ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย raming2555, 4 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    เอางั้นเลยน่ะคะคุณราคุฯ

    :eek::D
     
  2. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,333
    ค่าพลัง:
    +4,793
    งานหล่อพระ วัดกระดาน 31/3/61
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    สร้างถนนแบบนี้ได้ไงหว่าที่เมืองไทย สัญลักษณ์หรือป้ายบอกอะไรก็ไม่มี งงจริง ใครขับมาไม่เห็นก็เหยียบตอแน่นอน ไอ้คนที่เกี่ยวข้องกับงานรับเหมานี้จะโดนกรรมบ้างไม๊น๊อ? ประมาททำให้คนใช้ถนนเดือดร้อน อ่านข่าวจากแหม่มโพธิ์ดำ เส้นนี้เป็นถนนทางสุราษฏร์ธานีว่างั้น

    อ่านเรื่องคนคุณน้อง Devotee ก็นึกถึงคนไทยที่ออสเตรเลีย คนไทยทำธุรกิจที่นี่ก็มักมีของมาเรียกลูกค้าทั้งนั้นนะ ไม่ว่าจะร้านนวดร้านอาหาร ฯลฯ สมัยพี่ทำงานร้านนวดไทย เจ้าของร้านก็เอาของอะไรมั่งไม่รู้มาวางตั้งเรียกลูกค้า ทั้งพระ ทั้งพ่อปู่ชีวก อันนี้พอเข้าใจเราไหว้ท่านอุ่นใจสบายใจ แต่ของอย่างอื่นนี่สิ ไม่รู้มีอะไรบ้าง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ประเทศไทยไม่มีกระทรวงการก่อสร้างเหมือนประเทศอื่นๆ
    และไม่มีหน่วยงานมารตฐานก่อสร้างแบบที่เป็นอิสระ
    ที่ผู้รับเหมาก่อสร้างจะใช้ไปอ้างอิงเพื่อเป็นเกณฑ์ได้
    มีแต่ วสท.ซึ่งก็ออกแบบมารตฐานมา หรือมีมารตฐาน
    กรมทางหลวง แต่ก็ยังอิงของเมืองนอกอยู่
    ไม่ว่าฝั่งไหน มีที่ สิงค์กะโปโล ก็พยายามทำของตัวเองบ้าง
    ส่วนในไทยนั้น
    กระทรวง ต่างๆ จะหาที่ปรึกษาและผู้รับเหมาเองแยกกันโดดๆ
    ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดระบบมารตราฐานที่มีคุณภาพจึงเป็นไปได้น้อยมาก
    เพราะด้วยคุณภาพของแรงงานเป็นอีกเรื่องที่มีส่วนมาก
    เช่น งานถนนในออสเตฯ นั้น ชนิดที่ว่า เรียบกริ๊บ ไม่ได้ใช้ช่าง
    มาปาดหน้าแบบบ้านเราๆหรอก บ้านเราถ้าได้ขุด ไม่รู้เป็นไร
    ถนนไม่เคยกลับมาเหมือนเดิมซักที มัวไปเน้นแต่ ทางข้าม
    ทางลอด ซึ่งก็ทำตามสากลอีกเช่นเคยนั่นหละ..
    ยกว่าจะเจอบริษัทที่ปรึกษา ที่ใช้เกณฑ์มารตฐานแบบต่างๆประเทศจริงๆ
    ใช้ระบบ FIDIC อะไรทำนองนี้ ซึ่งก็มีการนำมาใช้อยู่
    ในพวกโครงการยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย รถไฟที่เห็นๆลอยๆอยู่ก็ใช้..
    ทั่วๆไป ก็อิง วสท.ไปก่อน มารตฐานกรมทางฯไปก่อน
    หน่วยวัด ไม่ฟุตปอนด์ ก็เมตร มั่วๆกันไป
    ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่ฝีมือของผู้ควบคุมหน้างานเป็นหลัก....
    ปล.เห็นข่าวถนน เข้าค้อไปพิษณุโลกไหม
    ไม่กี่ปี่ ก็พังแล้วนั่นหละ thailand only
    แล้วบอกว่า ปีก่อนฝนตกมาก (ปีไหนฝนไม่ตกมากวะ
    พูดง่ายๆไม่เคยโทษตัวเอง)
    ก็ยอมรับกันไป ก็ได้งบมาซ่อมแซมกันไป
    อยู่แบบไทยๆ ก็ต้องยอมรับกันไปครับ
     
