<SPAN>ชมรมขุนแผนระฆังทอง&เจดีย์ทอง หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ (โชว์ภาพและประสบการณ</SPAN

ในห้อง 'ลงประกาศ ซื้อ-ขาย หรือทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย knutch, 8 สิงหาคม 2010.

  1. Duixx

    Duixx สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    คุณ วุธ ครับ
    ผมจอง พระขุนแผนพิมพ์เล็กตะกรุดเงิน 1 องค์
    พระขุนแผนพิมพ์เล็กตะกรุดทองแดง 1 องค์
    เหรียญหลวงปู่ทิมพิมพ์รุ่นแรกย้อนยุคเนื้อนวะด้านหลังเป็นรูปพระเจ้าตาทรงม้า 3 องค์
    ส่วนเงินผมโอนพร้อมกันที่เดียวหลังจากทราบราคาที่ปรับใหม่ครับ ขอบคุณครับ
     
  2. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    ประสบการณ์จากผู้ที่ใช้ขุนแผนระฆังทอง
    .....งั้นขอจองเหรียญนวะโลหะ รุ่นพิชิตมาร
    ที่พี่วุธว่า...อีก 2 เหรียญครับ..

    ..ผมมีเรื่องเล่าด้วยนะครับ
    เกี่ยวกับขุนแผนระฆังทองครับ
    พอดีผมได้รับมาพร้อมกับพระผงเศียรเล็ก
    คืนแรก........
    แฟนนึกว่าผมตื่นมาฉี่ในห้องน้ำ (แยกห้องนอน)
    แล้วสงสัยว่าลูกคนเล็กร้องไห้
    ทำไมผมไม่โผล่ไปดูลูกเลย
    ตื่นเช้ามาเค้าถามผมว่า..พี่เข้าห้องน้ำป่าวเมื่อคืน??
    ผมบอกไม่ได้ลุกมาเข้าห้องน้ำเลย...

    ...อีกคืนต่อมาผมหลับหัวค่ำ
    แฟนปลุกให้มาฟังเสียงคนเขย่าประตู เหล็กดัดหน้าต่าง เหล็กดัดประตูโรงรถ
    เค้าบอกรู้สึกเหมือนบ้านโดนเขย่า
    ผมตื่นมาได้ยินนิดนึง (พอเป็นหลักฐาน)
    เค้าบอกเสียงดังมาก นึกว่าขโมย นานด้วย
    ผมตื่นมาก็บอกว่า ไม่เห็นมีอะไรเลย
    แต่ในใจนึกว่า....แม่นแล้ว
    พอผมกลับไปนอนก็มีเสียงอีกตั้งนาน
    สงสัยไม่ได้จุดธูปบอกเจ้าที่
    รุ่งขึ้นตอนหัวค่ำ ก็เลยจุดธูป 16 ดอก
    บอกเจ้าบ้าน แล้วก็เงียบไปเลยจนเดี๋ยวนี้
    ปล.รู้สึกขายของดีขึ้นนะ
    คนผ่านมาพอเห็นหน้าผม ต้องแวะ

    ย่อ ๆ นะพี่
    เล่าไม่ค่อยมันส์ พอดีผมจะออกไปข้างนอก

    ขอบคุณพี่วุธ พี่ศิ ครับผม

    สุดยอดนะประสบการณ์ วันนี้ก็มีพวกมาเล่าเรื่องประสบการณ์ขุนแผนระฆังทองว่า ขับรถไปได้ยินเสียงเด็กกระซิบที่หูให้ชิดซ้าย พอชิดซ้ายไป รถคันหลังแซงไปสุนัขได้ตัดหน้ารถคันที่แซง ผู้ที่เล่าให้ฟังคนนี้ใส่ขุนแผนตะกรุดทองแดงที่ผมกด และมีเพื่อนเขาบางท่านไม่อยู่บ้านซึ่งไม่มีใครอยู่บ้านเลย แต่มีคนข้างนอกโทรเข้าไปมีรับโทรศัพท์เป็นเสียงเด็กบอกว่าไม่อยู่ ผมเองก็งงและอึ้งๆไปเหมือนกัน แต่ที่บ้านผมมีทั้งพระและเทพเต็มไปหมดแต่แฟนก็เคยได้ยินเสียง ผมเองจิตแข็งมากไม่เคยเห็นอะไรนานแล้วแต่สมัยเด็กเห็นประจำ อันที่จริงพรายกุมารท่านไปได้ทุกหนทุกแห่งด้วยเดชแห่งคุณพระรัตนไตรทั้งบุญฤทธิ์อิทธิ์ฤทธิ์เขามีเต็มเปี่ยม...แต่ทางที่ดีเพื่อเป็นมารยาทที่ดี ควรเคารพเจ้าของที่ เจ้าที่เจ้าทาง บอกกล่าวท่านซักหน่อย แต่กุมารเทพที่หลวงปู่ท่านนำมาไว้ ผมเข้าใจว่า ท่านคง นำทั้งกุมารเทพชายกุมารีเทพหญิงมาสิ่งสถิตย์ไว้นั่นเอง เพื่อให้เขาเหล่านั้นได้บำเพ็ญบุญบารมี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  3. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆๆๆที่เล่าสู่กันฟังครับ:cool:
     
  4. Lee_bangkok

    Lee_bangkok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,751
    ค่าพลัง:
    +4,741
    ดีปีใหม่นะครับ สุดยอดเลยนะเรื่องเล่า แล้วขุนแผนรุ่นเจดีย์ทองของพี่วุธ ต้องจุดธุปด้วยไหมครับ 16 ดอก
     
  5. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    เห็นว่าพรุ่งนี้คุณวุธ+เจ้ศิ จะไปเอากลองพระกันแล้ว ดีใจกับทุกคนด้วยครับที่จะขุนแผนรุ่นเจดีย์ทองคล้องกันแล้ว หลังจากรอกันมานานปีกว่าๆๆๆ
     
  6. dansa

    dansa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +490
    นานสมการรอคอยของดีที่ทุกคนคู่ควร อิ อิ แซวเล่นนะครับ
     
  7. buakaew2007

    buakaew2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    1,410
    ค่าพลัง:
    +6,221
    กราบหลวงปู่

    มาแว้วววววววว
    รอมานานจนเสื่อพัง
     
  8. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ท่านเป็นพระเคร่งและแตกฉานในพระธรรมวินัยอย่างยิ่งท่านเป็นพระที่ถือศิลบริสุทธิ์ ปฏิบัติดีงาม มีศิลจริยวัตรงดงามมาตลอด สมเป็นศิษย์แห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแท้จริง หลวงปู่ทิมท่านเป็นพระไม่ค่อยพูดนัก ถามคำตอบคำ ท่านฉันมื้อเดียวซึ่งเป็นอาหารเจ มีข้าวกับผัก-ถั่วฝักยาวและพริกเท่านั้น น้ำท่านจะฉันน้ำชาตอน 4 โมงเย็น นอกนั้นท่านจะไม่ฉันน้ำเลย หลวงปู่ทิมท่านไม่ฆ่าสัตว์แม้แต่ยุงท่านก็ไม่ตบยุง บางครั้งลูกศิษย์หวังดีตบยุงหรือใช้ยาท่านจะสั่งห้ามเด็ดขาด หลวงปู่ทิมท่านจะสรงน้ำเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้นในคืนจันทร์เพ็ญเดือน 12 (วันลอยกระทง) นอกจากท่านจะเคร่งในพระธรรมวินัยแล้ว หลวงปู่ทิมท่านยังเรืองพระเวทย์อาคมขลัง รอบรู้ในสรรพวิชาไสยเวทย์ คาถาอาคม ยารักษาโรค เท่าที่ทราบมา หลวงปู่ทิมร่ำเรียนวิชาจากตำราหลวงปู่สังข์เฒ่า นอกจากนั้นท่านยังไปศึกษาวิชาจาก หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย หลวงอ่ำ วัดหนองกระบอก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อกราด วัดชากก่อไผ่ อีกด้วย นอกจากนี้ท่านยังสร้างพระเครื่องของท่านมีสร้างไว้หลายอย่าง รวบรวมไปถึงเครื่องรางของขลังชนิดต่างๆมากมายอีกด้วย<O:p</O:p

    พระเครื่องทุกเกจิอาจารย์ของชาวพุทธ ส่วนใหญ่จะมีข้อห้ามไว้ทุกอาจารย์ ข้อห้ามสากลโดยส่วนใหญ่คือห้ามด่าพ่อแม่ผู้มีพระคุณและห้ามเป็นชู้ผิดเมียใคร พระเครื่องของหลวงปู่ทิมก็มีไว้เช่นนั้นเช่นกัน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ในบรรดาข้อห้ามของหลวงปู่ทิมและเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ ผมเชื่อว่ายังมีข้อห้ามบางอย่าง ที่เราควรศึกษาเจาะลึกให้ความสำคัญและต้องจดจำไว้ควรนำมายึดถือปฏิบัติกัน ผมเองก็พอทราบมาบ้างแต่ก็ไม่รู้ว่ามีข้อห้ามใดที่หลวงปู่ทิมหรือเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆท่านถือปฏิบัติเป็นสัญญาอะไรไว้บ้าง หรือข้อห้ามบางอย่างที่ไม่ได้สั่งห้ามแต่มีเคล็ดหรือมีผลกระทบกับพลังงานในวัตถุมงคลโดยตรง
    แต่ที่ผมนำข้อความนี้เท่าที่นึกได้และถือปฏิบัติเฉพาะตนเองมานาน ใครอ่านจะเอาไปปฏิบัติตามก็ไม่ว่ากัน หรือจะไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่ายากก็ไม่ว่ากัน จะว่าพระอยู่ที่ใจท่านที่คิดเช่นนี้ก็ถูกและเป็นคำตอบที่สวยหรูเข้าที่ ท่านก็ไม่จำเป็นต้องใส่พระก็ได้ เมื่อถึงวินาทีเป็นวินาทีตายซึ่งท่านมีขั่วบวกขั่วเดียวถ้าดวงไม่ถึงฆาตถ้าเทพประจำตัวคุ้มครองคุณได้ยังคุ้มครองได้ก็รอดไป ถ้าถึงคราวซวยขั่วบวกขั่วเดียวของคุณก็ช่วยอะไรไม่ได้ ต้องมีขั่วบวกและขั่วลบจูนสื่อถึงกัน พระเครื่องเหมือนอาวุธหรือเกราะคุ้มภัยเราได้
    ทุกสิ่งอยู่ทีใจแต่ทุกสิ่งก็อยู่ภายใต้พันธสัญญาและกฏแห่งธรรมชาติที่ทุกสิ่งบนโลกไม่เที่ยงเช่นกัน มีกันก็ต้องมีแก้ มีแก้ก็ต้องมีเรียกกลับคืนเป็นวัฏจักร


