... แล้วเราจะเล่าให้ฟัง ...

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สายฝนฉ่ำเย็น, 1 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ศรัทธา...ธรรมะ....ประทับใจ ๔

    คิดว่า หลายๆ คน คงเคยเป็นเหมือนกัน...ต่างสถานที่ เรามักจะนอนไม่หลับ ต่างที่ ต่างถิ่น ... แต่ที่นี่ตรงข้ามเลย อาหารหลัก ๓ เวลา อาหารว่าง ๓ เวลา .... ๖ ครั้งแล้ว สำหรับความอิ่มหนำสำราญในแต่ละวัน ... น้ำสมุนไพรที่ไม่ซ้ำกัน พร้อมเสิร์ฟ และเชื้อเชิญให้ได้จิบชิมกันอยู่เป็นเนือง .... สายฝนฯ เอ๋ย!! ... หลงเพลินไปว่า ... เราได้มาอยู่โรงแรม ๕ ดาว สะดวก สบายไปเสียทุกอย่าง ... ปรากฏว่า คืนนั้น พวกเรา ทั้งกินอิ่ม และ นอนหลับ ฝันดีอีกต่างหาก ... จนอดนึกไม่ได้ว่า พรุ่งนี้เช้า เราจะตื่นกันได้ไหมหนอ ตี ๔ ที่ว่า ... เพราะคิดว่า หลงเข้าไปอยู่ในวิมาณ เสียแล้ว ....

    ผลปรากฏว่า ... เราตื่นกันก่อนเสียงนาฬิกาจะดังซะอีก ... นอนบิดไปมา เพราะตื่นตั้งแต่ตี ๓ ไม่มีอาการง่วงหงาวหาวนอนเลย ... มันตื่นตัวซะอย่างนั้น ... ตื่นเต้น ... ว่าวันนี้ ... จะได้ธรรมะ ข้อใดหนอ ... จะได้เรียนรู้สิ่งใดหนอ ... ไม่เคยปฏิบัติแบบนี้เลย ... และที่สำคัญ .... เช้านี้ อาหารจะเป็นอะไรหนอ ... 5555 อร่อยซะขนาดนั้น ไม่คิดก็ไม่ได้แล้ว....

    เราทำวัตรเช้ากันตอนตี ๕ ที่ห้องเรียน ... ท่าน ผอ.ชรัตน์ และ ผอ.พิสิทธิ์ เป็นผู้นำเรา ... จริงๆแล้ว พระอาจารย์ทั้ง ๔ รูปต้องเดินทางไปอธิษฐานพรรษาที่วัดของแต่ละรูป ในเช้าวันนั้น จึงเหลือพระอาจารย์ ๓ รูป และพระสมุห์สนอง พระอาจารย์สอนกรรมฐาน ที่นำเราทำวัตรเช้า และเดินจงกลม ที่เมืองโบราณ นอกห้องเรียน ... เราได้เดินสูดอากาศบริสุทธิ์ ได้เดินผ่านบ้านทรงไทยในภาคกลาง เรื่อยไป ... ถ้าท่านที่ได้เคยไป เมืองโบราณ คงนึกภาพตามออก ... เราเดินด้วยเท้าเปล่า ... ผ่านสถานที่สำคัญ ที่สวยงาม จนเราลืมไปว่า ... นี่คือ สมุทรปราการ ... เพราะอารมณ์และความรู้สึกตอนนั้น ... เสมือนเรา ได้เดินตามครูบาอาจารย์ทางสายพระป่า ได้เดินนำเรา ได้รู้ใจของตน ... มีสติ อยู่กับ การ ก้าว ย่าง เหยียบ บนผืนดิน ที่เราไม่เคยได้ทำเลย ... อดที่จะกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ไม่ได้ ... รองเท้าที่พวกเราถอดวางไว้ ... เขานำมาเรียงรายใส่รถ ขับตามพวกเราไปเรื่อยๆ .... ดีจริงหนอ ... ดีจริงหนอ .... ทำให้เราลืมไปเลยว่า ... เรามาปฏิบัติกันอยู่ ....

    เดินจงกลมเสร็จแล้ว...ถึงเวลาหม่ำเสียที...ไม่ผิดหวัง...แหม๋!!! อาหารมังสวิรัตที่นี่...ทำไม๊ ทำไม อร่อยถึงใจได้ขนาดนี้...ตามหลักแล้ว เมื่อปฏิบัติ ต้องกินให้น้อย อยู่ให้น้อย ... จะได้นั่งนานๆ ... ที่ไหนได้ .... สายฝนฯ เอ๋ย ... ดีนะ ที่สำรวมใจ ... ไม่อย่างนั้น ... ขอเบิ้ลชัวร์ 55555 สับปะรด แตงโมตบท้าย ก็หวานเย็นชื่นใจ ...

    หลังจากนั้น ... เราได้ทำกิจกรรมกันที่ ศาลา ๑๐๘ พระอรหันต์ ... พระอาจารย์ ได้สร้างฐานไว้ ๔ ฐาน ... ฐานแรก เป็นฐาน “แก้ปม” ... พระมหานพดล หรือ พระอาจารย์เอก ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม เป็นพระอาจารย์ฐานนี้ ... ให้เราจับคู่หันหน้าเข้าหากัน นำเชือกฟางผูกติดแขนสองข้างของคู่เรา และ นำเชือกอีกเส้นไขว้กันไว้กับเชือกของคู่เรา ผูกแขนของเราทั้งสองข้างเช่นกัน ... และให้เรานำเชือกสองเส้นออกจากกัน โดยไม่แก้มัดเลย ... อิฉันจับคู่ได้คุณป้าอายุ ๖๐ ต้นๆ ... คุณป้า ด้วยความที่อยากเอาเชือกออกไวๆ ... เพราะพระอาจารย์ท่านมีรางวัลให้กับคู่แรก ... อิฉันกับคุณป้า ก็ทั้งกอดทั้งปล้ำ ... หมุนตัว ยกตัวขึ้นลง ซึ่งกันและกัน กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน ... พยายามที่จะเอาเชือกออก ... ทำอย่างไรก็ไม่ออก ... จนอดขำไม่ได้ และพูดออกมาว่า ... พระอาจารย์ ดีนะ ที่คุณป้าเป็นผู้หญิง ไม่อย่างนั้น หนูกับคุณป้าคงมีลูกกันไปหลายคนแล้ว ... พระอาจารย์อมยิ้ม และบอกว่า ... โยม เชือกผูกที่ตรงไหน ให้แก้จากตรงนั้น แล้วเชือกจะออกจากกันเอง ... ไม่นานเท่าไหร่ ... สามีอิฉันจับคู่กับคุณป้าที่มาจากสุรินทร์ .. เอาเชือกออกเป็นคู่แรก โดยไม่ได้กอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนอิฉันเลย ... ฉันสงสัยว่าทำได้อย่างไรหนอ...พระอาจารย์กล่าวชื่นชมเขา ที่มีสติ และ ปัญญาที่เกิดขึ้น ในการแก้ปัญหา ... เขาตอบกลับพระอาจารย์ว่า ... เหมือนของเล่นที่เคยเล่นกับลูก ... เพียงเท่านั้น ฉันถึง “บางอ้อ” ... เพราะเราเคยเล่นกันในครอบครัว ... เวลาต่อมา ฉันเป็นคู่ที่สองที่เอาเชือกออกได้ ... พระอาจารย์ถามว่า ทำอย่างไร ... ฉันตอบกลับพระอาจารย์ว่า ... มีลูกคนเดียวกันค่ะ จึงนึกออก ... พระอาจารย์หัวเราะ ... อ้าว!!! นี่โยมเป็นสามีภรรยากันหรือ ... ดีจริงหนอ ... ที่มาปฏิบัติด้วยกัน .... เมื่อพากันแก้ปมของเชือกได้แล้ว พระอาจารย์ก็สอนเรื่องปมของปัญหาที่เกิดขึ้นกับเรา ในชีวิตประจำวัน หรือ กับคนรอบตัวเรา ท่านบอกว่า เชือกนี้ หรือ ปมนี้ เราเป็นผู้ผูก เรานั่นแหละ จะสามารถแก้ปมได้ด้วยตนเอง ให้คนอื่นแก้ให้ไม่ได้ ท่านให้ใช้สติ ไตร่ตรอง ไคร่ครวญ และนำปัญญาที่เกิดแก้ปัญหา หรือ ปมนั้นเถิด ... โยมทำได้ทุกคน เช่นเดียวกับ เชือกฟางสองเส้นนี้ ...

