เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระนักธรรมอีกแล้วครับ

    ปปปปป said:
    สวัสดีครับ คุณพี เสาวภา

    ผมเพิ่งได้รับพระนักธรรมจากเพื่อนมาองค์นึง

    ขอรบกวนไม่ทราบว่ามีคาถาบูชาพระนักธรรม
    ของหลวงพ่อทรงมั้ยครับ ผมจะนำไปให้ลูกผม
    ช่วงนี้เรียนอยู่ที่เชียงใหม่ครับ

    ขอบคุณครับ


    คาถาเคยถามท่าน ท่านบอกว่าไม่มี ให้อธิษฐานเอาครับ

    เคล็ดคือ

    ๑) สวดมนต์ไหว้พระทุกวันตามปกติ
    ๒) หลวงพ่อชอบคนขยันครับ

    มีแค่นี้ครับ


    พี เสาวภา, 15 ตุลาคม 2010

    คศ ๒๐๑๗ ถึงเวลาที่จะแถม ให้อีกนิด

    หลวงพ่อท่านบอกว่า ถนัดใช้คาถาอะไรก็ได้น่ะครับ ว่าไป แล้ว ให้ลงท้ายว่า สวาหะ แล้ว อธิษฐาน

    IMG_2557.JPG IMG_2558.JPG IMG_2559.JPG

     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระพระเอก วัดมอญ
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    744606-389bfb1d0d589f1b71d8d0385c7b42b9.jpg

    A0075900-PIC2.jpg


    หน้า ๙๐๗
     
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ตอบ ๒๕ เมษายน ๒๐๑๐ ( ๒๕๕๓ ) หน้า ๙๐๗
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ๒๕ เมษายน ๒๕๕๓ หน้า ๙๐๗ ตอบไปเมื่อ ๗ ปีมาแล้ว
     
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    นิทานเขียนสรุป หน้า ๑๔๙๗

    พี เสาวภา, 12 ตุลาคม 2011 ประมาณ ๖ ปีมาแล้ว



    ประวัติรุ่นนะ...แตกแยก ( เรื่องนี้ผมแต่งขึ้นเองล้วนๆ อ่านสนุกๆน่ะครับ )

    เอาแบบพอละเอียด เบาะๆ น่ะครับ เพราะเรื่องมันเยอะมาก หลายเรื่อง เล่าแล้วเปลืองที่เว็บเขา ผมก็เสียดายน้ำลายของผม เมื่อจะเล่าถึง พ่อค้าพระกลุ่มนี้

    รุ่นนี้เป็นของนายทุน รวมตัวกันมาสร้างแข่งกับศูนย์เจ้าที่เดิม หัวหน้านายทุนกลุ่มนี้ หลวงพ่อเอ็นดู ขนาดหลวงพ่อจะนอนยังเอามันไปนอนด้วย ให้มันนวด มันคิดว่าเห็นช่องทาง เลยอยากจะรวยนั่งเบนซ์อย่างเขาบ้าง เบื่อ บขส เพราะขายเสื้อผ้ามันไม่รวยและมาแนวเดียวกันศูนย์คือบอกว่าวัดสร้าง คือทุกรุ่นวัดสร้าง แต่ไม่มีวาระว่าสร้างเอาเงินไปทำอะไร???ให้วัด

    วันหนึ่งผมไปหาหลวงพ่อ อยู่จนมืด จะกลับบ้าน หัวหอก นะ ...แตกแยก อยู่รอเลยติดรถผมมา แล้วบอกว่าจะเทพระกริ่งถวายหลวงพ่อ ผมเรื่องพระคุยง่าย เลยเอาแหวนทองคำ ที่ซื้อมา เอามาให้หลวงพ่อเสกเพื่อเตรียมไว้ จะเอาไปหล่อพระกริ่งชุด เศรษฐีใหม่ วิสาขาห์ ๔๙ ผมเลยให้เขาไปแทน ก่ะว่าร่วมบุญถวายหลวงพ่อ พยานมีน่ะครับ ไม่ได้อ้างลอยๆ

    พระชุดนะ...แตกแยกนี้พยายามจะเร่ง มาเททองที่วัด พยายามจะเทก่อนพระผมเทพระกริ่งของผม เพราะกลัวมุขไม่เดิน แต่ไม่ทัน ผมไม่มีเจตนาไปแข่งด้วยเพราะไม่ได้ทำขายใคร จะเอาไว้ประจำตระกูลของผม พอไม่ทันผมเท เขาเลยเอามาเทที่วัดเป็นพิธี ไม่กี่ช่อ ผมเห็นเหตุการณ์แปลกๆ เห็นว่าชักจะทะแม่งๆ เพราะ ชวนเขาทะเลาะกันไปทั่ว พระที่วัดแตกออกเป็นสองกลุ่ม ตั้งสองตู้ คือตู้วัด และ ตู้ นะ ...แตกแยก นายทุนเก่าใหม่ทะเลาะกัน ต่อหน้า หลวงพ่อขนาด จะท้ายิงกัน หลวงพ่อคงอึ้ง นั่งเงียบ

    ขายใบจอง ของยังไม่มาจะให้เขา มาเก็บเงินหลวงพ่อก่อน ???? ( บอกว่าทำถวาย ผมเลยให้ทองคำไป ไหงดันมาเก็บเงินหลวงพ่อก่อน ) เกิดหลวงพ่อให้เงินไป แต่ของไม่มา ใครรับผิดชอบ หลานหลวงพ่อรู้เข้า พาตำรวจมาที่วัดเอาเงินคืน วงเลยแตก นายทุนมีหลายคนแห่กันมาเก็บเงินกัน ได้ก็แบ่งกันเลย กั้กๆกันเลยแห่มาเก็บเงินหลวงพ่อ พอตำรวจมาคงมุขฝืด ( แต่สายรายงานว่า มันแอบมาขอหลวงพ่ออยู่ดี ตอนหลัง )

    ผมรู้ข่าว หลายเรื่อง สลดใจ งานเทพระกริ่งนะ...แตกแยก ผมเลยไม่มา กลัวติดบาบไปด้วย เพราะมาเดี๋ยวไปติดรูปโฆษณาให้มัน และไม่ใช่งานของหลวงพ่อแน่นอน มันใช้หลวงพ่อเทพระให้พวกมันซ่ะอีก

    พฤติกรรมยังไม่จบ ไปทำแม่พิมพ์พระผงเลียนแบบพระแหวกม่านที่ผมออกแบบ ดัดแปลงจากพระหลวงพ่อกวย แล้วมาบอกว่ามันออกแบบ มาพิมพ์เองที่วัด ฝังตะกรุดทองคำก็มี ( ทองผมหรือปล่าวก็ไม่รู้ ) ผมไปค้างที่วัด นอนไม่หลับเพราะหนวกหู พระจะนอน ยังไม่ได้นอนผมเลยตื่นมาช่วยพิมพ์ พิมพ์ๆไป คงผมมันเองหล่นไปในโม่ พิมพ์พระติดมา มันมาเขียนในเว็บบอกว่า เส้นเกศาปาฏิหาริย์ หลวงพ่อยาว งอกออกมา ผมอ่านแล้ว ฮาก้ากๆ...แหะๆ แหม ขำ มันจินตนาการสูง ซ้ำที่หนัก ทำ มอเตอร์โม่เนื้อผง ไฟฟ้าพัง มอเตอร์ไหม้ ทำแท่นแม่พิมพ์พัง บอกหลวงพ่อว่าจะมาซ่อม แล้วเบี้ยว ไปเป็นอาทิตย์ไม่มา ผมไปหาหลวงพ่อหลายที ไม่มีอะไรคืบหน้า หลวงพ่อก็เกรงใจบอกว่าท่านจะซ่อมเอง

    ผมเห็นใจท่านผู้เฒ่าที่มาออกรับคนแบบนี้ ผมเลยเอาไปซ่อมเอง ทั้งเปลี่ยนมอเตอร์ลูกใหม่ ทั้ง ซ่อมแม่พิมพ์ ( เปลี่ยนสปริง ) ซึ่งที่จริงเป็นของที่ผมซื้อมาถวายหลวงพ่อทั้งสิ้น พระท่านจะได้พิมพ์พระแจกคนฟรีๆต่อไป หลังจากแจกมาหลายหมื่นองค์ เพราะไม่มีเครื่องมือก็ต้องหยุด ( อาจจะเจตนาทำให้ฟังมั้ง จะได้ไม่มีของฟรีมาแจกแข่งกับของที่ขาย อันนี้พวกทำของขายจะกลัวพวกของแจกฟรี เพราะแจกฟรีน่ะขลังกว่า แจกมัน คนชอบ คนเลยไม่ซื้อของที่ทำขายมาก เพราะตั้งราคากันเว่อร์ๆ รอของฟรีดีกว่า หลวงพ่อก็แจกด่ะครับ แต่ก็เลือกๆกลุ่มคนเหมือนกัน ถ้าคนไกลได้แน่อน)

    ยังไม่หมดน่ะครับ ของที่ออก มาเทหลอกหน่อยหนึ่งที่วัด นอกนั้นที่อกจริงๆเป็นของทำที่โรงงานที่เหมือนกับหลอกเทให้หลวงพ่ออื่นๆมา ไม่ต้องแกะพิมพ์ใหม่ เหมือนทางพิษณุโลก และแถวอีสานใช้ คำตามสูตรว่า นวเต็มสูตร ที่มีแต่ทองแดงใส่เงิน ( และมีทองคำของผมมั้ง หรือ เอาทองไปขายเลี้ยงกะเพาะ ) ของทำโรงงานเขามีสูตรของเขา ว่า นวะ แก่ทองแดง เป็นหลัก แต่จะโฆษณาว่า นวเต็มสูตร

    ที่เต็มสูตร คือมีเก้าอย่าง แค่ทองก็ล่อเข้าไป ๙ บาทแล้วยังมีของหายากอีกหลายอย่าง พวกท่านคิดเอาเองว่าเทพระกริ่งมาแล้วจะขายองค์เท่าไหร่ถึงคุ้ม และ โลหะบางอย่างหาไม่ได้ด้วย เช่น จ้าวน้ำเงิน เกิดมายังไม่เคยเห็นเลย เคยเห็นแต่รูป จะไปหาที่ไหนดันโกหกบอกเต็มสูตร

    ท่านไปเจอของที่โฆษณาว่า นวเต็มสูตร ให้หนีให้ห่างครับ อย่าเสียเงินแพงๆซื้อทองแดง มาน่ะครับ

    พระกริ่ง ปวเรศ ๒ ของวัดบวรยังแก่ทองแดง ทองแดง ๑ กิโลโตเท่ากำปั้น ใส่เงิน ประมาณ ๑ บาท และ ใส่ทองคำ มากน้อยตามกำลัง มีสูตรของวัดบวรฯ เนื้อจะเป็นสัมริด เดช แดงจะกลับดำ อาจารย์อนันต์ ผอ. ช่างสิบหมู่ ซึ่งทำเองกับมือ เป็นคนสอนผมเอง ตอนผมเทพระกริ่งแพฯ และกริ่ง วิสาขาห์ ๔๙ ยังไม่เต็มสูตร ได้แค่ใส่ทองคำ ขนาดพิธีหลวง องค์ในหลวงท่านแและพระสังฆราชมาเทเอง ยังไม่เต็มสูตรแต่โบราณครับ

    แต่กริ่งนะ ...แตกแยก ซึ่ง พอจะเริ่มทำ ทะเลาะกันไปทั่ว บอกเต็มสูตร สงสัยสูตร พิเศษประจำตระกูลมัน สูตรเอาเงินคนซื้อ

    พฤติกรรมยังไม่หมดนะครับ เพราะชุดเดียวกันนี่ ตอนหลังแตกแยกกันเอง เพราะเงินๆทองๆก่ะว่าจะได้เต็มๆ ถูกศูนย์เจ้าเดิมมาป่วน เลยกระท่อนกระแท่น พวกกันเองไว้ใจกันไม่ได้ ขนาดค่ากล่องใส่พระยังไม่มีจ่าย ให้ช่างโทรมาทวงกับหลวงพ่อซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร ช่างที่ไหน กล่องที่ไหน ที่รู้เพราะผมนั่งอยู่ด้วยกำลังคุยกับหลวงพ่ออยู่ ท่านรับโทรยังงงๆ ว่า ใครมาทวงอะไร ว่าท่านเป็นหนี้เงินหลายหมื่นค่ากล่องพระ

    แต่มาพูดว่าจะทำถวายพระ อย่าว่าแต่ค่าพระเลย ค่ากล่องมันยังไม่มีเงินจ่าย ดันเอาเบอร์ท่านผู้เฒ่า ให้ช่างโทรมาทวง...ดูมันทำกัน คนนับถือกันเขาทำกันแบบนี้น่ะ

    หลวงพ่อท่านอายุมาก เป็นมะเร็งปอด พึ่งตัดปลายปอดไป บอกผมเองว่าเราเกิดมาก็ตาย อีกไม่นานเราก็ตาย ตาเป็นต้อทั้งสองข้าง มองอะไรไม่ชัด มัวไปหมด ( ผมออกเงินพาท่านไปลอกต้อเอง ลอกข้างแรก พอจะลอกข้างที่สอง ท่านบ่ายเบี่ยง เพราะจะล่ะสังขาร ข้างเดียวพอเห็นแล้ว ผมเลยมีบุญได้ทำบุญตาข้างเดียวให้หลวงพ่อ )

    ท่านป่วยออดๆแอดๆ หายใจก็ไม่สะดวก ต้องนัดยาให้จมูกโล่ง อยู่วันๆก็ป่วยๆหายๆ แล้ว ยัง เจือก หาเรื่องกลุ้มๆ เครียดๆมาให้ท่านผู้เฒ่าซ่ะอีก ท่านเลยเบื่อๆ ไปซ่ะดีกว่า ผมดูเหตุการณ์ และช่วยหลวงพ่อ ทุกด้านมาตลอด ด้วยต้องการบุญ ไม่ใช่ต้องการเงิน ยังอดสูใจกับกิเลสแบบ อย่างหนาตราช้างของคนไม่กี่คน ไม่ได้

    ยังมีอีกน่ะครับ เพราะกลุ่มนี้ไปหากินกับพระดีๆ อีกหลายรูป ที่อยู่ในเว็บนี่ก็มี ขนาดเอาเงินทำบุญ ในตู้ไป หลวงพ่อท่านบอกอย่าเอาไป จะเอาไว้ใช้กิจการวัด และบางส่วนเป็นเงินส่วนตัวของท่านจะเอาไว้รักษาตัว มันก็ยังเอาไป พยานมียังอยู่มาเล่าให้ผมฟัง ยินดีเป็นพยาน ถ้าเป็นหลวงพ่อของผม ผมเป็นลูกศิษย์ เจอตำรวจ เจอคุกแน่นอน เจอยึดทรัพย์เอาเงินคืนได้แน่นอน ไม่ปล่อยออกไปตั้งศูนย์พระ...แหะๆ คงรวยสมใจหรอกครับ