  5. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    รบกวนถามป๋านบเกี่ยวกับพ่อของเพื่อนค่ะ พ่อแกเพิ่งเสียจากโรคหัวใจ ตอนใกล้เสียอาการเหมือนไก่โดนเชือด แกเล่าให้ฟังว่าพ่อชอบฆ่าไก่ แกอยากทราบว่าพ่อแกเสียครั้งนี้เป็นไปตามอายุขัยรึปล่าว? หรือว่าเกี่ยวกับการสร้างเมรุและประตูที่หมู่บ้านที่แกอยู่? หรือเายเพราะการรักษาของทีมหมอที่ไท่ถูกต้อง? เพราะตอนที่ไปรพ.ยังสามารถพูดคุยช่วยเหลือตัวเองได้อยู่เพียงแต่เหนื่อนจากทำงานหนักมาก แกเล่าว่าหมู่บ้านที่แกอยู่มีคนเสียติดๆกันหลังจากเค้าทำพิธีหรืออะไรสักอย่างน่ะค่ะ
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ตอนใกล้ตาย สิ่งที่เคยทำมาจะขึ้นมาในลักษณะ
    ที่เป็นอุคหนิมิตให้เห็นอยู่แล้วปกตินะ...
    คุณพ่อที่เสีย ปอดซ้ายแกก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้วนะ
    และก็หัวใจมันพังไปเองนะ คือ มันมีตัวธาตุเพียง
    พอที่จะหนุนสร้างให้เป็นหัวใจได้เหมือนปกตินั่นเอง
    คือพวกธาตุที่เป็นหัวใจ มันหายไปเลยครึ่งหนึ่ง ณ เวลานั้น
    (หายไปเลย คือ ธาตุส่วนที่หายมันกลับคืนสภาพเดิม
    ที่เป็นจุดกำเนิดธาตุ). ถ้าสงสัยว่าเป็นเพราะฝีมือหมอหรือเปล่า ?

    ลองย้อนไปคนก่อนหน้าที่เสียชีวิตดูเล่นๆ ๓ คน
    คนก่อนคุณพ่อ ก็เป็นเพราะตับอ่อน ที่เหลือก็พวก พวกลำไส้
    นั่นก็เพราะมันพัง ไม่ปรากฏกว่า คุณพ่อเพื่อน
    และอีก ๓ คนที่ตายก่อนหน้า มีเส้นแกนพลังงานอะไร
    หลงเหลืออยู่แล้วนะ มันพอบอกได้ว่า ตามตามอายุขัยนั่นหละ...
    ปกติ ใครก็ตามที่ตายก่อนอายุไข แกนพลังงานหน้าและหลัง
    มันจะยังอยู่. คนที่ใกล้จะสิ้นอายุไข แกนพลังงานจะล้ม
    มาขนานกับพื้น ส่วนคนที่ไม่มีหลงเหลืออยู่คือ ไปตามอายุไข
    ส่วนนี้เล่าให้ฟังเฉยๆ....


    แต่ว่าาาาาาาา.....ไอ้ต่ำแหน่งที่สร้างเมรุกับประตูหมู่บ้าน
    ตรงนี้ มันเป็นคล้ายๆประตูมิตินะครับ ที่มีพลังงาน
    ผ่านเข้าออกเป็นประจำ (คือมันเชื่อมระหว่าง
    พลังงานด้านล่างกับพลังงานที่อยู่ข้างบน)
    พูดง่ายๆ เหมือนประตูผีผ่านนั่นหละ....
    ปกติแล้ว เค้าจะสร้าง
    เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆปิดทับไว้ เหมือนที่วัดธรรมอุทยาน
    สร้างพระองค์ใหญ่ๆนั่นหละ...
    เพราะถ้าต่ำแหน่งแบบนี้ เราหรือใครเผลอ
    ไปนอน อาจจะหลับไปเลยไม่ฟื้นได้ก็มีให้เห็น
    ในประเทศไทย อย่างเบสิคๆ ก็จะป่วยเป็นโรค
    ที่ส่งผลให้เสียชีวิตได้ เพราะว่ามันมีการเปลี่ยน
    แปลงของพลังงานร้อนเย็นบ่อยกว่า พื้นโลก
    ปกติทั่วๆไป ประเด็นนี้หละ ที่เป็นเหตุให้ส่วนตัว
    เคยขายที่ดินทิ้งไป ๕๕๕๕ (จะพูดเพื่อ ?)
    คือถ้าเป็นส่วนตัวพาใครไปนอน นอกจากจะป่วยง่าย
    อาจจะมีเหตุให้ทะเลาะกันได้ง่ายๆด้วย...

