เททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมพิชิตมาร 30นิ้ว,ท้าวมหาราชทั้ง ๔ในพิธีสวดสมัย-ภาณยักษ์ประจำปี

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย ศิษปู่ใหญ่, 27 เมษายน 2018.

  1. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร

    ในวาระพิธีเจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร-ภาณยักษ์ (ต่อชะตา เสริมบารมี) ประจำปี๒๕๖๑

    ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ บ้านหัวถนน ซอย ๒๑ ถ.โพธิ์พระยาสายเก่า ต.สนามชัย อ.เมือง สุพรรณบุรี


    img_7456-jpg.jpg


    31391270_1614266148691016_4437450615546707968_n.jpg

    29597360_1589638711153760_1425174760715048539_n.jpg


    ประกอบพิธีเททองหล่อ๕องค์ ดังนี้
    ๑.สมเด็จพระพุทธนิมิตพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว ประดิษฐานในอาคารปฏิบัติธรรมสมเด็จองค์ปฐมฯ เป็นที่สักการบูชา ปฏิบัติบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
    ๒ท้าวเวสสุวรรณ(ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศเหนือ เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ ความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก มียักษ์เป็นบริวาร) สูง ๒.๐๙ เมตร
    ๓. ท้าวธตรฐ ( ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันออก มีคนธรรพ์เป็นบริวาร) สูง ๒.๐๙ เมตร
    ๔ท้าววิรูปักษ์(ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันตก มีฝูงนาคราชเป็นบริวาร) สูง ๒.๐๙ เมตร
    ๕ ท้าววิรุฬหก (ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศใต้ มีพวกกุมภัณฑ์เป็นบริวาร)สูง ๒.๐๙ เมตร
    ท้าวจตุโลกบาล เป็นเทวดาที่ดูแลทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกทั้ง ๔ ทิศ และทำหน้าที่ดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา , และผู้ประพฤติปฏิบัติดีมีศีลธรรม เป็นต้น ....

    ขออาราธนาบารมีแห่งสมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ บารมีแห่งท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงอภิบาลรักษาและอำนวยพรให้ท่านผู้มิจิตศรัทธาทั้งหลาย จงเป็นผู้มีความคล่องตัวทั้งทางโลกและทางธรรม
    ขอให้เจริญในลาภยศ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจวาสนา ตามที่ปรารถนาทุกประการเทอญ

    กำหนดการ

    วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฏาคม ๒๕๖๑
    เวลา ๐๙.๐๐ น. พิธีถวายเครื่องสักการบูชาบูรพาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดร และบวงสรวงท้าวมหาราชทั้ง ๔
    เวลา ๑๔.๐๐ น. พระพิธีธรรมเจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร-ภาณยักษ์
    เวลา๑๖.๐๐ น. ประธานในพิธีหย่อนทองคำลงเบ้าเททองเป็นปฐมฤกษ์ ประกอบพิธีเททอง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาเป็นอันเสร็จพิธี

    ...............................
    เชิญบริจาคร่วมบุญทองเหลืองหล่อพระดังนี้
    -ทองเหลืองขนาดเเท่งเล็ก ๓๐๐บาท
    -ทองเหลืองขนาดเเท่งกลาง ๕๐๐บาท
    -ทองเหลืองขนาดเเท่งใหญ่ ๑,๐๐๐บาท
    หรือร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา

    ท่านที่บริจาคเป็นประธานอุปถัมภ์ ๕,๐๐๐- ๑๐,๐๐๐ บาทขึ้นไป สลักชื่อที่ฐานสมเด็จองค์ปฐมฯ เป็นที่ระลึกบุญสืบไป
    ...................................................................

    ติดต่อร่วมบุญได้ที่
    พระอาจารย์ธนพล ธนพโล
    สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่
    ซ.๒๑ บ้านหัวถนน
    ถ.โพธิ์พระยาสายเก่า หมู่ ๑
    ต.สนามชัย อ.เมือง
    จ.สุพรรณบุรี ๗๒๐๐๐
    ธนาคารไทยพานิชย์ สาขาสุพรรณบุรี
    ๕๙๑-๒๔๙๔๓๕-๓
    พระธนพล ธนพโล
    (SmS แจ้ง ๐๘๖๘๐๓๒๐๐๑)
    ...............................
    ส่งทองคำเพื่อใส่หล่อพระเกศสมเด็จองค์ปฐมเเละเเผ่นทองได้ที่
    โครงการหล่อสมเด็จองค์ปฐมฯ
    สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่
    ซ.๒๑บ้านหัวถนน
    ถ.โพธิ์พระยาสายเก่า หมู่ ๑
    ต.สนามชัย อ.เมือง
    จ.สุพรรณบุรี ๗๒๐๐๐
    ....................................................
    หมายเหตุ
    -กรุณาอย่าส่งเงินสดมาทางไปรษณีย์เพราะอาจสูญหาย เพราะสวนพทุธธรรมฯมีงานบุญตลอดต่อเนื่อง เงินหายทุกงานหากส่งมาทางไปรษณีย์ ซึ่งทางสวนฯจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
    -ยินดีรับเเผ่นทองเหลืองบริสุทธิ์ เเผ่นเงินบริสุทธิ์ เเผ่นทองเเดงบริสุทธิ์ เเผ่นทองคำบริสุทธิ์ เพื่อนำมาหล่อพระ ไม่รับโลหะชนิดอื่น
    -ท่านที่จะเดินทางมาถวายปัจจัยก่อนวันงาน กรุณาโทรนัดพระอาจารย์ ๐๘๖๘๐๓๒๐๐๑ เพื่อจะได้เดินทางมาเสียเที่ยวเนื่องจากในบางวันท่านต้องออกไปประกอบศาสนกิจ
    -การบอกบุญของสวนพุทธธรรมนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดเสมอมาว่า บอกบุญจริง สร้างจริงและมีการนำเสนอความคืบหน้าการก่อสร้างมาโดยตลอดทุกโครงการ
    ............................................................................................................
    เรียนเชิญท่านผู้มีจิตศรัทธา ร่วมเป็นสะพานบุญ นำพาญาติธรรมกัลญานมิตรมาร่วมสร้างบารมีใหญ่ ในครั้งนี้รอติดตมรายละเอียดอีกครั้งนะครับ
    ..............................................................................................

    อานิสงส์แห่งการสร้างพระประธาน
    พระราชพรหมยาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ...กล่าวว่า...การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยากคือว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด การสร้างองค์ปฐมนี้ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่โดยใช้บัญชีสีทองเป็นทองคำล้วนทั้งเล่มจดบันทึก (เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา)ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ต้องเป็นคนมีบุญมากและไปนิพพานได้เร็วมาก"
    หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว...กล่าวว่า.....ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน
    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา......การสร้างพระ เปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้าง โดยบุญกุศลนั้น จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่มีผู้มากราบไหว้ สักการะบูชา เท่ากับจำนวนคน และจำนวนครั้ง
    หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม กล่าวว่า..การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออกมาทำทาน ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ ชื่อว่าเป็นผู้มี"ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7456.JPG
      IMG_7456.JPG
      ขนาดไฟล์:
      353.3 KB
      เปิดดู:
      502
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤษภาคม 2018
  2. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    29598386_1589638744487090_907971395337186217_n.jpg

    อานิสงส์แห่งการสร้างพระประธาน
    พระราชพรหมยาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ...กล่าวว่า...การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยากคือว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด การสร้างองค์ปฐมนี้ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่โดยใช้บัญชีสีทองเป็นทองคำล้วนทั้งเล่มจดบันทึก (เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา)ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ต้องเป็นคนมีบุญมากและไปนิพพานได้เร็วมาก"
    หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว...กล่าวว่า.....ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน
    หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา......การสร้างพระ เปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้าง โดยบุญกุศลนั้น จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่มีผู้มากราบไหว้ สักการะบูชา เท่ากับจำนวนคน และจำนวนครั้ง
    หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม กล่าวว่า..การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออกมาทำทาน ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ ชื่อว่าเป็นผู้มี"ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2018
  3. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    ประวัติความเป็นมา

    ท้าวมหาราชทั้ง ๔ (ท้าวจตุโลกบาล)



    093942k7oqqqfjq1qvq8zu.jpg
    29683631_1589638814487083_8236054321520005402_n.jpg

