ผลกรรม...ของการคบชู้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย yo09(), 28 กุมภาพันธ์ 2013.

  1. yo09()

    yo09() เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +4,897
    * อิสิทาสีเถรีกถา *

    พระเถรีอิสิทาสี เดิมเป็นธิดาของเศรษฐีในเมืองอุชเชนี ต่อมาออกบวช
    ได้ ๗ วัน ก็ได้บรรลุวิชา ๓ ระลึกชาติหนหลังของตนได้ ๗ ชาติ ท่านเล่า
    วิบากแห่งกรรมเก่าของท่านไว้ว่าo

    อดีตชาติก่อนๆของท่าน เคยเป็นช่างทอง มีทรัพย์มาก อยู่ในนคร
    เอรกกัจฉะ เป็นคนมัวเมาเพราะความมัวเมาด้วยความเป็นหนุ่ม จึงได้คบชู้
    ภรรยาของบุคคลอื่น เมื่อตายจากชาตินั้นแล้ว ต้องหมกไหม้อยู่ในนรก
    ตลอดกาลนาน

    ครั้นพ้นจากนรกนั้นแล้ว เกิดในท้องแห่งนางวานร พอคลอดได้ ๗ วัน
    วานรใหญ่ที่เป็นนายฝูงก็กัดอวัยวะสืบพันธุ์ของท่านเสีย นี่เป็นผลกรรมที่
    ท่านได้คบชู้ภรรยาของชายอื่น

    เมื่อท่านตายจากกำเนิดแห่งวานรนั้นแล้ว ก็ไปเกิดในท้องนางแพะตาบอด
    ทั้งขาก็ฉีก ในแคว้นสินธุ อยู่มาได้ ๑๒ ปี ก็ถูกเด็กตัดอวัยวะสืบพันธุ์เสีย
    ต่อมาเป็นโรค ถูกหมู่หนอนชอนไชที่อวัยวะสืบพันธุ์ นี่เพราะโทษที่ท่านคบ
    ชู้ภรรยาของชายอื่น

    เมื่อท่านตายจากกำเนิดแพะนั้นแล้ว ก็ไปเกิดในท้องแม่โคของพ่อค้า
    คนหนึ่ง เป็นลูกโคมีขนแดงเหมือนสีครั่ง เมื่อล่วงได้ ๑๒ เดือน ก็ถูกตอน
    ถูกเขาใช้เทียมไถและเข็นเกวียน ต่อมาเป็นโคตาบอด เป็นโคกระจอก
    เป็นโคขี้โรค นี่เพราะโทษที่คบชู้ภรรยาของชายอื่น

    เมื่อตายจากกำเนิดโคนั้นแล้ว ก็ไปเกิดในเรือนของนางทาสีข้างถนน
    จะเป็นหญิงก็ไม่ใช่ เป็นชายก็ไม่เชิง นี่เพราะโทษที่คบชู้ภรรยาของชายอื่น

    เมื่อมีอายุได้ ๓๐ ปี ก็ถึงแก่กรรม แล้วมาเกิดเป็นลูกหญิงในสกุลช่าง
    สานเสื่อ เป็นสกุลขัดสน มีทรัพย์น้อย ถูกเจ้าหนี้รุมทวงอยู่เป็นนิตย์ ต่อมา
    เมื่อหนี้เพิ่มมากขึ้น พ่อค้าเกวียนคนหนึ่งก็มาริบสมบัติ แล้วฉุดเอาท่านลง
    จากเรือนแห่งสกุล ภายหลังเมื่อท่านมีอายุครบ ๑๖ ปี บุตรของพ่อค้า
    เกวียนนั้นมีชื่อว่า คิริทาส ได้เห็นว่าท่านกำลังเป็นสาวรุ่น มีจิตปฏิพัทธ์รัก
    ใคร่ ขอไปเป็นภรรยา แต่นายคิริทาสนั้นมีภรรยาอื่นอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนมี
    ศีลทรงคุณสมบัติ ทั้งมียศรักใคร่สามีเป็นอย่างดียิ่ง ท่านบังคับนายคิริทาส
    ให้ขับไล่ภรรยาของตนเองไป ด้วยเหตุนี้เองเมื่อมาถึงชาติภพปัจจุบันที่ท่าน
    ก่อนมาบวชนั้น ท่านออกเรือนแต่งงานไป ก็ถูกสามีขอหย่าร้าง เมื่อแต่งใหม่
    ไม่นานก็ถูกขอหย่าทุกครั้ง ทั้งๆที่ท่านก็เป็นผู้บำรุงสามีอย่างดี นี่คือผลแห่ง
    การคบชู้ภรรยาของชายอื่น และการบังคับสามีให้ขับไล่ภรรยาของตนเอง
    * ธรรมปทัฏฐกถา *

