WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

แผ่นดินไหวปานกลางทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย​

​

นักธรณีวิทยาสหรัฐฯ กล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวปานกลางวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์ บริเวณทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐฯ วันนี้ แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือความเสียหาย ศูนย์สำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือ ยูเอสจีเอส รายงานว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไป 20 ไมล์ และห่างจากพรมแดนติดกับรัฐโอเรกอนราว 6 ไมล์ หรือ 10 กิโลเมตร

ขณะที่นักธรณีวิทยากล่าวว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนียอาจสร้างความเสียหายในวงกว้างได้ถึงร้อยละ 99 ในอีก 30 ปีข้างหน้า และว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ จะทำให้ประชาชนเสียชีวิตได้ถึง 1,800 คน บาดเจ็บกว่า 50,000 คน และจะสร้างความเสียหายต่ออาคารได้ถึง 300,000 หลัง

B5 - War Room Falkman

 

อั๊ยยะ...มาถี่จริงๆ rabbit_cry

B5 - War Room Falkman

 

<CENTER>14/02 กทม.เร่ง ลอกคูคลอง-ทำความสะอาดท่อระบายน้ำรับมือน้ำฝน

</CENTER>
นายจุมพล สำเภาพล รองปลัดกรุงเทพมหานคร ในฐานะคณะกรรมการวิสามัญศึกษาแนวทางการป้องกันน้ำท่วม กรุงเทพมหานครอย่างยั่งยืน กล่าวว่า กรุงเทพมหานครเตรียมการป้องกัน และรับมือกับสถานการณ์น้ำในปีนี้ โดยให้สำนักงานเขต และสำนักการระบายน้ำ เร่งดำเนินการขุดลอกคูคลอง และล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในพื้นที่ความรับผิดชอบ โดยใช้งบประมาณจากรัฐบาล และกรุงเทพมหานครรวมกว่า 1,200 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครจะต้องขุดลอกคูคลองหลักที่สำคัญต่อการระบายน้ำ จากเหนือลงสู่ใต้ และท้องย่อยกว่า 1,000 คลอง และจากทั้งหมด 1,700 คลอง และล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำยาวกว่า 6,400 กิโลเมตร ให้แล้วเสร็จก่อนสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อเตรียมรับมือกับฤดูฝนที่จะมาถึงนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลต่อสถานการณ์น้ำเหนือ หากพบว่าในปีนี้มีปริมาณน้ำมากดังเช่นในปีที่ผ่านมา จะทำให้ประสิทธิภาพของการระบายน้ำลดลง เนื่องจากระบบท่อและคูคลองของกรุงเทพมหานครสามารถรับมือกับน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง หรือตกต่อเนื่องไม่เกิน 3-4 ชั่วโมงต่อ 1 วัน


B5 - War Room Falkman

 

14-02-55



13-02-55

 

เมืองสองแควเตรียมเสนอแผนรับมือสถานการณ์น้ำปี 55

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 09:14 น.

นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอแผนบริหารจัดการน้ำของ จ.พิษณุโลก ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางมาติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาน้ำ และการพัฒนาพื้นที่รับน้ำของจังหวัด ซึ่งแผนงานจะเน้นหนักในพื้นที่ลุ่มต่ำ ประกอบด้วย อ.บางระกำ พรหมพิราม บางกระทุ่ม และ อ.เมือง แบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะสั้น ได้เตรียมแผนเผชิญน้ำที่จะเกิดขึ้นในปี 2555 โดยจะมีการขุดลอกคูคลองเพื่อเปิดทางน้ำให้กว้างขึ้น การเสริมคันดินบริเวณริมตลิ่งให้สูงขึ้นประมาณ 50 เซนติเมตร ถึง 1 เมตร และหาทางระบายน้ำออกไปรอบเมือง เพื่อป้องกันเขตเศรษฐกิจ
ส่วนแผนระยะยาว คือการจัดทำแก้มลิงที่ อ.บางระกำ ทำฝายแม้ว และโครงการปลูกป่า เพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง
ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ได้มีการเสนองานต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว จะนำคณะลงพื้นที่ใน อ.บางระกำ 2 จุด คือ โครงการคลองระบายน้ำคลองกล่ำ คลองเกตุ ต.ชุมแสง ซึ่งถือเป็นพื้นที่รับน้ำจาก อ.กงไกลาศ จ.สุโขทัย และโครงการพัฒนาแหล่งน้ำแก้มลิงบึงระมาน ซึ่งถือเป็นแก้มลิงขนาดใหญ่ พื้นที่ขุดลอกกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งจะเป็นพื้นที่รับน้ำช่วงฤดูน้ำหลาก และเก็บกักน้ำไว้ทำเกษตรกรรม

