ร่องรอยอภิญญาใหญ่ โรดแมปสู่อภิญญาสาธารณะ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 15 พฤศจิกายน 2007.

  1. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    ลูกประคำงาช้าง หลวงปู่ใหญ่ท่านได้มอบให้แก่หลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุญนาคเมื่อสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์
    เป็นหลักฐาน อุปกรณ์ธรรมชิ้นหนึ่ง ของหลวงปู่ใหญ่ ที่ท่านเมตตามอบให้ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P3040111.JPG
      P3040111.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      157
    • DSC04720.JPG
      DSC04720.JPG
      ขนาดไฟล์:
      547.5 KB
      เปิดดู:
      88
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2013
  2. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    ผู้เขียนได้ไปพบท่านปู่โทน หลำแพร ที่ อำเภอตาคลี จ.นครสวรรค์ ในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่
    ท่านได้มอบพระที่หลวงปู่ใหญ่อธิฐานจิตมาให้ ๓ องค์ นำมาให้ชมเป็นวิทยาทานครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PICT0609.JPG
      PICT0609.JPG
      ขนาดไฟล์:
      322.1 KB
      เปิดดู:
      80
    • PICT0608.JPG
      PICT0608.JPG
      ขนาดไฟล์:
      979.9 KB
      เปิดดู:
      132
    • PICT0605.JPG
      PICT0605.JPG
      ขนาดไฟล์:
      994.1 KB
      เปิดดู:
      102
    • DSC04720.JPG
      DSC04720.JPG
      ขนาดไฟล์:
      547.5 KB
      เปิดดู:
      66
  3. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    เหรียญที่ระลึกของ พระอาจารย์เทพ ถาวโร ท่านให้ทำเพียงรุ่นเดียว ช่วงที่ท่านอายุครบ ๖๐ ปี สมัยที่ท่านยังมีชิวิตอยู่ นำขึ้นมาให้ท่านได้ชมกัน ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ajtapp.jpg
      ajtapp.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.2 KB
      เปิดดู:
      81
    • PICT0630.JPG
      PICT0630.JPG
      ขนาดไฟล์:
      974.9 KB
      เปิดดู:
      95
    • DSC05715.JPG
      DSC05715.JPG
      ขนาดไฟล์:
      557 KB
      เปิดดู:
      73
  4. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    พระเครื่อง เครื่องราง ของขลัง

    ขออนุญาตครับ

    ท่านบอกเล่าขาดตกไปนะครับ
    พระรุ่นนี้ ท่านอาจารย์ปู่โทน ท่านได้นำไปที่เมืองบาดาล
    เพื่อขอให้ ปู่ฤๅษี อายุ ๑๕๐๐ ปี เป็นผู้อธิฐานจิตอีกท่านหนึ่ง

    ผมเห็นพระล๊อทนี้ องค์ท้ายๆ ที่วัดหลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต
    ให้เช่าบูชา องค์ละ ๒,๕๐๐ บาท

    ส่วนมีดหมอสาริกาประจำตัวของท่านอาจารย์ปู่โทน อยู่บนหัวเตียงห้องนอนชั้นบน ว่างๆจะถ่ายรูปลงให้ดู

    และพระเครื่อง ขององค์หลวงปู่ใหญ่ ผมมีเป็นพานเล็กๆ เคยลงให้ดูแล้วในเว็บนี้

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆท่าน
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  5. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ลงรูปให้ดูครับ

    ขออนุญาตครับ

    ลงรูปให้ดูตามที่เคยบอกเอาไว้

    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    ขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับลุงมหา๑ ด้วยครับที่นำวัตถุมงคล
    มาลงกระทู้ให้เพื่อนฯธรรมได้ชมกัน และข้อมูลจาก ปู่โทน หลำแพร ศิษย์
    อาวุโส หลวงปู่ใหญ่ ผู้ทรงอภิญญา และอายุยืนยาว ท่านหนึ่ง  วัตถุมงคล
    ที่มีประวัติความเป็นมานั้น นับวันจะยิ่งหาชมได้ยากขึ้นครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC06288.JPG
      DSC06288.JPG
      ขนาดไฟล์:
      550.6 KB
      เปิดดู:
      74
  7. phataravudh

    phataravudh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +2,440
    สัมภาษณ์เด็กได้อภิญญาตั้งแต่ 8 ขวบ สมัยหลวงพ่อฤาษี

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/wY--Q1fDnkM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/ow085k6XAKo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/s65MXG1KTHk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/W3aJCJ4ppGg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/ZNZEaMpPvxw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2013
  8. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    ผงยาจินดามณีและของฝากจากปู่เจ้าแห่งเขาเขียวในป่า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P3050109.JPG
      P3050109.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      88
    • PICT0310.JPG
      PICT0310.JPG
      ขนาดไฟล์:
      858.1 KB
      เปิดดู:
      85
    • PICT0311.JPG
      PICT0311.JPG
      ขนาดไฟล์:
      939.1 KB
      เปิดดู:
      78
    • PICT0305.JPG
      PICT0305.JPG
      ขนาดไฟล์:
      184.8 KB
      เปิดดู:
      83
    • PICT0306.JPG
      PICT0306.JPG
      ขนาดไฟล์:
      502.7 KB
      เปิดดู:
      74
    • DSC05584.JPG
      DSC05584.JPG
      ขนาดไฟล์:
      500.1 KB
      เปิดดู:
      88
  9. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    สิ่งสุดท้ายท่านเหลือใว้ไม่ลาจาก
    อภิญญาฝากให้ฝึกฝนคนรุ่นหลัง
    ว่าอภิญญาในจิตนี้มีจริงจัง
    เป็นพลังแสงแห่งจิตศิษย์มีครู


    ท่านจากไปอัฐิกลายเป็นพระธาตุ
    สิ้นภพชาติวางหมดจิตสดใส
    เหลือความดีมีคุณพระชนะใจ
    มอบให้ใว้ได้บูชาพระอาจารย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pratadaj.jpg
      pratadaj.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16.7 KB
      เปิดดู:
      87
    • ajtapp.jpg
      ajtapp.jpg
      ขนาดไฟล์:
      15.2 KB
      เปิดดู:
      65
    • DSC04700.JPG
      DSC04700.JPG
      ขนาดไฟล์:
      467.4 KB
      เปิดดู:
      72
  10. Attawat_Rx

