สั่งห้ามพระต่อเน็ตเข้ากุฏิหากพบแจ้งจับสึก

ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเข้ม สั่งด่วนถึงเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ห้ามพระทุกวัดในจังหวัดนำเครื่องคอมพิวเตอร์ต่อระบบอินเทอร์เน็ตเข้ากุฏิ หากพบส่งเรื่องสำนักพุทธฯ ตั้งกรรมการสอบก่อนจับสึก
นายปานชัย บวรรัตนปราณ ผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวว่า มีคำสั่งด่วนแจ้งไปยังสำนักพระพุทธศาสนาทุกอำเภอใน จ.ขอนแก่น ให้แจ้งไปยังเจ้าอาวาสทุกวัดในจังหวัด ตรวจสอบพฤติกรรมของพระลูกวัดทุกรูปเกี่ยวกับการปฏิบัติกิจของสงฆ์ หลังมีพระเล่นไฮไฟว์ชักชวนผู้หญิงมาในกุฏิ สร้างความเสื่อมเสียแก่พุทธศาสนาอย่างมาก โดยมีคำสั่งห้ามพระนำคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไปติดตั้งภายในกุฏิ จะมีได้เฉพาะห้องสวดมนต์หรือศาลาวัดเท่านั้น ซึ่งจังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ และตำรวจเข้าไปตรวจสอบ พร้อมกับการจัดระเบียบ หากพบว่ามีวัดใดฝ่าฝืนจะสอบถามเจ้าอาวาสก่อน จากนั้นจะส่งเรื่องไปยังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเอาผิดวินัยสงฆ์อาจถึงขั้นจับสึกได้ทันที
นายปานชัย กล่าวอีกว่า ในช่วงปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปี หรือช่วงปิดเรียนภาคฤดูร้อนที่ใกล้จะถึงนี้ วัดหลายแห่งจัดโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ซึ่งแน่นอนว่าเด็กยุคใหม่มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์สูง หากพระพี่เลี้ยงดูแลไม่ทั่วถึง สามเณรอาจรวมตัวกันประกอบกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม ยิ่งถ้ามีคอมพิวเตอร์ต่ออินเทอร์เน็ตติดตั้งไว้ในกุฏิ ก็อาจจะทำให้พระ-เณรใช้เล่นไฮไฟว์จีบสาวได้ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี ไม่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ขอสั่งกำชับไปยังเจ้าอาวาสทุกวัดให้ดูแลพระลูกวัดให้ดี ถ้าวัดไหนมีพระนำคอมพิวเตอร์ที่ต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไปในกุฏิให้เคลื่อนย้ายออกไปติดตั้งที่อื่น และทุกๆ สัปดาห์จังหวัดจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบทุกวัด เพื่อควบคุมการกระทำกิจของสงฆ์มิให้มีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ขอเน้นย้ำให้เจ้าอาวาสหรือพระพี่เลี้ยงควบคุมพระลูกวัดให้ดี ในขณะที่พระครูสิริสารวุฒิคุณ เจ้าคณะตำบลบึงเนียม อ.เมือง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า คำสั่งดังกล่าวที่ผู้ว่าฯ ขอนแก่นสั่งมายังเจ้าคณะจังหวัดห้ามพระทั่วจังหวัดขอนแก่นนำอินเทอร์เน็ตเข้าไปกุฏิ ในเรื่องนี้แล้วแต่เจ้าคณะจังหวัดจะมีคำสั่งมา พระทุกวัดยินดีปฏิบัติตามคำสั่งอยู่แล้ว และเป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกวัดจะมีการจัดสถานที่ให้พระใช้อินเทอร์เน็ตและให้มีพระพี่เลี้ยงควบคุมดูแลอย่างเคร่งครัด ขณะนี้ยังไม่ได้รับคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดแต่อย่างใด

http://www.komchadluek.net/2008/03/08/x_main_a001_193268.php?news_id=193268

 

ดาบสองคมของเทคโนโลยี่

ยิ่งง่าย ยิ่งอันตราย เพราะคนเราย่ามใจ ถนัดเข้าข้างกิเลส และด้านมืดของ
ตนเอง

 

อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ...ดีแล้ว ชอบแล้ว

 

ถ้า เล่นอินเตอร์เน็ต ก็ไม่สมควร

แต่ถ้าพระสงฆ์ , เณร และแม่ชี ต้องใช้อินเตอร์เน็ต ในการเผยแผ่ธรรมตอบปัญหาธรรม ประชาสัมพันธ์งานบุญ อันนี้ไม่น่าผิด ถือเป็นสื่อสาร การประชาสัมพันธ์เผยแผ่ธรรมและพุทธศาสนาสู่โลกกว้าง<!-- / message -->

 

ทีนี้พระก็มีข้อเสียเปรียบเวลาเรียนหนังสือน่ะสิ
จะบัญญัติพระวินัยแข่งกับพระพุทธเจ้าทำไมน้อ

