การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

อืม กระทู้นี้อาจะเป็นเรื่องใหญ่โตได้ เพราะมีเงินมาเกี่ยวข้องด้วย ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนที่เกี่ยวข้องจะทำอย่างไร เห็นมีอีกกระทู้ก็เกี่ยวกับเงินจำนวนมากด้วย ผมก็ไม่รู้เหมือนกันเขาทำอะไรกัน ก็ต้องติดตามกันต่อไป

 

เรื่องจริง ๆ แน่นอน อีกไม่กี่ ชั่วโมงฟ้าแถวบ้านเริ่มดับแล้ว และจะไม่มีพระอาทิตย์ให้เห็นอีกเลย จนถึงเวลา 6.10 น. เชื่อสิ !!




พรุ่งนี้ก็ 24 แล้วนะ คุณกระยาสารท

 

คนที่มีลูกแก้วแล้ว ขอให้คุณสบายใจได้ครับ คุณรอดตายจากมหาพายุแน่นอน
เพราะนั่นคือลูกแก้ววิเศษครับ ใครมีแล้วจะเป็นอมตะครับ

คุณไม่ต้องดิ้นรนหนีไปไหนให้เหนื่อยครับ แค่คุณเอาลูกแก้วอมไว้ในปาก
ก็จะทำให้คุณอยู่ยงคงกระพันเป็นอมตะทันทีครับ

แต่คุณต้องรักษาลูกแก้วไว้ให้ดีๆนะครับ เพราะไม่ใช่จะได้มาฟรีๆ เค้าไม่ได้ให้ฟรีนะครับ
จะต้องบริจากเป็นหลักหลายๆร้อยถึงเป็นพันๆ เค้าถึงจะส่งให้คุณนะครับ

คนไม่มีตังค์ ก็อดที่จะได้ลูกแก้วนะครับ คนที่จะรอดตายจากมหาพายุ จะต้องบริจาคเงินนะครับ
ถึงจะมีสิทธิ์ได้ลูกแก้วครับ ใครเกิดมาจนก็ต้องทำใจครับ ตายสถานเดียวครับ


(deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai) (deejai)

 

ท่าน Aunyasit ท่านกำลังเตรียมการอย่างหนักหามรุ่งหามค่ำ ถ้าคุณรู้ว่าตอนนี้ท่านทำอะไรบ้างคุณจะไม่กล้ามาพูดแบบนี้เลย(ตอนนี้ท่านไม่ได้อยู่ที่กรุงเทพ)ท่านคงไม่สามารถมาตอบคำถามได้ในตอนนี้

ขอบอกว่าท่านเหนื่อยมาก ท่านไม่ได้เตรียมการณ์เพื่อตัวท่านเอง เพราะว่า ที่จริงแล้วตัวท่านเองสบายอยู่แล้ว แต่ท่านกำลังเตรียมการณ์รองรับผู้มีบุญ คณะต่างๆอยู่ ท่านถึงเหนื่อยขนาดนี้

ผมมาเตือนด้วยความหวังดี

คนที่เผลอปรามาสไปสำรวมจิตดีๆนะครับ คุณเห็นท่านเป็นฆราวาสธรรมดา ภายในท่านเป็นใครคุณอาจจะไม่รู้ ระวังดีๆ นะครับ ไปกระทบบารมีท่านระวัง จะเกิดกรรมหนักเอาง่ายๆ จะช็อตในการสร้างบารมีเอาง่ายๆ นะครับ

ยุคนี้ พระมหาโพธิสัตว์ และ โพธิสัตว์ พระองค์ต่างๆ ลงมาเกิดสร้างบารมีโปรดโลกหลายพระองค์ เป็นใครบ้าง ยากที่คนทั่วไปจะรู้ เพราะฉะนั้น ถ้ายังไม่รู้จริง อย่าเพิ่งพูดในสิ่งที่ตัวเองยังไม่รู้เลย จะเกิดกรรมโดยไม่จำเป็น


วันนี้เพิ่งวันที่ 23 อย่าเพิ่งด่วนสรุปไป
ปี 55 เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ครับ พวกเรายังต้องฝ่าฟันอะไรอีกมากครับ
ทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

 

แล้วท่าน Aunyasit เป็นใครครับ??? พระศรีอาริย์เหรอครับ??

