เรื่องเด่น เราเกิดมาแล้วต้องตาย ความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 6 กันยายน 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    lp-lek01 พลังจิต.jpg


    ให้ทุกคนรู้ตัวอยู่เสมอว่า เราเกิดมาแล้วต้องตาย ความตายจะมาถึงเราเมื่อไรก็ไม่สามารถที่จะกำหนดแน่นอนได้ ความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้าถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออกแล้วไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน

    ในเมื่อความตายอยู่ประชิดติดเราจนขนาดนี้ เราก็ควรจะเร่งขวนขวายปฏิบัติในความดีให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพื่อสั่งสมความดีอันเป็นบุญกุศล เปรียบเหมือนเป็นเสบียงอาหาร เปรียบเหมือนยานพาหนะในการเดินทางไกลเพื่อข้ามห้วงวัฏสงสาร ยิ่งเรามีการเตรียมพร้อมมากเท่าไร เราก็จะสบายมากเท่านั้น มีความหวาดหวั่นต่อความตายน้อยเท่านั้น บุคคลที่มีการเตรียมพร้อมย่อมไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใดง่าย ๆ

    ในเมื่อเราเตรียมพร้อมที่จะตาย ถึงเวลาความตายเข้ามา เราก็ไม่ได้หวั่นไหวต่อความตาย เพราะเราเป็นผู้ที่ไม่ประมาท เตรียมพร้อมที่จะตายเอาไว้เสมอ ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว เป็นเพียงการเปลี่ยนภพ เปลี่ยนภูมิ เปลี่ยนร่างกายนี้ไปเท่านั้น

    ถ้าจะเปรียบไปแล้วร่างกายของเรานี้ก็เหมือนรถยนต์คันหนึ่ง ตัวเราคือจิตที่มาอาศัยอยู่ตามบุญตามบาปที่ได้สร้างไว้ในอดีต เปรียบเหมือนกับคนขับรถ ถึงเวลารถยนต์หมดสภาพพังไป คนขับรถก็เปิดประตูออกมา ไปหารถคันใหม่ขับ

    การตายของอัตภาพร่างกายนี้ก็ลักษณะเดียวกัน พอถึงเวลาร่างกายนี้เสื่อมสลายตายพังลงไป จิตคือตัวเรานั้น ก็ต้องไปแสวงหาร่างกายใหม่ในภพภูมิใหม่ ๆ ตามความดีความชั่วที่เราได้ทำไว้

    ถ้าเราสร้างความดีไว้มาก ก็ได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีความดี ความงาม ความสมบูรณ์ พร้อมด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค และทรัพย์สินทั้งปวง ถ้าสร้างความดีมากยิ่งขึ้นก็ไปเกิดเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นพรหม ถ้าไม่นิยมการเกิดก็หลุดพ้นไปสู่พระนิพพาน

    แต่ถ้าหากว่าเราทำสิ่งที่ไม่ดีเอาไว้มาก ก็จะมีทุคติภูมิเป็นที่ไป อย่างดีหน่อยก็เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่ก็มีความทุกข์มากมายกว่าคนหลายเท่า แย่ลงไปอีกก็เป็นอสุรกาย แย่ลงไปกว่านั้นก็เป็นเปรต ถ้าแย่ที่สุดก็เป็นสัตว์นรก

    เปรียบเหมือนกับเวลาที่รถยนต์พังแล้ว เราก็ต้องไปหารถคันใหม่ ถ้าหากว่าทำความชั่วไว้มากก็ได้รถพัง ๆ ขับไปซ่อมไป อาจจะเป็นจักรยานโปเกสักคันหนึ่งก็ได้ แต่ถ้าหากว่าสร้างกรรมดีไว้มาก ก็ได้รถยนต์ยี่ห้อดี ๆ อาจจะเป็นบีเอ็ม หรือว่าเบนซ์ หรืออาจจะเป็นรถสปอร์ตแรงสูงไปเลยก็ได้ บางท่านอาจจะหรูเลิศไปกว่านั้น มีเครื่องบินส่วนตัวไปอีกต่างหาก

    ดังนั้น…ถ้าเรารู้ว่าความตายมาประชิดติดเราอยู่เสมอ แล้วเราเป็นผู้ไม่ประมาท ตั้งใจปฏิบัติในศีล คือรักษาศีลทุกสิกขาบทให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ไม่ละเมิดศีลด้วยตนเอง ไม่ยุยงส่งเสริมให้คนอื่นเขาทำ ไม่ยินดีเมื่อคนอื่นเขาทำ ทำความเคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อย่างแน่นแฟ้นจริงจัง ไม่ล่วงเกินด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง กำหนดมีสติรู้อยู่เฉพาะหน้าว่า เราต้องตายแน่นอน ถ้าตายแล้วเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

    ถ้าเราปักใจแน่วแน่เช่นนี้ได้ แปลว่าศีล สมาธิ ปัญญาของเรานั้น อยู่ในระดับที่พอจะอาศัยได้ ถ้ามั่นคงจริง ๆ ก็สามารถระบุได้อย่างแน่นอนว่ามีสุคติเป็นที่ไป หรือถ้าสามารถปล่อยวางความดีความชั่วทั้งปวง ไม่ปรารถนาการเกิดมาในโลกนี้ ไม่ปรารถนาการมีร่างกายเช่นนี้อีก ก็สามารถที่จะหลุดพ้นไปสู่พระนิพพานได้

    [​IMG]

    พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
    วันพฤหัสบดีที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๕๔





    ที่มา วัดท่าขนุน
     

แชร์หน้านี้

Loading...