    การผิดครูถ้าพลั้งเผลอ..ควรบอกกล่าวครูบาอาจารย์ก่อนท่านก็เข้าใจเราในเหตุผลต่างๆและพออนุโลมกันได้ในเรื่องสุดวิสัย แต่อะไรที่ไม่ดีไม่งามคนโบราณจะกล่าวไว้ให้หลีกเลี่ยงอย่าไปทำ เพราะพระโบราณส่วนใหญ่จะเป็นพระเคร่งมาก ถ้าเราทำผิดไปก็ขึ้นอยู่ที่ว่าเราเจตนาและเหตุเกิดจากความจำเป็นเรื่องสุดวิสัยการเข้าตาจนจริงๆเท่านั้น
    ถือตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่งไว้ไม่ได้คิดลบหลู่ดูหมิ่นท้าทายคุณครูบาอจารย์เป็นดีทีสุด

    สำคัญการใช้พระเครื่องพึงระลึกไว้เสมอเรื่องกฏเหล็กอย่าผิดคำครู
    ส่วนกรณีในเรื่องเล็กน้อย ไม่ได้มีเจตตา พิจารณาตามเหตุการณ์ความเหมาะสมความจำเป็น เวลา สถานที่ และ เจตนา บางครั้งเป็นเรื่องสุดวิสัยไม่มีเจตนาทำไม่ดีกับท่าน เราก็ควรระลึกถึงท่านกล่าวคำขอขมา<O:p</O:p

    หมั่นทำบุญทำทานสร้างกุศลถือศิลสวดมนต์อยู่เสมอ คุณพระคุณเจ้าย่อมคุ้มครอง อานุภาพแห่งรัตนคุณไตรไม่มีวันเสื่อม แต่พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังทั้งหลายนั้นมีวันจืดจาง หรือ เคลื่อนคลายออกได้ ตรงนี้ใครจะเชื่อว่าไม่มีวันเสื่อมก็ตามใจ ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ คำนี้ไม่เถียงครับ แต่จะอธิบายให้เข้าใจคือคุณพระศรีรัตนคุณไม่มีเสื่อมสลาย แต่คุณพระศรีรัตนไตรเคลื่อนคลายจืดจางออกจากวัตถุหรือมวลสาร(สิ่งที่ไม่มีชีวิตจิตวิญญาณ)นั้นๆได้ ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยงไม่มีอะไรยั่งยืน ยกเว้นพระพุทธคุณ พระธรรรมคุณ พระสังฆคุณ พระนิพพานอันเป็นที่ตั้งซึ่งเป็นสิ่งจริงเที่ยงแท้แน่นอน แม้แต่เทพพรหมหรือพระเจ้าก็ยังไม่ยั่งยืนไม่เสถียรเลยเมื่อบุญบารมีหมดก็ต้องเวียนว่ายตายเกิดเช่นกัน แล้วนับประสาอะไรกับวัตถุธาตุที่อาศัยอำนาจแห่งคุณพระรัตนไตรเมื่อถึงคราววัตถุมงคลนั้นๆต้องย่อยสลายจะไม่เคลื่อนคลายออกกลับคืนสู่แหล่งที่มา ตามสภาพแห่งกฏหลักของธรรมชาติ ก็เพราะพระเครื่องเป็นเพียงโลหะวัตถุที่ถูกสังเคราะห์พลังงานที่นำพลังงานของจิตแฝงฝังไว้นั่งเอง วัตถุธาตุไม่สามารถมีชีวิตหรือไม่สามารถสำเร็จพระนิพานได้เอง ยกเว้นวิชาเล่นแร่แปรธาตุอย่างเช่นเหล็กไหลที่มีดวงจิตของผู้วิเศษทำไว้ถอดจิตสิงสถิตย์อยู่ซึ่งบำเพ็ญบารมีให้บรรลุธรรมเพื่อการหลุดพ้นวัฏจักรสงสาร
    เพราะฉะนั้นพระคณาจารย์จึงเสกวัตถุมงคลนั้นให้มีชีวิตมีพลังงานให้มีจิตวิญญาณ หนุนด้วยธาตุทั้งสี่ ดินน้ำไฟลม เพื่อยึดพลังงานพุทธคุณให้ฝังสถิตในธาตุโลหะหรือมวลสารนั้นๆไว้ให้มีพลานุภาพตามต้องการ และน้อยนักที่จะมีระดับพระเกจิอาจรย์ที่ปลุกเสกพระเครื่องขั้นสุดยอด โดยใช้ถอดจิตปลุกเสกฝังจิตของท่านตรึงไว้ในกองพระทุกๆองค์ ถ้าพระเครื่องนั้นมีจิตอริยสงฆ์ฝังอยู่สิงสถิตย์อยู่เปรียบเสมือนรถยนต์ที่มีผู้ขับคอยขับเคลื่อนพลังงานของพระรัตนคุณใช้พลังงานตามจุดประสงค์ความต้องการของผู้สวมใส่พระพระเครื่อง ถือว่าสุดยอดที่สุดกว่าพระเครื่องหรือเครื่องรางชนิดใดๆ

    ส่วนฆารวาสหรือพระท่านใดที่ไม่ถึงขั้นญาณอภิญญา เขาจะเสกเชิญพระพุทธคุณและเทวะคุณครูอาจารย์มาอยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น พลังสามารถเคลื่อนคลายถอนออกได้เช่นกัน

    พระพุทธคุณไม่มีวันเสื่อมหรือแตกดับสลายหรือมิอาจโดนทำลายลงไป แต่พุทธคุณมีวันเสื่อมจากวัตถุมวลสารนั้นๆหรือจืดจางเคลื่อนคลายออกจากมวลวัตถุนั้นๆได้ คำว่า เสื่อม กับคำว่า เคลื่อนคลาย ไม่เหมือนกัน ควรทำความเข้าใจตรงนี้ด้วยครับพุทธคุณไม่มีเสื่อมแต่เคลื่อนคลายออกได้ ถอดถอนสูบคัดออกได้ โดยผู้มีศิลญาณสมาบัติเหนือกว่า หรือลดน้อยถอยลง จากผู้ใช้ปฏิบัติไม่ดีและหลักธรรมชาติ
    ครูอาจารย์ดีระดับอริยบุคคล4ใกล้ถึงพระนิพานไม่มีเสื่อมจากญาณอภิญญาสามารถปรับระดับญาณขึ้นลงในเวลาเสกของนั้นๆได้
    พระเครื่องดีต้องดีทั้งนอกและใน เหมือนมีชีวิต เข้มขลังแรงกล้าเปี่ยมไปด้วยบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ มีพุทธคุณครอบจักรวาล ใช้ขอได้ตามแต่ปรารถนาดุจดั่งดวงแก้วสารพัดนึก
    พระเครื่องดีครบพร้อมก็ต้องมีทั้งคุณพระรัตนไตร เทวคุณ คุณครูอาจารย์ และ จิตพระผู้สร้างที่เป็นระดับอริยสงฆ์อยู่ในพระเครื่องด้วยจึงถึงจะเรียกว่าสุดยอดจริง การเสกพระเครื่องเวลาพรามณ์บวงสรวง เขาเชิญคุณพระรัตนคุณ เหล่าทวยเทพชั้นสูง-เทพชั้นล่าง ครูฆารวาสผู้เป็นอาจารย์มาช่วย ซึ่งต่างระดับชั้นลดหลั่งกันไป ต่างจิตต่างฤทธิ์ต่างเดชต่าง พระเวทย์มนต์บางอย่างในด้านเสน่ห์ พระสงฆ์ก็มิอาจจะเสกได้เนื่องด้วยกฏพระธรรมวินัย เพราะฉะนั้น ของจากเข้มขลังครบทุกระดับต้องมีให้ครบเครื่อง ผมจึงบอกให้ท่านรักษาพระเครื่องของท่านไว้ให้ดีรักษาพลังงานในวัตถุมงคลไว้ให้ดี ไม่ใช่เพียงแต่รักษาสภาพความสวยงามของพระเครื่องไม่ให้สึกหรือลดความสวยงามไปเท่านั้น <O:p</O:p

    ข้อควรปฏิบัติอื่นๆของพระเครื่องและเครื่องรางของขลังทุกอาจารย์เมื่อวิเคราะห์ให้ลึกจริงๆแล้วของบางอย่างไม่เสื่อมพลังลงเลยเปรียบเสมือนคำว่า "ทองแท้ไม่กลัวไฟ" ของบางอย่างไม่เสื่อมหมดแต่ก็จะอ่อนกำลังลงไปได้ หรืออ่อนกำลังชั่วขณะ หรือคลี่คลายอออกบ้าง ของบางอย่างก็เสื่อมไปเลยกลับมาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับชนิดที่สร้างว่าสร้างง่ายยากเพียงใด และของบางอย่างอาจฟื้นฟูพลังขึ้นเองได้โดยขึ้นอยู่กับผู้ใช้โดยการหมั่นเพียรปลุกพระพุทธมนต์พระเวทย์อาคม ถึงแม้จะเป็นสมาธิพื้นฐานก็ตามก็มีผลเช่นกัน ของบางอย่างสร้างง่ายเสื่อมง่าย ของบางอย่างสร้างง่ายเสื่อมยาก ของบางอย่างสร้างยากเสื่อมง่าย ของบางอย่างสร้างยากเสื่อมยาก และของบางอย่างพระที่ไม่ได้เรียนมาก็สร้างไม่ได้เช่นกัน พระอรหันต์ก็ยังมีฤทธิ์ไม่เท่ากัน พระโมคคัลาเก่งฤทธิ์ พระสารีบุตรเก่งเทศนา และพระที่มีศิลญาณสมาบัติที่เก่งจริงก็ควรต้องมีสองด้านทั้งวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิชาอาคมอมสิทธิ์ฤทธิ์ เปี่ยมไปด้วยบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ เปรียบเสมือนมือคนเราก็ต้องมีทั้งหน้ามือและหลังมือ เก่งทั้งบู๊และบุ๋น

    ผู้อ่านไม่แปลกใจบ้างหรือว่า ทำไมคนในยุคนี้ไม่ค่อยจะเหนียวทั้งๆที่มีพระดีในคอ บางก็โทษพระ บางก็โทษคนใช้ บางก็ว่าถึงคราวถึงฆาต บางอย่างจริงๆก็อาจจะขึ้นอยู่กับความมักง่ายของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน


