ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ta2498

    ta2498 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,417
    ไม่เป็นไรครับ ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ Numsai ที่นำข่าวบุญมาแจ้ง ทำให้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสทำบุญ ทำความสะอาดวัด ซึ่งผมไม่ได้มีโอกาสทำมากนัก หวังว่าคงจะได้มีโอกาสพบปะและร่วมบุญกับพี่ Numsai และเพื่อน ๆ พี่น้องอีก ขอบคุณมากครับ
     
  2. ta2498

    ta2498 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,417
    หวังว่าคงชอบของที่ระลึก ตั้งใจคัดสรรเพื่อทุกคน นาน ๆ จะได้เจอกันที หวังว่าคงมีโอกาสพบกันอีก
     
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    เป็นธาตุกายสิทธิ์สายพญานาคค่ะ ประเภทแก้วมณีนาคราช เป็นของพญานาคอายุน้อย ประเภทภุมเทวา ที่จุติจากไข่ค่ะ ผู้ดูแลนามว่า "สัทธรัตน์" หากเห็นกายละเอียดจะคล้ายกุมารค่ะ แต่งกายเหมือนเจ้าชายในหนังจักร ๆ วงค์ ๆ มีความเป็นอยู่คล้ายมนุษย์ค่ะ แต่ก็มีฤทธิ์พอควร

    แก้วมณีนาคราช จะไม่มีกายสิทธิ์อยู่ด้วยนะคะ คนละประเภทกับแก้วจักรพรรดิ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2013
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ..

    วันเสาร์นี้ หากมีเวลาพี่ก็เชิญไปร่วมปิดทองพระพุทธอัมรินทร์รัตนบพิตรกันค่ะ ที่โรงหล่อพุทธปฐมกันค่ะ (โรงหล่อป้าเนียน) ช่วงเช้ามีการหล่อพระ แต่ไม่ทราบกำหนดเวลาแน่นอน จึงนัดไปพบกันที่โรงหล่อจะสะดวกกว่าค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับน้อง และคุณแม่ด้วยค่ะ

    Numsai
     
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 ผู้เปิดประมูลค่ะ ขออนุญาตเล่าเรื่องที่ยังค้างไว้ก่อนตามที่น้องน้ำตาลขอมานะคะ จึงจะเสนอรายละเอียดของดวงแก้วแต่ละดวงค่ะ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไปค่ะ

    Numsai
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ผลบุญเป็นอจินไตย ตอน ๓ พญาสหสัตตรัตน์นาคราช ณ.วัดโสดาฯ..

    เรื่องของการบวงสรวงด้วยทิพยสมบัตินั้น ได้มีโอกาสกระทำอีกครั้ง เมื่อจะมาทำความสะอาดที่วัดโสดาประดิษฐาราม ครั้งแรก ได้ยินเสียงนาคกัลยาได้ทักทายแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้นึกเรื่องนี้อีกเลย จนกระทั่งพวกเราจะไปทำความสะอาดที่วัดในวันรุ่งขึ้น

    เมื่อวันที่ ๒๖ มค.๕๖ เวลาประมาณเกือบ ๒๒ น. คุณ vatechayana ได้ทัก what app ว่า..

    “พรุ่งนี้จะไปทำความสะอาดที่วิหาร เราตะ หงิดว่า สารพิษจะลงน้ำได้หรอ”

    เป็นเรื่องแปลกว่า ไม่ได้เล่าให้คุณ vatechayana ฟังว่า เราจะทำความสะอาดอย่างไร แต่ตามแผนจะใช้ผงซักฟอกขัดก่อน แล้วฉีดด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาด (จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไรค่ะ) จากนั้นก็ถูพื้นตามปกติ

    จึงตั้งจิตถามพญานาคที่ดูแลที่วัด มีเสียงตอบกลับมาว่า “ไม่ได้”

    จึงได้โทรไปปรึกษากับคุณ phuya ทันที เพื่อวางแผนกันใหม่ เนื่องจากหากไม่ทำตามแผนเดิม พวกเราก็พบงานหนักเป็น ๒ เท่า เนื่องจากบริเวณรอบ ๆ วิหารมีฝุ่นเหล็กเกาะเต็มไปหมด ยังไม่ทราบว่าจะจัดการกันอย่างไร

    เวลานั้น จึงได้ให้บุตรสาวสอบถามพญานาคว่า หากเราทำตามแผนเดิมแล้ว ผลจะเป็นอย่างไร ท่านตอบว่า ..

