พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

หลังออกพรรษาแล้วนี่ครับ... คุณ thanyaka "พระท่าน"สามารถรับกิจนิมนต์ไปค้างแรมที่ไหนก็ได้แล้วครับ ไม่ติดข้อห้ามของสงฆ์แต่อย่างใดครับ แต่...สำหรับ"พระปลอบใจ"นี่ ผมตอบแทนคุณหนุ่มได้เลยนะครับ ว่าไม่ได้แน่นอนครับ เดี๋ยวอาบัติแย่ จะให้"พระปลอบใจ"สีกาได้อย่างไรกัน?? หึหึ..

 

เจอมุขนี้ของคุณเพชร ผมคิดอะไรไม่ออกเลยครับ อิอิ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
หลังออกพรรษาแล้วนี่ครับ... คุณ thanyaka "พระท่าน"สามารถรับกิจนิมนต์ไปค้างแรมที่ไหนก็ได้แล้วครับ ไม่ติดข้อห้ามของสงฆ์แต่อย่างใดครับ แต่...สำหรับ"พระปลอบใจ"นี่ ผมตอบแทนคุณหนุ่มได้เลยนะครับ ว่าไม่ได้แน่นอนครับ เดี๋ยวอาบัติแย่ จะให้"พระปลอบใจ"สีกาได้อย่างไรกัน?? หึหึ..
</TD></TR></TBODY></TABLE>
แหม ขอประทานโทษนะคะ ที่ใช้คำพูดคลุมเคลือแต่ดิฉันคงไม่บังอาจเอาพระห่มผ้าเหลืองมาปลอบใจหรอกค่ะ กลัวท่านอาบัติ และยังจะเป็นกรรมหนักติดตัว
ไม่ได้ผุดได้เกิด คราวหน้าจะระวังเรื่องคำพูดเพราะ แต่ละคนเข้าใจคนละแง่คนละมุม อาจมองได้ว่าเรื่องจริง หรือเย้าแหย่ ซึ่งอาจจะทำให้เกิดผิดผ้องหมองใจ
ถ้าทำให้คุณๆขุ่นเคืองก็ขอโทษมา ณ ที่นี้ คงไม่บังอาจกล้าพูดเล่นแล้วค่ะ

 

อาจจะเป็นเรื่องของวาสนาบารมีของหลายๆคน เป็นองค์ประกอบกัน

ต้องขอโทษด้วยครับ

.

 

พูดคุยเล่นกันได้นะครับ

เพียงแต่เรื่องพระสงฆ์และเรื่องบุญ ขอไว้ เพราะว่าโดนกันมาแล้วครับ มีประสบการณ์มาแล้ว จึงไม่อยากให้ท่านอื่นๆโดนเหมือนผมและเพื่อนๆ น้องๆครับ

.

 

ฮาโหล ฮาโหล จุ๊กกรู (one-eye)..
.เอสงสัยคุณหนุ่มยังล้างจานไม่เสร็จ งั้นผมขอตัวไปซักผ้าก่อนนะ(smile)

 

ผมไม่ได้มีเจตนา"พูดจริงๆ"เช่นนั้น มีความ"ตั้งใจกระเซ้า"จริงๆมากกว่าครับ ผมเพียงมีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอด้วย"มุข"นี้ตามคำของ"พี่เม้าท์"ว่าจริงๆอยู่ ๒ เจตนาด้วยกัน

เจตนาที่ ๑ ผมทราบดีว่า บรรยากาศในกลุ่ม ในคณะเราตอนนี้ อาจจะดูเครียดๆกัน คุณ thanyaka ก็มาเป็นสมาชิกในบ้านหลังนี้เช่นกัน ก็มีเจตนาจะผ่อนคลายความตึงเครียด ให้บรรยากาศของบ้านหลังนี้กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง(ผมก็ภาวนาให้มีวันนั้นเร็วๆ) "พระ"เครื่ององค์นี้ที่คุณ thanyaka สนใจบูชานี้ ท่านก็เสด็จไปเสด็จมาตามที่คุณ thanyaka เข้าใจ และรู้สึกจริงๆด้วยนะครับ "ความรู้สึก"แบบนี้"ตรงกัน" จึงต้องใช้มุขนี้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ แต่ไม่คิดว่า คุณ thanyaka จะถือเป็นจริงจัง ถอยฉากออกมาจริงๆ อันนี้ผมต้องขอโทษที่"เล่น"หนักไปหน่อย แต่เป็น fight บังคับที่ต้องเล่นแบบนี้ครับ ขอยืนยันในเจตนาที่ดีอยู่ครับ...