    การเสกของให้เน้นอเรื่องหนังเหนียวเขาว่าทำง่ายกว่าทางเมตตามหานิยม เรื่องการเสกให้เน้นทางเมตตายากว่าแต่จะไปหาอะไรมาวัดในเรื่องเมตตา นอกจากเราสัมผัสกับพระเกจินั้นๆหรือได้ใช้วัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าพระเครื่องนี้เมตตาสูงหรือไม่ สำหรับผมผมเน้นพระเครื่องที่มีเรื่องคงกระพันชาตรีหนังเหนียวมหาอุดต้องมาก่อน เมตตามาทีหลัง แต่เมตตาคงต้องดูที่พระเครื่องนั้นๆมีประสบการณ์หรือไม่ เรื่องเหนียวต้องมาก่อน ถ้าใครว่าพระองค์นั้นองค์นี้เก่งแต่ทำเรื่องเหนียวคงกระพันชาตรีและมหาอุตม์ไม่ได้ ก็อย่าไปหวังเรื่องเมตตาเลย เพราะแค่วิชาพื้นฐานท่านยังทำไม่ได้แล้วจะไปหวังวิชาเมตตาชั้นสูงที่ทำได้ยากกว่านั้นได้อย่างไร มันต้องผ่านบทเรียนนี้ก่อน พระองค์นั้นจะไม่สามารถสร้างพระเครื่องให้มีอิทธิ์ฤทธิ์ด้านเมตตาได้เลย หรือไม่ก็พระองค์เก่งเพียงพื้นๆ หรือเราคิดกันไปเองโดยวัดจากภายนอกให้เห็น แต่ภายในไม่มีอะไรเลย

    ทำไมแค่เรื่องหนังเหนียวแค่นำไปลองลูกปืนแค่นี้ทำกันไม่ได้ล่ะ แล้วทำไมคนชอบเอาพระไปลองปืนทำไมกันปืนไม่ได้ พระแตกกระจายหมดแทบทุกองค์ไป น้อยที่คนจะโดนยิงไม่เข้าเปรียบเสมือนคนถูกหวยนะผมว่า ส่วนใหญ่ก็เห็นตายๆทั้งๆที่ผู้ตายก็ไม่ได้ผิดศิลหลักอะไร ผมเชื่อว่าเหตุบางเหตุมาจากการใช้ชีวิตประจำวันที่คนมองข้ามมักง่ายคิดไปเองว่าไม่เป็นไรหรอกคิดหรือคิดไม่ถึงคิดไม่ออกกัน บ้างก็คิดเป็นตัวของตัวเองล้วนนานาจิตตัง
    ที่ผมรวบรวมมาบอกผู้อ่านก็อยากให้คิดตาม สรุปว่าเพราะฉะนั้นคนเราควรถือไว้บ้าง ไม่ถืออะไรเลยท่านอาจจะไม่มีโอกาสมามีชีวิตมาสำนึกทีหลังก็เป็นได้ ถือไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม ถือไว้อุ่นใจ ถือเผื่อไว้กันเหนียวซะหน่อยก็ยังดี ถือไว้กันพลาด ส่วนท่านใดจะว่าพระเครื่องไม่มีวันเสื่อมหรือพระอยู่ที่ใจก็ตามใจแต่นะครับ แล้วแต่จะคิดกัน
    ผมถามกับคุณเพียรวิทย์ศิษย์หลวงปู่ทิมก้นกุฏิ ท่านยังว่าพระเครื่องนั้นจริงๆแล้วรักษายาก ปฏิบัติยาก แม้แต่หลวงปู่ทิมท่านทราบอยากไปเยี่ยมบ้านคุณชินพรที่กรุงเทพ แต่คุณเพียรวิทย์บอกว่าที่กรุงเทพมีสะพานเยอะ ท่านยังไม่ไปเลย พระโบราณบางองค์มีคนนิมนต์ไปบ้านแต่ต้องมุดใต้ถุนท่านยังไม่เข้าเลย ท่านยังเข้าทางหน้าต่างแทนก็มี ผมถึงบอกกับทุกท่านว่าหลวงปู่ทิมเป็นพระเคร่งเหมือนพระป่าพระโบราณ อะไรที่ไม่ควรเราก็ควรหลีกมันซะ
    ผมวิเคราะห์และปฏิบัติมานานหลายปี แล้วจะหาว่ากระผมไม่เตือน การถือเคร่งอย่างเดียวก็คงไม่พอ ควรหมั่นปลุกของด้วยจึงจะขลังเปรียบเสมือนการชาร์ทกระตุ้นพลังงานให้เข้มขลังอยู่เสมอๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่สมาธิพื้นฐานของมนุษย์เราบวกกับความเชื่อความศรัทธา การปลุกของย่อมมีผลและมีอานุภาพได้เช่นกัน เพราะพระคณาจารย์ผู้สร้างจะเสกด้วยพระพุทธมนต์และกำหนดรูปนามให้เป็นรูปลักษณะนั้นๆให้มีฤทธิ์มีเดชตามจิตนิมิตภาพตามปรารถนา และจะต้องผูกมัดตรึงคาถาอาคมท่อนท้ายทุกบทไว้เหมือนกันกันเคลื่อนหลุดลอยออกไป และล็อคกุญแจอาคมด้วยรหัสคาถาอาคมไว้กันผู้ไม่หวังดีเข้ามาทำลายพระเครื่องหรือเครื่องรางที่ท่านได้สร้างไว้ ตรงนี้ก็แสดงให้เห็นว่า วัตถุมงคลที่เสกด้วยพุทธมนต์อัญเชิญพลังพระพุทธคุณมาไว้แล้วก็ตามจะต้องไม่ให้พลังงานนั้นหลุดลอยเคลื่อยคลายออกหรือถูกสูบถอนออกไปด้วยการตั้งป้อมมัดตรึงผูกไว้ไม่ให้พลังงานนั้นไปไหน<O:p</O:p
    <O:p</O:p


    ข้อห้ามและข้อพึงปฏิบัติในการใช้พระเครื่อง และ เครื่องรางของขลัง (เท่าที่นึกออก ท่านใดมีความเห็นใดๆก็เสนอแนะมาได้)<O:p</O:p


    1.ห้ามด่าพ่อแม่ของเราและของเขาเพราะเป็นการเปิดประตูทอง ไม่เหนียวแน่นอนในวินาทีอันตรายห้ามด่าผู้มีพระคุณชุบเลี้ยงตนเองพระเครื่องไม่เสื่อมแต่ไม่สามารถคุ้มครองท่านได้ ให้ขอขมาพระผู้สร้างและผู้มีพระคุณ พระจึงจะกลับมาคุ้มครองท่านได้(ข้อนี้เป็นกฏเหล็กสากลทุกอาจารย์)<O:p</O:p

    2.ห้ามใส่พระเครื่องติดกายขณะนอนมีเพศสัมพันธ์โดยเด็ดขาดพระเสื่อมแน่นอนครูบาอาจารย์ที่ท่านเคร่งท่านไม่อยู่แน่ ท่านไปแล้วไปลับไม่กลับมา ควรถอดไว้ที่สูง(ข้อนี้เป็นกฏเหล็กสากลทุกอาจารย์)<O:p</O:p

    3.ก่อนใส่พระคล้องคอ ชำระล้างร่างกายให้สะอาดหัวจรดเท้า อารธนาคุณพระรัตนไตร<O:p</O:p
    หมั่นภาวนาบริกรรมพระพุทธคาถาและปลุกพระเครื่องอยู่เนื่องๆ หมั่นรักษาศิล 5 ให้อยู่เป็นนิจเพราะเมื่อคนศักดิ์สิทธิ์พระเครื่องย่อมสามารถคุ้มครองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีมีดใช้มีดให้ดีก็ต้องหมั่นลับให้คม มีพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังดีๆก็ต้องหมั่นปลุกสวดมนต์ ถือศิล นั่งสมาธิ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    4.ห้ามนำพระเข้าซ่องโสเภณี แม้แต่ชายคาก็ห้ามไปพึงพิงหลบร่มเงา (ข้อนี้เป็นกฏเหล็กสากลแทบจะทุกอาจารย์) <O:p</O:pในกรณีท่านที่เป็นตำรวจจะจับผู้ร้ายในซ่องโจร ท่านควรบอกกล่าวครูบาอาจารย์ และกลับมาจุดธูปเทียนบอกกล่าวท่านคำขอขมาจากท่านด้วยให้ท่านคุ้มครอง
    5.บางอาจารย์ท่านก็ว่าไม่เป็นไร บางอาจารย์ท่านก็ถือ สำหรับผู้ใช้พระทุกเกจิถ้าไม่ทราบข้อห้ามก็ควรถือไว้ โบราณท่านว่าไว้ <O:p</O:p
    -ห้ามมุดสะพานหัวเดียว (คือสะพานไม่ได้ติดหรือต่อกับอีกฝากหนึ่งเช่น สะพานลงเรือ หรือสะพานที่อยู่หน้าบ้านที่ติดกับน้ำหรือคลอง)<O:p</O:p
    -ไม่มุดใต้ถุน บางอาจารย์ท่านก็บอกว่าไม่เป็นไร บางอจารย์ก็ห้าม<O:p</O:p
    -ห้ามมุดไม้ค้ำกล้วยคือไม้ที่ค้ำต้นยันต้นกล้วยไว้แล้วเราไม่รอดมุด โบราณท่านถือว่าเป็นโยนีของผีตานี<O:p</O:p
    -ไม่มุดรอดราวตากผ้าตากกางเกงในกระโปรงกางเกงผ้าถุงของผู้หญิง <O:p</O:p
    -ไม่รอดสะพานลอยที่มีรูมองเห็นทะลุถ้าจะรอดก็กลั่นใจ หรือใส่หมวก หรือ มือคลุมศีรษะกลั่นใจเดินผ่าน<O:p</O:p
    -ห้ามผู้หญิงเดินข้ามหัวเวลามีพระเครื่องไว้ที่คอ<O:p</O:p
    ถ้าพลั้งเผลอมุดอะไรไปแล้ว ออกทางเดิม(ครูท่านอยู่ที่ทางเข้า)โดยกลั่นใจเอามือปิดกระหม่อมเดินออกมา แล้วกล่าวอัญเชิญคุณพระรัตนไตร ครูบาอาจารย์ให้เข้ามาอยู่ในพระเครื่องคงความศักดิ์สิทธิ์ดังเดิมโบราณท่านว่าไว้ให้กลั่นใจแล้วเอามือคลุมหัว วิ่งลอดไปแล้วไปกล่าวคำขอขมาครูบาอาจารย์ทีหลัง(ใส่หมวกก็จะคล่องตัวสบายกว่า)<O:p</O:p

    6.ห้ามเป็นชู้กับเมียคนอื่นห้ามมีเพศสัมผัสกับวงศาคณาญาติตนเอง ห้ามมีเพศสัมพันธ์กับลูก-บิดา-มารดาตนเอง ห้ามนำพระเครื่องไปใช้หรือยุ่งเกี่ยวในเรื่องชู้สาว (ข้อนี้เป็นกฏเหล็กสากลทุกอาจารย์)<O:p</O:p