    ......มาวันนี้อารมณ์เริ่มทรงตัวขึ้นมาบ้าง ก็ใช้กำลังทรงตัวได้ แต่ถ้าใช้กำลังทรงตัวแน่นไปอีกก็ไม่เห็นอะไร พอขยับจิตเคลื่อนลงมานิดหนึ่งอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ ก็เห็นท่านท้าวมหาราชนั่งอยู่ข้างๆ ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ เขาเรียกว่า ท้าวจตุโลกบาล มีหน้าที่รักษาคุ้มครองชาวมนุษยโลก

    ถ้าสร้างความดีก็หาทางป้องกันช่วยเหลือ จะส่งเทวดาไปอารักขา ถ้าสร้างความชั่วก็สุดวิสัยที่จะช่วยได้ก็อดใจไว้ และก็มีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วของคนทั้งการพูด การคิด การทำทุกอย่าง สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชอยู่กึ่งกลางเขาพระสุเมรุ

    คนที่ตายแล้วมาเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชได้ ต้องเคยได้ฌานสมาบัติ แต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ถ้าขณะที่ตายเข้าฌานตาย ก็จะไปเกิดเป็นพรหม ท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ คือ

    ๑) ท่านท้าวเวสสุวัณ คุมด้านทิศเหนือ
    ๒) ท่านท้าววิรุฬหก คุมด้านทิศใต้
    ๓) ท่านท้าวธตรฐ คุมด้านทิศตะวันออก
    ๔) ท่านท้าววิรูปักข์ คุมด้านทิศตะวันตก


    ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราช คุมด้านทิศเหนือ

    ........ท่านท้าวเวสสุวัณ เป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศเหนือ และเป็นประธานของท้าวมหาราชทั้ง ๔ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักจะทำสัญลักษณ์เป็นรูปยักษ์ จะเห็นได้ตามวัด ตามถํ้า จะมีรูปปั้นยักษ์อยู่ทางด้านหน้าทางเข้า

    ก่อนที่ท่านจะมาเป็นท้าวมหาราชเขตจาตุมหาราช ถอยหลังไป ๑ ชาติ ในตอนต้นเลยทีเดียวที่ยังไม่มีพระพุทธศาสนา มีแต่ศาสนาพราหมณ์ ท่านมีนามว่า กุเวรพราหมณ์ เป็นชื่อเดิม

    ต่อมาท่านเป็นกษัตริย์ครองกรุงราชคฤห์มหานครทรงพระนามว่า “พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์” ท่านเกิดรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ครองกรุงกบิลพัสดุ์ ซึ่งต่อมาทรงออกผนวชบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าทรง พระนามว่า “สมเด็จพระสมณโคดม”

    ท่านมีพระสหายอีก ๒ องค์คือ พระเจ้าปเสนทิโกศล ครองกรุงสาวัตถี กับท่านพันธุลเสนา รวมเป็น ๔ องค์ เป็นเพื่อนรักกันมาก ต่างคนต่างเป็นลูกกษัตริย์ สมัยนั้นไปเรียนหนังสือที่เมืองตักศิลาด้วยกัน

    ต่อมาเจ้าชายสิทธัตถะราชกุมารทรงออกมหาภิเนษกรมณ์ พระเจ้าพิมพิสารทรงคิดว่ามีเรื่องราวกับใคร จึงนิมนต์ให้เข้าประทับในเมือง จะมอบอำนาจให้ครึ่งหนึ่งและสมบัติให้ครึ่งหนึ่ง ให้เป็นมหาอุปราช พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า

    “ไม่ได้หนีใคร ทรงเบื่อความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ต้องการแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมอันเป็นเครื่องหลุดพ้นจากความตาย และต้องการเอาธรรมนั้นมา สอนคนอื่น”

    พระเจ้าพิมพิสารจึงบอกว่า ถ้าพระองค์ทรงบรรลุเมื่อไร ขอมาโปรดท่านก่อน พระพุทธเจ้าก็ทรงรับ เมื่อองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณแล้วก็ทรงสอนคนมาตามทาง จนกระทั่งถึงกรุงราชคฤห์มหานคร พบพระเจ้าพิมพิสารพร้อมด้วยบริวาร ก็ทรงเทศน์

    พอเทศน์จบปรากฏว่า พระเจ้าพิมพิสารเป็นพระโสดาบันพร้อมกับคนจำนวนมาก หลังจากนั้นก็ได้อาราธนาพระพุทธเจ้าเข้าประทับในพระเวฬุวันมหาวิหาร ขณะที่พระพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ ที่นั้น พระเจ้าพิมพิสารไปเฝ้าทุกวัน ได้ถวายทานทุกวัน ฟังเทศน์ทุกวัน จึงมีอานิสงส์ ดังนี้ คือ

    การถวายทาน เป็นปัจจัยให้ได้ทิพยสมบัติ
    การถวายพระเวฬุวันมหาวิหาร เป็นเหตุให้ได้วิมานสวยงาม
    กำลังความเป็นพระโสดาบันและทรงฌานสมาบัติด้วย เป็นเหตุให้มีกำลัง เมื่อไปเป็นเทวดาก็ทรงอำนาจมาก


    เวลาที่ท่านจะตาย ท่านถูกลูกชายคือ พระเจ้าอชาตศัตรู ทรมาน คือพระเจ้าอชาตศัตรูเป็นกบฏทรยศต่อพ่อ แย่งราชสมบัติแล้วก็ทรมานพ่อ โดยจับขังคุก ต่อมาให้อดข้าว เมื่อท่านยังเดินจงกรมได้ ท่านอยู่ด้วยธรรมปีติ แม้จะอดข้าวก็ไม่ตายผิวพรรณยังผ่องใส

    ในที่สุดเขาก็เฉือนเท้าไม่ให้เดิน ท่านก็มีความเจ็บปวดมาก แต่จิตใจก็นึกถึงองค์สมเด็จพระจอมไตร ท่านก็มีจิตใจชุ่มชื่น ปวดน่ะปวด แต่ท่านก็ยอมรับนับถือกฎของธรรมดาว่า คนเราที่เกิดมาทุกคน แม้ฐานะจะต่างกัน แต่สภาพจริงๆ มันเหมือนกันคือ

    มีความเกิดขึ้นในเบื้องต้นเหมือนกันหมดทุกคน และก็เดินเข้าไปหาความแก่ มีทุกขเวทนา มีการทรมานจากร่างกาย และในที่สุดก็เป็นคนตาย ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ จะเป็นเศรษฐี คหบดี หรือคนยากจนก็ตาม มีสภาพเหมือนกันไม่มีอะไรแตกต่างกัน

    พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์ท่านเป็นพระโสดาบันขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เวลาตายท่านออกด้วยกำลังของฌาน ๔ จะต้องไปเกิดเป็นพรหม แต่พอจิตแยกออกจากกายแล้ว ท่านมีความรู้สึกด้วยอำนาจกำลังจิตที่เป็นทิพย์ว่า

    ก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระเจ้าพิมพิสาร ท่านเคยเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราชมาก่อน ท่านก็เลยไม่ไปอยู่พรหม มาอยู่ชั้นจาตุมหาราชที่เดิม เมื่อท่านเป็นเทวดาแล้ว ท่านก็ฝึกฝนจนเป็นพระอนาคามี และท่านไม่กลับมาเกิดอีกแล้ว

    หลวงพ่อพบท้าวเวสสุวัณเป็นครั้งแรก

    ........ตามปกติฉันนอน 22.00 น. และตื่น 1.30 น. เป็นปกติ ทำวัตรสวดมนต์แบบย่อ ๆ พอเวลาใกล้ 2 น. ฉันก็เริ่มทำสมาธิ พอถึง 4 น. ฉันก็ดูตำรา 5 น. ฉันก็กลับทำสมาธิใหม่เพื่อรักษาอารมณ์ เวลาออกบิณฑบาตรตามแบบฉบับของพระโบราณ

    ปฏิปทาของพระสมัยใหม่ท่านทำกันอย่างไรฉันไม่รู้ ด้วยฉันแก่แล้ว และมานั่งเป็นฤาษีหัวล้านอยู่ในป่าห่างเมืองหลวงตั้ง 300 กม.เศษ จะรู้เรื่องของพระในเมืองหลวงได้อย่างไร

