จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    ขอบคุณล่วงหน้าเลย..สำหรับน้ำใจของท่าน..คุณวิทย์จัดสัญจรอีกครั้ง เมื่อไหร่คะ? พี่แนทอยู่ประมาณ 6 อาทิตย์ค่ะ ไปถึงเมืองไทย วันที่ 7เดือนหน้าค่ะ ถ้าพี่พอจะช่วยแบ่งเบาภาระคุณวิทย์ และครูจิตบุญท่านอี่นๆ นะคะ ...เต็มทีเลยค่ะ ยินดีค่ะ...เพื่อท่านพ่อ...เพื่อบ้านของเรา...
     
  2. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    จิตอรหันต์ - จิตปถุชน

    จิตอรหันต์ - จิตปถุชน
    โดย หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    จาก...หนังสือฐานิยปูชา ปี ๒๕๔๑

    พระอรหันต์ก็ยังร้องไห้ได้ การร้องไห้มันเป็นกิริยาของกายต่างหาก ตัวร้องไห้มันก็ร้องไป ตัวที่นิ่งเฉยอยู่มันก็นิ่ง... พระพุทธเจ้าปรินิพพาน พระปถุชนโศกเศร้าเสียใจ พระอรหันต์ได้ธรรมสังเวช ธรรมสังเวชนี่แหละมันทำให้น้ำตาไหล ไม่ใช่ว่าพอสำเร็จอรหันต์แล้วมันจะไม่มีอะไร มันก็เหมือนกับปถุชนธรรมดานี่แหละ แต่สิ่งที่ทำให้ท่านเกิดกิเลสเมื่อก่อนนี้มันหมดไป ความตื้นตัน ความปิติต่างๆ มันเป็นองค์ประกอบของสมาธิ มันก็ต้องมีอยู่เป็นเรื่องธรรมดา

    “หลวงปู่โกรธเป็นไหม” “โกรธเป็น แต่ไม่เอา” อันนี้คือคำตอบของ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ก็มันแสดงความรู้สึกขึ้นมาเฉยๆ ว่า โกรธ แล้วท่านก็ไม่เอา

    หลวงพ่อก็เคยร้องไห้มาแล้ว ไปสวดมนต์ในวัง พอไปถึงแก่งคอย ก็ไปนึกถึงว่าพ่อตายอยู่ตรงนั้น ไหนจะลองกำหนดจิตอุทิศส่วนกุศลให้พ่อสักหน่อย พอกำหนดไปพั๊บ มองไปข้างหน้าสายตามันพร่า แล้วก็เห็นตาแก่คนหนึ่งแบกเด็กน้อยลอยผ่านหน้าไป ทีนี้พอลับสายตาไป จิตก็มานึกว่า พ่อแบกเรามาตั้งแต่เด็ก แล้วมันก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นมาทันที คนที่นั่งมาในรถเขาก็ถามว่า หลวงพ่อเป็นอะไรๆ ก็โบกมือ เฉยๆ เดี๋ยวก็รู้ พออาการอย่างนั้นมันหายไป ก็เล่าให้เขาฟัง

    ปิติมันเกิดจากกายต่างหาก อย่างสมมติว่าเรามีเรื่องขำ เราหัวเราะเสียจนไส้ขดไส้แข็ง เราเมื่อยเกือบตาย เราไม่อยากหัวเราะแต่มันก็อดไม่ได้ นั่นคือความเป็นเองของร่างกาย อันนี้มันได้หลักมาว่า ภายในตัวของเรานี่สมองเป็นผู้สั่งการ กองบัญชาการในสมองที่มันสั่งออกมานี่ ให้ร่างกายมันเตี้ย ให้ร่างกายมันโต ให้ร่างกายมันสูงโย่ง อันนี้เป็นเรื่องของสมองทั้งนั้น คำสั่งของสมองอันนี้หรือจิตดวงนี้ ตามหลักของการสะกดจิตเขาเรียกว่า จิตอิสระ จิตอิสระดวงนี้จะคอยบังคับดูแลและใช้เครื่องจักรกลไกต่างๆ ในร่างกายให้ทำงานให้แก่เราอย่างตรงไปตรงมา

    อาการปิตินี่เป็นอาการที่จิตดื่มรสพระสัทธรรม มันเหมือนกับว่าเราอยากได้อะไรมากๆ พอได้สมประสงค์ก็เกิดปิติเหมือนกัน แต่ทีนี้สมมติว่าผู้ที่เป็นพระอรหันต์จริงๆ นี่ เวลาท่านกำหนดจิตรู้อารมณ์ จิตมันก็ปรุงแต่งเหมือนคนธรรมดา ทีนี้ภายในสมาธิ มันก็เกิดนิมิตขึ้นมา ถ้าท่านรู้เรื่องอดีตชาติ ท่านก็แสดงอาการร้องไห้ ร้องไห้ในสมาธิ แต่ร้องไห้น้ำตาไม่ออก อย่างคนที่จิตยังไม่พ้นกิเลส พอได้นิมิตว่าชาติก่อนเราได้ไปเกิดเป็นอันนั้นๆ ได้ไปทะเลาะตบต่อยตีกันที่ตรงนั้น พอรู้สึกอย่างนั้นก็ลุกขึ้นมากระโดดขโมงโฉงเฉง ทีนี้ความรู้ของพระอรหันต์นี่ท่านรู้ว่าชาตินั้นท่านเป็นอย่างนั้น ได้ทะเลาะเบาะแว้งกับคนนั้นคนนี้ มันก็แสดงอาการโกรธเคียดขึ้นมา แต่ความโกรธความเคียดกับจิตของท่านมันแยกกันไปคนละส่วน เหมือนๆ กับบางครั้งที่จิตของเรามีอารมณ์เกิดขึ้นๆๆ แต่มันเป็นกลางเฉย สิ่งรู้เป็นแต่เพียงอารมณ์จิต แล้วตัวเองไม่ได้ไปสวมสอดเข้าในเรื่องนั้น มันแยกเป็นคนละส่วน ทีนี้ผู้ที่รู้ยังไม่ถึงแก่นพอรู้เข้ามาพั๊บ ก็สำคัญว่าตัวเองอยู่ในปัจจุบันนั้น