 

ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีทั้งดีและไม่ดีในตัวมันเอง การห้ามพระภิกษุสงฆ์ใช้ อินเตอร์เน็ต เกิดจากการที่มีสงฆ์เพียงไม่กี่รูปที่ทำตัวเหลวไหลไม่เหมาะสมกับสภาพ ก็ควรลงโทษเฉพาะผู้ที่ทำผิดไปตามเหตุ ไม่ใช่มาเหมารวมหมด สงฆ์ที่ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการที่เป็นประโยชน์ก็มี ควรที่จะพิจารณาให้รอบคอบก่อนและหาวิธีที่เหมาะที่ควรกว่าการสั่งห้าม เรื่องที่เป็นข่าวก็มีความเห็นว่าเราไปโทษสื่ออินเตอร์เน็ตไม่ถูก เป็นที่ตัวบุคคลนั้น ๆ มากกว่าที่กระทำการไม่สมควร โดยจะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ ยิ่งไม่รู้ยิ่งต้องระวังทำอะไรให้เป็นที่เปิดเผยและเหมาะสมตามควรแก่สถานภาพและกาละเทศะ การรู้ตัวโดยมีสติอยู่กับตัวให้มากที่สุด ก็จะไม่เกิดเรื่องอะไรมากมายเหมือนทุกวันนี้ สาธุ สาธุ

 

พระที่ท่านบวชเพื่อเอาดี ท่านรู้ว่าอะไรควรเข้าไปดู ไปหาข้อมูล ไปเผยแผ่ แต่ที่บวชตามวัย ตามใจพ่อแม่ หรือบวชหนีหนี้สิน หนีภาระ แล้วใจไม่ได้บวชด้วย มันคือตัวทำให้เกิดเรื่อง พระท่านต้องศึกษาวินัยเช่นกัน เพื่อเป็นพระผู้เผยแผ่ ที่ท่านเข้าป่าเก็บตัวเงียบนั้นจะประเภท ฉันเลือกสิษย์ที่ต้องการหลุดพ้น หรือฉันต้องการค้นทางออกของฉันให้ถ่องแท้เสียก่อน จะสอนต่อหรือไม่ไม่ได้สนใจเรื่องนั้น

หากไม่มีพระสงฆ์องค์เจ้าสอนแบบตำราเรียน ก็จะไม่ค่อยมีคนรู้หลักธรรมอย่างมีกฎเกณฑ์

 

ผมคิดว่าการจะไปนิพพาน ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีก็ได้
ใช้พุทโธโลยีอย่างที่หลวงพ่อจรัญท่านว่า ดีกว่า

ความเห็นของผมคือ
ศีล
สมาธิ
ปัญญา
ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยี

 

นู๋ไม่มีความเห็นดีก่า
ไม่อยากปกครองสงฆ์
เวลาสวดมนต์ทำวัตรก็ท่องว่า
"พระสงฆ์เป็นนาย มีอิสระเหนือข้าพเจ้า"
ไม่เคยท่องว่าเป็นนายพระสงฆ์ซักกะที

 

ขอโทษนะครับไม่ได้กล่าวพาดพิงใครแต่บางที่นั้น ที่ที่หัวหน้าหรือผู้ดูแลอยู่กลับเป็นซะเองแถมหนักกว่าเพื่อนด้วย อยากรู้ไม่ยาก
ถามชาวบ้านแถวนั้นดูสิ!!!!! ถ้าจะกะเอาจริงต้องได้ตัวแน่

 

แค่สวนน้อยก็ทำให้เหม็นหึงเลย พิจารณาเอากันเองนะ

 

ความคิดก็คือความคิด ความเห็นก็แค่ความเห็น

ที่ไม่เย็น ก็เพราะ คิดเห็นต่างกัน หรือ เรายึดมั่นกับความคิดที่แตกต่าง
อันเป็นธรรมชาติของสังขารที่ปรุงแต่งทั้งถูกผิด ดีชั่ว ตัวตน จนมันหนัก
ดวงจิต ดวงใจหรือไม่


ผมก็ไม่ได้วิเศษมาจากไหน แค่ ความคิดมุมมองหนึ่งเท่านั้น

เราอาจแย้งกันในกระทู้เล็กๆนี้ แต่ผู้ที่กระทำ เค้าไม่ได้รับรู้อะไร

.....