    ยังไม่จบ มีอีกหลายเรื่องครับ ทำวัตถุมงคลขาย บอกจะวางแค่ที่วัด รับปากหลวงพ่อไว้ เพราะหลวงพ่อเกรงใจศูนย์เจ้าที่ ที่เป็นศิษย์เดิม ไม่อยากให้ไปแข่งกันขาย แต่ดันไปวางขายในเว็บและวัดที่นนทบุรี ผมไปงานศพเจอเลยถ่ายรูปไว้ นอกจากนั้นทำขายอีกหลายหลวงพ่อ จัดว่าแจกจ่ายความซวยเฉลี่ยไปหลายวัด พระที่ท่านห้อยๆคอกัน ก็อาจจะมาจากคนกลุ่มนี้ได้ ถ้าใช่แนะนำให้เอาออกจากคอ เดี๋ยวไปทะเลาะกับใครเขา ให้ เอาไปหล่อพระต่อซ่ะ...แหะๆ จะได้เอาบุญคืน

    ไปหาพระแจกฟรี ด้ายมงคลแจกฟรี ที่หลวงพ่ออั้บ ดีกว่าหลายพันเท่า แม้หลวงพ่อทรงจะเสกให้ แต่ต้นทางมันเน่าซ่ะแล้ว ของเน่าๆ เอามาก็เน่าเหม็นๆต่อไป พระก็ช่วยไม่ไหวล่ะโยม

    พอหลวงพ่อท่านล่ะสังขาร เพราะหลังๆท่านเครียด และ หมองมาก ผอมติดกระดูก คงคิดมาก นอนไม่หลับ ถ่ายไม่ออก ฉันไม่ค่อยได้ ผมสงสารท่าน แบบกลับจากโรงพยาบาลมา แอบมาน้ำตาซึมที่บ้าน คนแบบนี้ยังมีกรรมมาจ่อ คนจะไปที่สูงๆที่ไกลๆ จะมี มารมาทดสอบกำลังใจ ในยกสุดท้าย โค้งสุดท้ายนี่จะหนัก ทั้งสังขารตัวเอง และเรื่องคนรอบข้าง

    หลวงพ่อท่านก็หนีไม่พ้น ก่อนตายท่านใสมากและจิตนิ่ง ว่องไวมาก รู้ไปหมด ท่านคงจะตัดและปลงได้ ท่านเลยไปๆและพ้นไปซ่ะที หลังจากท่านล่ะสังขารไปแล้ว ท่านสบายขึ้นเยอะ และ เก่งกว่าเดิมด้วยน่ะครับ ไปไหนมาไหนสดวก ไม่มีสังขารมาถ่วง ท่านไปเข้าฝันลูกศิษย์เขาที เข้าเป็นกลุ่มหลายคน ไม่ได้มาเข้าคนเดียว แจกโชคลาภอีก มาเข้าฝันให้หวยผม แจกรถอีกคัน ( ในฝัน ) โตโยต้ามือสองสีดำๆ ( ตอนนั้นลืมขอเปลี่ยนเป็นรถเบนซ์...แหะๆ ) หลวงพ่อท่านอยากให้ศิษย์ท่านรวยทุกคนครับ เป็น ปฏิภานของท่านผู้เฒ่า ท่านช่วยอยู่ตลอด ขอให้สวดมนต์และขยันๆทำงาน

    หลังท่านเสีย ยังมาทะเลาะด่าพวกศูนย์คู่แข่งในเว็บอีก ผมก็พาซื่อเห็นแก่ชื่อเสียงหลวงพ่อ ไปห้ามทัพ ในเว็บอันหนึ่ง เพื่อนมันบอกมา แต่พอเข้าไปห้ามมันดันรวมหัวมาด่าผม ให้ข้อหาว่าทำพระขายเหมือนกัน เป็นเสี่ย เป็นนายทุน...แหะๆ เป็นเสี่ย น่ะอยากเป็น แต่เป็นนายทุนทำพระขาย ทำเหล็กขายรวยกว่าขายพระ ตกลงผมเลยถูกรุม ผมเห็นมันเขียนเรื่องหลวงพ่อกันทั้งสองข้าง เขียนแบบนั่งเทียน ผมเลยเขียนมั่ง เป็นลูกฮึด ของ พี เทปยาน แต่เอาเรื่องจริงๆมาเขียน ให้คนอ่านเป็นทางเลือก ไม่แถมขายของ ใครอ่านอยากเชื่อก็เชื่อครับ พิจารณาเอาเอง คนมาเล่นเว็บได้ มีสมองทั้งนั้น

    เขียนไปเขียนมาหลังจากที่ไม่เคยเป็นนักเขียน คนมาอ่านกันพอสมควร พวกมันเลยหาว่าผมเขียนเชียร์ เป็นนักเขียนอาชีพเชียร์พระ...แหะๆ ผมห้ามแล้วไม่ฟังว่า ถ้าผมเอา ผมเล่นไม่เลิก เลยให้สำนักงานทนายความ ไปแจ้งความไว้ที่ สน บางยี่ขัน ก่ะว่าจะลุยล่ะ ตำรวจออกหมายไป ไม่มีใครมาสักคน จนเจ้าของเว็บเดิมท่านเดือดร้อนไปด้วย ผมเห็นว่าจะวุ่นวายไป เลยก่ะจะเลิกเขียน เรื่องคดีความยังคา สน.อยู่

    น้องๆที่อ่านเขาไม่อยากให้เลิกเขียนเรื่องหลวงพ่อ เพราะอ่านมันส์ดี เลยชวนมาเขียนที่พลังจิตบอกว่ามีอิสระดี ผมงานก็เยอะ แต่เรื่องหลวงพ่อ คนน่าจะได้รู้อีกด้าน เลยเขียนมาจนบัดนี้ แต่ก็โดนด่าไปอีกสามดอก จากพวกขายพระอีกเหมือนกัน...แหะๆ แต่แค่แปลงกายมาด่า ชวนไปคุยกันที่โรงพัก ไปที่ศาล ไปวัดตากันแบบเอาความจริงมาแผ่ ไม่เห็นมีใครไป แต่เก่งนั่งหลังคอมฯน่ะ เอา คนหนึ่งหนีไปอีสานบ้านเฮา เป็นยังไงบ้างไม่รู้ รวยๆน่ะ ขายเหรียญบินกินน่ะ ได้กี่บาทล่ะ

    เอาแค่นี้น่ะครับจะช่วยคนน้ำท่วม ยังมีเรื่องมีอีกเพียบ แต่รุ่นนะ ...แตกแยกน่ะ ผมไม่มีสักองค์ ขนาดทองของผมเอง มันยังไม่เคยเอาพระที่เทมาให้ เป็นที่ระลึก ถึงเอามาให้ผมรู้แบบนี้ผมก็ไม่เอา เดี๋ยวของเน่าจะติดมือ กลิ่นเน่าติดมา รุ่นนี้ผมไม่มีเก็บ ให้ฟรีๆ เข้าบ้านยังไม่เอา กลัว ไปทะเลาะ แตกแยก กันที่บ้านอีกครับ...แหะๆ

    เรื่องข้างบนเป็นนิทานทั้งสิ้น ผมเขียนให้อ่าน ใช้วิจารณญาณเอากันเองน่ะจ้ะ

    เขียนไว้ปี ๒๕๕๔ หกปีมาแล้ว น่าจะตอนแถวๆน้ำท่วมใหญ่ ว่างเยอะ เอานิทาน เก่าๆ มาเล่าไปเรื่อยๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2017
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    • 2711506-82ddb33c380daa34260a466dab782cda.jpg

    • 2711507-c2abe5eed683c1b6bf39ba0bbcdfdc07.jpg
    hmoomoo, 7 พฤษภาคม 2014 หน้า ๒๘๘๓
     
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พี เสาวภา, 7 พฤษภาคม 2014 ตอบเมื่อ สามปีมาแล้ว
     
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2017
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    มาตั้ง assumption หรือ สมมุติฐานกันน่ะครับ

    เกี่ยวกับวัตถุมงคลหลวงพ่อทรง วัดมอญ

    ๑) ของที่ ผ่านมือ หลวงพ่อเสกให้ดีทุกอย่าง อันนี้เรื่องจริง ไมว่าจะวัดมอญสร้างเองในวัด วัดอื่นสร้าง หรือ ฆราวาสสร้าง หรือ นายทุนสร้าง หรือ ศูนย์สร้าง เพราะฉนั้น การโต้เถียงว่าหลวงพ่อเสก จะไม่ดีได้อย่างไร เป็นการอ้างความจริงมาแก้การโต้เถียง ที่ผิดประเด็น เพราะไม่มีน่ะครับ ว่า นายทุน ศร้าง หรือ ศูนย์สร้าง ไม่ดี ถ้าหลวงพ่อเสกให้ดี แน่ๆ ของดีอยู่ที่คนเสก ไม่ใช่คนสร้าง

    การพูดว่า ของศูนย์ ของนายทุนไม่เล่น เป็นการพูด ของใครบางคน ที่โยนสรุป ให้ว่าคนอื่น หรือ คนพูดเป็นจำเลยของสังคม บนประเด็นที่ไม่มีประเด็นที่จะโต้เถียงกันตรงนี้ และ ทำให้เกิดความแตกแยก ซึ่ง ซ.ต.พ. ได้ว่าเป็นคำพูดของคนค้าพระ (คนขายพระกินว่างั้นเถอะ) คนซื้อพระที่ไม่ได้ขาย เขามีประเด็นที่ว่า หาแท้ๆที่ไหน ที่ผ่านมือ ท่านผู้เฒ่า หรือ ผู้เฒ่าเสกให้ จะเป็นของอะไรก้ได้ ถ้าท่านเสกให้ มอบให้กับมือ ไปรับกับมือ หรือ ไปบูชาที่วัดด้วยตนเอง แล้วเอามาขายต่อ กับคนที่ เชื่อถือ ไว้ใจกัน

    หน้าที่ของคนขายพระ คือ รับผิดชอบ ไปหาของแท้ๆ มาขาย แลกเงินแท้ๆจากผู้ซื้อ หลีกเลี่ยงของที่อาจจะเกิดการโต้เถียงว่า แท้ หรือ ไม่แท้ ( ในประเด็นนี้ คือ เสก หรือ ไม่เสก ) ของคาบลูก คาบดอก ดูพระที่เอามาขายขาด ฟันธงได้ และ รับผิดชอบ ๑๐๐ % ในของที่เอามาขาย ถ้าเกิดมีการโต้เถียง มีปัญหา ก็รับคืน

    คนขายพระแบบนี้มีเยอะน่ะครับ ในวงการพระ เป็นคนมีชื่อเสียงแน่นอน เพราะของจริง และ เป็นที่นับถือแก่คนทั่วไป ผมก็ซื้อของจากเขา คนพวกนี้ แพงหน่อยแบบกันเอง แต่สบายใจ แต่ถ้า ไม่สบายใจ มีปัญหา ไปบอกเขา ควักเงินคืนทันทีให้สบายใจ เจอมาแล้วครับ หลายคน มีคืนของแค่คนเดียว ด้วยเหตุผล ที่เขารับฟัง ควักเกะ จ่ายเงินทันที ไม่มีบ่น คราวหน้า สนใจ ก็ซื้อกันต่อไป

    ประเด็นพระหลวงทรง ไม่ได้อยู่ที่ใครทำ อยู่ที่ท่านเสกหรือไม่?????

    การที่จะทราบว่าท่านเสกหรือไม่ชัด ที่ผมคิดออกมีอยู่ สองวิธี ที่เป็นไปได้ชัดเจน

    ๑) เห็นกับตา ว่าท่านเสก

    ๒) มีทางใน จากผู้ที่มาญาณสมาบัติ หรือมีความเป็น อริยะ ด้านทิพย์ ต่างๆที่รับทราบได้ อันนี้ผมเชื่อน่ะครับ ถ้าผู้นั้นมีคุณธรรมสูง ซึ่งบอกตามตรง หายาก แล้วท่านไม่ทำบ่อย หรือ ทำให้คนแปลกหน้าง่ายๆ
     
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พี เสาวภา said:

    ผมพยายามจะหาที่ผมเขียนสรุปไว้ เรื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อทรง แต่หาไม่เจอ ผมสรุปไว้ สี่แบบคือ

    ๑) วัตถุมงคลแบบวัดสร้าง อันนี้วัดสร้างจริงๆ ผสมเนื้อ ปั้มที่วัด หรือ หลวงพ่อสั่งหล่อเอง จากช่าง จ่ายเงินเอง

    ๒) แบบศูนย์ หรือ นายทุนสร้าง อันนี้เจตนา ทำเพื่อขายครับ มีการลงทุน มีการขายเอาทุนคืน มีการเก็งกำไร

    ๓) แบบสร้าง จากวัด หรือ กลุ่มที่เอาไปออกเพื่อการกุศล อาจจะเป็นวัดหรือโรงเรียน หรือนิมนต์หลวงพ่อไปร่วม พุทธาภิเศก และจัดจำหน่าย เจตนาเพื่อ การกุศล สร้างวิหารทาน หรือ สร้างวัด สร้างวา

    ๔) แบบที่มีคนสร้างมาให้ท่านแจกฟรีๆ

    วัตถุมงคลนี้ ผมสรุปไว้ในกระทู้นี่ เท่าที่ผมพบเจอ แต่อาจจะหายากหน่อยในเน็ท

    ผมจะสรุปเป็นหนังสือขึ้นมา รอปัญหาด้านเทคนิคอย่างหนึ่งก่อนครับ

    ในสี่แบบข้างบน อันที่ ๑ ๓ และ ๔ มีปริมาณพอสมควรและ เล่นได้ เจตนา ไม่ได้ขาย หรือ มีเจตนา เพื่อการกุศล

    แต่แบบที่ ๒ นี่แหละครับ ที่ผมจะพูด ตอนหลวงพ่อมีชีวิต ทำกันหลักๆหรือศูนย์ๆหนึ่ง และต่อมา มีอีกกลุ่มนายทุนมาแจมด้วย ทำขาย เอาเงินนี่แหละครับ

    ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คนทำน่ะครับ คนทำจะเป็นใคร แต่ถ้าวัตถุมงคลนั้น ผ่านมือ หลวงพ่อ ทานเสกให้ ไม่มีปัญหาน่ะครับ เป็นของดี ขึ้นคอ กราบไหว้ได้สบายใจ

    ไม่ได้อยู่ที่ของ ของทำออกมา แบบพิมพ์สวยงาม ถ้าหลวงพ่อเสกให้ สบายมาก ห้อยคอได้

    ถ้าท่านได้มาตอนหลวงพ่อมีสังขาร เอาไปให้ท่านเสกซ้ำ หรือมีการจารลายมือท่าน หรือ ตอกโค้ด ท ไม่มีหัว วศด ( ที่ทำลายแล้ว ) " อันนี้เล่นได้สบายใจ " ว่าหลวงพ่อเสกแน่ๆ

    แต่ถ้าไม่มีตามด้านบน แม่พิมพ์ที่ไม่ได้ทำลาย สูตรเนื้อหาโรงงาน โค็ดก็ไม่ได้ทำลาย ถ้ามีการทำออกมาอีก ของใหม่ๆอายุ แค่ ๑๐ ปี ขอประทานโทษ ท่านจะดูออก แยกออก ระหว่างของที่ทำออกมาใหม่หลังหลวงพ่อล่ะสังขารเมื่อปี ๒๕๕๐ กับของที่ทำออกมาตอนหลวงพ่อยังอยู่ ก่อนปี ๒๕๕๐

    พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ โค็ดใช่ .....แต่ไม่ใช่ หรือ หลวงพ่อไม่ได้เสกน่ะครับ เมื่อของเขาทำขาย ขายได้ เขาก็ทำออกมาอีก มันเป็นธุรกิจของเขา

