ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ขออนุโมทนาด้วยนะครับคุณริสา

สาธุ สาธุ สาธุ

.........................................

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: เติมเต็มทักษะต่างๆของพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า
(Perfecting your skills as a co-creator)

ประจำเดือน: สิงหาคม 2013
ผู้รับสาน์ส: นาง Ronner Herman

ที่มา:
The Golden Angel » “PERFECTING YOUR SKILLS AS A COCREATOR” – August 2013 (Ronna Herman)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ตอนที่ 1:


ท่านคุรุทั้งหลาย หลายปีมานี้มันมีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆและการค้นพบใหม่ๆทางวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นมากมาย
และนอกจากนี้มันก็ยังมีหลักปรัชญาและข้อมูลข่าวสารด้านจิตวิญญาณต่างๆมากมาย
ที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาสู่ความคิดและจิตใจของมนุษย์โลกอยู่ในขณะนี้ จนท่วมท้นไปหมด
จนทำให้สมองของมนุษย์ ยากที่จะซึมซับเอาทฤษฎีและแนวความคิดใหม่ๆจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านี้ไว้ได้หมด
โดยที่ไม่ทำให้เกิดอาการ Overload ได้

พวกคุณกำลังอยู่ในท่ามกลางกระบวนการ
ที่มีความสำคัญมากๆกระบวนการหนึ่ง
ซึ่งมันเป็นขั้นตอนที่สลับซับซ้อน
ของการเลือกและการเนรมิตโชคชะตา
ของโลกยุคใหม่ สำหรับพวกคุณเอง
ซึ่งมันจะค่อยๆกลายไปเป็นโลกแห่งความเป็นจริง
ที่ดีกว่าและรุ่งเรืองกว่าสำหรับพวกคุณในวันพรุ่งนี้

ซึ่งสิ่งที่พวกคุณเลือก หรือก็คือสิ่งที่พวกคุณ
ไปจดจ่อให้ความสนใจทั้งหลายนี้
บวกกับความแจ่มชัด และพลังอำนาจ
ของความคิดและการกระทำของพวกคุณเอง
ก็คือสิ่งที่จะเป็นตัวกำหนดว่า
ความปราถนาทั้งหลายของพวกคุณ
จะถูกเนรมิตออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้
ได้ช้าหรือเร็วแค่ไหน นั่นเอง

มันมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ที่พวกคุณจะต้องเรียนรู้
ที่จะควบคุมจิตใจของตัวเองให้ได้
และเรียนรู้ที่จะทำให้ความสามารถ
ในการจดจ่อความสนใจของตัวเองเข้มแข็งขึ้นให้ได้
(มีสมาธิเข้มแข็งมากขึ้น – ผู้แปล)

และรวมถึง เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์
และความคิดของตัวเองให้ได้ด้วย
เพราะว่าของขวัญและโอกาส หรือ
สิ่งที่เบื้องบนกำลังประทานลงมาให้กับพวกคุณอยู่นี้
จำเป็นจะต้องถูกใช้ควบคู่ไปกับ
การมีวินัยในตัวเองอย่างเข้มงวด
และถูกใช้ควบคู่ไปกับการมีความรับผิดชอบอย่างสูงด้วย

การมีความตระหนักรู้ที่คมชัด เกี่ยวกับอารมณ์และความคิดของตนเอง
คือองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่สำคัญอย่างมากของกระบวนการสร้างสรรค์ร่วม
(co-creation) เพราะว่า มันจะเป็นตัวกำหนดว่า ระดับความสั่นสะเทือน
ที่พวกคุณจะแผ่ส่งออกมา สู่ “วงล้อแห่งรังสีทั้ง 12 ของพระผู้สร้าง”
(Twelve Ray Creator Wheel) ส่วนตัวของพวกคุณนั้น จะเป็นอย่างไร

เพราะว่าคลื่นความถี่ของ “เมล็ดพันธุ์แห่งความคิด” (Seed thought) ที่พวกคุณจะบ่มเพาะลงไป
ใน “วงล้อแห่งการสร้างสรรค์” (Wheel of Creation) ของพวกคุณเองนั้น
จะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของสิ่งที่พวกคุณจะเนรมิตออกมา และก็จะเป็นตัวกำหนด
สิ่งที่พวกคุณจะได้ประสบ ในชีวิตประจำวันของพวกคุณเองด้วย
ไม่ว่าจะเป็นด้านลบหรือด้านบวกก็ตาม

และ สิ่งเหล่านี้แหละ คือสิ่งที่จะบ่งบอกให้พวกคุณทราบว่า
พวกคุณกำลังแผ่ส่งคลื่นความสั่นสะเทือนแบบไหนออกมา
สู่ “โลกแห่งเหตุและผล” (the World of cause and effect) ใบนี้อยู่

.............................

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: เติมเต็มทักษะต่างๆของพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า
(Perfecting your skills as a co-creator)

ประจำเดือน: สิงหาคม 2013
ผู้รับสาน์ส: นาง Ronner Herman

ที่มา:
The Golden Angel » “PERFECTING YOUR SKILLS AS A COCREATOR” – August 2013 (Ronna Herman)

ตอนที่ 2:


หน้าที่หรือเป้าหมายหลักของพวกคุณในช่วงเวลานี้ก็คือ
การพัฒนา “สติสัมปชัญญะ” ของตัวเองให้ดีขึ้น

เพราะว่าในขณะนี้ พวกคุณกำลังเคลื่อนที่ลึกลงไปเรื่อยๆในแก่นกลางของ
“อะตอมต้นกำเนิด” (Seed Atom) ที่อยู่ภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์
และ อยู่ภายในจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเองอยู่ และ ณ.ที่ตรงนั้นเอง
ที่พวกคุณจะได้พบกับความเข้มแข็งและการชี้น้ำทางทุกๆอย่าง ตามที่พวกคุณปราถนา

และเมื่อใดที่พวกคุณ สามารถพัฒนาความสามารถในการสร้างสรรค์ร่วมของตัวเองได้แล้ว
และมีความเชี่ยวชาญในการควบคุมจิตใจของตัวเองได้มากขึ้นแล้ว
รวมถึงมีความเชี่ยวชาญในการจินตนาการมากขึ้นแล้ว

พวกคุณก็จะเข้าใจว่า การเฝ้าติดตามดู
คลื่นความถี่ที่ตัวเองแผ่ส่งออกไปสู่โลกภายนอกนั้น
มีความสำคัญมากเพียงใด

จงมีสติระลึกรู้อยู่เสมอว่า พวกคุณกำลังอาศัยอยู่ในโลกแห่งพลังงานเอกภพ
ที่มีความเป็นกลางและกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา
ซึ่งก็คือพลังงานแห่งการสร้างสรรค์นั่นเอง

และพลังงานเหล่านี้ พวกมันก็กำลังรอคอยพวกคุณให้ปั้นแต่งพวกมันขึ้นมาเป็นอะไรก็ได้
เท่าที่พวกคุณจะสามารถจินตนาการไปถึงได้อยู่ ดังนั้น พวกคุณจะสร้าง “สวรรค์” หรือ “นรก”
ขึ้นมาให้กับตัวเองก็ได้ และเพราะฉะนั้น พวกคุณจึงไม่สามารถโทษใครได้เลย
สำหรับโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณกำลังประสบอยู่ในขณะนี้

พวกคุณคือ “ประกาย” (Spark) หนึ่งของพระผู้สร้างอันศักดิ์สิทธิ์
และในตอนที่พวกคุณได้รับมอบของขวัญแห่งการมีจิตสำนึกเป็นของตัวเองมานั้น
ซึ่งก็คือความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์แบบเป็นเอกเทศน์ของตัวพวกคุณเองนั่นเอง
พวกคุณได้รับประกาศิตมาด้วยพร้อมกันนั้นว่า

“จงไปเสีย แล้วไปสร้างโลกต่างๆขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในนามของข้า”

แล้วนับตั้งแต่นั้นมา นานแสนนานเกินกว่าจะจดจำได้แล้ว พวกคุณก็ได้ทำการทดลอง,
ได้พากเพียรพยายาม, ได้เรียนรู้, และก็ได้ประสบผลสำเร็จหลายต่อหลายครั้งแล้ว
แต่ก็มีหลายต่อหลายครั้งอีกเหมือนกัน ที่พวกคุณประสบกับความล้มเหลว

แต่ทว่า..พวกคุณก็มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
และในขณะนี้ พวกคุณก็กำลังได้รับมอบโอกาส
แห่งการเป็นผู้ร่วมสร้างโลกยุคใหม่ หรือ โลกยุคทอง (Golden Age)
อย่างเต็มภาคภูมิอยู่

................................

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: เติมเต็มทักษะต่างๆของพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า
(Perfecting your skills as a co-creator)

ประจำเดือน: สิงหาคม 2013
ผู้รับสาน์ส: นาง Ronner Herman

ที่มา:
The Golden Angel » “PERFECTING YOUR SKILLS AS A COCREATOR” – August 2013 (Ronna Herman)

ตอนที่ 3:


การบูรณาการเอา คุณงามความดี, คุณภาพ และ คุณสมบัติต่างๆ ของตัวตนที่สูงส่งกว่า
ของพวกคุณเองเข้ามา และการทำให้พวกมันสมบูรณ์แบบขึ้นมานั้น เป็นกระบวนการที่
จะต้องค่อยเป็นค่อยไป และบรรดา “ประกาย” (Spark) จำนวนมากมายมหาศาล
ของ “ตัวตนภาคที่เป็นพระเจ้า” (your God Self) ของพวกคุณเองนั้น
ก็มีข้อมูลข่าวสารอยู่จำนวนมากมายมหาศาลอยู่เช่นเดียวกัน

เพราะว่าแต่ละ “เหลี่ยมมุม” ของพระผู้เป็นเจ้านี้ ก็จะมีประสบการณ์และความสำเร็จอันน่าพิศวง
อยู่ในตัวเองอย่างมากมายก่ายกอง ที่จะแบ่งปันกับพวกคุณด้วย และรวมถึง
ยังมี “ความรักอันศักดิ์สิทธิ์”, ความปิติสุขอันศักดิ์สิทธิ์ และ ความเบิกบานอันศักดิ์สิทธิ์
ที่จะมอบให้กับพวกคุณอีกด้วย

“อะตอมต้นกำเนิด” (Seed Atom) แต่ละอะตอม ของ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า”
หรือของ “จิตวิญญาณ” ของพวกคุณ ที่พวกคุณบูรณาการเอาเข้ามาในตัวเองนั้น
จะช่วยพวกคุณให้ได้รับของขวัญอันวิเศษแห่งการมีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพระผู้เป็นเจ้า
(gift of God Consciousness) มากขึ้น

ซึ่งได้แก่ ความสามารถ, พรสวรรค์,
และภูมิปัญญา ที่ยิ่งใหญ่
เกินกว่าที่พวกคุณจะสามารถจินตนาการไปถึงได้

มันเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด
ที่พวกคุณจะต้องเรียนรู้ที่จะเป็นผู้ควบคุมพลังชีวิตทุกๆชนิดให้ได้
อย่างมีสติสัมปชัญญะ เพื่อที่พวกคุณจะได้กลายเป็น
“ผู้สร้างร่วม” (cocreator) ที่เชี่ยวชาญให้ได้

พวกคุณจะต้องสามารถ “ประคอง” ความคิดของตัวเอง
เอาไว้ให้ได้นานมากพอ เพื่อที่จะให้มัน
สามารถถูกรับรู้และจดจำ
โดยสมองของพวกคุณได้อย่างชัดเจน

เพราะว่าทุกๆเหตุการณ์ และ ทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่ถูกเนรมิตให้ปรากฎขึ้นมาในโลกแห่งวัตถุธาตุทางกายภาพนี้
ล้วนเป็นผลลัพธ์มาจากพลังงานและพลังของความคิดด้วยกันทั้งสิ้น
ไม่ว่าพลังงานเหล่านี้จะถูกใช้ไปในทางที่ถูกหรือผิดก็ตาม

จงจำไว้ว่า “ลมหายใจ” คือผู้นำพา “พลังงานแห่งชีวิต” มาให้
และในหลายปีข้างหน้านี้ มนุษย์โลกก็จะได้เข้าใจว่า “ลมหายใจเป็นของศักดิ์สิทธิ์”
เพราะว่ามันคือของขวัญแห่งชีวิต และพวกคุณก็จะได้เรียนรู้ที่จะไม่ทำให้มันสูญเสียไปเปล่าๆด้วย

ดังนั้น ทุกๆครั้งที่พวกคุณหายใจเข้าไปนั้น จงตระหนักรู้ไว้ด้วยว่า
มันเป็นเพียงลมหายใจเดียว ที่พวกคุณสามารถแน่ใจได้ว่า
พวกคุณยังคงมีลมหายใจอยู่ เพราะว่ามันอาจจะเป็นลมหายใจสุดท้ายของพวกคุณก็ได้

ที่รักทั้งหลาย มันเป็นสิ่งจำเป็น ที่พวกคุณจะต้องใช้เวลาในการคิดใคร่ครวญ
และบูรณาการเอาแนวคิดที่สำคัญๆเกี่ยวกับ “การสร้างสรรค์” (Creation) เหล่านี้
ที่พวกเรากำลังจะถ่ายทอดให้กับพวกคุณอยู่นี้ เข้าไปให้ได้

พวกคุณคือ Star Seed พวกคุณคือผู้ที่สามารถทำให้ตัวเอง
มีระดับคลื่นความถี่แห่งความสอดประสานกลมกลืนกัน
อยู่ในระดับเท่าที่ต้องการได้แล้ว

บัดนี้ พวกคุณพร้อมแล้ว ที่จะนำเอาทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่พวกคุณได้เรียนรู้มา มาปฏิบัติใช้จริง

และเมื่อพวกคุณทำเช่นนั้นแล้ว ผู้คนที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณ
ที่ยังคงติดอยู่ในกรอบอันคับแคบของสภาวะแวดล้อมของมิติที่ต่ำๆกว่าอยู่
ก็จะรู้สึกประหลาดใจในความสำเร็จของพวกคุณ
แล้วจากนั้นพวกเขาก็จะค่อยๆเริ่มทำตามอย่างพวกคุณบ้าง

และก็อย่างที่พวกคุณรู้กันแล้วว่า การสอนโดยการทำให้เห็นเป็นตัวอย่างนั้น
คือวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่จะทำให้ผู้คนรอบข้างของพวกคุณ
หันมาให้ความสนใจ ดังที่มีคำกล่าวไว้ว่า

“ผลพวงจากความอุตสาหะของพวกคุณ จะทำให้คุณเป็นที่รู้จัก”
(By the fruits of your labor, you will be known)

..........................