 

ผมก็อยากรู้ผมจะได้วางตัวถูกว่าจริงๆ ท่าน Aunyasit เป็นผู้ใด พระศรีอาริย์ หรือเทพองค์ใด จะได้ใช้คำพูดคำจาได้ถูกต้องจะได้ไม่เป็นการลบหลู่ หากเป็นเทพชั้นสูงผมจะได้ใช้ราชาศัพท์จะเหมาะกว่า แต่แค่สงสัยทำไมไม่มีอะไรเกิดขึ้น เห็นบอกว่าไม่เลื่อนแล้ว เอาวันที่ 20 เป็นหลัก รบกวนท่านให้ความกระจ่างแก่เราผู้ไม่รู้ด้วยเถิดท่าน เราอยากทราบว่าพลังบารมีของท่าน Aunyasit มากมายเพียงใด เป็นใครฤา

 

ขอความกรุณาเถิดครับ... ทำไมท่านถึงพาดพิงไปหมดอย่างนั้น... ผมร่วมทำบุญไปด้วยใจบริสุทธิ์ และก็มีสถานที่จริง มีงานบุญจริง.. ผมเตรียมตัวหลายด้านโดยมีสติเป็นตัวกำกับ... ท่านก็อย่าเสียดสี ถากถาง กันไปโดยไม่จำเป็นเลยครับ.......

 

ที่ผมโพสไปนั้นเพื่อเป็นข้อคิด ข้อควรระวังในการ สำรวมจิตใจตนเอง เพื่อระมัดระวังการเกิดกรรมโดยไม่จำเป็น

ส่วนท่านจะเป็นใครนั้น ไม่ใช่หน้าที่ของผมในการบอกสู่สาธารณะ ครับ

ถ้าคุณปฏิบัติจิตถึงขั้น และ คุณสมควรจะรู้ คุณก็จะได้รู้เองว่าท่านเป็นใคร

ผมเข้าใจทุกท่านที่มีความลังเลสงสัย เพราะว่า ในอดีตผมก็เคยมีความลังเลสงสัย เช่นกันเป็นธรรมดา

พึงระมัดระวัง การปรามาสนะครับ เพราะว่า แม้กระทั่งความคิด ก็เป็นกรรมตัดรอนการทำบารมีของคุณเองได้ หากไปปรามาสผู้ที่มีบารมีเข้า

หากยังไม่แน่ใจ หรือยังไม่เข้าใจก็อย่าเพิ่งด่วนสรุปตัดสิน
กลับมาฝึกจิตตนเองให้เข้าถึง ความ"เมตตา อุเบกขา" ปล่อยวางในสิ่งที่คุณสงสัยไป
คุณอาจจะเข้าใจเองก็เป็นได้ครับ(ตามวาสนาและบารมีของคุณ)


ขอให้ทุกท่านโชคดี ครับ

 

ผมคิดสงสัยยังไม่ได้เลยเหรอเนี่ย ผมถามก็ไม่ได้ แง๊ๆๆๆๆๆๆ ผมว่าผมสุภาพแล้วนะ ผมปฏิบัติยังไม่ถึงขั้นจึงไม่อาจรู้ว่าท่าน Aunyasit เป็นใครนี่เอง เข้าใจแล้ว...

 

คนที่วางอุเบกขาแล้วก็ยังกลับมาตอบ เพราะกระทู้นั้นร้อนแรง กลัวคนปรามาส จะทำให้เพิ่มกรรมแทนเพิ่มบุญกุศล ผมไม่ได้เข้าข้างใครเลยที่ผมเคยโพสมา ผมแค่อยากให้ทุกคนมองโลกในแง่ดีบ้าง

 

เจอเรื่องแบบนี้ทั้งสองกระทู้เลย ทั้งของคุณปูและคุณอัญญาสิทธิ์ เห็นใจค่ะ
ยังไงก็ขอให้อดทนนะค่ะ ขันติ

 

มาตามอ่านค่ะ ..อยากเห็นโพสของคุณอัญญาสิทธิ์มากๆๆๆ

 

คุยกับพวกเกรียนพูดไม่ชนะมันหรอกครับ มีป่วนไปทุกกระทู้ ขอให้ได้แควะคนนู้นทีคนนี้ที สนุกไปวันๆ เกรียนตลอด
เราเจอก็ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่ต้องไปตอบโต้ เดี๋ยวมันเบื่อก็เลิกไปเอง หรือมันมีแรงพิมพ์ ก็ให้มันพิมพ์ไปครับ โชว์ความเขลาและความเกรียนของตัวเอง