    ดังนั้นคนที่จะรับช่วงไป ต้องอาศัยกำลังของพระที่
    เป็นพระโพธิฯเข้ามาช่วยหนุน จะพอแก้ปัญหาได้

    ถ้าเค้าทำพิธีจริง แสดงว่า พิธีนั้นมันเป็นการไปเปิด
    ประตูมิติให้มีการเข้าออกของดวงวิญญาน...
    ให้มันเป็นแบบถาวระ...งงไหม...

    คืองี้ วิญญานต่างภพเวลาเค้าจะมาไหว้พระองค์ใหญ่
    ตามวัด พวกนี้เค้าจะมีช่องประตูของเค้า
    ถึงเวลาก็จะผ่านช่องนี้ออกมา เหมือนกระโดดลงมา
    ถ้าระดับพระฯเก่งๆ ท่านจะลอยออกมา....
    และในเวลาหลังจากที่เค้าเสร็จธุระแล้วประตูนี้มันจะปิด

    แต่พิธีกรรมที่เค้าสร้าง อาจจะไปทำให้ประตูตรงนี้
    มันเปิดค้างตลอดเวลา ซึ่งปกติเค้าจะไม่มีใครทำกันนั่นเอง....

    ปล.แค่เพียงแต่เล่าให้ฟัง คนเป็นโรคหัวใจ
    เอาอาการ กิริยาก่อนหน้าจะเสียชีวิตมาใช้เป็น
    ตัวชี้วัดไม่ได้นะ....บางคนเหมือนปกติทั่วไป
    เดินๆอยู่ล้มไปเลยก็มี ประมาณนี้....เครเนาะ
     
  7. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    ขอบคุณค่ะป๋า เข้าใจแล้ว พูดถึงว่าป่าธรรมอุทยานสมัยเป็นสาวซำน้อยไปนอนวัดก็ไปนั่งๆเดินๆตรงหลวงปู่ใหญ่กับเชิงตะกอนเก่านั่นหล่ะ เข้าใจแล้วว่าบารมีหลวพ่อกล้วยท่านเยอะมากเพราะในวัดมีศพ(ตายผิดธรรมชาติ)มาฝังเยอะขนาดนั้นหนูยังนอนหลับได้สบายมาก แถมยังเคยนอนกลางวันที่ห้องพักอีก ความขี้เกียจมาครอบงำเยอะจริงๆ ประตูมิติท่านปิดมิดไปเลยจริงๆ
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    พูดถึงวัดป่าธรรมธรรมอุทยานแล้ว ทำให้พอนึกเรื่อง
    ในอดีตได้(สงสัยเริ่มจิชราภาพแล้วตรู เริ่มย้อนอดีตแระ ๕๕๕)...
    ครั้งแรกที่ได้ยิน ชื่อวัดนี้ ก็คือ อาจารย์ที่เป็นพราหม์
    ท่านหนึ่งซึ่งปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว..
    ท่านนี้นี่หละ ที่เคยเล่าให้ฟังว่า รู้ไหมว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง
    เราก็ ฟังๆเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร และท่านก็บอกว่า
    ถ้าอยากคุยกับเค้าก็ให้ฝึกนั่งสมาธิเอานะ ๕๕๕๕๕๕
    ตอนนั้นงงมาก ที่งงเพราะท่านพูดเหมือนง่ายมาก
    ซึ่งตอนนั้น ยังโครตติดหล่อ จีบสาวอยู่เลย ๕๕๕
    สมาธงสมาธิอะไร ไม่สนหรอก สนใจแต่
    ว่าจะมีสาวอย่างไร ในเวลาเดียวกัน ให้ได้หลายๆคน
    หมายถึงตอนนั่นนะ ไม่ใช่ตอนนี้....