    ศรัทธา...ธรรมะ....ประทับใจ ๕


    จากนั้น เราพากัน ยกกลุ่มมาที่ฐานที่ ๒ ซึ่งเป็นฐานของ ผอ.พิสิทธิ์ และ ผอ.ชรัตน์ ... อิฉันดีใจ และรู้สึกขอบคุณอีกครั้ง ที่ทำให้เราได้มาเจอกับท่าน ทั้งสองนี้ ... พอทราบประวัติ ผอ. ทั้งสอง ทำให้เกิดศรัทธา และมองเห็นถึงประโยชน์ที่ตัวเอง สามารถช่วยเหลือสังคมได้ อย่างไม่มองผ่านเลยไป หรือ มองเป็นเรื่องของคนอื่นเลย ... เพราะเราสามารถช่วยเหลือได้ตามสติและกำลังที่เรามีอยู่ ... ซึ่งยังมีผู้คนอีกจำนวนมาก ที่มักเห็น หรือ เข้าใจอะไรๆ แบบบอกต่อๆ กันมา โดย อาจเป็นจริง หรือ เป็นเท็จ ก็ได้ ... แต่ด้วยคำที่ว่า “เขาทำกันมา” “เขาบอกต่อกันมา” “เห็นที่บ้านทำแบบนี้” .... ผอ. พิสิทธ์ ท่านเคยบวชเรียนมา อย่างที่พวกเราได้ยินก็ถึงกับอึ้งเช่นเดียวกัน ... ผอ.ชรัตน์ ท่านก็ช่วยเหลือสังคมไม่ได้หยุดหย่อน .. ท่านทั้งสองอายุมากเกินคำว่า “อายุเกษียณ” แล้ว แต่ท่านไม่ละเลยที่นำความรู้ความสามารถของท่าน นำมาทำให้เกิดประโยชน์ แก่พวกเรา ... และรุ่นต่อๆ ไป ... ฐานนี้ ท่านเรียกว่า “ฐานพีธีกรรม” ท่านบอกว่าแต่ละฐาน พระอาจารย์ให้ใช้เวลา เพียง ๑๐ นาทีเท่านั้น ท่านจึงย่นย่อ และเอาแค่ใจความสำคัญให้เรา แต่ขนาดแค่หัวข้อ ท่านก็เกรงว่า เวลาจะหมดเสียก่อน ... ท่านบอกกล่าวให้เราได้ทราบถึงหลัก ๔ อย่างที่ควรรู้ ๑. กุศล มีกี่อย่างอะไรบ้าง ๒. บุญ มีอะไร ทำอย่างไรบ้าง ๓. ทาน ให้รู้ถึงการให้ ถูกที่ ถูกเวลา ถูกบุคคล ๔. ปกิณกะ คือ หลักทั่วไป เช่น งานมงคลจะใช้คำว่า สายสิญจ์ งานอวมงคลจะใช้คำว่า สายโยง หรือ โต๊ะหมู่บูชา จุดเทียนด้านไหนก่อน ฯลฯ อิฉันเคยถูกทักท้วงเรื่องการอาราธนาศีล ... จึงเอ่ยถามท่าน ... ปกติอิฉันจะ ใช้วิสุง วิสุง ทุกครั้งก็จะอาราธนาศีล หรือ ก่อน นะโม ... เพราะ คำว่าวิสุง วิสุง ในศีลแต่ละข้อนั้น เมื่อขาดข้อใด ข้อหนึ่ง ยังเหลืออีกข้อต่อไป ให้ได้ถือครองกันในแต่ละวัน ... เพื่อนอิฉันบางคนก็บอกว่า ... เคยเห็นแต่เวลาไปวัด เมื่ออยู่ต่อหน้าพระภิกษุสงฆ์ ถึงจะใช้วิสุง วิสุง ถ้าทำที่บ้านไม่ต้อง ... ผอ.พิสิทธิ์บอกว่า ฉันเข้าใจถูกแล้ว เพราะความไม่รู้ จึงเข้าใจตามๆ กันมาว่า การขึ้นมะยังภันเต วิสุงวิสุง นั้น ต้องรับกับพระ ไม่ใช่เลย และท่านก็อธิบาย จนพวกเราเข้าใจ ... จากนั้น เราเดินทางไปฐานที่ ๓ ซึ่งมีพระสมุห์สนอง เป็นพระอาจารย์ประจำฐาน ท่านก็ถามว่าฐานที่แล้วบอกอะไรมา ต้องตอบให้ได้นะ ... ท่านหยอกเย้ากับ คุณป้าคุณลุงที่มาในกลุ่มนี้ แต่ละท่านอายุเลย ๖๐ ไปแล้วทั้งสิ้น และมีหลายท่านในกลุ่ม ... ท่านถามความรู้พวกเรา และ บอกถึงหัวข้อของฐานนี้ ... ๑. ศาสนพิธี ๒. เข้าพรรษา ๓. ผ้าอาบน้ำฝน ... เราก็ได้ความรู้และหัวเราะต่อกระซิบกันไป .. เอาแล้วถึงเวลาอาหารว่างแล้ว ... เราเป็นกลุ่มสุดท้ายที่เดินเข้าไปหา อาหารว่าง พออ้าปากจะหม่ำ ... หมดเวลาแล้ว ต้องไปเรียนต่อแล้ว ... ตะโก้เผือก ตะโก้สาคู ตะโก้ข้าวโพด ... อร่อยมากกกกกกก ยิ่งได้จิบกับกาแฟร้อนๆ ... โอโห้ ... เล่าไม่ถูกเลย ... อาหารว่างแต่ละมื้อ ไม่มีซ้ำเลย ... จอร์จเอ๋ย ... เยี่ยมมว๊ากกกกก ... นี่แหละทำไมอิฉันถึงอยากเล่า ... แสดงได้เห็นถึงความตั้งใจ ใส่ใจ และให้ใจ กับการสร้างกิจกรรมครั้งนี้ ของเจ้าของสถานที่ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วม และดูแลเราเป็นอย่างมาก ... กระทั่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ถ้าไม่ใช่คนที่ตั้งใจ และใส่ใจ จริงๆ ก็คงทำไปแบบ อย่างนั้น อย่างนั้น ....

    ฉันถูกเรียกตัวให้ตามมาให้เร็ว เพราะสมาชิกกลุ่ม เข้าไปฐานที่ ๔ กันแล้ว ... แหม คำสุดท้ายยังไม่ได้กลืนลงคอเลย กาแฟก็ยังไม่ได้กระดก เลย ... รีบเช็ดปาก เช็ดมือ ตามไป ... ฐานนี้ คือ “ฐานวาดฝัน” พระอาจารย์ฐานนี้ คือ พระสมพร ท่านเป็นคนพูดน้อย แต่ดูจริงจัง และตั้งใจ ท่านให้กระดาษเราคนละแผ่น ให้เราวาดรูป ตามที่ท่านกำหนด และให้เราวาดตามจินตนาการของเรา ว่าจะเอาอะไรไว้ตรงไหน ... ท่านบอกเกริ่นๆ ไว้ว่า ... รูปของแต่ละคน จะสามารทำนาย ดวงชะตา ได้เลย ... เอาแล้ว ... ฉันจะได้ครูโหราศาสตร์เพิ่มอีกคนแล้ว .... ^ ^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012
  2. blue pooh

    blue pooh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +271
    สวัสดีค่ะพี่อ้อ
    หนุอยากส่ง PM ไปหาค่ะ แต่ดูเหมือนว่าเต็ม

    พึ่งมาเห็นกระทุ้นี้ อ่านแล้วแอบน้ำตาซึม รู้สึกว่าตัวเองนี่ไม่ได้ทำบุญอะไรกับใครเขาเลย 555 ดีใจที่ได้อ่านค่ะ อย่างน้อยจะได้สำนึกตนบ้าง ช่วงนี้ถ้าพี่มีไปบุญที่ไหน บอกกันด้วยนะคะ เป็นคนว่างงานอยู่ กำลังหาทางไปวัด 555

    หนุพึ่งกลับมาจากวัดอัมพวัน บวชเนกขัมมะได้ 3 วัน สมาธิไม่มี สติไม่มี 555
    สงสัยต้องกลับไปซ่อม 7 วันค่ะ

    ดีใจที่ได้เจอที่อ้อ พี่ดาค่ะ (เคยไปเจอกันที่พี่วันสอนไพ่ค่ะ)

    อนุโมทนาค่ะ หนูตามอ่าน (ยังไม่ครบทุกหน้านะคะ)
     
  3. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ตามอ่านไปเรื่อยๆ นะคะ .. ^ ^
     
  4. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ศรัทธา...ธรรมะ....ประทับใจ ๖

