เรื่องเด่น "หลวงปู่มั่น..บรรลุธรรม"

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย บ้องแบ้ว, 6 เมษายน 2017.

  1. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    FB_IMG_1491463959444.jpg

    "หลวงปู่มั่น..บรรลุธรรม"

    ..หลวงปู่ชอบท่านพักภาวนาอยู่กับองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ ถ้ำดอกคำ บ้านสหกรณ์ ตำบลน้ำแพร่ อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่..

    มีเหตุการณ์หนึ่งที่สำคัญ ถึงเรื่องนี้จะไม่ใช่เรื่องของท่านโดยตรง แต่หลวงปู่ชอบท่านเป็นผู้หนึ่งที่อยู่ในเหตุการณ์วันองค์ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บรรลุ “ ธรรมธาตุ ” สำเร็จมรรคผลเป็น “ พระอรหันต์ ” ในพระพุทธศาสนา..

    คืนนั้นเวลาประมาณตีสามกว่า หลวงปู่ชอบท่านนั่งภาวนาอยู่ที่พักของท่าน จิตท่านในเวลานั้นสว่างไสว ใสงามมาก แต่แล้วจู่ๆความสว่างไสวของจิต เกิดดับวูบลงไป อย่างกะทันหัน พร้อมกับมีเสียงกึกก้องกัมปนาท สะเทือนเลื่อนลั่น ไปทั่วขุนเขา..

    ท่านเปรียบเทียบว่าเสียงนี้ไม่ต่างอะไรกับระเบิดปรมาณูมาระเบิดอยู่ข้างๆตัวเรา จนท่านเกิดอาการสั่นไหวในจิต คล้ายกับผืนแผ่นพสุธา จะแตกสลายกลายเป็นจุล..

    อาการเหล่านี้เกิดขึ้นภายในจิตของท่านเท่านั้น แต่สิ่งต่างๆที่อยู่ภายนอก ก็เป็นปรกติทุกอย่าง ตั้งแต่ท่านภาวนามาก็ไม่เคยประสบพบเจอ กับอาการแบบนี้ของจิต ท่านจึงพิจารณาดูภายในว่า เกิดอะไรขึ้นกับจิตของตน พิจารณาดูจิตก็ไม่เห็นผิดปรกติตรงไหน..

    ท่านจึงพิจารณาดูภายนอกว่า มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น พอดึงจิตออกมาดูข้างนอก จิตท่านก็พุ่งตรงไปที่ องค์ท่านหลวงปู่มั่นทันที..

    ท่านเห็นเทวดาพากันมาห้อมล้อมองค์ท่านหลวงปู่มั่นจำนวนมากเทวดาพากันมาจากทุกสวรรค์ชั้นภูมิ จนเต็มพื้นดินแผ่นฟ้านภากาศ ครั้งนั้นท่านว่าเทวดามาหาองค์ท่านหลวงปู่มั่น มากถึงสิบโกฏิ (หนึ่งโกฏิเท่ากับสิบล้าน) รัศมีบารมีเทวดาเปล่งประกายเจิดจ้า จนทำให้ทั่วบริเวณถ้ำดอกคำสว่างไสวด้วยรัศมีของเทพเจ้าเหล่าเทวดา..

    แต่รัศมีของเทวดาทั้งหลายยังไม่เท่ากับ รัศมีธรรม ขององค์ท่าน หลวงปู่มั่น รัศมีธรรมขององค์ท่านสว่างไสว กว่ารัศมีเทวดามากมาย จนเกินประมาณ..

    หลังจากชื่นชมรัศมีบารมีธรรมขององค์ท่านหลวงปู่มั่นแล้วท่านก็ถอนจิตออกมา ท่านรำพึงในใจว่า “ เหตุการณ์นี้ต้องสำคัญ กับท่านอาจารย์ใหญ่ อย่างแน่นอน ”..

    ข้ามอีกวัน เวลาประมาณสี่โมงเย็น หลวงปู่ชอบท่านเข้าไปเตรียมน้ำสำหรับสรงองค์ท่านหลวงปู่มั่น ขณะที่ท่านผลัดผ้าให้กับองค์ท่านหลวงปู่มั่นนั้น หลวงปู่มั่นถามท่านว่า ท่านชอบตอนนี้การภาวนาของท่านเป็นอย่างไรบ้าง..

    ท่านกราบเรียนองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า การภาวนาของข้าน้อยตอนนี้ เป็นปรกติดีขอรับ เพียงแต่เมื่อคืนวานมีเหตุการณ์หนึ่ง ทำให้จิตของข้าน้อยดับวูบลงไป มีเสียงดังกัมปนาทเหมือน ระเบิดขนาดใหญ่มาแตกอยู่ข้างๆ ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ข้าน้อย ก็ไม่เคยเป็นมาก่อนในขณะกำลังภาวนา..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นถามว่า เรื่องนี้ท่านพิจารณาเห็นเป็นเช่นไร..