    พระอานนท์ พุทธอนุชา เคยเกิดเป็นหญิงบาทบริจาริกาของชายอื่นอยู่
    ถึง ๑๔ ชาติ ทั้งนี้เพราะชาติก่อนหน้านั้น ท่านได้เกิดในตระกูลช่างทอง
    แล้วทำชู้กับภริยาของชายอื่น ครั้นตายจากนั้นไปเกิดในนรก จากนั้นจึงไป
    เกิดเป็นหญิงบำเรอเท้าแห่งชายถึง ๑๔ ชาติ และถูกตอนอีก ๗ ชาติ
    ( อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท จิตตวรรคที่๓ )

    _________________________________
    ขอขอบคุณข้อมูลโดย พระเทพกิตติปัญญาคุณ (กิตฺติวุฑฺโฒ ภิกฺขุ) และ larndham.net dhammajak.net และภาพประกอบโดย gotoknow.org

    " นิพพานชาตินี้กันเถอะ "
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • N24.jpg
      N24.jpg
      ขนาดไฟล์:
      282.6 KB
      เปิดดู:
      2,306
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กุมภาพันธ์ 2013
  2. sisu

    sisu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +103
    ถ้าเกิดคบกับหญิงที่หย่าร้างกับสามีเดิมแล้ว(ตามกฎหมาย)แต่สามีเดิมเค้ายังคงหึงหวงอยู่จะผิดศีลข้อ 3 รึปล่าวครับ ?
     
  3. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    ไม่มีใครอยากคบชู้ หากได้คู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบ หากแต่เราเลือกไม่ได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎแห่งกรรม
     
  4. spharm

    spharm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +389
    ข้อนี้ ถ้าหย่าแล้วและฝ่ายหญิงไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับสามีเก่า ก็ไม่น่าจะผิดศีล แต่อาจจะเป็นปัญหาถึงตายได้ถ้าสามีเก่ายังตามหึงหวง ทางที่ดีออกมาเถอะ
     
  5. กาลีนะ

    กาลีนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +4,297
    ถ้า มีสามีแล้วมีลุกแล้ว แต่คบชู้ไม่เลือกหน้าแม้แต่น้องเขยของสามีตัวเองละคะ .. จะต้องตกนรกไหม๊ แต่เธอคนนี้เป็นคนที่กตัญญูต่อพ่อแม่มากคะ และ อุปการะเด้กไว้คนหนึ่ง ทำบุญตามวาระใส่บาตร ..

    ... แต่ฐานนะของสามีถือว่าเป็นคนรวยคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอใช้ร่างกายแลกเงินคะ เพื่อเอามาบำรุงความงาม และ ความอยากของตัวเองด้วย ตอนนี้ป่วยเป็นโรคติดเชื่อในกระแสเลือด แต่ไม่ตายเดินได้แต่ไม่สะดวก สมองมีปัญหาคะ
     
  6. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  7. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    กฏแห่งกรรมย่อมเที่ยงธรรมเสมอ ....ทำชั่วก็ย่อมได้ผลชั่ว...มีนรกเป็นที่ไป...ทำดีผลดีย่อมปรากฏ ...ต่างกรรมต่างวาระ..ผลย่อมแยกไม่ปะปนกันครับ..