    พระอาจารย์สมพร กำหนดให้มี งู ต้นไม้ พระอาทิตย์ บ้าน ทางเดินเข้าบ้าน ภูเขา เป็ด สิงโต แม่น้ำ ... ฉันและคนในกลุ่มในรุ่นเดียวกัน ก็วาดตามที่จินตนาการ และป้าๆ ทั้งหลาย เสียงกระจองอแง ... ฉันอดยิ้มไม่ได้ ... ท่านไม่ได้บ่น ... แต่ท่านบอกว่า ... ท่านวาดไม่เป็น ... สงสัยฐานนี้ ท่านไม่ได้ผ่านแน่นอนเลย ... บางท่านกล่าวกับพระอาจารย์ว่า พระอาจารย์เจ้าขา ... วาดภาพบ้านไม่เป็น สิงโตไม่ได้ งูไม่เป็น ได้แต่ต้นไม้ ภูเขา พระอาทิตย์ ได้หรือไม่เจ้าคะ ... พระอาจารย์ขู่กลับ ... ไม่ได้โยม ต้องวาดสิ่งที่กำหนดให้ทั้งหมด ... ไม่งั้นไม่ผ่านไม่รู้ด้วยนะ ... คุณป้าที่นั่งข้างหลังฉัน ... ชะเง้อ มองผ่านคอฉันมา ... พระอาจารย์กระแอมเสียงดัง ... คุณโยมชุติมันต์ คุณโยมป้า แอบลอกสิงโตคุณโยม ... จบคำพูดพระอาจารย์ทุกคนหัวเราะกัน ไม่เกร็งกันต่อไป ... ท่านเลยบอกว่า วาดไม่ได้ เขียน ไว้ก็ได้ ว่าอะไรเป็นอะไร และอยู่ตรงไหน ... บรรดาป้าๆ ทั้งหลาย จึงมีรอยยิ้ม และวาดกันอย่างอารมณ์ดี ... อีกอย่างที่ศาลา ๑๐๘ อรหันต์ ก็เย็นสบายซะเหลือเกิน … อาหารเช้า อาหารว่าง ยังย่อยไม่ทันเสร็จ บรรยากาศดันเป็นใจ … บททดสอบมาเป็นระลอก … หนังท้องตึง หนังตาเริ่มหย่อน สายลมพัดฉิวๆ … มีแอบกระซิบน้องที่นั่งข้างๆ … (นี่ถ้าไม่ใช่ชั่วโมงปฏิบัตินะ … แม๊ะ … ได้หมอนสักใบนะ … ซู้ดยอดเล้ย !!) … น้องมองหน้าได้แต่ยิ้มให้ … คงไม่กล้าตอบกลับ … 5555 เพราะคิดเหมือนกันอยู่ 555555+++ … สุดท้ายเวลา ๑๐ นาที ก็มาถึง … เสียงหลายคนบ่นออดแอด … ว๊า!!! ยังวาดไม่เสร็จเลยเจ้าค่ะ พระอาจารย์ … พระอาจารย์เลยบอกว่า ไม่ได้แล้วโยม หมดเวลามาตั้งนานแล้ว เดี๋ยวจะเลยเพล … เฉลยเลยแล้วกัน …. อิอิ … เอาเป็นว่า อิฉัน เฉลยแค่งูก็แล้วกันนะ … ท่านถามว่า มีใครวาดงูไว้บนต้นไม้บ้าง … ยกมือกันเพียบเลย มีประมาณ ๓-๔ คนที่ไม่ได้ยกมือ … รวมถึงฉันกับสามีด้วย … ท่านถามต่อว่า … โยมที่ยกมือนั่นน่ะ … มีแฟนกันหรือเปล่า … เสียงสาวๆ ตอบ … ยังไม่มีเจ้าค่ะ … เสียงป้าๆ ตอบ … ไม่เอาแล้วเจ้าค่ะ … แก่แล้ว … หมดไฟแล้ว … ปลงแล้ว ฯลฯ … ท่านก็เลยตอบว่า … ก็นั่นแหละ …. ไปวาดงูไว้บนต้นไม้กันทำไมล่ะ … เพราะความหมายของงูที่ให้วาด … คือ “เนื้อคู่” … มิน่าล่ะ … ไม่พากันลงจากคานกัน …. เท่านั้นแหละ …. หัวเราะกัน ฟันปลอมกระเทือนเลย … สาวๆ ถามว่า … งั้นจะแก้ไขได้อย่างไร … พระอาจารย์ไม่ตอบ บอกแต่ว่า … ก็โยมไปวาดงูไว้บนต้นไม้เองนี่ … ฉันเลยตอบแทน … ไม่ยากค่ะ หาลิขวิดลบซะ ก็หมดเรื่อง … พระอาจารย์ตอบว่า ไม่ได้ ไม่อย่างนั้น … โยมก็วาดให้หัวงูหันหน้าลงต้นไม้แล้วกัน …. ฉันถามต่อว่า … อ้าว!!! แล้วหนูวาดงูเลื้อยอยู่พื้นดิน ใกล้ต้นไม้ แปลว่าอะไรเจ้าคะ … ท่านตอบกลับมา พร้อมอมยิ้ม … ก็แสดงว่า โยมข่มสามีน่ะสิ … 5555555 ฮากันทั้งศาลา …. เอาเป็นว่า ใครอยากรู้ ในของทั้งหมดที่เหลือ … หลังไมล์มาแล้วกัน จะตอบให้ ^ ^

