เมื่อความตายคืบคลานเข้ามาหาเราทุกวัน ทางหนีไม่มี (เหมือนสุนัขจนตรอก) ทำได้เพียง ตั้งรับและตั้งสู้ อย่างมีสติ เพราะกลัวก็ตาย ไม่กลัวก็ตาย ลองตั้งสู้และตั้งรับกันดูซักชาตินึง ก่อนหน้านี้ซักสองเดือนข้าพเจ้าย้อนระลึกถึงความรู้สึกตอนตั้งครรภ์ แล้วนำมาเปรียบกับความรรู้สึกกลัวตาย ของตนเองในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ลดทอนความกลัวลงได้ระดับนึงทีเดียว เมื่อเริ่มตั้งครรภ์เราเฝ้าระวังความปลอดภัยในภาวะนี้ และรู้สึกกลัวกับภาวะนี้ไปพร้อมๆ กันด้วย กลัวเด็กไม่แข็งแรง กลัวว่าตัวเองจะตายมั้ยหากการคลอดมีปัญหา ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ถึงตอนนี้ผ่านมาด้วยดีและปลอดภัย ทั้งตนเองและเด็ก และเห็นว่า ความกังวล ความกลัว ต่างๆ นาๆ สารพัดนั้น ส่วนมากเป็นการคิดไปเองซึ่งก่อให้เกิดทุกข์ ด้วยในเคสของข้าพเจ้ามีภาวะเสี่ยงจากโรคโปลิโอ(ที่ยังเดินและทำหลายอย่าง ได้)ของตนเอง เมื่อจับมาโยงกับหลักธรรม ในเรื่องของการกลัวตาย ก็ทำให้ความกลัวลดลง ได้เป็นอย่างดี เริ่มที่ ทาน คือ การให้ให้ทั้งตนเองและเด็ก ทั้งอาหารกายและอาหารใจ ต่อมา ศีล คือ ที่เปรียบเหมือนแกราะกันภัยนั้น ได้แก่ การเฝ้าระวังตน ไม่ให้รับสิ่งไม่มีประโยชน์เข้ามาในตน เช่น การดื่มสุรา ยาสูบ กาแฟ ฯลฯ ถูกงดเว้นขาด นี้ก็เหมือนกับการทำเหตุให้ดี ผลเป็นไงไม่รู้ แต่พอเดาได้ว่า ต้องดี เพราะทำเหตุไว้ดีที่สุดแล้ว เปรียบเหมือนศีลครบ ตรงกันข้าม หากเราไม่เฝ้าระวังตน นำสิ่งไม่มีประโยชน์มาสู่ตนและเด็กในครรภ์ เช่น ดื่มสุรา ยาสูบ กาแฟ ฯลฯ นี่เปรียบได้กับการล่วงศีลเป็นการทำเหตุ ที่ไม่ควรอย่างยิ่ง ผลเป็นไงไม่รู้ แต่พอเดาได้ว่า ทั้งแม่และเด็กอาจไม่ ปลอดภัยจาก โรคร้ายต่างๆ นาๆ ที่จะตามมามากมาย และก่อให้เกิดทุกข์ยาวนานต่อเนื่อง ทั้ง กายและใจ เปรียบเหมือนศีลพร่อง สุดท้าย ภาวนา คือ การทำใจให้มีสติควบคุมทุกอย่างไว้ แม้กลัวแค่ไหนก็ตาม กำลังใจจากการได้ทำดีที่สุดแล้วนั้น ย่อมส่งผลเอง ตามเหตุและปัจจัย ซึ่งผลในทางโลกจากวันนั้นถึงวันนี้ ทุกข์เกิดน้อยมาก โรคภัยเบียดเบียนน้อย มาก (ไม่รวมทุกข์จรนะ ฮี่ๆ แบบว่าค่านมช๊อต) แต่แม้ทุกข์จรนี้ก็ยังบรรเทาได้ ด้วยสติและปัญญา ในการใช้จ่ายอย่างเฝ้าระวัง และที่โยงมาเรื่องความตายนั้น สำหรับผู้หญิงที่มีคนเปรียบไว้ว่า การคลอดลูกก็ไม่ต่างจากผู้ชายออกรบ เหมือนมีความตายรออยู่เบื้องหน้า แต่ถึงเวลาเมื่อทำเหตุไว้ดีแล้ว ความตายก็อาจไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เมื่อเฝ้าระวังรักษากายใจให้ดีแล้วเชื่อว่าถึงเวลาที่กายสลายไปอย่างธรรมชาติ แม้จะยังไม่รู้ผล แต่ก็ไม่น่าห่วงอะไร เพราะทำเหตุไว้ดีแล้ว ตอนคิดข้อมูลเยอะและเร็วมาก แต่ถ่ายทอดมาแชร์ได้เท่านี้ ^^ ยังมีลุ้นระทึกด้วยการนั่งสามล้อถีบ ไปคลอด ย้อนคิดไปแล้วก็ฮาดี เหอะๆ ชีวิต..
ครับเรื่องร้ายที่ฮาไม่ออกในตอนที่มันเกิดกลายเป็นของฮาได้ในภายหลัง นี่คือสภาพอนัตตาที่ไม่อยู่ในบังคับบัญชาของใครจริงๆ วัตถุอารมณ์เดียวกันแท้ๆ.. เเต่มาปรากฏให้ได้รับรู้คนละขณะ ก็เป็นที่มาของเวทนาที่แตกต่างกันได้อย่างน่าแปลก !!..พระธรรมของพระพุทธองค์เป็นของอัศจรรย์ที่แสดงความจริงในธรรมชาตินี้ได้ชัดเจนที่สุด..!! มุทิตากับการอาศัยทุกข์เพื่อเข้าถึงธรรมของท่านผ่อนกรรมด้วยขอรับ .. และอนุโมทนาในข้อธรรมที่นำมาแสดงในที่นี้ด้วยครับ.. เอ...ท่านผ่อนฯคงไม่ได้เป็น polio ใช่ใหมครับ?..บุญรักษาครับ..
มาคิดๆ ดูแล้ว... ข้าพเจ้าว่าในโลกนี้ยังมีอะไรน่ากลัวกว่าความตายตั้งเยอะ อาทิเช่น... สงคราม คอรัปชั่น นักการเมือง ดอกเบี้ย...........และ.... v v v v v v v v v v v .........