    คนบางคนมีอุปนิสัยเช่นนี้จริงๆ คือดีก็เอา ชั่วก็ทำ จึงคนเราบางคราวได้ดีมีสุข ต่อมาก็ถูกทุกข์ย่ำยีปางตายสลับคละกันไปไม่หยุดหย่อน
     
  8. ประปราย

    ประปราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +301
    การคบชู้ หนูว่า นอกจากจะเป็นเวรกรรมที่ทำกับคนรักแล้ว หนูคิดว่า พ่อแม่ของคนรัก พี่น้อง เพื่อนๆของคนรัก ลูก เวลาเห็นคนรักทุกข์ใจ เขาก็พลอยทุกข์ใจไปด้วย กรรมน่าจะเกี่ยวพันกับหลายคนเลยน่ะค่ะ ถ้าละข้อนี้ได้ ก็ละเสีย

    เพราะหากเรารักเขาที่ใจจริงๆ ก็ควรอยากเห็นเขามีความสุข แต่การคบชู้ เขาจะมีความสุขจริงๆได้อย่างไร ในเมื่อต้องโดนคนอื่นนินทา และตามมาด้วยการผิดศีลข้ออื่นตามมาอีก

    ถ้ามั่นใจว่ารักเขาจริงๆ ความรักก็อยู่ที่จิตใจ ไม่ใช่ร่างกายค่ะ ไม่ต้องเอาร่างกายไปใกล้ชิดเขาตั้งแต่แรก ปัญหาจะได้ไม่เกิด ส่งแค่ใจที่หวังดีต่อกันพอแล้วค่ะ เมตตาเขาให้เป็นความรักที่ไม่หวังผลตอบแทน พูดง่ายแต่ทำยากค่ะ ถ้าหากมี พี่ๆเพื่อนๆคนไหนเผลอทำ ก็ขอให้ปรับตัวแก้ไขน่ะค่ะ ผิดน้อยดีกว่าผิดมาก ทุกคนเคยทำผิดหมดค่ะ หนูเห็นเพื่อนหนู เขามีพ่อที่เจ้าชู้ ทำให้กลายเป็นคนที่ค่อนข้างเกลียดผู้ชาย น่าสงสารน่ะค่ะ คนที่ต้องมีปมตั้งแต่เด็ก ถ้าเลิกได้ ก็เลิกเถอะค่ะ จะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง :)
     
  9. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    แต่ก่อนเราจับได้คาหนังคาเขาว่าสามีคบกันกับหญิงอื่น พร้อมทั้งเวลาผู้หญิงขอเงินเพราะความจำเป็นมากๆ เช่น ไม่มีแม้แต่จะซื้อข้าวกิน แต่สามีบอกเราว่าผู้หญิงคนนั้นเขาเรียนมหาลัย พร้อมทั้งแก้ตัวให้ผู้หญิงคนนั้นต่างๆนาๆ และบอกเราข้างๆคูๆอีกด้วยว่าก็เขาคบกับผู้หญิงคนนั้นก่อนจะมารู้จักเรา (อ้าว...เราผิดซะงั้น!!!) ซึ่งเขากลับส่งเงินให้ง่ายๆ เราก็เลยว่าเธอรู้ได้ไงว่าเขาเรียนจริงๆ และถึงขั้นที่ว่าไม่มีเงินจะกินข้าว!!!
    กับเราเขาไม่เคยจะให้เงินง่ายๆแบบนั้นเลย เราก็ทะเลาะกันจนจะเลิกกัน ต่อมาไม่นานเขาก็จับได้ว่าผู้หญิงคนนั้นคบกับคนอื่นอยู่เช่นกัน เขาก็นำความมาเล่าให้เราฟังอีกด้วยตัวเขาเอง เราเลยคิดในใจ "สมน้ำหน้า" เแต่งงานกับเรา ให้ความหวังเรา พาเรามาอยู่ด้วย เราก็ทำงานบ้านงานเรือนไม่ให้ขาดตกบกพร่อง กลับไปเห็นคนอื่นดีกว่า