    “พญานาคที่อยู่ในเมืองของท่าน มีทั้งพญานาคที่สูงอายุ และพญานาคที่บาดเจ็บจากการสู้กับพญาครุฑมา หากเราปล่อยน้ำที่มีสารเคมีลงไป ก็จะทำให้พญานาคโกรธ และกลายเป็นพวกมิจฉาทิฐิไป เนื่องจากบริเวณใกล้ ๆ นั้น มีพญานาคสีดำจ้องที่จะเอาลูกน้องท่านไปเป็นพวกอยู่ ท่านก็ต้องเสียลูกน้องไป”


    ท่านเจ้าเมือง(ขณะนั้นยังไม่ทราบนามท่าน ดูเหมือนท่านจะวิตก และกล่าวว่า

    “เอาอย่างนี้มั๊ย เราจะอพยพชาวเมืองของเราไปอยู่ที่อื่น”

    จึงถามท่านว่า “หากไปอยู่ที่อื่นแล้ว ท่านจะกลับมาหรือไม่” ท่านตอบว่า..

    “ไม่ได้กลับมา” ก็รู้สึกตกใจ และสงสารท่านและชาวนาคเป็นอย่างยิ่ง จึงกล่าวแก่ท่านว่า

    “ท่านอย่าวิตกไปเลย เรื่องนี้เราจะแก้ไขปัญหากันเอง โดยที่ท่านทั้งหลายไม่ต้องเดือดร้อน"

    ท่านถามว่า “หากไม่ใช้สารเคมีแล้ว พวกท่านจะลำบากมั๊ย” จึงตอบท่านว่า “ก็ลำบากกว่าเดิม”

    ท่านจึงกล่าวว่า “ไม่เป็นไรหรอก พวกเราไม่อยากขวางการสร้างบุญของพวกท่าน เราจะพลอยบาปไปด้วย”

    จึงกล่าวแก่ท่านว่า..

    “ ท่านเจ้าคะ ไม่ต้องเป็นห่วง เป็นเรื่องของมนุษย์จะแก้ไขเอง เราขอให้ท่านอยู่ก่อน ท่านอย่าได้กังวล การอพยพชาวเมือง มีทั้งผู้ชรา และนาคที่เจ็บป่วย อาจจะจุติได้ เราไม่อยากให้ท่านทำเช่นนั้น ขอท่านใจเย็น ๆ"

    ท่านจึงตอบว่า “อย่างนั้น เราจะรอการตัดสินใจนะ” จึงได้กราบลาท่าน และยุติการสนทนา

    คืนนั้นยอมรับว่า กังวลใจพอสมควร เรามีเจตนาดีในการช่วยบำรุงพระศาสนา แต่การสร้างบุญของเรา กลับทำให้อีกหลายดวงจิตต้องเดือดร้อน จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร เพื่อไม่ให้รับผลกระทบ จึงคิดว่า เรานอนก่อนดีกว่า หลับแล้วตื่นคงคิดได้ วันนั้นได้นอนประมาณเกือบ ๕ ทุ่ม

    เวลา ๐๒.๓๕ น.ตื่นขึ้นมาอัตโนมัติเหมือนถูกปลุก รู้สึกจิตแจ่มใสขึ้น นอนอย่างไรก็ไม่หลับ จึงคิดว่า ไหน ๆ นอนไม่หลับไปเฝ้าพระพุทธเจ้าดีกว่า กราบเรียนถามพระพุทธองค์ว่าจะแก้ไขอย่างไร
    ______________________

    ยังมีต่อ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2013
  7. sereenon

    sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,724
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    ขอบคุณค่ะที่ตอบให้
     
  8. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905


    ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลกับ คุณworld999 ด้วยนะค่ะ

    จันทรกาล:cool:
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ผลบุญเป็นอจินไตย ตอนจบ อาราธนาพระพุทธเจ้า โปรดพญานาค ..