    เช่นอย่างพระองค์หนึ่ง เป็นหัวหน้าพระ ๓๐ รูป อุบาสิกาคนหนึ่งเป็นอุปัฏฐากอยู่ ภายหลังอุบาสิกาฟังเทศน์ฟังธรรมจากพระเหล่านั้นแล้วได้สำเร็จโสดาบัน พอสำเร็จโสดาบัน ท่านก็ตรวจสอบดูพระว่าท่านองค์ไหนได้บรรลุคุณธรรมหรือเปล่า ก็รู้ว่ายังไม่บรรลุ ขัดข้องเรื่องอะไร ขัดข้องเรื่องรสอาหาร บางท่านชอบเผ็ดชอบมันอะไรไม่ได้ตามใจ ก็ไปข้องอยู่ที่ตรงนั้น ภายหลังมาเมื่อท่านรู้แล้วว่าองค์ไหนชอบอะไร ทำให้ถูกใจหมด พอนึกขึ้นมาตอนกลางคืนอยากฉันสิ่งนั้น ตื่นเช้าก็มาแล้ว หนักๆ เข้าพระอาย พากันไปกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็ถามว่าทำไมทิ้งอุบาสิกามาเสียเล่า พระก็ทูลว่าอยู่ด้วยไม่ได้หรอก คิดอะไรก็รู้หมด... อาย พระพุทธเจ้าท่านก็บอกว่าเขาเป็นมารดาของเธอมาหลายภพหลายชาติแล้ว มาชาตินี้แหละเขาจะช่วยให้ท่านสำเร็จพระนิพพาน กลับไปอยู่กับเขา พระทั้งนั้นก็กลับไปอยู่กับอุบาสิกา

    พอกลับมา ก็ต้องมาสำรวมจิตสำรวมใจไม่ให้ยินดียินร้ายในรสอาหาร พิจารณาปัจจเวกขณะขจัดความชอบหรือไม่ชอบ ทำจิตให้เป็นกลาง แล้วลูกน้องได้สำเร็จพระโสดาบัน อุบาสิกาได้สำเร็จพระสกทาคามี ไปๆ มาๆ พระทั้งหลายได้สำเร็จพระอรหันต์ อาจารย์ใหญ่ได้เพียงพระโสดาบัน อุบาสิกาก็พิจารณาดูว่าพระเราสำเร็จแล้ว แต่อาจารย์ใหญ่นี่สำเร็จหรือยัง... ยังไม่สำเร็จ อยู่มาวันหนึ่ง ภูมิจิตเริ่มจะก้าวหน้า จะได้บรรลุปุพเพนิวาสานุสติญาณ ไประลึกขึ้นมาได้ว่า ชาติหนึ่ง ภพหนึ่ง อุบาสิกาคนนี้เป็นภรรยาของท่าน ไปคบกับโจร พอท่านไปรู้อย่างนั้นเข้า ท่านก็โกรธขึ้นมาอย่างแรง โกรธชนิดที่ว่าจิตกับอารมณ์แยกกันไม่ออก อุบาสิกาก็ส่งกระแสจิตไปเตือนว่า นึกต่อไปอีกชาติพระคุณเจ้า พอระลึกไปอีกชาติหนึ่งไปรู้ว่าชาตินั้นท่านผู้นี้ถูกโจรจับ มันจะฆ่า อุบาสิกานี่ก็เป็นภรรยาของโจร พอโจรมันจะฆ่า ภรรยาก็ขอร้องว่าอย่าไปฆ่าเขา เขาไม่มีความผิด แล้วก็ถูกปลดปล่อยไป ในเมื่อรู้อย่างนั้นก็มานึกถึงบุญคุณเขา ความโกรธมันก็ระงับลง ในที่สุดก็ได้สำเร็จพระอรหันต์

    เพราะฉะนั้น เราโกรธด่าตีกันธรรมดาๆ นี่ไม่สำคัญหรอก โกรธในสมาธินี่มันร้ายแรงที่สุด ดีไม่ดีระงับไม่อยู่กรรมฐานแตก

    เรื่องอสีติมหาสาวก ๘๐ รูปนี่ หลวงพ่อเรียนนักธรรมโท อ่านไปๆๆ ร้องไห้ไป มันเกิดปิติ เช่นอย่างบางท่านนั่งทอหูกอยู่กำหนดสติรู้เรื่อยไป พอทอหูกจบสำเร็จอรหันต์ก็มี พระเถระบางท่านนั่งเทศน์สอนลูกศิษย์ พอเอวังลงไปสำเร็จอรหันต์ก็มี เพราะฉะนั้น การเทศน์การแสดงธรรมนี่ เราจึงถือว่าเราไม่ได้สอนคนอื่นแต่เรามานั่งให้คนอื่นสอบไล่เรา แล้วเราก็สอนเราเอง ถ้าไปคิดว่าเทศน์สอนคนอื่นแล้ว หลวงพ่อเทศน์ไม่เป็น ไม่รู้จะเอาอะไรไปสอนเขา เขาเก่งกว่าเราเสียอีก


    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี
     
  3. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    อะจึ๋ยย..ยังอุตส่าจำได้..555
    เรานึกว่าสัญญาครูวิทย์จะตกกระป๋องเลี้ยว..555
    แต่สัญญาเราน่ะ..555 มันตกกระป๋องเลี้ยว..
    โอเช..เดี๋ยวเราขอบันทึกเอาไว้ก่อนนะ ไปกทม.แล้วจะโทรไปนัดนะครับ.. :)
     
  4. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    สวัสดีครับ
    มีเรื่องอะไรมาปุจฉาอีกซักรอบครับ
    มีคนถามว่าถ้าเราทำงานแล้วเรามีอำนาจสั่งซื้อของเอง แล้วเปิดบริษัทผลิตบางอย่างขึ้นมา เพื่อขายให้บริษัทที่เราทำงานอยู่เนี่ย ผิดศีลไหม ก็เมื่อคุณภาพก็ดี ราคาก็ต่ำกว่าเขา (เพราะรู้ราคา )เนื่ยผิดศีลไหม ผมก็อืม...ช่างคิดเนะคนเรา ฮิๆๆๆๆๆๆ มีเรื่องมาให้เราคิดเรื่อย
     