    หลังจากนั้นเขาเลยเริ่มเห็นคุณค่าเรามากขึ้น แต่ว่าความขี้เหนียวกลับยิ่งหนักขึ้น แถมหรือเขาอาจจะเห็นเราเป็นแจ๋วมากขึ้นด้วยก็ไม่รู้ มีอะไรผิดพลาดไม่ได้ดั่งใจก็มาโทษว่าเป็นความผิดเรา ตอนนี้เราเลยอยู่แบบเพื่อนร่วมโลกกับเขา
    ความใฝ่ฝันอันสูงสุดคือ ถ้ามีวาสนาอยากจะไปบวชชี ปฏิบัติธรรมให้สูงสุด ละจากโลกนี้แล้วแล้วไม่ต้องมาเกิดอีก เบื่อกับความทุกข์ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเรื่อยๆไม่รู้จักสิ้นสุด ความสุขจริงๆที่พระพุทธเจ้านำมาเผยแผ่ไว้เป็นยังไง อยากจะปฏิบัติให้รู้แจ้งจริงๆ เพราะอยู่กับโลกเดี๋ยวก็มีเรื่องนั้นเรื่องนี้มาให้ทุกข์และปฏิบัติธรรมที่บ้านก็ไม่เหมือนได้ไปปฏิบัติจริงๆจังๆกับครูบาอาจารย์.

    END
     
  10. singhol

    singhol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,376
    ค่าพลัง:
    +1,940
    สิบเท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง....กลับตัวกลับใจใหม่.....จากหนักเป็นเบา...จากเบาเป็นบาง....ลองตรองดู
     
  11. เบเบ้

    เบเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +14,165
    ควรพิจารณาอสุภกรรมฐานครับ

    rabbit_run_awayอสุภกรรมฐาน

    อสุภ แปลว่า ไม่สวย ไม่งาม กรรมฐาน แปลว่า ตั้งอารมณ์ไว้ให้เป็นการเป็นงาน รวมได้ความว่า ตั้งอารมณ์เป็นการเป็นงานในอารมณ์ที่เห็นว่า ไม่มีอะไรสวยสดงดงาม มีแต่ความสกปรก โสโครก น่าเกลียด

    กำลังสมาธิของอสุภกรรมฐาน

    อสุภกรรมฐานมี 10 อย่าง มีกำลังสมาธิเพียงปฐมฌานเป็นอย่างสูงสุด ไม่สามารถจะทรงฌานให้มีกำลังให้สูงกว่านั้นได้ เป็นกรรมฐานด้านพิจารณามากกว่าการเพ่ง ใช้อารมณ์จิตใคร่ครวญพิจารณาอยู่เป็นปกติ จึงทรงสมาธิได้อย่างสูงก็เพียงปฐมฌาน เป็นกรรมฐานที่มีอารมณ์คล้ายกับวิปัสสนาญาณมาก นักปฏิบัติที่พิจารณาอสุภกรรมฐานจนทรงปฐมฌานได้ดีแล้ว พิจารณาวิปัสสนาญาณควบคู่กันไป จะบังเกิดผลรู้แจ้งเห็นจริงในอารมณ์วิปัสสนาญาณได้ อสุภกรรมฐานนี้เป็นสมถกรรมฐานที่ให้ผลในทางกำจัดราคจริตเหมือนกันทั้ง 10 กอง ท่านที่เจริญกรรมฐานหมวดอสุภนี้ชำนาญเป็นพื้นฐานแล้ว ต่อไปเจริญวิปัสสนาญาณ จะเข้าถึงการบรรลุเป็นพระอนาคามีผลได้ไม่ยากนัก

