ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย modpong, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ................
    ..หวัดดี..หลานเขม..หลานสวนพลู..เฉียวฟงหลานรัก..และ..หลานBear
    ..รวมถึง..ทุกคนในครอบครัวผม.....
    .............................
    .....ต่อจากตอนที่แล้ว.......
    ...........................
    ........................................................
    ....เรื่องที่เกี่ยวข้องเป็น..วิทยาการ..ความรู้ทั้งหมด..พราหมณ์..เป็นผู้ใช้..ดังนั้น..ระบบการศึกษา..ก็
    จึงจัดสรรโดยพราหมณ์ด้วย...วรรณะอื่นจะมาจัดตั้งสำนักศิลปวิทยาการไม่ได้..นอกจากพราหมณ์
    ...มีคนสงสัย..อ้าว..และ..พวกฤาษีละครับ....ก็พวกฤาษี..หรือ..อีกอย่างที่เรียกว่า..ดาบส..นั้นก็คือ..
    ..พวกวรรณะ..พราหมณ์นั่นเอง..แต่ไม่ได้ไปทำหน้าที่แบบ..พราหมณ์ทั่วไป..มีความรู้ทุกอย่างด้าน
    พราหมณ์...ก็อย่าง..สำนักของอุทกดาบส..ที่..เจ้าชายสิททัตถะไปเรียนนั่นแหละ.....ดาบส..หรือ..ฤาษี
    ก็จะเน้นแนวทางฝึกฝนตนเอง..ฝึกฝนจิต..และให้การอบรมสอนความรู้ต่างๆ..ให้แก่ผู้ที่สมควรสอน
    ...โดยจะแยกตัว..ออกไปจากสังคมพราหมณ์ทั่วไป.....
    .....พราหมณ์นั้น..ก็จะแบ่งแยก..ให้ความรู้ใน..๒ วรรณะ..ที่ต่ำจากตัวเอง(..กษัตริย์..และ..แพศย์)..
    แตกต่างกัน..ตามความเหมาะสม...ส่วนพวกสูทร..นั้นจะไม่ได้เรียน..ไม่มีการสอนให้..เพราะ
    ไม่จำเป็นต้องรู้อะไร..ใช้แต่แรงงาน...พวกนี้..อ่านไม่ออก..และ..เขียนไม่ได้...
    .........แต่นั่นคือ..ที่อินเดีย..ชมพูทวีป..และ..มีพวกพราหมณ์..อยู่มากมาย..แต่เมื่อมาถึงสุวรรณภูมิ
    และ..แหลมทอง..พราหมณ์ที่มาที่นี่..ก็ต้องยอมรับสภาพว่า..ที่นี่มันคนละสังคม..และ..ไม่ได้นับ
    ถือ..พราหมณ์-ฮินดูอยู่เดิม..ไม่มีวรรณะ...และ..ยิ่งมาถึงพร้อมๆทีพระเจ้าอโศก..ส่งพระโสณะ..
    และ..พระอุตตระ..มาเผยแผ่..พระพุทธศาสนา..นั้น..ตัวเองมีบทบาท..แค่ตัวประกอบ..ยิ่งอยู่ไป
    ซักพัก..คนในแหลมทอง..ยอมรับพุทธศาสนามากขึ้น..พราหมณ์เองก็จึงถูกจำกัดวง..อยู่กับชน
    ชั้นปกครองเป็นหลัก...ความพยายามผลักดันให้ศาสนาพรหมณ์-ฮินดู..เข้ามาเป็นศาสนาหลักใน
    แดนสุวรรณภูมิ..จึงลดน้อย..
    ..............ต่างจาก..ดินแดนทางทะเลจีนใต้..ส่วนที่เป็นอินโดนีเซีย..ปัจจุบัน..ที่มีพวกพราหมณ์..และ
    ฮินดู..เข้ามาฝังราก..และขยายอาณาจักร..ไปเรื่อยๆ..ส่วนนึง..นอกเหนือจาก..การเข้ายึดครองบริเวณ
    ปากแม่น้ำโขง..สร้างอาณาจักรฟูนันแล้ว..กาลต่อมา..ก็เป็น..เจนละ..พวกนี้นั้น..เป็นฮินดูอยู่แล้ว..
    อาณาเขตปกครองจากญวนก็..ขยายเข้ามาถึงเขมร...แผ่ถึงภาคกลางไทยด้วย..เมื่ออาณาจักรเจนละ..
    ล่มสลายไป..แล้วเข้าสู่ยุคเริ่มของ..อาณาจักรขอมนั้น..ไม่ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลง..แต่สิ่งที่ยัง
    ไม่เปลี่ยนก็คือ..ศาสนา..ก็ยังนับถือ..พราหมณ์-ฮินดู..เช่นเดิม..แต่สิ่งที่..พราหมณ์จะทำให้...
    คล้ายกับ..หรือ.งเหมือนกับที่ๆกำเนิดศาสนา..ก็คือ..การใช้วรรณะ..ของหลักการของพราหมณ์
    นั่นเอง...เป็นสิ่งที่ไม่ประสพความสำเร็จ..อาจเพราะ..ภูมิภาคแถบนี้..ผู้คนก็มีสิ่งยึดถือ..อยู่แล้ว
    แนบแน่น..ก็คือ..บรรพบุรุษ(นับถือผี..นั่นเอง)..และ..ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมดั้งเดิม..ซึ่ง
    ซึมเข้าไปในสายเลือด...เขาไม่ใช่แขกอินเดีย..และ..แม้ว่าจะนับถือศาสนาเหมือน..แต่ก็ไม่ใช่
    อยู่ดี....ตัวอย่างชัดเจน..ที่ดูได้..แม้ในปัจจุบันก็คือ...เกาะบาหลี..คนพื้นเมืองเกือบทั้งเกาะ..
    นับถือฮินดู...แต่ไม่ว่าขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม..ยังคงเอกลัษณ์ดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น..
    ..ไม่ว่า..งานแต่งงาน..งานศพ..งานฉลอง..ไม่มีอะไร..เป็นฮินดูเลย..มีแต่โบราณสถานฮินดู..
    เต็มเกาะไปหมด..ชาวเกาะก็ไปไหว้กันที่นั่น..แต่กลับมาบ้านก็ทำตัวเหมือนเดิม..แตข้อที่ยัง
    เคารพยังมีอยู่บ้างก็คือ..ไม่มีการกินเนื้อวัว(พาหนะของพระอิศวร)..กินเนื้อหมูแทน......
    ...แต่ที่ยังเหมือนเดิม..อีกอย่างก็คือ..ยังนับถือผี..ด้วย....
    .........สมัยที่ผมเรียนอยู่ที่..ญี่ปุ่น..ที่ผมเคยเล่าไปก่อนหน้านี้ว่า..๑ใน ๒ คนนั้น..มันเป็นคน
    เกาะบาหลี..และ..นับถือ..ฮินดู..มันมาแถลงไข..ข้อสงสัยของผม..ที่ข้องใจมานานว่า.....
    ...บาหลี..นั้นรอดการรุกรานทางศาสนาจากมุสลิม..มาได้ยังไง...เก่งมาก..นั่นคือสิ่งที่ผมถามมัน
    ......มันได้ยินผมถาม...มันก็หัวเราะ..แล้วก็ค่อยๆเล่าที่มา..ที่ไป..ให้ผมฟัง....

