WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ฝั่งโน้นหนาวจัด

ฝั่งนั้นน้ำท่วม

อีกฝั่งแล้งจัด

:'(

 

ฝั่งโน้นหนาวจัด

ฝั่งนั้นน้ำท่วม

อีกฝั่งแล้งจัด

:'(

 

หิมะถล่มตามแถบภูเขาในอินเดีย ทหารถูกฝังทั้งเป็น16ศพ

ทหารอินเดียอย่างน้อย 16 นายเสียชีวิตในหน้าที่ ส่วนอีก 3 นายยังสูญหาย หลังถูกหิมะถล่มลงมาฝังทั้งเป็นขณะประจำการอยู่ตามแถบภูเขาในแคว้นแคชเมียร์ เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า หิมะบนภูเขาถล่มลงมาสองจุดเมื่อวันพุธ และถมทับค่ายทหารในเมืองดาวาร์และโซนามาร์ค สองเมืองที่อยู่ใกล้เส้นควบคุมหรือเส้นกำหนดการหยุดยิง อันเป็นเส้นแบ่งดินแดนแคชเมียร์ส่วนที่บริหารปกครองโดยปากีสถาน กับส่วนที่บริหารปกครองโดยอินเดีย ด้านพันโทเจ.เอส.บราร์ โฆษกของกองทัพกล่าวว่า นี่คือโศกนาฏกรรมครั้งเลวร้าย ปฏิบัติการช่วยเหลือก็เป็นไปอย่างล่าช้าจากหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักและสภาพอากาศอันเลวร้าย พร้อมระบุว่าได้จัดทหารและสุนัขกู้ภัยที่ถูกฝึกมาเป็นพิเศษขึ้นเครื่องมุ่งไปให้ความช่วยหลือแก่ปฏิบัติการค้นหาแล้ว

 

ฮ.สหรัฐฯ ตก 2 ลำระหว่างฝึกซ้อม นย.เสียชีวิต 7 นาย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2555 09:24 น.

กองทัพสหรัฐฯ แถลงว่า นาวิกโยธินสหรัฐฯ 7 นาย เสียชีวิตในอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ตกระหว่างการฝึกซ้อมที่ฐานทัพแอริโซนา
แถลงการณ์ระบุว่า เหตุเกิดขึ้นบริเวณพรมแดนรัฐแคลิฟอร์เนีย กับแอริโซนา ห่างจากศูนย์การฝึกซ้อมเพียงเล็กน้อย เมื่อช่วงเย็นวันพุธ และว่า ทหารที่เสียชีวิตมาจากกองบินนาวิกโยธินที่ 3 ส่วนเฮลิคอปเตอร์ที่ประสบอุบัติเหตุ เป็นรุ่น AH1W Cobra และ U.S.1Y Huey ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุดังกล่าว

 

ไฟไหม้ห้างชวนดีเมืองตรังคลอกเจ้าของดับ

24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 06:56 น. |เปิดอ่าน 2,366 | ความคิดเห็น 7

ไฟไหม้ห้างชวนดีกลางเมืองตรัง นาน3ชม. คลอกเจ้าของวัย74ปีดับ ช่วยออกมาทัน 5 คน

เมื่อเวลา 00.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในกันตังซอย 3 (ตลาดสดเทศบาลนครตรัง) รีบประสานรถน้ำดับเพลิง จำนวน 5 คัน ก่อนไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 30 นาย เพื่อระดมเข้าดับเพลิง เจ้าหน้าที่พบจุดต้นเพลิงเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น เลขที่ 92 ถนนกันตัง ซอย 3 ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมืองตรัง ชื่อห้างชวนดี ซึ่งจำหน่ายรองเท้าและสินค้าเบ็ดเตล็ด และมีสินค้าในสต๊อกจำนวนมากอยู่ภายในอาคารโดยพบมีเปลวเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่ง ออกจากระเบียงบนชั้นที่ 2 และมีผู้หญิงและเด็กเล็ก จำนวน 5 คน เรียกร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ใช้บันไดลิง ปีนขึ้นไปช่วยเหลือลงมาได้อย่างปลอดภัย แต่ยังมี นายหยงบู เก้าเอี้ยน อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน นอนหลับอยู่บนชั้น 3 อีกคน ซึ่งไม่รู้สึกตัว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ จึงช่วยกันวางหัวฉีดน้ำทำการสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามขึ้นชั้น 3 แต่การสกัดเพลิงเป็นไปโดยความยากลำบาก เนื่องจาก สินค้าในร้านส่วนใหญ่เป็นพลาสติกมีจำนวนมาก และเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี โดยในระหว่างนั้น ประสานรถกระเช้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ตรัง เพื่อมาช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ในบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ช.ม. จึงสกัดเปลวเพลิงไว้ได้ แต่พบว่า นายหยงบู เสียชีวิตจากการสำลักควันไฟ และร่างกายถูกไฟคลอกไปบางส่วนแล้ว