    อสุภกรรมฐาน 10 อย่าง

    อุทธุมาตกอสุภ คือ ร่างกายของคนและสัตว์ที่ตายไปแล้ว นับแต่วันตายเป็นต้นไป มีร่างกายขึ้นบวมพอง ที่เรียกกันว่า ผีตายขึ้นอืดนั่นเอง
    วินีลกอสุภ เป็นร่างกายที่มีสีเขียว สีแดง สีขาว ปะปนคน สีแดงในที่มีเนื้อมาก สีขาวในที่มีน้ำเหลืองน้ำหนองมาก สีเขียวที่มีผ้าสีเขียวคลุม ร่างของผู้ตายส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยผ้า สีเขียวจึงมากกว่า ดังนั้นจึงเรียกว่า วินีลกะ แปลว่าสีเขียว
    วิปุพพกอสุภ เป็นซากศพที่มีน้ำเหลืองไหลอยู่เป็นปกติ
    วิฉิทททกอสุภ คือซากศพที่มีร่างกายขาดเป็นสองท่อนในท่ามกลาง มีกายขาดออกจากกัน
    วิกขายิตกอสุภ เป็นร่างกายของซากศพที่ถูกสัตว์ยื้อแย่งกัดกิน
    วิขิตตกอสุภ เป็นซากศพที่ถูกทอดทิ้งไว้จนส่วนต่าง ๆ กระจัดกระจาย
    หตวิกขิตตกอสุภ คือซากศพที่ถูกสับฟันเป็นท่อนน้อยและท่อนใหญ่
    โลหิตกอสุภ คือซากศพที่มีเลือดไหลอออกเป็นปกติ
    ปุฬุวกอสุภ คือซากศพที่เต็มไปด้วยตัวหนอนคลานกินอยู่
    อัฏฐกอสุภ คือซากศพที่มีแต่กระดูก

    การพิจารณาอสุภ

    การพิจารณาอสุภทั้ง 10 อย่างนี้ ท่านให้พิจารณาเพื่อถือเอานิมิตโดยอาการ 6 อย่างต่อไปนี้

    พิจารณาโดยสีี คือกำหนดว่า ซากศพนี้เป็นร่างกายของคนดำหรือคนขาว หรือร่างกายผิวไม่เกลี้ยงเกลา
    พิจารณาโดยเพศ อย่ากำหนดว่าร่างกายนี้ชายหรือหญิง พึงพิจารณาว่า ซากศพนี้เป็นร่างกายของคนที่มีอายุน้อย กลางคนหรือคนแก่
    พิจารณาโดยสัณฐาน คือพิจารณาว่า นี่เป็นคอ เป็นศีรษะ เป็นท้อง เป็นขา เป็นเท้า เป็นแขน เป็นต้น
    กำหนดโดยทิศ ทิศนี้หมายเอาสองทิศ คือ ทิศเบื้องบน ได้แก่ทางด้านศีรษะ ทิศเบื้องต่ำ ได้แก่ทางด้านปลายเท้าของซากศพ มิได้หมายถึงทิศเหนือทิศใต้
    พิจารณาโดยที่ตั้ง ให้กำหนดว่า ซากศพนี้ศีรษะวางอยู่ตรงนี้ มือวางอยู่ตรงนี้ เท้าอยู่ตรงนี้ เวลาพิจารณาอสุภนี้ เรายืนอยู่ตรงนี้
    พิจารณาโดยกำหนดรูู้้ หมายถึงการกำหนดรู้ว่า ร่างกายสัตว์และมนุษย์นี้มีอาการ 32 เป็นที่สุด ไม่มีอะไรสวยสดงดงามจริง ความจริงแล้วเป็นของน่าเกลียด มีกลิ่นเหม็นคลุ้ง มีสภาพขึ้นอืดพอง มีน้ำเลือดน้ำหนองเต็มร่างกาย หาที่น่ารักไม่มีเลย ที่มองเห็นว่าดีหน่อยก็หนังกำพร้าที่ห่อหุ้มภายในอยู่ แต่หนังนี้ก็ใช่ว่าจะสวยสด ถ้าไม่คอยขัดถู ไม่นานก็เหม็นสาบ น่ารังเกียจ ตอนมีชีวิตอยู่ก็เอาดีไม่ได้ พอตายแล้วยิ่งโสโครกใหญ่ กลายเป็นซากศพขึ้นอืดพอง น้ำเหลืองไหลกลิ่นเหม็น เมื่อกำหนดพิจารณาทราบว่า ร่างกายของซากศพทั้งหลายนี้แล้ว ก็น้อมนึกถึงสิ่งที่ตนรัก ที่เห็นว่าเขาสวย เอาความจริงจากซากอสุภเข้าไปเปรียบเทียบดู ว่าที่เห็นว่าเขาสวยสดงดงามนั้น มีอะไรต่างกับซากศพนี้บ้าง ปากที่ชมว่าสวย เต็มไปด้วยเสลด น้ำลาย ของตัวเองพอกลืนได้ แต่รังเกียจของคนอื่นไม่กล้าแ้ม้แต่ที่จะแตะ