    ท่าน และ ผมจะแยกได้อย่างไร ..ตอบเลย ต้องมีตาใน ดูได้ว่ามีพลังของหลวงพ่อเสกให้หรือไม่ ถ้าท่านและผมมีพลัง มีตาในแบบนั้น ไม่ต้องมาห้อยพระแล้วล่ะครับ จิตของท่านสูงขนาดดูจิตของหลวงพ่อที่เสกของได้ ...แหะๆ ไปไกลครับ

    หรือมีวัตถุมงคล ประเภท ทำน้อยๆ เช่นข่าวออกว่า ๕๐๐ เหรียญ แต่คนชอบ ติดตลาดก็ออกมาเรื่อยๆได้อีก ทันหลวงพ่อ หลวงพ่อเสกให้ซ่ะด้วย หรือ ทำออกมาน้อยๆ ดูว่าติดตลาดไหม ถ้าไม่ติดก็พอ ( ลงทุนน้อยหน่อย ) พวกที่ทำมาน้อยๆ คงไม่ถึงหลักพัน เอามาส่วนหนึ่งเสก แบ่งให้ออกที่วัด ถ้าคนชอบมาวัดไม่ได้ ก็เอาที่เขานี่แหละ ลงทุนน้อยๆ แต่ได้กำไร เยอะๆ มีหนังสือ จ้างเขียนเชียร์

    แต่ ถ้ารูปแบบสวยน่าเล่น ก็ปั้มออกมาได้อีกเรื่อยๆจนตลาดวาย ก็หารูปแบบใหม่ เพราะเขาเข้าใจ จิตวิทยาคน ต้องหารูปแบบใหม่ๆมา ถึงจะเดิน เพราะแบบเก่า คนได้แล้วอาจจะพอ ไม่ซื้ออีก จึงมีรุ่นใหม่ๆออกมาเรื่อยๆถ้าหลวงพ่อดัง หาวาระไม่ได้ ว่า ทอดกฐิน สร้างโบสถ์ สร้างศาลา สร้างห้องน้ำ สร้างห้องส้วม สร้างหอระฆัง สร้าง ๆ ๆ ๆ ๆๆ ๆ ไปเรื่อยๆครับ ฯลฯ แต่ วัดก็รูปแบบเดิมๆ

    ตกลงแยกยากครับ และไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อเสก และ ดี หรือไม่ดี แบบประเด็นที่เขาให้พวกท่านเข้าใจน่ะครับ.......เพราะ ถ้าผ่านมือหลวงพ่อมา เป็นของ ดีแน่ๆครับ

    แต่จะรู้ได้อย่างไร ว่าผ่านมือหลวงพ่อครับ " อันนี้คือประเด็นครับ " คำตอบทางวิทยาศาสตร์ไม่มีทางรู้ได้เลยครับ ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์ ประวัติ บันทึก โค็ดที่ทำลาย และ รอยจารลายมือหลวงพ่อครับ ท่านจะได้จ่ายเงินสบายใจ

    ถ้าท่านได้มา มีที่มาที่ไปดี ก็ให้ใจสบายไปตามนั้น ท่านเชื่อคนขายก็ให้เขารับรองมาด้วยน่ะครับ เพราะท่านซื้อเพราะหน้าคนขาย ตามคำพูดคนขาย ที่เขาบอกว่าทัน รับกับมือหลวงพ่อ ...... ท่านมั่นใจแบบนั้น ก็เล่นไปแบบนั้นน่ะครับ ตามสดวกเลยครับ ท่านมีสิทธิ เพราะเป็นเงินของท่านเอง

    ไม่มีประเด็นน่ะครับว่า ถ้าผ่านมือหลวงพ่อ ถ้าท่านเสกให้ ก้อนหินก็ห้อยคอได้ครับ

    ประเด็นอยู่ที่ว่า จะรู้ได้อย่างไรตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าผ่านมือหลวงพ่อน่ะครับ โดยเฉพาะท่านที่มาเล่นทีหลัง

    หาไม่เจอของเก่า แต่สรุปซ้ำอีกทีก็ได้ เพราะพระหลวงพ่อทรงเป็นที่นิยม เนื่องจากมีพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ผมเขียนเรื่องหลวงพ่อทรง ๑๐ ปีมาแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๐/๑ สาเหตุเนื่องจากมีการทะเลาะกันในเน็ท เรื่องผลประโยชน์ ของ ศูนย์ และ พวกนายทุนอีกกลุ่ม ในเว็บ ส เจตนาแรก ผมต้องการเข้าไปห้ามทัพ เพราะหลวงพ่อทรงพึ่งเสีย ลูกศิษย์ ( ที่ขายของ ) ดันมาทะเลาะกัน ด่ากันเรื่อง เงิน ผลประโยชน์ของวัตถุมงคลหลวงพ่อทรง ใครอยากทราบลึกๆ ต้องย้อนไปอ่านเมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๑ ในกระทู้นี้น่ะครับ

    ทางเว็บปรับกลไก ของบอร์ด หาอะไรเจอยาก ผมยังหาไม่เจอเลย อ่านจะต้องอ่านไปเรื่อยๆตั้งแต่ หน้าแรก ว่างก็ดูผ่านๆไป ท่านอาจจะเจอวัตถุมงคล หลายอย่างอีก แนว ที่ ศูนย์ และ นายทุนสร้างเป็นการตัดสินใจเอา สำหรับท่านที่มาใหม่น่ะครับ

    ที่จริง วัตถุมงคลหลวงพ่อทรง ไม่ได้มีแค่สี่กลุ่มที่ผมแยกน่ะครับ แต่หลักๆมีสี่กลุ่มข้างบน แต่ยังมี อีกหลายกลุ่ม ผมจะแยกเพิ่มเติม เพราะเวลานานแล้ว ของคงกระจายไปเยอะ

    ๕) กลุ่ม หลาน หรือ ญาติหลวงพ่อครับ อันนี้ออกทุนเองมั่ง เป็นเงินหลวงพ่อมั่งนั่นแหละ แต่เป็นสายตรง เพราะดูแล พยาบาลหลวงพ่ออยู่อย่างดีมาก เงินก็ไปรักษาพยาบาลหลวงพ่อ หลวงพ่อเสกให้แน่นอน ๑๐๐ % ของจากกลุ่มนี้ออกในนามวัดหลายอย่าง หลักๆคือ รูปหล่อ ๕ นิ้ว ( ช่างเดียวกัน ต้นแบบเดียวกัน มีดองกับโรงเรียนสร้าง ) และ เหรียญบางรุ่น เช่นรุ่น เต่าสร้างตัว ( รุ่นนี้ศูนย์...ทำก็จริง แต่ของสายตรงแน่นอน หลังหลวงพ่อล่ะสังขารเหลืออีกเพียบ อยู่ที่บ้านที่หลวงพ่อนอนป่วยน่ะแหละครับ จะเสกหรือไม่เดากันได้ ท่านนอนป่วยเป็นเดือนๆ เสกของเพียบครับ แบบมีจารก็มี ในบางอย่างเช่นตะโพน พระกริ่งขนาดบูชา รูปเหมือนเรซิ่น )

    สายโรงเรียน เล่าไปแล้ว เป็นครูโรงเรียนสร้าง เล่นได้เหมือนกัน เพราะนับถือหลวงพ่อมานาน หลักๆมีรูปหล่อขนาดห้อยคอ เหรียญบางรุ่น รูปอัดกระจก

    ๖) สายส่วนตัว อันนี้มีแน่นอน ๑๐๐ % เพราะเห็นกับตาหลายรายการ เช่น ตะกรุด รูป พระนเรศวร งาแกะ พวกสิงห์ รูปหลวงพ่อ เครื่องราง ที่มาขอลง เช่น มีดหมอ ตะโพนอันใหญ่ ปลัดขิก ทั้งเหลามาเอง และ แบบโหล ซื้อที่อ่างทองรูปแบบ ปลัดขี่ลิงหลวงพ่อกลั่น สายนี้ต้อง ดูที่มาที่ได้ ได้มาล่ะดีแน่ๆ แต่ต้องโุเป็น แยกเป็น หรือ มีหลัก ลายมือ หลวงพ่อ หรือ ตอกโค้ดที่ทำลาย

    หลักๆจะเป็นเครื่องรางที่ทำมาเอง หรือ ซื้อมาเอง พวกกุมารทอง รักยมก็มี แบบนี้ดูยากบอกตามตรง เพราะใครก็ทำมาได้ ใครก็ซื้อมาจากร้านเดียวกันได้ แยกยาก แต่ของเขามีจริงๆ ดีด้วย แต่ถ้ามี ลายมือ หลวงพ่อ ตอกโค็ด ท ไม่มีหัว วศด อันนี้สบายใจ

    สรุป

    อะไร ที่ผ่านมือ หลวงพ่อทรง ท่านผู้เฒ่าเหรียญบิน ตัวจริง รับรองใช้ได้ ไม่ว่า จะเอามาเสก แป็บเดียวเอากลับ หรือ ทิ้งเป็นอาทิตย์ หรือ เป็นเดือน ใช้ได้หมด ไม่ว่าของศูนย์ ของนายทุน ของส่วนตัว ของ ญาติหลวงพ่อ โรงเรียน ครู และ ศิษย์ขาจร ( ทำแจกก็หลายเจ้า )

    ถ้าผ่านมือ หลวงพ่อ ถ้าเป็นเครื่องรางท่านเสกให้ตามแบบเครื่องราง ตามแนวเครื่องราง หลักๆ พวกตะกรุด เสือ เบี้ย ตะโพนฯลฯ แต่ถ้าเป็นพระท่านก็บวชให้แบบพระ ตามแนวที่ท่านเห็นสมควรหรือขอท่าน เน้นด้าน โชคลาภ แคล้วคลาด ทำมาหากิน ผ่าอุปสรรค ราบรื่นขึ้น

    เพราะฉนั้นประเด็น ไม่ได้อยู่ที่ใครทำมา เป็นอะไรที่ท่านเสก ใช้ได้หมด แม้ก้อนหิน แร่โป่งข่าม ชูชก สาริกา มีดพับ ฯลฯ

    แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า จะรู้ได้อย่างใด ว่าผ่านมือ หลวงพ่อมา รู้ว่าท่านเสก

    เราสามารถรู้ได้ถ้า

    ๑) แบบมีตาใน ...ท่านมีตาทิพย์ มีทิพยจักขุญาณ หรือ มีญาณสมาบัติ มีอาจารย์ ดูได้ ไม่อุปปทาน ดูแล้วรู้ว่าหลวงพ่อทรงท่านเสกให้ ไม่ใช่วัตถุมงคลที่หลวงพ่อ หลวงปู่อื่นเสกให้ เพราะหลวงพ่อ หลวงปู่อื่น เก่งๆท่านก็มี ท่านก็มีญาณสมาบัติ มีวัตรปฏิบัติดีๆก็มี ท่านก็เสกให้ ถ้าไปขอให้ท่านเสก หรือ เอาไปเข้าพิธี วัตถุมงคลอันนี้ก็มี ฤทธิ์ มีปาฏิหาริย์ ตามบารมีผู้เสก เหมือนกัน แม้จะเป็นรูปหลวงพ่อทรง แต่หลวงพ่อทรงไม่ได้เสกมาให้

    วิธีนี้ ไม่ใช่หลักวิทยาศสตร์ ใช้ตา ใช้กล้องส่อง ผมจึงขอไม่วิจารณ์ เป็น ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตัวของท่านนั้น มีจริงซ่ะด้วย ผมก็เชื่อว่ามี แต่ไม่ใช่ขอสรุป ในการซื้อขาย แลกเปลี่ยน เปลี่ยนมือ เพราะมันเรื่องของจิตใจ เอามาวัดเป็นมาตรฐานยากครับ เป็นไปได้ยากในแง่มาตรฐาน

    ๒) แบบมีตานอก ใช้กล้องส่อง ดู พิมพ์ ดูเนื้อ ดูตำหนิ ดู ทรงธรรมชาติ ดูตามทักษะที่เห็นมา

    พระเครื่อง เครื่องราง หลวงพ่อทรงเป็นของใหม่ รุ่นหลังๆ อายุแค่สิบกว่าปีเอง ผมสมมุติว่า ที่คน คนหนึ่งทำเหรียญมา ทำพระมา ถวายหลวงพ่อ แม่พิมพ์ของเขา สูตรผสมเนื้อของเขา หรือ ทองแดง เงิน รีดเป็นแผ่น ๆเป็นเบอร์ต่างๆตามโรงงาน ปั้มเหรียญ เขาทำโค้ด ขึ้นมา พิมพ์แบบนี้ เนื้อแบบนี้ โค้ดแบบนี้ แลวเอามาให้ หลวงพ่อท่านเสก ถวายท่าน ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งเอาไปแจกจ่ายจำหน่ายบ้าง เกิดคนนิยมเพราะรู้แบบสวยงาม มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์

    ถ้าอุปกรณ์ แม่พิม์ โค็ด ยังอยู่ที่เขา ถ้าเขาจะทำเสริมขึ้นมา ทำได้ไหมครับ ถ้าในมือคนโลภ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ยิ่งมีราคา หลายร้อย หลายพัน ค่าทองแดงเหรียญล่ะ ๑๐ กว่าบาท พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ โค็ดใช่ แต่ไม่ใช่ ตามที่เขาเรียกกันในวงการพระ

    ถ้าหลวงพ่อยังอยู่ อันนี้ก็ไม่ยาก ยกมาให้หลวงพ่อเสก ท่านก็เสกให้ซ่ะด้วยน่ะครับ ถึงท่านจะรู้ว่าเขาจะเอาไปขายเลี้ยงกระเพราะ เพราะท่านใจดี จิตใจของท่านเลย จุดที่เราคิดว่าดีงามไปมากแล้ว

    แต่ถ้าหลวงพ่อไม่อยู่ล่ะครับ ???? พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ โค้ดใช่ กล่องยังใช่ ...แต่ไม่ใช่ครับ เพราะหลวงพ่อท่านล่ะสังขารไปแล้ว ยกเว้นเขาจุดธุปเชิญหลวงพ่อมาเสกให้ หรือ เปิดเทบ ชินบัญชร เสก แบบเหรียญยอดนิยม วัดดังวัดหนึ่ง

    สำหรับท่านที่ ทันหลวงพ่อ พอรู้ ก็มีแนวทางเพราะคงเห็นมาบ้างว่าในยุทธจักร พระเครื่องราง ของขลัง ของใหม่ๆนี่มีข่าวอย่างไร

    ทำมาพอทุนรุ่นหนึ่ง แบ่งกัน วัดส่วน กรรมการส่วน เกิด โปรโมท ดีๆ หรือ หลวงพ่อท่านแสดงปาฏิหาริย์ ก็ปั้มเสริมออกมาได้ทันที ไม่ต้องลงทุนรอ เปลืองเงิน แล้วมารอตลาด แต่มีตลาดรอ แล้ว ปั้มป้อนตลาด ได้ยิน ได้ฟังประจำ

    วัดดังๆ ลูกศิษย์ ท่านเลย ศอกกลับมีโค็ดวัด เอามาเสก ตอกโค้ดวัดเพิ่ม ให้รู้ว่าหลวงพ่อเสก แบบนี้ก็มีเรื่องซิครับ เช่นพระหลวงพ่อเกษม หลายชุด พอเสนอ ตอกโค็ดวัด หรือ โค็ดสำนัก........ วงแตก ทะเลาะกันเลยครับ

    พระแนวนี้ที่น่าเล่นคือ ทำมาเสร็จรุ่นนั้น ทำลายโค็ด พิมพ์มาเลย มาถวายวัดพร้อมกัน เรียกว่า ทำมา ห้า พัน องค์ แม่พิมพ์ ทำลายแล้ว โค็ด ทำลายแล้วต่อหน้าหลวงพ่อ ว่าทำลายพิมพ์ใช่ ทำลายโค็ดใช่ กันต่อหน้าจะๆ หลวงพ่อเสกแล้ว ตอกโค็ดวัดซ้ำอีกที ก็ไม่น่าเกลียด แบบนี้เล่นได้ ไม่มีงอก

    แต่ถ้าทำมา แล้ว อีก ปี ค่อย เอาแม่พิมพ์ มาทำลายแล้วมาคืนวัด มันหายไปไหน เป็นปีๆครับ ถ้าไม่คิดจะปั้มอีก ไม่กั้ก ไม่มีแผนในหัวจะ เก็บไว้ทำไม?