เจตนาที่ ๒ ผม copy ข้อความเดิมของคุณ thanyaka ทุกอย่าง แล้ว"ป้ายสี"แดงไว้เพื่อให้ดูเหมือนว่าคุณ thanyaka เจตนาพระ(จริงๆ)มาปลอบใจ ไม่ใช่พระ(เครื่อง) เพราะละไว้ในฐานที่น่าจะเข้าใจตรงกัน ผมต้องการสื่อให้เห็นว่า เจตนาที่ดีของเรา คนอื่นอาจสามารถจะตีความเป็นอย่างอื่นได้ด้วยปาก(กา)ของใครอื่นก็ได้ นี่คือวจีกรรมที่ก้าวล่วงไป เป็นอกุศลกรรมบถ ๑๐ ข้อวาจามี ๔ ข้อ ซึ่งพระพุทธองค์ทรงบัญญัติไว้ จะสังเกตุว่า ข้อวาจามี ๔ ข้อ ขณะข้อทางกาย และทางใจ มีเพียงหัวข้อละ ๓ ข้อเท่านั้น การที่ข้อ"วาจา" มากกว่าข้อ"กาย" และ"ใจ"นั้น สืบเนื่องจากว่าอวัยวะในร่างกายของคนเรามีเป็น"คู่"กันเสียส่วนใหญ่ ยกเว้น"ปาก"ที่มีเพียงปาก"เดียว" แต่ความเสียหายจากปากนั้นมีมากกว่ากาย และใจมากมาย พระพุทธองค์จึงเพิ่มความสำคัญของการละเมิดทางวาจามากกว่าข้ออื่นๆ เช่นการใช้วาจาทำลายผู้อื่น ใช้วาจาพูดยุยงให้แตกกัน ใช้วาจาพูดจาส่อเสียดกันแบบนี้ เป็นต้น เข้าข่ายละเมิดกุศลกรรมบถ๑๐ ทั้งสิ้น กระทู้ที่หมองใจกันนี้เกิดจากวาจาเป็นเหตุ ผมจึงแสดงให้คุณ thanyaka ได้เห็น"ผล"ของวาจา ตามพระธรรมข้อนี้ว่าเป็นความจริง เพราะสิ่งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้วตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาล แม้ปัจจุบันก็ยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตราบเท่าที่มนุษย์ยังพร่องในศีลอยู่

การ"ป้ายสี"แดงของผม "ต้องการ"นำเสนอด้วยการเพิ่มน้ำหนักการ"ใส่ร้าย"ให้รู้สึกแบบนั้นหนักขึ้น ให้โน้มเอียงว่า คุณ thanyaka คิดเช่นนั้นจริงๆ ขอโทษที่ผมจำเป็นต้องเล่นให้สมบทบาทหน่อย เขาจ้างมาแพง...

เจตนาที่ ๓ ผมต้องการปกป้อง"พระเกียรติภูมิแห่งพระวังหน้า" ที่จัดสร้างโดย"พระราชพิธีหลวง" จึงต้องเลือกการปกป้องด้วยวิธีการนี้ และข้อความที่"หนัก"แบบนี้ พระบางองค์นอกเหนือจากกระแสพระบารมีของ"หลวงปู่สมเด็จโต พรหมรังสี"แล้ว ยังอาจจะมีกระแสพระบารมีของ"พระ"ในระดับ"ปฏิสัมภิทาญาณ" แบบนี้เคราะห์กรรมของการปรามาสจะหนักมากครับ..อย่างที่เรียนให้ทราบคือ การปรามาสทางกาย วาจา และใจ ทางวาจามีโอกาสเกิดขึ้นได้มากกว่าแบบอื่นๆ คือปาก ๑ อัน ทำกรรมได้มากกว่าอวัยวะที่มี ๒ ข้าง...

ผมจึงขอขมากรรม และขออโหสิกรรมจากกรรมบถ๑๐ ข้อนี้ด้วยครับ อย่าถือโทษโกรธกันเลยนะครับ...(smile)

 

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพกันบ้างนะครับ
สุขภาพทางกายหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว

สุขภาพทางใจ สิ่งใดที่เป็นทุกข์รู้จักมันแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปอย่านำมาติดที่จิต ความสุข ความทุกข์อยู่ที่เรากำหนด

ความคิดเห็นไม่ตรงกันก็ต้องค่อยๆคุยกัน ฟังความเห็นกันนิดหนึ่ง จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสร้างบุญ ก็เหมือนการออกเดินทางไปเชียงใหม่ไปได้ต้องหลายทาง แต่วิธีการไหนละดีที่สุด ประสบการณ์ทำงานบุญนั้นสำคัญนั้นต้องมีเพราะเราต้องหาวิธีที่โปร่งใสที่สุดจัดทำเป็น แนวทางและวิธีการไม่ให้ใครมาว่าทีหลังได้

จงช่วยกันมองพิจารณา และคิดถึงความรู้สึกท่านอาจารย์ปู่หน่อยนะครับ

 

http://hilight.kapook.com/view/17920

อย. เตือน เป็นไข้หวัดใหญ่ ห้ามกินยา แอสไพริน




<CENTER>ข่าว ในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างนี้จึงทำให้มีโอกาสที่จะเป็นโรค ไข้หวัดใหญ่ ได้ อย. จึงออกเตือนถึงผู้ที่เป็น ไข้หวัดใหญ่ ว่าห้ามกินยา แอสไพริน เอง เพราะเป็นอันตรายถึงชีวิต