 

ไม่ทราบมีท่านใดได้ไปงานบุญฯมั่งครับ กรุณาสร้างความกระจ่างกับคำถามข้างบนด้วยครับ

 

กว่าจะรู้ว่าถูกจัดฉากแบบมืออาชีพ หลอกโอนเงินแลกลูกแก้ว ทำกันเป็นขบวนการ

ตัวก่อเรื่องก็หายไปไกลแล้วครับ

เคยเห็นไหมครับพวก 18มงกุฎที่ลงทุนเช่าห้อง เช่าตีกทำออฟฟิศ หลอกคนมาทำธุรกรรมน่ะ วันรุ่งขึ้นก็หายเกลี้ยงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้่น

ถ้าเกิดโชคดีไม่ได้เป็นมิจฉาชีพ แต่กลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะ ปั้นเรื่องเขย่าประสาทคนให้ตื่นกลัว พร้อมรับบริจาค จะไปทำอะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายก็ไม่ใช่บุญ มันคือ "บาป" เพราะทั้งหมดมาจาก มุสา (โกหก) ตั้งแต่แรก

น่าขันไหม โลกจะเกิดกาละภัยพิบัติ แต่ดันยับยั้งแถมเลื่อนได้ด้วยการร่วมกันสร้างกุศล โอนเงินแลกลูกแก้วมากราบมาไหว้

เข้าข่ายเพ้อเจ้อครับ ต้องการจิตแพทย์ด่วน

*เหมือนกระทู้ล่างๆที่ วันๆนึกสนุุกเอากล้องถ่ายเมฆ แล้วเอามาโพสว่าพระนั้นพระนี้ลงมาโปรด เพ้อเจ้อไปวันๆ คนไหนมองไม่ออก ก็แถมไปด้วยคำว่า "จิตหยาบ"

 

http://www.rakpratat.com/index.php?...1&Category=rakpratatcom&thispage=23&No=393509

http://palungjit.org/showthread.php?p=808939#post808939

ลองเข้าไปหาข้อมูลกันดูครับ ใจร่มๆกันไว้ก่อนนะคับ ทะเลาะกันไป เถียงกันมาเสียสมองป่าวๆคับ คนที่อยากเช็คความโปร่งใสก็น่ายกย่องคับ ส่วนคนที่อยากทำบุญเค้าก็ได้ความสบายใจน่ะคับ เอาเวลาไปทำอย่างอื่นกันดีกว่าเน้อ ^^

 

ดิฉันอยากจะทราบเหมือนกันค่ะ ว่าพวกเกรียนที่คุณอภิเดชว่า นั้นเป็นใคร
งั้นพื้นที่ต่อจากนี้ไป (ยกเว้นเจ้าของกระทู้) ทิ้งไว้ให้พวกเกรียนพิมพ์ก็แล้วกันนะค่ะ

เพราะถ้าไม่ใช่เจ้าของกระทู้มาตอบคำถามเค้าคงจะไม่เข้าใจอยู่ดี

 

ทุกคนย่อมอยู่ในกฏแห่งกรรม

ท่าน Aunyasit ท่านสร้างบารมีมาเกือบทั้งชีวิต
ท่านไม่เอาสิ่งที่ท่านทำมาทั้งชีวิตมาแลกกับเรื่องไม่เป็นเรื่องหรอกครับ

หลายครั้งที่ผมเห็นกับตาตนเอง เช่น เรื่องของการหยั่งรู้ คุณไปอยู่ตรงหน้าท่านไม่ต้องพูดอะไรหรอกครับ ท่านรู้คุณหมด แต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง แต่ท่านจะสอนลูกศิษย์แบบเฉพาะบุคคล ด้วยธรรมะว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วก็จะตรงเสียด้วย จนผมเองยอมรับในตัวท่าน


