาดทันที " เจ้ามิต้องแก้ต่าง กฏวังข้อนี้ ใยข้าจักมิรู้ แต่สิงห์คือเงาของข้า เยี่ยงนี้ใครจักกล้าไล่ สิงห์จักมิห่างกายข้า หากข้ามิได้สั่ง"

    สิงห์ถามเบาๆ ว่า "นางมีนามว่ากะไรหรือเจ้าพี่"

    เจ้าหอหน้าไม่ตอบ เป็นพระอนุชา ตรัสตอบเองว่า " เจ้าแก้วฟ้า"
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ไปนอนก่อน พรุ่งนีไปนครปฐม กราบหลวงปู่หลิว หาเต่ากลับมาซักตัว
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    วันนี้ได้มีโอกาสไปวัดไร่แตงทอง และบูชาหลวงปู่หลิวทรงเต่ามาละค่ะ สมใจทุกประการ เลยพาลูกชายไปเที่ยวฟาร์มจระเข้และลานแสดงช้างสวนสามพรานต่อ ไปแบบไม่ตั้งใจเพราะเวลาเหลือเลยลองแวะไปสำรวจซะหน่อย เพราะจะพาหลานชายไปดูบ้าง การแสดงช้างดีกว่าที่คิด มีการแสดงคล้องช้างค่ะ มีการแสดงพิธีไหว้ครู การเป่าแตร ตอนที่เป่ารู้สึกอึดอัดจะอ้วกเห็นภาพซ้อน ยิ่งตอนควาญต้อนช้างแล้วคล้องบ่วงบาศที่ขาช้าง ภาพซ้อนเริ่มชัดทั้งภาพและเสียง ยังไม่พอมีการแสดงการยุธหัตถีสั้นๆ ทั้งเสียงปืนใหญ่ ระเบิดจริง ไฟจริง มันชัดเจนมาก พอจบ ได้เวลากลับ แต่อาการวูบและใจเต้นยังมี เลยออกมาเดินเล่นด้านรอบๆ สูดอากาศก่อน เดินไปส่วนด้านหลังที่เป็นส่วนแสดงนกกระจอกเทศ และสวนขนาดใหญ่ มองเห็นโล่ประกอบการแสดง แขวนอยู่ เหมือนตากสี โล่นั้นสะดุดใจ เป็นสีดำ ลวดลายทอง ทั้งหน้าสิงห์ และหน้ายักษ์ กำลังชื่นชมคนทำของประกอบฉากว่าสวยดี พอเดินไปอีกซักพัก ในร่มไม้ ที่สงบ พบพี่ชายท่านหนึ่ง กำลังเขียนลายบนโล่ พี่ชายผมอยาว ผอม บอกความเป็นศิลปิน เลยเข้าไปคุยด้วย สนทนากันไปมา สรุปว่า พี่ชายเห็นว่ารักและภักดีต่อพระนเรศ ท่านเลยจะทำโล่และหมวกให้ โดยไม่คิดเงิน หากได้มาแล้วจะนำมาลงให้ดูนะคะ โลกนี้ไม่มีความบังเอิญ ทุกที่ที่ก้าวเดินไป มีเรื่องราวของท่านรออยู่เสมอ วันนี้ได้มีโอกาสถวายอาหารพระ คาวหวาน ปลาสลิดทอด ไข่ต้ม แพนงเนื้อ แกงหอย อาหารโปรดของทหารหลายคนที่รู้จักในยุคนั้น ตามด้วยตะโก้ข้าวโพดรสหวานมัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 92802.jpg
      92802.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.6 KB
      เปิดดู:
      258
    • 92868.jpg
      92868.jpg
      ขนาดไฟล์:
      309.6 KB
      เปิดดู:
      239
    • 92869.jpg
      92869.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.3 KB
      เปิดดู:
      166
    • 92870.jpg
      92870.jpg
      ขนาดไฟล์:
      298 KB
      เปิดดู:
      200
    • 92871.jpg
      92871.jpg
      ขนาดไฟล์:
      256.3 KB
      เปิดดู:
      175
    • 92872.jpg
      92872.jpg
      ขนาดไฟล์:
      228.2 KB
      เปิดดู:
      161
    • 92873.jpg
      92873.jpg
      ขนาดไฟล์:
      237.9 KB
      เปิดดู:
      167
    • 92874.jpg
      92874.jpg
      ขนาดไฟล์:
      250.3 KB
      เปิดดู:
      193
    • 92875.jpg
      92875.jpg
      ขนาดไฟล์:
      240 KB
      เปิดดู:
      194
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เจ้าหอหน้าตรัสถามพระอนุชา "งานที่พี่มอบให้ ลุล่วงดีฤาไม่ ฤาเจ้ามัวแต่สาละวนอยู่ตำหนักชั้นใน พี่มาใยไม่เร่งเจรจา"