 

จุดดับ AR1402 ที่เคยปะทุปล่อย Flare ขนาด X2 จนเกิดพายุสุริยะและพายุแม่เหล็กโลกไปเมื่อ 27 มกราคม ได้หมุนกลับมาอีกรอบ แสดงว่ายังไมสลายตัวไป ถือเป็นจุดดับที่มีอายุยืนมากผิดปกติ

 

โรคลึกลับระบาด ตอนกลางทวีปอเมริกา ตายกว่า 20,000 คน

12 ก.พ. 55 14.09 น.



เกิดโรคลึกลับระบาดในหลายประเทศที่ตั้งอยู่ตอนกลางของทวีปอเมริกา ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คน โดยผู้ป่วยจะมีอาการไตวาย เหนื่อยอ่อน ไม่มีแรง ปวดศีรษะและอาเจียน

เกิดโรคลึกลับระบาดในหลายประเทศที่ตั้งอยู่ตอนกลางของทวีปอเมริกา โดยผู้ป่วยจะมีอาการไตวาย ทำให้ร่างกายมีแต่สารพิษส่งผลให้เกิดความเหนื่อยอ่อน ไม่มีแรง ปวดศีรษะและอาเจียน อาการรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยขณะนี้พบผู้เสียชีวิตจากอาการดังกล่าวประมาณ 20,000 คน ขณะที่ นักวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานการพบโรคในพื้นที่ตั้งแต่ภาคใต้ของประเทศเม็กซิโกลงไปจนถึงปานามา ซึ่งเป็นย่านอเมริกา

 

"ปลอดประสพ"แจงไต้ฝุ่น 27 ลูก กระทบไทยแค่ลูกเดียว


เมื่อเวลา 08.30 น. ที่โรงแรมอัมรินทร์ ลากูน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รมว.วิทยาศาสตร์ ให้สัมภาษณ์ชี้แจงก่อนเข้าร่วมประชุมติดตามแผนงานและโครงการป้องกันน้ำท่วมจังหวัดพื้นที่ต้นน้ำกับนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีที่ระบุว่าปีนี้จะมีไต้ฝุ่น 27 ลูก และพายุโซนร้อนอีก 3 - 4 ลูก ว่า ข้อมูลที่ตนนำเสนอเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ไม่ได้คิดเอง แต่อ้างอิงจากหลายแหล่งวิชาการ ทั้งจากสถาบันสมุทรศาสตร์ของสหรัฐฯ หรือโนฮาว ซึ่งดูแลมหาสมุทรแปซิฟิก ข้อมูลจากการใช้โมเดล ข้อมูลประวัติย้อนหลังของพายุ 100 ปี และข้อมูลจากอุณหภูมิน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก และข้อมูลจากความสูงของคลื่นในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนตอนใต้ ซึ่งพบว่าจะมีไต้ฝุ่นในมหาสมุทรแปซิฟิกประมาณ 27 ลูก แต่เมื่อมาถึงประเทศไทยจะกลายเป็นพายุโซนร้อนประมาณ 3 - 4 ลูก ซึ่งในจำนวนนี้จะเข้าผ่ากลางและประชิดประเทศไทยแบบเต็ม ๆ ประมาณลูกเดียว ส่วนอีก 2 - 3 ลูกจะเฉียดข้าง ๆ แต่ก็ยังมีอิทธิพลต่อดินฟ้าอากาศในประเทศไทย ทำให้เกิดฝน และพายุ นอกจากนี้ก็จะมีร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านด้วย