    ............... 1262492526.jpg

    ...เหรียญสมัยฟูนัน..ที่พบในไทย...ไม่ว่า..ตนอื่นเขาจะอธิบายว่า..มันหมายความว่า
    ยังไง..ผมดูแล้ว..มันน่าจะเป็นรูป.."ครุฑยุดนาค"..มากกว่า..อย่างอื่น.........

    ........................ต่อตอนหน้า.............................
     
  2. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ศิษย์เอก สำหรับผม น่าจะใช้กับ สำนักดาบ หรือ สำนักต่างๆ ที่มีอาจารย์เป็นฆารวาส น่าจะเหมาะครับ เพราะแต่ละที่ อาจารย์เหล่านี้ก็ต้องมีศิษย์เอก ที่ถ่ายทอดจนหมดไส้หมดพุง และพร้อมพิสูจน์ ว่าตัวเองสามารถพอจะแทนอาจารย์ได้ครับ

    ถ้ายกตัวอย่าง หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค คงจะไม่มีศิษย์เอกแน่ๆ เพราะศิษย์ท่านเยอะมากๆครับ

    มาร่วมติดตามต่อครับคุณอา
     
  3. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ...หวัดดี........หลานสวนพลู....และ..ทุกคนในครอบครัวผม..
    ............................
    ....ต่อจากตอนที่แล้ว....
    ...............................
    ..............................................
    ....มันเล่าว่า..คนบ้านมันนี่เรียกว่า..วัฒนธรรม..และ..ความเข้มข้น..ในสายเลือดสูง..มาก
    ....พวกมัน..จะไม่แต่งกับ..คนนอก...มีกฏธรรมเนียมที่..ถ้ามีเหตุขึ้นมา..แล้วถูกจับได้...
    ขะต้องไปอยู่ที่อื่นนอกเกาะ..และไม่นับเป็นคนบาหลีอีกต่อไป...ก็เลยมียีนส์ที่เข้มข้น
    ..มันบอกผมว่า..มึงรู้มั้ยว่า..คนบาหลี..พึ่งมาใส่เสื้อกันทั้งหญิง..และ..ชาย..ในปกติประจำวัน
    เอาเมื่อ..หลัง..สงครามโลกครั้งที่ ๒ นี่เอง....คือปกติ..จะเปลือยท่อนบน..(ตล้ายๆ..กับ..คนเหนือ
    ..เพราะพ่อผม..เห็นมาเอง..ตั้งแต่ก่อนเริ่มสงครามมหาเอเซียบูรพา..พ่อรับราชการใหม่ๆไปประจำ
    อยู่ที่เชียงใหม่..ผู้หญิงทั้งสาวและไม่สาว..ถ้าอยู่แถวบ้านหรือ..ไม่ได้เข้าไปในตัวเมือง..ก็จะเปลือย
    ท่อนบนเช่นกัน..แถบ..สารภี..หางดง..ก็เป็นแบบนี้..ยิ่งอำเภอใกลๆยิ่งแล้ว)..ไม่ว่าจะทำอะไร...
    สำหรับผู้หญิง..จะใส่..เฉพาะ..เวลามีเทศกาล..และฟ้อนรำ..ไปเข้าวัด..ขนาดใน DENPASAR..เมือง
    หลวงของเกาะ..เข้าเมือง..เข้าตลาด..ก็เปลือยอกทั้งสิ้น...อาหารโปรด..และ..เลี้ยงกันทั่วไป...ก็คือ..หมู..
    .....มันก็บอกต่อว่า..เมื่อมุสลิม..เข้ามายึดครอง..คนอินโดตามเกาะทั่วไปนั้น..มีทั้งฮินดู..และ..พุทธ
    ..แต่เกาะอื่นๆ..วัฒนธรรมเขาไม่เข้มข้น..แบบที่ที่บ้านมันนี่..มันก็เลย..เปลี่ยนไปกันหมด...
    ...ส่วนที่บ้านมันนี่..เนื่องจาก..บาหลี..เป็นเกาะเล็ก..ไม่สังคมกับ..คนภายนอก..ไม่ค้าขายกับใคร..
    ...วัฒนธรรม..การใช้ชีวิต..ตรงกันข้ามมากๆ..กับ..ทางมุสลิมทุกด้าน..ลำบากในการไปเปลี่ยนแปลง
    ก็เลย..ปล่อยไปตามเดิม..อีกอย่างมุสลิมของอินโดฯนี่..มันไม่ใช่พวกเคร่งมาก..(จะเห็นได้ว่า..ที่บูโร
    พุทโธ..พระพุทธรูปยัง..มีสภาพอยู่ดี..กว่าเมืองพุทธบ้านเราอีก)..มันหัวเราะติดตลก..ปิดท้ายว่า..
    ..มึงคิดเอา..แล้วกันว่า..เอาผ้าคลุมหัว..คลุมหน้า..แต่เปลือยอก...แล้วมันจะแปลกมั้ยวะ....
    ...............................
    ..กลับมา..เข้าเรื่องต่อวัฒนธรรม..และ..ประเพณีดั้งเดิม..ในแหล่งภูมิภาคนี้..ก็เหนียวแน่น..เรื่องลัทธิ
    การแบ่งวรรณะ..ย่อมไม่เกิดกับ..แถบนี้..ตัวเองก็ต้องปรับ...ขณะที่ยุคตามพรลิงก์..หรือ..ศรีวิชัย......
