นิทาน เรื่อง "พญานาค"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 31 ธันวาคม 2011.

  1. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    อย่างนี้ต้องไปเชิญ คุณครูติง ติง มาอธิบายครับ

    การลงข่วง พิธีแต่งงาน การทำมาหากิน การถือผี และการเลี้ยงผี
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  2. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ประวัติความเป็นมา

    ในพงศาวดารเมืองแถง(แถน) กล่าวถึง การกำเนิดมนุษย์และถิ่นกำเนิดของชาวภูไทว่า เกิดจากเทพสามีภรรยา 5 คู่ ซึ่งเป็นพี่น้องกัน เมื่อหมดอายุบนสวรรค์จึงอธิษฐานจิตเนรมิตน้ำเต้าขึ้นมา เทพทั้ง 5 คู่ ก็เข้าไปอยู่ในน้ำเต้า น้ำเต้าลอยจากสวรรค์มาตกบนภูเขาที่ทุ่งนาเตา ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองแถงไปทางตะวันออกเป็นระยะทางเดิน 1 วัน น้ำเต้าได้แตกออก เทพได้กลายเป็นมนุษย์ 5 คู่ ออกมาจากน้ำเต้าทีละคู่ตามลำดับ คือ ข่า แจะ ภูไท ลาวพุงขาว ฮ่อ(จีน) และแกว(ญวน)

    ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของมนุษย์ 5 เผ่าพันธุ์ในเวลาต่อมาคนเหล่านี้ได้แยกย้ายกันตั้งรกรากในพื้นที่ต่าง ๆสำหรับชาวภูไทตั้งบ้านเรือนที่เมืองแถง มีขุนลอคำเป็นหัวหน้า ประชากรของภูไทได้เพิ่มจำนวนถึง 33,000 คนในเวลาต่อมา และขยายตัวไปตั้งรกรากหลายเมือง ขุนบรมราชบุตรของขุนลอคำ ได้เป็นเจ้าเมืองแถงใน พ.ศ. 1274 ขุนลอบุตรของขุนบรมราชาได้มาตั้งเมืองหลวงพระบางใน พ.ศ. 1283จากพงศาวดารเมืองไล กล่าวว่า ชาวภูไท ในดินแดนนี้ 2 พวกคือ

    1. ภูไทขาว อาศัยอยู่เมืองเจียน เมืองมุน เมืองบาง มีเมืองไลเป็นเมืองใหญ่ รวม 4 เมือง ดินแดนแถบนี้อยู่ใกล้ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน อากาศหนาว ชาวภูไทจึงมีผิวขาว อีกทั้งได้รับอารยธรรมจากจีน โดยเฉพาะการแต่งกายในพิธีศพ ซึ่งนิยมนุ่งขาว ห่มขาว จึงเรียกชาวภูไทกลุ่มนี้ว่า "ภูไทขาว"

    2. ภูไทดำ อาศัยอยู่เมือง ควาย,เมืองคุง เมืองม่วย, เมืองลา เมืองโมะเมืองหวัด เมืองซาง มีเมืองแถง(แถน) เป็นเมืองใหญ่ รวมเป็น 8 เมือง ชาวภูไทกลุ่มนี้มีผิวคล้ำกว่าภูไทตอนบน และนิยมแต่งกายด้วยผ้าพื้นเมืองย้อมครามเข้ม และอาศัยอยู่บริเวณแม่น้ำดำ ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรม

    จึงเรียกว่า "ภูไทดำ" ชาวภูไททั้ง 2 กลุ่ม รวมกันแล้วเป็น 12 เมือง จึงเรียกว่า แคว้น "สิบสองจุไทย" เมืองไล เมืองของชาวภูไทขาว ตั้งอยู่ในดินแดนคาบเกี่ยว หรือตะเข็บของลาว จีน และญวน เพื่อความอยู่รอด เมืองนี้จึงจำเป็นต้องอ่อนน้อมแก่ทั้ง 3 ฝ่าย ต้องส่งส่วยแก่ทุกฝ่ายเดิมแคว้นสิบสองจุไทย ขึ้นกับอาณาจักรน่านเจ้า