    ซากศพนั้นมีสภาพอย่างไร เมื่อตายแล้วจากความเป็นคนหรือสัตว์ เราเรียกกันว่าผีตาย มีสภาพอย่างไรเมื่อตาย แม้ยังไม่ตายสิ่งเหล่านั้นก็มีครบ พิจารณาคนที่เรารักมีสภาพอย่างนั้น ใคร่ครวญให้เห็นติดอกติดใจจนกระทั่งเห็นสภาพของผู้ใดก็ตาม มีความรู้สึกว่าเป็นซากศพทันที เห็นคนหรือสัตว์มีสภาพเป็นซากศพไปหมด เต็มไปด้วยความรังเกียจ เห็นผิวภายนอกก็มองเห็นภายใน คือเห็นเป็นสภาพถุงน้ำเลือด ถุงอุจจาระ ปัสสาวะที่เคลื่อนที่ได้ ต่อไปเขาก็จะกลายเป็นซากศพที่มีร่างกายอืดพอง น้ำเหลืองไหล เราก็เช่นเดียวกัน เขามีสภาพเช่นไร เราก็มีสภาพเช่นนั้น กายนี้ล้วนแต่เป็นอนิจจัง หาความเที่ยงแท้แน่นอนไม่ได้เลย เมื่อไม่เที่ยงอย่างนี้เป็นทุกขัง ความทุกข์อันเกิดแต่ความเคลื่อนไปหาความเสื่อมอย่างนี้ เป็นอนัตตา เพราะเราจะบังคับควบคุมไม่ให้เคลื่อนไปไม่ได้ ต้องเป็นไปตามกฎธรรมดา
    พิจารณาเห็นโทษเห็นทุกข์อันเกิดแต่ร่างกาย เกิดนิพพิทาความเบื่อหน่ายในร่างกายของตนเองและผู้อื่น เห็นเมื่อไหร่เบื่อหน่ายหมดความพอใจเมื่อนั้น เห็นคนมีสภาพเป็นศพทุกขณะที่เห็นอย่างนี้ เรียกว่า ได้้อสุภกรรมฐานในส่วนของสมถภาวนา
    อารมณ์ ที่เห็นว่า ร่างกายนอกจากจะโสโครกน่าสะอิดสะเอียนแล้ว เบื่อหน่ายในการทรงสังขาร เบื่อที่จะเกิดต่อไป เพราะถ้าเกิดมีร่างกายในภาพใด ร่างกายก็จะมีสภาพโสโครกสกปรก เป็นซากศพและไม่เที่ยง เป็นทุกข์บังคับไม่ได้ เบื่อในการเกิด เป็นนิพพิทาญาณในวิปัสสนาญาณ ใคร่ครวญหากฎธรรมดาควบคู่กันไป วางใจเฉยเพราะนี่เป็นเรื่องธรรมดา ที่เกิดมาก็ต้องเจ็บไข้ไม่สบาย มีลาภแล้วก็เสื่อมได้ มียศก็เสื่อมได้ มีสุขก็ทุกข์ได้ มีสรรเสริญก็มีนินทาได้ เกิดแล้วก็ต้องตายได้ ทุกอย่างมันธรรมดา จนจิตชินต่ออารมณ์ มีทุกข์ก็รู้สึกว่าเป็นปกติ ไม่หวั่นไหว เรียกว่า ได้สังขารุเปกขาญาณในวิปัสสนาญาณ เป็นคุณธรรมที่ใกล้ความเป็นผู้บรรลุพระโสดาบันแล้ว หมั่นคิดว่า ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา ไม่หวั่นไหวต่อมรณภัย มีจิตใจศรัทธาเชื่อมั่นในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า จิตว่างจากกรรมชั่วครู่ คือรักษาศีล 5 ได้เป็นปกติ มีอารมณ์รักพระนิพพานเป็นปกติ ใคร่ครวญปรารถนาแต่พระนิพพาน ไม่ต้องการเกิดต่อไป อย่างนี้ท่่านว่า ทรงคุณได้ในระดับพระโสดาบัน
    ฉะนั้น ขอให้ท่านที่ปฏิบัติในอสุภกรรมฐานจงพยายามกำหนดพิจารณาให้ขึ้นใจจนได้ปฏิภาคนิมิตในที่สุด และรักษานิมิตนั้นไว้อย่าให้เสื่อมไป ยกเอานิมิตนั้นขึ้นสู่อารมณ์วิปัสสนาญาณ ท่านจะเข้าถึงมรรคผลนิพพานได้ภายในไม่ช้าเลย การพิจารณาอย่างนี้เรียกว่า พิจารณากำหนดรูู้้ dannce_
     