" โดยสรุปจะมีฝน 1,700 มิลลิเมตร ซึ่งถ้าคิดเป็นน้ำจะประมาณ 5 - 6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่ป่าจะดูดซับเอาไว้ 50 % ก็จะเหลือ 2 หมื่นล้าน ลบ.ม. ซึ่งตามแผนของเราคือให้เขื่อนเก็บไว้ 5 พันล้าน ลบ.ม. ก็จะเหลืออีก 1.5 หมื่นล้าน ลบ.ม. ซึ่งน้ำก้อนนี้พอไหลผ่าน จ.พิจิตร นครสวรรค์ อยุธยา แก้มลิงก็จะทำงาน เก็บน้ำไว้อีก 5 พันล้าน ลบ.ม. เมื่อพ้นอยุธยามาก็จะเหลือน้ำอีก 1 หมื่นล้าน ลบ.ม.ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะผ่ากลางกทม.ด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา อีก 2 ส่วนจะไปออกทางแม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางประกง โดยจะระบายผ่านกทม.วันละประมาณ 300 - 400 คิว/วินาที ใช้เวลาเดือนครึ่ง หรือประมาณเดือน พ.ย.น้ำถึงจะหมดไป ประชาชนก็ไม่เดือดร้อน" นายปลอดประสพ กล่าว และว่า เราสมมุติฐานไว้ว่าปริมาณน้ำจะเท่ากับปีที่แล้ว แต่การบริหารจัดการดีกว่าเดิม โดยควบคุมการระบายน้ำให้เข้า-ออกผ่านทางแก้มลิง จะไม่มีการกั้นน้ำหรือทำบิ๊กแบกอีก ต้องให้น้ำมาและไปโดยเร็วที่สุด และปีนี้จะมีการกำหนดขั้นตอนการเตือนภัยโดยละเอียด 20 ข้อ ตั้งแต่พายุมา น้ำฝนไหลหลาก น้ำท่วมมาถึงภาคกลาง และการระบายน้ำพ้นกทม. เป็นต้น

" ยืนยันว่ากทม.ไม่ท่วมแน่นอน หัวเด็ดตีนขาด ถ้าท่วมก็จะท่วมน้อยมาก สั้นมาก ตื้นมาก เอาคอเป็นประกันได้ " นายปลอดประสพ และว่า อย่างไรก็ตามแนวทางที่ดีที่สุดคือขณะนี้ กทม.ต้องไปขุดลอกคูคลองให้ดี และขอให้ผู้ว่าฯกทม.มาพูดคุยและร่วมกับประชุมกับพวกเราที่ จ.พระนครศรีอยุธยาตามคำเชิญด้วย เมื่อถามว่าพายุที่ว่าจะมาในช่วงไหน นายปลอดประสพ กล่าวว่า จะทยอยมาประมาณเดือนพ.ค. และหนักสุดก็เดือน ก.ค.-ส.ค. ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ " ชาวบ้านก็ปลูกตะไคร้ไว้เยอะ ๆ หน่อย"



"ปลอดประสพ"รับปีนี้เกิดโซนร้อน 3-4 ลูก ปชช.อย่าตื่นตกใจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 11:54 น.

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึงกรณี หลังได้รายงานสถานการณ์น้ำปีนี้ ระหว่างการบรรยายสรุปที่เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ว่ามีการคาดการณ์และพยากรณ์น้ำปีนี้ มีไต้ฝุ่น 27 ลูก พายุโซนร้อน 3-4 ลูกพัดผ่านเข้าประเทศไทย ยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวตนเองอ้างอิงจากมหาสมุทรแปซิฟิก และทะเลจีนใต้ ที่พายุทั้ง 27 ลูก เมื่ออ่อนกำลังลงจะกลายเป็นพายุโซนร้อน ประมาณ 3-4 ลูก ซึ่งเข้าประเทศไทยเพียง 1 ลูก ส่วนอีก 2 ลูกพัดใกล้ประเทศไทย โดยมีพายุ 1 ลูกพัดผ่านจากภาคเหนือลงไปภาคใต้
ทั้งนี้ คาดการณ์จะมีประมาณน้ำฝน 1,700 มิลลิลิตร หรือคิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 5-6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีพื้นที่ป่ารับน้ำ 3 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร มั่นใจปีนี้น้ำไม่ท่วมเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีแผนบริหารจัดการน้ำแล้ว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวด้วยว่า ช่วงเวลาที่พายุพัดผ่าน ประมาณเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตกใจกับข้อมูลที่นำเสนอ พร้อมขอความร่วมมือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ด้วย เพื่อนำข้อมูลมาบูรณาการร่มกัน

