เรื่องเด่น ให้อภัย ดีอย่างไร ในช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 25 ธันวาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,529
    _99359696_5bbdfd03-0a2b-46db-979e-5267e9bbeb82.jpg

    นอกจากจะเป็นช่วงเวลาของการเปิดของขวัญ และร่วมทานอาหารที่เรียงรายเต็มโต๊ะ คริสต์มาสและปีใหม่ก็เป็นเทศกาลที่น่าอึดอัดสำหรับใครบางคน บ่อยครั้งที่การรวมตัวของสมาชิกในครอบครัวนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้ง ขุดค้นความขัดแย้งในอดีตให้ปะทุขึ้นมาอีก

    นี่คือคำแนะนำ 5 ประการจากรายการ “Thought For The Day” ทางช่องวิทยุ เรดิโอ 4 ของบีบีซี ว่าทำไม “การให้อภัย” จึงควรเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีการเฉลิมฉลองช่วงคริสต์มาส

    1.การให้อภัย ไม่ใช่ความอ่อนแอ

    การให้อภัยอาจถูกมองว่าเป็นความอ่อนแอ เป็นการยอมให้คนที่เคยทำร้ายเราพ้นผิด ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ลูซี วิงเค็ทท์ อธิการประจำโบสถ์เซนต์เจมส์ ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงลอนดอน บอกว่า การให้อภัยไม่ใช่การทำตัวดี หรือทำตัวเป็นเหมือนพรมเช็ดเท้า

    “การให้อภัยตามหลักศาสนาคริสต์เป็นเรื่องของกระบวนการมากกว่า เป็นเรื่องของการพยายามที่จะเผชิญหน้ากับอดีต เมื่อพยายามจะให้อภัยคนอื่น หรือตัวเอง ฉันจะหายใจเข้าลึก ๆ และหันหน้าเข้าหาอดีตที่ฉันรู้อยู่แล้วว่าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ มันไม่ใช่ความอ่อนแอ มันคือความเข้มแข็ง”


    2. ให้อภัยทำให้มิตรภาพยั่งยืน

    นักเขียน มาร์ติน โรว์ บอกว่า “การให้อภัยเป็นเรื่องลึกลับ เช่นเดียวกับความรักและความเห็นอกเห็นใจ เป็นความรู้สึกที่บังคับไม่ได้ และขณะเดียวกันก็ไม่ได้เป็นข้อบังคับให้ต้องปฏิบัติ” เขาบอกว่า การให้อภัยเพื่อนมิตรก็เหมือนกับการหยอดน้ำมันหล่อลื่นลงที่บานพับประตู และมันอาจจะสามารถ “ป้องกันบานประตูไม่ให้พังครืนลงมาทั้งบานได้” ตามที่กวีอย่าง เดวิด ไวท์ ได้พูดไว้ว่า “ทุกมิตรภาพตั้งอยู่บนพื้นฐานของการให้อภัยกันและกันอย่างต่อเนื่อง”

    _99359697_6f8f2126-b7a4-4a2d-9a3c-68e759f036d0.jpg


    3.เคียดแค้นเท่ากับทำร้ายตัวเอง

    เชตนา แคง นักบวชฮินดูและนักจิตวิทยา บอกว่า คนใกล้ตัวคือคนที่เราอภัยได้ยากที่สุด แต่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ จะกลายเป็นความไม่พอใจและความบาดหมางในระยะยาว และจะทำลายความสัมพันธ์ในที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคนใกล้ตัวหรือที่ทำงาน ครูทางศาสนาของแคงแนะนำเธอว่า การไม่ให้อภัยก็เหมือนการถือถ่านร้อนระอุในมือตัวเองไปเรื่อย ๆ เพื่อรอเวลาจะโยนใส่คนที่เราไม่พอใจ เวลาแห่งการแก้แค้นอาจมาถึง แต่เราอาจจะลืมว่าเราได้ทำร้ายตัวเองไปแล้วมากเท่าไร

    4.ฤกษ์ดีสำหรับการให้อภัย

    วิชวาภานี ชาวพุทธและครูฝึกสมาธิในสหราชอาณาจักร พูดถึงการมีสติจดจ่อว่าเป็นการใส่ใจการกระทำ และคิดตรึกตรองว่ามันจะส่งผลอย่างไรบ้าง เป็นการระลึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มีความสำคัญต้องอาศัยความพยายามอย่างต่อเนื่อง การตระหนักรู้ว่าเวลาของเราในโลกนี้นั้นมีน้อย คือการรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน โดย วิชวาภานี ได้ยกคำกล่าวสุดท้ายของพระพุทธเจ้าที่ว่า “จงเดินหน้าต่อไป จงเห็นใจผู้อื่นต่อไป จงฝึกปฏิบัติต่อไป ไม่ว่าวันนี้จะเป็นแค่อีกวันหนึ่งในชีวิต หรือวันสุดท้าย”

    _99359702_gettyimages-845390894-1.jpg

    5.ให้อภัยตัวเอง

    ลูซี วิงเค็ทท์ คิดว่าความสามารถของเราในการให้อภัยผู้อื่นเกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ที่จะให้อภัยตัวเอง เธอกล่าวว่า “เหตุการณ์ในทุก ๆ วันจะเปิดโอกาสให้เราฝึกความกล้าหาญและให้อภัย ความจริงคือ ความเข้มแข็งที่จะให้อภัยผู้อื่นมีส่วนมาจากความตั้งใจของเราที่จะให้อภัยตัวเอง”

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.bbc.com/thai/international-42479967
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ธันวาคม 2017
  2. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,632

แชร์หน้านี้

Loading...