ตัวอย่างผู้ที่มีจิตใจต่ำทราม

ปากคุณอ้างไม่เดือดร้อน..แต่ฝังใจ และมากระทำอีกอย่างนี่ไง อ้างศิลในนอกข้างๆคูๆยึดมั่นในเหตุผลผิดๆตึงจัด ..ศิลในคุณไม่มั่นคง ปัญญาในตรรกะก็ไม่แน่นจากการตอบโต้ใช้แต่ความคิดตนเองเป็นใหญ่ ไม่ดูรอบข้าง โลกาภิวัฒน์เขา ท่านขันธ์มีประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ๋ในนี้ คุณมันคนกลุ่มน้อย หากเสียสละให้คนส่วนใหญ่ได้ ทำไมไม่ทำ ถ้าคุณคิดว่าคุณทำถูก..
เอาแต่สับเพร่าอวดดี อวดเก่ง แต่แสดงออกอีกอย่างพูดอย่างแต่ทำอย่าง สอนคนโน้นให้ทำอย่างนี้ อย่างนั้น แต่ตนเองทำไม่ได้ คุณไม่ละอายใจละอายปากตนเองรึ เจตนาคุณกับท่านขันธ์นั้นต่างกันมาก ..ไปตรวจสอบตนเองก่อนไป
.. มาตั้งกระทู้ด่าเขาแล้วบอกว่า ตนนั้นความเป็นอยู่สบายดี ไฟพยาบาทหรือไฟอิจฉาเฉพาะกิจของคุณ เผาตัวเองแน่ๆ:'(

 

ก็ต้องรอให้ไฟมาเผาผมก่อนนะครับ ผมอาจจะเดือดร้อนครับ

คนจริงเขาถามต้องกล้าตอบ แต่ถามแล้วไม่ตอบ ใช่คนจริงเหรอครับ

คุณไม่รู้จักผมด้วยซ้ำ คุณรู้จักแต่คนที่คุณเชื่อถือ คุณก็ควรไปศึกษากับเขา

ผมไม่จำเป็นต้องอวดเก่งครับ เพราะการอวดนำมาซึ่งความเสียหาย

ประโยชน์ที่ผมกล่าวถึง หากแม้นพระพุทธองค์ไม่เห็นถึงประโยชน์โดยส่วนรวมแล้ว

จะมีพระธรรมมาจนถึงทุกวันนี้ไหม มาทำให้พระธรรมแปะเปื้อนยังบอกว่าเป็นธรรม

ถกเถียงเพื่อความสะใจในอารมณ์ คงจะเป็นปัญหามากเพียงแค่ไม่กล่าวคำหยาบ

อาศัยพวกมาก พูดจาข่มขู่ สาบแช่ง นี่หรือครับผู้ที่มีธรรมในจิตใจ

ผมถกเถียงกับคุณ สับสน คุณ ขันธ์ ผมก็ไม่เคยกล่าวสาบแช่ง ข่มขู่เลย

แค่การเตือนแค่นี้ ยังรับไม่ได้ จะมาบอกว่าสอบอารมณ์ผู้อื่น แล้วว่าไม่รู้จักธรรม

ผมบอกย้ำเลยนะครับ ว่าคุณและผมไม่ได้รู้จักกัน ในที่นี้ก็ไม่มีใครรู้จักผม

และ ผมก็ไม่รู้จักใครในนี้ ฉนั้น ผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ที่ผมเข้ามาสนับสนุน

การปฎิบัติภาวนานั้น เพราะมองเห็นประโยชน์แห่งองค์ธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ได้ทรงสั่งสอน เป็นไปเพื่อการหลุดพ้นโดยแท้ แต่นี่นำเอามาถกเถียงเพื่อความสะใจ

ทำให้พระธรรมต้องแปะเปื้อน ผมจะสาบแช่ง จะข่มขู่ ผมก็ทำเป็น แต่ผมไม่ทำ

เพราะจะทำให้จิตใจมัวแต่นึกคิดในสิ่งเหล่านี้อยู่เป็นนิสัย และ จะเป็นนิสัยต่อไป

ในอนาคตชาติ ที่เป็นกันอยู่นี่ ก็มีส่วนที่มาจากนิสัยที่มีมาจากชาติก่อนๆ

คนที่ใช้คำหยาบคลาย พอมีโทสะแม้แต่เพียงเล็กน้อย ก็จะใช้คำหยาบคลาย

แค่นี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ผมมองเห็นประโยชน์จึงออกมาเตือน