    ท่านเล่าให้ฟังว่า ถ้าจะฝึกสมาธิให้ไปฝึกที่วัดนี้นะ
    แต่ให้สวมแต่ชุดขาวนะ และที่นั้นเค้าไม่ชอบคนทานเหล้า...
    ก็เลยทำไมต้องชุดขาวครับ ท่านบอกว่า เค้ายอมอย่างนั้น
    และถ้าทำตัวไม่ดี ระวังลูกมะพร้าวตกนะ
    ก็เลยถามว่า วัดนั้นปลูกมะพร้าวเยอะหรือครับ
    ในความเป็นจริงคือไม่มีซักต้น...จบ

    อีกครั้งหนึ่ง เคยชวนรุ่นน้องไปทำบุญสังฆทานที่วัด
    จำได้ว่า ตอนนั้น หลวงปู่ใหญ่ยังไม่มีหลังคานะ...
    ตอนนั้นไปพบ พระอยู่สี่ท่าน แต่ที่สังเกตุได้ชัด
    นอกเจ้าท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันก็
    ใบหูท่านทั้ง ๓ จะใหญ่และยากกว่าปกติ
    ภายหลังมาทราบว่า ๒ ท่านในนี้
    ตอนนี้แยกออกไปอยู่ที่อื่นๆกลายเป็นเกจิไปแล้ว
    คือสมัยก่อน ช่วงหนึ่งท่านเคยสอนสมาธิและเข้มมาก
    ทั้ง ๓ ท่านนี้ก็ทันในช่วงที่ หลวงพ่อท่านยังสอนอยู่

    แต่ปัจจุบันไม่สอนแล้วนะ ยกเว้นบางกรณี
    แต่จะเน้นเรื่องเจริญสติเป็นหลัก...
    เพราะท่านบอกว่า คนเราถ้ายังไม่ถึงวาระ
    ต่อให้พยายามอย่างไร บังคับอย่างไรก็จะไม่ทำประมาณนี้

    คือพบว่า มีการส่งบางท่านมาดูต้นทาง เพื่อดูว่า
    หลวงพ่อท่านจะมาตอนไหน แล้วทำเป็นลากขา
    ประหนึ่งว่า กำลังเดินจงกลมอยู่ ๕๕๕๕๕
    ช่างคิดได้เนาะ ทำยังทำกับท่านจะไม่รู้ ๕๕๕๕๕
    นึกแล้วขำๆหลวงพี่สมัยก่อน...๕๕ ช่างคิดได้...

    อีกเรื่องก็คือ เรื่อง อสูรกาย ที่มาอาละวาด ไม่เว้นแม้พระ
    หรือฆารวาส เรียกว่า กลางๆวันแสกๆก็ไม่เว้น...
    คือประมาณว่า นอนๆอยู่กลางวันเนี่ย มาเยียบหน้าอก
    ปรากฏกายให้เห็นกันที่เดียว

    แห๋มๆ นึกแล้ว
    ถ้าเอาตัวเอง ณ ปัจจุบันนี้ แล้วสามารถย้อน
    กลับไปอยู่ในวัดช่วงที่อสูรกาย
    อาละวาดแบบนั้น จะได้รู้กันไปเลย
    ว่าไผเป้นไผ(โม้ฉิบหายฟาย๕๕๕ ด่าตัวเอง)


    ตอนนั้น หลวงพ่อ กำลังอยู่ในช่วงสร้างหลวงปู่ใหญ่
    ที่เขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ อยู่. จึงได้มีความจำเป็นที่จะต้อง
    ปราบปราม พูดป่าน ตำรวจสายกองปราบ ๕๕๕๕

    ก็ได้ฟังเรื่องนี้ สนุกดี เพราะได้มีโอกาส รู้จักและคุยเรื่อง
    นี้กับ ๓ ใน ๔ ท่านที่ร่วมกับปราบปราม...
    จับลงไว้ในหมอ หม้อหนึ่งพอรู้ว่าอยู่ที่ไหน
    แต่อีกหม้อ ท่านไม่ยอมบอก ต่อไปนี่หละปัญหา ๕๕๕๕
    ไม่บอกก็พอรู้ว่า ใกล้อย่างคาดไม่ถึง ใกล้ๆกุฎิท่านนั่นหละ
    ๕๕๕๕ นี่ก็โม้อีกแระ....