    สำหรับศิษย์วัดมอญ รุ่นใหม่ หรือเก่าก็ตามแต่อยู่ไกล ไม่ได้ใกล้ชิดวัด ผมเลยบอกให้ทราบและ เสนอแนวให้เล่น ให้สบายใจ เพราะเป็นเงินของท่าน เงินท่านแท้ อุปมา อุปมัย พระ เครื่องรางก็ควรแท้เหมือนเงินของท่าน

    ๑) เล่นชุดที่ทำที่วัด เช่นพระผง ตะกรุด เบี้ย มีประวัติมีคนเห็น เช่นพระผง ทำกันมาเกือบสามปี ทำกันเป็นพัน ครก ( โม่โดยโม่ไฟฟ้า ) ขยันทำ ทำวันล่ะ สามสี่ครก สบายๆ ช่วงเช้า หลังพระฉันท์ สองครก หลังเพลแล้ว อีกสองครก ครกหนึ่งได้พระเป็นร้อยๆองค์ขึ้นไป ทำมา เกือบสามปี ทำแทบทุกวัน มีทีมทำ ลองคำนวนดูน่ะครับ ว่าจะได้สักกี่หมื่นองค์ วัสดุ มีไม่อั้น เพราะศิษย์หลายกลุ่ม เขาเอามาถวาย

    ๒) เล่นของที่มี ลายมือ รอยจารของหลวงพ่อ อันนี้ชัวร์ปึ้ก ว่าผานมือท่าน และ แทบจะทั้งร้อย ถ้าไปเอาวัตุมงคลที่วัดจะเอามาให้หลวงพ่อ หลวงพ่อท่านจะ จารและ เสกอีกทีแทบทั้งนั้น ทั้งจารด้วยเหล็กจาร ปากกา ทั้งอักขร และ ลายเซ็นต์ ถ้ามีรายมือท่าน อันนี้ชัวร์ปึ้กๆ ไม่ว่าวัตถุมงคลนั้นจะเป็นของค่ายไหน ดีสุดยอด เพราะดูแล้วจบ

    หลวงพ่อจารวัตถุมงคลแทบทุกวันที่ไม่ป่วย ป่วยยังมีคนไปขอจาร ท่านจารออกไปเยอะครับ เพราะท่านคงทราบว่า วันข้างหน้า อันไหนมีลายมือท่าน ลูกศิษย์รุ่นใหม่ๆ ของท่านจะได้มั่นใจ มีจำนวนเล่นหา หมุนเวียนมากพอสมควร แต่คนได้ไปอาจจะเก็บเงียบ เพราะจบ เอาไว้บูชาส่วนตัว

    ๓) เล่นที่ตอกโค้ด ท ไม่มีหัว และ วศด..... โค็ด นี้เป็นโค้ดวัด อยู่ที่วัด มีพระเก็บดูแล ไม่ใช่ของส่วนตัวใคร วัตถุมงคลที่มาวางตู้วัด พระท่านก็ตอกไว้ เหรียญ รูปหล่อ ตะกรุด เบี้ย งาแกะ ปลัด ตะโพน ถ้ามีโค็ด ท ไม่มีหัว วศด อันนี้ก็ชัวร์ปึ้ก เพราะตอกกัน หน้าหลวงพ่อ หรือ แถวๆหลวงพ่อนั่งรับแขกน่ะแหละ

    และที่สำคัญว่าเล่นได้ คือ โค้ดนี้ ทำลายแล้ว หลังจากหลวงพ่อล่ะสังขาร โดยเจตนาทำลายจริงๆ ไม่ให้ ไปปั้ม ตอกงอกออกมาอีก ให้ที่ตอกไว้ก่อน เป็นการ ย้ำว่าทันหลวงพ่อออกมาจากวัดมอญ และปิดตำนานโค็ด ท ไม่มีหัว และ วศด เมื่อทำลายซ่ะ

    ๓) ที่มาที่ไปดี คนดีๆมีเสมอ ที่มีศีลและสัจจะ เขาได้มาจากหลวงพ่อ จากแหล่งที่เชื่อถือได้ อันนี้ท่านต้องพิจารณาเองว่า เจอพ่อค้าแท้ๆ หรือ เจอลูกศิษย์หลวงพ่อแท้ๆ คนที่เป็นศิษย์แท้ๆ เขารักหลวงพ่อ เขาไม่ทำให้หลวงพ่อเสียหายแน่นอนครับ เพราะเขาเคารพของเขา เหมือน แม่ พ่อ

    ผมพยายามจะหาที่ผมเขียนสรุปไว้ เรื่องวัตถุมงคลหลวงพ่อทรง แต่หาไม่เจอ ผมสรุปไว้ สี่แบบคือ

    ๑) วัตถุมงคลแบบวัดสร้าง อันนี้วัดสร้างจริงๆ ผสมเนื้อ ปั้มที่วัด หรือ หลวงพ่อสั่งหล่อเอง จากช่าง จ่ายเงินเอง

    ๒) แบบศูนย์ หรือ นายทุนสร้าง อันนี้เจตนา ทำเพื่อขายครับ มีการลงทุน มีการขายเอาทุนคืน มีการเก็งกำไร

    ๓) แบบสร้าง จากวัด หรือ กลุ่มที่เอาไปออกเพื่อการกุศล อาจจะเป็นวัดหรือโรงเรียน หรือนิมนต์หลวงพ่อไปร่วม พุทธาภิเศก และจัดจำหน่าย เจตนาเพื่อ การกุศล สร้างวิหารทาน หรือ สร้างวัด สร้างวา

    ๔) แบบที่มีคนสร้างมาให้ท่านแจกฟรีๆ

    วัตถุมงคลนี้ ผมสรุปไว้ในกระทู้นี่ เท่าที่ผมพบเจอ แต่อาจจะหายากหน่อยในเน็ท

    ผมจะสรุปเป็นหนังสือขึ้นมา รอปัญหาด้านเทคนิคอย่างหนึ่งก่อนครับ

    ในสี่แบบข้างบน อันที่ ๑ ๓ และ ๔ มีปริมาณพอสมควรและ เล่นได้ เจตนา ไม่ได้ขาย หรือ มีเจตนา เพื่อการกุศล

    แต่แบบที่ ๒ นี่แหละครับ ที่ผมจะพูด ตอนหลวงพ่อมีชีวิต ทำกันหลักๆหรือศูนย์หนึ่ง และมีอีกกลุ่มนายทุนมาแจมด้วย ทำขาย เอาเงินนี่แหละครับ

    ประเด็นไม่ได้อยู่ที่คนทำ น่ะครับ คนทำจะเป็นใคร แต่ถ้าวัตถุมงคลนั้น ผ่านมือ หลวงพ่อ ทานเสกให้ ไม่มีปัญหาน่ะครับ เป็นของดี ขึ้นคอ กราบไหว้ได้สบายใจ

    ไม่ได้อยู่ที่ของ ของทำออกมา แบบพิมพ์สวยงาม ถ้าหลวงพ่อเสกให้ สบายมาก ห้อยคอได้

    ถ้าท่านได้มาตอนหลวงพ่อมีสังขาร เอาไปให้ท่านเสกซ้ำ หรือมีการจารลายมือท่าน หรือ ตอกโค้ด ท ไม่มีหัว วศด ( ที่ทำลายแล้ว ) " อันนี้เล่นได้สบายใจ " ว่าหลวงพ่อเสกแน่ๆ

    แต่ถ้าไม่มีตามด้านบน แม่พิมพ์ที่ไม่ได้ทำลาย สูตรเนื้อหาโรงงาน โค็ดก็ไม่ได้ทำลาย ถ้ามีการทำออกมาอีก ของใหม่ๆอายุ แค่ ๑๐ ปี ขอประทานโทษ ท่านจะดูออก แยกออก ระหว่างของที่ทำออกมาใหม่หลังหลวงพ่อล่ะสังขารเมื่อปี ๒๕๕๐ กับของที่ทำออกมาตอนหลวงพ่อยังอยู่ ก่อนปี ๒๕๕๐

    พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ โค็ดใช่ .....แต่ไม่ใช่ หรือ หลวงพ่อไม่ได้เสกน่ะครับ เมื่อของเขาทำขาย ขายได้ เขาก็ทำออกมาอีก มันเป็นธุรกิจของเขา

    ท่าน และ ผมจะแยกได้อย่างไร ..ตอบเลย ต้องมีตาใน ดูได้ว่ามีพลังของหลวงพ่อเสกให้หรือไม่ ถ้าท่านและผมมีพลัง มีตาในแบบนั้น ไม่ต้องมาห้อยพระแล้วล่ะครับ จิตของท่านสูงขนาดดูจิตของหลวงพ่อที่เสกของได้ ...แหะๆ ไปไกลครับ

    ตกลงแยกยากครับ และไม่เกี่ยวกับหลวงพ่อเสก และ ดี หรือไม่ดี แบบประเด็นที่เขาให้พวกท่านเข้าใจน่ะครับ.......เพราะ ถ้าผ่านมือหลวงพ่อมา เป็นของ ดีแน่ๆครับ

    แต่จะรู้ได้อย่างไร ว่าผ่านมือหลวงพ่อครับ " อันนี้คือประเด็นครับ " คำตอบทางวิทยาศาสตร์ไม่มีทางรู้ได้เลยครับ ต้องอาศัยวิทยาศาสตร์ ประวัติ บันทึก โค็ดที่ทำลาย และ รอยจารลายมือหลวงพ่อครับ ท่านจะได้จ่ายเงินสบายใจ

    ถ้าท่านได้มา มีที่มาที่ไปดี ก็ให้ใจสบายไปตามนั้น ท่านเชื่อคนขายก็ให้เขารับรองมาด้วยน่ะครับ เพราะท่านซื้อเพราะหน้าคนขาย ตามคำพูดคนขาย ที่เขาบอกว่าทัน รับกับมือหลวงพ่อ ...... ท่านมั่นใจแบบนั้น ก็เล่นไปแบบนั้นน่ะครับ ตามสดวกเลยครับ ท่านมีสิทะธิ เพราะเป็นเงินของท่านเอง

    ไม่มีประเด็นน่ะครับว่า ถ้าผ่านมือหลวงพ่อ ถ้าท่านเสกให้ ก้อนหินก็ห้อยคอได้ครับ

    ประเด็นอยู่ที่ว่า จะรู้ได้อย่างไรตามหลักวิทยาศาสตร์ว่าผ่านมือหลวงพ่อน่ะครับ


    หาไม่เจอของเก่า แต่สรุปซ้ำอีกทีก้ได้ เพราะพระหลวงพ่อทรงเป็นที่นิยม เนื่องจากมีพุทธคุณเป็นที่ประจักษ์ ผมเขียนเรื่องหลวงพ่อทรง ๑๐ ปีมาแล้ว ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๕๑ สาเหตุเนื่องจากมีการทะเลาะกันในเน็ท เรื่องผลประโยชน์ ของ ศูนย์ และ พวกนายทุนอีกกลุ่ม ในเว็บ ส เจตนาแรก ผมต้องการเข้าไปห้ามทัพ เพราะหลวงพ่อทรงพึ่งเสีย ลูกศิาญื ดันทะเลาะกัน ด่ากันเรื่อง เงิน ผลประโยชฯ์ของวัตถุมงคลหลวงพ่อทรง ใครอยากทราบลึกๆ ต้องย้อนไปอ่านเมื่อ พ.ศง ๒๕๕๑ ในกระทู้นี้น่ะครับ

    ทางเว็ยปรับกลไกของบอร์ด หาอะไรเจอยาก ผมยังหาไม่เจอเลย อ่านจะต้องอ่านไปเรื่อยๆตั้งแต่ หน้าแรก ว่างก็ดูผ่านๆไป ท่านอาจจะเจอวัตถุมงคล หลายอย่างอีก แนว ที่ ศุนย์ และ นายทุนสร้างเป็นการตัดสินใจเอา สำหรับท่านที่มาใหม่น่ะครับ

    ที่จริง วัตถุมงคลหลวงพ่อทรง ไม่ได้มีแค่สี่กลุ่มที่ผมแยกน่ะครับ แต่หลักๆมีสี่กลุ่มข้างบน แต่ยังมี อีกหลายกลุ่ม ผมจะแยกเพิ่มเติม เพราะเวลานานแล้ว ของคงกระจายไปเยอะ

    ๕) กลุ่ม หลาน หรือ ญาติหลวงพ่อครับ อันนี้ออกทุนเองมั่ง เป็นเงินหลวงพ่อมั่ง แต่เป็นสายตรง เพราะดูแล พยาบาลหลวงพ่ออยู่อย่างดีมาก เงินก็ไปรักษาพยาบาลหลวงพ่อ หลวงพ่อเสกให้แน่นอน ๑๐๐ % ของจากกลุ่มนี้ออกในนามวัดหลายอย่าง หลักๆคือ รูปหล่อ ๕ นิ้ว ( ช่างเดียวกัน ต้นแบบเดียวกัน มีดองกับ สร้างโรงเรียน ) และ เหรียญบางรุ่น เช่นรุ่น เต่าสร้างตัว ( รุ่นนี้ศูนย์...ทำก็จริง แต่ของสายตรงแน่นอน หลังหลวงพ่อล่ะสังขารเหลืออีกเพียบ อยู่ที่ๆหลวงพ่อนอนป่วยน่ะแหละครับ )

    สายโรงเรียน เล่าไปแล้ว เป็นครูโรงเรียนสร้าง เล่นได้เหมือนกัน เพราะนับถือหลวงพ่อมานาน หลักๆมีรูปหล่อขนาดห้อยคอ และ เหรียญ บางรุ่น

    ๖) สายส่วนตัว อันนี้มีแน่นอน ๑๐๐ % เพราะเห็นกับตาหลายรายการ เช่น ตะกรุด รูป พระนเรศวร งาแกะ พวกสิงห์ รูปหลวงพ่อ เครื่องราง ที่มาขอลง เช่น มีดหมอ ตะโพนอันใหญ่ ปลัดขิก ทั้งเหลามาเอง และ แบบโหล ซื้อที่อ่างทองรูปแบบ ปลัดขี่ลิง หลวงพ่อกลั่น

    หลักๆจะเป็นเครื่องรางที่ทำมาเอง หรือ ซื้อมาเอง พวกกุมารทอง รักยมก็มี แบบนี้ดูยากบอกตามตรง เพราะใครก็ทำมาได้ ใครก็ซื้อมาจากร้านเดียวกันได้ แยกยาก แต่ของเขามีจริงๆ ดีด้วย แต่ถ้ามี ลายมือ หลวงพ่อ ตอกโค็ด ท ไม่มีหัว วศโ อันนี้สบายใจ

    สรุป

    อะไร ที่ผ่านมือ หลวงพ่อทรง ท่านผู้เฒ่าเหรียญบิน ตัวจริง รับรองใช้ได้ ไม่ว่า จะเอามาเสก แป็บเดียวเอากลับ หรือ ทิ้งเป็นอาทิตย์ หรือ เป็นเดือน ใช้ได้หมด ไม่ว่าของศูนย์ ของนายทุน ของส่วนตัว ของ ญาติหลวงพ่อ โรงเรียน ครู และ ศิาญืขาจร

    ถ้าผ่านมือ หลวงพ่อ เป็นเครื่องราง ท่านเสกให้ตามแบบเครื่องราง ตามแนวเครื่องราง หลักๆ พวกตะกรุด เสือ เบี้ย ตะโพน ฯลฯ แต่ถ้าเป็นพระท่านก็บวชให้แบบพระ ตามแนวที่ท่านเห็นสมควรหรือขอท่าน เน้นด้าน โชคลาภ

    เพราะฉนั้นประเด็น ไม่ได้อยู่ที่ใครทำมา เป็นอะไรที่ท่านเสก ใช้ได้หมด แม้ก้อนหิน แร่โป่งข่าม ชูชก สาริกา มีดพับ ฯลฯ

    แต่ประเด็นอยู่ที่ว่า จะรู้ได้อย่างใด ว่าผ่านมือ หลวงพ่อมา รู้ว่าท่านเสก

    ๑) แบบมีตาใน ...ท่านมีตาทิพย์ มีทิพยจักขุญาณ หรือ มีอาจารย์ ดูได้ ไม่อุปปาทาน ดูแล้วรู้ว่าหลวงพ่อทรงท่านเสกให้ ไม่ใช่วัตถุมงคลที่หลวงพ่อ หลวงปู่อื่นเสกให้ เเพราะลหวงพ่อ หลวงปู่อื่น เก่งๆท่านก็มี ท่านก็มีญาณสมาบัติ มีวัตรปฏิบัติดีๆก็มี ท่านก็เสกให้ ถ้าไปขอให้ท่านเสก หรือ เอาไปเข้าพิธี วัตถุมงคลอันนี้ก็มี ฤทธิ์ มีปาฏิหาริย์ ตมบารมีผู้เสก เหมือนกัน แม้จะเป็นรุปหลวงพ่อทรง หลวงพ่อทรงไม่ได้เสกมาให้

    วิธีนี้ ไม่ใช่หลักวิทยาศสตร์ ใช้ตา ใช้กล้องส่อง ผมจึงขอไม่วิจารณ์ เป็น ปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตัวของท่านนั้น มีจริงซ่ะด้วย ผมก็เชื่อว่ามี แต่ไม่ใช่ขอสรุป ในการซื้อขาย แลกเปลี่ยน เปลี่ยนมือ

    ๒) แบบมีตานอก ใช้กล้องส่อง ดู พิมพ์ ดูเนื้อ ดูตำหนิ ดู ทรงธรรมชาติ ดูตามทักษะที่เห็นมา

    พระเครื่อง เครื่องราง หลวงพ่อทรงเป็นของใหม่ รุ่นหลังๆ อายุแค่สิบกว่าปีเอง ผมสมมุติว่า ที่คนคนหนึ่งทำเหรียญมา ทำพระมา ถวายหลวงพ่อ แม่พิมพ์ของเขา สูตรผสมเนื้อของเขา หรือ ทองแดง เงิน รีดเป็นแผ่น ๆเป็นเบอร์ต่างๆตามโรงงาน ปั้มเหรียญ เขาทำโค้ด ขึ้นมา พิมพ์แบบนี้ เนื้อแบบนี้ โค้ดแบบนี้ แลวเอามาให้ หลวงพ่อท่านเสก ถวายท่าน ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งเอาไปแจกจ่ายจำหน่ายบ้าง เกิดคนนิยมเพราะรู้แบบสวยงาม มีอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์

    ถ้าอุปกรรื แม่พิม์ โค้ด ยังอยุ่ที่เขา ถ้าเขาจะทำเสริมขึ้นมา ทำได้ไหมครับ ถ้าในมือคนโลภ ง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วยเข้าปาก ยิ่งมีราคา หลายร้อย หลายพัน ค่าทองแดงเหรียญล่ะ ๑๐ กว่าบาท พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ โค็ดใช่

    ถ้าหลวงพ่อยังอยู่ อันนี้ก็ไม่ยาก ยก มาให้หลวงพ่อเสก ท่านก็เสกให้ซ่ะด้วยน่ะครับ ถึงท่านจะรู้ว่าเขาจะเอาไปขายเลี้ยงกระเพาะ เพราะท่านใจดี จิตใจของท่านเลย จุดที่เราคิดว่าดีงามไปมากแล้ว

    แต่ถ้าหลวงพ่อไม่อยู่ล่ะครับ ???? พิมพ์ใช่ เนื้อใช่ โค้ดใช่ กล่องยังใช่ ...แต่ไม่ใช่ครับ เพราะหลวงพ่อท่านล่ะสังขารไปแล้ว ยกเว้นเขาจุดธุปเชิยหลวงพ่อมาเสกให้ หรือ เปิดเทบเสก แบบเหรียญยอดนิยม วัดดังวัดหนึ่ง

    สำหรับท่านที่ ทันหลวงพ่อ พอรู้ ก็มีแนวทางเพราะคงเห็นมาบ้างว่าในยุทธจักร พระเครื่องราง ของขลัง ของใหม่ๆนี่มีข่าวอย่างไร

    ทำมาพอทุนรุ่นหนึ่ง แบ่งกัน วัดส่วน กรรมการส่วน เกิด โปรโมท ดีๆ หรือ หลวงพ่อท่านแสดงปาฏิหาริย์ ก็ปั้มเสริมออกมาได้ทันที ไม่ต้องลงทุนรอ เปลืองเงิน แล้วมารอตลาด แต่มีตลาดรอ แล้ว ปั้มป้อนตลาด ได้ยินได้ ฟังประจำ

    วัดดังๆ ลูกศิษย์ ท่านเลย ศอกกลับมีโค็ดวัด เอามาเสก ตอกโค้ดวัดเพิ่ม ให้รู้ว่าหลวงพ่อเสก แบบนี้ก็มีเรื่องซิครับ เช่นพระหลวงพ่อเกษม หลายชุด พอเสนอ ตอกโค็ด วงแตก ทะเลาะกันเลยครับ

    พระแนวนี้ที่น่าลเ่นคือ ทำมาเสร็จรุ่นนั้น ทำลายโค็ด พิมพ์มาเลย มาถวายวัดพร้อมกัน เรียกว่า ทำมา ห้า พัน แม่พิมพ์ ทำลายแล้ว โค้ด ทำลายแล้วต่อหน้า ว่าทำลายพิมพ์ใช่ ทำลาายโค็ดใช่ กันต่อหน้าจะๆ หลวงพ่อเสกแล้ว ตอกโคเดวัดว้ำอีกที ก็ไม่น่าเกลียด แบบนี้เล่นได้ ไม่มีงอก

    แต่ถ้าทำมา แล้ว อีก ปี ค่อย เอาแม่พิมพ์ มาทำลายแล้วมาคืนวัด มันหายไปไหน เป็นปีๆครับ ถ้าไม่คิดจะปั้มอีก เก็บไว้ทำไม?

    สำหรับศิษย์รุ่นใหม่ หรือเก่าก็ตามแต่อยู่ไกล ไม่ได้ใกล้ชิดวัด ผมเลยบอกให้ทราบและ เสนอแนวให้เล่น ให้สบายใจ เพราะเป็นเงินของท่าน เงินท่านแท้ อุปมา อุปมัย พระ เครื่องรางก็ควรแท้เหมือนกัน

    ๑) เล่นชุดที่ทำที่วัด เช่นพระผง ตะกรุด เบี้ย มีประวัติมีคนเห็น เช่นพระผง ทำกันมาเกือบสามปี ทำกันเป็นพัน ครก ( โม่โดยโม่ไฟฟ้า ) ขยันทำ ทำวันล่ะ สามสี่ครก สบายๆ ช่วงเช้า หลังพระฉันท์ สองครก เพลแล้ว อีกสองงครก ครกหนึ่งได้พระเป็นร้อยๆอง๕์ขึ้นไป ทำมา เกือบสามปี ลองคำนวนดูน่ะครับ

    ๒) เล่นของที่มี ลายมือ รอยจารของหลวงพ่อ อันนี้ชัวร์ปึ้ก ว่าผ่านมือท่าน และ แทบจะทั้งร้อย ถ้าปเอาวัตุมงคลที่วัดจะเอามาให้หลวงพ่อ จารและ เสกอีกทีแทบทั้งนั้น ทั้งจารด้วยเหล็กจาร ปากกา ทั้งอักขร และ ลายเซ็นต์ ถ้ามีลายมือท่าน อันนี้ชัวร์ปึ้กๆ ไม่ว่าวัตถุมงคลนั้นจะเป็นของค่ายไหน

    หลวงพ่อจารวัตถุมงคลแทบทุกวันที่ไม่ป่วย ป่วยยังมีคนไปขอจาร ท่านจารออกไปเยอะครับ เพราะท่านคงทราบว่า วันข้างหน้า อันไหนมีลายมือท่าน ลูกศิษย์รุ่นใหม่ๆ ของท่านจะได้มั่นใจ มีจำนวนเล่นหา หมุนเวียนพอสมควร

    ๓) เล่นที่ตอกโค้ด ท ไม่มีหัว และ วศด โค็ด นี้เป็นโค้ดวัด ไม่ใช่ของส่วนตัวใคร วัตถุมงคลที่มาวางตู้วัด พระท่านก็ตอกไว้ เหรียญ รูปหล่อ ตะกรุด เบี้ย งาแกะ ปลัด ตะโพน ถ้ามีโค็ด ท ไม่มีหัว และ วศด อันน้ก็ชัวร์ปึ้ก เพราะตอกกัน หน้าหลวงพ่อ หรือ แถวๆหลวงพ่อนั่งรับแขกน่ะแลหะ

    และที่สำคัญว่าเล่นได้ คือ โค้ดนี้ ทำลายแล้ว หลังจากหลวงพ่อล่ะสังขาร โดยเจตนาทำลายจริงๆ ไม่ให้ ไปปั้ม ตอกงอกออกมาอีก ให้ที่ตอกไว้ เป็นการ ย้ำว่าทันหลวงพ่อออกมาจากวัดมอญ และปิด ตำนานโค็ด ท ไม่มีหัว และ วศด

    ๔) ที่มาที่ไปดี คนดีๆมีเสมอ ที่มีศีลและสัจจะ เขาได้มาจากหลวงพ่อ จากแหล่งที่เชื่อถืได้ อันนี้ท่านต้องพิจารณาเองว่า เจอพ่อค้าแท้ๆ หรือ เจอลูกศิษย์หลวงพ่อแท้ๆ คนที่เป็นศิษญ์ รักหลวงพ่อ เขาไม่ทำห้หลวงพ่อเสียหายแน่นอนครับ

    เขียนไว้ หลายครั้ง หลายวาระ เอามาต่อกัน อาจจะซ้ำหน่อยน่ะครับ ข้อคามเหล่านี้ เขียนไว้ ๗ ปีขึ้นไป ไม่ใช่พึ่งมาเขียน
     
  12. cc5922

    cc5922 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +16,973
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
    โมทนาบุญในกิจอันเป็นกุศลที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั้งมวล ครับ สาธุ
    ขอบารมีหลวงปู่หลวงพ่อหนุนนำครับ สาธุ
     
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    11710-jpg-jpg.jpg

    ๖๘๒ ทำบุญกับสำนักวัดเงินฯ บางพรหม ตลิ่งชัน ๑๓๐๐ บาท

    โอนเงินรายการที่ ๖ ไปยัง ท่านพระครู เอาไปสร้างความดี ตามอัชฌาศัย วิหารทานและ ทำวัตถุมงคลแจก หรือ อื่นๆ ตามอัชฌาศัย

    หมายเลขอ้างอิง : KBKR170713923376496

    โอนเงินจากบัญชี : xxx-x-70925-9

    ธนาคารของบัญชีผู้รับโอน : BANGKOK BANK

    เพื่อเข้าบัญชี : 089-7-08176-6 พระมานิตย์ สุทธิญาโณ

    ชื่อเจ้าของบัญชีในฐานข้อมูล : MANIT SUTHIYO

    จำนวนเงิน (บาท) : 1300.0

    ค่าธรรมเนียม (บาท) : 25.0

    บันทึกช่วยจำ : วิหารทานและตามอัชฌาศัยโดยพี่น้อง บ้านเหรียญบิน-แพโบสถ์น้ำ[/QUOTE

    รายการนี้ทันการเชิญครูเข้าพรรษาพอดีในวันนี้ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๐ การแสดงความ เคารพครูอย่างที่สุด และเคร่งครัดในพิธีกรรม ทำให้ วิชาไสยศาสตร์ขลังน่ะครับ วิชาที่ต่อมาก็ได้รับการสนับสนุนจากครู ครูท่านจะต่อกันไปถึงบรมครูองค์ต้น ในสายนี้ที่แรง คือ สายพระพุทธสิหิงค์สายเหนือ พระอุปคุตเถระ ที่เป็นเทพ เป็นพรหม เป็นอริยะ ท่านยังมีครู สายอื่นๆ พวกครูเหล่านี้ ทำให้ พระคาถา เครื่องรางของขลัง และ พระเครื่องเราขลัง สามารถช่วย เราได้ ไม่เกินกรรม เราก็เน้นขอให้ช่วยอุดหนุนศิษย์ในเรื่องสำคัญ ๆ ให้เกิดสติ ปัญญา ขอให้พี่น้องโมทนาน่ะครับ อย่าพลาดน่ะจ้ะ ......ด้วยความรักและคิดถึง จาก พี เสาวภา

    ท่านที่ไปร่วมที่วัดเงิน บางพรหม ไม่ได้ ก็ โมทนา ที่บ้าน ที่ทำงานน่ะครับ เราช่วยกันบริจาคเงิน ค่าขันครู พานครู บายศรี และข้าวของบริวารไปพอดี ๑๓๐๐ บาท น่าจะเริ่มหลังจากพระท่านฉัน เช้าไปเเล้ว สักประมาณ ๙ โมงครึ่ง เริ่มพิธีครับ

    ขอเดช กตเวทิตา อีกวิริยะพา
    ปัญญาให้เกิดแตกฉาน ศึกษาสำเร็จทุกประการ
    อายุยืนนาน อยู่ในศีลธรรมอันดี

    มะ ปลุกๆ กูจะปลุกรูปพระและนานา

    พระเลขยันต์และคาถา เขี้ยว และ งา

    พระครูฤาษี พระอุปคุตเถระ พระครูบุญศรี ประสิทธิให้แก่กู.......