และ เตือนไปหลายครั้งแล้ว ผมน่ะไม่เดือดร้อนอะไร ผมว่างผมก็เข้ามาได้ตลอดเวลา

คิดดูเอาเองเถอะ เมื่อชอบคิดก็คิดดู เป็นเดือด เป็นร้อน แล้วได้อะไร

 

ผมเข้าใจในเจตนาของ คุณเก่ง ครับ มีผู้คนมากมายที่เข้ามา ทั้งคนในประเทศ

และ ต่างประเทศ ที่ผมรู้จัก แล้วคำพูดที่เขาพูดออกมา นี่หรือเว็บธรรมะ

ธรรมะเขามีไว้บังหน้าแล้วด่าคนอื่นเหรอ จนบางคนเขาไม่เข้ามาอีก

หากเว็บนี้ ไม่ลิ้งตรงกับ"google" และ ผู้คนไม่เข้ามาด้วยลิ้งนั้น

ผมก็ไม่เดือดร้อนอะไรครับ คนที่มาจากพันทิพ ยังพูดว่าที่นั่นหยาบคลายเลย

พระธรรมที่ดีงาม กลายเป็นเช่นนี้ เพราะคำหยาบคลายใช่ไหมครับ

หากผมเห็นแต่ประโยชน์เฉพาะตัวตน โดยระบุตัวคน ผมคงไม่ทำหลอกครับ

แต่นี่เป็นประโยชน์ส่วนรวม ที่มีผลต่อผู้คนมากมาย ไม่ใช่คนที่มีอยู่เป็นส่วนน้อย

เป็นกบอยู่ในกะลา มองเห็นว่าในที่นี้ใหญ่พอแล้ว ข้างนอกจะเป็นยังไง

ก็ไม่สนใจ แบบนี้ พระธรรมไม่เสื่อมไปหมดหรือครับ

สาธุครับ

 

ก็ต้องรอดูนะ ว่าไฟเผาใครอยู่ ใครพยาบาท อยากเล่นไม่ใช่เหรอ

พอเล่นด้วยก็พวกมาก ชื่นชอบไม่ใช่เหรอ ผมว่างมาเล่นได้เสมอ

ยิ่งช่วงนี้ผมว่างงาน ผมจะมาเล่นด้วย ด่าคนอื่นแล้วว่าสอบอารมณ์

พอถูกด่าบ้าง บอกว่าเล่นกับไฟพยาบาท

 

เอาแบบนี้ Oatthidet ถ้าเอ็งอวดรู้ว่า ทำเพื่อส่วนรวม
อยากให้เว็บธรรมะเจริญรุ่งเรือง ด้วยการหยุดนายขันธ์ ข้าจะหยุดสนทนาธรรมในที่นี้ไป ระยะเวลาหนึ่ง ให้เวลาเอ็งได้อวดภูมิ แล้วลองสร้่างสังคมที่เอ็งปราถนา ดูซิว่า คนที่เขาเล่นที่นี่ เขาจะฟังเอ็งหรือไม่
เอาอย่่งนั้นดีไหม เพราะข้าไม่มีปัญหาอะไรกับการไม่ได้เล่นเน็ต

เมื่อเอ็งกล้าอวดตัวเสนอว่าจะเป็นผู้พิทักษ์คุณธรรม และศาสนา ข้าจะดูซิว่าเอ็งจะทำได้ดีแค่ไหน
เอาตามนั้น

 

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คุณจะหยุดเข้ามา แต่การพูดจาโดยใช้คำหยาบนั่นแหละ

ที่เป็นเหตุ หากคุณเข้ามาอีก ทำแบบเดิมๆอีก ก็จะกลับมาทะเลาะถกเถียงกันอีก

หากทุกคนในที่นี้ ร่วมสร้างสังคมที่ดีงาม ทำไมจะดีไม่ได้ คุณเองก็มีความรู้ทางธรรมมากมาย

ทำไมไม่นำมาสร้างให้สังคมนี้ดีขึ้นมา ลองมองดูภาพโดยร่วมสิ ที่ทะเลาะถกเถียงน่ะ

มาจากไหน มองย้อนกลับไปดู คุณอาจจะไม่เคยมองดู เลยไม่รู้

 

เอาตามนั้น เพราะข้ามีทางให้เอ็งเลือกเท่านั้น
ในเมื่อเอ็งกล้าอวดตัว ที่จะพัฒนาคนอื่น เอ็งก็จงรับเอาภาระไปทำเอง