    พอเสร็จแล้ว … พวกเราก็รีบเก็บข้าวของ เก็บรองเท้า ขึ้นรถราง ไปที่โรงอาหาร … ก็นะ … อย่าให้เสียโอกาสเลย … จงใช้เวลาให้คุ้มค่า และมีประโยชน์ที่สุด … ตามคำที่พระอาจารย์วชิระ ท่านสอนเรื่องของเวลา คำพูด และโอกาส … พวกเราทานข้าวเสร็จ ก็พากันไปที่ห้องเรียน … ผอ. ทั้งสอง กล่าวว่า … ช่วงเวลานี้ เป็นของพวกเรา … เพราะพระอาจารย์ทั้งหมด ท่านต้องกลับไปอธิษฐานเข้าพรรษา จะกลับมาอีกทีก็ช่วงดึกเลย … ก่อนที่พระอาจารย์มานพ ท่านจะเดินทาง … ท่านบอกฉันว่า ให้เจ้าหน้าที่เตรียม ทรายใส่แก้ว และนำเทียนปักใส่แก้วไว้จำนวน 400 ชุด แล้วท่านจะมานำทำกิจกรรมช่วงดึกกัน … ผอ. ทั้งสอง จัดโปรแกรม พาเราเที่ยวเมืองโบราณกัน ทั่วสถานที่เลย จุดแรกที่เราไปพักแวะกัน คือ … เขาพระวิหาร … จุดที่สองคือ … ตลาดบก ที่ เก็บภาพและบรรยากาศของตลาดในสมัยก่อนไว้ อย่างเพลินตาเพลินใจ … ฉันมาเที่ยวที่นี่สองครั้งแล้ว … ยังไม่รู้สึกประทับใจ หรือ เก็บรายละเอียดได้มากขนาดนี้ … ประทับใจจริงๆ … จุดที่สามคือ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท … จากนั้น ก็กลับไปที่ห้องเรียน เพื่อปฏิบัติธรรมกัน …. จากนั้น ถืงเวลา ทานอาหารเย็น และ ทำวัตรเย็น โดยท่าน ผอ. ทั้งสอง … และปฏิบัติกันต่ออีก 1 บัลลังก์ ช่วงรอพระอาจารย์กลับมา … อยากบอกว่า พระอาจารย์ทั้ง ๔ ท่าน เหนื่อยมาก เพราะต้องเดินทางจากวัดของท่าน มาที่นี่ และ กลับไปอีก เพื่อวันรุ่งขึ้น ท่านต้องมาใหม่ นั่นคือ ระเบียบของการเข้าพรรษาที่ต้องจำวัตรอยู่กับที่เป็นเวลา ๓ เดือน … นึกกราบขอบพระคุณเป็นอย่างมาก … เมื่อพระอาจารย์มาเกือบ ๒ ทุ่มแล้ว ท่านให้พวกเรา วางแก้วเทียนเป็นรูปหัวใจ ดวงใหญ่ ซ้อนกัน ๓ ดวง และเริ่มบรรยายถึงความกตัญญูของพระมหากษัตริย์ที่เรารักดั่งดวงใจกับผู้เป็นมารดาของท่าน ให้สะท้อนถึงเราที่เป็นคนธรรมดา แต่ทำไมกลับทำในสิ่งที่ควรทำไม่ได้ ท่านบรรยายไปได้สักพัก ก็ให้พวกเราปิดไฟ จุดเทียน ให้หันหน้าล้อมหัวใจเทียนดวงนั้น … ให้หลับตา และนึกถึงภาพของแม่เรา ที่เราเคยเห็น ที่เราได้เคยกระทำย่ำยีหัวใจท่าน ด้วยความตั้งใจและไม่ตั้งใจ … เสียงร้องไห้มาเป็นระยะๆ เสียงสะอื้น หึก หึก … เริ่มมากขึ้น … ฉันไม่ร้องไห้ … แต่น้ำตาไหล โดยไม่มีเสียงสะอื้นเลย มันไหลมาเอง … เพราะฉันนึกภาพในช่วงที่หายไประหว่างฉันกับแม่ไม่ได้ … ฉันรู้แต่ว่า … วันที่ฉันคลอดลูก … ฉันรู้ว่า “แม่” คงรักฉัน … เหมือนที่ฉัน “รักลูก” ของตัวเอง … ยังๆ ไม่จบ … พระอาจารย์ตบท้ายด้วย น้อง ดาคิม ที่ตามหาอ้อมกอดของแม่ตัวเอง ลูกบุญธรรมของคนเกาหลี ที่มาขอไปจากเมืองไทย … จากรายการ ไทยแลนด์ก็อททาเล้นท์ … ฉันก็ดูรายการนี้ … เพียงเท่านั้นแหละ ฉันปล่อยโฮเลย … ฉันไม่ได้สงสารน้องเขาที่ไม่มีพ่อแม่หรอก … ฉันนึกถึงตัวเอง นึกถึงความรู้สึก ที่เคยเกิดขึ้นกับฉัน … ฉันรับรู้ถึงอารมณ์และความรู้สึกของน้องได้ดี เพราะสิ่งเหล่านั้นเคยเกิดขึ้นกับฉัน … แต่ฉันโชคดี ที่ฉันยังมี คุณตา คุณยาย ที่มอบความรักแบบเต็มหัวใจของท่านให้กับฉัน … และที่สำคัญ … ฉันได้แม่กลับมา ให้ได้กราบไหว้ ให้ได้กอด ให้ฉันได้มีโอกาสเลี้ยงดู … ฉันไม่รู้ว่า ฉันทำได้ดีหรือเปล่า เพราะฉันไม่เคยไปเปรียบเทียบกับใคร … ฉันรู้แต่เพียงว่า วันนี้ ฉันมีลมหายใจ ฉันจะทำให้ดีที่สุดของฉัน วันแม่ วันพ่อ ของฉัน มีทุกวัน … ฉันกอด ฉันบอกรัก แม่กับพ่อฉัน บ่อยๆ ฉันขอขมากรรม กับบางกรรมที่รู้เท่าไม่ถึงการ อยู่เป็นเนือง … มีคนเคยบอกว่า … ฉันไม่เห็นพาใครไปเลี้ยงข้าว … ฉันบอกกลับว่า ฉันไม่ใช่คนร่ำรวย มีเงินทองมากมาย … คนที่ฉันพาไปและทำให้ดีที่สุดเท่าที่ลมหายใจของฉันยังมี คือ แม่ และ พ่อ ของฉัน …. เพราะสิ่งที่อาจารย์บรรยายก่อนหน้านี้ ฉันน้ำตาซึม แต่มีรอยยิ้ม เพราะฉันทำอยู่ และยังทำอยู่ และจะทำต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังมี … สามีบอกฉันว่า เขาก็ไม่ร้อง จนมาเพลงสุดท้ายนี่แหละ … ด้วยความที่ว่า … ฉันฟังเพลงนี้ไม่ได้เลย ได้ยินที่ไหน … เป็นต่อมน้ำตาแตกทุกที …. จากนั้น พระอาจารย์บอกว่า แสงเทียนเปรียบเหมือนเวลาของแม่ที่มีอยู่ ให้พวกเราทำให้ดีที่สุด ถ้าคนไหน ได้ดูแลพ่อแม่อยู่ ให้รู้ไว้เถอะว่า คุณโชคดีมากมายขนาดไหน … เสร็จกิจกรรมก็ ๔ ทุ่มกว่าแล้ว … พระอาจารย์ให้สัญญาว่า จะรีบกลับมาให้ถึงนี่ในเวลา ๖ โมงเช้า … พวกเรากลับที่พัก อาบน้ำ นอน … ฉันด้วยความกระแดะ เห็นกาแฟแล้วอดไม่ได้ ซดไปตอนเย็น ปรากฏว่า ไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนเลย ตาโบ๋ เลยตอนเช้า …. ^ ^
     
  5. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    ขอบคุณมากค่ะ คุณสายฝนเย็นฉ่ำ สำหรับบทความดี ๆ วันนี้ไล่อ่านจากหน้าแรกค่ะ เขียนได้ชวนติดตามจริง ๆ ขอโมทนาบุญนะคะ

    ขอรบกวนอีกเรื่องนะคะ คือ พอจะให้อีเมล หรือเบอร์ติดต่อทางหลังไมค์ได้ไหมคะ

    ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2012
  6. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ศรัทธา...ธรรมะ....ประทับใจ ๗

    เขาตื่นกันตั้งแต่ตี ๔ … อิฉันใช้คำว่า “เขา” เพราะ … อิฉันยังไม่ได้หลับ ไม่ได้นอนเลย ^ ^ 555 อาบน้ำเสร็จ … ด้วย ศรัทธา ธรรมะ และความประทับใจกับการกิจกรรมครั้งนี้ … ฉันอดไม่ได้ที่อยากจะขอบคุณจากหัวใจสู่หัวใจของเขาเหล่านั้น … ที่ทำให้เราเห็นถึงความทุ่มเทจริงๆ … ทำเพื่อสังคมจริงๆ และ ตั้งใจทำมากกกกกจริงๆ … ฉันเขียนจดหมาย โดยไม่ได้คัดกรองเลย ออกมาจากใจเพียวๆ … และส่งให้กับน้องเจ้าหน้าที่ ที่ร่วมกิจกรรมกับฉัน … ฉันบอกว่า กระดาษ อาจจะไม่สุภาพ แต่ทุกถ้อยคำ มาจากความรู้สึกประทับใจ และ ขอบคุณมากมายจริงๆ … อยากให้เขาเหล่านั้น ได้รับผลสะท้อนกลับถึงสิ่งต่างๆ ที่สร้างความประทับใจไม่รู้ลืมได้ขนาดนี้ … จากผู้ปฏิบัติธรรมะรุ่น ๑ ของที่นี่ … เสร็จแล้ว ฉันก็เดินตัวปลิวไปทำวัตรเช้า … ปรากฏว่า …. ฉันเดินจงกลมได้ แต่นั่งไปได้ไม่นาน … วิญญาณผีที่นอนก็เข้าสิง … หัวจะจมไปผืนดินหลายต่อหลายครั้ง … ทนไม่ไหวแล้ว … เดินออกจากห้องเรียน มาซดกาแฟเข้าไปอีกแก้ว … เข้าใจว่า ฤทธิ์กาแฟเมื่อเย็นวาน คงจะหมดแล้ว … คงต้องเติมใหม่ … ไม่อย่างนั้น … วันนี้ ผีที่นอน คงสิงร่างฉันไปทั้งวันเป็นแน่ … เช้านี้ ผอ.พิสิทธิ์ และ ผอ.ชรัตน์ เป็นผู้นำปฏิบัติ จนกระทั่ง เกือบ ๗ โมงเช้า พระอาจารย์ทั้ง ๔ ก็เดินทางมาถึง … พวกเราเห็นท่านต่างก็พากันดีใจ … นี่ดีนะ … อยู่ในชุดขาว … คาดว่าถ้าไม่ใช่ชุดขาว อาจจะมีเสียง “เย้” เกิดขึ้นเป็นแน่ … 5555 พระอาจารย์จึงบอกว่า วันนี้เป็นวันสุดท้าย เราคงไม่ได้ปฏิบัติกัน แต่เราจะคุยกัน เพราะพิธีปิดกิจกรรมจะเกิดขึ้นเวลา ๑๑ โมง เราพากันเดินมาที่ ห้องกิจกรรมฟ้าคราม เพราะจะมีพิธีกราบลาครูบาอาจารย์ ขอขมากรรม และ มอบเกียรติบัตรกันที่นี่ … เรามานั่งปฏิบัติธรรมกันต่อที่นี่ ในระเวลาสั้นๆ ประมาณ ๔๕ นาที … พระอาจารย์วชิระก็ยกเรื่อง เวลา คำพูด และ โอกาส ให้เราได้ฟัง ได้ทบทวน และไตร่ตรอง ถึงใจของเรา ถึงผลของการกระทำ ที่เราต้องรับผิดชอบ … พระอาจารย์นพดล ยกเรื่องของพระเจ้าแผ่นดินที่เป็นที่รักของเราขึ้นอีกครั้ง … ถึงเวลาพักเบรค เราออกไปทานของว่างกัน … จู่จู่ … ผอ.ชรัตน์ เดินถามหาชื่อฉัน … คุณชุติมันต์ อยู่ไหนๆ … ฉันยกมือ … หนูค่ะ … ท่านกล่าวกับฉันว่า … ผมอยากจะบอกว่า จดหมายฉบับนี้ ดีมาก … แต่จะให้ดียิ่งกว่านี้ … ผมอยากให้คุณเป็นคนกล่าวในเนื้อจดหมายทั้งหมด … !_! !!!! ฉันทำหน้าแป่วทันที … รีบอธิบาย … คือ คือ คืองี้ค่ะ ผอ. หนูแค่อยากเล่าความรู้สึกประทับใจแบบเขียนไปเท่านั้นค่ะ เป็นแบบสื่อสารฝ่ายเดียวค่ะ … น้องที่รับจดหมายไป ทำหน้าเหมือน … นู๋ผิดไปแล้วค่ะ … 555 ฉันอธิบายต่อ หนูเกรงว่า หนูจะทำไม่ได้ค่ะ … ผอ. บอกว่า ทำเถอะ ดีมากนะ ท่านเจ้าของสถานที่ เจ้าของโครงการ ท่านจะได้ทราบถึงผลตอบกลับมา … ฉันรับกระดาษแผ่นนั้นกลับมา … ก็ได้ค่ะ … แต่หนูจะอ่านตามนี้นะคะ … ครับไม่เป็นไร … รับกระดาษมาเสร็จ เดินเข้าห้องน้ำ … นึกอยากจะเขกหัวตัวเอง … “ไม่น่าเลยกู”... แล้วก็เดินตาละห้อยเข้าห้องประชุมไป เล่าให้สามีฟัง เขาบอกว่า ทำเถอะ รู้ว่าเธอทำได้แน่นอน … เพราะใครๆ ก็อยากฟังเธอพูด … แหมช่างให้กำลังใจดีเหลือเกิน … ทำยังกับจะหายตื่นเต้นอย่างนั้นเลย … ช่วยได้ที่ไหนเล่า ….