  5. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    สวัสดีฮ่า

    ไม่มีไร แค่จะมาบอกว่าครูเพ็ญอุเบกขาอยู่ฮ่า
    ตอนนี้ยังปิดรับสมัครอยู่นะฮ้า
    ไม่มีไรในกอผักตบชวาฮ่า
    บังเอิญว่าสายตาเหลือบแลไปเห็นชื่อแปลก ๆ
    ก็เลยสะดุ้งนิด ๆ กลัวใครวิ่งตามมาอีก 555
    ครูเพ็ญก็พยายามจะล้างสต๊อกออกไปให้เหลือเบาบางมากที่สุด
    เพื่อที่ครู สว ทั้งหลายจะได้มีเวลาพักจิตบ้าง
    แต่ทำไม๊ ยิ่งล้างมันยิ่งเต็มอ่ะพี่ภู


    กุญแจบ้านดอกสุดท้ายอยู่ที่พี่ภู
    พี่น้องชาวจิตบุญช่วยกันแผ่เมตตาให้พี่ภู
    ทำภารกิจสะเดาะกุญแจลูกสุดท้ายได้สำเร็จด้วยเถิด
    ส่งไปแรง ๆ เลยค่ะ
    ถ้าพี่ภูยังไม่ยอมสะเดาะกุญแจดอกสุดท้าย
    พวกเราอย่าหยุดแผ่เมตตาให้พี่ภูกันนะ
    เพื่อบ้านของพวกเรา เชื่อหัวครูเพ็ญ อิอิ


    หนูจะสะกิดพี่ภูไปจนกว่าพี่ภูจะยอมใจอ่อนไปไขกุญแจบ้านดอกสุดท้ายให้พวกเรา สาธุ

    ส่งเพลงมาเป็นกำลังใจให้พี่ชายใหญ่คนดี๊คนดีของน้องหญิงใหญ่ ^^

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=CXriNzkiS_I"]เรารู้กันอยู่สองคน - อุเทน & พรชิตา - YouTube[/ame]​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2012
  6. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    สวัสดีครับพี่แนท เดือนตุลานี้ คงมีสักสัปดาห์ที่ 20 ตค นี้ครับ

    พี่แพทมาคงได้ร่วมกันอบรม รอบเดือน พย นะครับ

    ดีครับ มาช่วยกัน ทีมงานจาก อังกฤษมาช่วยทีมไทยแลนด์

    ไว้บ้านเกิด มารวมกันจากทุกมุมโลก คงไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันแน่ครับ อิอิอิ



    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
     
  7. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    555555555555 ยังจำได้ครับ อิอิ

    สัญญาเรื่องนี้ยังไม่ลืมครับ อิอิ

    ว่าแต่ไม่ให้มากินข้าวด้วยกันเฉยๆครับ มาช่วยกันกันอบรมผู้ฝึกด้วยจะดีมากเลยครับ .....

    เดี๋ยวมีโอกาสลงใต้จะไปบะหมี่ต้นโพธิ์กับท่านพี่ที่ภูเก็ตนะครับ



    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
     
  8. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    พี่ภู ตอนนี้หนูยังไม่เอาบ้าน หนูจะเอาลูกกุญแจก่อนนะ พี่ภูช่วยไปไขกุญแจให้ทีนะจ๊ะ คนดี๊ คนดีูู ขอบคุณค่ะ^^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2012
  9. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ว้าย วิ่งขึ้นสองแสนตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ตกม้าตาย เอ้ย ตกข่าว อิอิ

    จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ (21 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
    ภูทยานฌาน2
    วันนี้ 09:35 PM
    โดย natthapatpun
    6,461
    200,388
     
  10. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ดูจิ เข้ามาป่วนพี่ภูมาก เลยโดนใบสั่งห้ามเข้ากระทู้ชั่วคราว

    แต่ครั้งนี้หนูงับไม่ปล่อยจริง ๆ นะพี่ภูจ๋า

    ถ้าพี่ภูไม่ไปจัดการเรื่องเศษผมก่อนนะ

    หนู...หนู...หนู...จะอ้วนให้ดู ฮึๆ

    หนูรอการบ้านอยู่นะ ถ้ายังดื้อนะจะให้ส่งการบ้านบนกระทู้ ฮึ่ม

    ครูดัช ครูลินดา ครูอุษาวดี เตรียมไม้คนละมือสองมือ มาช่วยกันกระทุ้งจิตพี่ภูหน่อยน๊า

    พี่เพ็ญคนเดียวเดี๋ยวโดนแบน อิอิ

    งานนี้ใครไม่เกี่ยวก็ถอยไป ศึกครั้งนี้ดาวล้อมเดือนฮับ

    ดิ้นไม่หลุดแน่พี่ภูเอ๋ย ไปทำการบ้านมาซะดี ๆ

    ปล. ห้ามโทร.มาป่วนตอนนี้นะ เดี๋ยวใจละลาย อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2012
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    วันนี้จิตเกิดปิติมากมาย
    อยากจะมาบอกกับพวกเราว่า...


    "ผู้เจริญทั้งหลาย ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบทั้งหลาย พวกเจ้ามาชุมนุมกันที่นี่ก็ดีแล้ว พากันรักษาศีล พาทำภาวนากันให้มาก อย่าเผลอสติเด็ดขาด เพราะถ้าเผลอเมื่อไหร่ กิเลสก็จะมาครอบงำจิตทันที แม้นกระทั่งจิตยกหรือจิตบุญก็ตาม ก็มิได้ยกเว้น ยกไว้ เพราะฉะนั้น จะต้องหมั่นเจริญสติภาวนาอยู่เนืองนิจ หรือทำให้เกิดเป็นนิสัย ผู้เผลอสติก็เท่ากับผู้นั้น ประมาทแล้ว"