    ครั้นต่อมาไปขึ้นอยู่กับอาณาจักรโยนกเชียงแสน เมื่ออาณาจักรโยนกเชียงแสน ถูกพวกภูไทมาทำลายลง สิบสองจุไทยได้ไปขึ้นกับแคว้นหิรัญเงินยวง (ต่อมาแคว้นนี้เป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรลานนา)ใน พ.ศ.2250 อาณาจักรล้านช้างได้แตกเป็น 2 อาณาจักร คือทางเหนือ เรียกว่า อาณาจักรล้านช้างร่มขาวหลวงพระบาง ทางใต้ เรียกว่า อาณาจักรล้านช้างร่มขาวเวียงจันทน์ สิบสองจุไทยอยู่ภายใต้การดูแลของอาณาจักรแรกต่อมาบังเกิดการอัตคัดอดอยาก และความขัดแย้งระหว่างท้าวก่า หัวหน้าของชาวภูไท กับเจ้าเมืองนาน้อยอ้อยหนู (น้ำน้อยอ้อยหนู)

    ท้าวก่าจึงพา ชาวภูไทเป็นจำนวนมาก (ประมาณหมื่นคน) อพยพจากเมืองนาน้อยอ้อยหนูมาขอขึ้นกับเวียงจันทน์ โดยทางเวียงจันทน์ให้ไปตั้งถิ่นฐานที่เมืองวัง (อยู่ทางตะวันออกของเมืองมุกดาหาร ห่างประมาณ 150 กิโลเมตร)

    ชาวภูไทกลุ่มนี้ ได้ส่งส่วยมีดโต้และขวานให้เวียงจันทน์ ปีละ 500 เล่ม แต่เนื่องจากเมืองวังอยู่ชายแดนอาณาจักรล้านช้างร่มขาวเวียงจันทน์ แต่ใกล้พรมแดนเวียดนาม พวกเขาจึงได้ส่งส่วยขี้ผึ้ง 5 ปึก (ปึกหนึ่งหนัก 5 ชั่ง) ให้แก่ เจ้าเมืองคำรั้วของเวียดนามด้วย
     
  3. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    หายไปไหนกันหมดแล้วล่ะ ขอชะแว้บไปทำธุรกรรมก่อนนะ แล้วจะกลับมาอ่านค่ะ
    กรุณาเล่าเรื่องไว้รอด้วย...:cool:

    ปล.ขอเวลานอกหนึ่งชั่วโมง
     
  4. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,113
    ค่าพลัง:
    +3,083
    ค่อนข้างจะเห้นด้วยกับท่าน คุรุวาโร นะ

    งานของผม จะต้องเดินทางไปทั่วประเทศ ครั้งหนึ่งได้ไปทำงานกับเพื่อนอีก 2

    คน ที่ อำเภอ บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ตอนที่ทำงานเราก็ทำงานกันไปในสำนัก

    งาน พอเหนื่อยมากๆก็เลยไปหาอะไรกินกัน ก็ไปนั่งกินน้ำแข็งไสกับขนมปัง

    แถวๆหน้าไปรษณีย์ อารมณ์ที่มันหิวและร้อนช่วงแรกทุกคนก็ก้มหน้าก้มตากิน

    กันอย่างเดียวไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง แต่พอผ่านไปสัก 5 นาที ผมและเพื่อนๆ

    เริ่มมองหน้ากันไปมา ทุกคนเริ่มสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติรอบตัว

    ผมเริ่มงงๆ ทำไมสาวๆที่ผ่านไปผ่านมา หน้าตาดีๆทั้งนั้นเลย

    ทุกคนก็เลยค่อยๆทานขนมไป มองสาวไป ขนมปังอร่อยมากขึ้นเยอะเลย อิอิ
     
  5. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    กลับมาแล้วค่ะ ไม่มีเรื่องเลยเหรอคะ เืืพื่อนๆ ยังอยู่กันไหมเอ่ย...
    มาทวงสัญญาด้วยค่ะ มีแต่เรื่องสาวๆ เรื่องหนุ่มๆ ไม่มีเหรอ...
     