    พระอนุชาพระพักตร์เผือดสีลง แล้วรีบโบกพระหัตถ์ เป็นสัญญานให้นางกำนัลที่หมอบกราบที่มุมห้อง นางกำนัลหายไปเพียงอึดใจ ทหารองครักษ์ ทั้งหลาย ก็นำเกราะเหล็กมาวาง บ้างก็นำดาบมาวาง บ้างก็นำง้าวนำทวนมา สิงห์เหลือบไปเห็นชายชราผมขาวไว้หนวดขาว รูปร่างผอมเกร็ง ตามด้วยหนุ่มชาวบ้าน ผิวคล้ำเช่นกัน หมอบอยู่สุดทางห้อง ทั้งหมดถวายบังคมเจ้าหอหน้า เจ้าหอหน้ายกพระหัตถ์ กวักเรียกชายชรามาเข้าเฝ้าไกล้ๆ ชายชรารีบคลานเข้ามาไกล้ ข้างกองอาวุธและโล่นั้น

    พระสุรเสียง ที่ทรงตรัสดูเมตตากับชายชรานัก
    "พ่อครู เป็นเยี่ยงไร การที่ข้าไหว้วาน หนักหนาเพียงใด การใดแก้ได้ แก้มิได้จงบอกข้า ศึกมาประชิดแล้ว"
    พ่อครู รีบตอบ เสียงท่านแหบ แลใหญ่นัก ท่านตอบด้วยสำเนียงชาวบ้านที่มิคุ้นกับวังหลวง
    "ข้าได้ลองหลอมดาบแลโล่ห์ ตามที่ท่านกล่าว อาวุธไม่มีแตกหัก ข้าทดสอบแล้ว หลอมด้วยไฟหลายไฟ จนได้ดาบดี โล่ห์ดี ง้าวดี ขอพ่อจงลองเถิด"
     
  20. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วทหารองครักษ์ทั้งหลาย ก็นำโล่ห์ ดาบ หอกซัด ง้าวมาให้เจ้าหอหน้าได้ทอดพระเนตรทีละอย่าง เจ้าหอหน้าลองตวัดอาวุธ หมุนดู แลพิจารณาอย่างจริงจัง ทรงมีสีหน้าสำราญใจ ยิ่งนัก แล้วส่งอาวุธให้สิงห์พินิจต่อ สิงห์รับอาวุธมาดู ดาบเหล็กดูเป็นสีเข้มนัก ไม้ถูกเหลาอย่างดี สิงห์เดาว่าเป็นไม้มะขาม ตรัสกับพ่อครูด้วยพระสุรเสียงตื่นเต้น
    "ดีมาก พ่อครู ข้าจักลองเล่นศึก ว่าจักทนทานเพียงใด ขอบน้ำใจพ่อครูนัก "

    พ่อครูหมอบกราบ แล้วถวายบังคมลา เป็นการไปมาที่ช่างรวดเร็วนัก

    สิงห์อยากจักสทนากับพ่อครูเรื่องการตีดาบ แต่มิทันพ่อครูที่หายลับประตู ไปอย่างไร้ร่องรอย
    เจ้าหอหน้าดั่งรู้ใจสิงห์ "มิต้องกังวล วันพรุ่งเราจะเดินทางไปลานประลองศึก จักได้ทดสอบ พ่อครูมิได้ไปไหนไกล จักไปที่ลานประลอง จักได้ชมการศึกด้วย"

    สิงห์เอ่ยทวน "ลานประลองศึกเป็นเยี่ยงไร เจ้าพี่"

    เจ้าหอหน้าตรัสว่า "เจ้าจักต้องใจแน่ ลานประลองศึกพี่ได้จัดเตรียมไว้ ให้มีการลองทำศึก เป็นลานกว้างมีภูเขา เมื่อพี่มองลงการปะทะศึก จักได้จัดกระบวนรบตามตำราพิชัยสงคราม เพลาพรุ่งพี่จักแสดงให้เจ้าเห็น เจ้าจักได้ชำนาญศึก"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤศจิกายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...