 

จังหวัดนครศรีธรรมราช เตรียมแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปี 2555

นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ด้วยในช่วงระหว่างปลายเดือนกุมภาพันธ์ –พฤษภาคม พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มักจะประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ทำให้หลายพื้นที่เกิดสถานการณ์ภัยแล้งและขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค รวมทั้งน้ำเพื่อการเกษตร ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ราษฎรโดยทั่วไปเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ฤดูหนาวของประเทศไทย จะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ทำให้มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน และเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนต่อไป สำหรับการเตรียมความพร้อมเบื้องต้นทางจังหวัดได้แจ้งให้ทุกอำเภอ เตรียมรับมือภัยแล้งด้วยการจัดทำแผนการแจกจ่ายน้ำให้แก่ราษฎร ควบคู่กับการเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ หากพื้นที่ใดเกิดภาวะความแห้งแล้ง ปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรและน้ำอุปโภค บริโภคลดลง ให้ประกาศพื้นที่ประสบภัย ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว จังหวัดได้เตรียมขุดลอก คูคลอง แหล่งน้ำสาธารณะ เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำในหมู่บ้านและตำบลได้มากขึ้น พร้อมขุดลอกทำแก้มลิงในพื้นที่ตำบลนาเคียน และตำบลนาทราย อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และทำน้ำประปาในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ส่วนพื้นที่ที่เป็นชลประทานในเขตอำเภอทุ่งสง สิชล และอำเภอนาบอน จะมีการกักเก็บน้ำแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อีกทางหนึ่ง จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอให้ประชาชนจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำและใช้น้ำเพื่อการอุปโภค บริโภคอย่างประหยัด ถูกวิธี ถูกสุขลักษณะ รวมทั้งปลูกพืชเกษตรที่ใช้น้ำน้อยหรือพืชนิดอื่นทดแทนในช่วงฤดูแล้ง

 

ทีมนักวิจัยออสเตรเลีย พบและบันทึกภาพ "วาฬปากนกเชฟเพิร์ด" เป็นครั้งแรก

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทีมนักวิจัยออสเตรเลียแผนกแอนตาร์กติก เปิดเผยว่า พบวาฬปากนกเชฟเพิร์ด (Shepherd's beaked whales) ที่หาได้ยาก และสามารถบันทึกภาพได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ บริเวณนอกชายฝั่งรัฐวิคตอเรีย เมื่อกลางเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ด้าน ไมเคิล ดับเบิ้ล หัวหน้าทีมสำรวจและวิจัยในครั้งนี้ เผยว่า วาฬปากนอกเชฟเพิร์ด มีปากยื่นออกมาคล้ายกับโลมา และมีประวัติการพบเห็นเพียงแค่ 2 ครั้งเท่านั้น โดยครั้งแรกพบเพียงตัวเดียวที่นิวซีแลนด์ และเป็นกลุ่ม 3 ตัวทางตะวันตกของออสเตรเลีย แต่ไม่เคยมีผู้ใดบันทึกภาพเก็บไว้ได้มาก่อน อีกทั้งวาฬชนิดดังกล่าว ยังไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวข้องมากนัก จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ยังมีเหลืออยู่อีกกี่ตัวในโลก



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=chRraayIJhc"]Rare whales spotted in Bass Strait - YouTube[/ame]

 

ศภช.เตือนภาคเหนือ-อีสาน รับมือพายุฤดูร้อน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2555 09:50 น.