    7.ห้ามผู้หญิงมีประจำเดือนจับพระเครื่องโดยตรง (ถ้าพระเครื่องหรือเครื่องรางนั้นๆมีวัสดุห่อหุ้มกั้นอยู่ไม่เป็นไร) <O:p</O:p
    ผู้หญิงมีประจำเดือนจับพระบางองค์ท่านถือไว้เช่นกัน เพราะสัมผัสจะทำให้พลังงานในองค์พระหรือเครื่องรางนั้นๆอ่อนกำลังลงหรือจับมากๆบ่อยๆพลังก็อาจจะค่อยๆเคลื่อนคลายออกไป เข้าใจว่ามือที่สัมผัสอาจจะไม่สะอาดพอ เมื่อถูกไปแล้วให้หมั่นปลุกพระและเครื่องรางของตนอยู่เสมอๆ (ข้อนี้เป็นกฏเหล็กสากลในบางอาจารย์)<O:p</O:p

    8.ไม่ซักเสื้อผ้าผู้ชายรวมกับกางเกงในหรือกระโปรงผู้หญิงเพราะไม่ต่างอะไรเหมือนเอากางเกงในผู้หญิงมาคล้องคอแล้วสวมสร้อย ให้ซักผ้าแยกจากกัน ผ้าส่วนบนคือส่วนบน ผ้าส่วนล่างไว้ส่วนล่างการซักผ้า ไม่ควรซักรวม ควรแยกจากกัน ระหว่าง เสื้อผ้าส่วนบนและเสื้อผ้าส่วนล่าง อีกทั้งน้ำที่ซักผ้าก็อย่าใช้น้ำเดียวซักรวมกัน ถ้าซักน้ำแรกก่อนควรเป็นเสื้อผ้าส่วนบนก่อน<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    9.ผ้าเช็ดหน้า-เช็ดหัว ไม่ควรเอาผ้าที่เช็ดเบื้องล่างหรือเช็ดอวัยเพศมาเช็ดหัวและหน้าเพราะจะทำให้ตนเองไม่มีศิริมงคล โดยเฉพาะผู้หญิงต้องเคร่งกว่าผู้ชายเมื่อจะใส่พระสวมคอเวลาไปค้างโรงแรม ผ้าเช็ดหัวและผ้าเช็ดตัวของโรงแรมที่พักถ้าจำเป็นต้องใช้เช็ดของโรงแรมก็ควรใช้เพียงส่วนล่างต่ำกว่าสดือลงไป ไม่ควรนำผ้ามาเช็ดที่ตัวและหัว ถ้าจำเป็นก็ใช้เสื้อเราเองเช็ดตัวและศีรษะเพราะผ้าเช็ดของโรงแรมเป็นของมือสองที่ผ่านการเช็ดล้างจากผู้ใช้โดยเฉพาะผู้หญิงที่ใช้เช็ดทำความสะอาด<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    10.หมั่นภาวนาบริกรรมพระพุทธคาถาและปลุกของอยู่เนื่องๆหมั่นรักษาศิล 5 ให้อยู่เป็นนิจเพราะเมื่อคนศักดิ์สิทธิ์พระเครื่องย่อมสามารถคุ้มครองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ มีมีดใช้มีดให้ดีก็ต้องหมั่นลับให้คม มีพระดีก็ต้องหมั่นปลุก<O:p</O:p

    11.เมื่อจำเป็นต้องมุดในสิ่งที่ไม่แน่ใจ จำเป็นต้องไปทางนั้นเพียงทางเดียวไม่สามารถนำพระถอดไปวางที่อื่นได้ ควรใส่หมวกหรือเอามือปิดกระหม่อมหัวเวลาจะเดินผ่านให้รำลึกถึงครูบาอาจารย์บอกกล่าวให้ท่านรับทราบ
    เวลาเราจะมุดอะไรไม่แน่ใจ ให้ใช้คาถาเชิญครูออกก่อน (ตำราของหลวงปุ่ทิม) คือ อาคัจฉามูลหิ เมื่อเข้าไปแล้วออกมา เชิญครูเข้า อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ<O:p</O:p

    12.เมื่อมีเพศสัมพันธุ์ก็จะมีการเลอะจากคราบน้ำประเวณีติดอยู่ตามที่นอนและที่เราสัมผัส เช่น อุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวก เตียงผ้าปูที่นอน หมอน แม้แต่กลอนประตู ก็อกน้ำ หรืออื่นๆ ที่จับสัมผัส ควรทำความสะอาดเพราะมือเราจับสิ่งสกปรกแล้วมาจับพระเครื่องโดยไม่เอาใจใส่หรือไม่คิดอะไรคิดไม่ถึงถือว่ามักง่าย ถือว่าไม่เคารพครูบาอาจารย์ควรทำความสะอาดตนเองหัวจรดเท้าก่อนใส่สร้อยพระถือเป็นการเคารพครูบาอาจารย์และควรซักผ้าปูที่นอนหมอนฯลฯให้สะอาด <O:p</O:p

    13.คนเล่นพระมีของดีมีครูดีมีวิชาดี ถ้าอยากจะใช้ของขึ้น สิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือลิ้นปากฟันห้ามแตะหรือเลียอวัยวะเพศหรือของต่ำของผู้หญิงเมื่อทำไปแล้วก็ไม่ควรใส่พระคล้องคอหลังจากเสร็จกิจในขณะนั้น เปรียบเสมือนวิชาไสยดำ หงษ์ร่อนมังกรรำ ที่หญิงถกกระโปรงนั่งค่อมหม้อข้าวให้ไอน้ำร้อนจากหม้อหุงข้าวลอยกระทบโยนีผู้หญิงและเกิดเป็นน้ำจากโยนีหยดหล่นลงมาในหม้อข้าวเพื่อให้ผัวกินจะได้ผัวรักผัวหลง ผู้ที่โดนก็จะลุ่มหลงมิลืมหูลืมตาหน้าตาม่นหมองไม่มีราศรีไม่มีความเจริญก้าวหน้าดวงตก ซึ่งเป็นวิชามนต์ดำพื้นฐานที่ไม่ต้องอาศัพพระเวทย์กำกับจากหมอเสน่ห์ที่ใดก็มีอานุภาพในตัวเอง เพราะฉะนั้น ท่านใดที่คลั่งโลกีย์ตัญหา มิอาจจะตัดให้ขาดได้เราเข้าใจท่านดีสำหรับคนยุคนี้ เมื่อทำไปแล้ว ต่อให้อาบน้ำแปรงฟันป่วนปากแล้ว ก็ไม่ควรใส่พระคล้องคอ ทางที่ดีก็หยุดใส่พระชั่วคราวซัก 3 วัน7 วัน หาน้ำพุทธมนต์มาดื่มกิน เพื่อความเป็นศิริมงคล<O:p</O:p

    14.เมื่อเราไม่มั่นใจว่าพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังของเรายังคงความศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมหรือลดน้อยถอยลงไปหรือไม่ ให้นำพระเครื่องวางบนพาน ดอกไม้ธูปเทียนบูชาครูกล่าวบทคาถาขอขมาครูบาอาจารย์อันเชิญครูหรือ นำพระเครื่องไปวางไว้ในรูปปั้นหลวงปู่หลวงพ่อนั้นๆที่สร้างพระองค์นี้ในพระวิหารที่วัดของท่าน นำดอกไม้ไปด้วยก็ดีกล่าวคำขอขมากับท่านกล่าวขออัญเชิญคุณพระรัตนไตร ครูบาอาจารย์ เทพเทพวาให้พระเครื่องมีความเข้มขลังเหมือนเดิมและคุ้มครองผู้ใช้ได้ จิตของพระอาจารย์นั้นๆเมื่อท่านรับทราบท่านก็จะลงมาทำให้ โดยอัญเชิญพระพุทธคุณของพระพุทธเจ้าที่พระองค์มาบรรจุไว้ในวัตถุมงคล อธิบายคือ ก่อนที่พระพุทธองค์จะประเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน พระองค์ท่านทรงอธิฐานไว้ให้พลังพุทธคุณของพระองค์อยู่ทั่วทุกอากาศธาตุทั่วอนันตจักรวาลทั้งสามภพ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    15.ไม่นำพระเครื่องใส่กระเป๋ากางเกง หรือต่ำกว่าเอว พระเครื่องบางอย่างเสกด้วยพุทธคุณชั้นสูง เราต้องให้ความเคารพคุณพระรัตนไตร คุณครูบาอาจารย์ เทพเทวาทั้งหลาย การสร้างพระส่วนใหญ่ส่วนหนึ่งผู้สร้างก็จะเชิญครูบาอาจารย์เทพเทวามาช่วยในการเสกให้สำเร็จผลตามที่ปรารถนาด้วย เราควรให้ความนับถือเคารพท่านเหล่านั้นด้วย เพราะมนุษย์และเทพต่างก็ยึดคุณพระรัตนไตรเป็นอาสนะ
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    16.พระเครื่อง(โดยเฉพาะพระขุนแผน)เหมาะแก่การทำมาค้าขาย มีบูชาไว้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง ไปไหนคุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัย เป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น <O:p</O:p
    จำไว้นะครับว่าพระเครื่องเป็นสิ่งสำคัญเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้ประกอบกรรมชั่ว <O:p</O:p
    การใช้พระเครื่องเป็นการเสริม-ปรับ-หนุนธาตุ หนุนดวงชะตาเสริมราศรีของตนเองให้มีแต่ความสุขความเจริญเป็นศิริมงคลทั้งปวง เป็นที่ต้องตาต้องใจกับหญิงชายทั้งหลาย <O:p</O:p
    ในกรณีจีบสาวอาจารย์ท่านที่ท่านสร้างพระขุนแผนก็ไม่ได้ห้ามว่าไม่ให้ใช้จีบสาว เข้าใจดีครับสำหรับคนมีพระขุนแผนใส่เพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวให้ตนเองมีเสน่ห์กับสาวๆไม่มีใครว่าหรอก แต่คำว่า พระขุนแผนรูปลักษณ์เป็นองค์พระพุทธเจ้าบรมครูของชาวพุทธนะครับ เราไม่ควรนำรูปลักษณ์นี้ไปประกอบสิ่งไม่ดีไม่งาม <O:p</O:p
    การจีบสาวทางที่ดีที่สุดควรใช้ความสามารถของตนเองดีทีสุด เมื่อได้เขาแล้วลูกผู้ชายต้องไม่ทอดทิ้งเขา