​

อย.เตือน เป็นไข้หวัดใหญ่ ห้ามกินยา "แอสไพริน" เสี่ยงต่อการเกิดอาการ "รายย์ ซินโดรม" เป็นอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะเด็ก และวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมทั้งสตรีที่ให้นมบุตร
ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ช่วงนี้อากาศเย็นลงอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย อาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และอาจทำให้ เป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่ได้ ซึ่งไข้หวัด-ใหญ่เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสอินฟลูเอนซา (Influenza Virus)ในระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อแพร่กระจายได้ง่าย โดยผู้ป่วยจะมี อาการไข้สูง อ่อนเพลีย ตาแดง ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูกใส อาเจียน เจ็บคอ แบบไข้หวัด ​

ซึ่ง แต่ละคนอาจมีอาการที่รุนแรงแตกต่างกันได้ ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย และโรค ประจำตัวที่มีอยู่เดิม โดยทั่วไปอาการไข้มักจะเป็นอยู่ 2 - 4 วัน แล้วอาการจะค่อย ๆ ทุเลา ลงไปเองได้ แต่ถ้าหากมีไข้สูงควรใช้ยา ลดไข้พาราเซตามอล และที่สำคัญห้ามใช้ยาลด ไข้แอสไพรินในเด็กและวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมทั้งสตรีที่ให้-นมบุตรโดยเด็ดขาด เพราะอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดอาการรายย์ ซินโดรม (Reye​

 

โมทนาสาธุครับ

.

 

คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน)
ขอความเมตตาช่วยต่อชีวิตพระเณร บช.ออมทรัพย์ 2030-06304-5 บัญชี รร.พระปริยัติธรรมบ่อเงินบ่อทอง บมจ.ธ.กรุงไทย สาขาพนมสารคาม
ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว 102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ
ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ บช.ออมทรัพย์ "ศ.ทุนนิธิสงเคราะห์สงฆ์อาพาธ อ.ประถม อาจสาคร" เลขที่3481-23245-9 บมจ.กรุงศรีอยุธยา สาขาถนนวิภาวดี(ซันทาวเวอร์ส์)

 

ต้องเป็นผู้ฉลาดให้ โดยเฉพาะการให้กำลังใจผู้อื่น เพื่อเขาจะได้มีชีวิตที่ดี…
สนิมเป็นอันตรายมากต่อศาสตราวุธฉันใด ความโกรธก็เป็นอันตรายต่อจิตใจมากฉันนั้น
ขอยืมของคุณเมาท์มาแปะ
จริงๆของจริงๆ ก็ไม่ได้โกรธเคืองนะคุณเพชร เพราะไม่ชอบแบก..ไม่ชอบถือ..
เพราะมันหนัก
คนเป็นสามี ภรรยา ขนาดอยู่กันมากว่า10ปี เค้าก็ยังมีเรื่องขัดแย้งกัน
พี่น้องคลานกันมาเค้าก็ยังมีเรื่องขัดแย้งกัน ธรรมดาของ คน
ดิฉันไม่ค่อยเก็บอะไรมาคิดมากเดี๋ยว หน้าแก่ หน้าจะเหี่ยว ก่อนวัย
ถ้าเขาจ่ายค่าจ้างคุณ คุณเพชรก็มาแบ่งกันมั่งซิค่ะ จะได้เอาไปทำบุญให้หมด
มีคนในเวปนี้ เค้าบอกว่าพวกกลุ่มวังหน้านี่น่ารักทุกคนเลย ก็เห็นว่าจริง

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไทเก๊กเพื่อสุขภาพ ฝึกง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9500000142769
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 ธันวาคม 2550 17:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ ถอดองค์ความรู้ไทเก๊ก จากยากสู่ง่าย จัดทำเป็น 3 ชุดฝึกที่ทำได้ง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน คือ การปรับลมหายใจ การเพิ่มพลังฝ่าเท้า การบริหารข้อต่อ ช่วยยืดอายุการใช้งานของอวัยวะร่างกาย ใช้ได้จริงทั้งคนดีและคนป่วย สุขภาพดีทั้งกาย-ใจ

นายมงคล ศริวัฒน์ หัวหน้าโครงการสร้างเสริมประสบการณ์ความสัมพันธ์เชิงมนุษย์ระหว่างบุคลากรสาธารณสุขกับคนไข้-ชุมชน โดยวิถีธรรมแห่งสุขภาวะ : ไทเก๊ก ตามแผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ มูลนิธิสดศรี สฤษดิ์วงศ์ (มสส.) เปิดเผยว่า โครงการได้ดำเนินการฝึกอบรมไทเก๊กให้กับแพทย์และพยาบาล 26 แห่งจากโรงพยาบาลทั่วประเทศที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โดยใช้เวลาฝึก 4 เดือน และพบว่าแพทย์และพยาบาลที่ผ่านการฝึกสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับบุคลากรและผู้ป่วยในโรงพยาบาล