น.อ.สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (ศภช.) กล่าวว่า ระยะนี้ลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้มีหมอกเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการใช้รถใช้ถนน จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
ประกอบกับช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อน อาจจะเกิดพายุฤดูร้อน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออาคารบ้านเรือนที่ไม่แข็งแรงจากลมที่พัดแรงได้ จากลักษณะอากาศที่มีฝนฟ้าคะนอง อาจจะทำให้เกิดอันตรายและความเสียหายได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ จึงขอให้ติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดด้วย

 

เขื่อนที่ยังมีน้ำสูงระดับวิกฤต

เขื่อนกระเสียว(96%),

แม่งัด(86%),

ลำแซะ(86%)

 

เนปาล..ทะเลสาบธารน้ำแข็งใกล้แตก ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าว

น่าเสียวมากๆ ++

 

เนปาล..ทะเลสาบธารน้ำแข็งใกล้แตก ข่าวต่างประเทศ ข่าวอาชญากรรม ข่าวสังคม ข่าวเศรษฐกิจ ข่าว

น่าเสียวมากๆ ++

 

มีรายงานพนังรอบๆ Glacial Lake หรือ ทะเลสาบธารน้ำแข็ง (ทะเลสาบที่เกิดจากการละลายของน้ำแข็งบนภูเขา) ที่เทือกเขาหิมาลัย เริ่มมีอาการไม่เสถียรจากภาวะโลกร้อน หากแตกทลาย จะทำให้น้ำจำนวนมหาศาลไหลลงถง่มบ้านเมืองตามเชิงเขารอบๆ มีอันตรายสูง




Climber Warns of Looming Disaster in Himalayan Mountains - Link News

Prediction and assessment of multiple glacial lake outburst floods scenario in Pho Chu River basin, Bhutan - Osti - 2012 - Hydrological Processes - Wiley Online Library

Prediction and assessment of multiple glacial lake outburst floods scenario in Pho Chu River basin, Bhutan

Rabindra Osti*, Shinji Egashira, Yognath Adikari
Article first published online: 23 FEB 2012

Abstract

In this study, the characteristic of multiple glacial lake outburst floods (GLOFs) in the Pho Chu River basin in Bhutanese Himalayas is evaluated to help assess the potential impact. Thorthormi Cho (TC) and Lugge Cho (LC) in the east branch and two unnamed lakes labelled A and B in the west branch of Pho Chu are chosen for the study. Numerical models were employed to simulate different involved processes. The results show that the peak sediment discharge in the east branch of the Pho Chu River by the TC dam breach reached about 5000 m3/s (during the first GLOF) at 4 km whereas by the LC dam breach is about 600 m3/s (second GLOF) at 6 km. However, the highest peak hydrographs (sediment and water mixture) calculated during the first and second GLOF are about 10 000 m3/s at the 18-km section and about 23 000 m3/s at the 10-km section, respectively. In the west branch of Pho Chu, erosion and depositions are the frequent intermittent local processes during the first GLOF event from Lake A. Because the first event stabilized the irregular river bed profile, there is not much sediment discharge developed during the second GLOF from Lake B. At the 17-km section of the west branch, the peak hydrograph reached about 9000 m3/s during the first event against the peak of about 800 m3/s during the second event. The results suggest that even if multiple dam breaches occur simultaneously, GLOF surges pass through the main river channel at different times with very different flood characteristics. The differences in travel time and flood characteristics mostly depend on the distributions of bed slope and potential erosion depth along the reach. Further, the amount of sediment accumulated in and transported by each surge is reliant on the temporal geomorphologic setting of the river and therefore on the impact of the previous GLOF on riverbed profile and potential erosion depth. The robustness in peak GLOF hydrographs is associated with sediment flow dynamics. As a consequence, serious inundation of Punakha, Lobeysa and major portion of Wangdue Phodrang is anticipated.
Copyright © 2011 John Wiley & Sons, Ltd.

 