    ผู้สร้างและพระผู้เสกพระ(หลวงปู่ทิมเป็นองค์ประธาน)ไม่ได้มีจุดประสงค์การสร้างพระเครื่องมาเพื่อให้คนเจ้าชู้ฟันสาวประกอบกรรมชั่ว เมื่อท่านไม่เชื่อฝืนทำเมื่อหมดบุญก็ไม่มีอะไรมาเป็นทุนคุ้มครองตัวคุณเองได้ อีกอย่างไม่ควรนำพระเครื่องไปขูดผงพุทธคุณไปให้สาวกิน เพราะถ้าเขาไม่ใช่ผู้เป็นเนื้อคู่ที่คู่บุญคู่บารมีกับเราแล้ว ก็กลับจะเป็นคู่เวรคู่กรรมกัน เป็นการเพิ่มผูกเวรผูกกรรมกันไม่สิ้นสุด ทำให้บั่นทวนความเจริญของตัวเรา พระเครื่องก็เหมือนดาบสองคมใช้ดีก็ดีไปใช้ในทางไม่ดีกรรมก็จะตามทัน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    17.ไม่ลบหลู่ครูอาจารย์ที่สั่งสอนมา ไม่ว่าที่ลับหรือที่แจ้ง ครูอาจารย์ที่ดีจริงๆเขายังไม่ทำร้ายศิษย์ตนเองเลย อย่าดูถูกหรือปรามาสพระพุทธคุณในพระเครื่องอาจารย์ของตนหรือผู้อื่นสร้าง การนำพระเครื่องไปลองของ ไปลองยิง ถ้าท่านไม่ได้อนุญาตแล้วนำไปลองยิงถือว่าเป็นการลบหลู่คุณครูบาอาจารย์ บางท่านนำไปลองเกิดโทษกับตัวเองปืนแตกหน้าแหกก็มีเยอะ บางอาจารย์มีคนนำไปลองแล้วไม่ออกมาลองซ้ำ เพื่อการซื้อขายหรืออวดผู้อื่น หลวงพ่อนั้นๆท่านก็อาจจะไม่สำแดงให้เห็นประจักษ์อีก บางอาจารย์นำไปลองแล้วพระเครื่องนั้นดีจริงแต่ท่านอาจจะไม่คุ้มครองผู้ลองอีกต่อไปเลยก็มี<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    18.พระเครื่องที่ไว้ในคอเป็นของสูง ห้ามกินของไหว้ผี โดยเฉพาะผีชั้นต่ำสัมเวสีต่างๆห้ามครับ และอาหารที่เจ้าภาพงานศพจัดไว้ไหว้ญาตผีในงานศพห้ามไปตัดมารับประทาน ของที่เราจัดไหว้พระและเทพเจ้าไม่เป็นไร ในกรณีเราไหว้กุมารหรือผีเจ้าที่หรืออื่นๆจะลานำไปทานแต่ไม่แน่ใจ ให้ถอดพระออกก่อนนำไปทาน <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    19.พระเครื่องทุกๆเกจิอาจารย์ทั้งเก่าใหม่และพระกรุเก่าๆทั้งหลาย ผู้ใช้อาจจะเห็นผลต่างกัน บางท่านใช้แล้วดี มีโชคมีลาภ มีประสบการณ์ บางท่านใช้แล้วไม่ได้ผลตามที่ขอบางท่านก็ได้ตามที่ขอ บางท่านใส่แล้วรู้สึกเฉยๆเหมือนไม่มีอะไร บางท่านใส่ก็จะหึกเฮิมร้อนวิชา อันนี้ก็อย่าไปโทษครูบาอาจาย์หรือผู้สร้าง พระเครื่องจะใช้ได้ผลดี ก็ต่อเมื่อ เรามีจิตศรัทธา มีความตั้งใจจริง มีความเชื่อมั่นไม่โลเล มีจิตสัมผัสสื่อถึงท่านได้ ประกอบกับท่านต้องมีบุญบารมีเป็นทุนเดิมอยู่ด้วย มีพระเครื่องดีๆใช้ก็อย่างมงาย หมั่นทำบุญ ทำความดี อุทิศส่วนกุศลให้ครูบาอาจารย์เทพพรหมทั้งหลาย ท่านก็จะได้รับสิ่งดีๆเอง พระเครื่องก็เปรียบเสมือนโทรศัพท์มือถือ ถ้าจิตสื่อถึงท่านไม่ได้ เปิดเครื่องรับสัญญาณไม่เป็น ต่อให้มีพระดีขนาดไหนใช้ไม่เป็น ก็ห้อยคอหนักเปล่าประโยชน์ แถมอาจจะตายฟรีด้วย แล้วก็ไปโทษครูอาจารย์ที่สร้างว่าทำไม่ดีจริงแต่ไม่ดูตัวเองว่า การปฏิบัติตัว ศิล สมาธิ สติ สัจจะ ความเชื่อความศรัทธา มีมากน้อยแค่ไหน<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    20.ถังเก็บน้ำชำระร่างกาย ควรแบ่งแยกจากกันถือเป็นการเคารพครูบาอาจารย์ ระหว่างอ่างเก็บอาบน้ำ กับ ที่เก็บน้ำชำระล้างอุจาระปัสสะวะ คนโบราณนิยมเสกน้ำก่อนอาบน้ำด้วยซ้ำ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    21.หน้าบ้านที่พักต่างๆที่มีระเบียงข้างบนไม่ควรเอาชุดชั้นในเบื้องล่างมาตากยื่นอยู่ข้างบน เวลาเดินเข้าออกเหมือนไปมุดสิ่งของต่ำ ถ้าจำเป็นต้องไว้ ต้องมีกันสาดบัง และ อย่าตากผ้าชั้นในที่เปียกน้ำหยดไหลลงกันสาดผ่านโดยเฉพาะช่วงตำแหน่งทางเดินผ่านถ้าจำเป็นสุดวิสัย ก็ใส่หมวกดีที่สุด<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    22.ไม่ใส่พระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังรวมกับของต่ำ เช่น ของหรือชิ้นที่ทำที่มีส่วนผสมโยนีของผู้หญิง(อวัยวะเพศหญิง)เสน่ห์มนต์ดำฝ่ายโลกีย์ พระงั่ง เป็นต้น ของบางอย่างก็ควรแยกแยะถ้าชอบใส่ก็ต้องให้ต่างระดับกัน
    23. เมื่อภรรยาคุณคลอดลูก ลูกจะเลอะน้ำเมือก ไม่ควรใส่พระขณะนั้นอุ้มลูกถึงแม้จะเช็ดอาบล้างทารกแล้วในน้ำแรกก็ตาม และควรให้เลยไป 7 วัน ควรถอดพระไว้บนหิ้ง ถึงค่อยนำพระเครื่องมาใส่ บางตำราว่า ห้ามผู้เป็นพ่อใส่พระมองลูกจะทำให้พระเสื่อม ต้องให้เลยไป 7 วัน
    24.ในมนุษย์คนเรา ภายในวันทั้ง 7 จะมีวันเปิดแทบทุกคน แต่ละคนอาจจะมีเพียงวันเดียว หรือ หลายหลายวันก็ได้ซึ่งพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังจะไม่สามารถคุ้มครองได้ นอกเสียจากท่านจะมีสุดยอดพระเครื่องหรือสุดยอดเครื่องรางที่ปิดทั้ง 7 วันได้ ซึ่งน้อยนักที่อาจารย์ที่รอบรู้และเก่งจริงจะทำให้เพราะมันฝืนดวงชะตาคนเรามากและของชนิดนี้จะทำยากมากและเสื่อมง่ายเมื่อคุณผิดกฏเหล็ก เช่นตะกรุด 7 ดอกคุม 7 วันของหลวงปู่ทิม หมั่นทำความดีไว้เป็นเกราะคุ้มกันที่ดีที่สุด<O:p</O:p