  6. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    พิธีลงข่วง เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งที่ทำขึ้นเพื่อบูชาแถนให้ช่วยปกปักรักษาคน ในครอบครัวและในหมู่บ้านให้มีความสุข ซึ่งจะเริ่มเวลาประมาณ 18.00-24.00 นาฬิกา หรือบางครั้งอาจนานกว่านี้ ในพิธีลงข่วงจะจัดให้มีปะรำพิธี ที่มีเครื่องเซ่นบวงสรวงเรียกว่า เรือนแก้ว ที่ประกอบไปด้วย ธูปเทียนข้าวต้ม กล้วยน้ำว้า ผ้าไหม ข้าวสาร สุราขาว 1 ขวด กรวย พานหมาก พลู บุหรี่ เป็นต้น ในการทำพิธีลงข่วงนี้จะมีผู้เฒ่าที่เรียกว่า แม่ครู หรือครูใหญ่ เป็นผู้นำในการทำพิธี เมื่อเซ่นไหว้บวงสรวงเสร็จแล้ว ก็จะรำอ้อมเรือนแก้วนั้นไปพร้อมกัน ทำนองที่ร้องเป็นทำนองหมอลำของชาวอีสาน มีดนตรี ประกอบการร้องและลำ คือ แคน กลองโทน ฉิ่ง บรรเลงไปเรื่อย ๆ มีผู้ร้อง คือ ผู้รำทรงแถน รำอ้อมเรือนแก้วไปจนกว่าจะเสร็จพิธี ถ้าทำนองการร้องสนุกสนาน ผู้ชมที่มาชมก็ปรบมือร้องรำตามไปด้วย

    การลงข่วงอีกแบบคือการลงเข็นฝ้าย ซึ่งเรียกว่า ลงข่วงเช่นกัน เป็นการเข็นฝ้ายในตอนกลางคืน เพื่อเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวพบปะพูดคุยกัน เป็นการเรียนรู้ในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ผ่อนคลายจากการทำงานหนักในภาคกลางวัน และได้ทำงานด้วยคือการเข็นฝ้ายให้เป็นเส้นด้าย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,430
    การบูชาแถน คำว่า แถน หมายถึงอะไรครับ พญานาค ผีฟ้า หรือเจ้าที่เจ้าทางครับ
     
  8. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ตอบว่า ผีฟ้าค่ะ:cool:
     
  9. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    มิกกี้ไปเข้าฌานมาเหรอ..แหมฟิตใหญ่เลยนะ
    คืนนี้ไปเที่ยวกันหรือเปล่า? แล้วเนวิเกเตอร์ซ่อมเสร็จหรือยังอ่ะ
     
  10. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ประเพณีแซงสนัมประจำกะมอ เป็นประเพณีพื้นบ้านในกลุ่มคนที่เชื่อว่าผีเป็นวิญญาณที่มีอำนาจลึกลับ สามารถทำให้คนเจ็บป่วยได้ การบำบัดรักษามิให้ร่างกายเจ็บป่วยคือ การป้องกันมิให้วิญญาณผีเข้าสิงในร่างได้อีกหลังจากที่ได้ทำพิธีปัดเป่าให้ ผีออกไปจากร่างกาย โดยแม่ครูหรือแม่หมอ ทำพิธีเหยา (เยา) คุมผีให้ออกไปแล้ว เพื่อเป็นการซ่อมเสริมสุขภาพของตน ในกลุ่มคนที่รักษาด้วยการเหยาในแต่ละหมู่บ้านจะรวบรวมผู้ที่มีศรัทธาต่อแม่ ครู ซึ่งเคยให้การบำบัดรักษาคนมาแล้วให้มาทำพิธีร่วมกันเป็นประจำทุกปี โดยจัดทำพิธีขึ้นในหมู่บ้านของตน และนิยมจัดกันระหว่างช่วงเดือน ๔ ถึง เดือน ๕ ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน ดอกไม้ป่าบานสะพรั่งสามารถเก็บมาบูชาแม่ครูและจัดผูกร้อยห้อยตามเสาไม้ โดยเฉพาะดอกจำปา ซึ่งนิยมนำมาเป็นพวง ๆ ประดับเสากลางลานพิธีกรรม พิธีกรรมเช่นนี้มีชื่อเรียกว่า "ลงสนาม" หรือในภาษาไทยโซ่ เรียกว่า "แซงสนัม" ซึ่งนอกจากจะเป็นการเลี้ยงผีเชิญผีออกจากร่างแล้ว ยังเป็นการบูชาแม่ครูหรือหมอเหยาไปพร้อมกันด้วย พิธีแซงสนัมประจำกะมอจึงมีความสำคัญทั้งในเชิงความเชื่อในด้านการตรวจสุขภาพ มิให้เจ็บป่วยจากวิญญาณผีร้ายและเป็นการตอบแทนแม่ครูที่เคยรักษาตนให้พ้นจาก ความเจ็บป่วยที่ผู้เจ็บป่วยหรือ "ลูกแก้ว" จะพบปะแม่ครูทำพิธีตอบแทนบุญคุณแม่ครูปีละ ๑ ครั้ง ตลอดไป