    "ทุกท่านที่พากันเจริญสติภาวนาในที่นี้ ทุกท่านก็คือ ลูกหลานเหลนโหลนของพระพุทธเจ้ากันทั้งนั้น และครูบาอาจารย์ทั้งหลายทั้งปวง อันได้แก่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หรือครูบาอาจารย์ทุกองค์ ล้วนก็เป็นห่วงพวกเรา เพราะไม่อยากให้พวกเรา หลงมาเกิดกันอีกแล้ว เพราะการเกิดเริ่มจากการมีร่างกาย เพราะร่างกายนี้ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา มันเป็นเพียงที่อยู่ที่อาศัยชั่วคราวของจิตหรือดวงจิตสำหรับผู้ที่หลงมาเกิดกัน หรือหลงมาตามกรรมนั้นๆที่ตนเองได้กระทำกันมา และท่าทางจะต้องชดใช้กรรมไม่มีวันหมด ไม่มีวันสิ้น ลูกหลานเอ๋ย ร่างกายนี้มันทุกข์ยาก มันคือความหลง มันคือกิเลส และมันกำลังเผากายเผาใจทุกๆวัน เพียงแต่ผู้ที่ชอบเผลอสติกันเท่านั้น"

    "และตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ที่มีจิตพร้อม ก็ให้รีบปฎิบัติ ให้ตั้งใจปฎิบัติกันให้ดี สำหรับผู้ที่มีจิตดื้อ จิตชอบแวะนู้นนี่ จิตขี้สงสัย จิตที่ติดตัวรู้คือข้ารู้มากกว่า ข้ารู้แล้ว ที่ที่ท่านรู้นั้น มันรู้จริงๆหรือไม่ แต่ถ้ารู้จริงๆชาตินี้ท่านก็ไม่ได้กลับมาเกิดกันหรอก จงพึงสังวรณ์ให้ดี "

    "ขอให้พวกเราพากันเดินทางสายตรง หรือมรรคมีองค์๘ ให้จงได้ อย่าได้เที่ยวแวะกับสิ่งไร้สาระข้างทางกันนั้นอยู่เลย เพราะบ้านแท้ของพวกเจ้าอยู่ที่พระนิพพาน ใครจะตำหนิด่าว่า ก็เป็นเรื่องของคนๆนั้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับการปฎิบัติ จงแยกให้ออกให้เด็ดขาด ระหว่างบุญกับบาป หรือกุศลกับอกุศล ทุกคนย่อมรู้ดีแล้ว ว่าหน้าที่ของแต่ละคน คืออะไร สำหรับผู้ที่ยังติดอะไรต่อมิอะไรปล่อยวางเข้าอุเบกขาญาณไปก่อน เมื่อวาระของท่านนั้นมาถึงแล้ว พร้อมแล้ว เดี๋ยวเขาจะค่อยๆพากันเข้ามาทีหลังเอง ขอให้รู้จักหน้าที่ของตนเอง ของพุทธบุตรนั้น คืออะไร ทำไปๆ ใครจะเอาแก่น ใครจะเอาเปลือก มันก็มีวาระของมัน แต่ถ้าเดินมรรคากันง่ายๆ ป่านนี้ก็มีพระอรหันต์เต็มบ้าน เต็มเมืองกันไปหมดแล้ว"

    "ผู้ที่จะไปพระนิพพานกันได้ จะต้องเริ่มต้นที่ศีลหรือสติก่อนเสมอ เพราะเป็นฝ่ายดีหรือฝ่ายบุญกุศลในเบื้องต้น แล้วค่อยไปต่อเรื่องภาวนา คือสร้างสติ สร้างปัญญาไปจนถึงปัญญาญาณกันให้ได้ทุกคน ทำจนกว่าจิตจะรู้สึกตัว จนกว่าจิตจะอยู่เหนือขันธ์ของตนเอง จนจิตถึงพระโสดาบันกันเมื่อไหร่นั่นแหล่ะ ไปอีกนิดเดียวก็จะพ้นสุดปลาย นั่นก็คือ พระนิพพาน จงตั้งใจปฎิบัติกันให้ดี อย่ามัวเพ้อเจ้อกันนะ เพราะผู้ใดปฎิบัติจริงทำจริงก็จะไม่มีคำว่าผิดหวัง ผิดทาง หรือพลาดนิพพานเที่ยวนี้ อย่างแน่นอน การปฎิบัติไม่ต้องเตรียมตัวมาก หรือไม่ต้องตั้งท่ากันมาก พวกท่าเยอะ เรื่องมาก เหตุผลมาก เปลือกหนา กระโหลกก็หนาตามไปด้วย ปล่อยไปก่อน ชาตินี้ยังไม่เห็นทุกข์ เห็นธรรมที่แท้จริง บุญใครกรรมใคร หรือสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ปล่อยให้เขาท่องกันไป ถ้าตราบใดยังไม่รู้จักคำว่า กรรมปัจจุบันนี้มันมีความหมายว่ากะไร เพราะผู้กระทำกรรมดีในปัจจุบันเท่านั้นที่จะเปลี่ยนกรรมอันใกล้นี้กันได้ สติเก็บไว้ที่จิตกันเยอะๆ หมั่นระลึกถึงคุณงามความดีของพระพุทธองค์กันไว้ให้มั่น อย่าทำจิตเกาะพระแค่เพียงนึกแบบคนโง่เขลา คนทำจิตเกาะพระหรือคนที่จะไปนิพพาน มิใช่คนโง่ไปกัน ส่วนคนที่เคยมีหรือได้ฌาน นิมิต อภิญญา หรือแม้นกระทั่งบุญกุศล เมื่อถึงฝั่งก็ต้องปล่อยวางทั้งหมดเสีย จิตจะได้เข้าสู่ "ความว่าง" ได้โดยง่าย" และเตรียมจิตกันไว้ให้พร้อมรับกับทุกภัยทั้งในและนอกจิตตนเองกันเสีย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 ตุลาคม 2012
  12. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444
    สมกับที่รอคอย.....สาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]
    รู้สึกดีแวะทัก
    รู้สึกรักกด Like+ ...งิง่ะ

    "คุณค่า" มิได้อยู่จุดหมาย(จิตเกาะพระ) หรือ ปลายทาง(พระนิพพาน)
    แต่มันอยู่ "ระหว่างทาง(นิมิต)" ที่คุณกำลังเดินไป
    เอ่อ๐๐๐อันนี้ผู้ปฎิบัติไม่สมควรพึงกระทำ นะจ๊ะๆ