    เมื่อถึงเวลา พวกเราทำพิธีขอขมากรรม กราบลาครูบาอาจารย์กัน … พระอาจารย์นพดล เรียกชื่อฉัน … ขอไมล์ให้ฉัน … เมื่อไมล์อยู่ในมือแล้ว …. ฉันกราบนมัสการพระอาจารย์ทั้ง ๔ รูป และเอ่ยชื่อตนเอง ขออนุญาตเป็นตัวแทนของนักปฏิบัติทั้งหมด ณ สถานที่นั้น … และเกริ่นเจตนารมย์ของฉัน … จากนั้น ฉันก็อ่านจดหมายของฉัน … ให้ทุกๆ ท่านในที่นั้นได้ทราบ …. ฉันกล่าวขอบคุณ เจ้าของสถานที่ โดยมีคุณเล็ก วิริยะพันธ์ คุณปั้น และหลายๆ ท่าน รวมถึง ท่าน ผอ. ทั้งสอง พระอาจารย์ทั้ง ๔ รูป เจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการและเกี่ยวข้องทุกๆ ท่าน … และอ่านความประทับใจของฉัน ใน ๓ วัน ๒ คืน ที่อยู่ ที่นี่ … จากนั้นก็ถึงเวลา มอบเกียรติบัตร … และทานอาหารกลางวันกัน … คุณคิดว่า ฉันจะทานหรือไม่ … ฉันทานค่ะ เพราะเป็นมื้อสุดท้าย ของที่นี่ … บอกแล้ว ว่า อาหารที่นี่อร่อยมากกกก ฉันจึงไม่อยากเสียโอกาส พลาดเลย แม้แต่มื้อเดียว … ช่วงทานอาหารกลางวัน น้องเจ้าหน้าที่ มาขอจดหมายฉบับนั้น จากฉัน ฉันก็เลยให้ไป … น้องถามด้วยเสียงอ้อมแอ้ม … พี่เป็นนักพากษ์ หรือเปล่าคะ … ฉันตอบว่าเปล่า … เขาทำหน้าไม่เชื่อ … และพูดต่อด้วยเสียงอ้อมแอ้มอีกเช่นกัน … เอ่อ … เอ่อ … ถ้าทางสถานที่จะรบกวนคุณพี่ … เอ่อ เอ่อ … อยากให้คุณพี่ร่วมบรรยายด้วย...เอ่อ...เอ่อ...จะได้ไหมคะ... ฉันตอบแบบไม่คิดเลย …. ได้ค่ะ ถ้าสิ่งใดที่พี่สามารถช่วยได้ ยินดีทุกเรื่องค่ะ …. เอ่อ….ยกเว้นเรื่องเงินนะคะ....น้องหัวเราะกันทั้งโต๊ะเลย...แล้วกล่าวขอบคุณฉัน … ฉันก็กล่าวขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่...

    ที่เล่ามาทั้งหมดนี้...เพราะ...นี่คือ ตัวอย่างดีๆ ที่ทำแบบไม่หวังผลกำไร...ที่หาได้ยากยิ่งแล้วในสังคมปัจจุบัน...พนักงานของเขาไม่ได้ทำ “หน้าที่” เพียงอย่างเดียว...แต่เขาใช้ “ใจ” ทำงานกันเกือบทุกๆ คน…แสดงว่า “เจ้าของสถานที่” ต้องมีเมตตามากมายเหลือคณา เขาถึงได้ใจคนของเขาได้มากมายถึงเพียงนี้...เขาจะมีจัดกิจกรรมรุ่นต่อไปอีก อยากให้ไปกันนะคะ … ไม่แน่ อาจจะได้เจอกันที่นั่นอีกครั้ง.....

    สาธุธรรมค่ะ
     
  7. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ถามหน้ากระทู้นี้ได้หรือไม่คะ ยกเว้นการดูดวงดูกรรมนะคะ เพราะตอนนี้ ดิฉันปิดทุกอย่างอยู่ เพื่อมุ่งหน้าสู่วิปัสสนากรรมฐานค่ะ ถ้าสังเกตุในรายละเอียด ดิฉันไม่ยกเรื่องการเห็นอะไรเลยมาเล่าสำหรับเรื่องนี้เลย...ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว pm มาก็ได้ค่ะ

    ู^ ^
     
  8. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ท่านที่ส่ง pm มาไม่ได้ ให้ลองใหม่นะคะ ^ ^

    ช่วงไหนว่างๆ จะมาเล่า เรื่องวัด ทุ่งลานควาย จ.กำแพงเพชร ที่ได้นำพระประธานไปถวาย ให้ฟังนะคะ ^ ^
     
  9. blue pooh

    blue pooh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +271
    อยากให้พี่เฉลยเรื่องวาดภาพกับพระอาจารย์ค่ะ อ่านแล้วก็จินตนการตามไปด้วยกับบรรยากาศตรงนั้น คิดว่าตัวเองนั่งวาดรุปไปด้วย ^_^

    ตามอ่านค่ะ

    อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
  10. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    555 กะแล้ว มีหลายคนเลย...ตอบตรงนี้ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวรู้กันหมด เอาไว้สอนคน ให้เขาคิดให้เป็น อยู่กับปัจจุบันให้มีความสุขค่ะ ... ถ้าพี่เฉลย เดี๋ยวไม่มีอะไรเอาไว้เล่น ... คำตอบของพระอาจารย์คือ ... เราเป็นผู้กำหนดชีวิตของเรา ... เพราะของที่ให้เขียนลงไปทั้ง 9 อย่างนั้น ทุกคนมีเหมือนกัน แต่..ตำแหน่ง และจำนวนนั้น ทุกคนเป็นผู้กำหนด เช่นเดียวกันกับ การใช้ชีวิต กรรมลิขิตมาบางส่วนก็จริง ... แต่ปัจจุบัน เราก็มีส่วนกำหนดชีวิตเราเช่นเดียวกัน ... กรรมที่ทำมา โดยไม่รู้ หรือ รู้แล้ว ... ก็ใช้เขาไปด้วยใจที่เป็นสุข ... และอยู่กับปัจจุบัน สำรวม ความคิด การกระทำ และคำพูดไว้ให้มั่นๆ ... เพื่อกรรมใหม่ที่จะไม่เกิดขึ้นมาอีก ... เพียงเท่านี้ ... ความสุขที่หวังไว้ว่าจะมาเคาะประตู ... อีกไม่นาน เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นค่ะ ... นั่นแหละหนอ ... กุสโลบาย ... สำหรับการฟัง และตั้งใจฟัง ... ของพระอาจารย์นั่นเอง ... ขนาดพี่เขียนให้อ่าน ยังมีหลายคน ถามมาว่า “อะไร คือ อะไร” ช่วยตอบหน่อย ... พี่ก็นั่งขำ นึกถึงตอนที่กำลังวาด แล้วมองหน้าพระอาจารย์ คิดว่าได้ครูโหราศาสตร์อีกท่าน ... พอท่านเฉลย ก็ขำกันไป เป็นจิตวิทยาง่ายๆ นั่นเอง ค่ะ ... ไม่มีอะไรซีเรียสหรอก ... ลองวาดมาลงดูก็ได้ เผื่อพี่จะเดาถูก เหมือนพระอาจารย์ ... ^ ^
     
  11. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    สวัสดีวันพฤหัสบดีค่ะ ....

