*** ไขรหัสลับโบราณ 6-7-9 คำเตือนภัยจาก โลกุตตระ ****

666 เป็นการประกาศที่มา (ชั้นหก) ใช่หรือไม่...

...................................................

666 กับ illuminati เกี่ยวข้องกันใช่หรือไม่...

 

ขอบคุณท่านหนุมานนำสาร คำเห็นเพิ่มเติมจ๊ะ แล้วแต่พิจารณานะ

กรรมเกิดจากการกระทำของเรา เพราะเรามีกิเลส โลภ โกรธ หลง จึงมีตัณหาความอยากได้ ไม่อยากได้ตามมา เราจึงมีการทำกรรมตามความอยากนั้น ก็ย่อมมีผล เรียกว่า วิบากกรรม ติดตามอยู่เสมอ เรียกว่า วงเวียนกรรม

สิ่งที่ทำผิดศีลผิดธรรมนั่นคือผลกรรม ถ้ารู้ว่าไม่ถูกต้องไม่ดีงาม จึงได้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขการกระทำใหม่ให้ดีงามและถูกต้อง เรียกว่าการเปลี่ยนนิสัยใหม่ จึงถือว่า “การแก้กรรม” ก็คือ การแก้ไขโดยเปลี่ยนการกระทำทางกาย วาจา ใจ นั่นเอง

การแก้กรรม หากเราจะแก้กรรมโดยไม่ยอมรับผลกรรมที่เราทำลงไปไม่ได้ เช่นการสำนึกผิด เป็นต้น แล้วเราแก้โดยการ การสะเดาะเคราะห์ ที่หลายคนคิดว่าเมื่อทำการสะเดาะเคราะห์แล้ว กรรมนั้นจะหมดไปมันจึงเป็นไปไม่ได้เลย เพราะเมื่อสิ่งใดที่เรากระทำไปแล้วมันกลับไปแก้ไขอีกไม่ได้ เราต้องยอมรับหากผลนั้นตอบกลับคืนมาให้ทุกข์แก่ตัวเรา ให้ถือว่าเป็นบทเรียนที่ทำให้เราสามารถแก้ไขกรรมนั้นไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นมาอีก ก็คือการยอมรับและสำนึกผิดถึงการกระทำที่ให้ทุกข์กับเขา ทุกข์นั้นจึงตอบสนองคืนมา


แล้วเราก็ตั้งใจว่าเราจะไม่ทำผิดให้ทุกข์แก่ผู้อื่นอีกโดยเด็ดขาด ถึงแม้จะมีสิ่งมายั่วยุ หรือ บททดสอบให้กระทำอีก หากชนะใจตนเองได้ คือ การชนะกรรม ในเรื่องนั้น ๆ การแก้กรรมที่แท้จริงจึงเป็นการแก้ไขการกระทำนั่นเอง ว่าสิ่งใดที่เป็นความไม่ดี ผิดศีล กระทำไปเพื่อเบียดเบียนคนอื่น เราจะไม่ทำซ้ำอีก

ตั้งสัจจะว่า คิดในสิ่งที่ถูกต้อง พูดในสิ่งที่ถูกต้อง ทำในสิ่งที่ถูกต้อง

 

คือ การให้อภัยตนเอง และ การให้อภัยผู้อื่น

ให้อภัยตนเองเพื่อให้ตนเองได้มีโอกาสแก้ไขใหม่ โดยนำความผิดพลาดนั้นมาเป็นบทเรียนและหาทางที่จะเปลี่ยนวิธีการกระทำตอบผู้อื่นใหม่ และ เราให้อดทนให้อภัยผู้อื่นเพื่อให้ผู้อื่นได้มีโอกาสแก้ตัวของเขาเองที่จะเพื่อที่จะได้มีโอกาสกระทำต่อเราใหม่ เมื่อเราให้อภัยเขาแล้วเราไม่รู้สึกถึงความผิดพลาดที่เขามีต่อเรา ความรู้สึกของเขาก็จะประทับใจและเกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นกับเรา เขาก็ได้มีโอกาสพัฒนาจิตใจของเขาไปด้วย มันก่อให้เกิดการแบ่งปัน และด้วยการรับฟังเอาใจใส่มากขึ้น โดยมีตัวเราและตัวเขาเป็นการช่วยเหลือกันและกัน และต่างก็อโหสิกรรมให้กัน กรรมนั้นก็ค่อยลดลง หรือ เบาบางลง

 

อ้างอิง wacaholic "8"


สัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญาเห็นชอบ หมายถึง การ ปฏิบัติอย่างเหมาะสมตามความเป็นจริงด้วยปัญญา

สัมมาสังกัปปะ คือ ดำริชอบ หมายถึง การใช้สมองความคิดพิจารณาแต่ในทางกุศลหรือความดีงาม