เอาหละขอตัว

 

ก็คุณ ไม่ยอมเข้าใจธรรม2ด้าน คุณต้องได้รับการเยียวยา ที่เป็นยาขม..อรหันต์ท่านหนึ่งผมจำชื่อไม่ได้ในครั้งพุทธกาล ท่านเรียกขานใครยังเรียก..ไอ้ถ่อย..นั่นทำให้ธรรมแปดเปื้อนรึไม่
.. มีคนเอาไปฟ้องพระพุทธองค์ในที่ประชุมสงฆ์ พระองค์ยังทรงบอกถึงเจตนาภายในว่า นั่นมันกริยากรรมของท่านผู้นั้น คุณสนใจหลักธรรมที่เป็นหัวใจของนักปฏิบัติซี่ เช่น จิตใจคุณมีศิลภายใน การกระทำภายนอกคุณก็ต้องมีศิล ศิลอยู่ที่เจตนา ไม่ได้อยู่ที่การกระทำ คำพูด ทีนี้คุณจะมองให้ออกยังไงว่าใครมีศิลโดยเฉพาะท่านขันธ์ในกรณ๊เรื่องของคุณ ทั้งนี้ผมหมายถึงคุณผู้ปฏิบัติธรรมต่้องมองท่านขันธ์ออก คนอื่นนั้นหากไม่เคยปฏิบัติธรรมก็ยากที่จะเข้าใจ แต่นี่ ที่นี่มันห้องอภิญญา สมาธิ นักปฏิบัติเขารู้กันทั้งนั้น
..คุณมาด่าเขากลับ ทั้งที่วัยวุฒิ คุณวุฒิ อ่านจากการตอบโต้ของคุณยังเทียบไม่ได้เลฃยกับท่านขันธ์ สติคุณองค์ธณรรมในตัวคุณไปไหนหมด สัมมาคารวะธรรม เมตตา อภัยหากคุณเข้าใจว่าตนเองถูก..แต่คุณเลือกด่ากลับ นี่รึคุณมีธรรมเหนือกว่า หรือเทียบเคียงเท่ากับ ท่านขันธ์ ทำไมคุณเถียงไม่ตกฝากแทนที่จะหันมาดูตนเอง คนทั้งบอร์ดออกมาเตือนคุณนี่ ไม่เอะใจเลยรึ..คุณอธิเดช พยาบาทหรือติดดี กันแน่
ด้วยเจตนาที่เป็นศิล ทำให้คนข้างนอกเขาเข้าใจ มองออกเองว่าคุณเป็นคนมีภูมิธรรม เพราะทุกคนเขาก็ปฏิบัติธรรมทั้งนั้น ทำไมคุณมองไม่ออกอยู่คนเดียวนี่ คุณมีเจตนาอะไรกันแน่กับท่านขันธ์ อย่าเอาปกติคนอื่นมาเป็นปกติเราเพราะธรรมเราไม่เหมือนเขาดูหลักการใหญ่ๆอย่ามองการกระทำชั่วครั้ง ชั่วคราว มองเจตนาซี่นั่นแหละศิลใน เทียบเคียงกับคนอื่นทั่วๆไป ..

 

สิ่งที่ผมจะบอกกล่าว คือ ธรรมะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงนั้น

ไม่ควรนำมาล้อเล่น ไม่ควรนำมาถกเถียงเพื่อความสะใจ เพราะเป็นสิ่งที่สูงค่า

ควรที่จะแสดงความจริงใจในการกล่าวพระธรรม และ ควรจริงจังกับการปฎิบัติธรรมภาวนา

ศาสนาในทุกวันนี้ เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก ที่เปลี่ยนไปเพราะการทะเลาะถกเถียงนี้เอง

ทำให้มีมานะทิฎฐิที่มากขึ้น โดยที่ตนเองก็ไม่รู้ และ สิง่ใดเป็นธรรม สิ่งใดไม่เป็นธรรม

ตนเองย่อมรู้ดีกว่าผู้อื่น สิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร มีใครในที่นี้ไม่รู้บ้าง ส่วนใหญ่มีแต่รู้อยู่แล้ว

ถึงจะไม่โกรธกันจริงๆ แต่ก็ไม่พอใจกัน และ ก็นึกคิดที่จะเอาชนะ เมื่อทำบ่อยๆเข้า

จิตใจก็จะนึกคิดแต่สิ่งเหล่านี้ ให้หยุดนึกคิดจะรู้สึกหงุดหงิด ทำให้ติดข้องก้าวผ่านไปไม่ได้

สาธุครับ

 

เห็นไหมคุณทำคนอื่นเดือดร้อนแล้ว..หากท่านขันธ์ไม่มา อริยะ จะเกิดในห้องนี้อีกนับ 100-1000อริยะคน ..เดี๋ยวคุณดูอริยะเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ. ปวดหัวจริงคุณนี่มันดื้อเหมือนแมวจริงๆๆ.