    คาถาพระเวทย์ปลุกพระเครื่องเมื่อเราพลาดพลั้งไปทำอะไรไม่ดีไม่งาม<O:p</O:p

    1.จุดธูปจุดเทียน ตั้ง นะโม 3 จบ ก่อน แล้วกล่าวคำขอขมาต่อคุณพระรัตนไตรครูบาอาจารย์เทพพรหมทั้งหลายที่อยู่ในองค์พระ แล้วนำพระเครื่องหรือเครื่องรางนั้นๆมาปะนบน้อมไว้ที่มือแล้วกล่าวพระคาถาขอขมาพระเครื่อง<O:p</O:p
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3จบ)<O:p</O:p
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง<O:p</O:p
    สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต<O:p</O:p
    2.แล้วต่อด้วยปลุกพระเครื่อง<O:p</O:p
    พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง<O:p</O:p
    (ตั้งใจและทำสมาธิให้แน่วแน่)...ขออัญเชิญอำนาจบุญฤทธิ์อิทธิ์ฤทธิ์ความศักดิ์สิทธิ์แห่งคุณพระศรีรัตนไตร หลวงพ่อ..หลวงปู่ ครูบาอาจารย์ทั้งหลาย (ระบุด้วยก็ได้) เทพพรหมทั้งหลาย ทุกพระองค์ได้โปรดจงมาเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้าและประสิทธิ์ให้วัตถุมงคลทั้งหลายเหล่านี้จงมีความเป็นศิริมงคลและความศักดิ์สิทธิ์ดังที่หลวงปู่...,หลวงพ่อ....ประสิทธิ์ไว้ด้วยเทอญ..สาธุ<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    3.เสร็จแล้ว ให้นั่งสมาธิ ถือพระเครื่องพนมไว้ในมือ อยู่ระหว่างอก ทำจิตใจให้นิ่ง กรึงด้วยคาถานี้<O:p</O:p
    นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ โสธายะ<O:p</O:p
    เป็นอันเสร็จพิธี ขอเสริมให้อีกนิดครับ<O:p</O:p
    เสกอักขระเลขยันต์<O:p</O:p
    นะรานะระหิตังเทวัง นะระเทเวหิปูชิตัง<O:p</O:p
    นะรานังกามะปังเกหิ นะมามิสุคะตังชินัง<O:p</O:p
    เรียกอิทธิฤทธิ์<O:p</O:p
    อิทธิวิกุพพะกัตตาโร อิทธิกาโรปะกาสิโต<O:p</O:p
    อิทธิกาโรกะโรกะโร อิทธิการังนะมามิหัง<O:p</O:p
    คาถาผูกพระเครื่องกันเสื่อม<O:p</O:p
    นะทรงฟ้า โมทรงดิน พุททรงสินธุ์ ธาทรงสมุทร ยะทรงอากาศ นะโมพุทธายะปิด<O:p</O:p
    หลังจากนั้นก็เอาพระเครื่องไปไว้ที่พานนำดอกไม้ไปวางไว้ในพานพระเครื่องด้วยก็ดี
    คาถาสำหรับผู้มีวิชาอาคมในตัว
    คาถาผูกจิตผูกวิชาอาคมมิให้เสื่อมคลาย<O:p</O:p
    พะมะยะ นะผูก โมมัด พุดรัด ธารึง ยะกรึงคะเร<O:p</O:p
    พุทธะสัง มังคะรังโรเก อุมะอะปิด<O:p</O:p
    ธัมมะสัง มังคะรังโรงเก อุมะอะปิด<O:p</O:p
    สังฆะสัง มังคะรังโรเก อุมะอะปิด<O:p</O:p
    ปิดด้วยพระพุทธัง ปิดด้วย พระธัมมัง ปิดด้วย พระสังฆัง<O:p</O:p
    พุทธะกันนะกันพุทธ (ต่อด้วย พระคาถาวิกัป)<O:p</O:p
    นานู ปะติถานัง วุตตะโย อัคคะโต อุทาหะระอันใด จะเสื่อมคลายไปบ่มิได้แล้ว<O:p</O:p
    อะยัง อัดสารูปา พึกสะติ
    <O:pคาถา ป้องกันการคัด-ถอนพระเวทย์ออกจากผู้มีวิชาอาคม<O:p</O:p
    คาถาเชิญอาคมเข้าตัว<O:p</O:p
    พุทธังอาราธะนานัง ธัมมังอาราธะนานัง สังฆังอาราธะนานัง<O:p</O:p
    อุกาสะอาราธะนานังกะโมริ พุทธะรัตตะนัง ธัมมะ รัตตะนัง สังฆะรัตตะนัง<O:p</O:p
    ติณนังรัตตะนัง อะนุภาเวนะ <O:p</O:p
    อิมัง องคะพันธนัง อะธิถามิ <O:p</O:p
    ทุติธัมปิ อิมังองคะพันธนัง อะธิถามิ<O:p</O:p
    ตะติยัมปิ อิมังองคะพันธนัง อะธิถามิ<O:p</O:p
    อิมังกายะ พันธะนัง อธิถามิ<O:p</O:p
    ทุติยัมปิ อิมังกายะพันธะนัง อธิถามิ<O:p</O:p
    ตะติยัมปิ อิมังกายะ พันธะนัง อาธิถามิ<O:p</O:p
    คาถาผูก<O:p</O:p
    เอหิพุทธานุภาเวนะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิ สังฆานุภาเวนะ<O:p</O:p
    เอหิสัพะมนต์ สัพพะดลกาย เอหิสัพพะคาถม สัพพะคาถาย<O:p</O:p
    เอหิสัพพะครู สัพพระแสงสาย สัทธังสุตตะวา สะรีเรเมติฐฐันตุ<O:p</O:p
    คาถากรึง<O:p</O:p
    นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ โสธายะ<O:p</O:p
    คาถาเรียกวิชาอาคมกลับคืนสู่ตัว (เมื่อถูกสูบอาคมไป)คาถามงกฏแก้ว<O:p</O:p
    เอหินะโม พุทธายะ อานุภาเวนะ <O:p</O:p
    เอหินะโม ธัมมายะ อานุภาเวนะ<O:p</O:p
    เอหินนะโม สังฆายะ อานุภาเวนะ<O:p</O:p
    หากรีพระปัจเจกะโพธิ หากรีจักวาเฬจันโท<O:p</O:p
    สัพเทวากูจะเรียก ๆ<O:p</O:p
    สัพเทวากูจะผูก ๆ<O:p</O:p
    สัพเพเทวากูจะสูบ ๆ<O:p</O:p
    สัพเพเทวา อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ พันธัง พันธัง<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    คาถามงกุฏแก้ว อีกบทหนึ่งสำหรับผู้ที่มีวิชาอาคม<O:p</O:p
    เอหินะโมพุทธา อานุภาเวนะ เอหินะโมอาพัทคงคง<O:p</O:p
    เอหินะโมธัมมา อานุภาเวนะ เอหินะโมอาพัทคงคง<O:p</O:p
    เอหินะโมสังฆา อานภาเวนะ เอหินะโมอาพัทคงคง<O:p</O:p
    นะหาเถนะ พระปัจเจกระโพธิ ชัยโย คุณนันตรี<O:p</O:p
    สุริโยจันโท สักกัตตวา ภัชชาหุงครู สัพเพเทวา<O:p</O:p
    กูจะทรง ๆ สัพเพเทวา กูจะปลุก ๆ สัพเพเทวา<O:p</O:p
    กูจะตรึง ๆ สัพเพเทวา กูจะครอบ ๆ สัพเพเทวา<O:p</O:p
    กูจะสูบ ๆ สัพเพเทวา กูจะเรียก ๆ สัพเพเทวา<O:p</O:p
    กูจะเชิญ ๆ สัพเพเทวา กูจะเสก ๆ แตกกราบกลายมิตรสวาหะ<O:p</O:p
    คาถานี้อาราธนาพระพุทธเจ้าชุมนุมพระคาถาทั้งปวงทั้งเรียกทั้งแก้ ถ้าฟังแทงมิเข้า ให้เอาคาถานี้เรียกมาอยู่กับเรา ฟันแทงเข้าทุกคน ถึงจะอยู่คงว่านยาอาคมก็เข้า ถ้าคาถาอันใดไม่ประสิทธิให้เอาพระคาถานี้ขึ้นประสิทธิ ถ้าจะกระทำอันใดๆ ให้เอาพระคาถานี้นมันการก่อนจึงจะประสิทธิ์แล

    คาถาขอขมาทั่วไป
    อิติสุขคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปัฐวีคงคา (พระพรหมเทวา) ขมามิหัง

    คาถาอัญเชิญครู-อาจารย์
    พุทธัง วันทิตตะวา ข้าพเจ้าจะขอไหว้พระพุทธคุณณัง
    ธัมมัง วันทิตตะวา ข้าพเจ้าจะขอไหว้พระธัมมะคุณณัง
    สังฆัง วันทิตตาวา ข้าพเจ้าจะขอไหว้พระสังฆคุณณัง
    ณ. บัดนี้ ข้าพเจ้าจะขออาราธนา คุณพระพุทธเจ้า คุณธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า คุณพระครูภาวนาภิรัต หลวงปู่ทิม อิสริโก คุณอุปัชฌาย์อาจารย์ คุณพระฤาษีตาไฟ คุณพระฤาษีประไลยโกฏ คุรพระฤาษีกัสสปะ คุรพระฤาษีไตรภพ คุรพระฤาษีทัสสะมงคล คุณพระฤาษีอิสริโก บรมครูของหลวงปู่ทิม ทั้งพระฤาษีเพชรฉลูกัณฑ์ และ นักสิทธิ์วิทยา อีกทั้งนางพระธรณี นางพระคงคา พระเพลิง พระพาย พระอิศวรผู้เป็นเจ้าฟ้า จงเสด็จลงมาประสิทธิพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะขออัญเชิญเทพยดาทั้งหลาย ทั้งพื้นพระปัฐพี ทั้งพระฤาษี 108 ตน บันดาลดลด้วยสรรพพิษและวิทยา ทั้งครูเฒ่า ครูพา ครูพักและครูอักษร ประสิทธิพรกรรรมสิทธิ์ แก่ข้าพเจ้าในกาลบันนี้ด้วยเถิด
    อิติปิโส ภะคะวา ข้าเจ้าขออัญเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้มาอยู่เหนือเกล้าเหนือผม ขออัญเชิญพระพรหมมาอยู่บ่าซ้าย ขออัญเชิญพระนารายณ์มาอยู่บ่าขวา ขออัญเชิญพระคงคามาเป็นน้ำลาย ขออัญเชิญพระพายมาเป็นลมปาก ขออัญเชิญพญานาคมาเป็นสร้อยสังวาลย์ ขออัญเชิญพระกาฬมาเป็นดวงใจ ข้าพเจ้าจะทำการสิ่งใด ๆ ทั้งภูตทั้งพรายอย่างได้เบียดเบียนบีฑา อย่าได้ประมาทพลาดพลั้ง ขออัญเชิญครูแต่หนหลัง พระฤาษีทั้ง 108 องค์ ขอเดชะครูบาอาจารย์อันเลิศล้ำ ทั้งคุณครูที่อยู่ในถ้ำ จงมาช่วยอำนวยพระพรชัยให้แก่ข้าพเจ้า
    พุทธังประสิทธิ มหาประสิทธิ ธัมมังประสิทธิ มหาประสิทธิ สังฆังประสิทธิ มหาประสิทธิ