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นายมงคล กล่าวว่า ไทเก๊กเป็นการออกกำลังกายที่ให้ประโยชน์ทั้งทางร่างกายและจิตใจ มีผลเสียต่อร่างกายน้อยที่สุด เพราะด้วยท่าทางที่เป็นการเคลื่อนตัวอย่างช้า ๆ ต่อเนื่องสบาย ๆ ไม่กระแทกกระทั้น จึงไม่เกิดปัญหากับข้อต่อหรือกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยให้การทำงานของหัวใจทำงานคงที่ เป็นการออกกำลังกายที่ให้เหงื่อมากกว่าคนที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งเสียอีก ที่เป็นเช่นนี้เพราะเวลาเคลื่อนไหวช้าทำให้ไม่เกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อต่าง ๆ เกิดการไหลเวียนของเลือดในร่างกายดีทำให้ร่างกายอบอุ่นและรู้สึกมีพลังงานอยู่ภายใน คนฝึกไทเก๊กจะรู้สึกว่าผิวกายอุ่น ฝ่ามือร้อนผ่าว ซึ่งเป็นการขับของเสียออกจากร่างกายผ่านส่วนต่าง ๆ การหรือแม้แต่ทางลมหายใจ เมื่อรำไทเก๊กไปสักหนึ่งชั่วโมงจะมีเหงื่อออกมากแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยหรือเพลีย จะรู้สึกโปร่งสบาย อย่างไรก็ตามในปัจจุบันมีการสอนไทเก๊กหรือในรูปวีซีดีที่สามารถทำเองที่บ้านได้ แต่ผู้ฝึกควรได้เรียนรู้หรือขอคำแนะนำจากครูผู้สอนหรือผู้รู้โดยตรงด้วย เพราะท่ารำไทเก๊กมีรายละเอียดมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีการลงแรง การใช้น้ำหนัก การเคลื่อนตัวที่สำคัญ ๆ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นายมงคล กล่าวว่า สำหรับการนำไทเก๊กมาใช้ฟื้นฟูคนไข้นั้น เป็นผลมาจากการไปฝึกอบรมให้กับแพทย์ พยาบาลในโครงการฯ โดยเราสามารถถอดชุดความรู้ท่ารำของไทเก๊ก จัดทำเป็นชุดฝึกที่ทำได้ง่าย 3 ชุดหลักคือ เริ่มจากชุดแรกการปรับลมหลายใจ ชุดที่สองการเพิ่มพลังฝ่าเท้า และชุดที่สามการบริหารข้อต่อ โดยที่นิยมนำไปใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลคือการปรับลมหายใจซึ่งโรงพยาบาลหลายแห่งนำไปใช้สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีปัญหาทั้งทางกายและทางใจ เพราะการรำไทเก๊กทำให้ผู้ฝึกมีจิตใจที่สงบลง และเห็นปัญหาอาการเจ็บป่วยของร่างกายเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เกิดความทุกข์ความเครียดกับร่างกาย ยิ่งเอาชุดการฝึกลมหายใจเข้าไปช่วย ทำให้การปรับเลือดลมในร่างกายหมุนเวียนดีขึ้นเขายิ่งมีกำลังใจ มีสุขภาพกาย-ใจที่ดี ไทเก๊กจึงเป็นเรื่องของการสร้างเสริมสุขภาพ ส่งผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างพยาบาลกับคนไข้ที่ไม่ใช่มารับยาแล้วก็จบ เป็นความรู้สึกเป็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ ไม่ใช่ผู้ป่วยกับผู้รักษาในเชิงเทคนิค

โดยปกติการสอนไทเก๊กจะแบ่งออก เปนการสองส่วน คือ ส่วนที่เป็นพื้นฐาน กับส่วนที่เป็นท่ารำ สำหรับผู้ไม่เคยฝึกเลยโดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งมักมีปัญหาเรื่องข้อเท้าไม่มีแรง มักเริ่มด้วยการฝึกลมหายใจก่อน สังเกตว่าคนที่ไม่เคยฝึกเวลายืนยกขาข้างเดียวมักจะเซ แต่พอมาฝึกไทเก๊กไม่ถึงอาทิตย์ปรากฎว่ายืนยกขาข้างเดียวได้สบาย ที่เขาทำไม่ได้เพราะไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อหรืออวัยวะตรงส่วนนั้นทำให้ไม่มีแรง ทำให้ความสามารถในการใช้เท้าลดลงไปเรื่อย ๆ แต่เมื่อเราเริ่มฝึกวันนี้ก็ทำให้เท้าคู่นี้แข็งแรง และหากฝึกไปเรื่อย ๆ อีกสิบปีข้างหน้าเราก็ยังสามารถใช้เท้าคู่นี้ได้อยู่