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: เติมเต็มทักษะต่างๆของพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า
(Perfecting your skills as a co-creator)

ประจำเดือน: สิงหาคม 2013
ผู้รับสาน์ส: นาง Ronner Herman

ที่มา:
The Golden Angel » “PERFECTING YOUR SKILLS AS A COCREATOR” – August 2013 (Ronna Herman)

ตอนที่ 4:


จงศึกษาแนวความคิดเหล่านี้เอาไว้ให้ดี จนกว่าพวกมันจะถูกตราตรึงเอาไว้
ในความทรงจำของพวกคุณอย่างแน่นหนาได้ เพราะว่าพวกมันคือส่วนหนึ่งของ
“กฎแห่งการเนรมิต” (Laws of Manifestation) และพวกมันก็เป็นองค์ประกอบ
ที่มีความสำคัญอย่างมาก ต่อการบรรลุเป้าหมายแห่งการกลายเป็น “คุรุแห่งการเนรมิต”
(Master of Manifestation) ของพวกคุณซะด้วย

1). จงทำตัวเป็น “ผู้ดู” หรือ “ผู้สังเกตการณ์” เท่านั้น
โดยไม่เข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ กับเรื่องราวด้านลบทั้งหลาย
ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่รอบๆตัวพวกคุณอยู่ในขณะนี้ทั้งสิ้น

มันคือสภาวะอารมณ์ของพวกคุณเองนั่นแหละ
ที่จะดึงดูดพวกคุณ ให้เข้าไปอยู่ในวังวนด้านลบต่างๆเหล่านั้น
แต่ถ้าพวกคุณแผ่ส่งแต่รูปแบบคลื่นความถี่ระดับสูง
แห่งความสอดประสานกลมกลืนกันออกมาอยู่ตลอดเวลาแล้วหละก็
พวกคุณก็จะสามารถต้านทานต่อพลังงานที่ไม่สอดคล้องกลมกลืนกัน
ที่อยู่รอบๆตัวพวกคุณเหล่านั้นได้

2). พวกคุณกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการ
แผ่ขยายความตระหนักรู้ของตัวเอง เพื่อรับรู้ถึง
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นรอบๆตัวพวกคุณเองอย่างมีสติสัมปชัญญะอยู่

และเพราะฉะนั้นแล้ว มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวด
ที่พวกคุณจะต้องรักษาสภาวะจิตใจของตัวเอง
ให้อยู่ใน “อุเบกขา” ให้ได้อยู่เสมอ

พวกคุณกำลังพัฒนาวิถีการคิดแบบใหม่อยู่
ซึ่งจะเป็นวิถีการคิดแบบที่มีการควบคุมอารมณ์และจิตใจของตัวเอง

3). อันดับแรก พวกคุณจะต้อง “ตระหนักรู้ถึงความเป็นตัวตนของตัวเอง”
(Self-awareness) ให้ได้ซะก่อน แล้วจากนั้น
พวกคุณถึงจะมี “ความตระหนักรู้ถึงจิตวิญญาณ”
(Soul-Consciousness) ของตัวเอง
แล้วจากนั้นจึงจะตามมาด้วยการมี “จิตสำนึกระดับกาแล็กซี่”
และสุดท้ายจึงจะเป็นการมี “จิตสำนึกระดับจักรวาลย่อยแห่งนี้”

พวกคุณกำลังมุ่งหน้าเพื่อเข้าไปสู่
“กระแสความตระหนักรู้อันไม่มีที่สิ้นสุด”
(the steams of Infinite Awareness) อยู่

และรวมถึงเพื่อเข้าไปสู่ปิระมิดแห่งแสงสว่างขนาดมหึมาทั้งหลายอยู่
ที่บรรจุการเนรมิตแห่งเอกภพ (the Cosmic Manifest) เอาไว้
เพื่อทำให้พิมพ์เขียวศักดิ์สิทธิ์สมบูรณ์แบบขึ้นมา
เพื่อที่จะมีประสบการณ์กับจักรวาลย่อยแห่งนี้

4). และพวกคุณก็กำลังพัฒนาความอ่อนไหวทางอารมณ์ของตัวเอง
เพื่อที่จะตอบสนองต่อผู้ที่พวกคุณเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
ให้สูงขึ้นและให้สามารถควบคุมได้มากขึ้นอยู่
ซึ่งก็จะรวมถึงความสามารถในการรับรู้
และเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นด้วย
แต่ก็จะเป็นไปในแบบที่มีอุเบกขา

ซึ่งนี่แหละคือส่วนที่มีความสำคัญอย่างมาก
ในการพัฒนา “การไม่ตัดสินชี้ถูกผิดใครหรือสิ่งใด” หละ

แล้วพวกคุณก็จะสามารถเสาะแสวงหาสัจธรรมของตัวเอง,
ประกาศสัจธรรมของตัวเอง และประพฤติธรรมของตัวเอง
ได้อย่างขยันขันแข็ง จนสุดความสามารถของตัวพวกคุณเอง

และในขณะเดียวกันนั้น พวกคุณก็จะยินยอมให้คนทุกๆคน
มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นเดียวกันนี้ได้ด้วย

5). จงอย่ายินยอมให้ใครหรือสิ่งใด
มาทำให้ความสงบภายในของพวกคุณถูกรบกวนได้

จงพัฒนาระดับความอดทนอดกลั้น
และความอ่อนไหวทางอารมณ์ของตัวเองให้สูงขึ้น
และจงพากเพียรฝึกฝนให้ตัวเองมีความอดทนมากขึ้น
และโกรธช้าลง

6). ในขณะที่พวกคุณกำลังแสวงหาการเป็นนายเหนือตัวเองอยู่นี้
ส่วนหนึ่งของบททดสอบของพวกคุณ ที่พวกคุณจะต้องประสบ,
จะต้องเอาชนะให้ได้, และเป็นไปได้ว่า..แม้กระทั่ง..
จะต้องเลิกใส่ใจกับมันซะด้วยซ้ำไป ก็คือ..
สัมพันธภาพที่ยากลำบาก กับคนบางคนที่อยู่ในชีวิตของพวกคุณ
ผู้ที่ไม่พร้อมที่จะ หรือ ไม่พยายามที่จะ เคลื่อนที่ไปข้างหน้า
บนเกลียวแห่งจิตสำนึกสู่การตื่นรู้ด้านจิตวิญญาณนี้เลย

แต่เพราะว่า จิตวิญญาณแต่ละดวงและทุกๆดวง
จะต้องเป็นผู้เลือกเส้นทางที่จะเดินไปเอง ด้วยตนเอง
ดังนั้น พวกคุณจึงมีหน้าที่รับผิดชอบ
ต่อวิวัฒนาการด้านจิตวิญญาณของตัวพวกคุณเอง
แต่เพียงคนเดียวเท่านั้น

7). มันเป็นสิ่งจำเป็น ที่พวกคุณจะต้องไม่ละเลย
การแสวงหาการตื่นรู้ทางด้านจิตวิญญาณของตัวเอง
และมุ่งมั่นสู่การเป็นนายเหนือตัวเอง (Self-mastery) ให้ได้
แทนที่จะเข้าใจผิดที่ว่า มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบ
หรือ ความจงรักภักดีของบรรดาผู้ที่กำลังพยายาม
ดึงเอาพลังงานของพวกคุณออกไปใช้อยู่ตลอดเวลา
หรือของผู้ที่ต้องการความสนใจและเวลาของพวกคุณ
มากจนเกินความพอดีทั้งหลาย

8). มีพวกคุณจำนวนมากมายเหลือเกิน
ที่ยังคงติดแหง็กอยู่ในปัญหาด้านสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นอยู่
ซึ่งปัญหาด้านสัมพันธภาพกับบุคคลอื่นนี้แหละ
ที่เป็นสาเหตุใหญ่อันหนึ่ง ของความเจ็บปวด
และความทุกข์ทรมานของเผ่าพันธุ์มนุษย์ในปัจจุบันนี้หละ

แต่ถ้าพวกคุณตั้งใจที่จะเผชิญหน้ากับความเป็นจริงจริงๆหละก็
มันก็ถึงเวลาแล้ว ที่พวกคุณจะต้องเข้าไปใน
“ปิระมิดแห่งแสงสว่างส่วนตัวของพวกคุณเอง” ที่อยู่ในมิติที่ 5

แล้วจากนั้น ก็ร้องขอความช่วยเหลือจาก
“ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของพวกคุณเอง
ให้ใช้มุมมองที่สูงส่งกว่าของพวกเขา ช่วยพวกคุณ
ในการ ทบทวน และวิเคราะห์หาสาเหตุว่า
ทำไมพวกคุณถึงปฏิบัติต่อ และ ตอบสนองต่อ
คู่รัก, คนในครอบครัว และผู้คนที่พวกคุณมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดด้วย
ไปแบบนั้น

9). พวกคุณกลัวที่จะต้องพูดความจริงออกมาหรือไม่
และพวกคุณยังยืนหยัดอย่างมั่นคง อยู่ในความตั้งใจของตัวเอง
ที่จะกลายไปเป็น “ผู้ควบคุมชะตาชีวิตของตัวเอง” หรือไม่?

10). พวกคุณกำลังเรียนรู้ที่จะ “ให้” ส่วนของตัวเองออกไป
เท่าที่ตัวพวกคุณเองจะรู้สึกสะดวกใจที่จะให้ได้เท่านั้น
เพราะว่าพวกคุณกำลังเรียนรู้ที่จะทำตาม
“กฎแห่งความสมดุลและความสอดประสานกลมเกลียวกัน”
ระหว่างการให้และการรับอยู่ ใช่หรือไม่?

11). พวกคุณยังคงกลัวที่จะโดดเดี่ยว, กลัวที่จะตกงาน
หรือ กลัวที่จะตกอยู่ในความไม่ปลอดภัยอยู่ ใช่หรือไม่?

12). พวกคุณยังคงลังเลสงสัยอยู่ว่า
ตัวเองจะสามารถประสบกับความสำเร็จ,
หรือมีพลังอำนาจ หรือมีความรับผิดชอบ ได้หรือไม่ อยู่ใช่ไหม?