มีรายงาน นักวิทย์ฯ ค้นพบ ดาวศุกร์มีการโคจร(หมุนตัว)ช้ากว่า 16 ปีที่แล้ว




Scientists mystified why the rate of rotation on Venus is slowing

by Allison

SPACE – Planet lovers take note: Venus is spinning even slower than astronomers thought, according to new data from a European space probe. In the early 1990s scientists with NASA’s Magellan mission calculated that a single rotation of Venus takes 243.015 Earth days, based on the speed of surface features passing beneath the orbiting spacecraft. But scientists now mapping Venus’s surface with the European Space Agency’s Venus Express orbiter were surprised to find the same features up to 12.4 miles (20 kilometers) from where they were expected to be, based on the previous measurements. According to the new data, Venus is rotating 6.5 minutes slower than it was 16 years ago, a result that’s been found to correlate with long-term radar observations taken from Earth. “When the two maps did not align, I first thought there was a mistake in my calculations, as Magellan measured the value [of Venus's spin] very accurately,” Nils Müller, a planetary scientist at the DLR German Aerospace Centre, said in a statement. “But we have checked every possible error we could think of.” Planet Slowed by Dense Atmosphere? One possible cause for the slowed spin is friction caused by Venus’ thick atmosphere and high-speed winds. The motion of the atmosphere on Earth, for example, has been observed to affect the planet’s rotation rate, albeit to a much smaller degree. Thanks to a heavy blanket of carbon dioxide-laden air, the surface pressure on Venus is 90 times what we experience on Earth at sea level, and opaque clouds of caustic sulphuric acid constantly whip around the planet at hurricane speeds. Still, “it is difficult to find a mechanism that will cause the average rotation rate to change this much in only 16 years,” Venus Express project scientist Håkan Svedhem told National Geographic News. “The origin of this could lay in the solar cycle or in long-term weather patterns that modify the atmospheric dynamics. But this puzzle is not yet solved.” Some reports cite an exchange of angular momentum between Venus and Earth as a possible cause for the variation. A moon, for example, can cause a planet to rotate slower than expected, because both objects share angular momentum. –National Geographic

http://philosophers-stone.co.uk/wor...why-the-rate-of-rotation-on-venus-is-slowing/

 

เนปาล..ทะเลสาบธารน้ำแข็งใกล้แตก

วันศุกร์ ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555



ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนกำลังทำให้ทะเลสาบธารน้ำแข็งบนเทือกเขาหิมาลัย มีความเสี่ยงสูงที่จะแตกทะลัก

อาปา เชอร์ปา นักปีนเขาและมัคคุเทศก์นำเที่ยวภูเขาชาวเนปาล ซึ่งครองสถิติพิชิตยอดเขาเอฟเวอเรสต์มากที่สุดในโลกถึง 21 ครั้ง ออกมาเตือนเมื่อวานนี้ว่า ทะเลสาบธารน้ำแข็งจำนวนมากในเขตเทือกเขาหิมาลัยกำลังใกล้จะแตก โดยเขาเปิดเผยเรื่องนี้ หลังจากเสร็จสิ้นการเดินทางระยะ 1,700 กิโลเมตรข้ามเนปาลโดยใช้เวลา 120 วัน เพื่อรณรงค์สร้างความตระหนักเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกต่อยอดเขาสูงบนหิมาลัย

อาปากล่าวว่า ทะเลสาบธารน้ำแข็งหลายร้อยแห่งบนเทือกเขาหิมาลัยกำลังมีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากการละลายอย่างรวดเร็วของหิมะและน้ำแข็ง จากอุณหภูมิที่สูงขึ้น และเมื่อทะเลสาบล้น พนังก็อาจจะแตก และปล่อยน้ำปริมาณมหาศาลเข้าท่วมหมู่บ้านที่อยู่ต่ำกว่า จึงจำเป็นต้องหาวิธีหยุดยั้งไม่ให้ทะเลสาบเหล่านี้แตก ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

อาปา เริ่มแบกอุปกรณ์และสัมภาระให้กับนักเดินทางและนักปีนเขา ตอนที่อายุได้ 12 ปี เขาเริ่มปีนยอดเขาเอฟเวอเรสต์ครั้งแรกเมื่อปี 2532 และหลังจากนั้นก็ปีนเป็นประจำทุกปี

 

เผยรอยแยก “เขานมสาว”เกิดจากหินยกตัว-อาจเชื่อมรอยแยกระนอง-คลองมะรุ่ย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2555 11:28 น.


เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรอยแยกบนเขานมสาว อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา

พังงา - ผอ.สำนักงานทรัพยากร เขต 4 (สุราษฎร์ธานี) เผยรอยแยกบนภูเขา “นมสาว”จ.พังงา เกิดจากการยกตัวของภูเขาหรือการแทรกตัวของหินแกรนิตที่อยู่ใต้ชั้นหินเดิมดันขึ้น พร้อมเสนอหน่วยงานเตรียมศึกษารอยแยกเขานมสาวอาจเชื่อมโยงกับรอยเลื่อนระนอง และรอยเลื่อนคลองมะรุ่ยที่มีอยู่เดิม

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ ( 24 ก.พ.) นายธวัชชัย เทพสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากร เขต 4 (สุราษฎร์ธานี) กล่าวว่า จากที่ได้เดินทางพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญไปตรวจสอบรอยแยกบนภูเขานมสาว บ้านบางด้ง ต.บางนายสี อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา เพื่อหาสาเหตุ พบว่าเกิดจากการยกตัวของภูเขาหรืออาจเกิดจากการแทรกตัวของหินแกรนิตที่อยู่ใต้ชั้นหินเดิมดันขึ้นมาทำให้หินที่อยู่ส่วนบนเป็นแนวรอยแตก และรอยที่พบเป็นรอยที่เกิดขึ้นมานานแล้ว