 

14/02 นักวิชาการค้นพบกำแพงหินโบราณอายุนับหมื่นปี บริเวณรอบสวนสัตว์เชียงใหม่

เจ้าหน้าที่และนักวิชาการประจำสาขาสถาปัตยกรรม คณะศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา สำรวจพื้นที่รอบสวนสัตว์เชียงใหม่ หลังค้นพบแนวกำแพงหินโบราณที่คาดว่ามีอายุราว 8,000-15,000 ปี และอาจเป็นการค้นพบแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ นายพูนทรัพย์ วงศาศุกลปักษ์ นักวิชาการอิสระ เปิดเผยว่า ผังเมืองเวียงเจ็ดลิน ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพในยุคร่วมสมัยกับเมืองเชียงใหม่ แต่จากการค้นพบเครื่องมือหิน ทำให้เชื่อว่าเวียงเจ็ดลินมีอยู่ก่อนเมืองเชียงใหม่ โดยมีลักษณะเป็นวงกลมมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 900 เมตร ซึ่งมีถนนห้วยแก้วในปัจจุบันตัดผ่าน จากการค้นพบแนวกำแพงหินโบราณเป็นวงกลมเรขาคณิตครอบทับวงกลมเดิมของเวียงเจ็ดลินอีกชั้น คาดว่าจะมีอายุย้อนไปในยุคเมโสโปเตเมีย นอกจากนี้ ยังพบว่าเวียงเจ็ดลินมีความพิเศษต่างจากเมืองอื่นๆ ในประเทศไทย และทั่วโลก เพราะมีตาน้ำเป็นจุดๆ อยู่ศูนย์กลางของเมือง แต่หากเป็นเมืองโบราณอื่นๆ ที่มีศาสนสถานเป็นจุดศูนย์กลาง จึงเชื่อว่าอาจไม่ใช่ที่อยู่ของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการค้นคว้าความเป็นตัวตนของเวียงเจ็ดลินต่อไป












daily news

 

แผ่นดินไหว 6.0 ภาคตะวันออกญี่ปุ่น

14 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 14:23 น. |เปิดอ่าน 51 | ความคิดเห็น 0

เหตุแผ่นดินไหวทางตะวันออกญี่ปุ่น 6.0ริกเตอร์ ยังไม่มีรายงานความเสียหายหรือ เตือนภัยสึนามิ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงาน เกิดเหตุแผ่นดินไหว แรงสั่นสะเทือนประมาณ 6.0 ริกเตอร์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ หรือแม้แต่การเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิ

รายงานระบุว่า ศูนย์กลางของเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ อยู่ลึกลงไปจากพื้นดินใต้ท้องทะเลประมาณ 10 กม. และอยู่ห่างจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นไป 166 กม.

จากเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความหวั่งเกรงกันว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิ ที่พึ่งมีเหตุเกี่ยวกับสารกัมมันตรังสีรั่วไหล ไปเมื่อต้นปีที่ผ่นมา อาจได้รับความเสียหาย แต่ทาง บริษัทโตเกียวอิเล็กทริกส์ เพาวเวอร์ ได้ออกมายืนยันแล้วว่า สภาพของโรงไฟฟ้ายังดีอยู่

 

ด่วน!! บึ้มสนั่น ซ.สุขุมวิท71 ตาย1 เจ็บ 3



(เบื้องต้น) เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่หน้าโรงเรียนเกษมพิทยา ถ.สุขุมวิท71 เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1ราย บาดเจ็บอีก 2คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังรุดตรวจสอบ และได้สั่งปิดการจราจรในบริเวณดังกล่าวแล้ว