พวกคุณจำนวนมากมาย จะถูกนำพาไปสู่ขอบของหุบเหว
ในช่วงเวลาหลายปีที่กำลังจะมาถึงนี้

มันจะเหมือนกับว่า มันมีแต่ความมืดมิดเท่านั้น
มันมีแต่ความว่างเปล่าอันยิ่งใหญ่เท่านั้น
หรือมันจะเหมือนกับว่า ข้างหน้าพวกคุณ
มีแต่ความพินาศอย่างไม่ต้องสงสัยรออยู่เท่านั้น

แต่อันที่จริงแล้ว มันจะมีการกระตุ้นจาก “วิญญาณ” (Spirit)
ของพวกคุณเอง เพื่อให้พวกคุณเดินหน้าต่อไป
เพื่อหลอกล่อให้พวกคุณพยายามทดสอบ “ปีก” ของตัวเอง
และเพื่อทดสอบดูว่า พวกคุณพร้อมที่จะบินแล้วหรือยัง

13). เพราะว่าพวกคุณ กำลังอยู่ในช่วงที่วิกฤติมากๆ
ของกระบวนการรู้แจ้งของพวกคุณเองอยู่
ดังนั้น มันจึงเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่ง
ที่พวกคุณจะอ่อนแอและบอบบางมากที่สุด

และการลองผิดลองถูกและบททดสอบต่างๆของพวกคุณ
ก็จะไม่เป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรงเหมือนในอดีตที่ผ่านมาอีกแล้ว

พวกคุณจะค่อนข้างสับสนอยู่บ่อยๆ
และพวกคุณก็จะไม่รู้ว่าก้าวย่างต่อไปของตัวเองจะคืออะไร
หรืออะไรคือความจริงลำดับต่อไป
ที่พวกคุณควรจะนำเอามาใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง
ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้ดี

14). จงจำไว้ว่า เมื่อใดที่พวกคุณกล่าวว่า
“ข้าพเจ้ายินยอมพร้อมใจ มอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้าพเจ้ามีและเป็น
เพื่อความดีงามสูงสุดของตัวข้าพเจ้าเอง”

หรือกล่าวว่า “ข้าพเจ้าขอน้อมนำความประสงค์ของข้าพเจ้า
ให้คล้อยตามพระประสงค์อันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า
ผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรา
เพื่อความดีงามสูงสุด และความยิ่งใหญ่ที่สุด ของทุกสรรพชีวิต” นั้น

มันไม่ได้หมายความว่า พวกคุณกำลังสละสิทธิ์จากสิ่งต่างๆทางโลก
ที่พวกคุณกำลังครอบครองอยู่ทั้งหมดไป
หรือสละทิ้งทางเลือกเสรีของตัวเองไปหรอกนะ

แต่มันเป็นเรื่องของการเชื่อมั่นในภูมิปัญญา
ของ “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (Over Soul)
หรือของ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self)
หรือของ “ตัวตนภาคที่เป็นพระเจ้า” (God Self)
ของตัวพวกคุณเองเท่านั้น

เพราะว่าปัญญาระดับนี้นั้น คือแง่มุมที่สูงส่งกว่า
ของ “จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์” (Divine Consciousness)
ของตัวพวกคุณเอง และมันก็จะรู้ดีอยู่เสมอว่า
อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด และเป็นประโยชน์มากที่สุด
สำหรับตัวพวกคุณเอง ในแต่ละช่วงเวลา

.........................

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: เติมเต็มทักษะต่างๆของพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า
(Perfecting your skills as a co-creator)

ประจำเดือน: สิงหาคม 2013
ผู้รับสาน์ส: นาง Ronner Herman

ที่มา:
The Golden Angel » “PERFECTING YOUR SKILLS AS A COCREATOR” – August 2013 (Ronna Herman)


ตอนที่ 5:


จงระมัดระวังตัวเองให้ดี อย่าให้ตกกลับลงไปอยู่ในรูปแบบเก่าๆ
ที่ยินยอมให้ผู้อื่นเป็นผู้คิดแทน หรือนำทางพวกคุณไป
โดยที่พวกคุณไม่เคยตั้งคำถามใดๆเลย และโดยที่พวกคุณ
ไม่เคยตรวจพิสูจน์เลยว่า อะไรคือความจริงของพวกคุณเอง

ซึ่งวิธีการตรวจพิสูจน์ที่ว่านี้ก็คือ การกลับเข้าไปข้างในตัวเอง
แล้วเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่ไม่มีวันผิดพลาดอันนั้น
ซึ่งก็คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณเอง
(your own Divine Present) นั่นเอง

พวกคุณจำนวนมากมาย ยังคงค้นหาความจริงจากสิ่งนอกตัวอยู่
โดยการหันไปพึ่งพาผู้ที่พวกคุณคิดว่า พวกเขามีพลังอำนาจมากกว่า
หรือมีความรู้มากกว่าตัวเอง และก็ไปหวังว่า พวกเขาจะสามารถช่วยนำทาง
ให้กับพวกคุณได้ เพื่อที่พวกคุณจะได้ไม่ต้องเสี่ยงก้าวเท้าออกไปข้างหน้าเอง
ไปสู่ขอบเขตที่ยังไม่ได้รับการทดสอบมาก่อน ด้วยตัวเอง

ที่รักทั้งหลาย พวกเราขอบอกพวกคุณว่า
วิธีการนี้มันจะใช้ไม่ได้ผลหรอก เพราะว่าพวกคุณคือ
“ผู้ชี้ทาง” (Way Shower)
และคือ “ผู้ค้นหาเส้นทาง” (Path Finder) ให้กับผู้อื่น

ดังนั้น พวกคุณจะต้องจุดแสงสว่างให้กับเส้นทางของตัวเอง
และดึงเอาภูมิปัญญาภายในอันล้ำค่าของตัวเองออกมาใช้
เพราะว่ามันได้ถูกแลกมา และชนะมา ด้วยประสบการณ์
และการลองผิดลองถูก และด้วยความทุกข์ทรมาน
อันยาวนานหลายยุคหลายสมัยแล้ว
และในท้ายที่สุดมันก็ประสบความสำเร็จจนได้

ผู้กล้าทั้งหลาย เราขอบอกพวกคุณว่า
หัวใจของพวกคุณไม่อาจที่จะไร้ความกล้าได้
หรือวิญญาณของพวกคุณไม่อาจที่จะขี้ขลาดได้
เพราะว่าก้าวย่างต่อไป บนเส้นทางสู่
“การเป็นนายเหนือตัวเอง” (Self-Mastery)
อย่างเต็มรูปแบบของพวกคุณนั้น
คือก้าวย่างแห่งการควบคุมโลกส่วนตัวของตัวเองให้ได้
คือก้าวย่างที่จะต้องก้าวออกไปด้วยความมุ่งมั่นและกล้าหาญ
เพื่อไปนำเอามรดกอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองกลับคืนมา

มันรอคอยพวกคุณอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว แต่ว่าพวกคุณ
ก็จะต้องดึงดูดเอา และบูรณาการเอา
“แก่นแท้แห่งพระผู้สร้าง” (the Creator Essence)
ซึ่งก็คือ “อนุภาคแห่งแสงสว่างอะดามันทีน”
(Adamantine Particles of Light) นี้ เข้ามาในตัวเอง
และกระตุ้นให้มันทำงานขึ้นมาให้ได้ซะก่อน

เพราะว่า “อนุภาคแห่งแสงสว่างอะดามันทีน” นี้
คือสสารอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับใช้ในการสรรสร้างสรรพสิ่งทั้งปวง
ที่พวกคุณจะต้องใช้มัน เพื่อปั้นแต่ง และ สร้างสรรค์โลกใหม่
ที่สวยสดงดงามของตัวพวกคุณเองขึ้นมา

แต่ไหนแต่ไรมา พวกคุณก็ถูกกำหนดมา
ให้มาเป็น “ผู้ดลบันดาล” และ “ผู้กำหนด”
อนาคตของตัวเองอยู่แล้ว แต่พวกคุณก็จะต้อง
ใส่ “อารมณ์ความรู้สึกแห่งความตื่นเต้นและกล้าหาญ”
เข้าไปให้กับ “จินตนาการ” (vision) ของตัวเองด้วย

พวกคุณจะต้องมีความองอาจ และ ห้าวหาญ ในขณะที่พวกคุณกำลังฝ่าตะลุย
สวนกระแสความคิดของคนธรรมดาสามัญส่วนใหญ่อยู่
และพวกคุณก็จะต้องตีฝ่าออกมาจากอำนาจครอบงำของ
“จิตสำนึกมวลรวมของคนส่วนใหญ่” (mass consciousness) ให้ได้ด้วย

พวกคุณจะต้องกล่าวแต่ถ้อยคำที่สั่นสะเทือนสอดคล้องกับระดับความสั่นสะเทือน
ของความสำเร็จเท่านั้น และพวกคุณก็จะต้องพยุงทัศนคติแห่งความสำเร็จอันนั้นเอาไว้ให้มั่น
แล้วลงมือกระทำเยี่ยงผู้ชนะอย่างเต็มภาคภูมิ

พวกคุณจะต้องกล้าที่จะเสี่ยงด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองมี
ในขณะที่พวกคุณกำลังพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นอยู่นี้ว่า
เมื่อพวกคุณอยู่ในความสอดประสานกลมกลืนกันกับวิญญาณดีแล้ว
อะไรก็ตามที่พวกคุณให้ออกไป ด้วยเจตจำนงค์ที่เต็มไปด้วยความรัก
โดยไม่หวังอะไรตอบแทนกลับมาทั้งสิ้นแล้ว สิ่งนั้นก็จะย้อนกลับมาหาพวกคุณ
มากเป็นร้อยเท่าพันเท่า

พวกคุณทุกๆคน ล้วนมีบทบาทสำคัญที่จะต้องแสดงด้วยกันทั้งสิ้น
พวกคุณจะไม่สามารถละเลยอำนาจและหน้าที่ของตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว
หรือ จะไม่สามารถเอาแต่เดินตามหลังผู้อื่นต้อยๆได้อีกต่อไปแล้ว

พวกคุณจะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ และจะต้องเล่นบทบาทของตัวเอง
ที่ตัวเองได้รับมอบหมายมาจากตัวตนอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวพวกคุณเอง
(your Divine Self) ซึ่งบทบาทที่ว่านี้ ก็จะกลายเป็นของขวัญของพวกคุณ
ที่จะมอบไว้ให้กับส่วนรวมต่อไป

พวกคุณจะต้องทำตามคำสัตย์ปฏิญาณที่พวกคุณได้ให้ไว้
ก่อนลงมาถือกำเนิด บนโลกใบนี้ ในช่วงเวลาที่วิกฤติมากที่สุดเช่นนี้

ในตอนนี้ พวกคุณมีเครื่องมือต่างๆ สำหรับการเนรมิตอยู่ในมือของตัวเอง
มากกว่าแต่ก่อนแล้ว ดังนั้น พวกคุณจะต้องก้าวออกมาจากความสะดวกสบายแบบเดิมๆ
ที่พวกคุณเคยชินอยู่ได้แล้ว และพวกคุณก็จะต้องทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่ไม่เป็นผลดีกับตัวพวกคุณเองอีกต่อไปแล้ว ให้หมดไปได้แล้ว

ซึ่งพวกคุณแต่ละคน ก็จะรู้ดีอยู่แล้วว่า สิ่งที่ไม่เป็นผลดีกับตัวเองอีกต่อไปแล้ว
ในชีวิตประจำวันของตัวเองนั้น คืออะไรบ้าง เพราะว่าสิ่งเหล่านั้น
พวกมันกำลังโผล่ขึ้นมาให้พวกคุณได้เห็นแบบจะๆ อยู่ตรงหน้าพวกคุณเอง
มานานหลายเดือน หรือแม้กระทั่งหลายปีแล้ว

และพวกมันก็จะทำให้พวกคุณทนไม่ได้มากขึ้นเรื่อยๆด้วย
จนกว่าในท้ายที่สุดแล้ว พวกคุณจะยอมยกโทษให้กับมัน
และปลดปล่อยสิ่งที่เหนี่ยวรั้งพวกคุณเอาไว้เหล่านั้นออกไปให้ได้แล้วเท่านั้น

.........................

 

ข้อความสื่อสารจากมหาเทพมิคาเอล (Archangel Michael)
เรื่อง: เติมเต็มทักษะต่างๆของพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้สร้างร่วมกับพระเจ้า
(Perfecting your skills as a co-creator)

ประจำเดือน: สิงหาคม 2013
ผู้รับสาน์ส: นาง Ronner Herman

ที่มา:
The Golden Angel » “PERFECTING YOUR SKILLS AS A COCREATOR” – August 2013 (Ronna Herman)


ตอนที่ 6: (จบ)


ที่รักทั้งหลาย เมื่อใดที่พวกคุณมีความชำนาญเพิ่มมากขึ้นแล้ว
ในฐานะของ “ผู้สร้างร่วม” ผู้ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง
พวกคุณก็จะไม่ไปจดจ่อพลังงานของตัวเอง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งเล็กๆน้อยๆ
ที่เป็นความปราถนาทางโลกเมื่อในอดีต ขึ้นมาอีกต่อไปแล้ว

เพราะว่าเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว พวกคุณก็จะสามารถสถาปนา
กระแสการไหลเวียนอย่างต่อเนื่องของอนุภาคอะดามันทีน
ขึ้นมาภายใน และ ทั่วทั้งร่างกายเนื้อของตัวเองได้แล้ว

ซึ่งส่วนเกินของกระแสอนุภาคดังกล่าวนี้
ก็จะไหลเวียนออกไปสู่โลกแห่งวัตถุธาตุทางกายภาพภายนอกต่อไป

พวกคุณจะสามารถตั้งโปรแกรมให้กับสิ่งที่พวกคุณปราถนาที่จะเนรมิตออกมา
เพื่อความสะดวกสบายและความสุขของตัวเอง ได้อย่างละเอียดละออ
แม้ในรายละเอียดปลีกย่อยที่เล็กมากที่สุดก็ตาม

และมนต์ที่พวกคุณจะท่องอยู่ตลอดเวลาก็คือ

“ทุกๆความปราถนาและความต้องการของข้าพเจ้า
ได้ถูกเติมเต็มทั้งหมดแล้ว แม้กระทั่งก่อนที่ข้าพเจ้า
จะรู้ว่าพวกมันมีอะไรบ้างด้วยซ้ำไป

ซึ่งความปราถนาทั้งหมดทั้งปวงเหล่านั้น
จะเป็นไปเพื่อความดีงามสูงสุดของตัวข้าพเจ้าเองเสมอ
และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของทุกผู้ทุกนามเสมอ”

พวกคุณจะเขียนโครงสร้างของเส้นทางแห่งการรับใช้มนุษยชาติของตัวเอง
ขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน ซึ่งจะเป็นโครงสร้างที่สอดคล้องกลมกลืนกัน
กับ “ภาระกิจศักดิ์สิทธิ์” ของตัวพวกคุณเอง สำหรับโลกในยุคพลังงานใหม่นี้
อย่างสมบูรณ์แบบ

พวกคุณจะมีการเชื่อมต่ออยู่กับ “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (Over Soul)
และ/หรือกับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของตัวพวกคุณเอง
อยู่ตลอดเวลา และอย่างชัดเจน และแบบสามารถใช้ประโยชน์
จากการเชื่อมต่อนี้ได้ด้วย

และพวกคุณก็จะสามารถเดินไปบนเส้นทางแห่งแสงสว่าง
ซึ่งจะคดเคี้ยวสูงขึ้น และสูงขึ้นเรื่อยๆ
เข้าไปสู่อาณาเขตที่ละเอียดปราณีตมากขึ้นเรื่อยๆๆ
ได้อย่างงดงาม และง่ายดายมากยิ่งขึ้น

จงแน่ใจได้เลยว่า เราจะคอยให้คำแนะนำ, ชี้นำทาง, ดลบันดาลใจ
และปกป้องพวกคุณอยู่เสมอ ตลอดเส้นทางของพวกคุณ
ที่มุ่งไปสู่สิ่งที่พวกคุณยังไม่รู้นี้

เราจะแผ่ส่งความรักอันเป็นนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้า
ผู้เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรา ออกมาให้กับพวกคุณทุกๆคนเสมอ


เราคือมหาเทพมิคาเอล
I AM Archangel Michael.