    ศาสนาพุทธ..ก็เริ่มปักหลักมั่นคง...ศาสนาพราหมณ์ในภาคใต้..ก็ต้องปรับไปตาม..แรกๆ..ผมว่า..
    สำนักเขาอ้อนั้น..เริ่มเดิมที..น่าจะเป็น..สำนักของพราหมณ์เพียงอย่างเดียวมาก่อน..ทั้งให้ความรู้..
    ให้บริการต่างๆ.งกับ..คนพุทธ..รวมทั้งรักษาโรคไปด้วย..แต่เมื่อมีคนมาใช้บริการกันเยอะขึ้น..
    แต่พวกพราหมณ์เอง..ไม่ได้มากขึ้น..ก็คงคิดที่จะแบ่งเบาภาระ..โดยการคนท้องถิ่น..ซึ่งมีคนนับ
    ถือเช่นกัน..ก็เห็นมีแต่พระสงฆ์..จึงเริ่มเอาวิทยากรของตน..มาถ่ายทอดให้ตามความเหมาะสม...
    ..แล้ว..อยู่ไปๆ..ความเปลี่ยนแปลงก็ค่อยๆมากขึ้น..พราหมณ์น้อยลง..พระก็เลยมากขึ้น..และ..ก็
    ต้องรับ..คนธรรมดาที่ไม่ใช่พระ..หรือ..อาจจะเป็นพระที่เรียนจากที่นี่แล้วสึกไป..มาเรียนรู้เพิ่มเติม
    ในการทำหน้าที่..แทนในตำแหน่งของพราหมณ์..มาเรียนรู้เพิ่มเติมในสายนี้....อย่างน้อยก็จะได้สืบ
    ทอดวิชา..ของสำนักได้ครบ...ปรับวิชาจากคัมภีร์พระเวท..ให้มาใช้กับ..สายพุทธ..จนกลายมาถึงรูป
    แบบ..ในปัจจุบัน....แต่ทั้งหมดไม่ว่า..สายพระ..หรือ..สายพราหมณ์..ก็ต้องมีคนสืบต่อเนื่อง..เพื่อ..
    รักษาความเข้มข้น..และไม่เสื่อมสลายของสำนัก..มาก่อนเหนืออื่นใด..ด้วย....
    ดูตัวอย่าง..อาจารย์นำ..ซึ่งจบหลักสูตรที่นี่ทั้งพุทธและพราหมณ์..แล้วออกไปสายฆาราวาส..เป็นเจ้าพิธี
    ทางสายพราหมณ์..เช่นเดียว..และรุ่นๆเดียว..กับอาจารย์ชุม ไชยคีรี..เมื่อ..บิดาท่านที่เป็นเจ้าอาวาส วัด
    ดอนศาลาเสียลง..เสาหลักของเขาอ้อ..สองต้นคือ..วัดเขาอ้อ..และ..วัดดอนศาลา..เกิดการร้าวขึ้น..ก็คง
    เป็นกฎของ..สำนักเขาอ้อว่าต้องซ่อมแซม..เปลี่ยนใหม่ให้มีความมั่นคงเช่นเดิม..ขณะนั้น..อาจารย์ปาล
    เป็น..เจ้าอาวาสวัดเขาอ้ออยู่...วัดดอนศาลา..ก็ต้องหาผู้นำระดับที่ต้องไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน..ซึ่งขณะนั้น
    ที่มีอยู่ก็เป็นเจ้าอาวาสวัดในสาขากันหมด..เรียกว่าทั้ง..หลวงพ่อหมุน..และ..หลวงพ่อคง..ก็เป็นเจ้าอาวาส
    อยู่แล้ว..ถ้าไม่มีทางเลือกอื่นยังไงก็ไม่พ้น ๒ องค์นี้..ต้องย้ายมาเป็นเจ้าอาวาสที่นี่แน่ๆ..แต่โชคดีที่ยังมี
    ระดับเดียวกันคือ..ลูกชายเจ้าอาวาสเดิมนั่นก็คือ..อาจารย์นำ..ยังอยู่แม้จะเป็นฆาราวาสก็ตาม..สามารถทดแทน
    ได้..อีกทั้งสายฆาราวาสเจ้าพิธีที่ทำด้านสายพราหมณ์..ระดับเดียวกัน..ก็ยังเหลืออีกคนคือ..อาจารย์ชุม........
    ความจริงสายฆาราวาสรุ่นนี้ยังมีอีกท่านที่ใครๆก็รู้จักดี..แต่รับงานได้แค่เป็นจ๊อบๆ..เพราะเป็นข้าราชการอยู่
    ตอนนั้นคือ..พล.ต.ต.ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช..อีกท่านหนึ่ง.................
    ก็ถือว่า..ลงตัว...อาจารย์นำจึงต้องบวชอีกครั้ง..ถึงจะบวชใหม่..ก็ได้เป็นเจ้าอาวาส..เพราะไม่มีปัญหา..ในทางปฏิบัติ
    ของ..พัทลุง..เป็นที่ยอมรับได้..ของคณะสงฆ์ปกครอง...ที่ผมคิดว่า..ยกให้เป็นกรณีพิเศษของ..สองวัดนี้เลย....
    (ความจริง..พ่อของอาจารย์นำ..นั้นก็ต้องทำตามกฎนี้..มาก่อนหน้าทีนึงแล้ว..เพราะเรียนจบวิชาแล้ว
    และก็มาเป็นฆาราวาส..มีลูกมีเมีย...เกิดสภาวะคล้ายๆกัน..ท่านก็จึงต้องยอมกลับไปบวชใหม่...)


    ................[​IMG]

    .....ทีแรก..ผมว่าจะเอารูปสมัยก่อนของบาหลี..ยุคที่ผู้หญิงเปลือยอก..ใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ..แต่เดี๋ยวเกิดเพี้ยน..มาลบรูปผมอีก..ก็เลย..เอารูปเครื่องแต่งกายเวลาออกงาน
    มาให้ดูแทน....

