หลวงปู่กี๋และหลวงพ่อตี๋ วัดหูช้างกับพระเครื่องหมอเสน่ห์ คล้ายบัว

ขอบคุณมากครับ พี่หมูตุ่น ได้ความรู้เพิ่มอีก1รุ่นครับ

 

ไม่เป็นไรครับคุณไม้เท้าทอง ถามได้ทุกรุ่นครับมีคำตอบครับวัตถุมงคลอื่นๆด้วยก็พอได้ครับ

 

สมาชิกใหม่ สวัสดีทุกท่าน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ.....

 

เพิ่งได้มาใหม่ครับ งิ้วดำ แต่เป็นของตั้งแต่ปี 53-54 นะครับไม่แน่ใจ ไซ้กำลังน่ารักเลยครับ
อีกรูปเทียบกับพรรคพวกที่มีนะครับ

 

ปลัดฯไม้งิ้วดำ ชุดนี้มีไม่น่าจะเกิน 100 ตัวช่างเหลามาตัวเขื่องไปหน่อยและทางวัดเก็บไว้จนลืมเพิ่งจะมาค้นเจอเลยทยอยส่งไปให้หลวงพ่อตี๋จาร โดยตอนนี้กำลังเป็นที่ต้องการในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาอย่างมากครับ

 

ขอบคุณ คุณสรวิชสำหรับข้อมูลมากเลยครับ ช่วงนี้คลังท่านปลัดมากเลยครับ คงต้องพึ่ง คุณสรวิชและคุณหมู๋ตุ๋นและท่านอื่นช่วยชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

สมเด็จเนื้อผงกัลปังหาสมัยหลวงพ่อกี๋สร้างเมื่อปี17 หลวงพ่อท่านได้เก็บผงตะไบกัลปังหาจากหลาวปลัดขิกเอาไว้แล้วท่านได้ให้อาจารย์นิตย์นำไปสร้างเป็นพระสมเด็จ มาชมกันครับ

 

ถ้าพิมพ์นี้ไปพบเจอข้างนอกไม่ทราบเลยนะครับพี่หมูตุ่นว่าเป็นของหลวงปู่กี๋ แต่ถ้าเป็นพิมพ์มาตรฐานที่ด้านหลังมียันต์เฑาะว์มะอะอุไม่ปล่อยหลุดมือผมไปแน่ๆ ต้องขอพิมพ์นี้มาเป็นตัวอย่างให้ผมสักองค์แล้วนะครับพี่หมูตุ่น 5555

 

ช่วงนี้คุณสรวิชไม่ได้ไปวัดเลยเหรอครับ ไม่มีของดีมาอัพเดทเลยครับ อยากเห็น ของเก่าตามไม่ไหว ตามของใหม่แล้วกันครับผม
สวัสดีครับ คุณหมู๋ตุ๋น ฟ

 

นำมาร่วมแจมครับ สมเด็จเนื้อผงกัลปังหา ลป.กี๋ เนื้อนี้เคยเห็นคนรุ่นเก่าห้อยแบบเปิดหน้า/หลัง พอถูกเหงื่อ สัมผัสผิวหนังไปนานๆเนื้อจะจัดขึ้นเงามัน สวยงามมาก

 

นั่นแน่.....และแล้วคุณทุเรียนนนท์ก็มาช่วยอาจารย์หมูตุ๋นแล้ว ทีนี้หมูตุ๋นก็ไม่ต้องเหนื่อย มีคุณทุเรียนนนท์และคุณพระราม3มาช่วย555สบายละ
ใช่ครับคุณsoravichพระพิมท์สมเด็จสมัยหลวงพ่อกี๋นั้นดูยากถ้าไม่มียันต์ด้านหลัง จะรู้ก็เฉพาะคนย่านๆใกล้วัดและศิษย์ใกล้ชิดเพราะรู้ที่มาที่ไป พระพิมท์สมเด็จสมัยหลวงพ่อกี๋หลังไม่มียันต์มีมากกว่าหลังมียันต์นะครับ แล้วจะลงภาพให้ชมในโอกาศต่อไปว่ามีพิมท์อะไรบ้าง หลังมียันต์แบบไหนบ้าง วันนี้เอามาให้ชมอีก1พิมท์เป็นเนื้อผสมชานหมากหลวงพ่อกี๋ด้านหลังเป็นยันต์อะไรก็ไม่ทราบ(ใครทาบช่วยแนะนำด้วยครับ)