สุดท้าย คนก็คือคน ธรรมก็คือ ธรรม
<!-- / message --><!-- sig -->
ครับใช่แต่ในที่นี่ผมต้องการจะเปรียบเทียบว่า หัวหน้าวัดบางคณะ พอมีคำสั่งแบบนี้ออกมา ต้องการผลงานเอาหน้า ทั้งๆที่วัดตัวเองก็เน่ายิ่งกว่าของคนอื่น แทนที่จะแก้ทึ่วัดตัวก่อน ยังเสนอหน้าไปหา วัดในเขตปกครอง จ้องจับผิดเอามาสร้างความชอบแก่ตน อยู่ในผ้าเหลืองคิดแบบฆราวาส แถมยศสูงซะงั้น คณะสงฆ์ไทยเรื่องการปกครองบางอย่างขาดความเด็ดขาดครับ แค่บางอย่างนะครับไม่ใช่ทั้งหมด สุดท้ายนี้อยากกล่าวว่า 10000 คำพูดรึจะสู้โดนกับตัว
ลาล่ะครับ
พูดอะไรโดนใจใครเกินไปก็ขอ อภัยไว้ก่อน คนมีอัตตายังไงๆก็มีบ้างที่แนวคิดอีกฝ่ายจะไปกระทบอัตตาของอีกฝ่าย

 

สมมุติสงฆ์ที่ดี มั่นในธรรมวินัย หรือ
อริยะสงฆ์ที่ท่านจำเป็นต้องใช้ เทคโนฯ

ท่านตัด ท่านระงับได้
ถู.......ก ต้อง!!!!นะคร๊.....บ ผมเห็นด้วยอย่างแรง
แต่ แม้ไม่มีใครตั้งคำสั่งใดๆ ไม่ว่าฆราวาส หรือ ระบบการปกครองสงฆ์

เราไม่เห็นต้องแสดงความเห็นจนเกินขอบเขต จนกระทบกระทั่งกัน
ครับมันเป็นจริตนิสัยผม ที่ชอบแสดงความเห็นแบบตรงไปตรงมา ออกมาจากใจจริงๆ มิได้เสแสร้งแกล้งทำให้ดูดี ชอบคือชอบ ไม่ชอบก็นิ่งไปหรือ บอกตรงๆเลย ต้องเข้าใจครับ ศาสนาพุทธเราเป็นศาสนาของคนจริงกล้าท้าให้มาปฏิบัติและพิสูจน์ ไม่ขึ้นกับ บุคคล เวลา และสถานที่ ทุกวันนี้ชีวิตคนเราก็วุ่นวายพอแล้วอะไรๆถ้าทำให้มันดีขึ้นได้ แม้จะถูกวิจารณ์ยังไง ก็น้อมรับฟังครับมิได้ถือโทษโกรธเคือง
แม้ต่างทิฐิ ต่างความเห็น รูปแบบ และวิธีการ หากเป้าหมายเดียวกัน คือทำให้ศาสนามันดีขึ้น และไม่ทำให้พระคุณเจ้าดีๆเดือดร้อน (ส่วนพวกชั่วๆจะร้อนไม่ร้อนผมไม่สน) ก็น่าจะ O.K.นะ​

 

พระพุทธองค์ตรัสว่า เจตนา คือตัว กรรม ดีหรือไม่ดี พระท่านรู้อยู่แล้ว เราอย่าไปยุ่งกับพระท่านเลย หน้าที่ใครก็หน้าที่ใคร ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก็พอแล้วครับ******

 

ผมคิดถามตัวเองว่า ถ้าผมบวชผมจะเลิกเล่นเน็ทได้ไหมหนอ คำตอบคือ ไม่น่าจะได้ แต่เราจะเล่นได้ในขอบเขตแค่ไหนหนอในเมื่อเราเป็นพระ คำตอบก็คือต้องไปถามพระอาจารย์ผู้รู้จริงในเรื่องพระธรรมวินัยเอาในภายภาคหน้าก็แล้วกัน คงจะไม่ไปถามผุ้ว่าขอนแก่นหรอก

 

เคยไปพักปฏิบัติธรรมที่วัดป่าบ้านตาด ตามกุฏิไม่มีไฟฟ้าใช้ ผมว่าวิธีนี้ก็ดีนะครับเพราะสิ่งยั่วยุกิเลสส่วนหนึ่งมาตามสายไฟฟ้านี่แหละ

ไม่รู้ความคิดสุดโต่งไปหรือเปล่าเรา
ผิดพลาดพลั้งไปประการใดต้องกราบขอขมามา ณ ที่นี้ด้วยครับ

(smile)

 

ที่พระท่านส่วนใหญ่ใช้คอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ก็เพื่อเสียสละเวลาและต้องการช่วยเหลือญาติโยมทั้งในและที่ต่างประเทศ ในการทำธรรมทานในส่วนรวมได้
ท่านทำเว็บไซต์เผยแผ่ธรรม และเว็บไซต์ประชาสัมพันธวัด เพื่อให้ญาติโยมได้รู้จัก ทั้งญาติโยมที่อยู่ต่างประเทศก็มี

แต่ที่มาเสียเพราะ พวกที่อาศัยผ้าเหลืองเป็นกลุ่มเล็กมากกว่า อย่าเรียกว่าพระเลย

 

ถ้าทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปด้วยธรรม เพื่อธรรมล้วน ถึงเป็นเทคโนโลยี

ข้าพเจ้าก็ว่าไม่ผิด

 

พระธรรม คือสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ดีแล้ว