    ครั้นเมื่อคิดได้ดังนั้น ก็ลุกขึ้นล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น จากนั้นก็กราบพระ สวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย ขอขมาพระรัตนตรัย และสมาทานพระกรรมฐาน แล้วตั้งจิตอธิษฐานไปปรากฏต่อหน้าสมเด็จพระพุทธสมณโคดมทันที

    เมื่อไปถึงก็ทราบว่า พระพุทธองค์รออยู่ก่อนแล้ว จึงได้กราบเรียนปรึกษาท่านเรื่องที่จะไปทำความสะอาด ทรงตรัสว่า

    “....เราจะไปโปรดพญานาคเหล่านั้นเอง”

    สร้างความปลื้มปิติใจอย่างยิ่ง เพราะหากพระพุทธองค์ทรงโปรดเองเท่ากับว่า บุญครั้งนี้อาจจะส่งผลให้ชาวนาคเหล่านั้นได้เคลื่อนภพได้ ปัญหาต่าง ๆ ที่มีอยู่จะเคลี่ยคลายทันที

    กรณีสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าได้โปรดเองนั้น เคยมีมาก่อนหน้านี้ วิธีการเดียวกับการอาราธนาพระพุทธเจ้า เสด็จมาโปรดเทวดาประจำต้นโพธิ์ที่วัดท่าซุง ซึ่งทำให้ท่านเหล่านั้นได้บรรลุธรรมเป็นพระอริยเจ้ามาแล้ว

    ขณะนั้นนึกในใจว่า ก่อนหน้านี้เวลาเราไปอาราธนาองค์สมเด็จฯ เราไปมือเปล่า ไม่เป็นการสมควรเลย จึงคิดว่า ควรมีเครื่องสักการะอันเป็นทิพย์ บูชาพระองค์ก่อนที่จะอาราธนา สมเด็จพระผุ้มีพระภาคเจ้า ทราบวารจิตทรงนิ่ง

    จึงตั้งจิตตั้งเครื่องสักการะอันเป็นทิพย์อันมีพระบรมสารีริกธาตุที่เคยถวายไว้ในพระพุทธศาสนา มีความวิจิตรตระการตาเป็นประธาน ต่ำลงมามีดวงแก้วมณี ขนาด ๕๐ กก. ประดิษฐานตรงกลาง เครื่องสักการะที่อธิษฐานมาสวรรค์ทุกชั้น จากนั้นได้กล่าวแก่สมเด็จพระผุ้มีพระภาคเจ้าว่า..


    “ข้าฯแต่องค์สมเด็จพระผุ้มีพระภาคเจ้า ผู้เป็นเลิศในภพ ๓ มาบัดนี้ มีผู้ยากไร้ ยังต้องเวียนว่ายตายเกิด ยังต้องทนทุกข์อยู่ในวัฏสงสาร ขอพระพุทธองค์ทรงโปรดสงเคราะห์สัตว์โลก ผู้ยากไร้
    ขอพระองค์ได้เทศนาโปรดเหล่านาคราชทั้งหลาย ณ.วัดโสดาฯ ตามสมควรด้วยเถิด พระพุทธเจ้าข้าฯ”


    พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงรับอาราธนา และทรงตรัสเรียกพระเถระดังนี้ ..
    พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระมหากัสสปะ พระอัสสชิ พระมหานามะ พระสังกัจจยานะ พระอุบาลี พระโสภิตะ และพระกุมารกัสสปะ

    ทราบว่า พระเถระทั้ง ๙ รูป เคยเกิดร่วมสมัยกับพระพุทธองค์ สมัยทรงเสวยพระชาติเป็นพญาภุชงค์นาคราช ในยุคสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า


    จากนั้น ภาพก็ปรากฏพระพุทธองค์ พร้อมพระสาวกทั้ง ๙ รูป ลอยอยู่กลางอากาศ เหนือวิหารกลางน้ำวัดโสดา ฯ ค่ำคืนนั้นเงียบสงัด ภายใต้แสงจันทร์เต็มดวง

    เมื่อเห็นภาพดังนั้น จึงคิดว่า เราควรมีอาสนะเป็นที่รับรองสมเด็จพระผุ้มีพระภาคเจ้า และพระอรหันต์ทั้ง ๙ จึงนึกได้ว่า ในวิมานทั้ง ๖ ชั้น สมบัติทิพย์บนสวรรค์ชั้น ๖ เลิศที่สุด จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า..