    รู้นะ..คิดไรอยู่ ชอบกันนักใช่ม่ะๆ ฌานนี่ นิมิตนี่ อภิญญานี่
    ทางนั้น มิใช่หนทางเพื่อความหลุดพ้น+
    เพราะทางนั้นมีวันเสื่อม ดับ สลาย สูญสิ้น ไม่เที่ยง ไม่จีรัง ไม่ยั่งยืน ไม่ใช่สุขที่แท้จริง
    เมื่อก่อน..เริ่มการปฎิบัติ ไหนเจ้าบอกว่าอยากไปพระนิพพานยังไงหล่ะ แล้วเหตุไฉน เมื่อเดินไปถึงครึ่งถึงมาแวะข้างทางกัน พอจิตเริ่มปิติสุข เริ่มเข้าละเอียด พอจิตไปรับรู้นู้นนี่ แต่กลับไปสนใจที่ไม่ใช่สติ ที่ไม่ใช่จิต ที่ไม่ใช่พระนิพพานกันเล่า สงสัยพุทธบุตร หรือลูกหลานของพระพุทธเจ้า ลืมคำว่า "บ้านเก่า" บ้านพระนิพพาน บ้านที่ท่านพ่อกำลังรอการกลับมาของลูกๆ

    ๐๐แล้วเหตุไฉน๐๐
    พวกเจ้าจึงเหลวใหล มัวแวะข้างทางหรือมัวแต่เด็ดดอกไม้ริมทางกันอยู่เล่า เดี๋ยวก็หมดลมหายใจพอดี
    แวะได้นะ ดูนิมิตได้นะ เอาอภิญญากันได้นะ แต่ขอให้ไปถึงที่หมายปลายทางกันก่อนจะได้ไหม?

    ๐๐ด้วยรักและห่วงใยเสมอ๐๐
     
  14. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Vs5LhrxLPeM]เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม ทีโบน By kapraw khaidao - YouTube[/ame]​
    เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม​

    เมื่อทุกชีวิต(หลง)เกิดมากันแล้ว อย่าไปหนีทุกข์วิ่งเข้าหาสุข พยายามเรียนรู้และอยู่กับทุกข์ให้ได้ ตราบจนจะตายจากกันไป พยายามทำจิตเบาสบายก่อน ที่เหลือค่อยเน้นเรื่อง สติกับจิต (ไม่ต้องรีบ แต่ให้ไว)

    อย่าเพิ่งไปเครียดกับชีวิตให้มันมากนัก เน้นเบาสบาย เน้นวาง เน้นว่างให้มากที่สุด

    แต่ตอนนี้ มาฟังเพลงกันก่อน...
     
  15. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    เมื่อข้าพเจ้าตีกอล์ฟ .... เมื่อทุกท่านฝึกจิตเกาะพระ


    ย้อนหลังไปหลายปี ก่อนที่ผมจะมีน้องฟูจิ .....
    ครึ้มฟ้าครึ้มฝน อยากตีกอล์ฟเป็น อิอิ
    ใจคิด มันจะยากอะไร จับไม้ เอามือประสานกัน แล้วก้อ หวดๆๆๆๆ ตีลงหลุม ... ไม่น่ายากนักสำหรับคนอย่างเรา

    เราต้องมีไม้กอล์ฟดีๆ ลูกกอล์ฟแจ่มๆ แพงๆ ชุดเทพๆ รองเท้าชั้นยอด .... ออฟชั่นจัดเต็ม แค่เนี้ย เราต้องเป็นนักกอล์ฟที่เจ๋งแน่ๆ
    ... ครูสอนเรอะ เอาไปทำไม เค้าคงมาหลอกสอน ไม่มีไรยาหหรอก สบายๆ เรียนรู้ด้วยตนเอง ทำไมเราจะทำไม่ได้ สองมือ สองเท้า หนึ่งสมองเท่ากัน ...

    มา ..... เรามาเริ่มกันเลย
    ข้าพเจ้าคิดเสมอว่า การที่เราจะตีลูกให้ลอยไกลๆ ตรงๆ เหมือนโปรมืออาชีพนั้น ไม่ยากหรอก แค่ตีแรงๆ หวดแรงๆ อัดเต็มที่ .... แน่นอน มันต้องไปไกลตามแรงที่ตีสิ "Action = Re-Action"

    แรกสุด ..... ก้าวเข้ามาหาลูกอย่างเต็มเปี่ยมด้วยความมั่นใจ เกร็งข้อมือเต็มที่ เราจะหวดให้แรงๆ ลูกพุ่งแน่ๆ 5555
    ..... เอาละนะ หวดแล้วนะ..... ปึ๊กกกก(ไม้กระทบลูก) ใจคิด ไปลิบแน่ อิอิ พอหันไปดูลูก .... เอ้ยยยยย ไหงลอยไปนิดเดียว เกิดไรขึ้นเนี่ย มันต้องมีอะไรผิดปกติแน่ๆ .... งั้นเอาใหม่ สงสัย ยังหวดแรงไม่พอ
    ..... ครั้งที่สอง เราจะหวดให้สุดแรง เอาให้ลอยไปสุดๆเลย ..... มือกำไม่แน่น เกร็งสุดแรง กวาดไม้ขึ้นสูงสุด เราจะเข่นให้เต็มๆ เอาละนะ หวดดดด
    ..... ปุ๊กกกก (คราวนี้ ลอยสุดๆแน่ๆๆๆ) หันมามองลูก(ด้วยใจกระหยิ่ม ยิ้มย่อง) อ้าวววววว ไหงไปนิดเดียวอีกเลี้ยวววว อะไรกันเนี่ยยยย(ความเครียดเริ่มปกคลุม สมาธิเริ่มแต่กกระจาย ความมั่นใจเริ่มลดลง ความงงเข้ามาแทนที่ ความสงสัยลอยมาเต็มหัว ?????)