(ปล.บางจุด บางประเด็น ในข้อความชุดนี้ หากท่านรู้สึกว่ายังไม่เข้าใจมากพอ
ก็ลองเข้าไปอ่านข้อความเก่าๆที่ท่านสื่อสารมาก่อนหน้านี้
ร่วม 13 ปีมาแล้ว ดูนะครับ ซึ่งบางส่วนของข้อความพวกนี้
ผมก็ได้แปลเอาไว้บ้างแล้ว ในลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ

"ข้อความจากต่างมิติ - รวมเทคนิกต่างๆเพื่อช่วยในการยกระดับขึ้นจากท่านมหาเทพมิคาเอล"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยในการยกระดับขึ้นจากท่านมหาเทพมิคาเอล.403530/

.........................................................................................

Transmitted through Ronna Herman
*STAR*QUEST* 775-856-3654 * Archangel Michael & Ronna Herman Welcome You to Star*Quest *Quest For Mastery | Ronna Herman & Randy Monk | Quest For Mastery
Email: RonnaStar@earthlink.net

...................................

 

.
เขียนเมื่อกี้เนี้ย 17/8 18.30


"ถึงเวลา เดินหน้า ไปล่าฝัน"

...ได้เวลา เดินหน้า เพื่อล่าฝัน
สละมัน หมดสิ้น ทิ้งถิ่นฐาน
เจ็ดเดือนกว่า ข้าฝึก จนลึกล้ำ
ณ.เขาถ้ำ จำลา ด้วยอาลัย

...จะก้าวไป ข้างหน้า ผู้กล้านึก
จะตรองตรึก ต่อทาง อย่างสร้างสรรค์
จะค้นหา เส้นทาง เพื่อสร้างมัน
เผื่อเพื่อนกัน ฝันใฝ่ จะได้เจอ

นักรบแสง
ชื่อข้า พระอาทิตย์ สกุลสถิตย์ บนจันทรา
.

 

​

การเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ในที่สุด

มนุษย์ที่รักของฉัน ฉันคือราฟาเอลกับข้อความใหม่ชุดนี้สำหรับคุณ
ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังมีการเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วที่น่าทึ่ง
และมุ่งเน้นไปที่การเลื่อนระดับขึ้น เรากำลังจะไปถึงขั้นตอนที่สำคัญมากในกระบวนการเลื่อนระดับแล้ว
และเราจะส่งข้อความให้กับผู้สื่ออีกครั้งด้วยสถานการณ์ทั้งหมดจะมีการเปลี่ยนแปลงนับเป็นชั่วโมง

สำหรับเรื่องที่คุณจะถามฉันว่า "อะไรคือการเปลี่ยนแปลงที่คุณจะต้องส่งข้อความถึงพวกเราล่ะ?"
และนี่คือคำตอบ สำหรับสิ่งที่จะทำคุณมีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันที่ว่านี้
เนื่องจากพวกคุณกำลังแช่อยู่ในแสงส่ว่างอันถาวรที่จะทำให้สติมวลรวมก้าวไปสู่ในระดับใหม่
ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษย์

มนุษย์จำนวนมากได้ทำให้การก้าวกระโดดที่ยิ่งใหญ่ไปข้างหน้าในทิศทางที่เกือบจะเหลือเชื่อสำหรับพวกเรา
เราจึงภูมิใจมากเกี่ยวกับสิ่งที่คุณประสบความสำเร็จได้ในเวลาอันสั้น
เรายังคงทำความเข้าใจถึงสาเหตุอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของความตระหนักรู้ที่เป็นไปได้นี้

พวกคุณควรต้องพร้อมที่จะยอมรับความเร็วใหม่ที่เกิดขึ้นนี้
ซึ่งมันจะทำให้คุณรู้สึกวิงเวียนบ้างก็ตาม
เรากำลังจะเปลี่ยนไปสู่เกียร์ที่สูงขึ้นกว่าเดิมในภาษาของคูณ เพื่อให้คุณเข้าใจสิ่งที่เรากำลังหมายถึง
ในชั่วโมงถัดไปและในวันต่อไปข้างหน้าคุณจะสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และในที่สุดมนุษย์จะเข้าใจความจริงที่ว่า
คุณไม่สามารถดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่คุณกำลังทำอยู่ได้ในขณะนี้
การเปลี่ยนแปลงนั้นใกล้จะมาถึงแล้วในขณะนี้

ในที่สุดคุณจะเห็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงที่คุณรอคอยมานาน
สุดท้ายคุณจะยอมรับว่าการคาดการณ์ของเราในอดีตที่ผ่านมานั้นถูกต้องแน่นอน
กับการที่เราสื่อสารลงไปในทิศทางของพวกคุณ
และสิ่งเหล่านั้นมันจะปรากฏบนโลกในที่สุด

จงมีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง
จงพร้อมด้วยการกระทำสำหรับการเลื่อนระดับขึ้น
และจงพร้อมที่จะต้อนรับยุคทองใหม่นี้กันเถิด

มหาเทพราฟาเอล
The Change Finally Gets Visible
~ Archangel Raphael ~ via Marc Gamma

ที่มา : Ascension Earth : The Change Finally Gets Visible ~ Archangel Raphael via Marc Gamma

 

ใช่อันนี้ไม๊เอ่ย เตรียมไว้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน
ถึงไม่ใช่ ก็แถไป ว่าใกล้เคียง




"สั้นเก้าเท้านิ่้ง ยาววิ่งเท้าไว"

...เข็มสั้นชี้เลขเก้า ส่วนเข็มยาว หมุนเร็วจี๋
ดูมาหลายนาที กว่าใจชี้ นิมิตรมา
มองมาแล้วมองไป ลูกตาใน ใจเจิดจ้า
ก้าวเร็วนิมิตรมา ปลุกจิตรา ข้าลุกโชน

...เปลี่ยนโหมดกระโดดแล่น
เปลี่ยนแกนแก่นวิถี
เปลี่ยนแปลงยุทธ์วิธี
เปลี่ยนแผนที่ชี้นำทาง

...ย่างก้าว เบาแบบหนัก เซ็นเป็นหลัก ปักเลนดี
ย่องไป ให้เร็วรี่ ขี้เกียจมี ขยันมา
เวลา ไม่คอยท่า แต่คอยข้า ทุกนาที
สถิย์ทั่ว มั่วแม่นดี ประดับไว้ ในไกอา


นักรบแสง แรงจัด ลัดถนน
.

 

New Energies & How they Effect YOUR body – Extreme Fatigue etc – Pleiadian High Council
BY ANNAMERKABA on AUGUST 10, 2013
http://sacredascensionmerkaba.wordpress.com/2013/08/10/new-energies-how-they-effect-your-body-extreme-fatigue-etc-pleiadian-high-council/

แปล: อจิตตะ

พลังงานใหม่ และผลกระทบที่มีต่อคุณ

ประตูกาลเวลากำลังใกล้ถึงเวลาที่จะเปิดออกแล้ว
อีกไม่นานเกินรอ …
กายของคุณก็จะได้รับการชำระล้างอย่างหมดจด(ซะที)
ด้วยหลากหลายพลังที่มาจากศูนย์กลางของจักรวาล
ดังนั้น …อาการต่างๆอาจเกิดแก่พวกคุณ...เช่น
-เซื่องซึม ง่วงหงาว หาวนอน
-สมองตื้อ คิดอะไรไม่ค่อยปิ๊ง ๆ เหมือนก่อน
-พลังหร่อยหรอ อ่อนเปลี้ย เพลียแรง
-หลงในเรื่องของเวลา ขี้หลงขี้ลืม
-ปวดหัว อารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย
และที่แย่ที่สุดคือ
-ความรู้สึกเหมือนว่าตัวคุณกระเด็นหลุดออกมาจากร่างตัวเองซะงั้น...


ส่วนผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงลอกคราบจากสิ่งเก่า ๆ เน่า ๆ
และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่นั้น
ต่อมPineal Glands จะถูกเปิดขึ้น
เพื่อรองรับพลังงานจากสากลจักรวาลกับสิ่งที่เรียกว่า “สัจจะ”
ร่างกายของคุณจะเริ่มประมวลผลกับข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้รับ
ซึ่งมีมากมายดั่งภูเขาเลากา
เพื่อที่จะให้คุณส่งมอบต่อมวลมนุษย์ที่เหลืออยู่ต่อไป
นั่นจึงทำให้คุณรู้สึกเหมือนจมดิ่งอยู่ในโครงสร้างมิติที่ห้ามากขึ้น ๆในแต่ละวัน
(ปล.Pineal Glands = ต่อมไพเนียล, ต่อมไร้ท่อชนิดหนึ่งของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง
อยู่บริเวณกึ่งกลางระหว่างซีรีบรัมพูซ้ายและพูขวา
ในสัตว์ชั้นต่ำทำหน้าที่รับแสง
ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน)

แต่จะกังวลไปใย…
เพราะทุกอย่างมันเป็นเพียงขบวนการต่อเนื่อง
ของประสบการณ์ในการเลื่อนระดับกับบางเรื่องที่ยังค้างคา
ที่ยังไม่หลุดไปจากจิตจากกายที่ได้รับการชะล้าง
เพื่อการเตรียมพร้อมสู่ยุคใหม่เท่านั้น

หลายคนอาจรู้สึกได้กับประสบการณ์จากพลังงานใหม่นี้แล้ว
บ้างก็เริ่มเห็นความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตที่มาเยือน
และหลายคนก็รู้สึกเหมือนหลงอยู่กับกาลเวลา รู้สึกเคว้งคว้าง
เหมือนถูกตัดขาดจากโลกแห่งความเป็นจริงไปแล้วซะงั้น...

เหตุทั้งหลายนี้เกิดจากขบวนการลอกคราบของคุณ
เพื่อเปิดตัวใหม่กับระดับจิตที่สูงกว่า
และเพื่อพบกับกลุ่มครอบครัวเหล่าจิตวิญญาณ
ให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมและนำความรู้นั้น
กลับมาสู่แผ่นดินที่ที่คุณได้ไปปรากฏตัว
ทำให้คำพูดทุกคำที่คุณพูด
ชัดเจน แจ่มแจ้ง และเต็มไปด้วยพลัง
และนั่น…เป็นสิ่งที่คุณต้องทำชั่วชีวิต
ที่ไหนๆก็ตามที่ความสั่นสะเทือนในตัวคุณเพิ่มขึ้น ….
คุณจะรู้สึกเหมือนมีแสงรัศมีอยู่ใกล้ๆรอบตัวและกำลังโอบกอดคุณ

ส่วนความกลัวทั้งหลายที่ยังเหลืออยู่
มันจะค่อย ๆ จางหายไป
อาการปวดกาย ปวดใจ ก็จะบรรเทาไปด้วย
และคุณก็จะเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ทำไมจึงมัวบ้าอยู่กับเรื่องที่ผ่านไปแล้ว
มันไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย

ส่วนผู้ที่รู้แล้ว เขาก็จะกระโดดข้ามอดีต
ที่ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องของการมีชีวิตไปซะ…

และสุดท้าย "สัจจะ "และ"ความทรงจำ"ในภารกิจก็จะมาอยู่ในมือคุณ
จงดูมันด้วย “ความเข้าใจ”
ด้วยประสบการณ์อันบริสุทธิ์ที่มาจากความตั้งใจจริงของคุณ

แล้วจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณจะปรากฏขึ้น...
เพื่อนำคุณเดินทางกลับบ้านที่แท้จริงอย่างไร้อุปสรรคใด ๆ
และเมื่อใดก็ตามที่คุณได้พบว่าคุณได้ตระหนักรู้
คุณได้เข้าใจ และจดจำได้แล้วกับเส้นทางที่จะเดินไปถึงจุดนั้น…
Happy ending ซินะ...