    วิธีที่เข้าฌานก่อนแล้วคลายอารมณ์มาสู่อุปจารฌานหรือปฐมฌานแล้วออกบิณฑบาตร แบบนี้ท่านเรียกว่าพระโปรดสัตว์ เพราะท่านที่ใส่บาตรมีผลมาก ได้บุญแรง มีลาภง่าย ยิ่งได้พระอริยเจ้าท่านเข้า ผลสมาบัติ คือ

    พิจารณาวิปัสสนาญาณก่อน เมื่อจิตสะอาดดีแล้วเข้าฌานเต็มกำลังแล้วคลายออก ทรงอยู่เพียงอุปจารฌานฌานหรือปฐมฌานอย่างนี้อานิสงส์ยิ่งมาก บุญมาก ลาภสูง ที่ท่านพอตื่นก็ร้องเพลงหรือนึกถึงคนรัก นึกถึง

    สถานหรือวิธีหากิน ซักซ้อมความคล่องเพื่อลาภสักการ อย่างนี้ท่านไม่เรียกพระโปรดสัตว์ ท่านเรียกว่าไปให้สัตว์โปรด ด้วยท่านไม่มีอะไรดีที่จะให้บรรดาท่านที่สงเคราะห์เลย นี่ว่ากันตามแบบพระโบราณไม่ทันสมัยนะ สำหรับท่านที่ทันสมัย มีลาภ มียศ มีคนสรรเสริญ มีกามสุขสมบูรณ์

    ท่านอาจจะมีความเห็นไปอีกอย่างหนึ่งและทำให้พระทันสมัยขึ้น อาจจะมีผลดีกว่าที่ฉันว่าอย่างนี้ ได้ฟังแล้วอย่าถือเอาไปเป็นแบบแผนนะ ประเดี๋ยวจะหาพระครึ ๆ อย่างฉันพูดไม่ได้ เลยไม่มีโอกาสทำบุญ

    พูดเลยเรื่องไปเสียแล้วอีกกระมัง มาเข้าประเด็น คำว่าประเด็นหมายความว่าอย่างไรฉันไม่รู้เรื่อง เคยเข้าในเมืองหลวงเห็นเขาพูดกันฉันก็เลยพูดบ้าง มันเข้าท่าหรือเปล่าก็ไม่รู้ เอาแบบเก่าดีกว่านะ พูดว่าเรามาเข้าเรื่องที่ค้างไว้ดีกว่า อย่างนี้ฟังง่ายดีนะ ขณะที่หลวงพ่อท่านเชิญ พอท่านหยุดนิ่ง ฉันไม่ประสงค์องค์อื่น อยากรู้จักท้าวเวสสุวัณองค์เดียว

    เห็นช่างภาพเขาเขียนรูปท่านเป็นยักษ์ ไม่ใช่ยักยอก เป็นยักษ์มีเขี้ยวยาว มีกระบองยาวคล้ายพลองลูกเสือ ท่าทางน่ากลัว ก็เลยอยากเห็นยักษ์ ตามข่าวที่เล่าลือกัน เขาว่าท่านมีอานุภาพมาก ฉันเลยขอท่านท้าวเวสสุวัณองค์เดียว กรุณามาให้เห็นเวลา 2 น.

    ฉันก็เข้าสมาธิ เรื่องของสมาธิ เข้าเพียงหายใจเข้าไม่ทันหายใจออกก็จมเบ้า (เต็มอัตรา) คำว่าจมเบ้าเป็นภาษาเด็กเลี้ยงควาย เกรงว่าจะหายสาบสูญไปเสีย ก็เลยเอามาพูดไว้เพื่อรักษาศัพท์วัฒนธรรมเลี้ยงควาย เมื่อถึงเวลา 2 น. ตรง ฉันก็คลายออกมาสู่อุปจารสมาธิเป็นอารมณ์ที่พอจะเห็นนิมิตได้

    เมื่อนาฬิกาตีบอกเวลา 2 นาฬิกาเพียงเป๋งแรก ทั้ง ๆ ที่หลับตา ก็มองเห็นชายคนหนึ่งนุ่งผ้าขาวห่มผ้าสไบเฉียงขาว ถือไม้พลองยาวแค่หัว เดินลิ่ว ๆ มาทางทิศเหนือ แกเดินเร็วเหลือเกิน ไม่ถึงนาทีมาถึงที่ฉันอยู่แล้ว ใจฉันบอกเลยว่าท่านผู้นี้คือท่านท้าวเวสสุวัณ

    ดูท่านแล้ว ท่านมายืนห่างจาก ฉันสัก 2 วา ท่านไม่มีเขี้ยว หน้าตาท่านสวย ผิวสวย ทรงงามมาก ไม่สวยตื้อต้าอย่างฉัน หัวท่านไม่ล้าน ความจริงตอนที่ฉันเห็นท่านวาระแรกหัวฉันไม่ล้าน แต่มีผมสั้นมากเพราะถูกโกน

    ดูท่านสักครู่ ท่านยืนเฉยไม่พูดอะไรเลย ชักนึกกลัวตะบองท่าน จึงออกปากเชิญ ท่านกลับบอกว่าขอบใจท่านอาจารย์ อาตมาขอชมบารมีเท่านี้ เชิญท่านกลับได้ ท่านยิ้มแล้วพูดว่า เมื่อท่านอยากเห็นผม ผมมาให้ท่านเห็นแล้ว ท่านกลัวผมทำไม (ท่านแอบรู้ใจเสียนี่ พวกเทวดานี่แย่มาก รู้แม้การนึก)

    เมื่อเห็นท่านพูดเพราะ ความจริงเสียงท่านเพราะมาก พูดจานิ่มนวลดีมาก ไม่เหมือนเสียงฉัน เสียงฉันไม่ต่างอะไรกับเสียงกะทะแตก เวลาพูดก็ไม่มีสำเนียงเพราะ ก็เรื่องของคนไกลเมืองหลวง มายาไม่ทันสมัย มันก็อย่างนั้นเอง จะดัดแปลงให้ทันสมัยหรือก็แก่จะเข้าเตาเผาเสียแล้ว ขนเอาวาจาโฮกฮากทิ้งไว้ เก็บเอาวาจาเพราะพริ้งมาใช้แทน ดีไม่ดีใครเดินมาพบวาจาโฮกฮากที่วางไว้เอาไปใช้แทน

    ถ้าอายุยังน้อยอยู่ อีกนานกว่าจะตายก็จะต้องใช้ไปอีกหลายปี เมื่อไม่มีคนชอบฟังก็จะลำบากอย่างฉัน ต้องเอาป่าเอาดงเป็นเรือนอาศัย และจะต้องตายในป่า ไม่มีเครื่องตั้ง ไม่มีเมรุประดับศพ อย่าทิ้งมันเลยพาตายไปด้วยดีกว่า เมื่อเห็นท่านพูดด้วยก็ชักมีกำลังใจ เลยชวนท่านคุย ท่านก็คุยด้วย เรื่องที่คุยก็ถามท่านว่า เมื่อช่วยหลวงพ่อได้ ช่วยฉันมั่งได้ไหม บอกท่านว่า ฉันมีสมาธิไม่ดี เวลาท่านมาขอให้เห็นง่ายๆ

    ท่านบอกว่าได้ ท่านว่าลืมตาหรือหลับตาก็ได้ จะได้เห็นสบาย ๆ
    เลยถามต่อไปว่าขอเห็นองค์อื่นและบริวารทั้งหมดด้วย องค์อื่น ๆ ท่านจะยอมไหม
    ท่านบอกว่ายอมทุกองค์ เลยบอกว่าอยากเห็นเดี๋ยวนี้ ท่านบอกว่าเขามากันครบแล้ว
    พอท่านพูดขาดคำก็เห็นครบทั้ง 4 องค์ ไม่เห็นมีเขี้ยวสักองค์ ท่านสวย ๆ ทุกองค์เมื่อท่านใจดีผีเลยเข้า ถามท่านว่า เทวดาเขามีชฎา ท่านมากันนี้ไม่เห็นมีชฏาสักองค์

    ท่านบอกว่ามาหาพระจะเอาหมวกสวมมาทำไม ท่านไม่ยักเรียกชฏา เรียกหมวก ถามท่านว่าขอเห็นภาพเต็มยศได้ไหม ท่านพูดว่าเขาไม่เรียกเต็มยศ เขาเรียกว่าเครื่องประดับเต็มอัตรา โดนท่านสอนภาษาไทยเข้าให้ ระยำจริง ๆ ท่านบอกอยากเห็นก็ได้ พอท่านพูดจบต่างก็มีเครื่องประดับแพรวพราวไม่เห็นไปแต่งตัวเปลี่ยนเครื่องเดิมที่ไหนเลย ถามท่านว่าทำไมแต่งตัวเร็วนัก ท่านบอกว่าพอนึกก็เสร็จ