    Attawat_Rx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,183
    ค่าพลัง:
    +18,400
    ร่วมโมนาในบุญทั้งหมดทั้งมวลครับ
     
  11. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    "สายเลือดบริสุทธิ์"


    ขออนุญาตครับ

    "สายเลือดบริสุทธิ์" คำๆนี้ผมเคยได้ยินมาจากภาพยนต์เรื่องที่เป็นเรื่องราวของการสร้างท่านผู้นำ "ฮิตเลอร์"

    แต่แล้วผมกลับได้พบ "สายเลือดบริสุทธิ์" ของราชวงศ์ขอมโบราณ
    คราวนี้ด้วยเวลาไล่ๆกัน ภายในเวลาแค่สัปดาห์เดียว

    ราชวงศ์ที่ว่าก็คือ "ราชวงศ์นครวัด" ท่านเหล่านี้ มีอดีตชาติเป็น กษัตริย์ แห่ง"ราชวงศ์นครวัด"

    ท่านที่๑ อยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ท่านออกปฏิบัติธรรม ยังหาตัวไม่เจอ

    ท่านที่๒ อยู่ จ.นครราชสีมา มีสำนักปฏิบัติธรรมของท่านเอง

    ท่านที่๓ อยู่ จ.ขอนแก่น

    ท่านที่๒ ท่านชวนให้ไปเยี่ยมท่าน เพียรโทรหาหลายสิบครั้ง
    ท่านนี้แก่ทางธรรมบริสุทธิ์

    ส่วนท่านที่๓ ท่านนี้วิทยายุทธเลิศล้ำพิศดาร เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว
    ท่านเล่าว่าท่านจะเข้าไปกราบหลวงปู่คูณ ปริสุทโธ
    องค์หลวงปู่คูณ ห้ามเสียงหลง
    "อย่ากราบๆ มึงวิเศษกว่ากู"
    ลูกศิษย์หลวงปู่คูณ ถึงกับงงๆ จนป่านนี้ก็ยังคงไม่เข้าใจ

    ท่านที่๓ นี้ ผมพบท่านบ่อยมากๆ สนิทสนมกันมาก ครั้งสุดท้าย ท่านก็เผลอบอกเล่าเรื่องราวอันพิศดารออกมา

    เรื่องราวการถ่ายทอด พลังทางฤทธิ์ของสุดยอดวิชาสายพราหมบริสุทธิ์ ของราชวงศ์นครวัด
    ที่ครูบาอาจารย์ผู้สืบทอด จะถ่ายให้เฉพาะ "สายเลือดบริสุทธิ์" เท่านั้น

    ส่วนวิธีการก็คือ โหลดข้อมูล พลัง อำนาจ เอาไปไว้ในจิต
    โดยไม่ต้องอ่าน โดยไม่ต้องท่อง
    อยากทำอะไร อยากได้อะไร อธิฐานเอา สั่งเอาได้เลย

    ผมถึงได้เข้าใจว่า ที่แท้ศิษย์สายเขมร ที่เที่ยวเพ่นพ่าน อยู่ในประเทศไทย นั้น
    ต่างก็มีภาระกิจที่สำคัญสุดยอดคือ ตามหา ส่งข่าว การพบเจอ "สายเลือดบริสุทธิ์" เท่านั้นเอง

    ใครพบ ใครเจอ ให้ๆความช่วยเหลือเกื้อกูล อย่างสุดความสามารถ
    แล้วรีบส่งข่าวกลับไปที่ครูบาอาจารย์ที่อยู่ในเขมร
    เรื่องอื่นๆ ครูบาอาจารย์เหล่านั้น จะรับช่วงต่อเอง

    อยากรู้ว่าท่านเหล่านี้เป็นใครผมก็คงบอกให้ไม่ได้

    แต่พอจะแนะนำให้ได้ว่า ไม่ว่าท่านเหล่านี้จะอยู่ไหน
    "เหล็กใหล" ธาตุกายสิทธิ์ ก็จะอยู่ใกล้ๆท่านนั่นล่ะ

    ส่วนผมก็มีหน้าที่ ติดตามหาเพื่อประสานงานว่า

    "การสู้กับภัยพิบัติ การสู้กับมหาภัยพิบัติ" ท่านใดจะช่วยอะไรได้บ้าง

    จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันได้อย่างไรบ้าง

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7055.jpg
      IMG_7055.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      125
    • IMG_7056.jpg
      IMG_7056.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.9 MB
      เปิดดู:
      87
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2013
  12. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    การสร้างบุญ-บารมี เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลโลก


    ขออนุญาตครับ

    เมื่อผมเข้ามาช่วยท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์ ที่ท่านสร้างพระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)
    พระพุทธปฏิมาหล่อด้วยทองเหลือง หน้าตักกว้าง ๙๙ เมตร สูง ๑๙๙ เมตร

    แรกๆ ผมก็ช่วยทำหน้าที่ ถ่ายภาพ ถ่าย วีดีโอ เอาไว้
    เพราะรำลึกนึกถึงที่องค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโนท่านปรารภว่า

    "เสียดายในช่วงที่องค์หลวงปู่มั่น องค์ท่านแสดงธรรม นั้น เครื่องอัดภาพ เครื่องอัดเสียง ยังไม่มี"
    "ถ้ามีการอัดเอาไว้แล้วมาเปิดดู มาเปิดฟัง จะทำให้มีผู้เข้าถึงธรรม ได้เร็วขึ้น"


    องค์ท่านเองก็เลยสั่งให้ หลวงปู่ปัญญา อัดเทปการแสดงธรรรมของท่าน เอาไว้ตั้งแต่สร้าง "วัดป่าบ้านตาด" ใหม่ๆ เป็นต้นมา

    ประกอบกับครูบาอาจารย์ท่านเตือนว่า

    "เหตุการณ์ที่ผ่านไปแล้ว เรียกกลับมาถ่ายภาพ มาถ่าย วีดีโอ อีกไม่ได้"

    ผมจึงทำหน้าที่อันนี้เรื่อยมา แม้ผมจะบอกญาติธรรมหลายๆท่านว่า

    "งานที่ผมไม่ได้ไป ก็ช่วยกันถ่าย วีดีโอ หน่อย"