รักและยังอยู่กับคุณเสมอ...BY ANNAMERKABA

ขอให้คุณทุกคนโชคดี....อจิตตะ

 

ขอบคุณค่ะคุณชยุต ที่แปลจนครบ
อ่านจบตอนที่ 6..แล้วแทบจะหยุดหายใจ
ความรู้สึกมันเต็มตื้นมากๆ..มันเป็นเช่นนี้เอง

 

**สาสน์จากฮิลาริออน**
ได้รับความกรุณาจากคุณ Chayutt ช่วยแก้ไข ขัดเกลา และเน้นข้อความให้ค่ะ

18-25 ส.ค. 2013

เธอผู้เป็นที่รัก

ในขณะที่พลังงานที่หลั่งไหลมายังโลกได้เพิ่มสูงขึ้นแล้วนี้ ผู้คนทั่วโลกก็ได้ตื่นรู้ขึ้น และได้ตระหนักถึงศักยภาพของพวกเขาในอันที่จะสรรสร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ หลายคนกำลังมีส่วนร่วมในระดับโลกอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการเยียวยารักษาและการทำให้ผู้ที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ มีพลังอำนาจ ซึ่งวัตถุประสงค์เช่นนี้มีพลังในทางทีดีอย่างมาก มากเกินกว่าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหลายเคยรู้กันมาซะอีก และการกระทำด้วยวัตถุประสงค์เช่นนี้ ก็จะค่อยๆได้รับพลังงานเกื้อหนุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจากมิติที่อยู่สูงๆกว่าทั้งหลาย

อันที่จริงแล้ว พวกเราอยากจะบอกเธอว่า ที่ใดก็ตามที่มีบุคคล 2 คนขึ้นไป มาชุมนุมกัน พวกเราก็จะอยู่ที่นั่นด้วยเสมอ เพื่อคอยให้ความช่วยเหลือพวกเธอ และขยายผลความพยายามของพวกเธอให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นไปอีก ความตั้งใจที่เปี่ยมด้วยความรักของเธอ เป็นพลังเพื่อผลักดันสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ อย่างไม่ผิดพลาด ทุกๆสิ่งที่เธอแต่ละคนทำได้ถูกบันทึกเอาไว้แล้ว และได้รับการสนับสนุนจากเบื้องบนเสมอ และเบื้องบนก็จะมอบหมายงานให้เทพยดาที่ว่างภาระกิจอยู่ ที่อยู่รอบๆตัวพวกเธอ ให้มาทำงานเพื่อความดีงามอันสูงสุดสำหรับทุกๆคนด้วย ซึ่งพวกเขาก็พร้อมที่จะช่วยเหลือด้วยความยินดียิ่ง

มันเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะต้องระลึกไว้ด้วยว่า แรงบันดาลใจทั้งหลายที่เธอได้รับมา และสิ่งต่างๆที่เธอกำลังกระทำอยู่นั้น เป็นข้อมูลข่าวสารโดยตรงจากเบื้องบน และข้อมูลข่าวสารเหล่านี้ก็ถูกส่งผ่านชั้นบรรยากาศลงมา ในรูปแบบของ “เมล็ดพันธุ์แห่งความคิด” แล้วมนุษย์โลกผู้ที่สามารถรับข้อความเหล่านั้นได้ ก็จะได้รับมัน และก็อย่างที่เธอรู้ ว่าเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น ก็จะต้องได้รับการบ่มเพาะและฟูมฟักเอาใจใส่ด้วย พวกมันถึงจะสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นสิ่งสร้างสรรค์ที่สวยงามของแสงสว่างของพระผู้สร้างได้ แล้วเมล็ดพันธุ์แต่ละเมล็ดที่ได้ถูกเพาะปลูกขึ้นมาด้วยความรัก ก็จะกลายไปเป็นตำนานที่มีชีวิต ซึ่งก็คือพลังของพลังงานชนิดหนึ่ง ที่จะแผ่ขยายออกไปไกลเกินขอบเขตของดาวเคราะห์โลกของเธอ และแผ่ขยายไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลาย เพื่อเยียวยารักษาและเพื่ออำนวยพร และเพื่อทำให้สมบูรณ์สำหรับใครก็ตามที่กำลังต้องการความสมบูรณ์อยู่ พลังของความรักเป็นพลังที่มีพลังอำนาจมากที่สุดในบรรดาสรรพสิ่งทั้งปวง และมันก็ไม่เคยเป็นความไม่ถูกต้องหรือไม่เหมาะสมเลย ที่ใครคนใดคนหนึ่งจะตอบสนองต่อพลังนี้ด้วยใจ ความรักจะนำมาซึ่งความรัก เพื่อเป็นการตอบแทน และจะสร้างบรรยากาศของความสุข สันติภาพ และความปรองดองกันให้เกิดขึ้น ทั่วทั้งเอกภพนี้

เพราะการที่มนุษย์โลกกำลังพากันแสดงออกถึงความรัก และทำให้ความรักของพระผู้สร้างถูกเนรมิตออกมาในตัวพวกเขา และผ่านทางพวกเขา อย่างต่อเนื่องอยู่นี้เอง จึงทำให้ปาฏิหาริย์อันยอดเยี่ยมต่างๆมากมาย เกิดขึ้นตามมา แต่ปกติแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ จะไม่ถูกรายงานในข่าวผ่านสื่อใดๆของเธอเลย แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่สามารถทำให้ปาฏิหาริย์เหล่านี้ หมดสิ้นจากความเป็นปาฏิหาริย์ไปได้เลย และมันก็จะเป็นแรงกระตุ้นเพื่อการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกของดาวเคราะห์โลกของเธอต่อไป

จงมองดูรอบๆตัวเธอให้ดี และจงหัดสังเกตุให้มากขึ้น ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในสังคมของมนุษย์อยู่ในขณะนี้ เธอแค่จะต้องสำรวจถึงความเป็นไปได้ของมันเท่านั้น แล้วเธอก็จะพบกับหลักฐานต่างๆมากมาย ของสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ที่จะทำให้เธอประหลาดใจในความเกี่ยวข้องและความสำคัญของพวกมัน

คำว่า “ปาฏิหาริย์” นั้น หมายความถึง ผลกระทบหรือเหตุการณ์ใดๆ ที่ไม่ปกติธรรมดาที่เกิดขึ้นในโลกทางกายภาพนี้ ที่เกินกว่าพลังอำนาจของมนุษย์หรือของธรรมชาติที่มนุษย์รู้จักจะทำให้มันเกิดขึ้นได้ และก็เลยถูกลงความเห็นว่า มันเป็นปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ แต่เมื่อใดที่เธอค้นหาพวกมัน เธอก็จะได้พบสิ่งเหล่านี้ และพวกมันก็จะเป็นเแรงบันดาลใจให้เธอ ได้พบกับเหตุการณ์ประเภทเดียวกันนี้ เพิ่มมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

เหตุการณ์ต่างๆที่ถูกเรียกว่าปาฏิหาริย์เหล่านี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะแสดงให้เธอได้เห็นว่า เมื่อมนุษย์พยายามที่จะก้าวออกไป นอกขอบเขตของความรู้และความเข้าใจในปัจจุบันนี้ของตัวเอง ซึ่งมีข้อจำกัดแบบนี้แล้ว โลกใหม่ทั้งโลก ก็จะเปิดออกมาสู่ความตระหนัก/จิตสำนึกของพวกเขา ซึ่งนี่แหละ ที่จะกลายไปเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่กว่า เกิดขึ้นมาภายใน “จิตสำนึกมวลรวมของมนุษย์ทั้งโลก” (the collective consciousness) ต่อไป และมันก็จะแสดงให้เธอได้เห็นว่า อะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อคนๆหนึ่ง มันก็จะไปมีผลกระทบต่อคนทุกๆคนด้วย และนี่แหละคือความหมายของคำว่า “จิตสำนึกอันเป็นเอกภาพ” (Unity Consciousness) หละ

นี่แหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเธอหลายคน จึงไม่ยอมเลิกล้มความพยายามที่จะยกระดับจิตสำนึกของมวลหมู่มนุษยชาติ ให้ไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้นให้ได้ เพราะว่าพวกเธอรู้กันดีว่า เมื่อถึงจุดๆหนึ่งแล้ว “แสงสว่าง” ก็จะสว่างไสวขึ้นภายในตัวมนุษย์ทุกคน ซึ่งสิ่งนี้ก็กำลังเกิดขึ้นจริงอย่างรวดเร็วอยู่บนดาวเคราะห์โลกใบนี้

ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เธอจะได้พบกับปาฏิหาริย์ต่างๆมากมาย ที่จะเกิดขึ้นกับเหตุการณ์ต่างๆของโลกของเธอ แต่ที่รักทั้งหลาย โปรดรู้ไว้ว่า พวกเธอคือผู้สร้าง และคือแรงผลักดันที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้
มันเป็นรุ่งอรุณของยุคแห่งปาฎิหาริย์, ความมหัศจรรย์ และความน่าพิศวง ที่พวกเธอกำลังใกล้จะไปถึงแล้ว เพราะว่าพวกเธอมีความแน่วแน่อยู่กับวิสัยทัศน์ แห่งการปรับปรุงครั้งยิ่งใหญ่อยู่ ทั้งที่เป็นงานภายในและภายนอกของโลกของเธอเอง ซึ่งกำลังจะนำมาซึ่งโลกแห่งความเป็นจริงโลกใหม่ ของดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ที่จะมีแต่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน, มีแต่ความเสมอภาคกัน และมีแต่อิสระเสรีภาพสำหรับทุกผู้ทุกนาม
จงอยู่กับความเบิกบานใจ และความรู้สึกขอบคุณ ในขณะที่ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเปิดเผยตัวมันเองขึ้นมา และจงรักษาความถี่นี้ไว้ให้ดี

พบกันสัปดาห์หน้า
เรา คือ ฮิลาริออน

 

เมื่อกี้นี้ผมเพิ่งส่ง PM ถึงคุณ Water Lily ไปนะครับ
เพราะว่าผมมี ช่วยแก้ไข, ขัดเกลา, และเน้นข้อความ
บางส่วนในข้อความของท่าน Hilarion ล่าสุดนี้
ให้กับคุณ Water Lily ไป..

เดี๋ยวรอเธอมาโพสต์ให้อ่านอีกรอบนะครับ
.................................................

 

.
เขียนเมื่อกี้ 15.55


"ของฝาก จากหัวใจ เผื่อให้ใคร ใช้เลื่อนชั้น"

...ขออภัย ในกระทู้ ของหมู่มิตร
ไม่ได้คิด มิเคยคาด ประหลาดเหลือ
เพิ่งจะกล่าว เซ็นเป็นหลัก ปักไม่เบื่อ
ช่างเหลือเชื่อ ใครเขาเผื่อ เมื่อกี้เอง

...ในบุ๊คมาร์ค ลากไว้ ใช้จำจด
อนาคต เผื่อไว้ จะได้เห็น
บังเอิญเปิด ค้นไป อย่างใจเย็น
กรรมพยา กรณ์เด่น เห็นแต่ไกล

...ใจจูงมือ ถือเม้าท์ เข้าไปคลิก
นิ้วกระดิก พลิกไว เวบไซท์เขา
ท่านดังตฤณ ชินตา สัญญาเรา
เคยนับเค้า เป็นครู ผู้รู้จริง

...ลูกตากลิ้ง ไปมา ปัญญาแอ่น
ใจก็แล่น โลดไป จนได้เห็น
ซึ่งหนังสือ รื้อใจ ให้จิตเล่น
หนังสือเซ็น ล้ำค่า จึงพาแจก


นั่งคิดหลายตลบ ว่าจะโพสท์อะไรเจ๋งๆ ประสาโจ๋ โง่ก็ช่าง
ในกระทู้ของหลายท่าน ก็น่าโต้ตอบอะไรๆ ได้อย่างน่าสนใจ
บังเอิญเข้าไปจัดการบุ๊คมาร์ค เจอเวบของเรื่องกรรมพยากรณ์
ที่เคยซื้อหนังสือเค้ามาอ่านด้วยล่ะ ไม่เคยซื้อนิยายนานมากแล้ว
อีกสองเรื่องที่ซื้อคือ มังกรคู่สู้สิบทิศ หลังจาก เจาะเวลาหาจิ๋นซี นิยายจีนนะ
น้อยมากที่จะยอมควักกระเป๋า ซื้อนิยายมาอ่าน ไม่คิดว่าคุ้มเท่าไหร่หรอก เนอะ

ในเวบเค้า เราเจอของดีด้วยล่ะ จึงเอามาแจกเพื่อนๆ คงไม่มีใครว่าล่ะมั้ง นะ
หนังสือเซน เรื่อง "เซนในการทำงานอย่างเซียน" บังเอิญดีจังเลย

เซน คือ การตื่นรู้ นิ่งว่าง วางทุกข์
เซียน คือ ผู้เก่งกาจในทางใดทางหนึ่ง

ผู้ทำงานอย่างเซนจนเป็นเซียน
จึงตื่นรู้และพร้อมจะเก่งกาจในงานของตน
โดยไม่ร่วมว้าวุ่นอย่างสูญเปล่าไปกับผู้คนรอบข้าง
ได้ชื่อว่าเป็นผู้บรรลุแล้วถึงยอดเขาแห่งความไร้กังวล

คุณดังตฤณออกแบบให้หนังสือพาคุณเข้าถึงเซน
ด้วยการทำงานที่คุณกำลังทำอยู่
ด้วยขั้นตอนวิธีตลอดจนภาษาที่ชัดเจน
เมื่อฝึกตามจนถึงที่สุดก็จะพบว่าไม่ต้องรอถึงเวลาพักร้อน
ความร้อนในที่ทำงานก็หายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์

ดูจากหัวข้อของเขาแล้ว รู้สึกว่าเข้าสถานการณ์ พอดีเป๊ะเลย มั่วแม่นดีไม๊
ลองโหลดมาอ่านกันนะ จะได้เพาเวอร์อัพ ตัวเองขึ้นมาได้อีกนิด
บางท่านอาจเจอไอเท็มอะไรใหม่ๆ เด็ดๆ หรือเคล็ดวิชา ทรงคุณค่ามหาศาล

Downloads | เซนในการทำงานอย่างเซียน | หนังสือ
จะโหลดหรืออ่านสดๆ ก็เชิญตามสะดวกนะครับ ท่านทั้งหลาย

ขอบคุ๊ณท่านดังตฤณไว้ณ.ที่นี้ด้วยครับ แจกฟรีอีกต่างหาก
และต้องขอบคุณหรือขออภัย กระทู้ มิติที่ห้านี้ด้วยครับ

นักรบแสง ผู้เลี้ยงแมงโม้ไว้มากมาย
.