สำหรับบริเวณที่เกิดรอยแยกก็ถือว่าเป็นจุดอ่อน ง่ายต่อการกระทบกระเทือนจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวรุนแรงมากกว่าจุดอื่น จึงทำให้เกิดความเสียหายมากกว่าจุดอื่น แต่จากการไปสังเกตพบว่าเป็นพื้นที่บนภูเขาซึ่งประชาชนไม่ได้ไปใช้ประโยชน์เป็นประจำ คาดว่าพื้นที่ที่ไปพบยังไม่น่าที่จะเกิดหินถล่ม เพราะมีต้นไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากที่ค่อยยึดติดอยู่

ต่อจากนี้ไปทางเจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรณีได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับทางคณะอาจารย์สงขลานครินทร์ เรื่องการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดแผ่นดินไหวในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์มีเครื่องมือแบบพกพา สามารถติดตั้งในพื้นที่ตามความเหมาะสม ร่วมกับเครื่องของกรมทรัพยากรธรณีที่มีอยู่แล้ว 1 จุด อยู่ที่ อ.วิพาวดี จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อจะได้มีข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้น ทำให้ศึกษาความลึกของจุดศูนย์กลางได้ชัดเจนมากยิงขึ้น

สำรับรอยเลื่อนใน จ.พังงา มี 2 รอยเลื่อน คือ รอยเลื่อนระนอง และรอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ที่วางแนวตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งในบริเวณนี้ยังมีรอยเลื่อนสาขาของรอยเลื่อนใหญ่นี้ด้วย เมื่อเกิดแผ่นดินไหวก็ต้องส่งผลกระทบถึงกันทั้งหมด อย่างไรก็ตามต่อจากนี้จะมีทางเจ้าหน้าที่ลงไปแนะชาวบ้านให้รับมือกับแผ่นดินไหว ซึ่งชาวบ้านเองก็ต้องปฏิบัติได้ถูกต้องด้วย

 

“ถนนหมด” รถร่วง!!!

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2555 09:52 น.


เอเยนซีจีน - สุภาพสตรีสามคน กำลังขับรถไปสถานีรถไฟเมืองฝูโจว เมืองเอกของมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา แล้วทำอย่างไรไม่ทราบ เธอขับรถหลงเส้นทางขึ้นไปบนทางยกระดับที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จใกล้กับสถานีรถไฟนั่นเอง

เส้นทางบนทางสะพานยกสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่สะพานเจ้ากรรมยังสร้างไม่เสร็จก็ปล่อยทางสุดไว้โล่ง ๆ ไม่มีอะไรกั้น แถมไม่มีสัญญาณด้านข้างใด ๆ บอกว่าข้างหน้าคืออากาศ... ไม่ใช่ราดยาง

สามสาวพารถของเธอขับตรงไปเรื่อย ๆ ไม่ทันเห็นว่าสะพานหมด ก็ขับรถตรงไปด้วยความเร็วระดับหนึ่ง เมื่อล้อสัมผัสกับอากาศก็เคลื่อนที่โค้งลงตามแรงเฉื่อยและแรงโน้มถ่วงของโลก ตกลงสู่พื้นในที่สุด ด้วยระดับความสูงถึง 10 เมตร

… แต่ยังโชคดีที่สามสาวได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่ถึงแก่ชีวิต

ชาวเน็ตหลายคนตั้งคำถามว่า เธอทั้งสามไม่สังเกตบ้างหรือว่าเส้นทางที่เธอขับมาไม่มีรถคันเลยแม้แต่คันเดียว

(ภาพซีอาร์ไอออนไลน์)

 

พบวัตถุต้องสงสัยรามคำแหง 24

24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 13:18 น. |เปิดอ่าน 38 | ความคิดเห็น 1

ระทึก! พบวัตถุต้องสงสัยวางหน้าตู้ไปรษณีย์ซ.รามคำแหง 24 เจ้าหน้าที่รุดตรวจพบภายในมีแค่ฟองน้ำ คาดโยงบึ้มสุขุมวิท 71