    ดูของท่านมันง่ายทุกอย่างทั้ง 4 ท่าน ท่านถามว่าจำได้ไหม บอกว่าจำไม่ได้ ท่านพูดว่ามนุษย์ลืมง่าย
    ท่านกับพวกผม 4 องค์นี้เคยอยู่ร่วมกันมา วันหน้าจะเล่าให้ฟัง ท่านว่าอย่างนั้น เวลานี้สว่างมากแล้ว พระกำลังจะออกบิณฑบาตร ท่านเตรียมตัวไว้ออกบิณฑบาตร อยากฉันอะไร
    ตอบท่านว่า อยากฉันผักบุ้งต้มน้ำปลาที่เขาหั่นพริกใส่รวมกัน
    ท่านบอกว่า พอกลับถึงวัดจะมีคนเอามาให้ ถามว่าเมื่อบิณฑบาตรไม่ได้หรอกหรือ ท่านบอกว่าถือมาลำบาก เมื่อกลับถึงวัดจะมีคนนำมาให้เอง ท่านลากลับ

    ฉันก็ไปบิณฑบาต พอกลับมาวัด หลวงปานท่านเรียกเข้าไปหา
    ท่านถามว่าเมื่อคืนนี้ คุยกับท่านท้าวมหาราชสนุกไหม เรียนท่านว่าสนุก
    ท่านบอกว่าท่านท้าวมหาราชมาฟ้องว่า กลัวท่าน นึกในใจว่าเทวดานี่ปากบอนจริง แล้วก็รับกับท่านว่ากลัว

    ท่านบอกว่า ขอผักบุ้งต้มน้ำปลาใส่พริกเขาไว้หรือ เรียนท่านว่าขอรับ
    ท่านหัวเราะ แล้วหยิบถ้วยใส่ผักบุ้งต้มที่ถอนทั้งต้น ผักบุ้งอะไรแปลกจริง มันใหญ่ขนาดแขนเกือบจะลงไปได้ ยาวหลายวา ถ้วยที่ใส่เป็นถ้วยดินโบราณ โตเกือบเท่าชามกะละมัง มีน้ำปลาผสมพริก ไม่รู้ว่าพริกอะไรมันเผ็ดน่าดู แตะเข้าไปนิดเดียวน้ำหูน้ำตาไหล

    ท่านบอกว่าเก็บเอาไว้ ผักกินไม่หมดตากแดดไว้ เอาไว้ดูเป็นอนุสรณ์
    ถ้วยใบนั้นหายเสียเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ทราบว่าใครเอาไป ฉันไปอยู่เสียที่กรุงเทพฯ เพื่อเรียนภาษาบาลี ถ้าอยู่สมัยนี้ลูกหลานคงจะได้ชมของโบราณ

    เป็นอันว่าเรื่องบวงสรวงที่ท่านทั้งหลายสมัยใหม่มั่ง เก่ามั่งหาว่าครึหรือไร้ผลนั้น มันไม่แน่นักหรอกนายเอ๋ย ทำกันจริง ๆ ค้นกันจริง ๆ คงเห็นว่าไม่ไร้ผล แต่เอาผลตามที่ควรเอา อย่าหวังผลเลิศจนเกินพอดี เชิญมาขอหวย เชิญมาขอให้เลื่อนยศฐาบรรดาศักดิ์ นี่ว่าตามภาษาคนเก่า สมัยนี้บรรดาศักดิ์ไม่มีแล้ว ของเก่ายังเหลือแต่ทว่าของใหม่ไม่มี หรือใครจะนึกมีเอาเองก็ไม่ทราบ

    เป็นอันว่าเรื่องบวงสรวงที่พูดมาแล้วขอผ่านไป มาพูดถึงท่านขุนด่าน ที่พวกฉันรู้จักก็เพราะเมื่อหลวงพ่อปานท่านจะสร้างวัดที่ไหน ท่านต้องบวงสรวงก่อนเสมอเพื่อขอให้ช่วย เมื่อท่านบวงสรวง พวกฉันสามลิงรวมอยู่ด้วย จึงรู้จักท่านขุนด่าน เพราะท่านขุนด่านท่านรับเชิญมาในพิธีบวงสรวงด้วย ท่านขุนด่านเป็นเทวดาชั้นอำมาตย์ของท่านท้าวเวสสุวัณ

    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้

    ท่านท้าววิรุฬหก ท่านเป็นท่านท้าวมหาราชคุมด้านทิศใต้ บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช ในเมืองมนุษย์มักเข้าใจว่า ท่านท้าววิรุฬหกและบริวารของท่านเป็นกุมภัณฑ์ “กุมภะ” แปลว่า “หม้อ” ท่านจึงแสดงรูปร่างอ้วนใหญ่เหมือนกับพ้อมใส่ข้าว ผิวดำปี๋ พุงก็ปลิ้น คอก็สั้น หัวก็โต ฟันก็ขาว เขี้ยวก็โง้งออกจากปาก มีริมฝีปากนูนๆ ตาใหญ่มาก สว่างแวววาวเหมือนกับไฟฉาย มองส่ายไปส่ายมา ทำให้น่ากลัว แต่ความจริงท่านสวยสดงดงามมาก ท่านมาบอกอาตมาว่า

    ในสมัยเป็นมนุษย์ท่านเป็นคนกรุงเทพฯ อาชีพของท่านเป็นคนมีเงินเดือน เป็นหัวหน้าคนกลุ่มใหญ่มีคนใต้บังคับบัญชานับพันคน ท่านบอกท่านเคยมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวเหมือนกัน เคยเข้าสมาคมกับขุนนางชั้นสูงและกับคนทุกชั้น เพราะท่านมีเมตตาความรัก กรุณาความสงสาร ท่านถือว่าทุกคนฐานะไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่กำลังใจเท่านั้น นอกจากนั้นท่านมีความต้องการหนังเหนียวยิงไม่ออก แคล้วคลาดจากอาวุธ และสามารถแสดงฤทธิ์ ท่านมีอาจารย์เป็นพระและเป็นฆราวาสก็มี ถ้ามีความดีเป็นกรณีพิเศษ

    การทำให้หนังเหนียวต้องใช้คาถา ก่อนที่จะใช้คาถาทั้งหมด ท่านต้องมีความเคารพพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจ เคารพในพระธรรมคำสอน และเคารพในพระสงฆ์ที่เป็นครูบาอาจารย์ หลังจากนั้นต้องทำจิตให้มั่นคงโดยภาวนาให้จิตทรงตัว ก็คือ จิตเป็นสมาธินั่นเองถ้าจิตมีสมาธิสูง กำลังอานุภาพที่ต้องการก็จะมีอานุภาพมาก ถ้ากำลังสมาธิตํ่าของที่เรียนมาก็มีอานุภาพตํ่า การท่องคาถาอาคม การปลุกตัว การปลุกของ ต้องทำทุกวันเพื่อความมั่นคง จิตต้องเข้าถึงฌานสมาบัติแต่เวลาที่ท่านตาย ท่านไม่ได้เข้าฌานตาย

    เมื่อตายแล้วท่านไปเกิดเป็นเทวดาชั้นจาตุมหาราช ต่อมาก็ขึ้นเป็น เทวดาชั้นอินทกะ (คำว่า“อินทกะ” แปลว่า “ผู้เป็นใหญ่” คือเป็นรองท่านท้าวมหาราช อินทกะนี้มีได้ทิศละพันองค์ พร้อมที่จะเป็นท้าวมหาราชได้ตามความสามารถและวาสนาบารมี ในเมื่อท่านท้าวมหาราชไปจากชั้นนี้ คือจากชั้นจาตุมหาราชไปเกิดเป็นเทวดาชั้นสูงบ้าง หรือว่าไปเป็นพรหมบ้าง หรือมาเกิดเป็นมนุษย์ก็ตาม) จากอินทกะท่านก็เป็นท้าวมหาราช คือท่านท้าววิรุฬหกในปัจจุบันนี้