 

ยินดีต้อนรับคุณduriannon นำวัตถุมงคลวัดหูช้างมาลงบ่อยๆนะตรับผมศิษย์รุ่นน้องรอชมอยู่นะครับ

 

วันนี้เพิ่งจะไปวัดมาครับ เบี้ยฯเปลือยยังมีอยู่จารเต็มๆเหมือนเดิม ส่วนปลัดฯทุกเนื้อไม่มีเลยหลวงพ่อตี๋จารให้ไม่ทันครับ แต่เสาร์ อาทิตย์นี้น่าจะมีลงมาผมเห็นเข้ามาถามหาปลัดฯกันอยู่หลายคน และอาจจะมีล็อกเก็ตใหญ่ตีปิดหลังตะกั่วจารมือลงมาด้วย ถ้าไปวัดหูช้างแล้วไม่พบวัตถุมงคลที่ต้องการอยู่ในตู้ให้เราถามที่หน้าตู้ได้เลยเผื่อหลวงพ่อตี๋ท่านกำลังจารอยู่ก็เป็นได้นะครับ โชคดีทุกท่านครับ

 

ปลัดหลวงพ่อกี๋ เนื้อไม้ละมุดตัวเดียวคู่กายผมครับมรดกจากพ่อ
รบกวนร่วมแจมด้วยนะครับ

 

ดูแล้วน่าจะเป็นลายมือพราห์มจั๊วหรือหลวงตาเหลือนี่แหละครับ

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับผมไม่มีความรู้เลยครับ

 

เสริมความรู้เรื่องปลัดขิกในสมัยหลวงพ่อกี๋ให้นะครับคุณsitthipholและท่านอื่นๆ เริ่มแรกเดิมทีหลวงตาเม่นท่านเป็นพระลูกวัดแต่ท่านเก่งทางด้านช่างท่านได้ทำปลัดขิกเอาไว้แจกญาติโยมที่สนิทเท่านั้น ต่อมามีผู้ที่นำไปใช้แล้วได้ผลก็เลยทำมาเลื่อยๆบ้างก็เอามามาให้หลวงพ่อกี๋ท่านลงอักขละ บางครั้งก็หลาวมาเองแล้วให้หลวงพ่อท่านลงอักขละในสมัยนั้นรูปทรงไม่มีมาตราฐานส่วนใหญ่จะตัวใหญ่ๆต่อมาไม่นานปลัดขิกของท่านได้แผลงฤทธิ์ต่างๆนานาให้ได้เห็นก็เลยเป็นที่นิยมจนเลื่องลือจนถึงทุกวันนี้จนทำให้ปลัดขิกนั้นผลิตไม่ทันต่อความต้องการ บางคนก็ต้องมานั่งรอหลวงพ่อท่านจารอักขละกันแบบสดๆร้อนๆเหมือนในยุคหลวงพ่อตี๋ในปัจจุบัน ดังนั้นหลวงพ่อกี๋ท่านก็เลยต้องให้ลูกศิษย์ของท่านช่วยหลาวและช่วยลงอักขละมีทั้งพระและฆราวาสดังนี้นะครับ เอาผู้ที่ช่วยลงอักขละก่อนนะครับคือ หลวงพ่อตี๋ หลวงตาเหลือ พระอาจารย์นิต พระเสมา พราหมณ์จั๊ว ส่วนผู้ที่ช่วยหลาวก็มีหลวงตาเหลือ พระอาจารย์นิต พระเชิด ลุงจวน ลุงวัง ซึ่งทุกๆท่านที่มาช่วยหลวงพ่อนั้นต้องได้รับอณุญาติจากหลวงพ่อท่านนะครับเมื่อลงอักขละเสร็จเรียบร้อยต้องรวบรวมมาให้หลวงพ่อกี๋ท่านเสกอีกครั้งนะครับ นี่คือที่มาที่ไปเพียงเล็กๆน้อยนะครับวันนี้มาชมปลัดขิกยุคต้นๆของหลวงพ่อกี๋กันนะครับ

 

หนึ่งในสุดยอดความต้องการของเหล่าบรรดาศิษย์วัดหูช้างเลยครับท่าน

 

สาธุ ขอเก็บรูปไว้ศึกษาลายมือนะครับ ส่วนตัวก็พยายามเก็บส่วนปึจจุบันตามกำลัง น