ฌานในศาสนาพุทธ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Dragon new, 15 เมษายน 2016.

  1. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    ผมอยากทราบว่า
    1.คำว่าฌานในศาสนาพุทธคืออะไรและเมื่อจิตเข้าสู่ฌานจริงๆเจ้าตัวจะทราบไหมว่าจิตกำลังเข้าฌานอยู่และจะทราบไหมว่าฌานที่เข้าระดับไหนอีกทั้งจะทราบไหมว่าฌานที่เขาเข้านั้นเป็นฌานในศาสนาพุทธไหม
    2.ผมอยากทราบว่าคนที่เคยสัมผัสหรือเคยเข้าฌาน4จริงๆ มีเยอะไหมครับ
     
  2. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    ใครมีความเห็นอย่างไร หรือผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับ
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    1. คนกินน้ำ ก็ย่อมรู้รสแห่งน้ำ ครับ แต่ถ้าไม่เคยกินน้ำ แล้วเข้าใจว่าตัวเองกำลังกินน้ำอยู่ ก็ย่อมมโนว่ารู้รสแห่งน้ำ

    2.ถ้าเทียบกับประชากรโลก น้อย ครับ
     
  4. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอโทษนะครับสำหรับ
    ข้อ1 นั้นผมคิดว่าหากผู้ปฏิบัติที่เพิ่งเริ่มปฏิบัติโดยที่ไม่มีครูอาจารย์มาก่อนปฏิบัติเองเจอสภาวะฌานเข้าอาจไม่ทราบว่าสภาวะนั้นเป็นฌานรู้แต่เพียงเป็นความสงบที่อัศจรรย์โดยผู้ปฏิบัติจะรู้ได้ว่าสภาวะนั้นเป็นฌานได้ก็ต่อเมื่อลองมาเทียบกับตำราหรือถามครูบาอาจารย์ครับ
    ส่วนผู้ที่บุญถึงพร้อมแล้วสามารถสัมผัสสภาวะฌานได้บ่อยครั้งที่ทำสมาธิ มีสติที่ดีแล้ว
    กำลังสมาธิมั่นคงสามารถแยกองค์ฌานได้แล้วจึงจะแยกออกว่าฌานที่ตนเองได้สัมผัสนั้นเป็นฌานอะไร ยกตัวอย่างเช่นคนที่ไม่เคยสนใจธรรมะมาก่อนแต่ลองนั่งสมาธิดูจิตอาจเข้าไปสัมผัสสู่ภาวะอภิญญาของเก่าในครั้งแรกแต่กำลังสติยังไม่พอและบุญยังไม่ถึงพร้อมก็ได้แค่เพียงสัมผัสสภาวะนั้นชั่วคราวแล้วสภาวะนั้นหายไปก็ได้ครับ
    ความเห็นผมถูกผิดประการใดบอกด้วยครับ
    ส่วนคำว่าฌานในศาสนาพุทธนั้นต่างจากฌานปกติอย่างไงหรอครับยังสงสัย ผมอยากทราบว่าคนที่เข้าฌานได้ส่วนมากยังไม่ใช่ฌานในศาสนาพุทธใช่ไหมครับ
     
  5. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ระหว่างเข้าฌานย่อมไม่รู้ฌานเป็นฌานไหน ออกมาแล้วเอาสภาวะไปเทียบกับคำสอนของพระพุทธเจ้าพอจะคาดคะเนเอาได้ว่าฌานไหนเป็นฌานไหน
    เข้าฌานก็ต้องรู้ว่าฌานเกิดขึ้นที่ใด จึงจะทำฌานให้เป็นฌาน
    เข้าฌานนั้นต้องเพ่งถูกจุดมโนทวารจึงเป็นฌาน เพ่งที่อื่นหาได้เป็นฌานไม่
    จุดมโนทวารอยู่กลึ่งกลางใบหน้า ระหว่างตาทั้งสองข้าง ที่จุดดั้งจมูกหัก
    เจริญในธรรม
     