    ท่านท้าวธตรฐ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันออก

    วันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ เห็นท่านท้าวมหาราชมานั่งอยู่ องค์หนึ่งมาตัวสูงเท่ายอดตาล จึงหันไปถามว่า “ใคร” ท่านท้าววิรุฬหกตอบว่า “ท่านธตรฐครับ” พอท่านเข้ามาใกล้ก็เลยถามว่า “ทำไมสูงเหมือนเปรตแบบนี้ล่ะ” ท่านตอบว่า “อย่างนี้เขาเรียกสูงแบบเทวดา ไม่ใช่สูงแบบเปรต” ถามท่านท้าวธตรฐว่า “อดีตของท่านเคยเป็นอะไรมาตอนเป็นมนุษย์”

    ท่านตอบว่า “อดีตผมเป็นพระราชาเมืองพาราณสีครับ” ก็เลยถามท่านว่า “เวลานั้นไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นเทวดาได้อย่างไร” ท่านตอบว่า “เทวดาหรือพรหมไม่จำเป็นต้องนับถือพระพุทธศาสนาเสมอไป พราหมณ์ก็เป็นเทวดาเป็นพรหมได้” เวลานี้ท่านเป็นพระอนาคามี เป็นพระอริยเจ้าเบื้องสูง ท่านไม่กลับลงมาเกิดอีกแล้ว

    ท่านท้าววิรูปักษ์ ท่านเป็นท้าวมหาราชคุมด้านทิศตะวันตก

    ในวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๓๑ วันเดียวกันนั้นอาตมาได้หันไปถาม ท่านวิรูปักษ์ว่า “อดีตท่านเป็นอะไร” ท่านตอบว่า “อดีตผมอยู่ปักษ์ใต้ ประเทศไทยนี่เอง เป็นผู้ชายไทย ฐานะสูงมากสมัยรัชกาลที่ ๕ ได้ฌานสมาบัติแต่เวลาตายไม่ได้เข้าฌานตาย ตายแล้วไปเป็นอินทกะเลย เมื่อท่านวิรูปักษ์องค์เก่าขึ้นไปเป็นพรหม ท่านก็ขึ้นเป็นแทน ท่านเก่งมาก

    เป็นอันว่าก็ได้ทราบประวัติของท่านท้าวมหาราชทั้ง ๔ แล้วว่าใครเป็นใคร ทำให้ทราบว่าการเป็นเทวดาก็ไม่หนักสำหรับพวกเรา การเป็นพรหมก็ไม่หนัก การไปพระนิพพานก็ไม่หนัก การไปนรกก็ไม่หนัก ชอบทางไหนก็ไปได้ทั้งนั้น.."

    เนื้อหา จากหนังสือ ตายแล้วไม่สูญ......แล้วไปไหน
    โดย พระราชพรหมยาน (คณิตพร รวบรวม)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2018
  4. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    หุ่นต้นเเบบองค์พระที่จะเททองวันที่ ๒๒กรกฏาคม ๒๕๖๑ ประกอบด้วย
    ๑.สมเด็จพระพุทธนิมิตพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว ประดิษฐานในอาคารปฏิบัติธรรมสมเด็จองค์ปฐมฯ เป็นที่สักการบูชา ปฏิบัติบูชาของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
    ๒ท้าวเวสสุวรรณ(ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศเหนือ เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ ความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก มียักษ์เป็นบริวาร) สูง ๒.๐๙ เมตร
    ๓. ท้าวธตรฐ ( ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันออก มีคนธรรพ์เป็นบริวาร) สูง ๒.๐๙ เมตร
    ๔ท้าววิรูปักษ์(ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศตะวันตก มีฝูงนาคราชเป็นบริวาร) สูง ๒.๐๙ เมตร
    ๕ ท้าววิรุฬหก (ผู้เป็นใหญ่ด้านทิศใต้ มีพวกกุมภัณฑ์เป็นบริวาร)สูง ๒.๐๙ เมตร
    ท้าวจตุโลกบาล เป็นเทวดาที่ดูแลทุกข์ สุข ของมนุษย์โลกทั้ง ๔ ทิศ และทำหน้าที่ดูแลปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา , และผู้ประพฤติปฏิบัติดีมีศีลธรรม เป็นต้น

    เนื่องในวาระพิธีเจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร-ภาณยักษ์ (ต่อชะตา เสริมบารมี) ประจำปี๒๕๖๑

    ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ บ้านหัวถนน ซอย ๒๑ ถ.โพธิ์พระยาสายเก่า ต.สนามชัย อ.เมือง สุพรรณบุรี

    กำหนดการ

    วันอาทิตย์ที่ ๒๒ กรกฏาคม ๒๕๖๑
    เวลา ๐๙.๐๐ น. พิธีถวายเครื่องสักการบูชาบูรพาจารย์หลวงปู่เทพโลกอุดร และบวงสรวงท้าวมหาราชทั้ง ๔
    เวลา ๑๔.๐๐ น. พระพิธีธรรมเจริญพระพุทธมนต์มหาสมัยสูตร-ภาณยักษ์
    เวลา๑๖.๐๐ น. ประธานในพิธีหย่อนทองคำลงเบ้าเททองเป็นปฐมฤกษ์ ประกอบพิธีเททอง พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาเป็นอันเสร็จพิธี

    34436355_1654826011301696_1498380782379466752_n.jpg

    34464216_1654826071301690_3594234443830657024_n.jpg

    34667201_1654826097968354_8464384898277310464_n.jpg

    34414276_1654826191301678_1088367141125619712_n.jpg

    34447643_1654826171301680_7633594895877275648_n.jpg

    34596431_1654826334634997_4948903704930549760_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มิถุนายน 2018
  5. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
  6. วิทยามา

    วิทยามา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2016
    โพสต์:
    4,369
    ค่าพลัง:
    +8,802
    วันนี้โอนเงินร่วมบุญ

    ร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร




    จำนวนเงิน 100 บาทครับ
    ข้าพเจ้า นายวิทยา - วิไลวรรณ มาสุปรีดิ์

    ขอร่วมบุญ
    ร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร


    ขออธิษธาน ขออุทิศบุญทั้งหมดที่บำเพ็ญมาแล้วนี้ ให้เจ้ากรรมนายเวร ขอชำระหนี้สงส์ ขออุทิศให้ ท่านพระยายมราช ขอท่านพระยายมราช โปรดจงเป็นพยาน ในการบุญการกุศลนี้เทอญ ขอกำลังบุญทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้พำเพ็ญมาแล้วในอเนกชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา สร้างพระไตรปิฎก ถวายสังฆทาน ทำบุญตักบาตร จงมารวมกัน ขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับนายนิรยบาลทุกตน ให้กับท่านพระยายมราช ขอให้ท่านพระยายมราชโปรดจงเป็นพยานในการบุญกุศลนี้ของข้าพเจ้า ขออุทิศบุญนี้ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ขออุทิศบุญนี้ให้กับเทวดา เทพยดา ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 15 ชั้นบาดาล ทั้งแสนโกฏิจักรวาล ขออุทิศบุญนี้ให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ของข้าพเจ้า ขออุทิศบุญนี้ ให้กับ มนุษย์ทั้งหลาย ขออุทิศบุญนี้ ให้กับ สัมภเวสี ทั้งหลาย เปรตญาติ ทั้งหลาย ที่เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติ ก็ดี ขออุทิศบุญนี้ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอท่านทั้งหลาย จงอนุโมทนาบุญนี้กับข้าพเจ้า เอาเถิดครับ ท่านทั้งหลายเหล่าใดที่ท่านได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ท่านทั้งหลายเหล่าใดที่ท่านได้สุขขอให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไปเทอญ ขอบุญทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาแล้วจงตามหนุนส่งให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเทอญ สาธุ หากแม้นบารมียังไม่เต็มเพียงใด ขอให้มีสุคติ เป็นที่ไป และได้เกิดในศาสนาพระศรีอาริย์เมตไตร และได้ฟังธรรม สำเร็จมรรคผล ในชาตินั้นด้วยเทอญขึ้นชื่อว่า อับจนเข็ญใจ ไร้ทรัพย์ อับปัญญา คำว่าไม่มี ความจน ความไม่มีโชค ความไม่มีลาภ สรรพเคราะห์ สรรพโศก สรรพโรคสรรพภัย ภยันตรายใดๆ วินาศภัยใดๆ ขอสิ่งเหล่านี้ ที่ขึ้นชื่อดังเอ่ยมาแล้วนี้ อย่าพึงมี พึงบังเกิดกับข้าพเจ้าและครอบครัว และทรัพย์สินของข้าพเจ้า และรถยนต์ของข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบจนถึงอนาคตกาลโน้นเทอญ และขอให้ข้าพเจ้า มีสติ ตามคุ้มครองจิตไม่เผลอไผลปรามาสพระรัตนตรัยทุกเมื่อเทอญ