    พิธีกรรม
    พิธีกรรมในงานลงสนามเลี้ยงผี โดยปกติจะจัดขึ้น ๒ วัน โดยช่วงก่อนถึงวันงานจะมีผู้ที่ได้รับการอุปโลกให้เป็นหัวหน้า กลุ่มผู้ทำพิธีที่เรียก "ลูกแก้ว" จะปรึกษาหารือกำหนดวันลงสนาม ติดต่อนัดหมายกับแม่ครู รวมทั้งรวบรวมเงินทองที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายในวันทำพิธีกรรมและค่าตอบแทนแม่ ครู (บ้านกกส้มโฮง ตำบลกุสุมาลย์ เก็บคนละ ๒๐๐ บาท รวม ๑๙ คน) ครั้นถึงวันงานในภาคเช้าจะช่วยกันทำตูบทำผาม (ปะรำพิธี)

    ปะรำพิธีจัดขึ้นไม่ยากนัก โดยหาบริเวณที่เป็นลานกว้างด้านหนึ่งจะปลูกร้านปักเสาเป็นล็อคๆ ให้มีความกว้างยาวพอที่จำนวนลูกแก้ว และแม่ครูจะนั่งทำพิธีหรือนอนพักผ่อนในเวลากลางคืนได้ รวมทั้งมีพื้นที่จะวางเครื่องใช้สิ่งของที่จำเป็นปกคลุมหลังคาด้วยวัสดุที่ หาได้จากท้องถิ่น เช่น หญ้าแฝก ผ้าใบ ผ้าร่ม ด้านหนึ่งของปะรำพิธีหาแผ่นไม้หรือแผ่นสังกะสีกั้นไว้มิให้โล่งแจ้งเพื่อวาง เครื่องบูชาของลูกแก้วแต่ละคน

    ปัจจุบันอาคารที่ใช้ทำพิธีมักปลูกคล้ายปะรำยาว ๆ ทรงหมาแหงน สำหรับหมู่บ้านที่มีเต้นท์ผ้าใบชนิด ๒ - ๓ ห้อง ก็นำมาใช้ได้อย่างสะดวก เพียงแต่หาสังกะสีมากั้นด้านหนึ่งเพื่อบดบังเครื่องบูชามิให้โล่งแจ้งเกินไป นัก

    การจัดเตรียมอีกส่วนหนึ่งคือ การทำเสากลางลานพิธีไว้รำ ตกแต่งด้วยดอกไม้ โดยเฉพาะดอกจำปา นำมาร้อยเป็นพวง แขวนไว้ตามปลายร่มขนาดใหญ่ รอบ ๆ เสากลางลานพิธี จะมีโอ่งน้ำ กาละมัง จะใส่น้ำไว้ใช้คล้ายเป็นอ่างน้ำมนต์ใช้ลูบหน้าเวลาร้อน ใช้ตักน้ำรดแม่ครูและลูกแก้วด้วยกัน ตลอดจนใช้ลอยเรือกาบกล้วยเพื่อสะเดาะเคราะห์ ส่งเคราะห์ส่งผีคืนสู่ถิ่นเดิมของตน

    การตกแต่งเสากลางลานพิธี เสาไม้ต่าง ๆ มักนิยมนำดอกไม้มาประดับ เช่น ดอกรัง ดอกจิก และดอกจำปา ในช่วงการจัดพิธีลงสนามเป็นช่วงฤดูดอกไม้บานดังคำกลอนที่ว่า "เดือนสามค่อย (คล้อย) ดอกไม้บานคี่ (คลี่) เดือนสี่ค่อยดอกไม้บานหลาย"