    .....................................ต่อตอนหน้า...........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2014
  4. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    จริงครับคุณอา เดี๋ยวผู้ดูแลมันเพี้ยน มาลบอีก พวกนี้วิจารณญาณไม่ค่อยมี ไม่คิดรอบด้าน สมองค่อนข้างกลวงโบ๋ หรืออาจจะมีแต่ขดน้อยไปหน่อย ไม่รู้มีหลักพิจารณาเลือกคนมาดูแลเวปยังไง
     
  5. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    พูดถึงเขาอ้อ วันแรงงาน 1 พ.ค. เขาจัดพิธี กินเหนียว กินมัน โดย อ. เปลี่ยน หัทยานนท์ คนนี้ หลวงพ่อพิเชฐ บอกว่า เขาทำได้จริงครับ

     
  6. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933

    ..........................................
    ...ต่อให้วันเวลา..เปลี่ยนไป..ขนาดไหน..อาว่า..สำนักเขาอ้อ...ต้องคงไว้ซึ่งมาตรฐาน..ไม่งั้นคงรักษาความนิยมมากว่า..พันปีไม่ได้...
    ..ดังนั้น..อาจารย์เปลี่ยน..ซึ่งตอนนี้มาเป็นสายฆาราวาสแล้ว..ถ้าจะทำพิธีเช่นนี้..ท่านก็คงต้องทำได้แน่..เพราะเรียนจบ..มาแล้วหนึ่ง..
    ..ยังเป็นสายฆาราวาสรุ่นอวุโส..หนึ่ง
    ..ชื่อเสียง..สำนักเขาอ้อ..ค้ำอยู่..หนึ่ง..
    ...แล้ว..หลวงพ่อพิเชษฐ์เอง..ก็ถือว่าเป็นศิษย์ของสำนักนี้เช่นกัน..บอกมาอย่างนี้..ก็ยิ่งย้ำเข้าไปอีก....
    ...อาก็เชื่อเช่นกัน..ว่าท่านต้องทำได้...
     
  7. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,185
    ค่าพลัง:
    +5,362
  8. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ...หวัดดี..หลานสวนพลู..และ..ทุกคนในครอบครัวผม
    ...................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    ....................
    ..................................................................................
    แล้วยุคนั้น..ก็เลย..การเป็นยุคแห่งความเกริกไกร..แห่งสำนักเขาอ้อ...เพราะความปึ้กของแต่ละเจ้าอาวาส
    สายนี้คือ..๑. อาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ ที่ดำรงตำแหน่ง..เป็นประธานสูงสุดของ..สำนักเขาอ้อ..ด้วย
    ..............๒. อาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    ................๓. อาจารย์คง วัดบ้านสวน
    .............๔.อาจารย์หมุน วัดเขาแดงตะวันออก
    .............๕.อาจารย์ชุม ไชยคีรี
    .............๖. ขุนพันธ์ฯ
    .ซึ่งทั้งหมดนี้..ถือว่า..เป็นรุ่นเดียวกัน...แต่ก็ยังมีรุ่นน้องที่โดดเด่นมาก..ถือว่าเป็นอัจฉริยะของรุ่น..พอมา
    ยืนต่อหลังพี่ๆได้..และได้รับการยอมรับในฝีมือจากพี่คือ..อาจารย์คล้อย วัดถ้ำเขาเงิน..ชุมพร..นั่นเอง
    .........ผมถึงเคยพูดเสมอว่า..พระจากสำนักนี้..ในยุคของ..ท่านเหล่านี้..ถ้ามีก็ขึ้นคอได้เลย..นั่นแหละครับ..
    ...............(..ที่นี่..วุฒิบัตรการศึกษา..จากที่ผมสังเกต..คือ..ประคำห้อยคอ..ครับ..เพราะสังเกตจากรูปถ่าย
    เป็นทางการ..ทั้งหมดที่เอ่ยนามไป..จะห้อยประคำ..เหมือนกันเด๊ะเลย..แบบเดียวกันด้วย....)....
    ............................................
    .....ที่นำสำนักเขาอ้อมาเล่านี่..เพราะพวกเรารู้จักกันอยู่แล้วด้วย..แล้วเป็นการแสดงให้เห็นว่า..พราหมณ์นั้น..
    มีการจัดระบบความต่อเนื่องดียังไง...พวกตระกูลเก่าเชื้อพราหมณ์ที่เห็นปัจจุบัน..หน้าตาเป็นไทย..แต่คมนั้น
    ก็สืบเชื้อสายมาจากแขกอินเดียทั้งสิ้น..แต่พวกที่สืบเชื้อสายจากพราหมณ์..แต่ไม่ยอมเป็นพราหมณ์..หรืออาจ
    จะมาจากทางลูกผู้หญิง..ที่หนีไปไม่แต่งกับพราหมณ์ด้วยกัน..ไปแต่งกับ..คนไทยชาวพุทธ..ธรรมดา..ผ่านไป