    ... ใจเอ๋ยใจ ... วิ่งหาเท่าไร หาไม่เจอ ...
    ... เพราะตัณหา มากมาย ปิดทับใจไว้ ...
    ... หาเท่าไร จึงไม่เจอ ....
    ... เมื่อใดวาง ... ตัณหาต่างๆ ... จางหายไป ...
    ... กลับผลุด ... ใจใส ... ขึ้น ... กลางใจตน ....
    ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ

    สาธุธรรมค่ะ
    ^ ^
     
  12. blue pooh

    blue pooh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +271
    รอตั้งหลายวัน (คิดว่าพี่ยุ่ง)

    อยากทำได้กับข้อความข้างบน T_T

    อนุโมทนาค่ะ
     
  13. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ^ ^ รอใครจ๊ะ รอพี่หรือคะ ... อิอิ บอกแล้ว วันไหน ว่างงงงงงงง จะมาเขียนให้อ่านกัน แสดงว่า คิดถึงพี่แน่ๆ เลย ^ ^
     
  14. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    เดี๋ยวขอเวลารวบรวมรูปภาพของวัดทุ่งลานควาย และจะมาประกอบการเล่าให้ฟังนะคะ อีกแป๊บเดียว ... แล้วเราจะได้ร่วมสร้างโบสถ์ สร้าง เมรุ กัน ... วัดแรกของชีวิตนี้ ที่ได้ร่วมสร้างวัดใหม่กันค่ะ .. ^^

    สาธุธรรม
     
  15. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ...วัดทุ่งลานควาย อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร...28-29 กรกฏาคม 2555...#1

    จากที่ได้เคยเกริ่นไปเรื่องจะทำบุญเลี้ยงพระ...เพื่อต่อชะตาให้กับคุณแม่ของฉัน...พอได้ข่าวสารจากหลวงตา...เรื่องขอพระหน้าตักกว้าง 30 นิ้ว...เราเปลี่ยนใจที่จะทำบุญเลี้ยงพระ เป็นสร้างพระแทน...เรารวบรวมเงินทั้งบ้านได้จำนวนเงินตามราคาพระที่เขากำหนดไว้ จากนั้น เราก็พากันไปร้านพระ เจ้าประจำของแม่ ที่เสาชิงช้า ... ร้านนี้ แม่มาประจำเป็น 20 กว่าปี เพราะด้วยความที่ทำบุญบ่อย จนกระทั่งแม่พาฉันและสามี ไปด้วยบ่อย เพื่อให้รู้จักมักคุ้นกันไว้ ... ประหนึ่งว่า ... ถ้าอิฉันไม่มา ก็ให้ลูกสาวมาแทน นี่ลูกสาวอิฉันนะคะ ... เหมือนตัวตายตัวแทนยังไงก็ไม่รู้ ... นั่นคือความคิดแรกๆ ที่ได้ไปกับแม่ ... แต่ตอนนี้กลับต้องขอบคุณ...แม่...มากมาย...เพราะสิ่งที่ปลูกฝังฉัน...ทำให้ฉันไม่ลังเล...ที่จะทำ...ให้เกิดความอิ่มใจ...มีและแบ่งปัน...มีและจุนเจือ...สิ่งที่ได้รับ...คือความอิ่มใจ สบายใจ โดยไม่ได้หวังอะไรจากบุญที่ได้ทำไป...เมื่อได้พระแล้ว แม่จะวางเงิน และ สั่งให้เขาส่งให้ที่บ้านทันที ... แต่แล้ว สายตาของแม่ ก็พลันไปเห็นพระที่องค์ใหญ่กว่านั้น .... พระพักตร์อิ่ม ฉันเห็นแล้ว ก็ยังอดที่จะชม ว่างาม เหมือนที่แม่เห็นไม่ได้ ... แม่บอกว่า ... อ้อเอ๋ย ... ในชีวิตแม่ สร้างพระมาก็หลายองค์อยู่ แต่ส่วนใหญ่ ไม่เคยเกิน 32 นิ้วเลย แต่นี้ 40 นิ้ว แม่เรียกว่า 49 นิ้ว เป็นเคล็ดของแม่ ... แม่บอกว่า ... ถ้ามีบุญได้สร้างองค์นี้ ก็ดีนะ ... แล้วแม่ก็ทำหน้าเศร้า ให้ฉันเห็น ... แถมยังพูดทิ้งท้ายไว้ว่า ... ช่างเถอะ ถ้าวาสนาจะได้แค่ 32 นิ้ว ก็ไม่เป็นไร ... ฉันจึงเอ่ยปากบอกแม่ว่า ... แม่ ... หนูอยากให้แม่เชิื่อหนูนะ ... หนูขอเวลา 1 อาทิตย์ ... แม่ให้หนูนะ ... แล้วเราจะได้สร้างพระ 49 นิ้วร่วมกัน ... แม่หันมามองหน้าฉัน แล้วตอบกลับด้วยเสียงที่ไม่แน่ใจ ... อ้อ จะทันหรือ นี่ก็อีกแค่ สองอาทิตย์ ก็ไปถวายแล้ว ... แม่กลัวไม่ทัน ... “แม่วางใจนะ ขอเวลาหนูอาทิตย์เดียวนะ นะ” ... เอ้า..รอก็รอ...ถ้าไม่มีวี่แวว อาทิตย์หน้า เรามารับพระกันนะ ... ฉันตอบกลับ ... ค่ะ ... แล้วเราจะมารับพระกัน .... ช่วงเวลาที่รอ แม่จะพูดกับฉันเกือบทุกวัน ... กลัวไม่ทัน กลัวไม่ทัน ฯลฯ ... ฉันบอกว่า ให้เชื่อฉันสักครั้งได้ไหม .... และทำใจให้สบาย ... อะไรจะเกิดให้มันเกิด ... ถ้ามีบุญเราจะได้สร้างพระ 49 นิ้วร่วมกัน นะแม่นะ ....

    ในช่วงเวลา 1 อาทิตย์ ฉันบอกข่าวคนใกล้ตัวเพียงไม่กี่คน คนแรก คือ คนที่ฉันสนิทด้วย กับอีกคน คือ คนที่แม่สนิทและเขาก็เป็นเพื่อนฉัน ... ไม่น่าเชื่อ เพียงเวลาแค่ 3 วัน เราได้จำนวนเงินสร้างพระ 49 นิ้วที่ว่านั่น และในอีกไม่กี่วันต่อมา ... เราได้ ระฆัง ได้เชิงเทียนเรือหงส์ ได้ตะเกียงน้ำมัน ได้พานแว่นฟ้า ได้แจกัน ได้กระถางธูป ทั้งหมดเป็นทองเหลือง ยกเว้น ตะเกียงน้ำมัน ได้ชุดพระอภิธรรม และ พระประธานเล็กสำหรับทำพิธีกรรมต่างๆ ของวัด .... แม่ฉันมามองหน้าฉัน พูดด้วยเสียงที่ดีใจ และน้ำตาคลอ ... ต่อไปนี้ ... แม่จะเชื่ออ้อแล้ว ... อ้อว่าอะไรมา ... แม่จะทำตามทั้งหมดเลย ... บอกตรงๆ แม่ไม่เชื่อนะ ... เวลาแค่อาทิตย์เดียว เราจะไปหามาจากไหน เงินอีกตั้งหลายหมื่น ... แต่ตอนนี้ แม่เชื่อแล้ว เราได้มากกว่าองค์พระอีกด้วยซ้ำไป ... ฉันได้แต่ยิ้มให้แม่ ... เพื่อให้ท่านคลายความกังวลเท่านั้น ....