 

ฝันว่า เข้าไปในลิฟท์แล้วกดไปชั้นที่ ๕
ในลิฟท์นั้นค่อนข้างแคบและมีคนอยู่ในนั้นเต็มเลย
พอตื่นขึ้นมา แล้วนึกถึงกระทูนี้
" ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ ๕ "
เลยรู้สึกว่า... อื้ม... ชื่อกระทู้นี้ ตรงประเด็นดีจัง
คงมีพวกเราเนี่ยล่ะ ... ที่เบียด ๆ ขึ้นไปด้วยกัน ... อิอิ

 

เมื่อคืนฝันดีอยู่ 2 เรื่องครับ

เรื่องแรกฝันว่าได้แข่งขันกีฬาแปลกๆอะไรซักอย่างหนึ่ง
แต่ไม่ขอเล่าในรายละเอียดนะครับ ทั้งๆที่ตัวเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย
แต่ผลคือ ชนะ ในวินาทีสุดท้ายครับ อิอิ

เรื่องที่สอง ฝันว่า สิ่งที่ขอไป หรือ โครงการที่ขอไป
ได้รับอนุมัติแล้ว..อิอิ..

ก็เป็นเรื่องดีที่ทำให้ตัวเองชื่นใจขึ้นมาอีกหน่อยหนึ่งแล้วเหมือนกันครับ

........................................................

 

ข้อความจากต่างมิติถึงนาง Blossom Goodchild

วันที่ 11 สิงหาคม 2013

ที่มา: Blossom Goodchild - August 11, 2013



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

Blossom: ขอต้อนรับอีกครั้งหนึ่ง พวกคุณกำลังรับสาส์นของดิฉันอยู่หรือเปล่าคะ?

ต่างมิติ: พวกเรารับสาส์นของคุณด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเสมอนั่นแหละ

Blossom: สมาชิกในทีมแปลของดิฉันคนหนึ่ง อยากให้ดิฉันช่วยถามพวกคุณ
เกี่ยวกับพระมูฮัมหมัด และศาสนาอิสลาม และต้องการให้พวกคุณ
ช่วยอธิบายเพิ่มเติมอีกซักหน่อย เพราะว่าพวกเขารู้สึกว่า
มันน่าจะมีชิ้นส่วนที่หายไปอยู่ในเรื่องราวเกี่ยวกับศาสนานั้นอยู่หนะค่ะ
พวกคุณจะสามารถพูดถึงเรื่องนี้ได้ไหมคะ?

ต่างมิติ: พวกเราคิดว่ามันน่าจะเป็นการเหมาะสมกว่าที่จะไม่พูดถึงเรื่องนี้
หรืออันที่จริงแล้ว รวมถึงการพูดถึงเรื่องใดๆที่เกี่ยวข้องกับศาสนาด้วย

แต่นี่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเราต้องการที่จะทำให้ผู้ถามไม่พอใจหรอกนะ
แต่พวกเราก็ยังอยากจะบอกพวกคุณอยู่ว่า

“ในทุกๆศาสนาของพวกคุณนั้น
มันมีส่วนที่ไม่ใช่สิ่งที่ศาสดามอบเอาไว้ให้ตั้งแต่แรก
อยู่มากมายเหลือเกิน”

ดังนั้น ในนั้น จึงมีสิ่งที่ถูกเข้าใจผิดไปว่า
มันคือ “สัจธรรม” ถูกจดบันทึกเอาไว้
และถูกถ่ายทอดต่อๆกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
อยู่มากมายเหลือเกินด้วย ทั้งๆที่อันที่จริงแล้ว
มันคือสิ่งที่ถูกบิดเบือนไปแล้ว
เพื่อให้เหมาะสมกับช่วงเวลานั้นๆเท่านั้นเอง

ผู้ถามอาจจะพบว่า สิ่งที่พวกเรากำลังจะกล่าวต่อไปนี้
เป็นคำตอบที่น่าพึงพอใจหรือไม่ก็ได้

ตลอดช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ของพวกคุณ
ได้มีสงครามและการสู้รบกัน เกิดขึ้นมาโดยตลอด
จนทำให้มีการสูญเสียชีวิตผู้คนไปมากมาย
มีการโต้เถียงและโต้แย้งกันเกิดขึ้นมากมาย
ซึ่งทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ก็เพื่อที่จะพูดคำว่า
“พระเจ้าของพวกเขา คือพระเจ้าตัวจริง” เท่านั้นเอง

Blossom: ดิฉันรู้สึกสะดุดใจเล็กน้อย เพราะว่าดิฉันรู้สึกว่า
พวกคุณกำลังจะพูดว่า “ไม่มีพระเจ้า” และในขณะเดียวกัน
ดิฉันก็รู้สึกว่า คำว่าพระเจ้าในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงบุคคลหรือตัวตนใดๆเลย

..ดิฉันรู้สึกว่า “พระเจ้าคือพลังงานแห่งความรัก” รูปแบบหนึ่งเท่านั้นเอง
..แล้วทำไมพวกคุณไม่พูดว่า “ไม่มีพระเจ้า” ซะเลยหละ?
ดิฉันคิดถูกไหมคะ ที่คิดว่านั่นแหละคือสิ่งที่พวกคุณอยากจะพูดหละ?

ต่างมิติ: มันก็มีส่วนถูกอยู่บ้างเล็กน้อยเหมือนกัน แต่ว่าบางที
คุณก็เริ่มออกวิ่งเร็วไปซักหน่อย โดยไม่รอฟังเสียงปืนให้สัญญาณเลย!

ที่พวกเราอยากจะพูดก่อนหน้านี้ก็คือ พวกเราอยากจะแนะนำว่า
มันไม่มีพระเจ้าในแบบที่พวกคุณหลายคนคิดเอาไว้หรอก

เมื่อใดที่ใครก็ตาม ที่อยู่ในโลกของพวกคุณ รู้จักความหมาย
ของข้อความที่กล่าวว่า “พระเจ้าคือความรัก” แล้ว
จากมุมมองของพวกเรา ในฐานะผู้ที่กำลังมอบภูมิปัญญาให้แก่พวกคุณอยู่นี้
พวกเราอยากจะบอกว่า มันเป็นถ้อยคำที่กล่าวได้ถูกต้องซะยิ่งกว่าถูกต้องซะอีก

และยิ่งใครก็ตาม ที่สามารถเข้าใจสัจธรรมข้อนี้ได้มากเท่าไหร่
คนผู้นั้น ก็จะยิ่งมีความเข้าใจในตัวเองได้มากเท่านั้นด้วย

และเพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราจึงคิดว่า มันเป็นเรื่องที่เป็นอันตราย
ที่จะมาถกกันถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสนาในตอนนี้

แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า
ไม่เคยมีรูปธรรมชีวิตจากชั้นสูงสุด ผู้รู้แจ้งแล้ว
จำนวนมากมายก่ายกอง ลงมาเดินปะปน
อยู่ท่ามกลางพวกคุณหรอกนะ

และคำสอนต่างๆของพวกเขา ในช่วงเวลานั้นๆ
ก็เรียบง่าย ชัดแจ้ง ตรงไปตรงมา
และสามารถเข้าใจได้อย่างง่ายดายด้วย

แต่ว่า..ก็อย่างที่พวกเราได้กล่าวไปแล้วตั้งแต่ต้นนั่นแหละว่า
เมื่อกาลเวลาผ่านไป สิ่งที่เคยเป็น “สัจธรรม” ทั้งหลาย
จำนวนมากมาย ก็ได้ถูกบิดเบือนไปเสียสิ้น
เพียงเพื่อที่จะทำให้ “ความกลัว”
และ “การควบคุม” ผู้อื่น โดยอาศัยความกลัวนั้น
กลายมาเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ
มากกว่าแนวความคิดทั้งหลาย ที่เป็น “สัจธรรม” ไป

และนอกจากนี้ ก็ยังเพื่อที่จะทำให้เกิด
“ความลังเลสงสัยในตัวเอง” ขึ้นอีกด้วย

พวกเราควรจะพูดกับพวกคุณว่า “พวกคุณทุกๆคนจะต้องรู้จักพระเจ้า”
และในทำนองเดียวกัน.. “พวกคุณทุกๆคนจะต้องรู้จักความรัก”
ในรูปแบบที่สูงสุดของมันด้วย เพราะว่าพวกคุณ คือส่วนหนึ่งของมัน
และ เกิดมาจากมัน นั่นเอง

ในวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อใดที่ความเป็นตัวตนของพวกคุณ
สามารถเกิดความปิติยินดีกับความรู้ที่ว่า
ทำไมพวกคุณถึงต้องมาเกิดเป็นมนุษย์โลก และอยู่บนโลกใบนี้ได้แล้ว
พวกคุณก็จะไม่เพียงแต่จะค้นพบว่า “พวกคุณคือพระเจ้า” เท่านั้น
แต่พวกคุณยังจะยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในขณะนี้อีกด้วย
และพวกคุณก็จะมีความพึงพอใจสูงสุด และมีความรื่นเริงสนุกสนาน
อยู่ภายในสถานะนั้นอีกด้วย

แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้น หรือเป็นไปอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณแต่ละคนด้วย
และอีกครั้งหนึ่ง..”พวกคุณ คือผู้ที่พวกคุณเฝ้ารอคอยที่จะเป็นมานานแล้ว” นั่นเอง

Blossom: พวกคุณจะสามารถอธิบายตรงส่วนนี้เพิ่มเติมอีกสักหน่อยได้ไหมคะ?

แต่ดิฉันขอเดาว่ามันหมายความว่า เมื่อใดที่พวกเรามีระดับพัฒนาการ
ด้านความตระหนักรู้ของหัวใจและของความคิด สูงขึ้นจนถึงระดับหนึ่งแล้ว
พวกเราก็จะ “เข้าใจ” ได้เองว่า มันไม่มีความจำเป็นใดๆเลย
ที่จะต้องไปรอคอยความช่วยเหลือจากใครที่ไหน
ซึ่งเป็นรูปธรรมชีวิตที่มาจาก “ที่อื่น”..เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราต้องการนั้น
ล้วนมีอยู่ภายในตัวพวกเราเองหมดแล้ว

ต่างมิติ: ถูกต้องแล้ว..แต่ว่า ก็ไม่ได้หมายความว่า
การมาเยือนของ “รูปธรรมชีวิตจากนอกโลก” นั้น
จะไม่สามารถช่วยให้กระบวนการนี้
มันเป็นไปได้เร็วขึ้นหรอกนะ

เพราะว่า พวกเราจะขอบอกพวกคุณด้วยความรักและความเคารพอย่างสุดซึ้งว่า
พวกคุณจะได้พบกับความประทับใจอย่างล้นเหลือ เพราะว่าเมื่อวันนั้นมาถึง
มันจะทำให้พวกคุณ และ “เชื้อสายจากเบื้องบน” ของพวกคุณ
ได้ใกล้ชิดซึ่งกันและกันมากขึ้น เพราะว่ารูปธรรมชีวิตชั้นสูงเหล่านั้น
ล้วนเป็นผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความรู้ทางด้านเทคโนโลยี
ที่จะทำให้พวกคุณ “ถึงกับอึ้ง”

แต่ว่าเพื่อนๆของพวกคุณ ที่จะมาเยือนพวกคุณที่ว่านี้
น่าจะเป็นที่รู้จักของพวกคุณเป็นอย่างดีแล้ว
เพราะว่าพวกเขาได้ตกลงใจที่จะมาร่วมในแผนการนี้
ตั้งแต่ตอนที่มันเริ่มก่อตั้งขึ้นโน่นแล้ว

และเพราะฉะนั้น พวกเขาจึงเป็นที่รู้จักของพวกคุณมาตั้งแต่ต้นแล้วเช่นเดียวกัน

มันยอดเยี่ยมไหมหละ ที่ในตอนนี้ พวกคุณกำลังใกล้จะได้
“พบกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง” มากๆแล้ว ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว
ทุกๆคนก็จะมีแต่ความปลื้มปิติยินดี และพูดว่า “พวกเราทำสำเร็จแล้ว!”