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นายมงคลกล่าวว่า ไทเก๊กสามารถทำได้ทุกเวลา อย่างตอนเช้ายืนแปรงฟันอยู่ก็เพียงยืนตรงผ่อนเข่าลงเล็กน้อยให้น้ำหนักตัวลงที่ฝ่าเท้า จะสังเกตน้ำหนักของเราทั้งตัวจะไปเกาะอยู่ตามกล้ามเนื้อ และทรวงอกกระทั่งถึงฝ่าเท้า ฉะนั้นพอยืนไปประมาณ 5 นาที คนที่ฝึกใหม่จะบอกว่าเมื่อย นั่นแสดงว่ากล้ามเนื้อไม่เคยใช้งานเลย หากฝึกต่อไปสักสามสัปดาห์ อย่างในกลุ่ม อสม.กับผู้สูงอายุ ที่พยาบาลได้ไปฝึกถ่ายทอดให้ในหมู่บ้าน บางกลุ่มบอกว่าเจ็บเข่า พอมาฝึกสัก1-2 สัปดาห์จะรู้สึกว่ายืนได้สบาย อาการเจ็บเข่าหาย หรืออย่างคนที่ขับรถเวลารถติดหรือคนที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ก็อาจใช้การฝึกการกำและคลายนิ้วมือทีละนิ้ว ทีละข้อนิ้ว เพราะปกติเรามักกำหรือเหยียดนิ้วทีละสี่นิ้วซึ่งเป็นความคุ้นเคย โดยเฉพาะคนที่อายุ 30-40 ปีขึ้นไป ทั้งที่สมองเราเวลาสั่งงานจะสั่งทีละนิ้ว อันนี้เราต้องฝึกใหม่เริ่มกำทีละนิ้วและเวลาคลายออกก็คลายทีละนิ้ว ส่วนหนึ่งได้บริหารตรงข้อนิ้ว อีกส่วนไปกระตุ้นการทำงานของสมอง และเมื่อทำควบคู่กับการปรับลมหายใจ จะช่วยดึงลมหายใจให้ยาวขึ้น ละเอียดขึ้น ทำไปสักพักจะสังเกตว่าลมหายใจเราจะมีพลัง จากการที่อากาศเข้าสู่ร่ายกายได้ลึกถึงปอดส่วนล่างจึงรู้สึกสดชื่นขึ้น นี่ก็เป็นการบริหารแล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=320 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=320> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นายมงคลกล่าวว่า ลักษณะแบบหนึ่งของคนในปัจจุบันมีทักษะของการใช้มือน้อยลง พลังของฝ่ามือก็ น้อยลง และไม่สามารถส่งแรงไปยังปลายนิ้วได้ ที่น่าห่วงคือนิ้วเท้าสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน เวลาเป็นแผลที่เท้าซึ่งในที่สุดรักษาไม่หายต้องตัดทิ้ง เพราะฉะนั้นทางหนึ่งที่เราจะทำได้คือเราต้องส่งพลังไปถึงปลายนิ้วเท้าให้ได้ พอเรารู้สึกว่าปลายนิ้วมือปลายนิ้วเท้ามีแรง จะเกิดการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างสมบูรณ์ ฉะนั้นเราจะรู้สึกว่าปลายประสาทสัมผัสต่าง ๆ เริ่มสั่งงานไม่ได้ มีการอุดตันและอื่น ๆ เลือดไปไม่ถึงในที่สุดต้องตัดขา ทั้งที่ความจริงฝึกฝนได้ ด้วยการปรับลมหายใจ การเพิ่มพลังของฝ่าเท้า การบริหารข้อต่อ ซึ่งจะทำให้สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างปกติ และยืดอายุการใช้งานของอวัยวะ

นายมงคล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันภาพลักษณ์ใหม่ของไทเก๊กที่ฝึกง่าย ได้ผลโดยตรงต่อสุขภาพกาย-ใจ เริ่มแพร่กระจายไปในสังคมมากขึ้น และจากการดำเนินโครงการพบว่า บุคลากรในโรงพยาบาลเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพสูง มีวินัยในการสร้างเสริมสุขภาพของตนเองน้อยมาก ต้องพึ่งพิงการใช้ยาสูง การกระตุ้นให้บุคลากรในโรงพยาบาลและสถานีอนามัยหันมาสนใจปัญหาสุขภาพของตนเองและมาร่วมทำกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ เช่น ไทเก๊กนั้น สามารถทำได้ไม่ยาก และจะเป็นเครื่องมือหนึ่งให้แพทย์และพยายามนำไปใช้ในการทำงานสร้างเสริมสุขภาพให้กับชุมชน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=102545&page=2

<TABLE class=tborder id=post842534 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 06:48 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #38 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>guawn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_842534", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 07:24 AM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 8,831 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 16,750 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 33,469 ครั้ง ใน 6,064 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 4247


</TD><TD class=alt1 id=td_post_842534 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย รักษาสุขภาพกันบ้างนะครับ
สุขภาพทางกายหาเครื่องนุ่งห่มกันหนาว

สุขภาพทางใจ สิ่งใดที่เป็นทุกข์รู้จักมันแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปอย่านำมาติดที่จิต ความสุข ความทุกข์อยู่ที่เรากำหนด

ความคิดเห็นไม่ตรงกันก็ต้องค่อยๆคุยกัน ฟังความเห็นกันนิดหนึ่ง จุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการสร้างบุญ ก็เหมือนการออกเดินทางไปเชียงใหม่ไปได้ต้องหลายทาง แต่วิธีการไหนละดีที่สุด ประสบการณ์ทำงานบุญนั้นสำคัญนั้นต้องมีเพราะเราต้องหาวิธีที่โปร่งใสที่สุดจัดทำเป็น แนวทางและวิธีการไม่ให้ใครมาว่าทีหลังได้

จงช่วยกันมองพิจารณา และคิดถึงความรู้สึกท่านอาจารย์ปู่หน่อยนะครับ

บทความที่นำมาลงให้อ่านดีมากครับถ้าปฎิบัติตามก็ขออนุโมทนาด้วยครับ แต่ถ้าเพียงหยิบมาไม่ปฎิบัติตามก็เปรียบเหมือนดั่งเถรกวาด
<!-- / message --><!-- sig -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

โมทนาสาธุครับ

.