    กลับได้รับคำตอบว่า

    "ผมก็อยากจะถ่าย แต่มันถ่ายไม่ได้"
    "เพราะถ่ายไปได้หน่อย จะแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก ต้องหยุดถ่าย"


    เมื่อมาร่วมเป็นกรรมการมูลนิธิพระใหญ่ชัยภูมิ ก็พบ ก็เจอ ปัญหามากมาย
    ก็ค่อยๆแก้ ก็ค่อยๆไข กันไป

    จนถึงมาถึงยุคปัจจุบันที่การสร้างพระใหญ่ รวดเร็วมาก ต้องใช้ทุนมาก
    เพราะค่าใช้จ่ายจะสูงตาม ความรวดเร็ว ความก้าวหน้าของงาน

    ก็มาถึงช่วงที่ผมต้องใช้สติปัญญาเท่าที่มี ต้องหาวิธีให้ได้ว่า

    "เงินจะมาจากไหน เงินจะมาอย่างไร"

    จึงจะพอเพียงกับการก่อสร้างที่รวดเร็วอย่างยิ่ง

    ผมก็เลยต้องออกท่องเที่ยว ไปศึกษา ไปวิเคราะห์ว่า

    "ด้วยความช่วยเหลือของเทพ เหล่าเทวดาทั้งจักรวาลนั้น จะหาเงินมาได้อย่างไร?"

    ด้วยเหตุนี้ ผมจึงต้องออกท่องเที่ยว ออกประสานงานไปทั่ว
    ทำให้ได้พบ ทำให้ได้เห็น เรื่องราวต่างๆมากมาย

    ทุกเรื่อง ทุกราว ที่พิเศษ ที่พิศดารมากหลาย จึงทะลักล้น เข้ามาที่ตัวผมมากมาย หลายสิ้น

    แต่ละก้าว แต่ละงาน แต่ละขั้นตอน ต้องใช้ความละเอียด ต้องใช้ความสุขุม ความอดทน
    เข้าพินิจ เข้าพิเคราะห์ ในรายละเอียด อย่างรวดเร็ว

    "อันไหนจริง อันไหนเท็จ อันไหนจริงในเท็จ อันไหนเท็จในจริง"

    ต้องพินิจ ต้องพิเคราะห์ ให้แตกฉาน ให้เข้าเป้า ให้ตรงประเด็น

    ทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอนนั้น พลาดไม่ได้ เสียเวลาไม่ได้

    เมื่อออกท่องเที่ยวกว้าง ขวางออกไป จึงได้พบ จึงได้เห็นว่า

    ผู้มีบุญ-บารมี มากมาย ที่ได้ลงมาเกิดในยุคปัจจุบัน

    ท่านเหล่านั้น ล้วนมีสรรพวิชามากมาย ที่เล่าลือ ที่เล่าขาน ที่รวมกันแล้วเรียกว่า

    "ฤทธิ์"

    แม้มีบุญ-บารมี สูงส่งเพียงใด กลับมีข้อจำกัดมากมาย

    เพราะโลกปัจจุบันมันเปลี่ยนไปมาก แม้ผู้มีบุญ-บารมี เอง ก็ปรับตัวได้ยาก
    แล้วยังจะเทพเบื้องบนบ้าง วิญญานบ้าง สิ่งศักดิ์สิทธิ์บ้าง

    ล้วนเกี่ยวข้องกับ "พลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อำนาจเทวฤทธิ์ พลังจักรวาล"

    เมื่อประกอบเข้ากันแล้ว ก็สรุปได้ว่า

    "โลกปัจจุบัน กับ จักรวาล ทั้งไตรโลก จะรวมเป็นหนึ่งเดียวได้อย่างไร?"

    "จะช่วยเหลือเกื้อกูล กันได้อย่างไร?"

    แล้วผมก็พบว่า

    "ผมเพียงแต่ช่วยแก้ปัญหาให้ท่าน ผู้มีบุญ-บารมี เหล่านั้น"

    "แล้วผลของการแก้ปัญหาให้ท่านเหล่านั้น กลับเป็นการแก้ปัญหาที่ว่า"

    "สร้างพระใหญ่ต้องใช้เงินมากมาย เงินจะมาจากไหน เงินจะมาอย่างไร ได้เอง"

    ที่แท้ หลักแห่งการ

    เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือเกื้อกูล ผู้อื่น
    กลับเป็นการ เอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือ เกื้อกูล ตนเอง และ หมู่คณะด้วย


    ที่แท้ การสร้างกุศลผลบุญ กลับง่ายดาย ปานนี้

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา
     
  13. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อะไรคือ อภิญญา อะไรคือ อภิญญาใหญ่

    ขออนุญาตครับ

    เป็นที่น่าเสียดาย ที่พระเจ้าพระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ส่วนใหญ่ต่างก็สอนว่า


    "ฤทธิ์ เป็นสิ่งไม่ดี ทำให้พ้นทุกข์ ไม่ได้"
    "ธรรมที่มุ่งสู่ความหลุดพ้น จึงเป็นแนวทางที่ถูกต้อง"


    ทำให้ผู้มีบุญบารมีต่างๆ ต่างก็มุ่งไปที่ "ธรรมเพื่อความหลุดพ้น" กันเป็นส่วนมาก

    แม้ครูบาอาจารย์ท่านต่างๆ แม้ท่านจะมี บุญบารมีทางฤทธิ์อย่างสูง
    แต่เมื่อท่าน มุ่งไปทาง "ธรรมเพื่อความหลุดพ้น" และหลุดพ้นแล้ว
    ท่านกลับพบว่า การแสดงฤทธิ์นั้น ใช้พลังงานอย่างสูง เหนื่อยล้าอย่างยิ่ง

    พระเจ้าพระสงฆ์ที่ท่านมีภาระกิจมากมาย จะเอาเวลาที่ไหน มาชาร์ตพลังให้เต็มเปี่ยม อยู่ตลอดเวลา เพื่อความพร้อมในการใช้พลังทางฤทธิ์

    จึงจะเห็นว่า ครูบาอาจารย์ทางฤทธิ์ ท่านไม่ค่อยจะพบปะผู้คน

    เวลาที่ท่านสามารถ ชาร์ตพลังเต็มที่ ก็คือตอนที่เข้าพรรษา เท่านั้นเอง
    ขอยกตัวอย่าง เช่น หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต

    ออกพรรษาปุ๊ป ท่านมีกิจนิมนต์ยาวเหยียด ตลอด ๖๐ วัน ท่านมีเวลา กลับวัดแค่วันเดียว

    หลังจากนั้น ท่านก็จำวัดของท่าน เพื่อชาร์ตพลัง พร้อมจะแสดงฤทธิ์ อยู่ตลอดเวลา

    เพราะท่านต้อง ปฏิบัติภาระกิจ รับกิจนิมนต์ ไปแทนองค์หลวงปู่ใหญ่

    ดังนั้น ญาติธรรมที่จะมาขอเมตตาอย่างฉุกเฉินเร่งด่วน จึงเป็นไปได้ยาก ด้วยเหตุดังกล่าว
    เหตุผลอีกอย่างที่สำคัญพอๆกันคือ

    "ได้ไม่คุ้มเสีย"

    เรื่องอะไร ที่องค์ท่านต้องมาเปลือง พลังงาน ช่วยเหลือ ใครก็ไม่รู้ ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน

    แม้กระนั้นองค์ท่านก็บอกว่า


    "ตอนฝึกอยู่กับหลวงปู่ใหญ่ เคยเดินบนน้ำได้"
    "แต่ตอนนี้ ไม่รู้ว่ายังเดินได้หรือเปล่า ไม่เคยลองดูซักที"


    จึงขอบอก จึงขอเตือน ท่านทั้งหลาย ที่หวังลมๆแล้งๆว่า

    "อยากดูครูบาอาจารย์แสดงฤทธิ์"


    นั้นก็ขอให้พิจารณาว่า การแสดงฤทธิ์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านต้องใช้พลัง พอๆกับคนธรรมดาทั่วๆไป

    ปั่นจักรยานซัก ๑,๐๐๐ กิโลเมตร หรือ เดินเท้าซัก ๑,๐๐๐ กิโลเมตร

    ซึ่งแม้คนธรรดาสามัญ ยังแทบจะหาคนทำไม่ได้

    ยิ่งครูบาอาจารย์ที่ท่านชราภาพด้วยแล้ว ยิ่งจะไปบั่นทอนอายุขัยของท่าน ลงไปอีก

    ครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติ ที่ท่านเป็นสายฤทธิ์อันดับต้นๆ ท่านบอกเล่าว่า


    "ฤทธิ์ที่ผมมีนั้น มันติดตัวผมมาตั้งแต่สมัยเคยเป็นฤๅษี"
    "ในยุคที่มนุษย์มีอายุขัยเป็นหมื่นๆปี จึงมีเวลาฝึกฝนมาก จึงได้ฤทธิ์มาตั้งแต่สมัยนั้น"

    "มนุษย์ปัจจุบัน มีอาขัยแค่ไม่ถึง ๑๐๐ ปี ฝึกไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะเวลาฝึกไม่พอ"


    ซึ่งตรงกับครูบาอาจารย์สายพุทธภูมิระดับสูง ที่ท่านบอกว่า

    "แค่วิชาตาทิพย์อย่างเดียว ผมฝึกมาเป็นกัป เป็นมหากัป จึงได้มา"

    ผมจึงอยากจะถามว่า ที่ท่านพากันว่า

    "อะไรคือ อภิญญา? อะไรคือ อภิญญาใหญ่?"

    เพราะเท่าที่ผมสืบเสาะหามาจนเจอนั้น ผมไปเจอคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง
    ท่านสร้างบุญบารมีมาหลายภพ มาหลายชาติ
    แม้ในชาติปัจจุบัน ท่านทั้งสองก็ได้แต่งงานกันอีก แต่ปัจจุบัน แม้อยู่ด้วยกัน ท่านก็ถือศีล พรหมจรรย์ทั้งคู่

    ฤทธิ์ที่ท่านมี ฤทธิ์ที่ท่านได้นั้น ล้วนเป็นทางลัดทั้งสิ้น
    เพราะ ครูบาอาจารย์ เทพเบื้องบนที่มีความผูกพันกับท่านนั้น จะอยู่กับท่าน เกือบตลอดเวลา
    ท่านจะสื่อกับครูบาอาจารย์ ได้ทุกๆเรื่อง โดยไม่ใช่การลงทรงแต่อย่างใด

    ไม่ว่าเรื่องอะไร เช่น หูทิพย์ ตาทิพย์ การรักษาโรค การถอนคุณไสย์
    ที่เห็นคือ ท่านจะดูดเอา สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในร่างกาย ที่ทำให้เกิดโรค เกิดภัย ออกมาจากร่างกายได้
    แล้วผู้ป่วยก็จะหายจากโรคอย่างอัศจรรย์

    แต่ต้องขออภัยต่อทุกๆท่าน ตอนนี้ ท่านทั้งสองกำลังทำภาระกิจอย่างสำคัญยิ่ง
    จึงไม่อาจจะไปรบกวนท่านได้

    ครูบาอาจารย์เบื้องบนของท่านก็จะสอนว่า


    "จะทำอะไร จะทำอย่างไร จะใช้พระคาถาอะไร"

    ท่านก็จะจดพระคาถาของท่านเอาไว้

    แต่สิ่งสำคัญ ที่ผู้มีบุญบารมีจะต้องมีคือ "ของวิเศษประจำตัว"

    ครูบาอาจารย์เบื้องบนจะบอกท่านว่า


    "ของวิเศษ อยู่ที่ไหน จะไปเอาได้เมื่อไร จะไปเอาได้อย่างไร"
    "มีขั้นตอนการปฎิบัติ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ได้มาแล้วต้องปฎิบัติอย่างไร"


    ท่านจะสืบทอดพระศาสนาอย่างไร?
    ท่านจะสืบทอดพระศาสนาในรูปแบบไหน?


    เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

    ท่านเหล่านี้ต่างหาก จึงจะช่วยเหลือสืบทอดพระพุทธศาสนาได้ มากกว่าคนธรรมดาเป็น ล้านๆคน

    สรุป อภิญญา อภิญญาใหญ่ ก็คือ

    ๑ ผู้มีบุญบารมี
    ๒ ครูบาอาจารย์จากเบื้องบน
    ๓ ของวิเศษ อันเป็นที่รวมของพลังงาน อย่างเอกอุ
    ๔ รายละเอียด วิธีการ ขั้นตอน ที่ถูกต้อง

    ส่วนผสมเหล่านี้ จึงถือเป็น อภิญญา จึงถือเป็นอภิญญาใหญ่

    จึงจะเป็น องค์ประกอบสำคัญ ของการสืบทอดพระศาสนาให้ยั่งยืนสืบไปได้

    เพราะยุคแห่งกึ่งพุทธกาล เป็นยุคของ ภัยพิบัติ เป็นยุคของ มหาภัยพิบัติ

    แล้วเราจะสู้กับภัยพิบัติ ได้อย่างไร

    หรือเราๆท่านๆ จะงอมือ งอเท้า ก็เลือกทางเดินกันเอาเอง

    หรือท่านจะพากันเชื่อว่า การสร้างพระภายใน จึงสำคัญที่สุด ก็แล้วแต่ท่าน

    แต่ผมจะสู้ภัยพิบัติจนสุดความสามารถ เพราะผมถือว่า


    "การป้องกัน การแก้ไขภัยพิบัติ จึงเป็นภาระกิจ
    ของการสืบทอดพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง"

    "การช่วยให้ สัตว์โลกรอดพ้นจากภัยพิบัติ จากมหาภัยพิบัติ
    จำนวนมากมายมหาศาล จึงเป็นกุศลผลบุญอันสูงที่สุด"


    แม้ผมจะเป็นแค่ เฟืองจักรเล็กๆ ผมก็จะทำของผมต่อไป

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2014
  14. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    เส้นทางที่ต้องเลือกเดิน พิจารณาจาก อะไรบ้าง

    ขออนุญาตครับ

    มีท่านสมาชิกชาวเว็บพลังจิต พีเอ็ม มาถามผมว่า
    เส้นทางที่ต้องเลือกเดิน ในยุคปัจจุบัน ต้องเลือกทางไหน เพราะเหตุอันใด
    ผมก็ขอยกคำตอบมาทั้งดุ้น มาให้ พิจารณากันทั่วหน้า จะได้ทั่วถึง


    ขออนุญาตครับ

    แสดงว่าประตูที่สองคือ "อรหันต์ภูมิ" คือ เข้าไปแล้ว ทำประโยชน์ได้น้อย

    พระสงฆ์ ในยุคปัจจุบัน พากันเข้าใจว่า
    การเป็นพระอรหันต์ คือ จุดสูงสุด

    แต่ท่านก็เข้าใจถูกต้อง แต่ไม่ใช่ หลังกึ่งพุทธกาล
    เพราะ หลังกึ่งพุทธกาล เป็นยุคของ ภัยพิบัติ ของมหาภัยพิบัติ

    เป็นยุคที่ผู้มีบุญบารมี อย่างแท้จริง ต้องช่วยกัน ขจัด ปัดเป่า ทั้งป้องกัน ทั้งแก้ไข ภัยพิบัติ แก้ไขมหาภัยพิบัติ เท่านั้น

    กิจอย่างอื่น ไม่ใช่ เพราะ ไม่ใช่ การรักษา พระพุทธศาสนา อย่างแท้จริง

    ยกตัวอย่าง ถ้าเกิด สึนามิ หรือ น้ำท่วมใหญ่
    แล้วไม่ป้องกัน แล้วไม่แก้ไข เหตุแห่งภัยนั้น

    แล้วจะรักษา แล้วจะสืบทอดพระพุทธศาสนากันอย่างไร

    การเลือกทางเดินนั้น ต้องเลือกตาม เหตุ ตามผล คือ

    ๑ อยู่กับ ปัจจุบัน ไม่ว่าท่านจะเป็นใคร ไม่ว่าท่านจะปรารถนาอะไร
    ท่านต้องเริ่มต้นจากปัจจุบัน ท่านต้องอยู่กับปัจจุบัน
    ลืมอดีต ลืมอนาคต อยู่กับปัจจุบันเท่านั้น

    เหมือนผมที่ต้องเลือกเส้นทางเดินของ ฆราวาส

    เพราะฆราวาสนั้น มีข้อจำกัดน้อย สามารถ เสริมกำลัง ของครูบาอาจารย์ที่ท่านมีข้อจำกัดมาได้

    เช่น พระ ทำไม่ได้ ปู่ฤๅษี ทำไม่ได้ แต่ฆราวาส ธรรมดาๆ กลับทำได้ เป็นต้น

    ๒ เลือกทำ เลือกเดิน เส้นทางที่เป็นการสร้าง บุญบารมี สร้าง กุศล ผลบุญ อันที่สูงที่สุด ให้ประโยชน์มากที่สุด

    เช่นผม ปัจจุบัน เลือกที่จะเป็น กำลังสำคัญ ในการสนับสนุน การสร้าง พระพุทธอลังการ(พระใหญ่ชัยภูมิ)

    ก็เพราะว่า

    "พระมหาพุทธานุภาพของพระพุทธองค์ ที่จะแผ่ผ่านองค์พระองค์นี้ จึงจะป้องกัน จึงจะแก้ไขภัยพิบัติได้"

    "การป้องกัน การแก้ไข ภัยพิบัติ จึงเป็นการรักษา จึงเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา อย่างแท้จริง"

    "จึงจะเป็นการรักษา ชีวิต และทรัพย์สิน ของมวลมนุษย์ชาติ ได้อย่างมากมายมหาศาล อย่างแท้จริง"


    การเรียกพลังบุญบารมีของตนกลับมาใช้งาน จะมีประโยชน์อันใด เพราะ

    ๑ ต้องเสียเวลา
    ๒ มีครูบาอาจารย์ ผู้มากบุญบารมี ท่านเป็นผู้นำแล้ว
    เราเพียงแค่ช่วยท่านก็พอ เรื่องอย่างอื่น เลือนไปทำชาติต่อๆไปก็ได้