    คาถาอัญเชิญอาคมเข้าสู่ตัวเรา (แนะนำให้ใช้ในการปลุกพระเครื่องด้วย)
    เอหิ คาถัง ปิยัง กาโย ทิศาปาโมขัง อาจาริยัง เอหิ พุทธานุภาเวนะ เอหิธัมมานุภาเวนะ เอหิสังฆานุภาเวนะ
    กูจะสูบพระคาถาขึ้นไว้ในคอ กูจะยกพระคาถาทั้งปวงขึ้นไว้เหนืออก กูจะยกพระคาถาทั้งปวงขึ้นไว้เหนือเกศ ครูอาจารย์ของกู ท่านจึงยกให้กูเลิศกว่าคนอื่นทั้งหลาย
    เอหิ คลาย คลาย ปิยังมะมะ
    พุทธัง สะระหิ โสมาเรสะระ เอหิ มาเรมะระ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ
    ธัมมัง สะระหิ โสมาเรสะระ เอหิ มาเรมาระ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ
    สังฆัง สะระหิ โสมาเรสะระ เอหิ มาเรมาระ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ
    กะขะคะฆะงะ จะฆะชะฌะญะ ฏะฐะฑะฒะณะ ตะถะทะธะนะ ปะผะพะภะมะ ระยะละวะสะหะฬะอัง
    ทรงอะ ทรงอา ทรงอิ ทรงอี ทรงอุ ทรงอู ทรงเอ ทรงโอ ทรงอา ทรงอิน ทรงอะ ทรงนะโม พุทธายะ ทรงอักขระ 44 ตัว โอกาเส ติฏฐาหิ ติฏฐาติ
    .....................................................
    ต่อไปก็ควรจะเรียนรู้วิธีทำน้ำมนต์ธรณีสารกันเอาไว้ เพื่อจะได้ลบล้างอัปรีย์จัญไร และ เสนียดสิ่งใด ๆ จะไม่มารบกวน จะยกเลิกในความผิดธรรมเนียมหรือการผิดครูที่ได้ผ่านมา จึงจะต้องทำน้ำมนต์ธรณีสารประพรมและอาบกิน ทุกข์ภัยจะได้ห่างหาย (กฏข้อ 13 และ ข้อ 20 ควรนำพระคาถานี้ไปทำน้ำมนต์อาบดื่มกิน)
    พระคาถาธรณีสาร
    สีโลเม พุทธะเทวัญจะ นะลาเต พรหมมะเทวะตา อัททะเย นะรากันเจวะ หะเถ ปะระเม สุรา ปาเทถะ เพชรฉลูกันเจวะ สัพพะกัมมะ ประสิทธิเม
    สมุหะติ สมุหะตา สมุหะเสนา ลุยยะ ถอนยะ คัตชะตา คัตชะมุมหิ โอกาเสติ ติดถาติ สมุหะติ สมุหะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ
    ถ้าจะให้เข้มขลังมากขึ้นอีกก็จะต้องประจุเสียก่อนดังนี้
    คาถาประจุน้ำมนต์
    นะ คือองค์พระกุกกุสันโธ โม คือพระโกนาคม พุท คือ พระพุทธะกะสพ ธา คือองค์พระสัมมานะโคดม ยะ คือ องค์พระศรีอาริยะเมตไตรย์
    ขอเดชะพระบารมีพระพุทธเจ้า ทั้ง 5 พระองค์ จงเสด็จลงมากำราบปราบหมู่มารไพรี ทั้งฝูงผีปีศาจราชทูต ผีภูตและผีพราย ทั้งโป่งเปรตอสูรกาย ที่แกล้งกระทำสารยาสาไถย แกล้งให้มีโรคคัยไข้โรคา ผีตายโหงตายห่าจงอย่ามากล้ำกราย สารพัดที่สุด อาวุธทั้งหลาย ขอให้เกรี้ยวกราดปราบสัตว์ทั้งหลายที่ดุร้ายเหลือขนาด ทั้งอุบาทว์และจัญไร ทั้งคุณทั้งไสยที่เขาใช้ให้มา ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ทั้งเบื้องต่ำและเบื้องสูง ทั้งเบื้องล่างและเบื้องบน อีกทั้งคุณผีและคุณคน หุ่นไล่กาผ้าพยนต์และอาถรรพ์ทั้งหลาย ที่เขาฝังไว้ในหนทางในระหว่างประตูยนต์
    ขอเดชะพระสัพพัญญูเจ้า จงลงมาทำลายล้างด้วยวิชา ข้าพเจ้าจะขออาราธนาถึงคุณพระสงฆ์ผู้ที่ทรงศิลอันบริสุทธิ์ สวดมนต์วนสายสิญจน์ ทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์ เป็นมงคลล้างโทษทัณฑ์ให้ห่างหาย สรรพทุกข์ สรรพโศ สรรพโรค สรรพภัย สารพัดเสนียดจัญไร วินาศสันติ
    ขอให้ปราศจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง จงหนีห่างไกลออกไปจากเขตสถานนอกขอบจักรวาล ณ บัดนี้
    พุทธัง จักกะวารัง อะหังปิดตังชานามิ
    ธัมมัง จักกะวารัง อะหังปิตังชานามิ
    สังฆัง จักกะวารัง อะหังปิตังชานามิ คัตชะมุมหิ
    โอม จตุโกณจา มหายันตัง อักขระสันตัง คาถาสันตัง วิ กรึงคะเร
    ทุติยัมปิ จตุโกณจา มหายันตัง อักขระสันตัง คาถาสันตัง วิ กรึงคะเร
    ตติยัมปิ จตุโกรจา มหายันตัง อักขระสันตัง คาถาสันตัง วิ กรึงคะเร
    ในการทำน้ำมาต์ธรณีสารพอว่าคาถาประจุน้ำมนต์เสร็จก็ให้จุ่มเทียนที่ทำน้ำมนต์เล่มน้น ดับลอยเอาไว้ในขันน้ำมนต์ใบนั้น ต่อจากนั้นก็ใช้น้ำมนต์ประพรมอาบกินตามสะดวก

    คาถาเรียกธาตุ
    พระคาถาบทนี้ เมื่อจะทำพิธีใดๆ ถ้าหากจะผสมกันเข้าไปด้วย ก็จะมีความศักดิ์สิทธิ์และเข้มขลังมากยิ่ง จะมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับจิตใจที่มุ่งมั่น ถ้าหากว่าไม่มั่นใจ คาถาทุกบทก็จะช่วยอะไรไม่ได้เลย แม้แต่พระเครื่องรางของขลัง หรือสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่มีพุทธาคมมาก ๆ ที่ห้อยเอาไว้เต็มคอ หรือสักยันต์เต็มตัว ถ้าหากว่าเราไม่มั่นใจ ก็จะไม่เกิดผลทางพุทธคุณ จะช่วยอะไรเราไม่ได้ เหมือนกับว่าเราพกวัตถุธรรมดา หรือก้อนหินก้อนดินเอาไว้เท่านั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความมั่นใจ ขอเพียงอย่าเอาไปใช้ในทางที่ผิดก็แล้วกัน ถ้ามั่นใจทุกอย่างก็จะบังเกิดผลช่วยได้บ้าง พอให้หนักเป็นเบา บางทีก็สำเร็จผล ดังพระคาถาที่ว่าเอาไว้ ดังนี้
    เอหิปฐวีพรหมา เอหิอาโปอินทรา เอหิเตโชนารายะ เอหิอาโปอิศะวารายะ
    นะอิเพชชะคง อะระหังสุคะโต อิติปิโส ภะคะวา
    โมติพุทธัง พุทธะสัง อะระหัง สุคะโต อิติปิโส ภะคะวา
    พุทธะปิ อิสะวาสุ อะระหังสุคะโต อิติปิโส ภะคะวา มะอะอุ
    ธะโสมานัง อะระหังสุคะโต อิติปิโส ภะคะวา อุอะมะ
    ยะพะ อะระหังสุคะโต อิติปิโสภะคะวา
    นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
    นะโมพุทธายะ มะพะทะนะ ภะกะสะจะ
    นะโมพุทธายะ พะทะนะมะ กะสะจะภะ
    นะโมทุทธายะ ทะนะมะพะ สะจะภะกะ
    นี่คือพระคาถาเรียกธาตุ โดยสมบูรณ์ ถึงจะอย่างไรก็ควรจะต้องใช้คาถาบทนี้สอดแทรกเข้าไปด้วยทุกครั้งไมว่าจะทำกิจประสงค์ในการใด จะเพิ่มอิทธิคุณได้

    คาถาสารพัดกันของหลวงปู่ทิม
    นะโม 3 จบ
    มะอะอุ ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา พุทโธ พุทโธ อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ 3 จบ
    อิติปิโส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ วิชาจะระนะ สัมปันโน โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะธัมมะสาระถิ สัตถาเทวะ มะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ
    นะอุด โมอัด พุทผัด ธาผิด ตะริเส สะโต โธอุด ทะอัด ปะติเสวามิ อุดอัดอัดอุดแตกกระจาย มะรึรือ อะรึรือ อุรึรือ
    นะมะพะทะ มะพะทะนะ พะทะนะมะ ทะนะมะพะ
    นะชาลิติ นะชาลีติ นะชาลีติ นะชาลิติ
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง
    อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตัง โสอิ อิโสตัง พุทธะปิติอิ
    สีหะนาทัง พุทธะสังมิ มุมิมิ อิติปาระมิตาติงสา อิติสะพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโส จะเตนะโม
    นะกัน โมกัน พุทกัน ธายะ ยะกัน กันนะ กันนา กันนิ กันนี กันนึ กันนือ กันเน กันเนย
    นะล้อม โมระวัง พุทบังกัน ธารักษา สะระพัดศัตรู วินาศสันติ
    จิเจรุนิ อิสะเยนะ วิ กรึงคะเร (คาถากรึงคาถา)
    คาถาทัพหน้า
    นะกะอะปิ นะมะพะทะ จะภะกะสะ กะระมะถะ จิเจรุนิ จะอะภะคะ ติติอุนิ อะนาคามิ อะระหัง
    คาถาทัพหลวง
    มะอะอุ อิสวาสุ นะมะพะทะ จิเจรุนิ จะภะกะสะ กะระมะถะ
    โอม..นะโมพุทธายะ กูจะกล่าวกำเนิดมหาหมื่น กูจะโนนตัวกูขึ้นไปเป็นกง ไม้ไร่ก็หักลงทะลายกลายเป็นผุยผง ทั้งทั้งเมืองสกลชมพู กูจะรำลึกถึงครูกู ใครจะสู้กูมิได้ ครูกูจึงสั่งให้สาธยายร่ายพระคาถามหามนต์
    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ
    วันทะนัง ปาสุอุชา อิสะปะมิ พุทธะสังมิ อิสะวาสุ นะมะอะอุ อิกะวิติ วิสุทธิเสฏโฐ
    อะสังวิสุโลปุสะพุภะ อะระหังสุคะโต ภะคะวา สังวิธา ปุกะยะปะ อาปามะจะปะ ทีมะสังอังขุ ทุสะมะนิ สะธะวิ ปิปะสะอุ ทุสะนะโส จิเจรุนิ ตันนิพุทติง
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง
    ตัดถะมะถะ อุมะอะยัง จิปิเสคิ คิเสปิจิ กันหะเนหะ นิระมะหะสะตัง จะภะกะสะ
    นะมะพะทะ กะระมะถะ จะอะภะคะ นะมะกะยะ สุสิโม พุทโธภะคะวา สุสิโม ธัมโมภะคะวา สุสิโม สังโฆภะคะวา โลกานาโถ มหิทธิโธ นาสังสิโม ยะถาพะลัง จังงังเหยหาย
    เดชะ ครูบาธิบาย จึงให้กลายเป็นกำแพงเพชรเจ็ดชั้น ป้องกันตนกู คือ พระวิภังค์ พระสังคิณี พระปรมัตถะ อัตถะกะจารย์เจ้า จึงให้คงแก่หอกดาบแหลนหลาว ธนูธน้าว ทั้งหน้าไม้ปืนไฟ อย่าได้ต้องตัวกู เพชรคง คงแก่หอก เหล็กหอกหล่อ หอกข้อเงิน หอกข้อทอง หอกสัมฤทธิ์ กริซทองแดง คงแก่แสงฟ้า ผ่าวัง คงทั้งข้างซ้าย คงทั้งข้างขวา คงทั้งข้างหน้า คงทั้งข้างหลัง คงทั้งยืน คงทั้งนั่ง คงทั้งนอน คงทั้งตื่น คงทั้งกลางคืน คงทั้งกลางวัน ตรีเพชรคงคง สวาหะ โฮม เอิเกริก ไตรภพ ตลบบาดาล เหาะทะยานบนอากาศ หมู่อสูรขยาดมือ มัวกลัวกูอยู่ระย่อ ฤาษีเร้นซุกซ่อน นอนหลับอยู่กลางป่า ทั้งโขมดมายา ทะยานเหาะมาช่วยกู หนุมานลูกพญาวายุบุตร สัปยุตธิ์ด้วยอินทรชิต ประสิทธิสรรพางค์ล้างมาร มัดต้นไม้ได้เอาไปถวายแก่ราพย์เจ้ากรุงลงกา หมู่อสูรยักษาจะฆ่ากูก็มิตาย ด้วยเดชพระนารายณ์ จุติลงมา บังเกิด นะโมพุทธายะ ตรีเพชร คง คง อิติปิโสภะคะวา
    เกสาผมอยู่ทั่งในกายตนกู คง ตรีเพชร คง คง อิติปิโสภะคะวา
    นะขาเล็บ อยู่ทั่วในกายตนกู คง ตรีเพชร คง คง อิติปิโลภะคะวา
    ตะโจ หนัง ห่อหุ้มตนกู คง ตรีเพชร คง คง อิติปิโสภะภะวา
    อัฏฐิ กระดูก อยู่ทั่วในกายตนกู คง ตรีเพชร คง คง คงด้วย นะโมพุทธายะ
    พุทธังรักษา ธัมมังรักษา สังฆังรักษา บิดารักษา มารดารักษา พระพรหมรักษา ครูบาอาจารย์รักษา อิมังกายะ พันธะนัง อธิษฐามิ
    คาถานี้เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก คนโบราณมีความนิยมกันสูงในบรรดาพระคณาจารย์และอาจารย์ทั้งหลายชอบใจกันนัก และจะได้ผลคุ้มค่าจริงๆ ใช้ได้สารพัดอย่าง สารพัดช่องทาง ในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรี ปลุกเสกพระเครื่องของลังได้สารพัดอย่าง ปลกเสกอาวุธทั้งหลาย เมื่อที่จะต้องใช้ในการต่อสู้กับศัตรู ปลุกเสกกระทำตัวให้อยู่คง จะปลุกเสกเหล้าและของกินได้สารพัดอย่าง เพื่อให้กินแล้วอยู่คง เสกแป้งเสกฝุ่น เสกน้ำมันทาตัว ฟันแทงไม่เข้ายิงไม่ออก