Blossom: มันเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากจริงๆด้วยค่ะ
แต่ว่าตอนนี้ พวกเราจะมาเปลี่ยนเรื่องสนทนากันได้ไหมคะ?

เพราะว่ามีหลายคนที่ต้องการให้พวกคุณช่วยอธิบายเรื่อง “การเสพติด” ซักหน่อย
และช่วยอธิบายว่าทำไมบางคนถึงดูเหมือนว่าจะ “ยึดติด” กับสิ่งเหล่านั้น
ง่ายดายเหลือเกิน เช่น ติดแอลกอฮอล์, ติดบุหรี่ และติดยาเสพติดชนิดต่างๆ
ทั้งหนักและเบา เป็นต้น

พวกคุณจะกรุณาแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ไหมคะ?

ต่างมิติ: เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนและเข้าใจยากอยู่สักหน่อย
แต่ว่าพวกเราก็เข้าใจว่ามีหลายคนที่อยากจะเข้าใจลึกลงไปในเรื่องนี้จริงๆ

มันมีหลายเหตุผล ว่าทำไมจิตวิญญาณดวงหนึ่งๆ (หมายถึงคนๆหนึ่ง – ผู้แปล)
ถึงได้เข้าไปยุ่งกับ “ตัวช่วย” ตัวใดตัวหนึ่ง ตั้งแต่เริ่มต้น
ซึ่งพวกเราอาจจะเรียกมันว่า “ตัวช่วย” ก็ได้

แน่นอนว่า ในหลายๆกรณี มันเป็นธรรมชาติของยาเสพติดเอง
ที่จะทำให้เกิดอาการติดขึ้นมาได้ เพื่อที่จะ “ทำลาย” นั่นเอง
ซึ่งในกรณีนี้พวกเราหมายถึง “บุหรี่” ของพวกคุณ

แต่ในขณะเดียวกัน “น้ำพิษ” บางชนิด เช่น แอลกอฮอล์ เป็นต้น
กลับไม่มีสารเคมีที่จะทำให้เกิดอาการติดอยู่ด้วยเลย
แต่การที่ผู้เสพมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆนั้น
นั่นก็เพราะว่าพวกเขากำลังมีความสุขอยู่กับ “การหนี”
ที่จะเริ่มต้นขึ้นด้วยการดื่มนั่นเอง

มันเป็นเพราะว่า “ผู้เสพ” ยินยอมให้การดื่มหรือยาเสพติด
มาควบคุมพวกเขาได้นั้นเอง แทนที่จะเป็นในทางตรงข้ามกัน
นั่นแหละคือประเด็นของปัญหาหละ

Blossom: แต่ว่า ก็ไม่มีใครต้องการที่จะเป็น “คนติดยา” หรือ “คนขี้เหล้า” นี่คะ
..แล้วทำไม ถึงมีแค่บางคนเท่านั้นที่ไป “ติด” มันหละคะ แล้วทำไมบางคนถึงไม่ติด?

ต่างมิติ: คำถามนี้เป็นคำถามที่มีคำตอบอยู่มากมาย

Blossom: พวกคุณจะสามารถให้คำตอบมาสัก 2 – 3 ข้อได้ไหมคะ?

ต่างมิติ:

1). ความไม่เชื่อมั่นในตัวเอง: ซึ่งการดื่มหรือการเสพยาเสพติด
จะทำให้พวกเขามีความมั่นใจขึ้นได้

2). การถูกครอบงำ: ที่ยาเสพติดจะทำให้ผู้เสพเชื่อว่า พวกเขาจะทำได้ดีกว่ามาก
เมื่อตอนที่พวกเขาได้เสพมัน

3). การกลบเกลื่อนความผิดพลาดในอดีต: ที่ “ทางออก” ที่เลือกไว้
(สิ่งเสพติด – ผู้แปล) จะไปช่วยสกัดกั้นไม่ให้ผู้เสพ จดจำความทรงจำที่เจ็บปวด
หรือไม่ต้องการเหล่านั้นได้

การปฏิเสธ: คือเมื่อผู้เสพเพียงแค่ “เลือก” ที่จะยอมรับว่า
ตัวเองกำลังมีปัญหาใดปัญหาหนึ่งเหล่านี้อยู่เท่านั้น

แต่โดยรวมทั้งหมดแล้ว สำหรับจิตวิญญาณดวงใดก็ตาม
ที่กำลังมีปัญหาติดสิ่งเสพติดอยู่..

”มันเป็นการเดินทางที่พวกเขาได้เลือกเอาไว้แล้ว”

และพวกเขาก็มีทางเลือกเสมอ ว่าจะปลดปล่อยตัวเองให้หลุดพ้นออกไปจากมันเสีย
หรือว่าจะให้ตัวเองยังคงอยู่กับมันต่อไป ก็ได้

มันเป็นการตัดสินใจแบบจะ Yes หรือจะ No เท่านั้นเอง!

และก็พอๆกับที่มันไม่เป็นที่พึงพึงปราถนาของใครหลายๆคน
นั่นแหละคือคำตอบในความเรียบง่ายของมันหละ

Blossom: ดังนั้น แน่นอนเลยค่ะ ว่าจิตวิญญาณดวงหนึ่งๆ
ก่อนที่จะลงมาถือกำเนิด จะต้องไม่เลือกที่จะมาติดสิ่งเสพติดอย่างแน่นอน

ต่างมิติ: คุณรู้ได้ยังไง?

Blossom: อ้าว!..แล้วทำไมพวกเขาถึงจะเลือกเช่นนั้นหละคะ?

ต่างมิติ: ก็เพราะว่ามันสามารถที่จะนำพาบทเรียนชีวิต
มาให้กับจิตวิญญาณดวงนั้นๆได้หนะสิ

Blossom: แต่ว่า ถ้าพวกเขาต้องการแบบนั้นจริงๆ
พวกเขาก็ยังมีทางอื่นให้เลือกอยู่อีกนี่คะ?

ต่างมิติ: ไม่หรอก ถ้าทางนั้นไม่ใช่เส้นทางที่ลัดที่สุด
ที่จะทำให้สามารถไปให้ถึงความเข้าใจในตัวเองได้

แต่ว่า..แน่นอนว่า..พวกเขาก็จะต้องแบกรับความเสี่ยง
ที่จะไม่สามารถ “เลิก” สิ่งเสพติดนั้นๆได้ เอาไว้อยู่
เมื่อได้เรียนรู้บทเรียนชีวิตนั้นๆไปเรียบร้อยแล้ว
พวกเขาอาจจะตกอยู่ในอันตรายที่ว่านี้ได้

..แต่ว่า มันก็เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง ที่พวกเขาอาจจะเลือกที่จะเสี่ยงก็ได้

คุณสามารถเข้าใจได้ไหมว่า ทำไมวิถีชีวิตที่จิตวิญญาณดวงหนึ่งๆ
เลือกที่จะใช้เดินนั้น แม้ว่ามันอาจจะดูว่า
“ไม่มีความสบายเอาซะเลยแบบสุดๆ” สำหรับจิตวิญญาณดวงนั้นๆก็ตาม
แต่ว่าสำหรับจิตวิญญาณบางดวงแล้ว มันกลับเป็นวิถีชีวิตที่จำเป็น
สำหรับการพัฒนาและการเจริญเติบโตของพวกเขา ที่พวกเขาจะได้รับจากสิ่งนั้นๆ
ซึ่งพวกเขาไม่เคยได้รับจากภพชาติก่อนๆหน้านั้นเลย

ถ้าจิตวิญญาณดวงใด ร่วงหล่นลงไปออกนอกเส้นทาง ด้วยความตั้งใจหละก็
นั่นก็จะไม่มีปัญหาอะไร เพราะว่าการต่อสู้ดิ้นรนของจิตวิญญาณดวงนั้นๆ
ก็จะคือการจดจำให้ได้ว่า สิ่งนั้นๆได้ทำสำเร็จลุล่วงไปแล้ว

แล้วก็..อาจจะใช้คำพูดว่า พวกเขาก็จะ “กลับขึ้นมาอยู่บนเครื่อง” ได้เหมือนเดิม

แต่สำหรับจิตวิญญาณบางดวง ก็เป็นที่น่าเศร้าใจมากๆ
ที่พลัดหลงอยู่ในเส้นทางสำรวจของตัวเองลึกมากจนเกินไป
จนไม่สามารถที่จะหาทางกลับออกมาได้ ภายในภพชาตินั้นๆ
อย่างที่พวกเขาได้วางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรก

แต่ว่า..ถึงกระนั้น พวกเราก็ยังอยากจะบอกอะไรบางอย่างกับพวกคุณอยู่
..ซึ่งพวกคุณบางคนอาจจะรู้สึกว่า มันเป็นคำพูดที่ “แล้งน้ำใจ” ก็ได้
แม้ว่าอันที่จริงแล้ว มันจะไม่ใช่อย่างนั้นเลยก็ตาม..ว่า

“ช่างพวกเขาเถอะ พวกเขาไม่เป็นไรจริงๆหรอก!”

เพราะว่า “ชีวิตเป็นของนิรันดร์” ชีวิตคือการทดลองอย่างหนึ่งเท่านั้น
มันคือเกมๆหนึ่งเท่านั้น และมันก็ยังจะมีเกมอื่นๆให้เล่นอยู่อีกเสมอๆ
เกมแล้วเกมเล่า เกมแล้วเกมเล่า บางครั้งพวกคุณก็อาจจะชนะ
แต่บางครั้งพวกคุณก็อาจจะพ่ายแพ้..จนกระทั่ง..เมื่อถึงเวลาหนึ่ง
เวลานั้นก็จะไม่มีการพ่ายแพ้อีกต่อไปแล้ว

เพราะว่าบทเรียนทั้งหลาย ได้ถูกเรียนรู้ไปจนหมดสิ้นแล้ว
และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาเรียนซ้ำๆอีก
เพื่อทำให้สิ่งที่รู้มาแล้ว แน่นมากขึ้น อีกต่อไปแล้ว

ในโลกของพวกคุณ หากพวกคุณเล่นเกมใดเกมหนึ่ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น
สักวันหนึ่งพวกคุณก็จะต้องเบื่อ แล้วก้าวต่อไปหรือไปหาเกมอื่นเล่นแทน

และเวลานั้นก็กำลังจะมาถึงแล้ว เพื่อนๆที่รักทั้งหลาย
เวลาที่ “เกมๆนี้มันถึงจุดสิ้นสุดของมันแล้ว”

มันถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนไปเล่นเกมใหม่แล้ว
ซึ่งเกมใหม่ที่ว่านี้จะนำพาสิ่งใหม่ๆที่จะทำให้ตื่นเต้นเร้าใจมากกว่ามาด้วย

เช่นเดียวกับที่ใครก็ตาม ที่ได้เรียนรู้กฎต่างๆ และรวมถึงวิธีการเล่นของมัน
ไปจนหมดสิ้นแล้ว คนผู้นั้นก็ย่อมจะกลายเป็นผู้ที่มีทักษะเพิ่มมากขึ้นเป็นธรรมดา
และด้วยการทอดลูกเต๋าแต่ละครั้ง จึงเกิดโอกาสแห่งการพัฒนาตามมาด้วยทุกๆครั้งไป

จิตวิญญาณที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกทั้งหลายเอ๋ย
..พวกเรากำลังจะมาช่วยเหลือพวกคุณแล้ว
และพวกเรากำลังจะมาแสดงให้พวกคุณได้เห็นว่า
จะเล่นเกมๆใหม่นี้อย่างไร

พวกเรารู้ว่าพวกคุณมีความกระตือรือล้นที่จะได้เริ่มเล่นมันเต็มที่แล้ว
พวกเรารู้ว่าพวกคุณได้เล่นเกมเก่าไปจนจบเกมแล้ว
และตอนนี้พวกคุณก็พร้อมเต็มที่แล้ว ที่จะได้เริ่มเล่นเกมใหม่นี้ซะที

มันใกล้จะถึงเวลาแล้ว มันเร็วกว่าที่พวกคุณคิดเอาไว้ซะอีก

Blossom: OK ค่ะ..เรามาถึงตรงนี้อีกแล้ว..ไม่ได้อยากจะขัด
“ความจริง” ของพวกคุณนะคะ..เพราะว่าดิฉันรู้ว่าพวกคุณพูดความจริงเสมอ
..แต่ว่าดิฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นอีกแล้วหละ เมื่อพวกคุณพูดเรื่องอะไรแบบนี้

ดิฉันรู้ว่าพวกคุณพูดความจริง ดิฉันรู้ ดิฉันรู้ค่ะ..แต่สิ่งที่พวกคุณไม่รู้ก็คือ
เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณพูดอะไรทำนองนี้ อย่างที่พวกคุณเพิ่งพูดไปนั่นหนะ
ดิฉันและคนอื่นๆอีกหลายคน จะรับฟังด้วยความกังขา

เพราะว่าแม้ว่ามันจะเป็นความจริงก็ตาม และดิฉันก็รู้ว่าสักวันหนึ่ง
พวกคุณจะต้องมาเยือนพวกเราแน่ๆก็ตาม แต่เพราะคำว่า “เมื่อไหร่” นั่นแหละ
ที่ทำให้เรื่องทั้งหมดนี้มันแย่ลง!