  12. เหมียว_วัฒ

    เหมียว_วัฒ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2011
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +106
    ขออนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
    จะพยายามเลิกเจ้าชู้ แต่ถ้าเป็นชู้ทางใจไม่ทราบว่าจะผิดไหมเจ้าคะ (ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายต่างก็เป็นชู้ทางใจ ไม่ได้มีเกินเลย **อีกฝ่ายยังโสด ส่วนอีกฝ่ายแต่งงานแล้ว**)
     
  13. seahero

    seahero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +602
    ถ้าเป็นศีลข้อ 3 ในศีล 5 ก็ไม่ผิดครับ แต่มันเป็นกรรมที่ทำให้ใจเศร้าหมอง ที่รู้เพราะเป็นอยู่เหมือนกัน เฮ้อ..เศร้า อยู่ๆมันก็มาเอง นึกจะรักก็รักขึ้นมาซะงั้น สงสัยจะโดนทดสอบกำลังใจรึเปล่าก็ไม่รู้หรืออาจะเป็นเพราะวาระกรรมที่เคยเกี่ยวเนื่องกันมามันส่งผลพอดีก็เลยเกิดแรงดึงดูด พยายามจะทนๆไปเดี๋ยวพอแรงกรรมมันหย่อนลงอะไรๆ ก็คงดีขึ้น ตอนนี้กระวนกระวายเหมือนหนูติดจั่นเลยครับ ทรมานมากๆ ):
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 มีนาคม 2013
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    =======

    บุญก็ส่วนบุญ บาบก็ส่วนบาบครับ ทั้งบุญและบาบคือกรรม ย่อมให้ผลแก่เรา บาบกรรมย่อมให้ผลทันทีเมื่อคราวชะตาตก หรือกรรมดีไม่ให้ผล หรือในคราวที่กรรมชั่วมีกำลังมาก หรือจิตเราตก กรรมได้ช่องโอกาส ต้องได้รับผล อันนี้ยังไม่รวมวิบากกรรม ที่ต้องไปรับใช้ในโลกวิญญาณ ครับ

    ผมเห็นมามากเช่นกัน คนที่ร่ำรวย สวย หล่อ มียศฐา บรรดาศักดิ์ หรือเจ้าของธุระกิจ แต่เบื้องหลังทำบาบผิดศีล เบียดเบียดผู้อื่นไว้มาก ปัจจุบัน กรรมชั่วให้ผลเร็วมาก ต้องพิการ บ้างก็เส้นเลือดแตกในสมอง บ้างก็เป็นโรคที่รักษายาก ต้องกลายเป็นคนสติไม่ดีก็มีมากครับ

    ดังนั้นอย่าทำบาบอย่าไปเบียนเบียนผู้อื่นอีกเลยครับ แค่กรรมเก่าทุกวันนี้มันก็รอคิวกันยาวเหยียดเป็นหางว่าว ถ้าไม่พยายามทำดีเพื่อหนีกรรมเก่า ก็อย่าคิดว่าจะรอดครับ อันตรายมากครับ ขอท่านจงไม่ประมาทในการทำดีและละกรรมชั่วครับ
     