    กราบ ๆ ๆ สาธุ ๆ ๆ
     
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292

    ประวัติวัดใหม่ศรีสุทธาวาส

    วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เดิมชื่อ “ วัดใหม่กฐินราย “ ตั้งอยู่ที่ หมู่ ๑ ตำบล น้ำทรง อำเภอ พยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์ โดยอยู่ ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตก เป็นวัดที่ตั้งห่างไกลจากตัวอำเภอประมาณ 7 - 8 กิโลเมตร อยู่คนละฟากแม่น้ำ มีบ้านเรือนอยู่รอบวัดประมาณ 100 หลังคาเรือน วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้สร้าง ไม่ปรากฎหลักฐาน เพียงอนุมานว่า สร้างขึ้นในยุครัตนโกสินทร์ ราวปี พ.ศ.2469 มีเจ้าอาวาสปกครองวัดประมาณ 4 องค์ ก็ขาดพระภิกษุดูแล วัดชำรุดทรุดโทรมและกลายเป็นวัดร้างไปตามกาลเวลา

    หมายเหตุ : เดิมชาวบ้านเรียกวัดใหม่ เฉยๆ พอหลวงปู่มาอยู่ ผมถามท่านเอง ท่านบอกว่าฉันตั้งชื่อเอง เป็น วัดใหม่ศรีสุทธาวาส ( ชื่อนี้ไม่เป็นชื่อแบบเป็นทางการ ) คำว่า ศรีมาจากชื่อท่าน ส่วนคำว่า สุทธาวาส พวกท่านคงทราบดี ว่าเป็นที่อยู่ของพรหมชั้นสูงสุด มาถึงตอนนี้ หลวงปู่ท่านก็ล่ะสังขารไปแล้ว ผมบอกตามความเชื่อของผมเลยว่า ที่ท่านมาแล้วตั้งว่าคำว่า สุทธาวาสต่อ ก็คือที่ที่ท่านอยู่ในตอนนั้นนั่นเอง ส่วนจะที่ไหน พวกท่านกรุณาคิดกันเอาเอง

    จนกระทั่งเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันคือ พระครูบุญศรี อินฺทวณฺโณ อายุประมาณ ( อย่างน้อย ) ๙๖ ปี จากการประเมินตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ว่าท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ อันนี้มีผู้ได้ยินหลายคน มีพยานอยู่ และท่านว่าท่านเกิดวันอาทิตย์ปีมะเส็ง และท่านบอกเองว่าว่าใบสุทธิลงปีผิด แต่ท่านไม่สนใจ ปล่อยเลยตามเลย เมี่อคำนวนดูว่าสิ้นสมัยรัชกาลที่ ๕ เมี่อ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ปีจอ

    หมายเหตุ : ผมเคยพาหลวงปู่อาจารย์ ไปตรวจปากและทำฟัน ( ปลอม ) ที่นครสวรรค์ ฟันท่านร่วงหมดปากแล้ว ไม่มีแม้แต่ซี่เดียว แต่ร่างกายแข็งแรงมาก เดินเหินตัวปลิว ไม่ต้องมีไม้เท้า ไม่ต้องมีพยุง ( จะเข้าไปพยุงท่านจะปัดมือออก เป้นที่รู้กันในหมู่ศิษย์ใกล้ชิด หมอฟันเมื่อตรวจหลวงปู่บนเตียงทำฟันแล้ว ฉงนมาก ว่าหลวงปู่อายุเท่าไหร่ เพราะคนจะฟันร่วงหมดปากนี่ อายุ แบบว่า ใกล้ร้อยเข้าไปแน่ๆ พอหมอถามหลวงปู่ ว่าหลวงปู่อายุเท่าไหร่ ท่านยกมือซ้ายกางนิ้วมือมา ๕ นิ้ว แล้วยกให้ดูสองครั้ง หมายถึง เกิดรัชกาลที่ ๕ อยู่มา ๕ แผ่นดิน ( หายากแล้วล่ะครับ ) และที่ไม่น่าแปลกใจ หวยงวดนั้น ออก ๕๕ ครับ

    หลวงปู่ ท่านเคยบอกว่า ท่านชาตะ วันอาทิตย์ และเคยบอกอีก ต่างเวลาและเหตุการณ์กันว่าปีมะเส็ง ผมเอามาผูกกัน ถ้าท่านเกิดปีมะเส็งที่ทันรัชกาลที่ ๕ ก็ต้องเป็นปี พ.ศ. ๒๔๔๘ ท่านจะมีอายุก่อนละสังขารไม่ต่ำกว่า ๙๖ ปี ( ๑๘ มกราคม วันเกิดหลวงปู่ ) แต่ถ้าเกิดก่อนอีกรอบจะมีอายุประมาณ ๑๐๘ ปี!!! ( พ.ศ. ๒๔๓๖ ถ้า เกิด พ.ศ. นี้ จะมีอายุใกล้เคียงกับ หลวงปู่บุดดา ถาวโร ครับ ) แต่จากใบสุทธิหลวงปู่จะมีอายุประมาณ ๘๔ ปี ตอนล่ะสังขารหลวงปู่ได้มาจำพรรษาที่วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๐๓ จนละสังขารเมี่อ วันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ

    หมายเหตุ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี. ชาตะเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐

    ( จะมีอายุอ่อนกว่า หลวงปู่ บุญศรี ๑๒ ปี คนล่ะรุ่นกันครับ )

    ตามประวัติ พระเดชพระคุณ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ และ หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก เป็นรุ่นเดียวกัน ไปเป็นทหารพร้อมกัน คนจะเกณฑ์ทหาร รุ่นเดียวกัน ยศเดียวกัน ถ้าผมจำไม่ผิดคือยศ เรือตรี จะมีอายุใกล้เคียงกัน จะอายุแก่ อ่อนกว่ากัน ๑๒ ปี เป็นไปไม่ได้ครับ เมื่อมาบวชก็มาพร้อมๆกัน และผมมีหลักฐานมาพิสูจน์อีกว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่พระครูบุญศรี ไม่ได้เกิดปี ๒๔๖๐ ตามที่เข้าใจกัน

    หมายเหตุ หลวงปู่บุดดา ถาวโร กำเนิด วันเสาร์ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือนยี่ ปีมะเมีย ตรงกับวันที่ ๕ มกราคมพ.ศ. 2437

    ( จะมีอายุ แก่กว่าหลวงปุ่บุญศรี ๑๑ ปี คนล่ะรุ่นกันอีกเหมือนกันครับ )

    ที่อัญเชิญชาตะ หลวงปู่บุดดามาก็เพราะว่ายุคหนึ่ง คนก็เชื่อกันว่า ท่านคือ ฤาษีลิงขาว ดูจากวัยแล้ว หลวงปู่บุดดาอาวุโสกว่าหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก ไม่มีทางเป็นรุ่นเดียวกันได้


    ประวัติหลวงปู่พระครู บุญศรี อินฺทวณฺโณ

    จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เอง และจากคุณน้าสมพงษ์ บูรณานันท์ ( หลานหลวงปู่อายุ ๖๕ ปี เกิด พ.ศ. ๒๔๗๖)

    ครูเพชร แพ่งเกษร ครูเจริญ วัดใหม่ฯ และจากใบสุทธิ ของท่าน

    จากใบสุทธิ

    ชื่อ บุญศรี นามสกุล สังขะพานิช

    วิทยฐานะ ชั้นมัธยม ๓ ( จัดว่าสูงมากในยุคนั้น ) อาชีพ พานิชกรรม
    บิดา นาย ทองหยู่ ( ซีปู้ แซ่เตีย แต้จิ๋ว ) มารดา นาง ทิน ( ทับทิม ลูกครึ่งไทย จีน )

    เกิด วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๖๐ ตรงกับ วัน พุธ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๒ ปี มะเส็ง ( หลังรัชกาลที่ ๕ สวรรคต )

    แต่ในใบสุทธิเขียน เกิดวัน ๑ ฯ ๒ ค่ำ ปี มะเส็ง ๒๔๖๐ ซึ่งหลวงปู่บอกว่าผิด
    ตำบล ตลุก อำเภอ สรรพยา

    จังหวัด ชัยนาท
    สีเนื้อ ขาวเหลือง สัณฐาน สูง

    ตำหนิ แผลเป็นใต้ศอกขวา

    บรรพชา

    ชื่อ สามเณร บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

    พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

    บรรพชาเมื่ออายุ ๒๑ ปี

    วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

    ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี

    อุปสมบท

    ชื่อ พระ บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

    พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

    พระอาจารย์ ทรง กรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์ ปิ่น อนุสาวนาจารย์


    อุปสมบทเมื่ออายุ ๒๑ ปี

    วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

    ( น่าจะบรรพชาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ การบันทึกผิดไปรอบหนึ่ง หลวงปู่ท่านบอกว่า ใบสุทธิมาทำใหม่ทีหลัง และผิด แต่ถ้าเรารู้นิสัยท่าน ท่านจะเป็นคนนิ่งๆ เฉยๆ และเลยตามเลย )

    ณ วัดทุ่งหลวง ตำบล ทุ่งพงษ์ อำเภอ หนองฉาง จังหวัด อุทัยธานี

    ชื่อ พระบุญศรี

    ฉายา อินฺทวณฺโณ
    วัด สะพานหิน

    ตำบล หาดทะนงค์
    อำเภอ เมืองอุทัยธานี จังหวัด อุทัยธานี

    วันที่ ๑๙ เดือน มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๓

    เจ้าอาวาส พระครูอุทิศธรรมวินัย เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี

    สำนักที่จำพรรษา (จากคำบอกเล่าของหลวงปู่ )
    ๑) วัดสพานหิน ( หลวงปู่เล่าว่า ได้ฝากตัวเรียนวิชา พระคาถาอาคมกับพระอาจารย์ บุญธรรม วัดทุ่งหลวงโดยมีข้อแม้ว่าต้องบวช ในรุ่นท่านมีอยู่ ๕ คนที่บวชเข้ามาเรียนวิชา เมื่อกราบเรียนถามท่านว่า พระอาจารย์ บุญธรรมเก่งไหม ท่านตอบว่า เก่ง แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างพระเครื่องรางของขลังไว้ )

    ๒) วัดโบสถ์ ๑ พรรษา
    ๓) วัดไชโย ๑ พรรษา เคยเดินไปเที่ยววัดพิกุลทอง สิงห์บุรี พระครูพุทธพิมพ์ภิบาล เป็นเจ้าอาวาสและเป็นเจ้าคณะอำเภอ มีเรือยนตร์ ๒ ลำ
    ๔) วัดที่จังหวัดอุตรดิตย์ ตรงข้ามวัดท่าเสา ๑ พรรษา

    ๕) วัดทุ่งหลวง หนองฉาง อุทัยธานี ๓ พรรษา เป็นเจ้าอาวาส ครูเจริญครูโรงเรียนวัดใหม่เคยคุยกับคนส่งที่เคยจัดส่งปิ่นโตให้หลวงปู่

    ๖) วัดสพานหิน ? วัดบ้านกล้วย?

    ๗) วัดสำโรง พยุหคีรี

    ๘) วัดใหม่ศรีสุทธาวาส เป็นเจ้าอาวาส ประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๓ ถึง ๒๕๔๔ จนล่ะสังขาร

    ประวัติส่วนตัว

    เกิดที่อำเภอวัดสิงห์ คุณยายอยู่สรรพยา คุณยายเป็นผู้บวชให้ ( จากคำบอกของหลวงปู่ บวชเมื่ออายุ ๒๓ ปี )

    มีพี่น้อง ๕ คน เป็นอันดับต่อไปนี้

    ๑) คุณยาย กิมยู้ เสียชีวิต ตอนเสียชีวิตอายุ ๘๐ กว่า เสียมา ๑๐ กว่าปี ( จากคำบอกเล่า นับตอน พ.ศ. ๒๕๔๐ ) คุณยาย กิมยู้ น่าจะเกิด ประมาณ พ.ศ. ๒๔๔๐ กว่า

    ๒) หลวงปู่ ( ตี้ ) ซึ่งเกิดตามมา ผมเชื่อว่าท่านเกิด พ.ศ. ๒๕๔๘ ครับ และน่าจะบวชเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๑ ครับ

    ๓) คุณปู่เท้า

    ๔) คุณยาย กิมเอง เสียชีวิตแล้ว ( ๒๕๔๐ )

    ๕) คุณยาย ละมูล แซ่ ลี เกิดปีวอก ( ๒๔๖๑ ) อายุ ๘๐ ปี ตอนปี ๒๕๔๐

    ไม่เคยเป็นทหารมาก่อน จากคำบอกเล่าของหลวงปู่เองว่า เกือบโดนเกณท์เป็นทหารม้าที่สระบุรีเพราะขี่ม้าเป็น ท่านแสดงรอยสักที่ท้องแขน ว่าข้างขวาเป็นรอยสักทับรอยสักเดิมสมัยเป็นเด็กสักเล่นๆ ส่วนบนท้องแขนข้างซ้ายเป็นรอยสักฉายา อินฺทวณฺโณ

    หลวงปู่ละสังขารเมี่อวันพุธที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๔๔ เวลาประมาณ ๙ โมง ๑๕ นาที ด้วยอาการอันสงบ

    ข้างบนเป็นบันทึกมาจากใบสุทธิ และจากคำบอกเล่า กว่าผมจะรู้แค่นี้ใช้เวลาเป็นปีๆ สาเหตุเพราะท่านเป็นคนไม่พูดมาก ถามคำตอบคำ และ ไม่ชอบเล่าประวัติ พอคุยๆไป วกมาถาม ท่านก็บอกที พอรู้ว่าเราจะถามประวัติ ท่านก็หยุด คราวนั้นเป็นอันว่าอด ต้องรอไปอีกสักหลายเดือน เป็นสองสามเดือน รอท่านไม่ระวังตัว คุยๆไปคุยมา วกมาถามต่ออีกที ก็ได้อีกหน่อย เหตุการณ์ก็เป็นแบบเก่า ต้องเผลอๆ แอบถามไปเรื่อยๆ แล้วเอามาปะติดปะต่อกัน

    ผมจดไว้ กันลืม ผมจะเล่าไปเรื่อยๆ แต่พอมาถึงยุคที่ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านแล้ว ท่านเมตตารับไว้ พอผมสนิทๆกับท่าน รู้แกวว่าจะถามอะไรลึกๆ ต้องอยู่กันแค่สองคน

    ครั้งสำคัญคือผมถามที่สงสัยว่า หลวงปู่คือหลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก หรือปล่าวครับ ท่านยกมือปฏิเสธทันที และบอกว่า ไม่ใช่ เขาเข้าใจกันผิด และผมทราบนิสัยว่า เมื่อท่านบอกไม่ใช่แล้ว พวกก็ยังมาตื้อให้ใช่อีก ( ด้วยเหตุผล ต่างๆ ตามความเชื่อส่วนตัว ) ท่านก็จะเฉยซ่ะ ปล่อยเลยตามเลย

    ตามที่ไฮไลท์น่ะครับ

    อาจารย์ที่เป็นทางการ คนแรก คือ หลวงปู่บุญธรรม และ หลังจากนั้น ตระกูลท่านเป็นคนค้าขาย ท่านเคยไปเรียนที่อ่างทอง และ จำพรรษาที่นั่น โอกาศนี้ ทำให้ ไปเรียนกับ หลวงปู่สุ่น หลวงปู่ปาน หลวงพ่อจงแนววิชาพระฤาษีมาจากสายนี้ และ ที่เหลือ ต้องเป็นจากพระในป่า

    เรื่องมีรูปบนกุฏิท่านน่ะ เขารู้กันมาตั้งนานแล้ว ว่าลูกศิษย์ เอามาถวาย สาย วัดท่าซุงที่มีความเชื่อว่า หลวงตาคือ หลวงปู่ ฤาษีลิงเล็ก เลยมีการเอารูป สมเด็จองค์ปฐม หลวงปู่ปาน น้ำมันชาตรี ล้วนแต่มา จากลูกศิษย์ หลวงตาไม่ได้มาติดเอง