  6. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    จำเป็นหรอครับว่าเข้าฌานต้องกำหนดจุดมโนทวารกึ่งกลางใบหน้าด้วย
    ผมเข้าใจว่าถ้าสติถึงพร้อมแล้วกำหนดที่ใดก็เข้าฌานได้
    หมายความว่าแค่จับอารมณ์ก็เข้าฌานได้แล้วและแยกองค์ฌานได้อีกด้วยครับ. ที่ยังต้องกำหนดจุดอยู่คือยังไม่ได้ฌานจริงๆสติยังไม่สมบูรณะพอ
    ถ้าผมเข้าใจถูกผิดประการใดบอกด้วยครับ
     
  7. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    ผมบอกความจริงแล้ว เชื่อหรือไม่แล้วแต่ท่าน
    ตรงนี้เป็นความจริงที่ตำราไม่มีการบันทึก
    การกระทำอย่างอื่นเป็นสมาธิเท่านั้นเอง
     
  8. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    ผมไม่ได้ไม่เชื่อแต่เพียงไม่เข้าใจอย่างแท้จริง คือเคยได้ยินคำสอนมาหลายแบบจึงสับสน
    แต่ผมก็เคยสัมผัสความรู้สึกที่จุดกลางหน้าผากคือเพ่งแล้ววางความคิดจิตจึงเพ่งเข้าไปสู่จุดกลางหน้าผากได้
    ที่ถามเพราะอยากเข้าใจสมาธิมากขึ้น อยากให้ช่วยอธิบายเรื่องสมาธิหน่อยคือผมความรู้น้อยครับ
     
  9. ป้อม

    ป้อม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +223
    คุณคิดลึกเกินไปแล้ว

    ณาน คนเรามีด้วยกัน 4 ณาน โดยปกติถ้าอยากได้กำไรชีวิตให้รักษา ฌาน 3
    หรือ ณาน 4

    พอพูดเรื่องณานคนเรามักจะคิดลึกไปว่าผู้ได้ณานคือผู้ทรงอภิญญาเท่านั้น แต่
    จริง ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้

    โดยแบ่งได้ดังนี้
    ปฐมณาน คือ วิตก ตื่นเต้น
    ทุติยณาน คือ ปิติ
    ตติยณาน คือ สุข และ ทุกข์
    จตุตณาน คือ เฉย

    ถ้าอยากได้ ณาน 4 ก็พยายามเฉย อยู่ตลอดเวลาเท่านั้นเอง
    ศาสนาพุทธไม่ใช่เรื่องลึกลับ คิดง่าย ๆ ก็พอนะ
     
  10. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    ผู้ที่ได้ฌาน รู้แน่นอนครับ เพราะมันต่างกับสภาพปกติมาก แต่ก็จะมีหลายคนที่หลงคิดว่า สภาพธรรมที่ตัวเองเจอขณะปฏิบัตินั้นเป็นฌาน หรือเรียกอีกอย่างว่าหลง อันนี้มีเยอะมากครับ

    ผู้ที่ได้ฌาน 4 จริงๆ มีน้อยมาก จริงๆ เอาแค่ อุปจารสมาธิ หรือ ปฐมฌาน ก็น้อยมากแล้วครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2016
  11. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    เพิ่มเติมนะครับ ผู้ที่ได้ฌานบางคน ได้ฌานจริง แต่ศึกษามาไม่ดี หรือไม่มีครูบาอาจารย์ที่ดี ไปเทียบอารมณ์แล้ว เข้าใจผิดหลงระดับฌานก็มี หรือถึงขนาดคิดว่าเป็นมรรคผล เป็นนิพพาน ไปเลยแบบนี้ก็มีครับ