    อาจเป็นร่วมพันปี..ก็ได้(..รู้ได้ไง..เดี๋ยวจะบอกภายหลัง..)..แล้ว..ก็กลายเป็นคนพื้นถิ่นไป..
    แต่รักษาโครงหน้าไว้เป็นเอกลักษณ์..แจ่มชัดที่สุดนั้น..อยู่ที่..เพชรบุรีครับ....
    ..........เมืองเพชรนี่..เป็น..อาณาจักรขนาดเล็ก..มีเจ้าของตนเอง..มีอารยธรรม..วัฒนธรรมโบราณเก่าแก่มาก..ไม่
    แพ้..นครปฐม..ถึงยุคทวาราวดีเลย..และ..อาจเก่าแก่กว่านั้นด้วย...ในยุคโบราณมากๆ..หลายพันปีขึ้นไป...บรืเวณ
    ที่เป็น..เขาตะเครา(วัดหลวงพ่อเขาตะเครา)..เขาหลวง..เขาย้อย..เขายี่สาร...เขาวัง..เขาบันไดอิฐ..และ..เขาเล็กเขาน้อย
    ที่ใกล้ตัวเมืองนั้น...เดิมเป็นเกาะ..นะครับ..ทะเลกินลึกเข้าไปเกือบถึง..แนวเทือกเขาตะนาวศรี...ที่เห็นเป็นแผ่นดิน
    อยู่ในตัวเมืองนี่..คือ..ดินตะกอนจากเทือกเขาตะนาวศรี..ที่ไหลลงตามน้ำลงมาทับถม..ส่วนนึง..และ..ดินตะกอน
    จากแถบแก่งกระจาน..ที่ไหลงมาตาม..แม่น้ำเพชรบุรี..อีกส่วนนึง......มีการพบวัตถุโบราณรุ่นทวาราวดี..หลายแหล่ง
    (..แต่หลักฐานสำคัญว่า..พราหมณ์มาอยู่ที่นี่..แต่โบราณนั้น..ผมเองเห็นกับตา..แต่ยังไม่เล่าตอนนี้..และเรื่องนี้..
    เล่าได้แค่บางส่วน..อีกส่วนเป็นความลับ..ที่คนที่ให้ผมกับพ่อผม..สัญญาไว้นั้นเสียไปแล้ว..และผมไม่อาจบอก
    ใครได้ในส่วนนี้..เพราะจะตายไปกับผมในที่สุด..เพราะผมรักษาสัญญากับท่านไว้..เอาเป็นว่าจะเล่าบางส่วนให้
    ในภายหลังแล้วกันถ้ามีโอกาศ)...แน่นอนครับมีอาณาจักรถึงแม้จะเล็ก..ก็ต้องมีเหล่าพราหมณ์..อยู่แน่นอน...
    ..และ..เชื้อสายพราหมณ์ที่ถ่ายทอดยีนส์..เป็นเอกลักษณ์นั้น..ก็แถบ..อำเภอบ้านลาด..มากที่สุด..รองลงมา..ก็อยู่
    ในเขตอำเภอเมืองที่ติดกับอำเภอบ้านลาด..แต่คนเหล่านี้ส่วนใหญ่จะไม่ทราบแล้วว่า..มีความผูกพันกับเชื้อสาย
    พราหมณ์...เอกลักษณ์นั้น..ผมเลือกเอา..คนดัง..สองคนมาเป็นตัวอย่างแล้วกัน...คนแรก..เก่าหน่อยแต่ผมว่า..
    หลายๆคนยังจำได้..เขาคือ..ทอม ดันดี..ลองนึกถึงหน้าเขาไว้นะครับ..ตนที่สองคือ..ป๋อ..ณัฐวุฒิ สะกิดใจ...สองคนนี่
    (..ทอม..นี่พี่ๆน้องๆ..หน้าคล้ายกันหมด..เป็นคนบ้านลาด....ป๋อ..นี่ไม่แน่ใจ..ไม่บ้านลาดก็อำเภอเมือง..)
    เป็นคนเพชรทั้งคู่...แล้วจากหน้าตา..ผมบอกได้เลยว่า..ต้นตระกูลทั้งสองคนที่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับพราหมณ์
    .....อีกคนกำลังดังเลย..เรื่องไล่ผี..ก็..หมอปลา..ช่องของกันตนา..นี่แหละ..นี่ก็..คนบ้านลาด..ดูซิว่า..คนเหล่านี้..
    มีอะไร..เหมือนกัน..และ..ที่ต่างจาก..คนไทยภาคกลาง..ภาคเหนือตอนล่าง..รวมทั้งภาคใต้ดอนบน...ต้องดู
    จากเอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัด..มันมากับยีนส์ครับ..และเห็นได้ชัดเจน....เป็นเอกลัษณ์ที่เห็นได้ง่าย
    เอกลักษณ์หรือครับ...จมูกครับ...จมูกเชื้อสายพราหมณ์ที่เมืองเพชรนี่คงลักษณะของ..จมูกแขกไว้คือ..โด่ง
    เป็นสัน..และโค้ง(แต่ไม่ถึงขนาดแขกอินเดียเลย..เพราะจางไปเยอะแล้ว)ปลายงุ้มเล็กน้อย...ครอบครัวผมนี่
    เป็นคนเพชรหลายคน..ทั้งน้องรุ่งศิษย์น้อง..และ..ยังมีหน้าใหม่อย่าง..สายน้ำเพชรอีกคน..เวลาไปแถบบ้านลาด
    หรือ..ออกนอกตัวเมืองเพชรไปหน่อย..ก่อนถึงบ้านลาด..ชาวบ้านแถบนั้น..มากกว่าครึ่งที่เป็นคนพื้นถิ่นเดิมเก่า
    แก่..หน้าตาจะออกแบบที่ผมว่านี่แหละ...จะไม่เหมือน..คนแถบบ้านแหลม..ท่ายาง..ชะอำ..และ..อำเภอเมืองส่วนใน
    .......นอกจากนี้..นักประวัติศาสตร์หลายคน..ยังเชื่อว่า..สุนทรภู่เองนั้น..ซึ่งมีญาติอยู่เมืองเพชรนั้น..ก็มาจากสาย
    ตระกูลพราหมณ์เมืองเพชร..เช่นกันด้วย...