 

ปัญหาผิวสาว ยามลมหนาวโชย

http://hilight.kapook.com/view/17932


<CENTER>เกร็ดความรู้ บทความ สาระน่ารู้ เรื่องน่ารู้ ข่าว ปัญหาผิวสาว ยามหน้าหนาว มีทั้งโรคเซ็บเดิม โรคสะเก็ดเงิน ผื่นที่หนังศีรษะ และอีกหลากหลายวิธี วันนี้เรารวม เกร็ดความรู้ บทความ สาระน่ารู้ เรื่องน่ารู้ ได้ที่นี่ค่ะ

​

สำหรับใครที่มีอาการผื่นแดงคันที่ใบหน้านั้น น่าจะเป็นโรคเซ็บเดิม (Seborrheic dermatitis) ซึ่งพบในคนไทยบ่อยขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาว เซ็บเดิมเป็นโรคในกลุ่มเดียวกับรังแคและโรคสะเก็ดเงิน ซึ่งเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ไม่ติดต่อ โรคเซ็บเดิมแสดงอาการเป็นผื่นแดงตามหน้าผาก ข้างแก้ม คิ้ว หรือเป็นผื่นมีขุยที่เหนือคิ้ว ร่องจมูก แนวไรผม ​

นอกจากพบผื่นที่ใบหน้าแล้วยังอาจพบผื่นที่หนังศีรษะคล้ายรังแค แต่หนังศีรษะจะมีผื่นแดง และยังพบตามตำแหน่งอื่นๆ ที่มีต่อมไขมันมาก ได้แก่ ในรูหู หลังหู ในสะดือ และหัวเหน่า เป็นต้น ในบางรายอาจมีอาการคัน ตำแหน่งที่พบเซ็บเดิมเป็นตำแหน่งเดียวกับที่พบโรคสิว เพราะพบในบริเวณที่ต่อมไขมันทำงานมากเช่นกัน ​

ในอดีตโรคเซ็บเดิมนี้พบบ่อยในฝรั่ง แต่ปัจจุบันคนไทยมีสภาพความเป็นอยู่คล้ายชาวตะวันตกและมีความเครียดสูงขึ้น จึงทำให้พบอาการเช่นนี้มากขึ้นด้วย ปัจจัยที่ทำให้โรคเซ็บเดิมหรือรังแคของผิวหน้ากำเริบ ได้แก่ ความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ ผิวหน้าแห้ง ล้างหน้าฟอกสบู่บ่อยครั้งเกินไป การโดนแสงแดดจัด ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัด ​

นอกจากนี้ยังพบว่าครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยโรคเอดส์จะเป็นเซ็บเดิมอย่างรุนแรง แต่คนธรรมดาที่ไม่ได้เป็นโรคเอดส์ก็พบโรคเซ็บเดิมได้บ่อย เช่นกัน จึงไม่ควรวิตกกังวลว่าถ้าเป็นเซ็บเดิมแล้วจะต้องเป็นเอดส์เสมอไป ​

แนวทางในการรักษาโรคนี้ คือหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นดังกล่าว หากเป็นมากควรพบแพทย์ผิวหนัง แพทย์อาจพิจารณาให้ยาทาที่เหมาะสม เช่น ครีมทาลดเชื้อยีสต์ หรือครีมสเตียรอยด์อย่างอ่อน เนื่องจากโรคนี้มักเป็นๆ หายๆ คุณจึงไม่ควรวิตกกังวลมากเกินไป เพราะทำให้เครียดและโรคจะยิ่งกำเริบขึ้น​

ข้อมูลจาก

ที่มจาก : นิตยสาร Health Today
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต​

</CENTER>

 

8 วิธี ฟื้นฟูจิตใจ

http://hilight.kapook.com/view/17926



<CENTER>ข่าว รายงาน ความรู้ เกร็ดความรู้ บทความ ไม่ว่าคุณจะเศร้า เหงา กังวล ท้อแท้ หวาดกลัว หรือผิดหวัง เมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรค อย่าเพิ่งถอดใจยอมแพ้นะคะ ชีวิตนี้ยังมีเรื่องดีๆรออยู่อีกมากมาย วันนี้ มีเคล็ดลับ รายงาน ความรู้ เกร็ดความรู้ บทความฟื้นฟูจิตใจ ให้คลายจากความเครียด วิตกกังวล และหมองเศร้า มาฝากค่ะ