สัมมาวาจา คือ เจรจาชอบ หมายถึง การพูดต้องสุภาพ พูดในสิ่งที่สร้างสรรค์ดีงาม

สัมมากัมมันตะ คือ การประพฤติดีงาม ทางกายหรือกิจกรรมทางกายทั้งปวง

สัมมาอาชีวะ คือ การทำมาหากินอย่างสุจริตชน ไม่คดโกง เอาเปรียบผู้อื่น

สัมมาวายามะ คือ ความอุตสาหะพยายาม ประกอบความเพียรในการกุศลกรรม

สัมมาสติ คือ การไม่ปล่อยให้เกิดความพลั้งเผลอ จิตเลื่อนลอย ดำรงอยู่ด้วยความรู้ตัวอยู่เป็นปกติ

สัมมาสมาธิ คือ การฝึกจิตให้ตั้งมั่น สงบ สงัด จากกิเลส นิวรณ์อยู่เป็นปกติ

..................................................



ข้าพเจ้าขอแสดงความเห็นเพิ่มเติมนะ

เลข 8 ที่หายไปไหน คือ มรรคมีองค์แปดนั่นเองแหละจ๊ะ ที่ใครปฏิบัติแล้วทำให้สามารถรอดพ้นจากทุกข์ และ ภัยอันตรายทั้งปวง

ปฏิบัติอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญา เพื่ออบรมและพัฒนาจิตใจตนเอง ให้เป็นปกติและสงบสุข เพื่อรักษาใจตนเองไม่ให้ก้าวล่วงและเบียนคนอื่น เพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดผลกรรมต่อกันมากขึ้น พยามยามลดละการกระทำที่ก่อให้เกิดกรรมที่ไม่ดี

 

*** MAGNETO ****

M___A___G___N___E___T___O
13__1___7___1_4_5___20__15
___22__________9_____2015

- " หนุมาน ผู้นำสาร "
21กันยายน2558

 

คงได้เห็นอะไรบ้างนะท่าน

 

.
เขียน ๑๕.๐๘

ร้อยบาทเอาขี้หมากองเดียว
พนันกันก็ได้ ว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกน่า นะ เนอะ

แต่..เอ..การพนันไม่ดีนี่หน่า งั้นอย่าเลย

ยังโหลดพระพุทธเจ้าไม่เสร็จเลย เพิ่งได้แค่ยี่สิบหกตอนเองอ่ะ
ดังนั้น พรุ่งนี้ก็จะโหลดต่อ แล้วก็จะไม่มีอะไรมาขัดขวางได้หรอกนะ เนอะ หึหึหึ

ถ้ากลัวแผ่นดินไหว ขอฝากกลอนมนตราบทนี้ไว้ละกัน
เอามารีไซเคิ้ล แล้วใช้ใหม่ได้อีกนะ ขอบอก ๕๕๕ ที่แจ๋วกว่า ๖๖๖

โพสท์ไว้ตั้งแต่วันที่ สิบสาม เดือนสาม ปีที่แล้ว เวลา 01:11 pm
ที่กระทู้ ด้วยรัก ฉันจักให้ ความเชื่อใจ มิแคลนคลอน # ๙๓๘

ร่ายไว้เมื่อประมาณสามเดือน ก่อนแผ่นดินไหวที่เชียงรายอ่ะนะ เนอะ


น็อต ตรามนุษย์ / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

อ่ะ จัดไปตามนั้นครับ

 

สุดท้ายกะคงเดิมๆ เลื่อนระดับทะลุมิติ ก็ไม่เห็นเลื่อนนะ สนามแม่เหล็ก อ่ะเหมือนเดิมหรือป่าว นิบิรุจะมา ตายเป็นเบือ ก้ยังหัวโด่เหมือนเดิม รับฟังทุกมิติความคิดนะครับ ไม่มีใครเพ้อเจ้อหรอก แต่อะไรที่ลงกันบ่อยๆๆ ถี่ๆๆ ซ้ำๆๆ แล้วเกิดขึ้นจริง เขาเรียกสัจจนิรันดรื ( อ้ะป่าว) อะไรที่คาดไว้ซ้ำๆๆๆ แต่ก็ยังรอคอยต่อไป ไม่เกิดสักที จะเรียกอะไร มันควรมีคำว่าลิมิตนะครับ เพราะเลยจากลิมิต แสดงว่ามีอะไรเปลี่ยนไปแล้ว แม้นแต่ในไตรปิฎก ไม่รู้จริงปลอมนะ แม้นพุทธ โดนถามติดกัน 3 ครั้งก้ยังต้องตอบ ไปตรองกันดูนะครับ ผมไม่ได้วิเศษแบบท่านๆหรอก แต่บางเรื่องมันนมนานและไม่มีอะไรเลย