บางครั้ง มันก็น่าเบื่อในการที่จะมาโพสข้อความ(ผมก็เบื่อ) แต่ที่มาโพสนี้เพื่ออยากให้ข้อคิดเล็กๆน้อยๆเพียงเท่านั้น
ต่อว่ากันไปมา มันไม่ใช่วิสัย ของนักสร้างบารมี นักสร้างบารมี คือ นักอด นักทน นักสู้
ต่อสู้ จนถึงกระทั่งแลกด้วยชีวิตเพื่อพระศาสนา
และ ผมคิดว่า สิ่งที่คนต่อว่าท่าน Aunyasit ถ้าท่านรู้ท่านไม่ได้ถือโทษโกรธหรอกครับ
เพราะ จิตท่านสภาวะอยู่เหนือเรื่องพวกนี้ไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นท่านไม่ทำมาถึงขนาดนี้หรอกครับ


ผมจะเล่าเรื่องของผมเองเป็นข้อคิด(ไม่ได้เล่าเพื่อโอ้อวด เล่าเพื่อให้ท่านพิจารณา)

ผมเองเป็นฆราวาส ผมเคยไปงานหล่อพระสมเด็จองค์ปฐม ในจังหวัดหนึ่งในภาคกลาง
อยู่ดีๆมีเหตุการณ์ที่ผมไม่คาดคิดเกิดขึ้น
ในงานหล่อพระผมก็นั่งอยู่หน้าปรัมพิธี มีผู้หญิงอายุมากกว่าหลายปีผม
มาขอกราบผมกลางงานหล่อพระ ผมก็บ่ายเบี่ยงไป เพราะว่า คนอยู่มากเด๋วคนจะมองไม่ดี แต่สุดท้ายเค้าก็ขอผมบอกให้ผมแบมือออก แล้วผู้หญิงคนนั้น ก็ พนมมือ แล้วกราบแบบแบมือที่มือผมสามครั้ง (ขณะนั้นคงที่อยู่รอบๆก็มองว่า ผู้ใหญ่เค้ามากราบเด็กทำไม)
ตัวผู้หญิงคนนั้น สั่นทั้งตัว เพราะความปิติ แล้วขณะนั้นผมก็พูดธรรมะบางอย่างไป
และ ช่วงท้ายๆผมก็กล่าวบอกกับหญิงคนนั้นว่า "สิ่งที่คุณเห็นต่อหน้าคือร่างกายผมนี้ มันเป็นเพียงเปลือกเท่านั้น ในยุคพุทธกาลผมเคยบวชเป็นพระ ได้บรรลุธรรมมาแล้วรอบหนึ่ง แต่ผมปราถนามาสร้างบารมีต่อเพื่อบรรลุความปราถนาของผม" แล้ว แล้วผมก็ถอนจากสมาธิ

ผมมาถามเค้าตอนหลังว่าเมื่อกี้ทำไมถึงปฏิบัติกับผมแบบนั้น เค้าบอกว่า เค้าควบคุมตัวเองไม่ได้ เค้าบอกว่าไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เหมือนมีคนมากดหัวเค้าลงให้กราบผม แล้วเค้าก็ปิติมาก แล้วก็ ขอเบอร์ติดต่อผมไป เพราะอยากจะมาร่วมบุญด้วย

ขนาดผมเองผมก็ยัง งงๆในเหตุการณ์นั้น ผมเองก็สงสัยมาเป็นเวลาแรมปีว่า
เกิดอะไรขึ้นกับเราหนอ จนผมปฏิบัติมาอีกเป็นปี สักระยะนึงถึงได้เข้าใจว่าอะไรคืออะไร

อันนี้ผมขอถามท่านผู้รู้หน่อย ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดคิดนี้จะอธิบายทางวิทยาศาสตร์ได้ยังไง

บางครั้ง ผู้มาสร้างบารมี ไม่ได้แยกว่าพระ หรือ ฆราวาส
หรือ ฆราวาสที่คุณเห็น ถ้าคุณไม่รู้เค้าจริงๆ อย่าไปปรามาสเข้า
จะเป็นอันตรายกับคุณเอง

สิ่งที่คุณไม่รู้คุณคาดไม่ถึงมีอีกมาก

ผมขอยืนยันด้วย ชีวิต ของผมว่า ท่าน Aunyasit ท่านเป็นคนดีจริง เป็นของจริง
ท่านเหนื่อยเพื่อพระศาสนามามากแล้ว พวกเราเป็นพุทธบริษัทแท้ๆ จะไม่ช่วยท่านเลยหรือ

เราพุทธบริษัทต้องเป็นหนึ่งกลมเกลียว เพื่อดำรงพระศาสนาให้ยั่งยืนชั่วกาลนาน
ไม่ใช่มาลบล้างทำลายกันเอง ด้วยกิเลสมาร