    เราออกเดินทางกันเช้าวันที่ 28 กรกฎาคม 2555 เพื่อนำพระไปก่อน และนำไปไว้ที่ศาลา จัดที่จัดทาง เพื่อจะมีการถวายผ้าป่าในวันรุ่งขึ้น คือ วันที่ 29 กรกฏาคม 2555 สำหรับอีกหนึ่งคณะที่เขาจะมาสมทบกับเรา ....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_0235.JPG
      SAM_0235.JPG
      ขนาดไฟล์:
      417 KB
      เปิดดู:
      48
    • SAM_0239.JPG
      SAM_0239.JPG
      ขนาดไฟล์:
      560.5 KB
      เปิดดู:
      48
  16. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    วันที่ 28 กรกฏาคม 2555 ณ วัดทุ่งลานควาย อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_0306.JPG
      SAM_0306.JPG
      ขนาดไฟล์:
      512 KB
      เปิดดู:
      36
    • SAM_0308.JPG
      SAM_0308.JPG
      ขนาดไฟล์:
      615.7 KB
      เปิดดู:
      30
    • SAM_0415.JPG
      SAM_0415.JPG
      ขนาดไฟล์:
      584.4 KB
      เปิดดู:
      28
    • SAM_0419.JPG
      SAM_0419.JPG
      ขนาดไฟล์:
      609.4 KB
      เปิดดู:
      29
    • SAM_0410.JPG
      SAM_0410.JPG
      ขนาดไฟล์:
      636.5 KB
      เปิดดู:
      26
  17. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    ...วัดทุ่งลานควาย อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร...28-29 กรกฏาคม 2555...#2

    พวกเราขับรถกันไป 4 คัน รถพี่ชายที่บรรทุกพระ 1 คัน บรรทุกทั้งพระพุทธรูปและพระสงฆ์ เพราะหลวงตา ไปด้วยกันกับเรา อีก 3 คัน บรรทุกคนไปร่วมทำบุญ และ บรรทุกของที่จะทำบุญกัน ... เราขับรถไปถึงกำแพงเพชร ยังไม่หลง แต่มาหลงเอาตอนทางจะเข้าไปหมู่บ้านเนี่ยแหละ ... ขับไปเป็นหลายกิโลทีเดียว ... จนไม่ไหวแล้ว เหมือนจะหลงทาง หาเท่าไร ก็ขับแวะไปเรื่อย ไม่เจอเสียที ... พวกเราจึงตัดสินใจ โทรถามผู้ใหญ่บ้าน ... ขณะที่โทรคุยกันตลอดทาง เรายังเกือบจะหลงอีกรอบ ... เพราะทางไปหมู่บ้านนั้น มีแต่ไรอ้อย เป็นสวนไร่ เกือบทั้งนั้นเลย กว่าจะเห็นบ้านแต่ละหลัง ทิ้งความห่างกันเอาเรื่องเหมือนกัน ... ฉันก็วันนั้น อารมณ์หงุดหงิดตลอดเวลา ... มักจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่ได้สร้างบุญใหญ่ ... เหมือนเป็นบททดสอบ ... จนไม่ไหวแล้ว จะคุยกับผู้ใหญ่บ้านด้วยตัวเอง ... เพราะคนขับรถตามกันก็จะเถียงกันไปตลอดทาง ว่าใช่ ไม่ใช่ ผิดทางหรือเปล่า ทำไมมันเปลี่ยวขนาดนี้ ไม่เห็นมีหมู่บ้านอะไรเลย ... เราขับรถกันมาจนกระทั่งเจอผู้ใหญ่บ้าน ... ตอนแรกอิฉันด้วยความว่าอารมณ์ไม่ดี ... พยายามจะสะกิดจิตใจให้มันนิ่ง ... เกือบจะหลุดปากพลั้งเผลอไปเสียแล้ว ... (ไล่ตามใจตนเองไม่ทัน) ... พอเห็นหน้าผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นแหละ ... ปากเสียๆ ของฉัน ก็ไม่หลุดอะไรออกมาเลย ... เพราะแววตาที่เห็นนั้น ... เขายินดี แววตาของความชื่นชม ... เขาไหว้ทุกคนที่อยู่ทุกคันรถ สวัสดีครับ สวัสดีครับ ... แล้วพาเราไปที่วัด นี่ขนาดผู้ใหญ่บ้านนำนะ เรายังจะหลงเลย อีกทั้งทางก็ขรุขระ บางช่วงบางตอนก็เป็นดินลูกรัง ... พอไปถึงศาลาเท่านั้นแหละ ... ฝนที่ทำท่าครึ้ม ... จู่จู่ ก็ตกลงมา พร้อมกับน้ำตาของความดีใจ ของคนในหมู่บ้านนั้น ... ฉันเห็นก็พลอยอดที่จะน้ำตาซึมกับเขาไม่ได้ ... เพียงแค่พวกเขาเห็นรถพระมาจอด เขาร้อง เย้!!! และกรูกันมาที่รถพระ บางคนร้องไห้ บางคนยกมือไหว้ ดีใจ ... เราเห็นแบบนั้นด้วยกันทุกคนที่อยู่ในสถานการณ์ ... เขาไม่ได้สร้างภาพ แต่เป็นความจริงใจที่แสดงออกมา ... ให้เราได้รับรู้ และรู้สึกแบบนั้น เช่นเขาเหมือนกัน ... พอยกพระขึ้นศาลาเท่านั้นแหละ ... ฝนที่ตกซู่ลงมา ก็หยุด เหมือนปิดก๊อกน้ำเลย ... ภาพที่เราเห็นอยู่ตรงหน้านี้ ... คือ พื้นที่เกือบ 7 ไร่ ที่มีเพียงศาลาที่เราเห็นนี้ ศาลาเดียว กับกุฏิพระ 1 หลัง และห้องน้ำ 1 แถวที่สร้างไว้ 6 ห้องด้วยกัน ... ศาลาที่มีเพียง หลังคา และ เสา เท่านั้น ... พอยกพระขึ้นไป เราก็จัดการเตรียมพระ เตรียมของที่จะถวายในวันรุ่งขึ้น ... พวกเขานั่งดูด้วยความชื่นชม ... ฉันเพิ่งเคยเห็น ชาวบ้านที่เขาร่วมแรงร่วมใจในการที่จะมีวัดในหมู่บ้านเขามาก ... อดที่อมยิ้มไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ อารมณ์ฉันครุกรุ่นตลอดเวลา ... เพราะก่อนหน้าจะไปทำบุญ อิฉันก็มีปัญหาหลายประการรุมเร้า ... เหมือนบททดสอบที่เข้ามาพร้อมกัน 3 เรื่อง ... ดิฉันไล่ตามใจไม่ทัน จึงขาดสติไปเป็นบางช่วงบางตอน ... พอเราจัดแจงกันเสร็จ พวกชาวบ้านก็นำอาหารมาเลี้ยงพวกเรา ... เมื่อกินอิ่มหนำสำราญแล้ว ... ก็ล้อมวงคุยกันเป็นวงๆ ไป ... พี่คนหนึ่งเล่าด้วยความดีใจว่า ... ขอบคุณดิฉันและคณะมาก เพราะสิ่งที่ขอไป คือ พระประธานเพียงองค์เดียว และหน้าตัก 30 นิ้วเท่านั้น ... แต่สิ่งที่ได้มาเกินความคาดหมายจริงๆ ... แกเล่าทั้งน้ำตา ... พี่บอกว่า ศาลานี่ก็เพิ่งสร้างเสร็จไม่กี่วันก่อนหน้าที่เราจะมาถึง ... ทุกอย่าง รวดเร็วไปหมด ... พี่เล่าว่า ... เขาไปซื้อวัสดุจะมาสร้างศาลา ... ทางร้านขายเขาถามว่า เอาไปทำอะไรเยอะแยะ ... พี่บอกว่า จะไปสร้างศาลาให้กับวัด เพราะเป็นวัดที่จะสร้างในหมู่บ้านของเขา ... เขาต้องรีบสร้างศาลาก่อน เพราะทางกรุงเทพฯ จะนำพระประธานมาในวันที่ 28 ก.ค. ... พี่เขาพูดเท่านั้น ... เจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร่วมสร้างห้องน้ำทั้งหมด โดยให้เป็นวัสดุมา ... เพียงเท่านั้น พี่เขาดีใจมาก ทุกอย่างเขาร่วมกันสร้าง คนในหมู่บ้านร่วมแรงร่วมใจกัน จึงได้ห้องน้ำ 6 ห้อง ศาลาที่เราเห็นนี่แหละ ... ฉันบอกว่า ... ที่พี่ประหลาดใจเพราะ ทุกอย่างเกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่ถึงสองเดือนใช่ไหม ... เขาบอกว่า “ใช่” ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ... เหมือนปรารถนาอะไร ก็จะได้สมปรารถนา ... ต้องการจะสร้างศาลา ก็กังวลว่า ถ้าคนที่มาจากกรุงเทพฯ จะต้อนรับเขายังไง ห้องน้ำห้องท่ายังไม่มีเลย ... ก็ได้ห้องน้ำมาด้วยไม่คาดหวัง ... กังวลว่า จะมีพระมาจำพรรษาที่นี่ไหม ... เจ้าคณะจังหวัด ก็จัดส่งมาให้ ... กังวลว่า พระท่านจะจำวัตรตรงไหน .. ตั้งใจจะจัดส่วนหนึ่งของศาลาให้ท่าน จำวัตรไปก่อน ... ปรากฏว่า ก็มีผู้ใจบุญ ยกเรือนไม้ถวาย 1 หลัง ให้เป็นกุฏิ ... และ พระก็เช่นกัน ผมไม่เคยเจอเลย ... ปกติ ขอแค่พระก็ได้แค่พระ ... แต่นี่คุณทำให้เรามากมายเหลือเกิน ... พวกผมจึงอดที่จะปลื้มใจ และดีใจ ไม่ได้ ยังไงก็ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ ครับ ... ฉันจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันให้พี่ฟังบ้าง ... เพราะเราไม่รู้จักวัดนี้ เราไม่รู้อะไร กระทั่งจะไป ยังไปไม่ถูกเลย ... แต่ทำไม เราไม่คิดว่า เราจะโดนหลอกไหม เราไปแล้วจะเจอวัดที่เขาว่านั่น จริงๆ ไหม .... ไม่มีความเคลือบแคลงใจเกิดขึ้นกับพวกเราเลย ... นี่ยังคุยกันอีกนะว่า ... จะไปดูว่า ยังไง แล้วเราจะสร้างโบสถ์ สร้างเมรุกัน ... พอคุยกันได้เหนื่อยแล้ว ... ก็พากันไปอาบน้ำ อาบท่า พักผ่อนกัน ... ข้าวเย็นไม่กินกันแล้ว อิ่มอกอิ่มใจกันทุกคน ... ที่ศาลาเขาเตรียมอาหารเย็นไว้ให้พวกเราก็ไม่ได้กิน ...