    เมื่ออารมณ์ร้อน สมาธิหาย สงสัยมากๆ งงจริงๆ อยากตีให้ดีสุดๆ ทำไมไม่ได้ ทำไมๆๆๆๆๆ ..... ก้อหลุดสิครับ เราก้อตีๆๆๆๆๆๆๆๆ มันก้อแป้กๆๆๆๆๆ มีฟลุคบ้างบางครั้ง แต่ร้อยละ 99 แป้กกกก ครับ

    ผลเป็นไงรู้ไหม ..... หมดแรงแล้ว เหงื่อโทรมกาย ปวดแขน ปวดไหล่ เจ็บข้อมือ ฝ่ามือพองเป็นน้ำ(สภาพดูไม่ได้เลย แงๆๆๆๆ)
    สุดท้ายไปจบที่ รพ หาหมอ เสียเงิน สบายใจไปกับความดันทุรังของตนเอง 5555

    ไม่สิ เราไม่ยอมแพ้ เราต้องทำให้ได้ เราจะยอมแพ้ง่ายๆได้อย่างไร เราต้องหาหนทางต่อไป ..... ไปอีก เป็นเดือน ไม่มีอะไรดีขึ้น ความกดดัน ความเครียด มากขึ้นเท่าทวี ...
    ทำไมคนใกล้ เค้าหวด ลิ่วๆๆๆๆๆ ลอยตรง ไกลดี .....ไม้เค้าก้อเก่าๆอะ ชุดก้อไม่เทพ รองเท้าก้อขาดๆ ไม่น่าจะดีกว่าเรานิ .... ไม่เหมือนเราเลย ทุกอย่างดีหมด ยกเว้นฝีมือ 5555555555(หัวเราะเยาะเย้ยตัวเอง)

    กลับถึงบ้านด้วยร่างกายที่บอบช้ำ จิตใจก้อห่อเที่ยว ต่างกับตอนที่ไปฟ้ากับเหว ....

    มานั่งทบทวนตัวเอง เราจะเอาจริงไหม ทำไมเราทำไม่ได้ .... รึเราไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ รึเราไม่เหมาะกับเล่นกีฬาประเถทนี้ สงสัยเราต้องเปลี่ยนแนวดีกว่า หรือ??????

    เราขาดอะไรไปนะ ..... นั่นไง เราไม่มีครู
    เราก้อเลย มั่วไปเรื่อย เหนื่อยเปล่าๆ เสียแรงฟรี บาดเจ็บฟรีๆ .... เราเน้นแค่เอาแรง ใช้แรงเหมือนสัตว์ที่ใช้แรงงาน ไม่ใช้สมอง คิดว่ากำลังจะเอาชนะได้ ทำให้ดีได้

    คนอื่นเค้าไม่เน้นออฟชั่นอะ เต่เค้ามีครูคอยแนะนำ บอกเทคนิค บอกจุกด้อยและให้เราปรับปรุง .... เค้าไม่เห็นตีแบบสุดแรงเหมือนเราอะ แต่ทำไมของเค้า ลอยไกลจัง .... มันต้องมีอะไรสิ (เริ่มมีปัญญาบ้างแล้ว หายโง่มานิดนึง อิอิ)

    เอาละ หาครูมาแนะนำดีกว่า เมื่อเราอยากจะสำเร็จ เราไม่ท้อ เราจะสู้ต่อ ไม่ทำครึ่งๆกลาง พอไม่ได้ก้อหนี ไม่ใช่เรา .....

    ครั้งแรกครูบอกว่า ..... การจะตีให้ไกลนั้น เค้าไม่ใช้แรง ไม่ใช้พลังข้อมือ ตี เข่น ไม่หวดเหมือนคนบ้ากำลัง ...
    เราใช้วงสวิงแบบธรรมชาติ ...ไม้ มือ แขน ไหล่ ..... ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีกัน ไม่มีอันใดเด่นกว่า...
    การตีนั้น ใช้วงสวิงที่เป็นธรรมชาติตี ใช้ไม้ มือ แขน ไหล่ ทำให้เป็นวงขึ้นมา ยกขึ้น แล้วให้ไม้ลงมาด้วยแรงโน้มถ่วงธรรมชาติ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องเข่น เน้นสบายๆ เป็นธรรมชาติ กลมกลืนกัน เน้นฝึกซ้อมบ่อยๆ ให้ร่างกายมันจำได้ ว่าต้องเคลื่อนตัวอย่างไร ต้องบิดตรงไหน วงแขนกวาดสูงขนาดไหน สะโพกบิดแค่ไหน ต้องก้มแค่ไหน ต้องเงยหน้าเมื่อไหร่ ...แล้วเมื่อไม้กระทบลูกแล้ว มันจะ ไกล และ ตรง (ขณะที่ฟังครูสอน ยังแอบเถียง มันจะเป็นไปได้เร้อครู โม้ป่าวอะ)

    เอาละ มาลองมั่ง .... ฝึกหวดลมแบบที่ครูสอนมาจนคิดว่าเราทำได้บ้างแล้ว ...
    มา เรรมาใหม่แล้ว เรามีปัญญษแล้ว มีเทคนิคแล้ว .... ก้มหน้าคร่อมลูก จับไม้เบาๆ จัดท่าทางตามที่ครูสอน ... ตั้งสมาธิ ไม่เครียด กวาดไม้ตามวิธี ทุกสิ่ง(ไม้ มือ แขน ไหล่ ตัว)เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทำตามที่ฝึก ไม่เข่น ไม่หวดเอาแรง ใช้วงธรรมชาติตี .... ปิ๊งงงงง(ไม้กระทบลูก ใจคิดมันจะไปไหมอะ) ยังไม่เงยหน้าดู(ครูบอกให้ลูกกระทบไม้ แล้วแขนยกขึ้นก่อนค่อยเงยหน้าดู ไม่งั้นจะไม่ถูกหลัก) โอ้ววววว มันไปจริงๆครับ ไกลลิ่ววว ตรงแน่วๆๆๆๆ ....ป้าดดดดด จริงๆด้วย โง่สะนาน ตีเบาๆ มันก้อไป ไม่เหนื่อยเลยอะ นิ้วไม่พองด้วย(เกาไม้เบาๆ ไม่ต้องเกร็ง)

    วันนั้น ฝึกทั้งวันก้อไม่เหนื่อย ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่รู้หลักแล้วนิ อิอิ
    กลับบ้าน ไม่มีแล้ว ปวดไหล่ ข้อมือเกร็ง ฝ่ามือพอง ....
    ข้าพเจ้าก้อฝึกๆๆๆๆๆ จนตีได้อย่างปกติ ไม่ผิดพลาดเลย .....

    พอๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวทุกคนจะนึกว่า ไทเกอร์ วิทย์มาเอง 5555

    ทุกท่านเห็นอะไรไหมครับ
    การตีกอล์ฟ ก้อไม่ต่างอะไรกับการฝึกจิตเกาะพระ
    ทำไมผมถึงกล่าวเช่นนั้นเหรอครับ

    การเกาะพระนั้น เราเน้นความสบาย เกาะพระแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืน ไม่บังคับ ไม่เน้นออฟชั่นภายนอก ใช้จิต ใช้ภายในล้วนๆ
    ทุกท่านคงเคยเป็น บังคับจิตให้เกาะพระ ฝืน เกร็ง เครียด สุดท้ายก้อทำไม่ได้ สักที ..... ทำไมอย่างงู้น ทำไมอย่างงี้ ทำไมๆๆๆ???

    แต่พอท่านวางกำลังใจ วางอารมณ์ได้ เบาๆ สบายๆ ไม่เครียด ไม่กดดัน ทำให้เป็นธรรชาติ แทบจะไม่ต้องไปเค้น ไปฝืน ไปบังคับเลยใช่ไหม ระลึกปุ้บ พระมาปั้บ ออโต้โหมดเลย

    ก่อนฝึกบอกย้ากกกกก มากกกก ทำไม ทำไม่ได้สักที .... ท้อแล้วนะ
    แต่พอทำได้ ท่านจะบอกบอกว่า โธ่เอ้ย แค่เนี้ยยย ง่ายนิดเดียว สบายๆ

    แต่พอฝึกไปแล้ว ถ้าไม่มีครูก้อเสร็จอีกละ ไม่ต่างอะไรกับกอล์ฟ ท่านไม่ได้มีแค่การที-ออฟนะ(ตีลูกออกจากแท่นเริ่มต้น) ท่าต้องเจอทั้งการตีจากหลุมทราย ตีจากหญ้าสูงๆ ตีจากน้ำ พัดบนกรีน ... เทคนิคมากมาย สารพัดที่ต้องเจอ ....
    ถ้าท่านไม่มีครูคอยชี้แนะ บอกวิธี ไม่มีทางที่จะทำได้ ..... สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากนอกเหนือจากครูและการฝึกซ้อมจนร่างกายทำได้แบบอัตโนมัติ คือ สมาธิและสติ
    ใช่ครับ ท่านอ่านไม่ผิดครับ ..... เราตีไป ถ้าไม่มีสมาธิ ไม่มีทางตีได้เลย ถ้าสติไม่เรียกให้เราทำสมาธิ ท่านก้อตีพังแน่ๆครับ
    ยกตัวอย่างเช่น หลุมที่แล้วตีพลาด เสียคะแนนมากมาย ... ถ้ายังเอามาคิด มาเก็บไว้ อารมณ์ยังขุ่นมัว ไม่มีสมาธิ สติยังไม่ทำงาน เรียกสมาธิมา เชื่อไหมครับ มีอีกกี่หลุมก้อเจ๊งหมด เพราะเราไม่มีสมาธิกับเกม สติไม่เท่าทัน สลัดความเครียด อารมณ์เสียไม่ได้
    เราต้องลืมสิ่งที่พลาดไปแล้ว อดีตคืออดีต เอามาคิดก้อไม่เกิดอะไร ไม่ประเทืองปัญญา อยู่กับปัจจุบันพลาดแล้วพลาดไป เอาใหม่

    (จบภาค1 ... เดี๋ยวต่อภาค2 ครับ)
     
  16. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    46,905
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,043
    =======================================
    ถึงจะหนีไปแสนไกลจนสุดกู่
    โดนท่านภู เงื้อไม้เรียว เห็นจะจะ
    ทุกย่างก้าว"จิต"เอ๋ยจิต "สติ"นะ
    เดี๋ยวท่านจะ หวดให้ ก้นลายเลย

    ไปแย้ววว rabbit_run_away
     
  17. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุกับดวงจิตบุญที่ 90 จ๊า
    พร้อมครูเพ็ญด้วยค่ะ
    สาธุค่ะ
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    โมทนาสาธุค่ะ ชัดเจนแจ่มค่ะ
     
  19. Wittayapon

    Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    1,075
    ค่าพลัง:
    +19,233
    เมื่อข้าพเจ้าตีกอล์ฟ .... เมื่อทุกท่านฝึกจิตเกาะพระ (ภาคจบ)

    การฝึกเกาะพระก้อเช่นกัน หลุดก้อเกาะใหม่ ไม่ต้องท้อ เราเน้นสบายๆ ไม่เครียด ไม่บังคับจิต เป็นธรรมดาของการฝึกที่จะต้องยากในช่วงแรก ฝึกบ่อยๆ ทำบ่อย เดี๋ยวจิตชินก้อจะเกาะได้เอง แต่ขอให้ท่านมีความอดทน ไม่ท้อ มีอะไรถามครู ปรึกษาครู สงสัย ไม่ต้องไปหาคำตอบเอง ... มันจะช้า และ งงงง

    ยิ่งจิตละเอียดขึ้นเท่าไหร่ ท่านก้อจะเจออะไรมากมาย ที่จะล่อหลอกให้ท่านติด ถ้าสติตามไม่ทัน เสร็จแน่ๆ ติดสุข ติดปิติ ติดสบาย ติดเฉย สารพัดจะติด .... ครูถึงสอนเสมอให้มี สติเท่าทันนะ อย่าให้จิตพัฒนาอย่างเดียว
    ถึงจิตพัฒนาแต่สติตามไม่เทน ก้อไม่รอดนะครับ จำไว้

    กอล์ฟเป็นกีฬาที่ไม่มีคู่แข่ง มีเพียงท่านแข่งกับตัวเอง มีแคดดี้1คน เป็นที่ปรึกษา
    แข่งกับตัวเองล้วนๆ ไม่ต้องไปยุ่งกับใคร ใครจะตีไกล ตีดี โฮลอินวัน .... ช่างเค้า เราจะตีของเราไป มีสมใธกับเกมของเราไป พลาดก้อไม่เป็นไร เอาใหม่หลุมหน้า อดีต คือ อดี อย่าเอามาคิดให้เป็นอดูด .... มันจะดูดเราไว้ไม่ให้ก้าวหน้า ...
    อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องไปสนใจเรื่องอนาคต ทำตรงนี้ ขณะนี้ให้ดีที่สุด มีสมาธิ มีสติกับปัจจุบัน พอ