    ทิฏฐธรรมนิพพานทิฏฐิ ๕
    [๑๙] พ. ภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกที่มีทิฏฐิว่า นิพพานในปัจจุบัน บัญญัติว่า บุคคลจะบรรลุนิพพานอันเป็นธรรมอย่างยิ่งได้ในปัจจุบัน ด้วยเหตุ ๕ ประการ คือ
    ๑. บุคคลนั้น เพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า
    ๒. บุคคลนั้น เว้นจากกาม และอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน
    ๓. บุคคลนั้น บรรลุทุติยฌาน
    ๔. บุคคลนั้น บรรลุตติยฌาน
    ๕. บุคคลนั้น บรรลุจตุตถฌาน
     
  12. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    ขอโทษนะครับอยากถามว่าแล้วผู้ที่เคยสัมผัสอภิญญาในฌานจริงๆมีเยอะไหม
    หมายถึงคนที่ยังไม่ได้ฌานหรอกแต่เคยจิตรวมเป็นฌานแล้วสัมผัสของเก่าอะครับ
    คือบุญยังไม่ถึงเวลาได้จริงๆเพียงแค่ฌานสมาธิมาให้เห็นเฉยๆครับ
    คือสมาธิฌานมาให้เห็นแล้วสภาวะนั้นก็หายไป
     
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    1.ฌาณ คือ ความสงบ วัดความสงบจากอะไรล่ะ จากอายตนะทั้ง5 เป็นอย่างหยาบ คือ สงบจากรูปรสกลิ่นเสียงผัสะ ของตน อันดับแรก แล้วมาที่ สงบจากความคิดจิตใจของตนสงบจากเวทนาเป็นอันดับ สอง......สงบจากใจตนเอง อันดับสาม ...สงบจากความไม่รู้อันดับสี่

    ว่าแต่คนที่ถาม เคยสงบจากสิ่งใดที่กล่าวมาแล้วได้บ้างหรือยัง

    2.ฌาณ ชั่วคราว คือ พวกที่นั่งสมาธิ สงบจากกาย สงบจากเวทนา สงบจากความคิดจากใจ แต่ไม่สงบจากจิต เพราะที่พากันเข้าใจว่า จิตเป็นอารมณ์เดียว คือแค่รู้..แต่ไม่รู้อะไรเลย รู้นั่นก็ยังถือว่าไม่สงบหรอก...เพราะ พอออกจากสมาธิ ก็พบกับความไม่สงบเหมือนเดิม วัดผลที่ว่าจิตที่รู้นั่น รับมือกับ ความไม่สงบหลังออกจากสมาธิไม่ได้ เกิดปัญหาเหมือนเดิมนั่นเอง
     
  14. Mikas

    Mikas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +342
    เรื่องอภิญญา เคยได้ยินว่า ถ้าคนเคยมีของเก่า แค่จิตลงไปอยู่ประมาณอุปจารสมาธิ ก็เริ่มจะแสดงฤทธิได้แล้วครับ

    แต่ถ้าคนไม่เคยมีของเก่า จิตลงอัปปนาสมาธิเป็นฌานไปแล้ว ก็ไม่ใช่ว่าจะได้อภิญญาทุกคนนะครับ โดยปกติแล้วอภิญญาต้องฝึกต่อหลังจากที่ได้ฌานไปแล้วครับ

    ลองดู 2 คลิปนี้ครับ ท่านอธิบายไว้ชัดเจนมาก

    การเจริญอาณาปนสติ จนขึ้นเป็นฌาน

    https://www.youtube.com/watch?v=_Vcymb_lezM

    การเลื่อนขึ้นสู่ฌานชั้นสูง_อภิญญา

    https://www.youtube.com/watch?v=k5Ik0tTjugI
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 เมษายน 2016
  15. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่า
    ฌานไม่มีแก่ผู้ไม่มีปัญญาปัญญาไม่มีแก่ผู้ไม่มีฌาน
    ฌานและปัญญามีอยู่ในผู้ใด ผู้นั้นแลอยู่ในที่ใกล้นิพพาน
    เจริญในธรรม
     