    คำว่า ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้ ไม่สำเร็จ อย่าพึงมีกับข้าพเจ้า และครอบครัว ของ ข้าพเจ้า และภรรยา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอให้กิจการของข้าพเจ้า และภรรยา และมารดา บิดา ของข้าพเจ้า จงปราศจาก อุปสรรค คิดสิ่งใดขอให้สมความมุ่งมั่นปราถนาทุกประการเทอญ สาธุสาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295

    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  8. sindhus

    sindhus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    2,524
    ค่าพลัง:
    +8,445
    ขอร่วมเททองหล่อสมเด็จองค์ปฐมพิชิตมาร 30นิ้ว,ท้าวมหาราชทั้ง ๔ในพิธีสวดสมัย-ภาณยักษ์ประจำปี ๒๕๖๑
    โอน ๒๐ บาท เข้าบัญชี ธ.ไทยพาณิชย์
    วันที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๖๑

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  9. kookkk289

    kookkk289 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2018
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +468
    ร่วมทำบุญ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ จ.สุพรรณบุรี จำนวน 26 บาท ขอผลแห่งบุญนี้ดลบรรดาลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวมีแต่ความสุข ทุกข์ไม่มี เข้าถึงธรรม พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง ร่ำรวย "คำว่าไม่มี คำว่ายากจนเข็ญใจ อย่าได้มีแก่ข้าพเจ้าและครอบครัวเลย" สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    สาธุอนุโมทามิ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,407
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,419
    ร่วมบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม และท้าวมหาราชทั้ง 4 = 50 บาท ถวายเป็นพุทธบูชา สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ชมพูอุษมัน

    ชมพูอุษมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +7,347
    ร่วมทำบุญเททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙ เมตร 100 บาท โอนปัจจัยเข้าบัญชีแล้ว ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดของทุกๆท่าน

    และขออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดนี้ แด่ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ และ เจ้ากรรมนายเวร ของข้าพเจ้าทุกท่านในทุกภพทุกชาติ...
     
  13. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ สาธุครับ
     
  14. Wheeler990

    Wheeler990 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2010
    โพสต์:
    973
    ค่าพลัง:
    +6,012
    ผมพร้อมครอบครัว และญาติมิตร ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพ เพื่อสมทบทุนในการเททองหล่อพระพุทธรูป สมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร ฯ ขนาดหน้าตัก 30 นิ้ว และเททองหล่อเทวรูป ท้าวจาตุมหาราช ทั้ง 4 ฯ ขนาดความสูง 2.09 เมตร ณ สวนพุทธธรรมหลวงปู่ใหญ่ ต.สนามชัย อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

    โอนปัจจัยทำบุญเรียบร้อยแล้ว เข้าบัญชี พระธนพล ธนพโล เลขที่บัญชี 591-249435-3 ธนาคารไทยพาณิชย์ วันที่ 03/05/18 เวลา 20.03 น. ยอดเงิน 37 บาท

    อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ สาธุๆ
     
  15. วิทยามา

    วิทยามา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2016
    โพสต์:
    4,369
    ค่าพลัง:
    +8,802
    วันนี้โอนเงินร่วมบุญ

    ร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร




    จำนวนเงิน 50 บาทครับ
    ข้าพเจ้า นายวิทยา - วิไลวรรณ มาสุปรีดิ์

    ขอร่วมบุญ
    ร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร


    ขออธิษธาน ขออุทิศบุญทั้งหมดที่บำเพ็ญมาแล้วนี้ ให้เจ้ากรรมนายเวร ขอชำระหนี้สงส์ ขออุทิศให้ ท่านพระยายมราช ขอท่านพระยายมราช โปรดจงเป็นพยาน ในการบุญการกุศลนี้เทอญ ขอกำลังบุญทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้พำเพ็ญมาแล้วในอเนกชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา สร้างพระไตรปิฎก ถวายสังฆทาน ทำบุญตักบาตร จงมารวมกัน ขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับนายนิรยบาลทุกตน ให้กับท่านพระยายมราช ขอให้ท่านพระยายมราชโปรดจงเป็นพยานในการบุญกุศลนี้ของข้าพเจ้า ขออุทิศบุญนี้ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ขออุทิศบุญนี้ให้กับเทวดา เทพยดา ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 15 ชั้นบาดาล ทั้งแสนโกฏิจักรวาล ขออุทิศบุญนี้ให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ของข้าพเจ้า ขออุทิศบุญนี้ ให้กับ มนุษย์ทั้งหลาย ขออุทิศบุญนี้ ให้กับ สัมภเวสี ทั้งหลาย เปรตญาติ ทั้งหลาย ที่เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติ ก็ดี ขออุทิศบุญนี้ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอท่านทั้งหลาย จงอนุโมทนาบุญนี้กับข้าพเจ้า เอาเถิดครับ ท่านทั้งหลายเหล่าใดที่ท่านได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ท่านทั้งหลายเหล่าใดที่ท่านได้สุขขอให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไปเทอญ ขอบุญทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาแล้วจงตามหนุนส่งให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเทอญ สาธุ หากแม้นบารมียังไม่เต็มเพียงใด ขอให้มีสุคติ เป็นที่ไป และได้เกิดในศาสนาพระศรีอาริย์เมตไตร และได้ฟังธรรม สำเร็จมรรคผล ในชาตินั้นด้วยเทอญขึ้นชื่อว่า อับจนเข็ญใจ ไร้ทรัพย์ อับปัญญา คำว่าไม่มี ความจน ความไม่มีโชค ความไม่มีลาภ สรรพเคราะห์ สรรพโศก สรรพโรคสรรพภัย ภยันตรายใดๆ วินาศภัยใดๆ ขอสิ่งเหล่านี้ ที่ขึ้นชื่อดังเอ่ยมาแล้วนี้ อย่าพึงมี พึงบังเกิดกับข้าพเจ้าและครอบครัว และทรัพย์สินของข้าพเจ้า และรถยนต์ของข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบจนถึงอนาคตกาลโน้นเทอญ และขอให้ข้าพเจ้า มีสติ ตามคุ้มครองจิตไม่เผลอไผลปรามาสพระรัตนตรัยทุกเมื่อเทอญ

    คำว่า ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้ ไม่สำเร็จ อย่าพึงมีกับข้าพเจ้า และครอบครัว ของ ข้าพเจ้า และภรรยา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอให้กิจการของข้าพเจ้า และภรรยา และมารดา บิดา ของข้าพเจ้า จงปราศจาก อุปสรรค คิดสิ่งใดขอให้สมความมุ่งมั่นปราถนาทุกประการเทอญ สาธุสาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2018
  16. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    31429469_1616029055181392_4525830429634199552_n.jpg

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  17. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    31429469_1616029055181392_4525830429634199552_n.jpg

    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะครับ
     
  18. ศิษปู่ใหญ่

    ศิษปู่ใหญ่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    4,593
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +19,295
    หลายท่านสงสัยว่าการสวดภาณยักษ์คืออะไร? ของไม่ดีจะเข้าตัวไหม?ลองอ่านนะครับ ถ้าไม่ดีจริงคงไม่จัดทุกปีหรอกครับ!??