    เรามีเวลาการสร้างพระ เพียงแค่ สิ้นปี ๒๕๖๑ นี้เท่านั้น

    ต่อให้คุณ เรียกพลัง เรียกบุญบารมี ของคุณขึ้นมาได้หมด

    แล้วคุณจะเอามันไปทำอะไร แล้วคุณจะเอามันมาใช้ประโยชน์อันใด

    คุณไม่เห็นหรือว่า พระเจ้า พระสงฆ์ ที่ท่านมีบุญบารมีมากมายนั้น

    ท่านทำอะไรได้บ้าง

    ท่านทั้งหลาย ยังไม่รู้กันเลยว่า

    ทุกๆกึ่งพุทธกาล ในทุกๆพุทธันดร ไม่ว่าในยุคพระพุทธเจ้าพระองค์ไหนๆ

    ก็จะเกิดภัยพิบัติ ก็จะเกิดมหาภัยพิบัติ ทุกครั้งไป

    ขึ้นอยู่กับว่า ชาวพุทธจะแก้ไขกันอย่างไร

    หรือคุณจะเรียกเอาบุญบารมีขึ้นมาแล้ว
    กลับพาญาติธรรมของตน หนีห่างการสร้างพระ เพื่อป้องกัน เพื่อแก้ไขภัยพิบัติ หรือ

    หรือคุณจะยอมเสียเวลา การสร้างบุญบารมีที่ยิ่งใหญ่
    แล้วไปสร้างบารมีเล็กของตนเท่านั้นหรือ

    ตัวผมเอง แทนที่จะสร้างบุญบารมีของตน

    ผมกับใช้แค่บุญบารมี เท่าที่มี ไปเสาะหาวิธีมาสร้างบุญบารมี ที่สูงที่สุด ก็เท่านั้นเอง


    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  15. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ปู่ฤๅษี คืออะไร? ที่แท้เป็นอะไร? อภิญญาที่เป็นไปได้ในยุคปัจจุบัน?

    ขออนุญาตครับ

    เนื่องจากผมเคยฝากตัวเป็นศิษย์ปูฤๅษีใหญ่ระดับมหาปรมาจารย์มาก่อน
    แต่ก็ไม่ได้เรียน ไม่ได้ฝึกฝนอะไร เพียงแต่เข้าไปศึกษาว่า อะไรเป็นอะไร เท่านั้น

    เมื่อเห็นว่า ไม่ใช่แนวทาง ที่ต้องการ ก็ถอนตัวออกมา เฝ้าดูอยู่ห่างๆ

    แล้วคอยสืบข่าว ตามข่าวว่า ท่านอาจารย์ปู่ฤๅษี ท่านย้ายไปอยู่ที่ไหนบ้าง?

    เผื่อเวลาฉุกเฉินเร่งด่วน จะได้ตามหาไปพบท่านได้

    จึงขอนำเรื่องราวของปู่ฤๅษี มาบอกมาเล่า


    "ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง"


    ส่วนเรื่อง อภิญญาที่เป็นไปได้ในยุคปัจจุบัน ก็ขอให้พิจารณา ดังนี้

    พระพุทธองค์ ได้ทรงเคยมีการห้ามไม่ให้พระสงฆ์แสดงฤทธ์ ต่อหน้าสาธารณะชน

    ด้วยเหตุผลดังนี้

    ๑.มนุษย์ต่างก็มีกรรมเป็นของๆตน กรรมนั้นจะส่งผล
    ให้เกิดเป็นคนชาตินั้น ชาตินี่
    ให้เกิดเป็นคนตระกูลนั้น ตระกูลนี้
    ให้เกิดเป็นคนเพศนั้น เพศนี้
    ให้เกิดเป็นคน มีนิสัย อย่างโน้น อย่างนี้
    ให้เกิดเป็นคน นับถือ ศาสนาโน้น ศาสนานี้

    ถ้าพระภิกษุสงฆ์ ต่างก็แสดงฤทธิ์ ประเภทต่างๆ ตามความสามารถของตน
    จะทำให้เกิดโกลาหลขึ้น คนต่างชาติ ต่างศาสนา ก็จะพากัน
    เคารพ เลื่อมใส แห่กันมานับถือพระพุทธศาสนา กันมากเกินไป

    จะไม่เป็นไปตามกฏแห่งกรรม ที่เหมาะสมดีอยู่แล้ว

    จะทำให้กฏแห่งกรรม ผิดเพี้ยนไป

    จะทำให้ผู้มีบุญบารมีที่ยังไม่ถึง เข้ามานับถือพระพุทธศาสนาได้ ก่อนเวลาอันควร

    ๒.เพื่อปกป้อง พระสงฆ์ กลุ่มที่ไม่มีฤทธิ์ กลุ่มที่แสดงฤทธิ์ไม่ได้
    อันจะทำให้ลาภสักการะ หดหาย ลดน้อยลงไป
    ความเคารพนับถือจะลดน้อยลงไป
    อันอาจจะทำให้พระสงฆ์ส่วนใหญ่ ที่ไม่มีฤทธิ์ มีความเป็นอยู่ ยากขึ้น ลำบากขึ้น

    ๓.พระพุทธองค์ที่ได้ทรงเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น มีวัตถุประสงค์หลักคือ
    สอนให้คนเป็นคนดี ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน อยู่กันด้วยความสงบสุข
    ทรงสอนให้พระสงฆ์รู้จักความสันโดษ มักน้อย อยู่กับพระธรรม อยู่กับความอัตคัดขัดสน

    ถ้าพระสงฆ์ต่างแสดงฤทธิ์ที่ตนมี
    ลาภสักการะ ก็จะมีมากจนเกินความพอดีได้
    พระสงฆ์ที่ไม่มีฤทธิ์ หรือ แสดงฤทธิ์ไม่ได้ จะพลอยอยู่ด้วยความอัตคัด ขัดสน จนเกินไป

    ด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์จึงทรงได้ห้ามการที่พระสงฆ์จะแสดงฤทธิ์ต่อหน้าสาธารณะชน
    แต่พระพุทธองค์ ก็มิได้ทรง ห้ามการแสดงฤทธิ์อย่างเด็ดขาด
    พระสงฆ์ที่ท่านมีฤทธิ์ ท่านจึงสามารถ แสดงฤทธิ์ได้ ตามเหตุอันควร

    การแสดงฤทธิ์ในปัจจุบัน จึงเป็นการแสดงฤทธิ์ "แบบภาพลวงตา" ซะเป็นส่วนมาก
    ไม่สามารถแสดงฤทธิ์ "แบบธาตุ๔ ขันธ์๕ ครบถ้วนบริบูรณ์" เหมือนพระพุทธองค์ได้