    “ขอแท่นรัตน ๗ บนสวรรค์ชั้น ๖ ของข้าพเจ้า จงมาปรากฏ ณ.ที่นี้ ชั่วคราว พร้อมทั้งอาสนะแก้ว รองรับการประทับของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเถิด

    ขอแท่นแก้ว และอาสนะอันเป็นทิพย์จากสวรรค์ชั้นนิมมานรดี ๙ แท่นจงมาปรากฏ ณ.สถานที่นี้ชั่วคราว เพื่อรับรองพระเถระทั้ง ๙ ด้วยเถิด

    ขอเทวบุตรจากสวรรค์ชั้น ๖ ๑๐ องค์ เป็นผู้อุปัฏฐากพระผู้มีภาคเจ้า และพระเถระทั้ง ๙ โดยท่านอุปมะเทวบุตร เป็นผู้อุปัฏฐากพระผู้มีพระภาคเจ้า ส่วนเทพบุตรทั้ง ๙ พิจารณากันตามสมควร

    ขอท่านทั้งหลายนำน้ำปานะทิพย์ถวายแด่พระพุทธองค์ และพระเถระ ส่วนเราจะไปตามท่านอัคคีตาปะมาที่นี่”


    จากนั้นได้กราบเรียนท่านอัคคีตาปะ และอธิษฐานให้มีอาสนะรองรับ ท่านอัคคีตาปะ และพรหมเทวดาชั้นผู้ใหญ่ ตลอดทั้งขออัญเชิญท่านเจ้าเมือง ผู้เป็นใหญ่แห่งนึ้จงปรากฏขึ้นมาเถิด

    เมื่ออธิษฐานดังนั้น ก็เห็นภาพทุกอย่าง ซ้อนกันในวิหารกลางน้ำ สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า อยู่ตรงกลาง และลอยกลางอากาศประทับบนแท่นบุษราคัมใหญ่ ก็มีพระเถระทั้ง ๙ แวดล้อมซ้าย-ขวา


    ต่ำลงมา เห็นท่านอัคคีตาปะ เจ้าเมืองพญานาค พระมารดาท่านเจ้าเมือง และพระธิดาที่มีสิริโฉมงดงามมาก ตลอดทั้งท่านปุโรหิตของเมือง ท่านเสนาอำมาตย์ และนาคานาคีทั้งหลาย


    สมเด็จพระผุ้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสว่า..

    “ ท่านสหสัตตรัตน์ สิรินทราเทวี ท่านย่าสิริโสภา เสนาอำมาตย์ทั้งหลาย....
    มาบัดนี้ เราได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว กรรมใดที่เราเคยล่วงเกินทุกท่านมาแต่อดีต เราขออโหสิกรรมด้วยเถิด และกรรมใดที่ท่านทั้งหลายเคยล่วงเกินเรามา เราอโหสิกรรมให้ทุกประการ”


    พญาสหสัตตรัตน์กล่าวว่า “ข้าฯแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า และพระเถระผู้เจริญ เกล้ากระหม่อม ละอายใจยิ่งนัก ทรงอย่าได้ตรัสเช่นนั้น ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดของเกล้ากระหม่อมเอง”

    พระพุทธองค์ตรัสว่า.....

    “กรรมใด ๆ อันชั่วช้าแต่อดีต ขออย่าได้ตามระลึกถึง ท่านทั้งหลาย พึงตั้งใจฟัง เราจะเทศนาให้ท่านทั้งหลายหลุดพ้นจากพันธนาการทั้งปวง อัคคีตาปะ”

    ท่านอัคคีตาปะตอบว่า “พระพุทธเจ้าข้าฯ”

    พระพุทธองค์ตรัสว่า “ข้อธรรมใดที่เหล่านาคราชทั้งหลายไม่เข้าใจ ขอท่านจงช่วยสาธยายความให้กระจ่างแก่จิตนั้น ๆ ด้วยเถิด”

    ท่านอัคคีตาปะ “พระพุทธเจ้าข้าฯ”

    จากนั้นพระพุทธองค์ได้หันมาทางดิฉัน และตรัสว่า..