    13164333_937102086407429_2848994085687527662_n.jpg


    การสวดภาณยักษ์ เป็นพิธีที่ความเชื่อกันว่า เป็นพิธีที่สามารถขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย และปกป้องคุ้มครองผู้สวดและผู้สดับให้อยู่สุขสวัสดี เนื้อความที่นำมาสวดนั้นมาจากอาฏานาฏิยสูตร ซึ่งมีเนื้อหาว่า ด้วยรักษาในอาฏานาฏานคร บรรยายถึงเหตุการณ์การณ์เข้าเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ของท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา และผู้ดูแลปกครองยักษ์ คนธรรพ์ กุมภัณฑ์ และนาค

    ที่มา
    หากพิจารณาเนื้อหาในอาฏานาฏิยสูตรจะพบว่า มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแจ้งให้พระบรมศาสดาพุทธและบรรดาสาวกในพระพุทธศาสนา ได้ตระหนักว่า ยังมีเหล่ายักษ์ ที่เป็นมิจฉาทิษฐิ ไม่เลื่อมใสในพระธรรมอันสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศไว้ดีแล้ว เพราะพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรม เพื่อเว้นจากฆ่าสัตว์, ลักทรัพย์, ประพฤติผิดในกาม, พูดปด, ดิ่มสุราเมรัย พวกยักษ์เหล่านั้นไม่เว้นจากสิ่งเหล่านี้โดยมากจึงไม่ชอบ

    ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 กราบทูลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า หากพระสาวกของพระผู้มีพระภาคเสพเสนาสนะอันสงัดในป่า อาจถูกยักษ์ชั้นผู้ใหญ่ที่ไม่เลื่อมใสในพระธรรมวินัยของพระผู้มีพระภาครบกวน และทำอันตรายได้ ด้วยเหตุนี้เพื่อคุ้มครองรักษารักษาภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 จึงกราบทูลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ทรงเรียนคาถาบทหนึ่ง เพื่อทำยักษ์เหล่านั้นให้เลื่อมใส พระผู้มีพระภาคทรงรับโดยดุษณีภาพ ท้าวเวสสวัณจึงกล่าวการรักษา ชื่อ อาฏานาฏิยา ซึ่งคำว่า “ รักขา” มีลักษณะเดียวกับ “ปริตร” คือสวดสำหรับคุ้มครองป้องกันภัย

    ทั้งนี้ พระสูตรดังกล่าวมีขนาดยาวมาก ในหนังสือบทสวดมนต์หลวง ส่วนของภาณวาร หรือจุตภาณวาร จึงแบ่งเป็น 2 ภาค คือ ปุพพภาค และปัจฉิมภาค ภาคแรกเรียกว่า “ยกฺขภาควาร” หรือ ภาณยักษ์ส่วนภาคหลังเรียกว่า “พุทฺธภาควาร” หรือภาณพระ แต่ด้วยความที่มีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับยักษ์ และอมนุษย์ ผู้คนทั่วไปจึงนิยมเรียกกันว่าการสวดภาณยักษ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วการสวดภาณยักษ์ เป็นการเรียกโดยสะดวก เพราะในการสวดภาณยักษ์นั้นมีทั้งภาณยักษ์ และภาณพระ รวมกันเป็นอาฏานาฏิยสูตร

    นอกจากนี้ ยังมีการตัดตอนอาฏานาฏิยสูตรในส่วนที่เป็น "รักขา" หรือคาถา หรือพระปริตร ที่ท้าวจาตุมหาราชทั้ง 4 ทรงถวายแด่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระองค์ได้ทรงมีพุทธานุญาตให้พระสงฆ์เรียนรักขานี้ เพื่อป้องกันภยันตรายจากยักษ์และอมนุษย์ ที่เป็นมิจฉาทิษฐิ ต่อมาพระปริตรนี้นิยมสวดกันอย่างกว้างขวาง มีรวมอยู่ในจุลราชปริตร หรือ สวด 7 ตำนาน อันหมายถึงการสวดพระปริตร 7 บท และในมหาราชปริตร หรือสวด 12 ตำนาน อันหมายถึงการสวดพระปริตร 12 บท

    พิธีกรรมการสวด
    ในสุมังคลวิลาสินี อรรถกถาอาฏานาฏิยสูตร ในปาฏิกวรรค ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎก พระอรรถกถาจารย์ได้อธิบายแนวทางการสวดสาธยายอาฏานาฏิยสูตร หรือ รักขา ไว้ในข้อ "ปริตฺตปริกมฺมกถา" ว่า

    "ไม่ควรสวดอาฏานาฏิยสูตรก่อนทีเดียว. ควรสวดพระสูตรเหล่านี้ คือ เมตตาสูตร ธชัคคสูตร รตนสูตร ตลอด ๗ วัน. หากว่าพ้นไปได้ เป็นการดี. หากไม่พ้น ควรสวด อาฏานาฏิยสูตร. ภิกษุผู้สวดอาฏานาฏิยสูตรนั้น ไม่ควรเคี้ยวแป้งหรือเนื้อ ไม่ควรอยู่ในป่าช้า.

    ถามว่า เพราะเหตุไร.

    ตอบว่า พวกอมนุษย์จะได้โอกาส.

    ที่ทำพระปริต ควรทำให้มีหญ้าเขียวชะอุ่ม ปูอาสนะให้เรียบร้อย ณ ที่นั้น แล้วพึงนั่ง. ภิกษุผู้กระทำพระปริต อันชนทั้งหลายนำออกจากวิหารไปสู่เรือน ควรล้อมด้วยเครื่องป้องกันคือกระดาน แล้วพึงนำไป. ไม่ควรนั่งสวดในที่แจ้ง. ภิกษุควรปิดประตูและหน้าต่างแล้วจึงนั่ง แวดล้อมด้วยมือเป็นอาวุธ กระทำเมตตาจิตในเบื้องหน้า แล้วสวด. ควรให้รับสิกขาบทก่อน แล้วสวดพระปริตแก่ผู้ตั้งอยู่ในศีล. แม้อย่างนี้ก็ไม่สามารถจะพ้นได้ ควรนำไปสู่วิหาร ให้นอนบนลานเจดีย์ ให้ทำอาสนบูชา ตามประทีป ปัดกวาดลานเจดีย์ แล้วสวดมงคลกถา. ควรประกาศให้ประชุมทั้งหมด.

    ใกล้วิหารมีด้านไม้ใหญ่ที่สุดอยู่ ควรส่งข่าวไป ณ ที่นั้นว่า หมู่ภิกษุย่อมรอการมาของพวกท่าน. ชื่อว่าการไม่มาในที่ประชุมทั้งหมด จะไม่ได้รับ.

    แต่นั้น ควรถามผู้ที่ถูกอมนุษย์สิงว่า ท่านชื่อไร. เมื่อเขาบอกชื่อแล้ว ควรเรียกชื่อทีเดียว. ท่านควรปล่อยบุคคลชื่อนี้ เพราะส่วนบุญในการบูชาด้วยวัตถุมัดเอาไว้ และของหอมเป็นต้น ส่วนบุญในการบูชาอาสนะ ส่วนบุญในการถวายบิณฑบาตของท่าน หมู่ภิกษุสวดมหามงคลกถาเพื่อประโยชน์แก่บรรณาการของท่าน ด้วยความเคารพในหมู่ภิกษุ ขอท่านจงปล่อยเขาเถิด ดังนี้

    หากอมนุษย์ไม่ปล่อย ควรบอกแก่เทวดาทั้งหลายว่า พวกท่านจงรู้ไว้เถิด อมนุษย์นี้ไม่ทำคำของพวกเรา เราจักกระทำพุทธอาชญาดังนี้.

    ควรสวดพระปริตนี้เป็นบริกรรมของคฤหัสถ์ก่อน. ก็ถ้าภิกษุถูกอมนุษย์สิง ควรล้างอาสนะ แล้วประกาศให้ประชุมกันทั้งหมด ให้ส่วนบุญในการบูชามีของหอมและดอกไม้เป็นต้น แล้วพึงสวดพระปริตนี้เป็นบริกรรมของภิกษุทั้งหลาย."