  16. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    สงบข้อ1-3เคยเจอแล้วแต่ข้อที่4ผมไม่เคยเจอครับ
    ขอโทษครับช่วยอธิบายสภาวะธรรมของความสงบข้อที่4คือคำว่าสงบจากความไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร และมีอารมณ์อย่างไรครับ
     
  17. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    สงบจากข้อ1 2 3 ที่ว่าเคยเจอมาแล้ว หรือว่าเคยทำได้มาแล้ว คุณต้องอธิบายสภาวะอารมณ์ ทั้งสามข้อ มาให้ผมฟังก่อนครับ ว่ามันไช่ตามที่ผม กล่าวจริงหรือไม่

    ก่อนที่ผมจะอธิบายข้อที่4
     
  18. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    ก็อย่างเช่นภาวนาพุทโธหรือสวดมนต์ไปเรื่อยๆขณะที่มีทุกขเวทนาทางกายจนจิตสงบ อาการเวทนาทางกายหาย แล้วจิตมีความรู้สึกเด่นขึ้นมาที่จิต คำภาวนาเริ่มภาวนาไม่ออก จิตก็จับลมหายใจแทน จิตก็ละเอียดขึ้นสงบขึ้น จนลมหายใจดับ จิตมีความรู้สึกเด่นอยู่ในตัว จิตแยกความรู้สึกออกจากร่างกาย ไม่รับความรู้สึกของกายครับ เป็นความสุขอย่างยิ่งครับ ขณะนี้ เมื่อเริ่มใช้ความคิดจิตจะถอนออกมาคืออารมณ์จะหยาบลงอะครับ
    ไม่รู้ว่าผมเข้าใจตรงกับที่บอกปะครับ ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัยด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 เมษายน 2016
  19. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,076
    ค่าพลัง:
    +3,024
    แบบนี้ เป็นการนั่งสมาธิ สงบชั่วคราวครับ ไม่ไช่ การปล่อยวาง แบบถาวรอย่างที่ผมบอก ซึ่งการนั่งสมาธิแบบนี้ เป็นเหมือน การบอกให้เรารู้ว่า สภาวะอารมณ์แบบนี้ มันมีอยู่จริง ...การจะปล่อยวาง ได้ ต้องเอาจิตมาดูกาย ดูการทำงานของกาย รับรู้การผัสสะและดูเวทนาที่เกิดในกาย ดูจนจิตสามารถแยกแยะ ได้ว่า เวทนาไหนเกิดจากกาย เวทนาไหนเกิดจากใจมันปรุง....ดูจน สงบขึ้นเรื่อย ดูจน มันจะวางไปเอง น่ะครับ....จนคุณ รู้เห็น สภาวะอารมณ์ที่จิตมัน วางกายได้ วางเวทนาได้ เองน่ะครับ (ดูจนสงบมากๆๆๆๆดูอย่างเดียว จนรู้ทันเวทนาและรู้ทันความคิด)

    อาจจะยากสักหน่อยครับ แต่ถ้า ไม่ผ่านตามที่ผมบอก ผมก็เล่าข้อ 4 ไม่ได้ครับ
     
  20. Dragon new

    Dragon new สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +19
    แบบที่คุณบอกผมเคยทำครับทำแล้วจิตมันสงบแห่งแสงสว่างจุดเล็กๆที่ตำแหน่งระหว่างคิ้ว
    ตำแหน่งมโนทวารอะครับพอผมเพ่งเข้าไปที่แสงสว่างนั้นแล้วหยุดความคิดแสงสว่างก็เปิดออกเหมือนเป็นดวงตาในแนวตั้งครับ แต่ผมไปต่อไม่ถูกอะครับ ช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมครับว่าที่ผมเจอมันคืออะไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...