    “....เรื่องนี้เป็นธรรมเฉพาะกลุ่ม ขอให้เธอจงนั่งสมาธิสวดคาถาเงินล้านไปก่อน หากเรียบร้อยแล้ว เราจะบอกนะ”


    จากนั้นนานพอสมควร เวลานั้นดูภาพได้อย่างเดียว ไม่ได้ยินเสียง บางครั้งเข้าฌานภาพก็หายไป สักพักใหญ่ ได้ยินพระสุรเสียงว่า...

    “เรียบร้อยแล้วนะ”

    เทวบุตรทั้งหลายได้อาราธนาพระพุทธองค์ และพระเถระกลับยังพระนิพพาน ทิพยสมบัติอาสนะต่าง ๆ ก็อันตรธานหายไปปรากฏยังที่เดิม

    ทราบว่า เหล่านาคราชทั้งหลายได้เคลื่อนภพไปหมดแล้ว เหลือเพียง ๓ ท่านคือ

    พญาสหสัตตรัตน์ ท่านปุโรหิต และท่านเสนาฝ่ายซ้าย
    จากนั้นได้ยินเสียงบอกว่า..“..เธอไปนอนได้แล้วนะ พักผ่อนก่อน เพราะพรุ่งนี้มีงานหนักรออยู่”

    จากนั้นจึงได้พักผ่อนอีกครั้ง จนรุ่งเช้าก็เดินทางไปทำความสะอาดดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

    เมื่อไปถึงวัดท่านปุโรหิตได้มาอนุโมทนาบุญ พญาสหสัตตรัตน์ได้กล่าวขอบคุณ จึงกล่าวแก่ท่านว่า เรื่องพลเมืองของท่านไม่ต้องห่วง ท่านอัคคีตาปะได้ไปขอไพร่พลจากท่านโภคะมาเรียบร้อยแล้ว หลังจากทำความสะอาดวัดเสร็จ ท่านจะเคลื่อนพลไป

    พญาสหสัตตรัตน์ได้กล่าวขอบคุณ จึงกล่าวแก่ท่านว่า...

    “ท่านเจ้าขา เรื่องใด ๆ ในอดีต ขอให้ลืมให้หมดนะเจ้าคะ เพราะหม่อมฉันเองก็จำไม่ได้แล้ว กรรมใด ๆ ที่ท่านได้กระทำแก่หม่อมฉัน หม่อมฉัน ขออโหสิกรรมให้ทุกประการเจ้าคะ”

    ท่านก็ได้ยิ้มหน้าเศร้า และตอบรับในที่สุด

    ขอผลบุญแห่งการให้ธรรมทานครั้งนี้ จงบังเกิดแก่ทุก ๆ ท่านที่ร่วมในบุญกุศลครั้งนี้ และน้อมถวายแด่เทพบุตร เทพธิดาที่เคลื่อนย้ายทิพยสมบัติต่าง ๆ มาให้ ตลอดทั้งท่านอัคคีตาปะ ท่านโภคเทพบุตร และท่านพญานาคราชทั้งหลายที่ได้เคลื่อนพลมาช่วยงานพระศาสนาทุกตนทุกท่าน สาธุ..

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มกราคม 2013
  10. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 ด้วยค่ะ..

    เนื่องจากมีผู้ประมูลเพียงท่านเดียว ขอแสดงความยินดีกับคุณ sun2555 ด้วยค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai


    ปล. สำหรับประวัติจะนำเสนอในวันพรุ่งนี้ค่ะ
     
  11. ta2498

    ta2498 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,417
    คงไม่ได้ไป อย่างไรเสียผมขอโมทนาในกุศลผลบุญทั้งหมดทั้งมวลที่จะพึงบังเกิดขึ้น สาธุ สาธุ สาธุ
     
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ปี ๒๕๕๖ เป็นยุคเริ่มอภิญญา..

    avatar.jpg


    ก่อนอื่น ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ติดตามกระทู้นี้ด้วยดีตลอดมา ต้องขออภัยสำหรับท่านที่รออ่านประวัติดวงแก้วต่อนะคะ

    เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องให้ธรรมทาน ควบคู่กับการเล่าประวัติดวงแก้วต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์แก่บางท่าน ที่กำลังติดขัดในการปฏิบัติอยู่ หรืออาจจะรู้เห็นผลการปฏิบัติมาก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีตำราอ้างอิง

    พระท่านเลยสงเคราะห์ให้ เนื่องจากต่อไปภายภาคหน้าไม่กี่ปี จะมีเหตุการณ์ร้ายแรงหลายอย่างเกิดขึ้น ผุ้ฝึกวิชาจำเป็นต้องรวบรัด การปฏิบัติ พระอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งครูบาอาจารย์ของดิฉัน ได้กล่าวว่า..

    “ในปี ๒๕๕๖ เป็นปีที่เริ่มในยุคอภิญญา ที่ผ่านมาเป็นปีของยุควิชชาสาม (มีผู้ได้ทิพยจักขญาณมากมาย มีหมอดูด้วยญาณทิพย์มากมาย) แต่ปีนี้ เป็นจุดเริ่มแห่งยุคอภิญญา"

    เคล็ดลับวิชาต่าง ๆ ที่ดิฉันได้รับจากครูบาอาจารย์ เดิมทีท่านไม่ให้เปิดเผย จะเริ่มมาทีละอย่าง ๆ ขอท่านที่มีความมั่นคงในพระรัตนตรัย ได้โปรดติดตามในกระทู้ต่อไปค่ะ

    สำหรับท่านใดที่เคยฝึกในสายสุกขวิปัสสโกนั้น ครูบาอาจารย์สอนว่า..

    “ไม่ให้ส่งจิตออกนอก ให้ดูภายใน เห็นนิมิตอะไร เป็นนิมิตหลอก ไม่ให้ยึดติดนิมิตนั้น”

    ก็เป็นสิ่งที่ท่านสอนถูกต้องในสายวิชานั้น ท่านศรัทธาครูบาอาจารย์ท่านใด ก็ให้ตั้งใจปฏิบัติต่อให้สำเร็จมรรคผลไปให้ถึงที่สุด


    โปรดวางอารมณ์เป็นกลาง โปรดงดการวิพากวิจารณ์ใด ๆ เพราะไม่เป็นผลดีแก่การปฏิบัติของตัวท่านเอง สุดท้ายจุดมุ่งหมายของการปฏิบัตินั้น ไปที่เดียวกัน คือ พระนิพพาน

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  13. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    .ข้อควรทราบในการบวงสรวงด้วยทิพยสมบัติ..

    q5a55.jpg


    เรื่องการให้ธรรมทานเกี่ยวกับบวงสรวงบนสวรรค์ หลายท่านอาจจะไม่เคยได้ยินคิดว่า เรื่องนี้เป็นการคิดเอาเองหรือเปล่า หรืออุปทานไปเอง..

    ความจริงแล้วดิฉันไม่คิดว่า จะนำเรื่องนี้ออกเป็นธรรมทาน เนื่องจากเป็นเรื่องที่เสี่ยงพอสมควร เนื่องจากสมเด็จพระพุทธสมณโคดม ทรงตรัสว่า ...

    “ขอเธอจงนำเรื่องนี้ออกเป็นธรรมทาน เพื่อให้ผู้ที่ได้มโนมยิทธิเต็มกำลังได้ศึกษา หรือมีเหตุต้องใช้งาน ในกรณีผู้ที่บวงสรวงขาดทุนทรัพย์ผู้ที่ทำพิธีนี้ได้ ใช่ว่าจะทำได้ทุกคน ผู้ที่ทำได้ต้องได้มโนมยิทธิเต็มกำลัง และมีความเชี่ยวชาญในการใช้ อีกประการ เทวดาจะต้องโมทนาในสิ่งที่ทำด้วย”

    เหตุว่าจะทราบได้อย่างไร ว่ามีผลจริง หรือไม่อุปทาน ท่านทัศน์สิทธิ์พรหมกล่าวว่า...