คนดีเราต้องเชิดชู ตอนนี้ท่านมีชีวิตอยู่ ยังมีโอกาสไปช่วยเหลือท่านเถอะ
ไม่ใช่ว่า ท่านไม่อยู่แล้วค่อยรู้ตอนหลังว่าท่านบำเพ็ญความดีขนาดไหน แล้วไปสรรเสริญ พระคุณท่านอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็จะพลาดโอกาสในการทำบารมีร่วมของท่านทั้งหลายไป

สิ่งที่ผมกล่าวไปผมไม่มีเจตนา เพื่อโอ้ เพื่ออวด เพราะสิ่งเหล่านั้นมันมีอยู่เต็มโลกเต็มสงสารแล้ว ใครก็อยากโอ้อยาก อวดอยากให้คนอื่นบอกว่าตนเองฉลาด มันเป็นเพียงสิ่งไม่เที่ยงเท่านั้น แม้กระทั่งร่างกายเราเอง ผมเองก็เบื่อโลกนี้ แต่ต้องทำหน้าที่ต่อจนถึงที่สุด

สิ่งใดล่วงเกินท่านใดก็ขอขมากรรม
ขอให้ทุกท่าน โชคดีมีชัย มีความปลอดภัยใน วัฏฏะสงสาร ทุกท่านเถิอด

 

ผมมิได้จับผิดหรือเพ่งโทษอะไรกับคุณ Aunyasit หรอกนะครับ แต่เราผ่านวันที่ 20 กันมาได้ทุกคน นี่คือ ความจริง

ตอนนี้คุณ Aunyasit เองก็น่าจะอยู่ที่พุทธสถาน คง(อาจ)ไม่กลับมาอธิบายอีกต่อไปแล้วว่า ทำไม ?

ถ้ามองในแง่ดี คุณ Aunyasit หมดหน้าที่เป็น"ผู้เตือน" จากสถานที่หนึ่ง แต่กำลังทำหน้าที่เป็น "ผู้เตรียม" ในอีกสถานที่หนึ่ง

สิ่งที่คุณ Aunyasit ทำที่บอกว่ายอมเหน็ดเหนื่อยในการดำเนินการต่างๆ ยอมเอาตัวเองเป็นสื่อกลาง ทั้งๆที่รู้ว่า หากไม่เป็นดังคำพูดคำกล่าวนั้นจะมีผลกระทบกับตนเองอย่างไร ... คงมีเพียง "ศรัทธา" เท่านั้นที่ทำให้แกยืนอยู่ได้ แต่สิ่งที่เราๆท่านๆ (อาจจะไม่ทุกคน)มันไม่น่าจะเรียกว่า ศรัทธา แต่เป็น "ความเชื่อ" ที่ผ่านความศรัทธาของคุณ Aunyasit อีกทีหนึ่ง

ปล. ขอเตือนนิดหน่อยนะครับ สำหรับมือใหม่หัดโพส ... เวบนี้เขามี นายกองค์การบริหารส่วนห้องภัยพิบัติ อยู่ ห้ามโพสในสิ่งที่ทำให้ความเชื่อของพวกเขาพังทลายลง โดยแย้งหรือเยาะเย้ยในสิ่งที่เขาโพส หากฝ่าฝืนดื้อดึงคุณจะโดนกรรโชกด้วยภาพแห่งขุมนรก แม้ว่าสิ่งที่คุณโพสคือข้อเท็จจริงอันพิสูจน์ด้วยหลักฐานได้
หากดื้อกระทำต่อไปอีก ห้อง Black hole (หุบเขาคนโฉด จากเรื่อง เซียวฮื้อยี้) คือที่หมายสุดท้ายของกระทู้คุณ

 

ผมก็ค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณอนุโมทนามิครับ เพิ่งเข้ามาดูในกระทู้นี้ไม่นาน สนใจเลยลองไปค้นดูกระทู้เก่าๆ ของคุณอัญญาสิทธิ์ ที่ยอมรับและยกย่องก็คือความอดทน อดกลั้น โดนถล่มอย่างหนักตั้งเยอะ ก็ยังคงพยายามโพสชี้แจงด้วยความสุภาพปกติ ถ้าเป็นผมคงเต้นแร้งเต้นกา กระทู้พังไปนานแล้ว