    คาถาเมตตามหานิยมบทใหญ่ (ใช้คู่กับพระขุนแผนได้เพื่อการค้าขายห้ามใช้ในทางผิดศิลธรรม)
    ทิวา จะ รัตโต จะ หะรันติ เยพะลิง นะกาโร กุกกุสันโธ โมกาโร โกนาคะมะโน พุทกาโร กัสสะโปพุทโธ โคตะโม พุทโธ นะกะโร อะริยะ เมตตรัยโย พุทโธ ปัจจะพุทธา นะมามิหัง
    โองการพินธุนาถัง อุปปันนัง พรหมา สะหะปะตินามะ อาทิ กัปเปสุตคะโต ปัญจะ ปะทุมัง ทิสสะวา นะโมพุทธายะ วันทะนัง อิทธิฤทธิ์ ชัยยะลาภะ สัพพะกัมมา ประสิทธิเม สิทธิพุทธา ชะนาจิตตัง สิทธิธัมมา ชะนาจิตตัง สิทธิสังฆา ชะนาจิตตัง
    เอหิพุทธา ชะนาจิตตัง เอหิธัมมา ชะนาจิตตัง เอหิสังฆา ชะนะจิตตัง
    สิทธิอินทรา ชะนาจิตตัง สิทธิพรหมา ชะนาจิตตัง สิทธิยักขา ชะนาจิตตัง สิทธิภูตา ชะนะจิตตัง
    เอหิอินทรา ชะนาจิตตัง เอหิพรหมา ชะนาจิตตัง เอหิยักขาชะนาจิตตัง เอหิภูตา ชะนาจิตตัง
    โอม.... พะลังวา ราชะกุมาโรวา ราชะกุมารีวา อัคคะมะเหสีวา เทวีวา ราชาวา ราชาเศรษฐีวา สะมะโณวา พราหมโณวา อิตถีวา พานิชโชวา พาณิชชาวา มะมังทิ
    สะวาปิยา ยันติ มณีจินดา อิทธิฤทธา ชัยยะ ชัยยะ ลาภะ ลาภะ สัพพะกัมมา ประสิทธิเม นะมาลาภัง ภะวันตุเม
    คาถาบทนี้หมั่นสวดภาวนา ตั้งสัจอธิฐานต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วคนจะรักและบูชาเรา

    คาถามหาเสน่ห์ของหลวงปู่ทิม (คุณเพียรวิทย์ผู้ได้รับคาถานี้จากหลวงปู่โดยตรง)
    อิทะเจ ตะโส ทันหัง คันหาหิ ถามะสา รำจวน รำจิต รำจวน พิศดาร พระพายพัดผ่าน รำลึกสบายพระทัย พระพายพัดไป ต้องรำลึก .......(ใส่ชื่อที่ต้องการ)
    มะเมตตา อะกรุณา อุเสน่หา สัพพัพถะปูชิตา สัพพะโกธาวินาศสันติ
    มะอยู่มิได้ อะร้องไห้ อุมาหากู อุโอวัตติสงสาร เอหิจงมาถึง มะมะ แห่งกู (หญิงชายทั้งหลายมารักกูรือลึก หรือ อี...,นาง....มารักกูรือลึก)



    ขอขอบคุณอาจารย์ผู้รู้ทุกท่านที่มอบคาถาเหล่านี้ให้ไว้เพื่อบูชาครู
    ขอขอบคุณ อาจารย์ ว. จีนประดิษฐ์ ที่มอบคาถาไว้ให้ทุกท่านได้บูชาครู





    <O:p</O:p
    </O:p

    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2012
  9. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    สวัสดีครับทุกท่าน ไม่เจอกันานเลย พอดีตอนบวชมีพระท่านบอก เวลาเข้าไปหาหลวงปู่ทิม ท่านจะเคอะนิ้วกับไม้กระดานโดยที่ไม่พูดอะไร เราถามท่านถึงคุย ผมว่าไม่แปลกเพราะคนต้องการมาหาก็เพราะมีอะไรอยากจะคุย แต่ไม่ยอมคุยท่านก็เลยเคาะกระดานรอ มีอีกเรื่องตอนท่านจะไปรับตำแหน่งพระครู ขบวนรถท่านวิ่งไปตามทางแต่เมื่อก่อนเป็นทางลูกลัง มีรถอยู่คันนึงรีบไปไหนไม่รู้วิ่งแซงขบวนรถท่านโดยที่ไม่สนใจฝุ่นที่จะลบกวนญาติโยมที่นั่งไปหลังกระบะจำนวนหลายคน และหลายคันต่อกันเป็นขบวนยาว แต่ฝุ่นมาแล้วก็ผ่านไปเพราะรถคันนั้นไปไม่ไกลต้องจอดข้างทาง เพราะรถไม่ติด ทำให้ขบวนหลวงปู่ทิม ผ่านไป แบบสบายไม่มีฝุน อันนี้ก็ฟังเขาเล่ามาครับ
     
  10. windman

    windman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +741
    #8890

    สุดยอดครับคุณวุธ ผมพิมพ์เก็บเอาไว้แล้ว (เฉพาะว่าด้วยทำพิธีกรรม) แต่ก่อนนั้นพิมพ์ไม่ไหวครับ แต่พออ่านแล้วเข้าใจครับ

    (ไม่ก็อปฯ มาแปะนะครับ เพราะยาวมาก แปะเฉพาะลิงค์)
     
  11. katha147

    katha147 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +33
    ขอบคุณพี่วุธมากเลยครับ

    อยากขอขมาพระที่สวมอยู่มาตั้งนานแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี เพราะเราก็ไม่รู้ว่าได้ทำอะไรล่วงเกินต่อท่านโดยตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจลงไปบ้าง

    พอได้ลองทำตามปลุกพระใหม่ก็รู้สึกดีขึ้นครับ
     
  12. วุธ จันทบุรี

    วุธ จันทบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    887
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +982
    ขึ้นกรุงเทพไปรับของด้วยตนเองกลัวไม่ทันใจแฟนคลับครับ5555เพิ่งถึงบ้านครับโชว์เลยแล้วกัน ฝากล่องที่ทำแก้มาใหม่ และกล่องกำมะหยี่ เหรียญเงิน+เหรียญทองคำ รุ่น เจดีย์ทอง และ รุ่น พิชิตมาร เตรียมตัวรับของกันได้แล้วครับทุกท่าน ตอนนี้ปิดรับจองขุนแผนทุกรายการไปก่อนนะครับ ขอให้จัดส่งชุดนี้เสร็จไปก่อนแล้วจะเปิดจองชุดที่เหลือนะครับ

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 750.1.jpg
      750.1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      163.2 KB
      เปิดดู:
      838
    • 750.2.jpg
      750.2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184.8 KB
      เปิดดู:
      858
    • 750.3.jpg
      750.3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.6 KB
      เปิดดู:
      950
    • 750.4.jpg
      750.4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      118.2 KB
      เปิดดู:
      835
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2012
  13. nudjinnong

    nudjinnong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,161
    ค่าพลัง:
    +3,012
    สวยงามมากเลยครับพี่วุธ คุ้มค่าการรอคอยครับ ^_^
     
  14. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    สวยงามมากเลยครับ คุณวุธ ดีใจจะได้คล้องเหรียญทองคำแล้ว รับขวัญปีใหม่เลยครับ[​IMG]
     
  15. รักรังสิต

    รักรังสิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    2,418
    ค่าพลัง:
    +17,140
    ครับ คุณวุธ ดีใจจะได้คล้องเหรียญทองคำแล้ว รับขวัญปีใหม่เลยครับ[​IMG]

    สวยมากเลยครับ:cool::cool::cool::cool::cool:
     
  16. windman

    windman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +741
    สวยครับ รอรับไม่รู้จะส่งให้ผมทันก่อนวันอาทิตย์ที่ 15 นี้หรือเปล่านะครับ เพราะจะลองเสี่ยงไปหา ลป.บุญหนา (และหลวงปู่สาย อ.มั่นอีกหลายท่าน) เพื่อปลุกเสก ที่ว่าเสี่ยงเพราะไม่รู้ท่านจะอยู่ที่วัดใหม่เสนาฯ อยู่หรือเปล่านะครับ เพราะเมื่อเสาร์ที่ 7 ที่ผ่านมาท่านก็มาแล้วไปสวดมนต์ที่งานวัดเกิดของ ลพ.วิริยังค์ วัดธรรมมงคล
     
  17. dansa

    dansa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +490
    สวยงามครับรอรับแล้วล่ะทีนี้
     
  18. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    รีบส่งด่วนเลยนะครับ ถ้าช้าจะให้พี่รักไปเอาที่จันทบุรี พร้อมของแถม :cool:
     
  19. windman

    windman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    994
    ค่าพลัง:
    +741
    ผมได้บอกให้คุณวุธส่ง ขุนแผนและเหรียญ (เจดีย์ทอง) ไปให้ที่บ้านเพื่อนผม เมื่อกลางวันเพื่อนผมโทรมาบอกว่าได้รับแล้วนะครับ ขอบคุณครับ พรุ่งนี้จะไปดูของและจะเลี่ยมใส่เลย

    เพื่อนผมพอจับพลังได้ พอสัมผัสก็บอกว่าแรงดีมากครับ (ขนาดความสามารถของเพื่อนผมมีน้อยนะครับ)
     
  20. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    น่าอิจฉาได้ก่อนคนอื่นเลย ถ้าเลี่ยมแล้วอย่าลืมมาโชว์นะครับ
    :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...