    “หากอธิษฐานแล้วไม่ปรากฏสิ่งใดเลย ภาพยังเป็นเหมือนเดิม นั่นย่อมหมายความว่า เทวดาไม่ได้โมทนา ควรหยุดกระทำเสีย เพราะจะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าสิ่งที่ได้รับกลับ หรือภาพที่เห็นหลุดหายไป ก็นับว่าใช้ไม่ได้”

    การบวงสรวงด้วยของทิพย์นั้น ผู้บวงสรวงจะต้องเสียสละทิพย์สมบัติไป ถือว่า เป็นจาคานุสติอย่างหนึ่ง เป็นการไม่ยึดติดในทรัพย์ แม้แต่ทิพย์สมบัติที่ เป็นผลของการเสวยบุญอย่างหนึ่ง ย่อมมีผลมากแก่ผู้กระทำ ข้อควรทราบก็คือ ...

    “ผู้อธิษฐานจะต้องใช้ทิพยสมบัติของตนเองเท่านั้น ไม่สามารถไปช่วยผู้อื่นทำพิธีนี้ เช่น..
    เจ้าของวิมานยังฝึกมโนฯไม่คล่อง แต่อยากทำบ้าง ให้ผู้มีความคล่องตัวในมโนมยิทธิกระทำให้ ไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก ทิพยสมบัติจะมีบริวารเฝ้าอยู่ แม้เราจะเห็น หรือไม่เห็นก็ตาม การเคลื่อนย้าย ทิพยสมบัติของผู้อื่น เท่ากับการลักทรัพย์ แม้เจ้าของผู้เป็นมนุษย์จะอนุญาตก็ตาม ถือว่า ยังไม่ถึงเวลาเสวยผลบุญนี้ ”


    แต่หากเจ้าของวิมานถอดกายมาด้วยตนเอง สามารถทำได้ เพราะบริวารรู้ว่า เป็นเจ้านายของตน ย่อมยินยอมและเต็มใจให้ ผลบุญแห่งการโมทนาบุญนี้ ส่งผลให้เทพบุตร และเทพธิดาผู้ดูแล มีกายสว่างไสวมากขึ้นไป
    ____________________________


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..คำอธิษฐาน

    นะโม ๓ จบ​


    ขออารานาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์โดยมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ขออาราธนาบารมีพระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทุก ๆ ท่าน พระนิยโพธิสัตว์ทุก ๆ พระองค์ ตลอดทั้งครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มี.....................................................
    (พระอุตตรเถรเจ้า พระอุปคุตเถรเจ้า พระครูวิมลคุณากร(หลวงปู่ศุข) วัดปากคลองมะขามเฒ่า หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เป็นที่สุด...(สำหรับครูบาอาจารย์นั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เป็นการเอ่ยนามของเราตามสายวิชาต่าง ๆ)
    .......................................................................................

    ขออัญเชิญบารมีธรรม อิทธิฤทธิ์ สิทธิเฉียบขาดของพระฤาษี ๑๐๘ องค์ อันมีท่านฤาษีเกษรี เป็นต้น ขออำนาจแห่งเทวานุภาพ

    อันมีท่านท้าวสหบดีพรหม ท่านท้าวผกาพรหม ท่านท้าวชมพูบดี และพรหมทุก ๆ องค์ ปวงเทพเทวาทั้งหลายทั่วแสนโกฏิจักรวาล อันมีท่านท้าวสักกเทวราชเป็นประธาน มเหสักข์เทพทุก ๆ องค์ทุกท่าน

    ท่านทั้งจาตุมหาราชทั้ง ๔ พระแม่ธรณี พระแม่คงคา พระแม่โพสพ ตลอดทั้งพระภูมิเจ้าที่ เจ้ากรุงพาลี อารักขเทวดา รุกขเทวดาทั้งหลาย


    ขอได้โปรดรับเครื่องสักการะอันเป็นทิพย์เหล่านี้ที่ข้าพเจ้าได้ตั้งเครื่องบวงสรวง เพื่อเป็นเครื่องระลึกในคุณความดีแห่งท่านทั้งหลาย และเพื่อขอขมา หากข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านมาแต่ต้นชาติอันเกิดมาก็ดี ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยเจตนาและไม่เจตนาก็ตาม...