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 24 ก.พ. พ.ต.ท.ธารา เครือละม้าย สว.สส.สน.หัวหมาก รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่หน้าตู้ไปรษณีย์ ภายในซอยรามคำแหง24 ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. จึงประสานเจ้าหน้าที่เก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บช.น. เข้าตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบกล่องกระดาษสีแดงขนาดเท่ากับกระดาษเอ4 วางอยู่ข้างตู้ไปรษณีย์ จึงนำยางรถยนต์มาล้อมไว้ และกันคนออกห่างจากจุดดังกล่าว ภายหลังตรวจสอบพบว่า กล่องดังกล่าวไม่ใช่ระเบิดแต่อย่างใด ภายในบรรจุฟองน้ำอัดสี่เหลี่ยมห่อหุ้มด้วยหนังเทียมสีแดง แล้วพันด้วยเทปกาวสีดำเอาไว้ มีขนาดเท่ากับกระดาษเอ4 จำนวน 1 ชิ้น โดยไม่พบสารประกอบระเบิดแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบ

พ.ต.ท.ธารา กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ผู้หญิงคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่กำลังจะออกมาทำงาน พอผ่านตู้ไปรษณีย์ก็พบกล่องดังกล่าววางอยู่ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่มีใครเห็นว่า ใครเป็นคนนำมาวางไว้ หลังจากนี้จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบว่าใครเป็นคนนำมาวางทิ้งไว้ และมีเจตนาอะไร

ด้านพล.ต.ต.ชาญ วิมลศรี ผบก.น.4 เปิดเผยว่า เบื้องต้นยังไม่อยากสรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบหรือไม่ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่ถนนสุขุมวิท71 และไม่น่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด ต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

หมอกควันถล่มลำปางทัศนวิสัยมองเห็นแย่สุดรอบปี

24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 12:59 น. |เปิดอ่าน 187 | ความคิดเห็น 0



เมืองรถม้าเผชิญวิกฤตหมอกควันปกคลุมทัศนวิสัยมองเห็นต่ำสุดในรอบปี

สถานการณ์หมอกควันไฟที่ปกคลุมพื้นที่ จ.ลำปาง ขณะนี้เกิดจากหลายสาเหตุรวมกัน ทั้งการจุดไฟเผาในที่โล่งแจ้งของประชาชนเป็นหลัก โดยเฉพาะการเผาพื้นที่การเกษตร รองลงมา คือ การเกิดไฟป่า ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.ลำปาง ตลอดทั้งลมแรงที่พัดผ่านในพื้นที่ภาคเหนือ จึงทำให้หมอกควันไฟ จากไฟป่าในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง ได้แก่ จ.ลำพูน และ แพร่ ได้ลอยมาปกคลุมพื้นที่ จ.ลำปาง ทั้ง 13 อำเภอ ประกอบกับสภาพภูมิศาสตร์ของ จ.ลำปาง ที่เป็นแอ่งกระทะ โดยมีภูเขาสูงล้อมรอบ จึงทำให้หมอกควันไฟปกคลุมในพื้นที่อย่างหนาแน่น โดยไม่ลอยออกไปไหน จะวนเวียนอยู่ในแอ่งกระทะตามลักษณะภูมิศาสตร์ของ จ.ลำปาง

นอกจากนี้ สถานีอุตุนิยมวิทยาลำปาง ได้รายงานการตรวจวัดทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะไกลในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ ว่า ค่ามองเห็นได้เกิดต่ำสุดในรอบปี โดยวัดได้เพียง 800 เมตร เท่านั้น หรือไม่ถึง 1 กิโลเมตร ส่วนในช่วงสาย หลังผ่านไป 2 ชั่วโมง ค่าทัศนวิสัยในการมองเห็นระยะไกล ได้เพิ่มสูงขึ้นมา 1,500 เมตร หรือ 1.5 กิโลเมตร ดังนั้น จึงส่งผลทำให้เครื่องบินโดยสารขนาด 70 ที่นั่งของเที่ยวบินบางกอกแอร์เวย์ สายกรุงเทพมหานคร – ลำปาง สามารถบินลงจอดที่ท่าอากาศยานลำปาง ได้ตามปกติ แต่ก็ถือว่าเกิดความล่าช้านานกว่า 30 นาที มาเป็นวันที่สอง จากสถานการณ์หมอกควันไฟที่ปกคลุมพื้นที่ จ.ลำปาง โชคดีที่ในช่วงเครื่องบินจะลงจอด ทัศนวิสัยในการมองเห็น ไม่เหลือเพียง 800 เมตร ซึ่งอาจจะกระทบต่ออากาศยาน เครื่องบินไม่สามารถลงจอดได้