    การสวดภาณยักษ์ในประเทศไทย
    การสวดภาณยักษ์ในประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อใด แม้จะมีมุขปาฐะเล่าขานถึงที่มากันต่างๆ ออกไป แต่ก็ไม่มีหลักฐานยืนยันได้ แต่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ปรากฏว่า ได้มีการสวดอาฏานาฏิยสูตร หรืออาฏานาฏิยปริตรเพื่อสะเดาะเคราะห์ในพระนคร สมัยกรุงรัตนโกสินทร์เป็นต้น นอกจากนี้ยังปรากฏจารึกอาฏานาฏิยสูตร ในพระอารามหลวงสำคัญอย่างวัดชุมพลนิกายาราม ด้วย

    พระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารีเถระ) อธิบายไว้ว่า ตามประเพณีไทยโบราณ นิยมสวดในพระราชพิธีตรุษหลวง เป็นพระราชพิธีเดือน 4 เรียกว่า พระราชพิธีสัมพัจฉรฉินท์ คือตัดปี หรือสิ้นปี เป็นพระราชพิธีในปลายเดือน 4 ขึ้นเดือน 5 ซึ่งนับว่าเป็นต้นปี (ดู "ตำนานอาฏานาฏิยปริตร")

    พิธีเริ่มโดยเจ้าพนักงานตั้งบาตรนํ้า บาตรทราย จับด้ายมงคลสูตรใส่ลุ้งไว้ในโรงราชพิธีทั้ง 4 ทิศ พระนครและในพระราชนิเวศน์ จากนั้นอัญเชิญ พระพุทธปฏิมากรมาประดิษฐาน อาราธนาพระมหาเถรานุเถร ผลัดเปลี่ยนกันมาจำเริญพระปริตร ในโรงราชพิธีทุกตำบล สิ้นทิวาราตรีสามวาร โดยในระหว่างการเจริญพระปริตรนั้น จะมีพิธีทางพราหมณ์ และทางราชการควบคูกันไปด้วย ที่ภายนอกพระบรมมหาราชวัง และในพื้นที่ต่างๆ ของพระนคร เพื่อเป็นการขจัดปัดเป่าอุปาทว์และภยันตรายทั้งปวง

    ทั้งนี้ พระสงฆ์สวดภาณยักษ์เป็นพระพิธี สำรับละ 4 รูป ผลัดกันสวด พระพิธีนี้ถือว่าเป็นพระสมณศักดิ์ ดำรงตำแหน่งพระพิธีหลวง พระผู้ได้รับแต่งตั้งจะต้องมีคุณสมบัติเป็นพิเศษในการสวด เช่น มีเสียงเพราะ มีความรู้การสวดตามแบบทำนอง แปลว่าสวดเป็น เป็นศิษย์มีครู โดยได้รับการฝึกมาดีแล้ว ซึ่ง พระพิธีสำหรับสวดภาณยักษ์ต้องมีคุณสมบัติพิเศษเพิ่มอีกประการหนึ่ง คือเสียงดัง พระพิธีนี้ไม่มีทุกวัด แม้จะเป็นพระอารามหลวง ปกติจะมีเฉพาะอารามหลวงที่สำคัญ นอกจากนี้ พระราชพิธีซึ่งมีการสวดอาฏานาฏิยสูตร หรืออาฏานาฏิยปริตรนี้ แต่เดิมมีพระราชนิยมจัดทำที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทและพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง แต่ปัจจุบันพระราชพิธีนี้ได้ยกเลิกไปแล้ว

    อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าการสวดภาณยักษ์ได้แพร่ไปยังวัดต่างๆ ทั่วประเทศไม่ว่าจะเป็นอารามหลวงหรือไม่ก็ตาม (ดู "ตำนานอาฏานาฏิยปริตร") ส่วนใหญ่มักสวดด้วยสำเนียงที่ดุดัน แห้งแหบโหยหวนบ้าง เป็นการสวดทำนองขู่ตวาดภูตผีปีศาจ ซึ่งเป็นลักษณะการสวดเช่นเดียวที่ปรากฏในพระราชพิธี ทว่า ในระดับพระราชพิธีนั้น ต่อมาได้ทรงโปรดฯ ให้นิมนต์พระอีกสำรับหนึ่ง สวดภาณพระ ด้วยทำนองสรภัญญะที่ไพเราะชื่นใจขึ้นเป็นคู่กัน ทั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญ และ กำลังใจแก่ประชาราษฎร์ ว่าได้ขับไล่ภัยอันตรายสิ่งร้าย และ อวยพรชัยสิริมงคล ในกาลเวลาสำคัญแห่งการเปลี่ยนปี

    ที่มา https://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B…

    หลวงปู่บอกว่า พิธีสวดมหาราช ผู้ที่เข้าพิธีตั้งจิตดีๆ ทำการใหญ่น้อยสำเร็จได้ดีทุกประการ
     
  19. วิทยามา

    วิทยามา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2016
    โพสต์:
    4,369
    ค่าพลัง:
    +8,802
    วันนี้โอนเงินร่วมบุญ

    ร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร




    จำนวนเงิน 20 บาทครับ
    ข้าพเจ้า นายวิทยา - วิไลวรรณ มาสุปรีดิ์

    ขอร่วมบุญ
    ร่วมเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร


    ขออธิษธาน ขออุทิศบุญทั้งหมดที่บำเพ็ญมาแล้วนี้ ให้เจ้ากรรมนายเวร ขอชำระหนี้สงส์ ขออุทิศให้ ท่านพระยายมราช ขอท่านพระยายมราช โปรดจงเป็นพยาน ในการบุญการกุศลนี้เทอญ ขอกำลังบุญทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้พำเพ็ญมาแล้วในอเนกชาติ ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล ภาวนา สร้างพระไตรปิฎก ถวายสังฆทาน ทำบุญตักบาตร จงมารวมกัน ขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดนี้ ให้กับเจ้ากรรมนายเวร ให้กับนายนิรยบาลทุกตน ให้กับท่านพระยายมราช ขอให้ท่านพระยายมราชโปรดจงเป็นพยานในการบุญกุศลนี้ของข้าพเจ้า ขออุทิศบุญนี้ให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ขออุทิศบุญนี้ให้กับเทวดา เทพยดา ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 15 ชั้นบาดาล ทั้งแสนโกฏิจักรวาล ขออุทิศบุญนี้ให้กับบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ ของข้าพเจ้า ขออุทิศบุญนี้ ให้กับ มนุษย์ทั้งหลาย ขออุทิศบุญนี้ ให้กับ สัมภเวสี ทั้งหลาย เปรตญาติ ทั้งหลาย ที่เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติ ก็ดี ขออุทิศบุญนี้ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอท่านทั้งหลาย จงอนุโมทนาบุญนี้กับข้าพเจ้า เอาเถิดครับ ท่านทั้งหลายเหล่าใดที่ท่านได้ทุกข์ ขอให้พ้นจากทุกข์ท่านทั้งหลายเหล่าใดที่ท่านได้สุขขอให้ได้สุขยิ่งๆขึ้นไปเทอญ ขอบุญทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมาแล้วจงตามหนุนส่งให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันด้วยเทอญ สาธุ หากแม้นบารมียังไม่เต็มเพียงใด ขอให้มีสุคติ เป็นที่ไป และได้เกิดในศาสนาพระศรีอาริย์เมตไตร และได้ฟังธรรม สำเร็จมรรคผล ในชาตินั้นด้วยเทอญขึ้นชื่อว่า อับจนเข็ญใจ ไร้ทรัพย์ อับปัญญา คำว่าไม่มี ความจน ความไม่มีโชค ความไม่มีลาภ สรรพเคราะห์ สรรพโศก สรรพโรคสรรพภัย ภยันตรายใดๆ วินาศภัยใดๆ ขอสิ่งเหล่านี้ ที่ขึ้นชื่อดังเอ่ยมาแล้วนี้ อย่าพึงมี พึงบังเกิดกับข้าพเจ้าและครอบครัว และทรัพย์สินของข้าพเจ้า และรถยนต์ของข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตราบจนถึงอนาคตกาลโน้นเทอญ และขอให้ข้าพเจ้า มีสติ ตามคุ้มครองจิตไม่เผลอไผลปรามาสพระรัตนตรัยทุกเมื่อเทอญ

    คำว่า ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้ ไม่สำเร็จ อย่าพึงมีกับข้าพเจ้า และครอบครัว ของ ข้าพเจ้า และภรรยา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และขอให้กิจการของข้าพเจ้า และภรรยา และมารดา บิดา ของข้าพเจ้า จงปราศจาก อุปสรรค คิดสิ่งใดขอให้สมความมุ่งมั่นปราถนาทุกประการเทอญ สาธุสาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. peekmaii

    peekmaii เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2014
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +890
    ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพ เททองหล่อสมเด็จพระพุทธนิมิตรพิชิตมาร (สมเด็จองค์ปฐมบรมจักรพรรดิ) หน้าตัก ๓๐นิ้ว และท้าวจตุโลกบาล หรือท้าวจาตุมหาราชทั้ง๔ (ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวธตรฐ ท้าววิรูปักษ์ ท้าววิรุฬหก) สูง ๒.๐๙เมตร เป็นทองเหลืองขนาดเเท่งกลาง ๕๐๐บาท

    โอนให้แล้วที่ ธนาคารไทยพานิชย์
    ลบ.๕๙๑-๒๔๙๔๓๕-๓
    ชบ.พระธนพล ธนพโล
    เมื่อวันที่ 23/05/61 เวลา 12.44 น.

    ขอร่วมอนุโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วย ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...