    ขอเชิญท่านทั้งหลายได้โปรดรับเครื่องบวงสรวงสักการะ อันเป็นทิพย์นี้ เพื่อประโยชน์ ความสุขในชาติปัจจุบัน(หรือเพื่อมรรคผลในชาติปัจจุบัน) และอนาคตกาลโน้นเทอญ..


    และขอผลบุญกุศลอันบริสุทธิ์นี้ ส่งผลให้ข้าพเจ้า..................(อธิษฐานตามใจปรารถนาที่ดี และด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์..).........................................................................

    ______________________________________
    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ
    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  15. NamfonBaanfa

    NamfonBaanfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +7,086
    การวางอารมณ์เป็นกลางไว้ในสิ่งที่ตนเองยังไม่รู้แน่ชัดก็จะไม่กระทบทั้งต่อตนเองและผู้อื่น พระบรมศาสดาสมณะโคดมท่านได้ทรงตรัสไว้ว่า "การตามรักษาไว้ซึ่งความจริง คือ อย่าคิดว่าสิ่งนี้เท่านั้นจริง สิ่งอื่นเปล่า..."

    กราบอนุโมทนาบุญกับคุณน้ำใสอย่างยิ่งค่ะ _/|\_
     
  16. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376

    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ
    โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ธรรมะนอกเหนือจากสายของตน
    โดยมิได้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองให้รอบคอบมากมาย
    เมื่อได้ยินเข้าก็อดเสียวแทนไม่ได้...


    จริง ๆ ธรรมะทุกอย่างล้วนมาจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ไม่ว่าจะสายไหนก็ตาม
    ผู้ปฏิบัติธรรมและเข้าถึงธรรมะได้จริง
    ส่วนมากท่านก็ไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์สายธรรมะอื่นที่ไม่ตรงกับของตนค่ะ
    การได้ธรรมะเป็นเรื่องของการสั่งสมมาจากอดีต
    จะให้ทุกคนได้ธรรมเท่ากันคงเป็นไปไม่ได้
    เพราะขนาดการบรรลุพระอรหันต์ยังมี ๔ แบบเลยค่ะ


    ขอบคุณพี่น้ำใสที่ช่วยเน้นย้ำตรงจุดนี้เพื่อความชัดเจนค่ะ...
    เพื่อความไม่ประมาทของชาวเมืองค่ะ อิอิ
     
  17. Paktawadee

    Paktawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2012
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +2,570
    สาธุ_/\_ หนูดีขออนุโมทนาสาธุการกับทุกท่านที่มาช่วยหนูดีทำความสะอาด
    ณ.วัดโสดาประดิษฐาราม ขอขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับคณะเจ้าภาพ
    พี่น้ำใส พี่ Phuya พี่เอ๋ น้องตาล และคณะผู้ร่วมบุญทุกท่าน ที่รอและให้โอกาสคะ

    มีเรื่องเล่าแบบปัจจัตตัง 2เรื่องค่ะ
    :)
    1.)ณ.วันที่คณะเราได้ทำความสะอาดอุโบสถกลางน้ำโดยไม่ใช้สารเคมี
    ท่านมัจฉา(ปลา)ได้ขึ้นมาขอบคุณและอนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ

    2.)ตอนที่ทำความสะอาดห้องน้ำ สิ่งที่รับรู้ได้คือเรามีผู้ช่วยเพิ่มขึ้น
    ระหว่างทำความสะอาด ช่วยขัด ช่วยฉีดน้ำ หนูดีขออนุโมทนากับท่าน
    ที่มาช่วยอีดครั้งนะคะ

    มีความสุขที่ได้ทำ ทำแล้วรู้สึกดี:cool:
    หนูดี
     
  18. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,344
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,289
    สาธุ สาธุ อนุโมทาบุญครับ
     
  19. ta2498

    ta2498 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    345
    ค่าพลัง:
    +3,417
    ถูกใจที่สุด ตรงใจที่สุด ได้ความรู้เพิ่มเติมอย่างมากอยู่:cool::cool::cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2013
  20. เอ๋ปากน้ำ

    เอ๋ปากน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    816
    ค่าพลัง:
    +12,905

    ขออนุโมทนาบุญ ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

    จันทรกาล
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...