    จำได้วันแรก ที่พระมารดาพาเข้าไปวัด เพื่อที่จะบวช...
    คือตอนนั้น พึ่งจบ ป.โท ก็เลยมานึกว่า ถ้าจะบวชตอน
    ที่ทำงานคงยาก เพราะคิดและพูดว่าจะบวช มา ๑๐ ปี
    แล้ว มีจังหวะว่าง เด่วตัดสินใจจะบวชแระ มีเหตุไม่ไห้
    ไม่ได้บวชตลอด ไม่ใช่เรื่องอะไร มีแต่เรื่อง ผู้หญิงเข้ามา
    ชีวิตไม่ส้นเท้าอะไร มีแต่เรื่องผู้หญิง พูดแล้ว อยากไป
    ดาวที่มีแต่สาวสวยๆ เอ้ย ! ไม่ใช่ ไปอยู่ป่าคนเดียว
    จะได้ไม่ต้องเจอใครเลย คุยกับ นก กับงู กับแมลงไปวันๆ
    คงสนุกไปอีกแบบ

    เคยได้ยิน จะเป็นคนดี(หมายถึงไปบวช) ต้องฝืน
    เลยตัดสินใจเด็ดขาด ลบเบอร์โทรศัพท์ ญ ที่มีในเครื่อง
    ทุกเบอร์ ที่เคยเจอกันเคยเที่ยวกันตอนนั้น
    ลบไปลบมา พบว่า มี ๕๓ เบอร์ ไม่ได้ไบ้หวยนะ
    แต่ถ้าออกช่วยไม่ได้...๕๕๕ โห้เลยมานึก ชีวิตตรู
    อะไรช่างทำตัวอะไรแบบนี้วะ......ช่างมันวะ...
    เลยได้โอกาสบวชซักที ....
    พระมารดาเรียกหลวงพ่อ ว่าหลวงพี่
    เรียกหลวงตาว่า หลวงพ่อ ๕๕๕๕


    จำได้ พอเข้าไปวัด พระมารดาไปเจอพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง
    กำลังขุดหลุมเพื่อ
    ทำที่เก็บน้ำอยู่ พระมารดาตะโกนถามหลวงพี่ท่าานหนึ่งว่า
    หลวงพี่ ว่าจะพาลูกชาย
    มาหาหลวงพ่อกล้วย. พระท่านนั่นตะโกนกลับมา
    ว่า อาตมานี่หละหลวงกล้วย
    ท่านบอกว่า มีหยัง หรือ มาทำอะไร จำไม่ได้
    เลยบอกว่า จะบวชและจะมาขอจำวัดที่นี้ครับ
    ท่านก็ถามกลับมาว่า อายุเท่าไรแล้ว...ก็บอกไปว่า ๒๕ครับ (โกหก ล้อเล่น)
    ท่านก็ อือ ได้แต่ไม่มีกุฏิว่างนะ
    ไปกางเน้นนอนที่ ศาลาเมรเผาศพ เอาเด้อ...
    โอ้ พอได้ยิน ดังนี้ รู้สึกว่า ชีวิตตื่นเต้นเป็นพิเศษ....

    ปกติก่อนจะบวช ท่านจะให้ห่มขาวมา ช่วยถือของ
    เวลาพระท่านบิณฑบาตรอยู่ แต่วันนั้น มีเหตุให้ไม่ได้
    ไปนอนค้างที่วัด และก็ตื่นสาย ไปอีกทีตอนเย็น
    ปรากฏว่า กุฏิ ๔ ห้องมีหลวงพี่ท่านหนึ่ง สึกพอดี
    องค์นี้หลวงพ่อ บอกว่ ยังไม่ต้องบวชหรอก บวชเด่วก็สึก
    แต่ยืนยันเป็นหมั่นเป็นหมายว่าจะบวชไม่ยอมสึกแน่
    ผ่านมาได้ ๑ สัปดาห์ สึกเฉยเลย ๕๕๕๕

    เป็นที่มาของการได้เข้าไป พอสัมผัสรับรู้เรื่อง
    แม่ชีลอยน้ำ(เรียกเอง) กับ อีกท่านที่หลวงพ่อเรียกว่า
    ว่า ตาแก่ ที่ท่านอยู่มาก่อนที่หลวงพ่อจะมาอยู่วัดนี้
    ท่านนี้ เป็นฆารวาส สวมชุดขาว ผอมๆผิวคล้ำหน่อย
    ท่านจะมาสอนสมาธิพระ..แต่จะสอนองค์ไหนไม่สามารถ
    ทราบได้ ว่าท่านจะสอนใครนะครับ...
    กับหลายเรื่องที่เหนือวิสัย มากไปที่ไม่สามารถจะเล่า
    ให้ฟังได้อีกหลายเรื่อง......