    แต่ไม่เห็นมีรูป หลวงปู่บุญธรรม หรือสัญลักษณ์ใดๆ ไม่เห็นมีรูปพระอุปัชฌาย์ คนสำคัญของความเป็นพระครูอุทิศธรรมวินัย และอาจารย์ที่เป็นพระคู่สวดแต่อย่างใด


    คำตอบคือ หลวงตาท่านไม่อยู่กับ อดีตครับ สัญญามีสติไม่ได้หลงลืม แต่ไม่เสพอดีต ไม่มีสัญลักษ์ของอดีตให้จิตปรุงแต่ง ไปยึดเอามาเป็น ปัจจุบัน

    ท่านไม่เสพอนาคต ว่าจะต้องเป็นอย่างไร ทำอย่างไร ให้กังวล ไม่ยึดอนาคตว่าจะมีผลอะไร

    ที่ท่านทำ คือมีสติระลึกแต่อยู่กับปัจจุบัน ครับ แค่จุดนี้ ของรอบข้างเป็นเรื่องสมมุติ มีเกิดมีดับไปตามธรรมครับ ท่านไม่สนใจครับ

    ท่านกำลัง อ่านเรื่องพระอริยะตามหลักพระศาสนา ผู้ที่ทำพระนิพพานให้แจ้ง ตามปฏิญาณของท่านตอนขอบวช ท่านไม่ใช่พระเกจิฯ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง อย่าไปหลงประเด็นกันน่ะครับ

    ส่วนหลวงตาท่าน จะทำให้แจ้งได้ขนาดไหน เด็กส่งของอย่างผมไม่มีทางทราบได้เลยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2017
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เด็กหรือ คนรุ่นใหม่ มายังไม่ทันหลวงปู่พระครูบุญศรี ฟังเขาเล่ามาตามความเชื่อคนล่ะที ก็เอามาเขียนเป็นตุตะด้วย ยังว่าคนที่เขาใกล้ชิด อุ้มท่านไป โรงพยาบาล รู้ไม่จริง...เหอๆๆ แต่จริงๆเบื่อเรื่องคนขายของน่ะครับ พยายามจะดึงท่านให้เกี่ยวกับ หลวงพ่อฤาษีลิงเล็ก ทั้งๆที่ท่านคนล่ะรุ่นกันเลย

    แต่เอาตามข้อมูลเขาน่ะครับ ว่ามันย้อนแย้งในตัวเองขนาดไหน ว่าหลวงปู่บุญศรี เป็น หลวงพ่อฤาษีลิงขาว ที่ เป็นทหารเรือ พร้อม หลวงพ่อฤาษีลิงดำที่เราเคารพ และ ลาออก มาบวชพร้อมกัน กับ พระอุปัชฌาย์ วัดบ้านแพน

    ข้อมูลเขาอ้างว่า หลวงปู่พระครูบุญศรี

    ท่านมรณะภาพปี เดือน พ.ค.พ.ศ. 2544 อายุ 101 ปี

    ถ้าเป็นแบบนั้นจริง หลวงปู่บุญศรีจะ เกิด หรือ ชาตะ ใน พ.ศ. 2544 - 101 = 2443 ถ้าเป็นจริงดังคนรู้จริงอ้าง เอานิยายมาเขียนเป็นตุตะเรื่องหลวงปู่พระอาจารย์ผม ท่านต้องชาตะ ในปี พ.ศ. ๒๔๔๓ โดยประมาณ ที่จะทำให้ ท่านมตะ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ แล้วมีอายุ ๑๐๑ ปี

    พ.ศ. ๒๔๔๓ ถ้าท่านชาตะตอนนั้น ท่านเกิดในสมัยรัชกาลที่ ๕ ครับ ( ในหลวงรัชกาลที่ ๕ สวรรคต ในปี พ.ศ. ๒๕๕๓ )

    ตามประวัติ ที่ชัดเจน บันทึกกันมาจากวัด หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ชาตะ ในวันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ ในสมัย ในหลวงรัชกาลที่ ๖

    ลองลบกันดู ๒๔๖๐ - ๒๔๔๓ = ๑๗ ปี อายุท่านทั้งสองตามข้อมูลของเขา ห่างกัน ๑๗ ปี โดยตามข้อมูลของเขาเอง

    ตกลงตามเขาว่าน่ะครับ คนสองคนเกิดก่อนกัน ๑๗ ปี แต่คนแก่กว่ามาเป็นเกลอ คนที่อ่อนกว่า ไปเป็นทหารเรือพร้อมกัน และ อายุครบบวชพร้อมกัน ในปี ๒๔๘๐ ( ตมประวัติหลวงพ่อฤาษ๊ลิงดำ ) ตามข้อมูลที่เขาอ้าง ตอนนั้น ถ้าหลวงปู่บวช จะอายุ ๓๗ ปี เข้าไปแล้ว ( ???? ) มันน่าจะจริงไหมครับ ลองตรองๆดู

    ทางที่น่าจะเป็นไปได้คือ ตอนหลวงปู่พระครูบุญศรีอายุครบบวช คือ ๒๐ ปี ตอนนั้นหลวงพ่อฤาษีลิงดำ อายุ แค่ ๓ ขวบ

    ไปดูในใบสุทธิ ของหลวงปู่ยังน่าเชื่อถือกว่า เพราะในนั้นบอกท่านเกิด ปีเดียวกับ หลวงพ่อฤาษี คือ ๒๔๖๐ แต่ท่านบอกเองว่าผิด ทำมาทีหลัง และถ้าเอาตามข้อมูลนั้น ท่านจะมีอายุเพียง

    ๒๕๔๔ - ๒๔๖๐ = ๘๔ ปี ตอนท่านล่ะ สังขาร

    ท่านฟังดูมันแปลกไหมครับ คนที่อวดรู้ว่ารู้จักหลวงปู่ แต่ข้อมูลตัวเองไม่เคยมาทวน ว่าย้อนแย้งขนาดไหน.....ขำก๊ากครับ

    แล้วอาจารย์หลวงพ่อฤาษีน่ะ

    ระหว่างปี พ.ศ. ๒๔๘๐-๒๔๘๑ ได้ศึกษาพระกรรมฐาน จากครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิเช่นหลวงพ่อปาน โสนันโท วัดบางนมโค, หลวงพ่อจง พุทธสโร วัดหน้าต่างนอก, พระอาจารย์เล็ก เกสโร วัดบางนมโค, พระครูรัตนาภิรมย์ วัดบ้านแพน, พระครูอุดมสมาจารย์ วัดน้ำเต้า, หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย, หลวงพ่อโหน่ง วัดอัมพวัน (วัดคลองมะดัน) และหลวงพ่อเรื่อง วัดใหม่พิณสุวรรณ

    หลวงปู่ท่านปฏิเสธเขาทุกทีจน ถืออุเบกขานิ่งเงียบมาตลอด มีแต่ลูกศิษย์นี่แหละ ประโคมกัน ถ้าเคารพท่านก็เคารพในสิ่งที่ท่านทำด้วยก็จะดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2017
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    สำหรับ หลวงปู่ บุญศรี ฉายา อินฺทวณฺโณ

    พระครูอุทิศธรรมวินัย เป็นอุปัชฌายะ

    พระอาจารย์ ทรง กรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์ ปิ่น อนุสาวนาจารย์


    ส่วนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    โดยมีพระครูรัตนาภิรมย์ เป็นพระอุปัชฌาย์

    พระครูวิหารกิจจานุการ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    พระอาจารย์เล็ก เกสโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    คนล่ะทีม คนล่ะเวลา คนล่ะ สถานที่ ตามหลักฐาน ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยครับ
     
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ในความเป็นจริง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พอย้ายมาอยู่ กทม ยังมีอาจารย์กรรมฐานอีกหลายท่าน และ มาต่อยอดมาเป็น วิชา มโนมยิทธิ ฤทธิ์ทางใจ อันโด่งดัง ผมฟังเทบแทบทุกม้วนของหลวงพ่อฤาษีมาตั้งแต่เด็ก คุณแม่เปิดให้ฟังทุกวันครับ ทุกวันคือทุกวัน ไม่มีเว้น นอนป่วยก็นอนฟัง คุณแม่ซื้อทุกเทบ พระเดชพระคุณท่านเทศนา ตั้งแต่พระกรรมฐานไปจนถึง สัตว์ประหลาด จากทะเลสาบล็อคเนส แต่ เวลาและเหตุการณ์มันนานมากก็อาจจะเลือนลางไป เทบก็เสียหายไปหมดแล้ว แต่ยุคนี้หาฟังได้จาก ยูทูป ง่ายกว่า

    แต่หลวงปู่พระครูบุญศรี ท่านไม่ได้ สอนแนว มโนมยิทธิน่ะครับ ท่านมาแนวอสุภะ กรรมฐาน ท่านที่ฝึก อสุภะ เด่นชัดที่ผม สัมผัสและ ฟังมา คือ หลวงปู่ ปาน และ หลวงพ่อจง ยังมีหลักฐาน คือ โครงกระดูก ของคน ทั้งของหลวงปู่ปานและ หลวงพ่อจงที่ท่านเอาไว้ปลง อสุภะ ของหลวงพ่อจงนอกจากนั้น ยังมีพวกกระดูก ซากสัตว์ พวกเต่า ตะพาบ และอื่นๆ ที่หลวงพ่อท่านเอาไว้ดูด้วยความเพลิดเพลิน ตามแนวที่องค์สมเด็จบรมครูได้สั่งสอนมา

    พวกที่ฟังมา คนที่ไม่ทัน หลวงปู่คง งง และผมไม่ต้องมาเล่าอะไรด้วยว่า หลวงปู่สอนอะไรบ้าง ตัวใคร ตัวมัน เพราะไม่จำเป็นต้องสร้างความสำคัญของตัวเองให้น่าเชื่อถือ ว่ารู้นั่น รู้นี่ เพื่อทำให้ดูว่าใกล้ชิด มีภูมิ เพื่อขายวัตถุมงคล แต่จะบอกให้แบบเอาบุญ ในท่านที่นับถือหลวงปู่แบบจริงใจ ไม่ได้มาขายของท่าน คือ ท่านสอนแนว สติ กรรมฐานครับ บวกกับ คาถาอาคม ที่ท่านเล่าเรียนมา ท่านเคยเป็นอาจารย์สัก ตาม สมัยนิยม นอกจากนั้น ยังเป็นหมอยา เรียกว่ามีครบตามแนวคณาจารย์โบราณ แต่พออายุมาก ท่านบอกว่า ไม่ได้ใช้ มันก็ลืมไปบ้าง ใช้จิตเอา ท่านไปไกลกว่าของพวกนั้นมากมาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2017
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เรื่องหลวงปู่บุญศรี ผมเขียนมาตั้งแต่ หน้า ๑๒๖๕ เพราะมีคนถามว่า อาจารย์ผมคือใคร ตอนแรก ผมไม่คิดจะเขียนซ่ะด้วย และผมไม่คิดจะเอามาเป็นจุดขาย เพราะท่านไม่ใช่ ฤาษีลิงเล็ก ที่เป็นเกลอกับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านชาตะในสมัยรัชกาลที่ ๕ อายุห่างจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ชาตะ ในยุครัชกาลที่ ๖ ต้องมีชนมายุ ห่างกัน เป็นสิบปีขึ้นไป ...... แต่จะมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ มีความเป็นไปได้ แต่อายุที่ห่างกันขนาดนั้น ท่านเป็นระดับ พระู่สวด หรือ ระดับอาจารย์ไปแล้ว ถ้าว่ากันตามอายุเกิด และ อายุบวช

    ในยุคที่คนไปพูดฮือฮากันมาก ซึ่งส่วนใหญ่น่าจะเป็นศิษย์ ท่านแม่ชี หลวงพ่อ อ. รักษาการ หรือ เจ้าอาวาส วัดท่าซุง มาหาท่านที่วัด มากราบเรียนถามท่าน ว่า ท่านคือ หลวงพ่อ ฤาษีลิงเล็กหรือไม่ ท่านปฏิเสธ ว่าไม่ใช่

    พอช่วยวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ผมไปที่วัด อยู่กันสองคน ท่านบอกเลยว่า ท่าน อ เขามาหา มาถามฉันว่าเป็นฤาษีลิงเล็กใช่หรือไม่ ฉันบอกว่าไม่ใช่ เขาเข้าใจกันผิด

    ผมฟังแล้วไม่แปลกใจ เพระาผมถามท่านมาก่อน สองต่อสองแล้ว คนอื่น ถ้าไม่มีใครกล้าถาม แต่ผมกล้า เพราะเป็นศิษย์ อาจารย์กัน ผมนับถือท่าน จะได้ทราบและบูชาถูก ว่า อาจารย์ของอาจารย์ คือใคร จะได้รู้ว่าสายไหน ท่านบอกผมให้ทราบว่า อาจารย์ ของท่าน คือ หลวงพ่อ บุญธรรม เป็นพระมอญ อยู่อุทัยธานี เก่งมาก นอกจากนั้น ในวาระ ต่อมา ท่านบอกว่าเคยไปหา หลวงพ่อจง หลวงพ่อจงมีลูกศิษย์ ลูกหา ทั่วประเทศ พระเก่งยุคต่อมาไป สืบเถอะเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อจงทั้งสิ้น เช่น หลวงพ่อกวย หลวงพ่อจรัญ หลวงปู่เมี้ยน หลวงปู่บุญมี เก่งๆระดับยอดเกจิฯ ทั้งสิ้น ยังมีอีกหลายองค์ หน้านี้ไม่พอเขียนชื่อ และหลวงปู่ยังไปหาพระอีกหลายท่าน

    นอกจากนั้นตอนทำมีดหมอ ผมถามท่านเลย เคยไปศึกษากับหลวงพ่อเดิม หรือไม่

    ท่านบอกว่า ฉันไม่ทันเขา คำว่าไม่ทันไม่ใช่ว่าเกิดไม่ทัน แต่ไม่เคยไปหา ร่ำเรียนวิชาด้วย

    คิดว่าเรื่องหลวงปู่พระครูบุญศรี ผมจะพอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวจะเข้าทาง พวกอ้างเป็นลูกศิษย์แต่ขายพระท่านราคา แค่ร้อยสองร้อย ( ของที่ท่านอธิษฐานจิต มีค่า เกินหลักล้าน ในความเห็นของผม ) ให้คดีความของผมจบก่อน ผมอาจจะ แค่อาจจะเขียนเรื่องหลวงปู่บุญศรีต่อ

    แต่เรื่องหลวงพ่อทรง เขียนต่อแน่ๆ

    23043.jpg

    เทียนแพ ที่ผมไปกราบเป็นศิษย์ท่าน ท่านให้คืนมาไว้บูชา ส่วนดอกไม้ แห้งมาไปนานแล้ว เอาไปบดทำพระแจกเขานานแล้ว

    23041.jpg

    พระที่ผมนับถืออย่างสูงทั้งสององค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2017
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พี เสาวภา


    แนวทางสะสม วัตถุมงคลหลวงปู่พระครูบุญศรี ที่ถูกทางน่ะครับ

    ลองพิจารณาดูน่ะครับ

    อ้างอิง:
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ พี เสาวภา
    เขียนในกระทู้ ก้อบมาครับ สำหรับท่านที่จะเล่นวัตถุมงคล สาย หลวงพ่อทรง หลวงปู่บุญศรี