    ยกตัวอย่างเช่น องค์หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต

    ๑.มีคนเห็นท่านเดินข้ามแม่น้ำโขง กลับมายังฝั่งไทย แถมยังถ่ายรูปเอาไว้ด้วย
    แต่องค์ท่านก็ยังยืนยันว่า องค์ท่านยืนบนเรือ ที่คนพายให้ท่านข้ามแม่น้ำโขงมา
    ภาพที่ถ่ายออกมากลับเป็นถาพพระภิกษุชรา แต่ท่านก็ยืนยันว่า
    ในภาพนั้น บาตรก็ของท่าน กลดก็ของท่าน กาน้ำก็ของท่าน
    แต่ภิกษุชราในภาพกลับไม่ใช่ตัวท่าน

    ๒.เวลาที่ท่านไปรับกิจนิมนต์แทนองค์หลวงปู่ใหญ่
    องค์ท่านก็บอกเล่าว่า องค์ท่านใช้วิชาการรวมธาตุ
    คือการส่งจิตไปสถานที่ที่จะไป แล้วอธิฐานรวมเอาธาตุ๔ ณ ที่แห่งนั้น
    ปั้นขึ้นมาเป็นตัวตนในรูปลักษณ์ต่างๆ เช่น เป็นพระบ้าง เป็นเณร บ้าง เป็นปู่ฤๅษีบ้าง
    เด็กบ้าง หนุ่มบ้าง ชราบ้าง ตามที่องค์หลวงปู่ใหญ่ได้สั่งเอาไว้
    เพียงแต่ว่า วิชาการรวมธาตุขององค์ท่านนั้น สูงส่ง
    จนสามารถ เดิน เหิร หยิบจับ อะไรก็ได้
    ต่างจากครูบาท่านอื่นๆ ที่บางท่านแค่ปรากฏรูปร่างให้เห็นเท่านั้น

    แต่ก็ยังมีครูบาอาจารย์สายปฏิบัติ หลายๆท่าน ที่สามารถ ไปบิณฑบาตรในที่ห่างไกลได้

    แต่นั่น ท่านใช้วิชา ย่นระยะทาง ไม่ใช่วิชารวมธาตุ

    ดังนั้นอภิญญาที่เราสามารถพบเห็น สัมผัสได้ส่วนมากจะเป็นแบบที่กล่าวมา

    ส่วนอีกแขนงหนึ่งที่เป็นวิชา "อธิฐานและสำเร็จด้วยใจ" นั้นยากจะบอกเล่ายืนยันได้

    เช่นการห้ามลม ห้ามฝน ห้ามพายุ การอธิฐานสร้าง ภาพแบบต่างๆ

    เพราะบางครั้ง ก็มีหลายๆท่าน อธิฐาน ในเวลาเดียวกัน

    และแต่ละท่านก็ ลืมมองหา ลืมมองดู ท่านอื่นๆ มีท่านใดมาช่วยกันบ้าง

    ส่วนฆราวาส ญาติโยม ตลอดจน พระเจ้าพระสงฆ์ บางหมู่ บางกลุ่ม บางท่าน
    ไม่สามารถสร้างอภิญญาญาน จนสามารถแสดงฤทธิ์ขึ้นมาได้

    ด้วยความปรารถนาที่จะช่วยให้ผู้อื่นให้พ้นทุกข์ ก็เลยต้องเข้าไปศึกษาด้าน คาถาอาคม ที่เป็นแบบกลุ่มของปู่ฤๅษี

    ซึ่งก็ต้องพิจารณากันเอาเองว่า อันไหนเป็นไสย์ดำ อันไหนเป็นไสย์ขาว
    เพราะเท่านที่ติดตามศึกษามานั้น แม้แต่ปู่ฤๅษีระดับกลางๆ ก็แยกไม่ออก

    ส่วนปู่ฤๅษีใหญ่นั้น ท่านก็บอกว่า


    "ปู่มีหน้าที่ถ่ายทอด มีหน้าที่อบรมสั่งสอน ไม่ให้วิชาสูญหาย"

    "อะไรดี อะไรชั่ว ก็สอนให้หมดแล้ว ส่วนใครจะเอาไปใช้ ดีชั่ว อย่างไร"

    "ก็ให้รับผลของกรรม กันเอาเอง ปู่ไม่ไปเกี่ยวข้องด้วย"

    "ปู่มีหน้าที่สอน ปู่มีหน้าที่ถ่ายทอด เท่านั้น"

    "ที่มาเรียนกันนั้น ก็เป็นการขอให้ปู่สอนเอง ด้วยความสมัครใจ"

    "ปู่ไม่ได้ไปบังคับใครมา"


    จึงจะเห็นว่า หมอธรรมก็ดี ปู่ฤๅษี ก็ดี เมื่อหลงผิด ใช้วิชาไปในทางที่ผิด

    ก็จะอวดดื้อ ถือดี ว่ากูเก่ง ว่ากูแน่

    ถึงเวลา ขอขมาครูบาอาจารย์ไม่ทัน ก็จะหมดอายุขัย ไปก่อนเวลาอันควร เหมือนที่เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า อย่างไม่เคยจางหาย

    บางท่านเป็นคนธรรมดาอยู่ดีๆ ก็เกิดอยากมีฤทธิ์ อยากมีเดช
    อยากเรียน คาถาอาคม อยากทำโน่นได้ อยากทำนี่ได้

    ที่น่าแปลกใจก็คือ หญิงสาว ก็เข้ามาพัวพันเรื่องนี้กันมาก

    อยากได้แฟนหล่อๆ อยากได้สามีดีๆ ก็ดิ้นสน เสาะหา คาถาดีๆ
    เพื่อจะได้ผูกมัดใจชายที่หมายปอง
    ครั้นพอผิดหวัง กลับถลำลึก เข้าไป ศึกษา คาถาดีๆ
    เพื่อทำร้ายเขาให้หลาบจำ เข้าไปอีก

    ใครจะศึกษา เพื่อให้รู้แนวทาง เพื่อ หาทางป้องกันตนเอง
    ใครจะศึกษา โดยรู้เท่าไม่ถึงการ หลงทำผิดคิดชั่ว
    ใครจะศึกษา เพื่อความเด่น โก้เก๋ ก็เลือกพิจารณากันเอาเอง

    ท่านที่เลือกจะเดินทางสายนี้ ก็ขอให้พิจารณากันเอาเองว่า

    ท่าน กำลังเดินทางสายไหน
    ครูบาอาจารย์ของท่าน กำลังเดินทางสายไหน

    อันไหนเป็น ธรรม
    อันไหนเป็น มาร
    อันไหนเป็น พระ
    อันไหนเป็น ฤๅษี
    อันไหนเป็นไสย์ดำ
    อันไหนเป็นไสย์ขาว

    หรือแม้แต่ท่านที่เป็น หรือเข้าใจว่าท่านเป็น พุทธภูมิ

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2014
  16. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ครูบาอาจารย์จากเบื้องบน ที่แท้ท่านเป็นใคร? เป็นอะไร?