    ที่ประทับใจคือ ฝูงแมว นับโหล ที่ชอบตามไป
    เวลาจะไปนั่งสมาธิที่ พระปางลีลา เหมือนมีลูกน้อง ๕๕๕

    ปล. จุดเริ่มต้นของ ช ชื่อ Nopphakan ก็ที่นี้หละ...
    ประมาณนี้ โม้มากแระ...
     
  9. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    ที่มาของป๋าน่าสนใจเนาะ 555

    Property 2 หลังที่เคยให้ป๋าสแกนก็มีอันคลาดแคล้ว วันนี้แกไปเจอหม่องใหม่บาดนี่ รบกวนสแกนให้ทีค่ะ 46 Anzac avenue, Koroit, Victoria เป็นที่พักของพวกนักบวชกับพวกแม่ชีสมัยก่อน ด้านข้างก็เป็นโบสถ์ สร้างสมัยปี คศ 1800 ทั้งเก่าและดูขลัง ถ้าจะซื้อสำหรับอยู่อาศัยหรือทำเป็นอพาร์ตเมนต์เล็กๆให้คนพักชั่วคราวจะพอได้ไม๊คะ? พ่อบ้านบอกชอบความสงบเงียบ แต่หนูดูแล้วทางเข้าคล้ายในหนังผีฝาหรั่ง มีไม้กางเขนสองอันกับบ้านเลขที่ตรงประตูทางเข้าเลยน่ากลัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    จะไปหา พระครูปลัดพอดี
    ถ้าเจอจะถามเพื่อ
    มีอะไรฝากถามอีกไหม
     
  11. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ชอบฝูงนายท่านแมวทูลหัวของบ่าว เมี้ยว

    รูปของขุ่นพี่ทันย่านี่ใช่บ้านคนรึเจ้าคะ?
    เหตุใดดูเย็นยะเยียบวังเวงวิเหวงโหวงเยี่ยงนี้
    ดูเหมือนว่าถ้าไปเหยียบจะโดนดึงดูดทะลุมิติไปป่ะกันแหมกับบาทหลวงแม่ชียุคนั้นก็ไม่ปาน
    (พูดไปเรื่อย555)
    แค่เห็นก็หนาวแปลกๆ
    อย่าว่าอิน้องเด้อค่า
    อิน้องโดนแอคแทคยอดอกกับขุ่นท่านทางฝรั่งมาแล้ว
    เลยย่านฝังใจทีเดียว
     
  12. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    หลังไมค์ที่ข้อความในเวปนะคะที่จะฝากถาม อิอิ
     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    มีโอกาสได้พบ ดีหน่อยได้คิวแรกๆ
    ก็ได้ประสบการณ์ ความรู้เพิ่มเติม
    จากการเล่นสดต่อหน้า ก็ถือว่าสนุกไปอีกแบบ
    เรื่องอื่นๆก็ถามเผื่อให้แล้ว
    แต่ไม่ทั้งหมด
    ปล.ง่วงจัง...
     