เพราะว่าพวกเราฟังมานักต่อนักแล้ว ปีแล้วปีเล่า ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น
ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่ค่อยๆเป็นค่อยๆไป
อย่างที่กำลังเป็นอยู่นี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แล้วพวกคุณก็บอกพวกเราแบบนั้นอีกในปีต่อมา และในปีต่อมาอีกเรื่อยๆ

แต่โปรดอย่าเข้าใจดิฉันผิดไปนะคะ ดิฉันรับเรื่องนี้ได้ค่ะ ดิฉันไม่เป็นไรจริงๆค่ะ
ดิฉันแค่รู้สึกว่ามันจะเป็นการดีกว่าที่จะไม่พูดถึงเรื่องพวกนี้
จนกว่ามันจะถึงเวลาที่ “ใกล้” เข้ามาแล้วจริงๆเท่านั้น

ต่างมิติ: พวกเรายอมรับอย่างที่คุณพูดมา และพวกเราก็ได้เรียนรู้จากพวกคุณ
และจากประสบการณ์ของพวกเราเองด้วยเช่นกัน
ว่าไม่ควร “พูดถึงเหตุการณ์ในอนาคต” ตามกาลเวลาของพวกคุณ ซึ่งพวกเราไม่มี

เพราะฉะนั้นแล้ว พวกเราจึงอยากจะบอกพวกคุณว่า
จงรับรู้เอาไว้หน่อย เพราะว่าเมื่อใดที่
“การเปลี่ยนแปลง” ที่ว่านั้นมาถึงจริงๆ
มันก็เป็นไปได้มากที่สุด
ที่จะทำให้ตัวตนของพวกคุณประหลาดใจอย่างที่สุด

..และพวกคุณก็จะพูดว่า
“พวกคุณน่าจะบอกให้พวกเรารู้ตัวล่วงหน้าซะก่อน”

แล้วพวกเราก็จะพูดว่า
“พวกเราบอกพวกคุณไปแล้ว แต่พวกคุณไม่เชื่อพวกเราเอง!”

Blossom: หา..ตลกดีนะคะ! ตลกจริงๆค่ะ!!

โอเคเพื่อนๆที่รัก ดูเหมือนว่า นั่นเป็นสัญญาณของการสิ้นสุดการสนทนาในครั้งนี้แล้วหละ
ขอบคุณค่ะ และดิฉันก็จะคอยตั้งตารอคอย ที่จะให้พวกคุณใช้ร่างกายของดิฉัน
สื่อสารกับผู้ที่มาเข้าร่วมงานสัมนาที่จะจัดขึ้นที่ Sydney ในสุดสัปดาห์หน้านี้

แต่อย่าลืมนำเอา Passport ของพวกคุณไปด้วยหละ
แล้วก็ห้ามนำอาวุธที่มีคม หรือของเหลวเกิน 100 ml ติดตัวขึ้นเครื่องบินไปด้วยหละ
เพราะว่าในโลกของพวกเราพวกเขาเข้มงวดเรื่องพวกนี้กันมากกก!!

ดิฉันรู้สึกตื่นเต้นกับงานสัมนาครั้งนี้มากๆ

ต่างมิติ: แน่นอน..ที่รัก..พวกเราก็รู้สึกเช่นเดียวกัน

Blossom: แล้วพบกันที่นั่นนะคะ..โอ! ดิฉันเพิ่งมีน้ำตาคลอ!
ด้วยความรัก และขอขอบพระคุณพวกคุณมากๆเลยนะคะ


Website: Psychic-Blossom Goodchild Sunshine Coast, Direct Voice Channel Psychic Medium
..............................................

 

เมื่อ2วันก่อนก้ฝันแปลกๆครับ ประมาณว่า เข้าไปทดสอบภาคปฎิบัติสภาพจิตใจ มีอยู่หลายด่านมาก เ่ช่น ให้เป็นผู้ควบคุมสภาพอากาศ สภาพอากาศจะแปนฝันตามสภาพจิตใจ อารมณ์ของเรา อารมณ์ดีสภาพอากาศก็ดี ทดสอบความกลัว เช่นเข้าด่านผจณภัย พบกันสิ่งของที่ตนเองไม่ชอบ ในฝันมีคนถูกแกล้งให้เข้าไปในห้องจากนั่นเครื่องจักรจะเทจิ้งจก เข้ามาในห้อง 1 คอนเทนเนอ่ ตอนที่เห็นก็บอกครูไปเลยว่า ไม่สอบน่ะ ไม่ผ่านก็ไม่ผ่าน 555555
ท้ายสุดเด็ดมาก กำลังรอทดสอบด่านอื่นๆ อยู่ๆแฟนก็เข้ามาบอกว่า กลับบ้านเป็นเพื่อนหน่อยมีธุระสำคัญ ในใจก็ลังเล ไปถามครู ครูก็ไม่ตอบ เลยคิดเองว่า นี่เป็นการทดสอบแน่เลย จะไปกับแฟน หรือยู่ทดสอบ ก็ขอให้จิตใจปกติ ไม่เป็นทุกข์ ไปทำอะไรก็ได้ ผ่านหมด คิดเอาเอง แล้วก็ตื่น

 

ข้อความต่างมิติ จากสภาสูงพลีเอเดี้ยนส์ (Pleiades High Council)
Channeled by Anna Merkaba - August 19, 2013
ผู้แปล : MEAD

ดวงดาวจะทำมุมครั้งใหญ่ในวันที่ 25 สิงหาคม - ตราประทับแห่งดาวหกแฉก (The Solomon’s seal)



อีกไม่กี่วันถัดไปตามเวลาบนโลกของคุณนี้ จะมีอีกครั้งที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่บนฟากฟ้าของคุณ
ดวงดาวที่สำคัญจะย้ายเข้าไปเรียงกันอยู่ในตำแหน่งที่จะกลายเป็นดาวหกแฉก
ประตูพอร์ทัลอีกชุดหนึ่งจะเปิดออก และนำมาซึ่งความแข็งแกร่งอันถาวรของแสงสว่างบนโลกใบนี้
นี่คือช่วงเวลาที่ทุกท่านจะมีความสามารถอย่างเต็มที่ ที่จะมีสติและเชื่อมต่อกันอีกครั้งกับความศักดิ์สิทธิ์
ควบคู่ไปกับการใช้พลังงานที่ทุกคนได้เก็บรวบรวมและจำศีลเอาไว้ภายในท่อพลังงานของคุณในช่วงที่ผ่านมา
พลังงานที่จะได้รับการปลดปล่อยสู่ไกอา ซึ่งจะมีพลังมหาศาลที่จะทำลายระบบเก่าลง
และที่จะเปลี่ยนให้ทั้งหมดไปสู่ในทิศทางของควรจะเป็น

ดังที่เราจะขอให้ทุกท่านหรือพวกคุณที่มีความปรารถนาจะเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้
จงเชื่อมต่อกับความศักดิ์สิทธิ์ และทำให้ร่างกายของคุณทอดสมอยึดเหนี่ยวกับแสงสว่างเอาไว้
เป็นแกนหลักแห่งแสงสว่าง ผ่านพลังจักรวาลที่บริสุทธิ์อันเต็มไปด้วยความรัก สันติภาพ สันติสุข และความเข้าใจ
ที่สามารถซึมผ่านลงไปในดาวเคราะห์ของคุณอย่างลึกที่สุด

เราขอให้พลังงานนี้ผ่านสู่คุณ เพื่อที่คุณจะได้หลอมรวมกับพลังงานนี้อย่างสมบูรณ์
และให้คุณได้ตรวจสอบกระแสความคิดของคุณอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 วัน
ก่อนที่จะพอร์ทัลเปิด - ในระหว่างช่วงที่พอร์ทัลเปิด - และในวันถัดไปหลังจากที่ประตูของพอร์ทัลปิดลง


อันจะทำให้คุณจะกลายเป็นช่องทางหนึ่งที่บริสุทธิ์ของพลังงานนี้ สำหรับความมืดที่จะถูกเปลี่ยนให้เป็นแสงสว่าง
เปลี่ยนความสับสนและความกลัวให้เป็นความเชื่อมั่นและความสงบสุข
โปรดระลึกไว้เสมอว่า พลังงานนี้จะผ่านสู่คุณและชำระล้างคุณได้อย่างมาก
คุณอาจพบกับประสบการณ์ความผันผวนของพลังงานต่างๆตลอดรอบ 3 วันนี้
ให้เข้าใจเถิดว่า นี่จะเป็นสภาวะตามธรรมชาติสำหรับร่างกายของคุณจะถูกเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาทั้ง 3 วันนี้ (24-25-26)

- ประสาทสัมผัสของคุณจะเพิ่มสูงขึ้น
- วิสัยทัศน์ของคุณจะเพิ่มความคมชัดขึ้น
- การได้ยินเสียงจากภายในจะเพิ่มขีดความสามารถยิ่งขึ้น
- คำพูดที่คุณพูดจะพกพาพลังอันมหาศาลอกมาจากภายใน
- ความคิดของคุณจะเนรมิตรให้สิ่งต่างๆกลายเป็นความจริงอย่างชัดแจ้งอย่างรวดเร็ว

เราขอให้พวกคุณทุกคนมีความตระหนักรู้เพิ่มขึ้นถึงกระบวนการเหล่านี้อย่างถี่ถ้วนรอบคอบ
และตรวจสอบทุกๆความคิด ทุกๆคำพูด และทุกๆการกระทำของคุณ
จงคิดถึงแต่ความรัก-ลมหายหายใจแห่งความรัก จงเป็นความรัก
คุณจะต้องแปลงตัวเองลงไปในเปลวไฟสีม่วงอันบริสุทธิ์นี้อย่างสมบูรณ์


จงอนุญาตให้พลังงานนี้ซึมซ่านผ่านร่างกายของคุณ
ถ้าหากคุณเริ่มรู้สึกอะไรที่ไม่ใช่ ความรัก ความสงบ ความสงบและความสุขล่ะก็
เพียงแค่เปลี่ยนโฟกัสของคุณกลับไปสู่ความรักและแสงสว่างเท่านั้น
เพื่อให้ความคิดของคุณเป็นด้านบวกเสมอ อย่าปล่อยให้พลังงานด้านลบแทรกซึมผ่านเข้ามาได้
เพียงแค่เปลี่ยนโฟกัสของคุณ และรู้ว่า 3 วันนี้ คุณคือรูปธรรมที่มีแต่ความบริสุทธิ์อันเปี่ยมล้น
ผลึกแก้วใสของจิตสำนึกแห่งความจริงอันสากล ได้บรรจุอยู่ภายในท่อพลังงานของคุณและคูณก็ส่งต่อไปให้แม่ไกอา

ดังนั้นวันที่ 25 เดือนสิงหาคมนี้ คุณจะนั่งอยู่ในสภาวะของการหยั่งรู้
และจินตนาการ รู้เห็น รู้สึก มีสัมผัสพิเศษในตัวเอง และกลายเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของเปลวไฟสีม่วง
จงมองเห็นตัวเอง เชื่อมต่อจักระมงกุฎกลางกระหม่อมไปยังแหล่งต้นกำเนิดหรือที่มาของคุณ
ทำให้รู้สึกมั่นใจว่า "จินตนาการ" ที่คุณเชื่อมโยงไปยังแหล่งที่มาของคุณนั้น
ได้รับการคุ้มครองอย่างสมบูรณ์อยู่ในลำแสงสีทอง ขณะที่แสงเดินทางลงมาจากต้นกำเนิดมาสู่จักระมงกุฎของคุณ
ผ่านลงสู่แกนกลางของร่างกายและโลกของคุณ โปรดนั่งอยู่เฉยๆและหายใจเข้าและออกลึกๆ
ทุกๆลมหายใจที่คุณใช้ จะไปดึงเปลวไฟสีม่วงอันศํกดิ์สิทธิ์เพิ่่มมากขึ้นและมากขึ้น ผ่านทางจักระมงกุฎของคุณ
ผ่านไปตามร่างกาย และออกจากฐานจักระของคุณ เข้าไปสู่หัวใจของโลก
ไม่ว่าจากที่ใดๆก็ตาม มันจะไปห่อหุ้มโลกของคุณไว้ทั้งหมด แผ่ขยายไปสู่จิตวิญญาณที่พักอาศัยอยู่ ณ ที่นี้
ทั้งหมดที่สัมผัสได้ถึงความรัก ,ความรู้สึก ,ความเห็นอกเห็นใจ, ความเข้าใจ,
ความบริสุทธิ์, ความจริงใจ, ความสุข, ความเชื่อมั่น และคำอำนวยพรชั่วนิรันดร์

เรารักคุณ เราอยู่กับคุณ ลาก่อนสำหรับตอนนี้
Pleiades High Council

Sacred Ascension – Key of Life – Secrets of the Universe