 

ทั้งหมดที่คุณกล่าวมา ลองถามตัวคุณเองดูครับ ผมไม่เอะใจอะไรครับ

ผมจะทำอะไรผมก็มุ่งมั่นครับ ถูกผิดอยู่ที่คนนึกคิด คุณลองอ่านดูทั้งหมดสิครับ

อ่านดูทุกโพสสิครับ คนที่เข้ามาเตือนผมด้วยความจริงใจ เขาเตือนไม่กี่ครั้งเขาก็ไปแล้ว

แต่ที่เข้ามาเตือนไป ด่าไป น่ะ บ่งบอกถึงอะไรครับ

 

บทกลอนสุนทรภู่ กล่าวว่า
"อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย"

แต่หากเป็นผู้รู้จักพิจารณา คือ คนฉลาด จะไม่ติดอยู่เพียงเฉพาะทัสสนะ เหล่านั้น

ต้องแตกไปอีก สุภาษิตไทยกล่าวไว้ว่า

"หวานเป็นลม ขมเป็นยา"

 

คนที่คิดว่าเป็นอริยะ คือ คนที่ไม่ถึงพระธรรมที่ควรเป็น

เพราะความจริงเป็นแค่ปุถุชนทุกคน หากเป็นอริยะก็ไม่เข้ามาวุ่นวายแล้ว

เพราะมีแต่เรื่องน่าเบื่อมากมายในหมู่มนุษย์

 

ยิ่งคุยผมว่าคุณนี่ ยิ่งมีแนวคิดเพี้ยนหรือบ้าแล้ว..โลกเขาเป็นอย่างนี้มาตั้ง 2555 ปีแล้ว คุณจะมาจัดแจงโลกรึ
จัดตัวคุณเองซี่ ธรรมพระพุทธองค์ ท่านให้มองตัวเองหากคุณสูงส่งคุณแก้ตัวเองซี่ไปตามแก้คนตั้งหมืนล้านแสนล้านคนทั่วโลกได้ยังไง:'( ปวดหมองเว้ยยยส์

 

ไม่ยุยงให้สงค์แตกแยกกัน แต่ที่ทำกันอยู่นี่ มาบอกอย่างที่คุณกล่าวอยู่นี่

ใช่เหรอครับ คนอีกเป็นแสนล้านคน มีกี่คนที่นับถือศาสนาพุทธครับ

ในสมัยพุทธกาลก็มีที่ทำเช่นนี้ จนแตกแยกออกมาเป็นแบบนี้

เพียงแค่ไม่กล่าวคำหยาบคลาย มันทำยากมากเหรอครับ

 

โอ้โฮ..โกมีนัม ฟางว่าน พี่ศรีของผมนั่นนะอริยะทุกคน ยังมีอีกบานเบอะค่อยๆดูเอาเองนะ คุณคิดแต่เข้าข้างตนเอง..นานไปคุณจะเจอ พระโพธิสัตว์ที่ชื่อ สับสน อีกคนเดี๋ยวได้ดู..ไม่นาน จะบอกให้

 

เอาล่ะเว้ยเฮ้ย พี่เกิดรูปหล่อจริงจริง


ลด ละ ลง ในการไปจัดระเบียบโลกได้

ห้า ห้า ห้า
น่าติดตาม ขออนุญาตินำไปเผยแพร่ต่อด้วยนะคร๊าฟ

 

ก็ดูที่คุณตอนนี้ก็เห็นแล้วครับ เถียงเพื่อความสะใจเท่านั้น ไม่มองที่เหตุผล

นี่ใช่ไหมที่เป็นความเคยชิน จนทำไปโดยไม่รู้ตัวน่ะครับ

 

เมื่อใช้เป็น

น้ำหวานก็รักษาในบางโอกาส
น้ำขมก็รักษาในบางโอกาส

แต่น้ำใจไม่เลือกโอกาสเลย รักษาได้ทุกสถานะ