  14. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    ประทับใจ แมวเหมือนกันค่ะ ในครั้งแรกที่ได้ไปวัดนี้ หลวงพ่อกล้วยเมตตาให้แม่ชีช่วยสอน ช่วยแนะนำ แม่ชีบอกมาช่วงเย็นๆจะได้แนะนำให้ได้ วันนั้นเลยไปรอท่านที่ศาลานั่งสมาธิ (พึ่งรู้รอบ2ว่าใกล้กุฏิหลวงพ่อกล้วย) ก็ไปนั่งขัดสมาธิรอ คนอื่นๆก็นั่งสมาธิกันไป ราว 4-5คน ซักพัก อะไรหว่า?? ขึ้นมานั่งบนตัก ทนไม่ไหวเลยลืมตามอง น้องเหมียวตัวอ้วนนี่เอง (^_^) ก็เลยปล่อยเขานั่งไป เขาก็นั่งบนตักจนแม่ชีมา (เริ่มมืดแล้ว ) ก็เลยเปลี่ยนอริยาบท เขาก็นั่งอยู่ข้างๆ แม่ชีให้ลองไปเดินในป่าช้าดู ให้ไฟฉายไป 1กระบอก ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก ก็ออกปากชวนแมวไป เราก็เดินดุ่มๆ ไปยืนมองนั่นนี่โน่น เห็นใจตัวเองชัดดี จนนึกขึ้นได้ว่า แม่ชีให้มานานเท่าไหร่ (ว๊ากกก) ก็เลยคิดในใจว่า ซัก ชม.แล้วกัน (5555) มืดสนิทซิทีนี้ ยืนนานเท่าไหร่ไม่รู้ ชักหวาดหวั่น มองไปรอบๆ เห็นแมวตัวเดิมพาเพื่อนแมวอีกตัว มายืนให้เห็น ก็นึกในใจว่า แมวมันก็ไม่กลัวผี แล้วเราจะกลัวทำไม เลยทำใจดีสู้เสือไป ซักพัก กะคงนานพอได้แล้ว เลยเดินกลับไปหาแม่ชี ก็บอกเล่าให้แม่ชีฟัง แม่ชีเลยให้ไปยืนใหม่ อีกรอบ คราวนี้แม่ชีบอก ไปเดินแค่ 3 รอบพอ ไม่ต้องไปนานแบบนั้น (นึกในใจว่าถ้าแม่ชีบอกแต่ต้น ก็คงรีบกลับแล้ว) ก็ไปเดินอีกรอบ แมวเขาก็เหมือนรู้ว่าเราจะมาอีก ก็มาถึงเห็นเขา แล้วเราก็เดินๆ ไม่ได้สนใจอะไร พอกลับมาที่แม่ชี ซักพักเจ้าเหมียวก็ตามมานั่งที่ตักอีก (มาตัวเดียว ) แม่ชีว่า ปกติเขาไม่ไปเดินที่ป่าช้านะ เอาเขาไปเลี้ยงด้วยซิ (5555++ ตอนนั้นไม่เคยคิดเลี้ยงแมว แต่ก็ชอบเจ้าตัวนี้) แม่ชีเขาให้รอเอาหนังสือซีดีไปด้วย เลยรออยู่กับเจ้าแมว 2 คน ก็ขอบคุณแมวใหญ่เลย ที่มาอยู่เป็นเพื่อนกัน เสียดายรอบ 2 แวะไป ไม่พบแมวซักตัว
     
  15. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    ว่าแล้วก็สิไปหาตำราอธิบายสติปัฐฐาน 4 ภาคภาษาอังกฤษมาคุยกะพ่อบ้าน ขอบคุณป๋ามากๆค่า

    พี่ที่พ่อเค้าเสียเค้าฝากถามมาอีกนิดนึงว่า อธิษฐานให้พ่อมาหาว่าตายไปแล้วไปสบายหรือเป็นยังไงบ้าง ปรากฏว่าแกฝันเห็นพ่อแกใส่หมวกกะแว่นดำที่ชอบแต่ทำไมเห็นหน้าพ่อดป็นลิง พี่เค้าเลยงงว่าพ่อไปสบายรึปล่าวกรือไปภูมิไหนค่ะ?
    และอีกคำถาม พี่แกเคยทำแท้งแกก็ทำบุญอุทิศให้ลูกตลอด แกไปหาหมอดูไพ่ยิปซีที่ไทย เค้าทักมาว่าวิญญาณลูกแกได้บุญไปเยอะแล้ว แต่เค้าไม่ชอบที่แกทำบุญให้ทีไรก็เรียกมารับแล้วรับอีกเลยไม่ได้ไปไหนซักที อันนี้พี่เค้างงว่ามีอย่างงี้ด้วยเหรอ? แล้วต้องทำยังไงคะ?
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    ความจริงที่มาหาได้ กรณีคุณพ่อเพื่อน
    ถ้าไม่ได้เห็นกายมนุษย์ปกติหรือแต่งตัวดีกว่า
    ไม่ว่ากรณีจะเป็นญาติใคร ก็ให้ทำบุญอุทิศส่วน
    กุศลซ้ำไปอีก อุทิศตรงด้วยพระพุทธรูปสลักชื่อเลย
    จะดี...ตอนเป็นคนทรงจิ มีปัญหาในเรื่องของการ
    ใช้ภาษา เหตุผล ที่ส่งผลต่อเรื่องการพูดจา นั่นหละ