    ท่านตอบว่า ข้าน้อยพิจารณาดูภายในจิต ก็ไม่เห็นอะไรผิดปรกติ พอถอนจิตออกมาดูภายนอก เห็นพ่อแม่ครูอาจารย์มีรัศมีสว่างไสว สดใสงดงามมาก รัศมีของพ่อแม่ครูอาจารย์สว่างไสว กว่าทุกครั้งที่ข้าน้อยเคยเห็นมา มีเทวดาจากทุกชั้นภูมิพากันมาหา พ่อแม่ครูอาจารย์มากที่สุดเท่าที่ข้าน้อยเคยพบเห็น แต่ข้าน้อยไม่ทราบว่าที่เทพเจ้าเหล่าเทวดา พากันมาหา พ่อแม่ครูอาจารย์จำนวนมาก ถึงขนาดนี้เพราะเหตุจากอะไร..

    องค์ท่านหลวงปู่มั่นพูดขึ้นมาว่า ที่ท่านชอบเห็นเทวดามาหาเราจำนวนมากนั้น พวกเทพเทวดาเขาพากันมาร่วมอนุโมทนาที่เรา “ บรรลุธรรมธาตุ ” พ้นทุกข์แล้ว จากนี้ต่อไปการเกิดของเราจะไม่มีอีกแล้ว ทุกอย่างของเรามันขาดสะบั้นลงไปหมดแล้ว พระอรหันต์ท่านสิ้นกิเลสเช่นไร เราก็สิ้นกิเลสแล้วเช่นนั้น..

    เสียงดังเหมือนเสียงระเบิดที่ท่านได้ยินนั้น เป็นเสียงอนุโมทนาของเทพเจ้าเหล่าเทวดา เสียงอนุโมทนาของเทวดาเป็นเสียงเทวะฤทธิ์ไปกระทบกับจิตของท่าน ในขณะนั้นพอดี จึงเป็นเหตุทำให้จิตของท่านสะเทือน จนถอนออกจากสมาธิอย่างกะทันหัน..

    สิ้นคำพูดที่องค์ท่านหลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบท่านบอก “ เราถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เราเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเรื่องราวแบบนี้ คำว่า “ ธรรมธาตุ ” ตั้งแต่เราเกิดมาพึ่งจะได้ยินคำนี้ในวันนั้นเอง จนเราเกิดปีติอย่างแรงกล้า น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างไม่รู้ตัว”..

    ท่านว่า ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าจะเอ่ยคำใดออกมาเพื่อให้สมกับฐานะธรรมของ พ่อแม่ครูจารย์มั่น เรากราบลงแทบเท้าพ่อแม่ครูจารย์มั่น โดยห้ามการกระทำของตนเองไว้ไม่อยู่ ก้มมองดูเท้า ของพ่อแม่ครูจารย์มั่น แล้วร้องไห้ออกมาเพราะตื้นตันใจที่องค์ท่าน “ บรรลุธรรมธาตุ ” เป็น “ พระอรหันต์ ” อย่างสมภูมิ..

    หลวงปู่ชอบ “ เราร้องไห้แบบไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกของตนเองได้อย่างไรในตอนนั้น มันเป็นนามธรรม เกินที่จะอธิบายให้ทราบได้ ถึงตอนนั้นพ่อแม่ครูจารย์มั่น จะดุด่าอย่างไรเราก็ยอม แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไรให้เรา ท่านปล่อยให้เราแสดงความรู้สึกออกมา พอความรู้สึกผ่อนลงแล้ว พ่อแม่ครูจารย์จึงว่าให้เรา ฮ่วย..มันเป็นถึงขนาดนี้หรือท่านชอบ ปีตีกระแทกจิตแรง จนบ่อน้ำตาแตกเลยหรือท่าน ”..

    ท่านกราบเรียนองค์ท่านหลวงปู่มั่นว่า ข้าน้อยตื้นตันใจที่รู้ว่าพ่อแม่ครูอาจารย์จบกิจในพระพุทธศาสนาพ้นทุกข์แล้ว เหลือแต่ข้าน้อยเท่านั้นที่ยังต้องปฏิบัติกิจในพระศาสนาอีกต่อไป ชาตินี้ข้าน้อยขอปรารถนารู้เห็นธรรมเหมือนกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์..

    องค์หลวงปู่มั่นบอกกับท่านว่า ถ้าท่านอยากสำเร็จมรรคผลนิพพานในชาตินี้ ท่านอย่าละความเพียร ที่เคยบำเพ็ญมา ท่านอย่าท้อถอยเป็นอันขาด ให้ปฏิบัติ ตามที่เราอบรมสั่งสอนมา ถ้าท่านทำตามนี้แล้วเรารับรองให้เลยว่า ชาตินี้ท่านจะได้มรรคผลนิพพานสมใจอย่างแน่นอน..

    (ชีวประวัติ พระคุณเจ้าหลวงปู่ชอบ ฐานสโม..ตอนที่ ๕๑ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต " บรรลุธรรมธาตุ ")

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. montri_p

    montri_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +467
    มหาโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ กราบบารมีธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...