    ในการตกแต่งปะรำพิธี หมอเยาบางคนจะใช้ไม้อัดแผ่นมาทำเป็นรูปตัวช้างม้า ทาด้วยสีเหลือง หมายถึงเป็นสัตว์พาหนะเชิญให้ผีมาประทับร่างตนและส่งผีกลับที่เดิม

    ลูกแก้วทุกคนที่เข้าร่วมพิธีจะเตรียม หมอน ๑ ใบ ขันธ์ ๕ ซึ่งประกอบด้วยเทียน ๕ เล่ม ดอกไม้ ๕ มัด เงินค่าพิธี แล้วแต่ละแห่งกำหนด (เช่น ๑ บาท ๕ สลึง หรือ ๖ สลึง) อุปกรณ์ในการเสี่ยงทาย เช่น ดาบ (ง้าว) ข้าวสาร เป็นต้น อุปกรณ์ดังกล่าวจะมีผู้จัดหาไว้ให้แม่ครูรวมทั้งเสื้อผ้าที่จะแต่งเมื่อทำ พิธีและอุปกรณ์เสี่ยงทายบางอย่างเช่น ไข่ไก่ ๑ ฟอง เหรียญบาท ๕ เหรียญ เป็นต้น ตลอดจนการเตรียมหมอแคน ดนตรี กลอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    ก่อนเวลาเที่ยงวันหมอเยาจะแต่งตัวเข้าสู่ปะรำพิธีพร้อมด้วยลูกแก้ว ทุกคนเข้าประจำที่ของตน ลูกแก้วนั่งประนมมือบูชาครู แม่ครูพนมเพื่อเชิญผีเข้าสู่ร่างตน (แม่ครูคำสี ศรกายสิทธิ์บ้านใต้ มีผี ๒ ตัว ที่เชิญเข้าทรง คือ อ้ายคำแดง และนางสายทอง) โดยร่างกายจะสั่นไหว เมื่อผีเข้าประทับร่างแล้วจะทำพิธีเสี่ยงทายว่าจะเริ่มพิธีกรรมเชิญผีอื่น ๆ ได้หรือไม่

    การเสี่ยงจะใช้การจับเหรียญเงินวางไว้ที่นิ้วมือ และการตั้งไข่ไก่ที่ฝ่ามือ ถ้าหากวัสดุไม่ร่วงจากนิ้วมือจากฝ่ามือ แสดงว่า ถึงเวลาทำพิธีได้แล้ว แต่ถ้าวัสดุร่วงหล่นแม่ครูจะยังไม่ทำพิธี จะรอเวลาแล้วทำการเสี่ยงทายใหม่ จนแน่ใจว่าควรเริ่มพิธีได้แล้วพิธีกรรมในขั้นต่อไปคือ การขับลำเชิญผีทั้งหลายให้ลงมารับรู้การเลี้ยงผีประจำปีครั้งนี้ หลังจากนั้นบรรดาแม่ครูและลูกแก้วจะออกฟ้อนรำไปรอบ ๆ เสาลานพิธีท่ามกลางเสียงแคนที่บรรเลงเร้าใจ เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารจะหยุดพักหลังจากนั้นก็ทำพิธีบอกกล่าวผี และออกฟ้อนรำเป็นที่สนุกสนานด้วยท่าทางต่าง ๆ ซึ่งบรรดาผู้ทำพิธีเชื่อว่าเป็นความต้องการของผีให้ทำเช่นนั้น

    การทำพิธีเลี้ยงผีจัดขึ้นในครึ่งวันแรก กลางคืนและวันรุ่งขึ้นในช่วงเช้าและบ่าย ผู้เข้าประกอบพิธีจะใช้เวลากับการฟ้อนรำและให้แม่ครูปัดเป่าให้ร่างกายตน แข็งแรงสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ หลังจากนั้นจึงเสี่ยงทายมีการทำกระทงหน้าวัวเพื่อสะเดาะเคราะห์ ส่งวิญญาณผี บางแห่งทำเป็นเรือกาบกล้วยลอยน้ำไปเป็นเสร็จพิธีกรรม หลังจากนั้นแม่ครูหรือหมอเยาจะกลับบ้านช่องถิ่นฐานของตน
     