    เราฝึกจิตเกาะพระนั้นก้อฝึกกับตัวเรา กับจิตเรา ไม่ต้องไปฝึกข้างนอก ไม่ต้องส่งจิตออกนอก ออกข้างนอก มีแต่จะทำให้เรา งง สับสน สงสัย แล้วจะออกไปทำไม เราศึกษาจิตเราเอง เพื่อค้นหาธรรมในจิตเรา แล้วจะไปสนใจข้างนอก มันจะเกิดประโยชน์อันใด

    ยิ่งเจอหลุมยาก ยิ่งต้องมีสมาธิ สติต้องประคองสมาธิ เจอลม เจอฝน เจอเสียงดัง เจอคนดูเยอะๆ ถ้าไปสนสิ่งภายนอกเหล่านั้น ไม่สนใจตัวเอง เสร็จทุกราย ไม่รอดครับ
    เปรียบกับจิตเกาะพระ สิ่งต่างๆกระทบ ไม่ว่า คน อารมณ์ ทุกข์ สุข เศร้า โลกธรรม๘ ถ้าเรารู้และวาง ไม่เอามาเก็บ เข้าใจว่ามันหนีไมใพ้นไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง ไม่ควรยึด เราเข้าใจ ว่า เดี๋ยวมันก้อไป แล้ว เดี๋ยวมันก้อมา ... รู้ วางไป มีสมาธิกับพระเท่านั้น

    ออกรอบเรื่อยๆ เจอสนามยากมากๆเข้า เราก้อเริ่มเข้าใจมากขึ้น มีประสบการณ์มากขึ้น นิ่งมากขึ้น คนเยอะๆ ก้อไม่กลัว ยากแค่ไหนก้อไม่เกรง เราผ่านมาแล้ว เชี่ยวชาญแล้ว มีสมาธิเป็นพอ สติคอยกำกับ แค่นี้ สบายมาก
    จิตเกาะพระละ ยิ่งท่านทำให้จิตทรงสมาธิได้ต่อเนื่องมากเท่าใด จิตท่านก้อจะพัฒนาตามเวลาที่จิตทรงสมาธิ ยิ่งต่อเนื่องจิตยิ่งละเอียดขึ้น(ฌาณ๑ ๒ ๓ ๔) ติดอะไร ถามครู ไม่สงสัย เอาเวลาที่สงสัย ไปเกาะพระให้จิตเกิดสมาธิดีกว่า

    ตีบ่อยๆ จนเก่งสามารถเข้าแข่งขันได้(ก้อแข่งกับตนเองเหมือนเดิม)
    สิ่งที่ฝึกมา สิ่งที่ครูสอนมา ประสบการณ์ที่เจอมา เราต้องนำมาใช้ในการแข่งขัน อย่าลืมว่า แคดดี้ก้อแค่ผู้แนะนำ คนตีคือเรา คนที่จะทำได้ก้อต้องเรา มิใช่แคดดี้นะครับ อย่าลืม ยิ่งตี ยิ่งมีสมาธิ สติมีกับเกมตลอด ... สติมา ปัญญาเกิด เจออะไรก้อแก้ไขได้ สลัดความเครียด ความกลัวได้ เหลือแต่เรากับไม้กอล์ฟ ลูกกอล์ฟเท่านั้น สิ่งอื่นๆ ไม่เอามายุ่งให้หนัก ให้เสียสมาธิ
    ปัญญาเท่านั้นที่จะทำให้เราชนะ ร่างกายเน้นแค่ทำให้เราทำไก้แบบอัตโนมัติ สุดท้าย เค้าวัดกันที่ปัญญา ล้วนๆๆ ถึงจะทำให้ท่าชนะเลิศได้นะครับ
    จิตเกาะพระก้อเช่นกัน เมื่อกายมีหน้าที่เกาะพระตลอดเวลา เพื่อให้จิตทรงฌาณ๔ตลอดเวลา เราไม่ต้องไปอะไรกับจิตแล้ว ปล่อยเค้าทำงานไป ทรงฌาณ๔ต่อเนื่องจนเกิดวิปัสสณาญาณเอง เมื่อจิตวิปัสสณาได้แก่กล้าดีแล้ว สุดท้ายจิตก้อเกิดปัญญาญาฌเอง .... เมื่อมีปัญญา ก้อแจ้ง ก้อจบ หมดสิ่งผูกมัด


    ผู้ฝึกทุกท่านขอให้อ่านและนำมาเปรียบเทียบกับการปฏิบัติของตนเองดูนะคับ ว่าทำถูกหลักไหม ถ้าผิดหรือไม่ตรงแนว ไม่ต้องเสียกำลังใจ เอาใหม่ครับ ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ขอเพียง อย่าดื้อ อย่าทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว จงพร้อมรับเสมอ ผู้รับเป็นผู้ชอบ อย่าเอาอัตตามานะ มาบดบังตัวเองให้ห่างจากธรรม

    ถ้ายังทำตัวไม่ถูก .... ครูครับ ถามครูนะ เมตตาทุกท่านเต็มเปี่ยม ขอเพียงท่านถาม ไม่มีครูคนไหนที่จะไม่ตอบท่าน ผมมั่นใจ

    ขอให้ทุกท่านมีความ เพียร ตั้งใจ อย่าสงสัยในสิ่งที่ทำ มั่นใจในสิ่งที่ทำ อดทน มีสติ เชื่อฟังครู .... และที่สำคัญที่สุด คือ อย่าอยาก

    ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้ ..... ทำนิ่งไว้
    เคยเห็นผีเสื้อตัวไหน บินเข้าหาสิ่งของหรือคนที่เคลื่อไหวไหม .... ไม่มี
    ผีเสื้อจะบินไปหาสิ่งที่นิ่งเท่านั้น ... เช่นกัน ยิ่งอยาก ยิ่งเคลื่อนไหว วิ่งตามจับผีเสื้อ ท่านก้อจะไม่มีวันได้สัมผัสผีเสื้อ
    ท่านหยุด วาง นิ่ง ไม่อยาก แล้วผีเสื้อจะมาเอง

    และวันนั้นท่านจะเจอธรรมแท้ ที่ตามหามานาน ไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ


    จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม
     
  20. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745

    สองแสนอะไรอ่ะ ครูเพ็ญ
    มันคือไรเรอ ไม่เข้าใจอ่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...