    แต่ดีใจอย่างที่ข้อเขียนของผม มีอิทธิพล ในการสื่อสารกับ ศิษย์ เก่า หรือ ใหม่ของหลวงพ่อทรง ที่ไม่ใช่แนวพุทธพาณิชย์ แต่เป็นแนวจิตวิญญาณมาแนวรองรับพุทธคุณที่มีมากับองค์พระ ไม่ใช่ สินค้า สำหรับ ค้าขาย

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อท่านเจตนาจะแจกออกไปให้กว้างไกล ประกอบกับหนังสือที่ท่านศูนย์เขียนเชียร์ ของดีมากๆ พื้นฐานดีมากๆ ข่าวแพร่กระจายไปมาก ทำให้มีคนรู้จัก

    ข้อเขียนของผมเพียงแต่เสนอ เหรียญอีกด้านที่ผมเจอ พวกท่านอ่านแล้วพิจารณาเอาเอง กว่าจะเป็น สองพันหน้า ที่ฝ่ามา ผมถูก ด่ามาเพียบ จากพวกที่ขายวัตถุ ของหลวงพ่อ แบบ ขายวัตถุทั้งสิ้น ลงทุน โฆษณา ขาย กำไร แนวพาณิชย์แบบชัดเจน

    แต่จากประสบการณ์ล้วนๆ ของหลวงพ่อทรง พอได้อีกสักระยะ ประมาณ ๑๕ - ๑๖ ปี หลังจากการมรณะภาพของท่าน ของจะยิ่งดังระเบิดในชุดที่ชัดเจนไม่สับสน เช่น เหรียญบิน ตะกรุด ตะโพน เบี้ย พระเนื้อผง ประสบการณ์ที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม จะเป็นตัววัด ของจะดังแบบบอกต่อกันไป ไม่ต้องมานั่งเชียร์ เพื่อ อัพราคา และของมีจำนวนจำกัด ไม่สามารถเพิ่มขึ้นมาอีกได้

    อีก สิบปี ถ้ากระทู้นี้ยังอยู่ ก็จะเป็นแค่องค์ประกอบเดียว ในบุญญาอภินิหาร ของ ท่านผู้เฒ่าวัดมอญ

    ต่างกับ วัตถุมงคล หลวงปุ่บุญศรี ในยุคเก่าที่ท่านยังอยู่ จะทราบกันในหมู่ศิษย์ เท่านั้น ของมีแต่แจก และ ทำบุญกันที่สำนักแบบเป็นทางการ คนจะทราบก็เป็นคนในวง ผมเพียงแต่มาบอก เป็นคนส่งข่าว แต่ถ้าการส่งข่าวของผม ทำให้ เกิดการแพร่หลาย มีคนเอาไปใช้ประโยชน์ ในการซื้อขาย มีการ ทำให้ราคาแพงขึ้น กว่าจะที่ควรจะเป็น ถือว่า ผิตเจตนา ของ หลวงตา ที่พวกผมนับถือ ซ้ำยังมีของเสริม ของปลอม ของแอบอ้าง โดยเฉพาะ พวกเครื่องราง ล็อกเก็ต แบงค์รูปร่างแปลกๆ ลายมือแปลกๆ ฯลฯ ตามสวนมา จาก แหล่งที่ ผมทราบว่ามาจากไหน ใครน่าจะทำ

    ถ้าเป็นพระเครื่องยังจะพอ ดูกันได้ และถ้าปล่อยต่อไป อีกหน่อย พวก งาแกะ ตะกรุด ผ้ายันต์ มีดหมอ จากแหล่งทำวัตถุมงคลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย หรือ พยุหะคีรี ต้องตามสวนมาจาก พื้นที่แน่นอน ยิ่งกว่า ฝนจะตกวันพรุ่งนี้

    จัดว่ารูปแบบการตลาด ต่างจากวัตถุมงคลหลวงพ่อทรงมาก เพราะของหลวงพ่อทรง มีคนเชียร์มาก่อนผมเขียน แต่ของหลวงปุู่พระครูบุญศรี เริ่มสู่สายตาคนมาจากผม

    วัตถุมงคลของหลวงปู่บุญศรี ไม่น่าจะแนะนำต่อ ท่านใดเชื่ออย่างไร ก็ทำตามที่ท่านเชื่อ
    จะซื้อจากใคร ศิษย์ สายไหน ดูหน้าดูตา ว่า ทัน หลวงปู่ หลวงตาหรือไม่ นวนิยายใครก็เขียนได้ คนพื้นที่อย่างนั้น อย่างนี้ กรรมกาารวัด อย่างนั้น อย่างนี้ เจ้าอาวาสแบบนั้น แบบนี้ แต่ที่เห็นปัจจุบันจะบอกว่า เอาแค่เกิดทัน น่ะมีครับ แต่ที่ได้ อุ้มบาตรท่าน ได้รักษาพยาบาลท่าน ได้ทำแผล ให้ยาท่าน ได้ขับรถให้ท่านนั่ง พาเที่ยว ได้รับการครอบครู ได้ไหว้ครูทุกวันพฤหัสแรกเดือน ๙ ได้คาถาอาคม ได้ฟังประวัติ ได้ฟังเรื่องเล่า ได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของท่าน ที่ท่านมองแบบ แมวหมาที่ท่านรัก ตามสำนวน วัยรุ่นว่า ได้เป็นลมหายใจ ของกันและ กัน และ อีกหลายๆอย่าง จะมีเหลือกี่ท่าน ใน พ.ศ. นี้ ครับ

    แต่ผมจะบอก เคล็ดของผมอย่างว่า ตอนที่ หลวงปู่ หรือ หลวงตาของผมมีสังขาร สิ่งที่ผมเห็นชัดคือ

    ๑) ที่วัด ไม่มีกรรมการวัด แบบเป็นเรื่องราว ท่านไม่เคยตั้งใครเป็นทางการ เหมือนวัดทั่วไป ไม่มีการประชุมกรรมการวัด ผู้ใหญ่บ้าน ผมเคยกราบเรียนถามท่าน ท่านยิ้ม นิ่ง และ ส่ายหัว จะมีศิษย์ คอยช่วยท่านไปๆมาๆมาก่อนบ้าง คนสนิท คนใกล้ชิดมีแน่อน แต่ไม่เป็นทางการแม้แต่คนเดียว ที่จะมายุ่งเกี่ยวเรื่องของวัด และ สิ่งของส่วนตัวของท่าน ท่านอยู่ของท่านองค์เดียวเงียบๆ สบายๆ กับ แมว หมา ลูกศิษย์ก้นกูฏิของท่าน ในที่ที่ ห่างไกล ในยุคนั้น คนภายหลังที่ไปเจอ ถึง เอาโลกแห่งความวุ่นวายภายนอก ไปใส่ท่าน และท่านก็เมตตา เล่นด้วย ในแง่วัตถุมงคล นอกจากนั้น ท่านสบายๆในโลกของท่าน สังเกตุจากแววตา ได้ทุกครั้ง ว่าท่านผู้เฒ่า มีความสุข ในอก ทั้งนั่ง ยืน เดิน นอน ทุกอิริยาบท

    ๑.๑) ผมไม่เคยซื้อวัตถุมงคลหลวงตา จากคนพื้นที่ข้างวัด ในละแวก แม้ผมจะเป็นคนเล่นพระ จะซื้อผมไปตามแผงที่พยุหะ และ แอบเก็บเงียบๆ เอามาให้หลวงตาท่านเสกซ้ำ และ หลวงตา ท่านไม่เคยแจก วัตถุมงคล ชัดๆให้ผมเห็น ในพื้นที่ ซึ่งในความจริงต้องมีบ้างจะบอกไม่มีคงเป็นไปไม่ได้ แต่คงเป็น พระชุดเก่า เช่นเหรียญรุ่นแรกๆ พระชุดแรกๆ และชาวบ้าน ไม่เคยมาซื้อวัตถุมงคล ถ้าจะเอา ฟรีอย่างเดียว เพราะฉะนั้น ชุดที่พวกผมทำขาย คนที่ได้ไปในละแวก จะมีส่วนที่ถวายท่าน ๆก็แจกไปจนหมด

    แต่คนที่ได้ไปมาก จะเป็นคนไกลทั้งสิ้น

    ๒) หลวงตา ไม่เคย แจก เงิน หรือ ถังสังฆทาน แก่ คนพื้นที่บริเวณวัด หรือ วัดในละแวก เศษเงิน พวกแบงค์ สิบ ยี่สิบ เศษสตางค์ ท่านจะห่อใส่ถุง ทิ้งลง แม่น้ำเจ้าพระยา ถังสังฆทาน จะเอาใส่รถไปแจกวัดและ พื้นที่ไกลเข้าไปใน พื้นที่ ที่กันดาร

    ๓)
    พระเครื่อง และ วัตถุ มงคลของหลวงตา มาเป็นที่รู้จัก และ ต้องการ เมื่อ คุณแม่ ประทุม ไปพบท่าน และ ศิษย์สายหลวงพ่อฤาษี ตามเข้าไป เพราะความเชื่อว่าท่านคือ ฤาษีลิงเล็ก อันนี้เป็นจุดขายอันใหญ่ ที่ทำให้คน ทำวัตถุมงคล มีมากในยุคหลัง ทั้งเจตนาแจก และ ขาย และ ชุดนี้เป็นชุดที่เล่นหากันในปัจจุบัน และ ระวังให้ดีครับ มีลับ ลวง พราง จะซื้อ ให้ดูหน้า เอาจากคนที่ทันๆท่านจะมีตรรกกะมากกว่า

    ผมจะไม่เขียนต่อเรื่องวัตถุมงคลนี้ จะแนะนำ หลังไมค์เท่านั้นตามความจริง เพราะจะไม่ส่งเสริม การขาย ของเสริม ของเทียม ของแอบอ้าง ของสงฆ์ อีกต่อไป ใครที่ทำแบบนั้น กับ วัตถุมงคลหลวงปู่บุญศรีได้ ก็ทำกับ วัดอื่น หลวงปู่ หลวงพ่อ อื่นได้ครับ

    ของหลวงพ่ออื่นที่ไปซื้อมา ก็ตรวจสอบ ภูมิหลังให้ดีครับ ว่าพระหลวงพ่อ เสกมาให้หรือปล่าว แท้หรือไม่ เสริมหรือไม่ ของสงฆ์ หรือไม่ หรือ ของเก็ไปเลย พ่อค้าพระใหม่ เบื้องหน้า เบื้องหลังเยอะครับ

    วัวของใคร เข้าคอกคนนั้น เงินของท่าน ท่านดูแลของท่านเองให้ดี อย่ามาพึ่งผมให้ดูแลเงินของท่าน จะซื้ออะไร ท่านตัดสินใจของท่านเอง

    กรูณาอย่ามาถามผม เพื่อให้ท่านสบายใจ เพราะท่านอาจจะไม่ชอบคำตอบ เพราะถ้าผมเห็นแล้ว ไม่เคยเห็นมาก่อน ผมจะบอกชัดๆว่าไม่เคยเห็น หรือ ไปโดนมาอีกล่ะซิ

    ของที่น่าใช่ จะไม่ใช่ ของที่ไม่ใช่ คือ ใช่

    ใช้วัตถุมงคลของหลวงตาของผม เอาสรรพคุณรูปธรรมว่า เรื่องนิยาย อย่าเอา อย่าไปเชื่อใคร เพราะที่เห็นๆ ไม่ทันท่าน แทบทั้งนั้น

    ถ้าท่านมีของแท้ในมือ ต้องเห็นผล ถ้าเงียบ ไม่ใช่ของหลวงปู่พระครูบุญศรี ง่ายๆแค่นี้ วัตถุมงคลสำหรับหลวงปู่ท่านเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยมาก ท่านเป็นอะไรที่ห่างไกลจากพวกวัตถุมงคลพวกนี้มากที่สุด ไกลไปนานมาก ไกลแบบคนละภพและ คนละจักรวาล และ ถ้าท่านเมตตา ของที่ท่านเสก เทพ เทวดา จะอารักษ์อยู่เพียบ ใครมีของแท้ มีศรัทธา สามารถสื่อถึง จะพบเหตุการณ์ทุกราย ไม่มีการเว้น หน้าตา สีผิว เพศ เพราะเป็นของจริง

    หลังจากนี้ อีก หลายปีผมก็รอได้ ผมถึงจะเขียนเรื่องวัตถุมงคลของหลวงปู่ต่อ ซึ่งผมมีอีก เป็นลังๆ ได้มาจากมือท่านทั้งสิ้น และ เสกมาอีกกว่า ร้อยครั้ง รอมาได้ สิบกว่าปี อีก สิบปีก็ยังรอได้ครับ

    เพราะศรัทธาที่ผมมีต่อท่าน เป็นแบบ พ่อกับลูก ครูกับศิษย์ ความรักและ เคารพ ไม่มีทางเสื่อมคลาย ท่านจะไปอุบัติที่ไหนอีก ผมจะขอตามท่านไปทุกที่

    เรื่องวัตถุ คือ ของนอกประเด็น

    ว่างๆจะเขียนต่อน่ะจ้ะ สำหรับ แฟนคลับตัวจริงทั้งหลาย

    ลองพิจารณาตามเหตุผล ถูกผิดดูน่ะครับ
    __________________

    แนวทางสะสม วัตถุมงคลหลวงปู่พระครูบุญศรีที่ถูกทางโดยคุณพี เสาวภา

    ขออนุญาตยกมาค่ะ

    ดึงของเก่ามาให้ศิษย์รุ่นใหม่อ่าน จะได้ไม่สับสนไปกับแนวทางในสื่อ ส่วนการตัดสินจะเชื่อ แนวไหน เป็นสิทธิ ของท่าน ๑๐๐ %
     
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ปปปปป said:

    สวัสดีครับคุณพี เสาวภารบกวนสอบถามหน่อยนะครับแต่ไม่เกี่ยวกับวัดมะนาวหวานนะครับแต่อยู่ในสายอ่างทองเหมือนกัน คือหลวงพ่ออ่อน วัดเขียนครับ
    คือท่านสร้างเบี้ยแก้ด้วยใช่ไหมครับ หรือว่าลูกศิษย์สร้างแล้วให้ท่านเสกครับ คือผมไม่เห็นใครพูดถึงเลยครับเลยสงสัยและอยากรู้มากๆครับถ้าคุณพี เสาวภา
    ทราบก็รบกวนหน่อยนะครับ


    ท่านทำครับ หายากมาก ของดีซ่ะด้วย

    แต่ท่านอายุมากคงไม่ได้ทำเองหรอกครับ ลูกศิษย์คงทำมาให้ท่านเสกให้ แต่มีเอกลักษณ์น่ะครับ ชันจะแข็ง ปิดทอง อาจจะมีตะกรุดหรือ แผ่นโลหะ เล็กๆฝังอยู่

    ผมคิดว่าลูกศิษย์หรือ พระลูกวัดทำให้แบบหลวงพ่อทรง แล้วหลวงพ่อเขียนท่านเสกให้ แบบแหวนงูน่ะครับ


    พี เสาวภา, 20 ตุลาคม 2010


    374112-755cccfffca44da9045b790bb0bfa019.jpg 374111-03d402e3cb3163c57f48c4eee069fbf3.jpg

    เบี้ยหลวงพ่ออ่อน วัดเขียน
     

แชร์หน้านี้

Loading...