​

ไม่ว่าคุณจะเศร้า เหงา กังวล ท้อแท้ หวาดกลัว หรือผิดหวัง เมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรค อย่าเพิ่งถอดใจยอมแพ้นะคะ ชีวิตนี้ยังมีเรื่องดีๆรออยู่อีกมากมาย สัปดาห์นี้ มีเคล็ดลับฟื้นฟูจิตใจ ให้คลายจากความเครียด วิตกกังวล และหมองเศร้า ถือเป็นการปัดฝุ่นละอองในหัวใจ ...ลดความขุ่นมัวในอารมณ์
1) ทำอะไรช้าลง เช่น ออกเดินทางไปที่นัดหมายเร็วกว่าปกติ 10 นาที ชีวิตจะเร่งรีบน้อยลงและเครียดน้อยลง
2) ใกล้ชิดธรรมชาติ ต้นไม้จะช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา และเป็นกุญแจไขไปสู่ความสุข
3) หาสัตว์มาเลี้ยง เพื่อผ่อนคลายความเครียด และช่วยคลายเหงา เช่น สุนัข, แมว และปลาทอง
4) ยิ้มสู้เข้าไว้ การยิ้มหรือหัวเราะ ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาน้อยลง
5) ให้รางวัลความสำเร็จกับตัวเอง หาเวลาพักสักนิดจิบชากาแฟสักหน่อย ก่อนจะเริ่มลุยงานชิ้นต่อไป
6) อย่ากลัวที่จะเอ่ยปากขอความช่วยเหลือ เมื่อรู้สึกว่าเก็บกดทนไม่ไหว หาตัวช่วยด่วนจี๋ อย่าปล่อยทิ้งไว้เป็นขยะอารมณ์
7) อ่านหนังสือ ไม่มีอะไรจะหันเหความเศร้าได้ดีไปกว่าการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม
8) ใช้วันหยุดให้เป็นประโยชน์ ถ้าเครียดนัก ลองลาพักร้อนยาวๆ จะช่วยทำให้สมองโล่ง จิตใจสงบขึ้น ​

ข้อมูลและภาพประกอบจาก
​

</CENTER>

 

http://palungjit.org/showthread.php?t=100183&page=8

<TABLE class=tborder id=post842535 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 06:51 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #141 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>guawn<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_842535", true); </SCRIPT>
สมาชิก ยอดนิยม
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:13 AM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 8,831 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 16,752 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 33,506 ครั้ง ใน 6,067 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 4251


</TD><TD class=alt1 id=td_post_842535 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->ผู้ร่วมทำบุญ รับเหรียญเบญจพิทักษ์

คุณ nongnooo 2 เหรียญ* ร่วมทำบุญ 2,000 บาท

คุณ kwok 2 เหรียญ ร่วมทำบุญ 2,000 บาท

คุณ pondkantana 5 เหรียญ* ร่วมทำบุญ 5,000 บาท

คุณ พุทธันดร 2 เหรียญ ร่วมทำบุญ 2,000 บาท

คุณ aries2947 1 เหรียญ* ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ chaipat+คุณ sithiphong 1 เหรียญ* ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ ต่อกิจ 1 เหรียญร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ ตั้งจิต 3 เหรียญ* ร่วมทำบุญ 3,000 บาท

เพื่อนพี่หนุ่ม 2 เหรียญ* ร่วมทำบุญ 2,000.22 บาท

คุณ เทพารักษ์ 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 1,050 บาท

คุณ drmetta 2 เหรียญ ร่วมทำบุญ 2,000 บาท

คุณ wichitt 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

ศ.รุ่งเรือง 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ newcomer 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ อายุมั่น 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ thanyaka 1 เหรียญ*ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

คุณ คนสวนพลู 1 เหรียญ ร่วมทำบุญ 1,000 บาท

พี่แอ๊ว 2 เหรียญ*
คุณ sira 1 เหรียญ*
คุณ คุณ กุ้งมังกอน1 เหรียญ*

ยอดทำบุญรวม 28,050.22 บาท
<!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ทำความสะอาดกระจกเงาส่องหน้าให้ใส
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=49525&NewsType=2&Template=1

<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD><TD vAlign=top>วิธีการทำความสะอาดกระจกเงาส่องหน้าให้ใสคือ...

นำยาสีฟันมาบีบใส่ไว้บนกระจกแล้วหาผ้าชุบน้ำมา เช็ดยาสีฟันที่บีบทิ้งไว้บนกระจก โดยถูให้ทั่วๆ กระจก แล้วใช้ผ้าเช็ดอีกครั้ง

กระจกเงาที่หมอง จะดูเงางาม เป็นประกายทันที
</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ทำความสะอาดกระจกเงาส่องหน้าให้ใส
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีทำความสะอาดคราบตะกอนที่ติดฝักบัวอาบน้ำ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีประหยัดไฟตู้เย็น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีแก้กลิ่นอับจากการถูพื้น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ทานวิตามินเกินกำหนดก่อให้เกิดโทษ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">น้ำมะนาวช่วยขจัดรังแค
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ประโยชน์ของคึ่นไฉ่
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">วิธีบริหารขาก่อนเข้านอน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">ยาคุมกำเนิดทำให้กระดูกอ่อนแอ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">แอปเปิ้ลช่วยดับกลิ่น
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=49183&NewsType=2&Template=1
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2550

 

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=49183&NewsType=2&Template=1