    ส่วนอีกกรณี คำว่าไม่ได้ไปไหนนั้น
    มี ๒ แบบคือ ยังไม่ถึงวาระที่จะเปลี่ยนภูมิของเค้า
    กับอีกอย่าง คือ จิตคุณพี่เองนั่นหละที่ยังไประลึก
    ถึงเค้าอยู่ เคสนี้คือกรณีอย่างหลัง

    ตอนอุทิศส่วนกุศล ให้ทำการอุทิศส่วนกุศลให้
    ดวงจิตน้อง นี้ และไม่ต้องไปบอกให้เค้ามารับ
    เค้าจะรับไม่รับมันเรื่องของเค้า
    คือ ทำบุญแล้ว ขึ้นต้นด้วยพระรัตนตรัย
    แล้วบอก อุทิศให้ น้อง A จบ
    ให้แล้วก็แล้วไป ไม่ต้องไปสน
    และไม่ต้องไปพูดอะไร ว่าขอให้เค้าเป็นโน้นนี่นั้น
    ไม่ต้องพูด...

    การไปคาดไปหวังไปมากพิธีรีตรองในกรณี
    มันจะสร้างให้ตัวจิตยังมีกระแสสัมผัสผูกพันธ์
    กับเค้าอย่างที่คาดไม่ถึงนั่นหละ....

    สติปัฏฐาน มีพื้นฐาน มาจากการเจริญสติ
    ให้ต่อเนื่อง จนกระทั่งจิตแยกรูปแยกนามได้นั่นหละ
    ถ้าจะเร็วก็ให้ เดินจงกลมสลับนั่ง อยู่เฉยๆระลึกรู้ลมหายใจ
    ถ้าเคลื่อนไหวให้นับจำนวนก้าวเดินนั่นหละ.....

    ถ้าไปสติปัฏฐาน ๔ เลยก่อนที่จิตแยกรูปแยกนามได้
    ๒๐ ปีก็คือเก่า มันจิ บ่ ได้ผล
    มีตัวอย่างคนหลงตัวเองเยอะแยะให้เห็นมากมาย

    เพราะจะไม่เข้าใจ กิริยา ปล่อยให้จิตว่างรับรู้อยู่ภายใน
    จิตเป็นธาตุรู้ เราปล่อยให้เค้ารับรู้ แต่ บ่ ปล่อยให้เค้าเกิดเน้อ..
     
  17. Tanya R

    Tanya R เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    389
    ค่าพลัง:
    +876
    หลวงพ่อกล้วยจะจัดงานทำบุญวางศิลาฤกษ์วัดที่โคราช อ.ปักธงชัย วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคมนี้ มีหลวงตาม้าและพระครูปลัดที่ป๋านบไปขอเทคนิคอลเทอมท่านจะมาร่วมงานด้วย ถ้าอยู่ไทยจะเหมารถไปงานนี้เลย

    FB_IMG_1523847755879.jpg FB_IMG_1523847752026.jpg
     
  18. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    มีอีกท่าน ที่สอนทริค
    การฝึกกรรมฐานบางกองให้สำเร็จ
    แล้วอีก ๓ วันอาจารย์
    ที่ท่านเคารพ(ล่วงลับไปแล้ว)
    ก็มาถามข้าพเจ้าว่า
    “ตกลงจะเอายังไง”
    ๓ ครั้ง ก็เลยฝึกเลย
    ในภาพนี่หละ
     
  19. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    เมื่อคืนลุกไปเข้าห้องน้ำประมาณห้าทุ่มกว่า ได้ยินเสียงหมาเห่า 2 ครั้ง ก่อนเสียงสวดมนต์เดี่ยวๆจะดังมาให้ได้ยิน" กุลสลาธรรมมา อกุสลาธรรมา..."

    ปล.เช้านี้พอรู้แล้วว่าหมายถึงสิ่งใด ถึงจะเป็นบทที่นิยมใช้สวดในงานศพก็เถอะ ว๊ากกกก!! (สาธุ)
     
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,434
    ค่าพลัง:
    +35,013
    มีโอกาสจะไปร่วมงานอยู่
    กุหรืออกุธรรมมาฯ
    คืออุบายให้เน้นเรื่องเกี่ยวกับ
    การตัดเรื่องร่างกายก่อน
    เพื่อไม่ให้ยึดในกายเรานี่หละ
    แล้วแต่จะใช้วิธีไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...