    ...........[​IMG][​IMG]

    .....สุดยอดของสำนักเขาอ้อ..เมื่อปี ๒๕๑๑ พิธีปลุกเสกที่ถ้ำเขาเงิน ชุมพร..
    จากซ้ายไปขวา...อาจารย์นำ..อาจารย์คง..อาจารย์ปาล..อาจารย์หมุน..อาจารย์ชุม


    ........... 1268733146.jpg
    .....ทอม ดันดี....
    [​IMG]

    .......ป๋อ ณัฐวุฒิ สะกิดใจ...

    ...............[​IMG]

    ............หมอปลา.....
    ..............

    ..........................ต่อตอนหน้า.............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2014
  9. เฉียวฟง

    เฉียวฟง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +4,913
    สวัสดีครับคุณอา...มาติดตามอ่านตอนต่อไปครับ
     
  10. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952
    รอติดตามครับผม
     
  11. เดินตามพระ

    เดินตามพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +1,595
    สวัสดีครับคุณอา modpong และพี่ๆ เพื่อนสมาชิกเวปทุกท่าน มาติดตามเรื่องราวดีๆต่อครับ
     
  12. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..................
    ...หวัดดี..เฉียวฟงหลานรัก..หลานเดินตาม..และ..Orkarรุ่น๑..
    ........................
    ..ต่อจากตอนที่แล้ว...
    .......................
    ....................................................................
    ....พออาณาจักรถูกครอบครอง...ระบบการปกครองลดลง..เหลือเป็นแค่เจ้าเมืองแทน..
    ..ก็พลอยให้..ปริมาณพราหมณ์ที่ประกอบพิธี..ต้องลดไปตาม..เพราะกลายเป็นไม่ใช่..
    กษัตริย์ซะแล้ว...ผมก็เลยว่า..พราหมณ์..หลายตระกูล..ก็เลยกลายสภาพ..ไปเป็นชาวบ้าน
    หากินธรรมดาไป...เรื่องนี้..มันนานเป็นกว่า ๘๐๐ ปีแล้ว..ที่ขอมขยายอำนาจมาทางตะวันตก
    (..ความจริง..ก่อนหน้านั้น..ขอบเขตของอาณาเจนละ..ก็มาถึงนี่..แต่น่าจะเป็นประเภทส่ง
    เครื่องบรรณาการให้..แต่ไม่ได้ครอบครอง..อาณาจักรเพชรบุรีก็ยังอยู่ปกครองด้วยตัวเอง
    แค่อ่อนน้อมให้เท่านั้น.........)
    ..หลักฐาน..การขยายอำนาจของขอม..ก็ดูได้จาก..วัดกำแพงแลง..ที่อยู่ในตัวเมือง..นั้นเดิมเป็น
    ปราสาทขอม..นะครับ..แต่ร้างไปหลังจากขอมหมดอำนาจ..ตอนหลัง..ก็ถูกนำมาทำเป็นวัดแทน
    ...แต่หลักฐานอื่นยุคก่อนหน้านั้นกว่าพันปี..มีพบทั่วไป..พบตามถ้ำก็มี..แถมมีการพบเมืองเก่า
    ยุคทวาราวดี..แถบใกล้ๆกับ..ชะอำก็มีอีก..แต่ยังไม่พบหลักฐานทางพราหมณ์..อย่างชัดเจน...
    ........เทวสถานพราหมณ์รุ่นดึกดำบรรพ์กว่าพันปีไปมากๆเลย..น่าจะใกล้เคียงกับ..แถบระนอง
    หรือ..พังงา..ที่เราพบเทวสถานหลายแห่งยุคศรีวิชัย..และ..ย้อนไปเก่ากว่า..ทวาราวดีอีก....
    ....ที่สำคัญ..เทวสถานพราหมณ์นั้น..จะมีเอกลักษณ์คล้ายๆกันอย่างนึง..คือ..จะสร้างบนยอดเขา
    เกือบทั้งสิ้น..น่าจะมาจากคติที่จะได้ใกล้ชิดเทพ....ของเมืองเพชร..นี่ก็อยู่บนยอดเขาเช่นกันครับ..
    ...ทั้งน้องรุ่งศิษย์น้อง..กับ..สายน้ำเพชร..คงงงว่า..ที่ไหนวะ..กูอยู่มาตั้งแต่เกิด..ไม่เคยเห็น..
    .....มันคงไม่ได้เห็นหรอกน้อง..เพราะคนที่เคยเห็น..ตายไปเกือบหมดแล้ว..ที่เหลืออยู่ก็รับปาก
    เป็นความลับกัน...กับ..พระรูปหนึ่งที่เป็นที่นับถือ..ของคนเมืองเพชรทั่วไป..เพิ่งเสียไปไม่กี่ปีนี่
    เอง..ท่านเป็นเจ้าคุณนะครับ...ใครไม่ทราบนึกว่าท่านไม่มีวิชา..บอกไว้ก่อนเลย..ว่าเจ้าอาวาสวัด
    เมืองเพชร..ที่ไม่มีวิชาและเก่งพอตัว..นั้นหาแทบไม่ได้..ที่พูดถึงนี่คือ..ก่อนยุค ๒๕๐๐ นะครับ..
    เดี๋ยวนี้คงเพียบ....
    ........แต่เพียงยุคท่านเป็นจ้าอาวาสแรกๆนั้น..โอ้โห..เมืองเพชร..มีแต่อภิมหาหลวงพ่อ..ทั้งนั้น..
    ไม่ต้องเอ่ยนาม..เพราะหลายๆคนคงทราบกันดี..........
    .........พระรูปนั้นคือ...ท่านเจ้าคุณสุข(..ชื่อเหมือน..หลวงพ่อสุขนั่นแหละ)..อดีตเจ้าอาวาสวัดเขา
    ตะเครา..ที่เป็นที่ตั้ง..ของหลวงพ่อทอง..พระพี่น้องกับ..หลวงพ่อวัดบ้านแหลม..ของ..อัมพวานั่นเอง
    .....เข้าใจว่า..เมื่อย้อนไปตอนตั้งเทวสถานนี้ใหม่ๆ..เมืองเป็นยังเป็นอาณาจักรอยู่นะครับ..หลักฐาน
    ที่ผมเห็น..มันเกินกว่าพันปี..แน่นอน..ก่อนยุคขอมที่จะแผ่อิทธิพลเข้ามาครอบครองเมืองเพชร..
    ...คนเพชร..หรือ..แม้กระทั่ง..ผมและพ่อ..ที่ไม่ใช่คนเพชรโดยกำเนิด..แต่ใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเพชร
    ..เคารพพระผู้ทรงศีลอวุโสปฏิบัติดี-ชอบ..และช่วยเหลือชาวบ้าน..ก็จะถูกเรียกกันว่า..”คุณพ่อ”..
    ที่นี่ยุคก่อน..ไม่มีใครเรียก..”หลวงพ่อ”..เพราะนับถือกันเหมือนพ่ออีกคน..เคารพเชื่อฟัง...
    ..........เมื่อท่านบอกมาว่า...”ห้ามบอกใคร..และ..เก็บไว้เป็นความลับ”..ทุกคนพอนรับปาก..นั่นคือ
    สัญญา..โดยเฉพาะสัญญากับพระ..ถ้าละเมิดนี่..ผมว่า..ตกนรก..ชั้นล่างๆเลยแหละ...และก็แน่นอน
    จริงๆ..คือ..แม้แต่ทุกวันนี้..พระที่วัด..แม้แต่เจ้าอาวาส..หรือ..พระลูกวัดทั้งหมด..ยังไม่รู้เลย...
    ...ผมเคยถามแย็บๆเลขาเจ้าอาวาสไป..ก็ไม่รู้เรื่องครับ..ชาวบ้านที่อยู่ในยุคนั้นถ้าไม่ตายก็แก่หงำ
    เหงือก..และ..เขาก็เก็บไว้เป็น..ความลับ..ตามคำสัญญา.....
    ....แต่ท่านตอนที่เล่าให้ผม..กับ..พ่อฟังนั้น..มีเหตุผลนะครับ..ว่าทำไม..ท่านจึงต้องทำแบบนี้..
    ...ซึ่งผมฟังแล้ว..ก็มีเหตุผล..ขณะเดียวกันก็เสียดายเช่นกัน..
    .........โอ้โห..เรื่องยังไม่ไปไหนเลย..ยังวนอยู่แถวเมืองเพชรนี่เอง...ก็..รอไปแล้วกัน..นี่มันสไตล์
    ผม..ไปเรื่อยๆเปื่อยๆ..อ้อมๆบ้าง..แต่รับรองว่า..มีสาระน่ารู้ทุกส่วนแน่นอนครับ.ไร้สาระ..ไม่มี
    สำหรับ..modpong...

    ......................[​IMG]

    ...วัดกำแพงแลง เพชรบุรี..นักโบราณคดีบอกว่า..สร้างประมาณยุคประมาณ ๘๐๐ ปีที่แล้ว
    ...และมีการพบ..รูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรด้วย..ก็แสดงว่า..เป็นพุทธมหายาน..
    ..แบบที่เรียกว่า.."วัชรญาน"..หรือนัยหนึ่ง..คือ.."ไศวนิกาย"..ที่เปรียบพระพุทธเจ้า
    เป็นพระโพธิสัตว์ที่เป็นร่างอวตาร..มาจากพระอิศวร..นั่นเอง..สังเกต..คำต่อท้ายว่า..
    ..."...เ-ศวร"..นั่นก็คือ..อิศวร..นั่นเอง...
    (ขอบคุณภาพจาก CHAAMBEACH.COM)

    ..................... showimage.jpg

    ...เจตนา..จะให้ดู..ภาพของ..เขาตะเครา..แต่ไอ้รูปดีๆ..เสือกเขียนสงวนลิขสิทธิ์
    ไว้ในภาพด้วย..ก็เลยไม่เอามา...นี่เดิมคือ..เกาะเล็กๆติดชายฝั่งนั่นเอง...