    ขออนุญาตครับ

    ผมก็ยังคงแสวงหาครูบาอาจารย์จากเบื้องบนองค์ใหม่ๆ อยู่เรื่อยๆ ต่อๆไป

    จึงอยากจะบอกเล่าออกมาว่า มันเป็นอย่างไรกันแน่

    โดยผมจะไม่บอกว่า ท่านอยู่ที่ไหน ให้ไปหากันเอาเอง

    ครูบาอาจารย์จากเบื้องบน ที่แท้ท่านคือ พระอริยะเจ้า "ชั้นอนาคามี" อย่างไรละ่ครับ

    เหตุผลที่พระองค์ท่านบอกก็คือว่า


    "ที่ท่านต้องลงมาโปรดในเมืองมนุษย์ เพราะต้องการเร่งบุญ บารมี ให้สำเร็จได้เร็วขึ้น"

    เพียงแต่ว่า พระองค์ท่านไม่ได้ลงมาเพียงพระองค์เดียว พระองค์ท่านจะมี "เทพคู่บุญบารมีฝ่ายฤทธิ์"ติดตามลงมาด้วย

    ทำให้ผู้ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับพระองค์ท่านนั้น


    "ที่ดีก็ดีเหลือหลาย ที่ร้ายก็ร้ายเหลือแสน" ได้เหมือนกัน

    ใครบุญบารมีไม่ถึง ใครจิตใจไม่ใสสะอาดพอ ไม่ต้องตามหาซะให้ยาก

    ส่วนใครที่บุญบารมีถึง และมีจิตใจที่ดีงาม ท่านจะช่วยให้


    "ทำอะไรก็สำเร็จ ได้โดยง่าย โดยไม่ต้องลำบากอะไรเลย"

    องค์เทพของจริงต้องเป็นอย่างนี้

    ลักษณะของพระองค์ท่านจะเป็นแบบว่า


    "คอยสั่งสอน ชี้นำ ช่วยเหลือมวลมนุษย์"
    "ด้วยใบหน้าที่อิ่มเอิบ ผุดผ่อง สดใส"
    "วาจาเยือกเย็นหวานนุ่ม ถ้อยคำพร่ำสอนเต็มไปด้วยเหตุและผล"
    "พูดจาต่อเนื่องกันด้วยภาษาราบเรียบ"


    ต้องอย่างนี้จึงจะเป็นเทพระดับ "พระอนาคามี" ของแท้

    ส่วน "เทพคู่บุญบารมีฝ่ายฤทธิ์"นั้น
    แน่นอนว่าท่านต้องมีของวิเศษประจำตัวขององค์ท่าน
    และยังมีเทพบริวารของท่านติดตามลงมาอีกด้วย


    ส่วนสำนักปู่นั่น ปู่นี่ สำนักเปรต สำนักผี ที่มีอยู่ทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น

    แค่ดูว่า "มันรวยเอาๆ" หรือ "มีกื๊กเป็นโหล" ก็รู้แล้วครับ

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  17. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    คำว่า "อภิญญา" นั้นต้องไม่มีอะไรไปเกี่ยวข้องกับ "ไสยเวทย์" สายมาร


    ขออนุญาตครับ

    คำว่า "อภิญญา" นั้นต้องไม่มีอะไรไปเกี่ยวข้องกับ "ไสยเวทย์" สายมาร(มนต์ดำ)

    แต่ "อภิญญา" นั้น ยอมรับได้ในเรื่อง

    "พลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์"
    "อำนาจเทวฤทธิ์"
    "พลังจักรวาล"

    อย่าได้นำไปปนกันนะครับ เพราะไสยเวทย์มนต์ดำ นั้น ไม่ถือว่าเป็น "อภิญญา"

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา


     
  18. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ฤทธิ์ อภิญญาญาณ ไสยเวทย์ เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

    ขออนุญาตครับ

    ฤทธิ์ อภิญญาญาณ ไสยเวทย์ เกี่ยวข้องกันอย่างไร?



     
  19. modxsuper_1

    modxsuper_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +373
    ถ้ามีจริงก็ดี
     
  20. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ไม่มีเหตุอันสมควร เลยบอกไม่ได้?

    ขออนุญาตครับ

    แค่ถามยังไม่มีคนกล้าถาม ผมก็เลย ไม่มีเหตุอันสมควร เลยบอกไม่ได้?

    ความจริงผมพบเจอครูบาอาจารย์ท่านนี้ เมื่อเร็วๆนี้นี่เอง

    เอารูปในมือถือให้ญาติธรรมชาวอุบลดู ก็จุดใต้ตำตอ เขาบอกว่าเป็นครูบาอาจารย์ของเขาเอง

    องค์ท่านได้สอนธรรม อัน สั้น กระชับ หลากหลาย แจ้งกระจ่าง

    แค่ไม่กี่นาที ท่านสอนได้หลากหลายมาก

    แม้แต่การสร้างการสะสมสติ

    แม้แต่การก้าวข้ามจาก อนาคามี สู่ อรหันต์

    แม้แต่เรื่อง ที่เห็นคนในเว็บนี้สนใจมากๆ คือ การเปิดจักระ

    น่าเสียดายท่านเทศสอนอยู่ในกุฏิหลังคาต่ำ เลยตั้งกล้องวีดีโอไม่ได้

    แต่ผมก็มีวีดีโอ ที่ถ่ายที่ศาลาโรงฉันท์ด้วย

    มีคนเชิญผมไปดูเหล็กไหลคู่หนึ่งที่องค์ท่านประทานให้

    ลูกศิษย์ที่ลาสิกขา ออกไปมีครอบครัว และกลับไปอยู่ หนองบัวลำภู

    ผมก็ยังไม่ได้ไปเลย

    ขอโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     

แชร์หน้านี้

Loading...