  15. Thrinai

    Thrinai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +555
    กรรมดีก็ส่วนนึง กรรมชั่วก็ส่วนนึง คนเราทำทั้งดีและชั่วไว้ทุกชาติ มันอยู่ที่กรรมอะไรให้ผลก่อน บางทีถ้ากรรมดีสนองผลก่อนก็ดีไป แต่อย่าลืมว่ากรรมไม่มีโมฆะ มันติดตามเหมือนหมาล่าเนื้อที่ล่าเหยื่อแบบไม่ลดละ เมื่อไหร่ที่คุณประมาทมันก็พร้อมที่จะกระโจนใส่คุณทันที กรรมดีก็พร้อมสนองเมื่อโอกาสอำนวย กรรมชั่วก็พร้อมสนองเมื่อโอกาสอำนวย ไม่สามารถลบล้างได้...
    ..ทางที่จะทำให้กรรมนั้นโมฆะได้ คือ ออกจากเกมส์ ออกจากวัฏฏะ พระพุทธองค์บอกทางออกไว้แล้ว
     
  16. nun-rayong

    nun-rayong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,312
    ทำดีหนีบาปกันตีกว่า ไม่มีใครไม่มีบาป ถ้าจะหนีให้พ้นหนีไปพระนิพพาน อ่านคำสอนหลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง กันครับ
     
  17. ประปราย

    ประปราย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +301
    คำว่าชู้เนี้ย ถ้ามีแฟนเพิ่งคบกันรู้เฉพาะหมู่เพื่อนๆทั้งสองฝ่าย แล้วมีมือที่สามพยายามแทรกแซง อย่างนี้เรียกว่าชู้มั้ยค่ะ

    ส่วนตัว พยายามมองในแง่ดี ว่า เป็นการทดสอบว่าเขาดีพอที่จะคู่ควรกับเราหรือเปล่า หรือจะแพ้มารในใจเขาเอง :))))
     
  18. ละโลก

    ละโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +654
    เป็นข้อหลักๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่ยังเวียนว่ายตายเกิด ควรหลีกลี้หนีให้ไกลอย่าไปยุ่งเป็นดี
    (ถูกคือถูก ผิดคือผิด ไม่ต้องคิดว่าถูกมากผิดน้อย) อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุกับเจ้าของกระทู้ครับ
     
  19. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +2,983
    แค่คิด แต่ยังไม่ได้ลงมือ ก็มีโทษแล้ว เพราะ สามีเขาระแวงแคลงใจ
    กรรมที่ได้รับก็อาจ เบา หนัก ไปตามเรื่องที่เราประพฤติ จะให้ดี ความชั่ว
    ไม่ทำเลย...ดีกว่า
     
  20. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ผิดเจ้าครับ เป็นการล่วงอกุศลกรรมบทข้อ๘คือเพ่งเล็งสิ่งทีีมีเจ้าของเครื่องปลื้มใจของผู้อื่น..

    การเกี่ยวข้องกับใคร ที่มีเจ้าของไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด..ก็เป็นเจตนาที่เป็นไปเพื่อความไม่สงบ ไม่สมัครสมานสามัคคี เป็นไปเพื่อการเบียดเบียนโดยส่วนเดียว..

    แม้จะอาจเข้าใจว่าเพียงแค่คิด ไม่เสียหายอะไร ก็พึงเข้าใจว่า การล่วงบาปมีล่วงศีลทั้งหลาย ก็เพราะมีความคิดนั่นแหละขึ้นมาก่อน ครั้นคิดจนกิเลสมีกำลังมากก็ล่วงออกมาทางกายบ้าง วาจาบ้างเป็นอันว่าในที่สุดก็ทุจริตล่วงศีลจนได้ ยิ่งเรื่องตัณหาด้วยแล้ว ยากที่ปุถุชนผู้ไม่ได้สดับจะรู้จักห้ามปรามหรือข่มขี่ให้ยุติลงได้โดยง่าย จึงไม่พึงประมาทในเรื่องเช่นนี้เลยนะเจ้าครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...