    .................................ต่อตอนหน้า..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 เมษายน 2014
  13. Orkar

    Orkar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    348
    ค่าพลัง:
    +952

    เทวสถานพราหมณ์ ประเด็นนี้น่าสนใจครับผม
    แอบเดาในใจหลายที่ แต่ประเมินจากหลักเกณแล้ว
    ไม่เข้าเค้าซักที่ครับผม 555
     
  14. split

    split เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +582
    รอติดตามตอนต่อไปครับ
     
  15. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........................................
    ...ที่นี่เป็นเทวสถานพรหมณ์..เพราะมีข้อสนับสนุนคือ..
    ๑. แถบเพชรบุรี..นี่..ตั้งแต่โบราณ..ไม่มีแขกฮินดูอยู่เป็นชุมชน..อาจมีแต่น้อยมาก..มีแต่ชุมชนพราหมณ์..
    ..ดังนั้น..จะไม่มีปัญญา..สร้างเทวสถานของฮินดูแท้ๆได้.....คงต้องพึ่งของพราหมณ์เอา..
    ๒. เมื่อตอนที่หลวงพ่อเล่าให้อาฟังนั้น..ท่านยืนยันว่า
    ..เป็นของพราหมณ์..แสดงว่า..ในบรรดาเทวรูปที่..ท่านพบ..ต้องมีพระพรหม..อยู่ด้วย..(พวกปราสาทขอม..เราจะพบแต่..รูปพระอิศวร..เป็นหลัก..เรียกง่ายว่า..เป็นเทวสถานฮินดู..)
    ..เพียงแต่ตอนนั้น..อาไม่ได้เห็น..เทวรูปพระพรหม..
    เพราะท่านซ่อนพวกเทวรูปต่างๆไว้แล้ว...
    ๓. พวกเทวสถานของพราหมณ์..สว่นใหญ่จะมีขนาดเล็ก..เหมือนกับที่อยู่บนเขา..ที่ปักษ์ใต้..ถ้าเป็นฮินดูแท้ๆ..มันจะทำใหญ่โต...
     
  16. thongchat

    thongchat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    482
    ค่าพลัง:
    +2,195
    สวัสดีครับพี่ modpong
    ยังติดตามอ่านอยู่ตลอดนะครับ ยืนยันได้ว่าเป็นกระทู้ที่มีสาระ ความรู้แน่นปึ้ก และเขียนมาจากกึ๋นจริงๆ ไม่ได้ copy & plate