ทีนี้หันมาดูในวงการ “พระเครื่อง” ของเราบ้างกระบวนการทำมาหารับประทานในวงการนี้ถ้าเป็นเรื่องการหลอกลวงกันละก็พวก “๑๘ มงกุฎ” ที่หากินทั้งการ “ตกทอง, หลอกขอบัญชี ฯลฯ” ต้องชิดซ้ายตกขอบไปเลยแถมยังซูฮกเรียกพี่เลยล่ะครับผู้อ่าน เพราะส่วนใหญ่การทำมาหารับประทานหลอกหลวงกันในวงการพระจะมาจากการหลอกขาย “พระปลอม” กันมากกว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งประเด็นสำคัญที่พวกนี้จะนำมาหลอกลวงกันก็คือเรื่องของ “ความโลภ” ไม่ว่าจะเป็นตกทองหรือโอนเงินก็ล้วนมาจากพื้นฐานเดียวกันคือ “ความโลภ” ด้วยกันทั้งสิ้นพวกนักต้มตุ๋นมักจับจุดเรื่องความโลภของผู้คน จากนั้นจึงนำจุดนี้มากระตุ้นต่อมความอยากเป็นเหตุให้ถูกหลอกได้โดยง่าย

เพื่อนของผู้เขียนมีความศรัทธาในวัตรปฏิบัติและปฏิปทาของ “หลวงพ่อเทียม” แห่ง “วัดกษัตราธิราช” มาก ด้วยเหตุที่ “หลวงพ่อเทียม” มีความเชี่ยวชาญในตำรา “พิชัยสงคราม” ของ “สมเด็จพระพนรัตน์วัดป่าแก้ว” และที่สำคัญท่านยังเป็น “พระเกจิอาจารย์” ที่ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” ทรงเคารพนับถือมากเพราะท่านมีความเชี่ยวชาญในศาสตร์ทุกแขนงไม่ว่าจะเป็น “ไสยเวท, ศิลปกรรมวิจิตรศิลป์, สถาปัตยกรรม, ช่างสิบหมู่, กระบี่กระบอง, ค่ายกล ศึก ฯลฯ” เนื่องจาก “หลวงพ่อเทียม” (ภายหลังได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ “พระวิสุทธาจารเถระ”) ได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมายและเป็นที่นิยมของชาว จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ปัจจุบัน “ของแท้” หายากมากจึงมี “ของปลอม” มาแทนที่เป็นขณะที่เพื่อนผู้เขียนออกตามล่าหาวัตถุมงคลของ “หลวงพ่อเทียม” แล้ววันหนึ่งไปเจอ “นักหาของ” ที่รู้จักกันดีมาบอกว่าไปเจอวัตถุมงคลของ “หลวงพ่อเทียม” ซึ่งเป็น “รังใหญ่” เนื่องจาก “เจ้าของ” เป็นหลานแท้ ๆ ของ “หลวงพ่อเทียม” เพื่อนผู้เขียนก็แสนยินดีจัดแจงนำเงิน “ร่วมล้านบาท” ไปเหมามาโดยผ่าน “นักหาของ” เพราะเชื่อใจกันจึงไม่ได้นำ “วัตถุมงคล” ไปตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน

สุดท้ายมาทราบทีหลังว่าสูญเงินไปร่วม “ล้านบาท” ก็ต่อเมื่อนำวัตถุมงคลมาแขวนคอเพื่อไป “อวดเซียน” ที่พอเห็นเซียนกลับทักว่าเป็น “ของปลอม” เพื่อนผู้เขียนเลยตื่นตัวรีบนำวัตถุมงคลที่เหมามาไป “ตรวจสอบ” จากผู้รู้ก็เลยได้รู้ว่าเป็น “ของปลอม” แทบทั้งหมดเช่นกันจึงนำไปคืนแต่ “นักหาของ” ผู้นั้น “ล่องหน” ไปอยู่หนใดแล้วไม่รู้ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นก็เพราะเพื่อนผู้เขียนบังเกิด “ความโลภ” นั่นเองเนื่องจาก “วัตถุมงคล” ที่เหมามาหากเป็น “ของแท้” ถ้านำไปขายก็จะมีมูลค่า “ล้านกว่า ๆ” กำไรเห็น ๆ แต่เพราะ “ความโลภ” และ “เชื่อใจ” กันแท้ ๆ จึง “โดนเต็มเปา”.

‘นายรู้ลึก แสนรู้ชัด’

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: top; TEXT-ALIGN: left"><TABLE id=Table1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=message-bold>คอลัมน์ย้อนหลัง</TD></TR><TR><TD><TABLE id=ctl00_ContentPlaceHolder1_ctl00_Popup_news_15_oldcolumn1_dlsOColumn style="WIDTH: 100%; BORDER-COLLAPSE: collapse" cellSpacing=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘การหลอกลวงต้มตุ๋น’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">สถานการณ์ ‘จตุคามรามเทพ’ ‘เป็นเช่นไร’ ในภาวะปัจจุบัน
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘เก่าไม่ทราบที่’ ก็คือ ‘ของเก๊ๆ นั่นเอง’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘พระสมเด็จวัดระฆังปลอม’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การปลอม ‘พระสมเด็จวัดระฆัง’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘พระสมเด็จวัดระฆัง’ ปลอม
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">การปลอมพระสมเด็จวัดระฆัง
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘พระสมเด็จวัดระฆังปลอม’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘พระสมเด็จวัดระฆังเก๊’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><TABLE id=Table3 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD style="WIDTH: 14px" vAlign=top></TD><TD class=message-normal style="WIDTH: 100%">‘พระสมเด็จวัดระฆังปลอม’
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​