  12. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    เคยเห็น แถวๆ หมู่บ้านเขาทำคะ เคยไปถ่ายภาพ และอัดวิดีโอมาด้วย พอมาถึงบ้าน ไฟล์ภาพทั้งหมด เปิดไม่ได้ แหะๆ เป้นไฟล์เสีย
     
  13. คะรุทา

    คะรุทา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,243
    ค่าพลัง:
    +3,477
    มาหนับหนุนค่ะ..สาวผู้ไทยสวยจริงๆๆนะ ผิวพรรณ ขาว สะอาด สเป๊กคะรุทาเลย..ออกอาการทอมบอย ซะแล้ว555..:cool:
     
  14. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    น้องแหมบก็ทำพิธีนี้ด้วยเหรอคะ พี่แอนตี้มากเลยนะ ลูกน้องขอลาไปเลี้ยงผีที่บ้าน พี่ยังว่าให้เลย ว่าเลี้ยงทำไม เ้ค้าบอกว่าเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาและผีช่วยได้ ก็เลยบอกว่างั้นทำไมไม่ให้ผีทำงานให้บ้างล่ะ ตัวเองจะได้ไม่เหนื่อย ถ้าผีช่วยได้จริงป่านนี้เธอคงสบายแล้วล่ะ ไม่ต้องมาทำเลี้ยงผีด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มิถุนายน 2012
  15. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    อย่าพูดได้มั้ย เพราะสาวภูไทนี่แหละ มารหัวใจเราเลย พอได้ยินทีไรมันปี๊ดดดด
     
  16. สาวอุทัย

    สาวอุทัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    2,293
    ค่าพลัง:
    +6,620
    แวะมาบอก..ราตรีสวัสดิ์ (เพราะเมื่อเช้าเราก็เข้ามาอรุณสวัสดิ์)....นะจ๊ะ..ชาวเมืองคุรุวาโร
    ที่จริงเข้ามาเล่นเน็ตนานแล้ว..แต่ไปใช้เวลาโพสรูปภาพที่ FB (ซะนาน)..เป็นเรื่องของการ
    สร้างพลับพลา และหล่อพระบรมรูปพระเจ้าตากสินมหาราช (สนใจก็ไปที่ FB สาวอุทัย.เด๊อ)..สำหรับวันนี้ต้องขออนุญาต เพราะพรุ่งนี้เช้ารับงานใหญ่..และ..ร้อนแรง.งงงงงง
    คิดดูเหอะ..ให้ไปเดินทางผ่านดวงอาทิตย์..ไม่ใช่เรื่องเย็นๆ เลยนะเนี่ยะ.(มีเรื่องต้องกระซิบ
    คือว่า..เมื่อคืนเรารู้ว่าเราฝันเกี่ยวกับคุณคุรุวาโร..ด้วยนะ.. แต่..มันน่าเสียดาย..ดันจำไม่ได้ซะเนี่ยะ..)....ให้มีความสุขกาย สบายใจ ทุกทุกคนนะจ๊ะ...ดาว*
     
  17. mukmik

    mukmik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,143
    ค่าพลัง:
    +10,382
    พูดให้อยาก...แล้วจากไป...แงแง (อดฟังเลย) :'(
     
  18. นํ้า้ทิพย์

    นํ้า้ทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +836
  19. nouk

    nouk เพราะยึดจึงทุกข์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    11,401
    ค่าพลัง:
    +23,708
    คะรุทาผู้่น่ารัก วันนี้เพื่อนเราเป็นอะไรกันหมด
    ไม่หนุกหนานร่าเริงเหมือนเคย ทุกคนเลยอ่ะ เบื่อเหรอ
    เข้าพรรษานี้ จะไปบวชแล้วเหรอ
    ถ้าจะไปบอกด้วยนะ จะได้นัดกันไปทำอะไรดีๆ
    ขออุบไว้ก่อน แต่ดีแน่นอน รับรองยังไม่มีใครเคยทำ:cool:
     
  20. นํ้า้ทิพย์

    นํ้า้ทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +836
    พี่รั้งแตฝันเห็นพี่นะค่ะ

    เมื่อคืนนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...