    ขอบคุณในความกรุณาครับ
     
  17. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..............
    ..หวัดดี..น้องThong..หลานApril..และ..Orkarรุ่น๑
    กับ..ทุกคนในครอบครัวผม..
    ..........................
    ...ต่อจากตอนที่แล้ว....
    ............................
    .........................................................
    ..คนเมืองเพชรบางคน..ที่มีโอกาศขึ้นไปบนยอดเขาตะเครา..และ..พบเศษอิฐขนาดใหญ่...และ
    ซากบางส่วนของโบราณสถาน..แล้วก็คิดไปเองว่า(..ถึงไปถามชาวบ้าน..เขาก็ต้องว่า..แบบนี้)
    คือ..ซากโบสถ์เก่า..ที่ประดิษฐานของหลวงพ่อวัดเขาตะเคราเดิม..แต่ขอโทษไม่ใช่ครับ...
    ....ความจริง..ก็มีคนในวงการโบราณคดี..ที่พอทราบอยู่บ้าง..(แต่นี่..ยังไม่ใช่ความลับที่ผมพูดถึง
    นะครับ.....เอาแค่นี้..คนรู้เรื่องก็แทบนับตัวได้แล้ว)..........เรื่องเทวสถานพราหมณ์อายุกว่า
    พันปี..บนยอดเขาตะเครา..นี่...คนเพชรบุรี..ทั่วไปที่ทราบนี่..นับนิ้วมือบวกนิ้วเท้า..รับรองไม่เกิน
    ..ผมว่า..เมื่อตอนช่วงที่สร้างนั้น..เขาตะเคราอาจเป็นเกาะที่อยู่ติดชายฝั่ง..หรือ..ไม่ก็เป็นเขาที่ติด
    ชายฝั่งเลย..เพราะผม..เคยเช็คอัตราการงอกของดินตะกอน..แถบบางตะบูนหรือ...บ้ายแหลมนี่..
    ประเมินตามหลักการทางวิศวกรรมลำน้ำ(river engineering)ย้อนหลังไปพันปี..น่าจะประมาณนี้...
    นั่นก็คือ..เหตุผลส่วนนึงเพราะ...เดินทางจากทะเล..ได้สะดวก....ถ้านับจริงๆเทวสถานแบบรุ่นนี้
    ผมว่า..จากประสพการณ์..แทบไม่มีเลย..ในภาคกลางตอนล่างนี่..นั่นแสดงถึง..ความสำคัญและ
    รุ่งเรืองของเพชรบุรี..(ของเก่าๆที่ขุดได้ในเพชรบุรี..แต่ไม่ใช่ที่นี่..นอกเหนือจากที่มีในพิพิธภัณฑ์
    สถานแห่งชาติแล้ว..ก็ไปดูได้ที่..พิพิธภัณฑ์..ที่วัดพริบพรี..หรือ..วัดเพชรพลี(..ชื่อเมืองเพชรยุค
    โบราณนะครับ..เมืองพริบพรี..)..)...ที่นี่มีขนาดไม่ใหญ่ครับ..แต่มีของสำคัญเยอะ..หลังจากหมดยุค
    อาณาจักร..ถูกครอบครองแล้ว..พราหมณ์ไม่หนีไปที่อื่น..ก็..กลายสภาพอย่างที่ว่าแล้ว..ที่นี่ก็ร้าง..
    และ..ไม่มีการซ่อมแซม..พอได้หลวงพ่อวัดเขาตะเครา..ที่ผมเคยเล่าและประมาณไว้ว่า..น่าจะประมาณ
    ปลายยุคอยุธยานั้น...โบสถ์ที่อยู่บนเขานั้น..ก็ไม่ได้ทับที่ๆเป็นเทวสถาน..แต่ตอนต้นรั๖นโกสินทร์นั้น
    กลับมีการสร้างศาลเจ้าจีนขึ้น..บนยอดเขาแทน..และก็คงรื้อเทวสถานเดิมไปด้วยบางส่วน..แต่ยังมีซาก
    อยู่..ที่สำคัญ..รูปเคารพ..ของเคารพ..หลากหลาย..ก็ยังอยู่บนยอดเขา..แต่ที่ทำให้น่าสนใจคือ..ที่นี่ไม่ได้
    เป็นเทวสถานให้คนกราบไหว้อย่างเดียว..เพราะ..พบ..แท่นหินบดยาขนาดใหญ่..และ..หินบดยา..ขนาด
    เบ้อเริ่มเทิ่ม..ด้วย...บอกได้เต็มปากเลย..ไม่ใช่แค่เห็น.แต่จับมาแล้วครับ....(เดี๋ยวค่อยมาเล่ารายละเอียดต่อ)
    ...นั่นแสดงว่า..ที่นี่..เป็นแบบที่เรียกกันว่า..”อโรคยาศาล”..ด้วย..หรือ..เรียกง่ายๆสมัยด่อนว่า...”สุขศาลา”
    สมัยนี้..ก็..”สถานอนามัย”..นั่นเอง...
    .....เรียกว่า..มีหมอประจำอยู่..ซึ่งก็น่าจะเป็นพวกพราหมณ์นี่แหละ..เพราะมีความรู้หลายด้าน..ดังนั้นจึง
    น่าจะมีชมุชนเล็กๆ..อยู่รอบๆเชิงเขาด้วย....
    ......วัตถุโบราณ..นอกจากรูปเคารพ..ที่ทำมาจากหินแกะสลักแล้ว..ที่พบมากที่สุดคือ..ศิวลึงก์..มีหลายแบบ
    ทั้งที่แบบเป็นศิวลึงก์อย่างเดียว..แบบมีหน้า(พระศิวะ)ติดอยู่ด้วยก็มี..แบบมีแท่นรับ(ฐานโยนี)..สิบกว่า
    ชิ้นขึ้นไป...แต่ที่น่าทึ่งคือ..ส่วนใหญ่..ขนาดเกือบเท่าตัวคน...เป็นหินแกะสลักทั้งสิ้น........
    ..คราวนี้..มาดูรายละเอียดที่ผมค้างไว้คือ..หินบดยา..และ..แท่นหินบดยา....มีตวามพิเศษอย่างนึง..
    ก่อนอื่น..ให้เข้าใจก่อนว่า...หินที่จะนำมาใช้เป็น..แท่นบดยา..(..เหมือนฟูกที่นอน..หนาๆ)..และ..หินบดยา
    (..เหมือน..หมอนข้าง..)..ต้องคัดเลือกนะครับ..จะไม่ใช้หินทราย..เพราะหยาบไป..จะไม่ใช้..หินอ่อน..
    เพราะอ่อนไป...จะไม่ใช้หินที่สีไม่สม่ำเสมอ..อย่างหินแกรนิต(หินครก)..เพราะจะมองลำบาก..และ..เนื้อ
    หินมีความแข็งไม่เท่ากัน..เมื่อสึก.แล้ว..ผิวจะไม่เนียนสม่ำเสมอกัน.....
    .....บางครั้งเท่าที่เราเคย..พบในบ้านเรา..ก็ทำมาจากSILTSTONE..ก็มี...หรือ..บางที..ก็เป็น..หินชนวน..ที่เนื้อ
    ค่อนข้างละเอียด..สำหรับที่นี่..เนื้อเนียนเลยครับ..แต่ไม่มัน..(ถ้ามัน..จะใช้ไม่ได้..เพราะจะไม่กัดเนื้อไม้
    ที่เราเอา..มาทำสมุนไพร..จะบดไม่ได้..มันลื่น..หนีหินบด..)
    แต่ส่วนใหญ่ที่พบ..จะเป็นแบบ..คนเดียวทำ..คือ..ไม่ใหญ่มาก.......แต่ที่วัดเขาตะเครานี่..หมดสิทธิ์ครับ...

    .................[​IMG]

    ......นี่คือ..ขนาดทั่วไป..ของแท่นบดและหินบด.......หมอแผนโบราณ..บางท่านก็ยังใช้กันอยู่
    (ขอบคุณภาพจาก Jetovimut.com)
    ..........................ต่อตอนหน้า...........................
     
  18. สายน้ำเพชร

    สายน้ำเพชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    629
    ค่าพลัง:
    +530
    กราบสวัสดีพี่ Modpong ครับ
    เข้ามาอ่านเรื่องราวของเมืองเพชรฯจากพี่แล้วต้องบอกว่า อเมซซิ่งเพชรบุรี จริงๆครับพี่ ข้อมูลเชิงลึกของยอดเขาตะเคราน่าสนใจมากๆครับพี่ ไม่เคยทราบมาก่อนเลยจริงๆครับ จะพอทราบอยู่บ้างก็วัดกำแพงแลงอย่างที่พี่เล่า และพระกรุเสมาสามชั้นที่ยังหลงเหลือเป็นหลักฐานให้ได้รับรู้กันเช่นทุกวันนี้เท่านั้นเองครับ..
    ขอบพระคุณที่พี่ต้อนรับให้เป็นคนในครอบครัวของพี่ด้วยครับผม ^ ^
     
  19. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    รุ่นท้ายที่ได้รับแบบเต็มๆ อีกรูปนึงคือ พระอาจารย์ศรีเงิน ครับ ของสายเขาอ้อ ดีใจที่พระเครื่องของท่านไม่แพงด้วย
     
  20. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ...............................................
    ...นอกจากกรุวัดเสมาสามชั้นแล้ว..ยังมีอีกกรุที่คล้ายและ..ยุคเดียวกัน..มีน้อย..ตัววัดเอง..แทบไม่เหลืออะไร..หายไปเกือบหมด.....
    ............กรุวัดค้างคาว........
    ..ท่านเจ้าคุณอินทร์วัดยาง..ให้พ่อพี่ไว้..๑ องค์..ท่านบอกว่า..ยอดเยี่ยม..อยากได้..ก็ไปไล่ล่า..หาเอาเอง..ถ้าระคับ..เจ้าคุณอินทร์ยอดปรมาจารย์..เมืองเพชร..ออกปาก..ก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องสรรพคุณต่อ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...