    ฉันพอเข้าที่พัก คือบ้านของ ลูกสาวเจ้าของที่ดิน ที่ยกให้สร้างวัด ... ฉันเห็นผู้ชายคนหนึ่งในบ้าน แกท่าทางสุขุม เหมือนจะดุ และไม่ยิ้ม ... ฉันก็ไม่รู้จะถามใคร เห็นผู้ใหญ่บ้าน ต้อนรับขับสู้พวกเราเป็นอย่างดี ในขณะที่ผู้ใหญ่บ้านนั่งคุยกับพ่อแม่ฉันอยู่ ... ฉันก็เลยถามว่า ... ผู้ใหญ่คะ ... ไม่ทราบว่า พ่อของพี่ผู้หญิง หรือ พี่ผู้ชายคะ ที่เสียไปแล้ว ... ผู้ใหญ่บอกว่า พ่อของพี่ผู้หญิงครับ ... (ฉันเห็นกระดูกของเขาอยู่บนบ้าน จึงถามต่อว่า) ... แล้วกระดูกพ่อเขาไว้ที่ธาตุหรือเปล่าคะ หรือ ไว้บนบ้าน ... เขาตอบว่า .. เอ! ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะไม่เคยถามหรือขึ้นไปดูน่ะครับ ... ไว้รอถามพี่ผู้หญิงแล้วกันนะครับ ... ฉันยังเห็นผู้ชายคนนั้นเดินไปเดินมาอยู่ ... สุดท้ายพี่ผู้หญิงกลับเข้ามา ผู้ใหญ่บ้านจึงถามให้ ... เขาถามว่า เห็นพ่อหรือคะ ... ฉันตอบว่า ฉันไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร เขาบอกแต่ว่า เขาเป็นพ่อ แต่ฉันไม่รู้เป็นพ่อใคร ... เขาตอบว่า พ่อพี่เองค่ะ เมื่อก่อนแกก็เป็นผู้ใหญ่บ้านค่ะ ... แล้วกระดูกพี่ไว้บนบ้านหรือเปล่าคะ ... พี่ตอบว่าค่ะ แต่มีไม่เยอะค่ะ ชิ้นสองชิ้นเอง .. อ่อ ... นั่นเอง ... ฉันคิดในใจ .. คืนนั้น เราคุยกันนานมาก จนทุกๆ คน เข้านอนกันหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ ฉัน พี่ชาย และสามี ที่ยังนั่งคุยกับเจ้าของบ้านทั้งสอง ...

    ก่อนหน้านี้ ฉันตั้งใจว่า ... จะออกเดินทางก่อน เพื่อไปวัดท่าซุง ไปกราบหลวงพ่อก่อน แล้วค่อยวนรถกลับมาสมทบกับเขาที่กำแพงเพชร ... แต่ด้วยเหตุที่ว่า ถ้าทำแบบนั้น ฉันต้องหลงแน่นอน ... จึงไม่ได้แยกตัวไป ขนาดมาด้วยกันยังจะหลงทางเลย ... แล้วคืนนั้น ... ฉันก็เล่าเรื่องนี้ให้พี่เจ้าของบ้านฟัง ... จู่จู่ พี่ผู้ชายก็เชื้อเชิญฉันและทั้งหมด ขึ้นไปที่กราบพระบนบ้านเขา ... ในขณะที่เดินขึ้นบันได ... เสียงในใจก็บอกฉันว่า ... วันนี้ยังไม่สะดวก ยังไม่ต้องไปกราบหลวงพ่อที่วัดท่าซุงหรอก ให้กราบท่านที่นี่แหละ เพราะท่านก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ... ฉันก็เอะใจ ... ทำไมล่ะ ... ยิ่งเดินขึ้นบ้านเขา ยิ่งขนลุก ... พอขึ้นไปถึงเท่านั้นแหละ ... ฉันถึงบางอ้อเลย .... รูปหลวงพ่อบานใหญ่มากๆ ติดอยู่เหนือประตูห้อง ... มองขึ้นไป หลวงพ่อยิ้มให้ฉัน ... เสียงในใจบอกว่า ... ให้ถามเขาสิ ... ว่าเขาอธิษฐานอะไร หลวงพ่อจึงอยู่กับเขา ... พอกราบพระที่ห้องพระเสร็จ ... ฉันเล่าว่า เสียงในใจบอกว่า ไม่ต้องไปกราบหลวงพ่อที่วัดแล้ว ท่านอยู่ที่นี่ ให้กราบท่านที่นี่ก็ได้ ... ท่านบอกว่าพี่อธิษฐานไว้ ... ให้ถามพี่ว่า อธิษฐานอะไรไว้ ... พี่หัวเราะเบาๆ และยิ้มให้ฉัน ... พี่บอกว่า พี่ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง เพราะเป็นความเชื่อส่วนตัว ... แต่เห็นคุณถามผมจะเล่าให้ฟัง ... ผมนับถือหลวงพ่อฤาษีลิงดำมาก เคารพและศรัทธาท่านมาก ผมนำรูปนี้ไปที่วัดท่าซุง และอัญเชิญท่านมากับรูปนี้ มาเป็นความสิริมงคลให้กับผมและครอบครัว ... มาเป็นขวัญกำลังใจให้ผม ... ทุกครั้งที่ผมมองรูปท่าน ผมจะมีกำลังใจมากมาย เพราะหลวงพ่ออยู่ในใจผม ... เท่านั้นแหละ พี่มองหน้าฉันแล้วยิ้ม ... ฉันบอกต่อว่า ... พี่ไม่ต้องถามต่อนะคะ ว่าหนูรู้ได้ยังไง หรือ อะไรทำให้หนูถามพี่แบบนี้ ... พี่บอกว่า ครับ ไม่ถามครับ แต่ผมเชื่อบางอย่างครับ .... เพียงเท่านั้น เราก็บอกลาเพื่อจะพักผ่อนกัน ......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2012
  18. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    วัดทุ่งลานควาย อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_0249.JPG
      SAM_0249.JPG
      ขนาดไฟล์:
      626.6 KB
      เปิดดู:
      42
    • SAM_0270.JPG
      SAM_0270.JPG
      ขนาดไฟล์:
      514 KB
      เปิดดู:
      32
    • SAM_0275.JPG
      SAM_0275.JPG
      ขนาดไฟล์:
      423.6 KB
      เปิดดู:
      37
    • SAM_0282.JPG
      SAM_0282.JPG
      ขนาดไฟล์:
      571 KB
      เปิดดู:
      31
    • SAM_0293.JPG
      SAM_0293.JPG
      ขนาดไฟล์:
      541.5 KB
      เปิดดู:
      38
    • SAM_0298.JPG
      SAM_0298.JPG
      ขนาดไฟล์:
      419.2 KB
      เปิดดู:
      31
    • SAM_0292.JPG
      SAM_0292.JPG
      ขนาดไฟล์:
      391.3 KB
      เปิดดู:
      29
    • SAM_0358.JPG
      SAM_0358.JPG
      ขนาดไฟล์:
      556.4 KB
      เปิดดู:
      35
    • SAM_0383.JPG
      SAM_0383.JPG
      ขนาดไฟล์:
      621.1 KB
      เปิดดู:
      32
    • SAM_0408.JPG
      SAM_0408.JPG
      ขนาดไฟล์:
      483.8 KB
      เปิดดู:
      38
  19. สายฝนฉ่ำเย็น

    สายฝนฉ่ำเย็น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,474
    ค่าพลัง:
    +7,070
    เพิ่งกลับจากเรียน ครูสมาธิ หายเหนื่อยแล้ว จะมาเล่าเรื่องต่อนะคะ

    สาธุธรรมค่ะ
    ^ ^
     
  20. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,022
    ขออนุโมทนาบุญทุกอย่างกับคุณสายฝนเย็นฉ่ําและชาวคณะแสวงบุญทุกท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...