ด้าน js100radio ได้รายงานว่า แรงระเบิดได้ทำให้แท็กซี่เสียหายไปด้วย 1คัน

Photo/Twitter@motorcyrubjang

Mthai News

*****

จากINN รายงานว่า เมื่อสักครูที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้น 3 ครั้ง ใน 3 จุด ที่ ระหว่าง ซ.ปรีดีพนมยงค์ 31-42 ซ.สุขุมวิท 71 ท้องที่ สน.คลองตัน ที่เกิดเหตุทราบว่าเป็นโทรศัพท์เรียงกันอยู่หลายตู้ สอบถามจากประชาชนในบริเวณนั้นทราบว่า คนร้าย มีลกัษณะเหมือนแขกขาว หิ้วเป้สะพายมา และวางไว้ที่บริเวณดังกล่าว และมีพลเมืองดีได้ยกกระเป๋าดังกล่าวจะตามไปคืนให้ แต่เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่น ทำให้ชายไม่ทราบชื่อ ขาขาดทั้งสองข้าง 1 ราย และถูกสะเก็ดระเบิดบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย ถูกนำส่ง โรงพยาบาลกล้วยน้ำไทแล้ว ที่บริเวณหน้าโรงเรียนเกษมวิทยา ล่าสุดทาง ตร.สน.คลองตัน ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว และตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี รุดไปที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนส่าเหตุจะเป็นการก่อวินาศกรรมหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป

 

15.18น. ซอยปรีดีพนมยงค์ 31 ถ.สุขุมวิท 71 ที่มีเหตุคาร์บอมส์ เป็นรถแท็กซี่ สีแดง ทะเบียน ทร-1419กทม. เสียหายยับเยิน ผู้บาดเจ็บ 3ราย จนท.ช่วยเหลือส่งรพ.กล้วยน้ำไท 1 ..

.(ขอบคุณภาพจาก @TiTleThanapong)

 

ระเบิดตูมสนั่นกลางสุขุมวิท 71 ยังไม่รู้วินาศกรรมหรือไม่

เกิดเหตุระเบิดกลางซอยสุขุมวิท 71 โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายราย เบื้องต้นมีคนเห็นชายต้องสงสัยคล้ายแขกขาว ถือกระเป๋าสะพายไปวางไว้ที่ตู้โทรศัพท์สาธารณะ แต่พลเมืองดีไปหยิบเพื่อนำไปคืน แต่กลับเกิดระเบิดตูมสนั่น 3 ครั้งซ้อน ยังไม่รู้เป็นเจตนาวินาศกรรมหรือไม่

วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณ ซอยสุขุมวิท 71 ระหว่าง ซอยปรีดีพนมยงค์ 31-34 พื้นที่ความรับผิดชอบของ สน.คลองตัน โดยมีผู้ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นถึง 3 ครั้ง บริเวณตู้โทรศัพท์สาธารณะที่วางเรียงรายกันหลายตู้ บริเวณหน้าโรงเรียนเกษมพิทยา

เบื้องต้นประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระบุว่า ก่อนเกิดเหตุ มีชายต้องสงสัย ลักษณะคล้ายแขกขาว หิ้วกระเป๋าสะพายคล้ายเป้ เดินไปวางไว้ที่บริเวณตู้โทรศัพท์ดังกล่าว และได้พยายามเดินหนีไป แต่มีชายพลเมืองดี ได้หยิบกระเป๋าใบนั้น เพื่อจะเดินตามไปส่งคืน ทว่า ก็เกิดเหตุระเบิดขึ้น ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บขาขาดทั้ง 2 ข้าง 1 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 2 ราย ซึ่งถูกนำส่งโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทแล้ว

ล่าสุด ทาง ตร.สน.คลองตัน ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว และตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ อีโอดี รุดไปที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนส่าเหตุจะเป็นการก่อวินาศกรรมหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับรายชื่อผู้บาดเจ็บเบื้องต้น ทราบชื่อ นายสินชัย บุญสูงเนิน อายุ 62 ปี โชเฟอร์แท็กซี่ ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณซอยปรีดีพนมยงค์ 31 อีก 3 รายประกอบด้วย นายสังวาลย์ หอประสาททอง ไม่ทราบอายุ นางจุฑาทิพย์ สัจจะดำรงค์ อายุ 62 ปี และ นายอภิชาติ คำลือ อายุ 62 ปี ถูกสะเก็ตระเบิดบริเวณหน้าโรงเรียนเกษมพิทยา

ความคืบหน้าและรายละเอียด จะนำมาเสนอให้ทราบต่อไป



ชายต้องสงสัย ลักษณะคล้ายแขกขาว ที่ระบุว่าเป็นผู้ก่อเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัส