ข่าวภัยพิบัติ แจ้งเตือนภัยก่อนปี 2555

โอ้ว ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณมากครับ

 

ขออย่าให้เกิดอะไรที่ร้ายแรงอีกเลยนะคะ เตรียมตัวป้องกัน กันไว้ค่ะ


รายได้พิเศษ || งาน part time || งานราชการที่เปิดสอบ

 

คนกรุงเทพ..โดยเฉพาะผู้ชายใจร้าย...แมวเหมียวเจอมาแล้ว...2 คน ใจร้ายมากเลย..เสียใจ..จำไว้เป็นบทเรียน...อาจจะมีคนดีนะคะ..แต่ยังไม่เจอค่ะ

 

มันเกี่ยวอะไรกับหัวข้อสนทนาครับ งง 5555555555555+

 

เตรียมเสบียงบุญให้เต็มที่ ทำใจยอมรับ ตายก่อนตาย

 

กลัวการปรุงแต่งในจิตตนเองจากข้อมูลภัยพิบัติมากกว่า
สิ่งใดต้องเป็นไป ก็ต้องเป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีทางเลี่ยง

ในความเป็นจริง คนที่ทำบุญมาอาจตายในกรณีนี้ก็มีถ้ากรรมส่งผล รอดตายพ้นจากภัย ไม่ตายก็มีมาก แล้วแต่กรรมปัจจโย วิปากปัจจโย

และในทางตรงข้าม คนบาปอยู่รอดได้ก็มี ตายไปก็มีอีกเช่นกัน
คนที่ตายหรือรอดในภัยพิบัติ จึงไม่อาจสรุปไม่ได้ว่าดีหรือชั่ว แต่สรุปว่ามาจากกรรมวิบากส่งผลของแต่ละคน

คนที่เท่าทันแม้เผชิญภัยอยู่จึงไม่ต้องกลัว แม้กลัว ก็ให้รู้ว่ากลัวอยู่ ๆๆๆ จนกระทั่งความกลัวหายไป เห็นแต่ลมหายใจของตนและการปรุงแต่งในจิตที่มีไปก่อน

หากยังกลัว ควรสวดธารณปริตรจะช่วยได้มาก คาถานี้ป้องกันแม้ความร้อนจากดวงอาทิตย์ที่ขึ้นพร้อมกันในวันโลกาวินาส สวดมากๆจิตจะสงบลงเอง

พร้อมทั้งพิจารณาไปจะเริ่มเข้าใจจิตเราที่ปรุงแต่งในสื่งต่างๆ
บางทีเจอของจริงไม่ทุกข์เท่าที่เราปรุงแต่งจิตไปก่อนล่วงหน้า

พุทธานัง ชีวิตตัสสะ นะสักกา เกนะจิ อันตราโยกาตุง ตถา เตโหตุ
ภัยอันตรายใดๆไม่บังเกิดแก่พระพุทธองค์ฉันใด ขอภัยทั้งหลายเหล่านั้นจงไม่บังเกิดแก่ทุกท่านเช่นเดียวกันเทอญ

 

ผมเคยเก็บเรื่องพวกนี้นะครับ ไว้ในคอมพิวเตอร์เยอะมาก + หาหนังสือมาเป็นตั้ง + เก็บไว้สมอง ปรากฎว่าไม่มีประโยชน์เลยครับ คิดไปก็ปวดกบาลเป็นกังวลไปป่าวๆ ลบหมดละ
เชื่อคำสอนของพระพุทธองค์ครับ
ให้มีสติอยู่กับปัจจุบันแล้วจะสบายเองอะไรจะเกิดก็เกิดเองครับ
และเราควรสร้างบุญกับพระโพธิสัตว์ไว้เยอะๆนะครับ บารมีท่านมากสร้างบุญมาเยอะท่านช่วยเราได้ครับ หมั่นระลึกถึงท่านครับเพราะพระองค์มาเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ครับ ลองดูนะครับแล้วท่านจะรู้เองเหมือนมีลางมาบอกครับ
อย่ามัวแต่คิดเรื่องพวกนี้เลยครับ

เชื่อผมนะ ผมน่ารักกว่าเยอะและรักทุกคนด้วยพรหมวิหาร 4
นะจ๊ะ

 

ความตายไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวครับ สิ่งที่น่ากลัวคือการมีชีวิตอยู่มากกว่า หากเกิดภัยพิบัติขึ้นมาจริง ๆ จะทนอยู่ได้หรือครับกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น กับคนที่เรารัก คนที่เรารู้จัก ผู้คน สรรพสัตว์มากมาย ที่ต้องล้มหายตายจาก หากเกิดขึ้นมาจริงๆ ผมคนนึงละครับที่พร้อมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น และยินดีหากจะต้องตายร่วมกับคนที่ผมรักและเพื่อนมนุษย์ทุกคน

 

ดาวนิบิรุไม่ได้มีแสงสว่างในตัวเองนะครับ
แต่มันสะท้อนแสงจากดวงอาทิตย์จึงแลดูเหมือนมีแสงสว่างในตัวเอง
ซึ่งดาวนิบิรุนี้ยังต้องรอความชัดเจนว่ามีอยู่จริงหรือไม่ครับ

 

ผมจะทำความดี ลดความเห็นแก่ตัว เห้นแก่ได้
ทำบุญมากๆๆ หมั่นทำสมาธิ ภาวนา ให้มากขึ้นๆๆละนะ
ลด ละ เลิก ความโลภ โกรธ หลง ให้เบาบางลงให้ได้มากที่สุดละ
เตรียมพร้อมทั้งกาย ใจ กับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
เตรียมยา อาหาร น้ำ เสบียง ละนะ(ไม่ประมาท อะ)

 

เห็นด้วยกับท่านเป็นอย่างยิ่งค่ะ ^^ การตายไม่สามารถสรุปได้ว่าคนผู้นั้นดีหรือชั่วได้จริงๆค่ะ ขึ้นกับเหตุปัจจัยที่ส่งผลก็เท่านั้น ส่วนตายแล้วไปไหนก็ขึ้นกับขณะจิตที่ตายกับกรรมที่ทำมาเท่านั้น

 

บทนิพนธ์ของรัชกาลที่ 5

เห็นหน้ากันเมื่อเช้า...สายตาย
สายอยู่สุขสบาย... บ่ายม้วย
บ่ายอยู่ร่าเริงกาย...เย็นดับ ชีพณา
เย็นอยู่หยอกลูกด้วย...ค่ำม้วย ดับวิณญาณ

ตอนนี้กำลังฝึกมรณานุสติอยู่ค่ะ นึกถึงนิพพานเป็นอารมณ์ความตายไม่มีนิมิตหมาย โลกไม่เที่ยง แต่ความตายนี้เที่ยงท้และแน่นอนค่ะ

 

รอทุกวันความตายเนี๋ย

 

ผมเตรียมทำใจไว้แล้ว อะไรจะเกิด มันเกิดอยู่วันยันค่ำ เป็นอยู่ทุกยุค ทุกสมัย ทุกกัปป์ เป็นวัฐจักรของสัตว์โลก มีเกิดก็ย่อมมีดับไปเป็นธรรมดา ถ้าตายขอไปพระนิพพานเพียงจุดเดียวครับ สาธุ...

 

ใครหน่อ...........รังแกแมวเหมียว ได้ลงคอ ........... ใจร้าย...........555+

 

ไปสวดมนต์ไหว้พระทำสมาธิแก้กรรมกันเถอะนะพวกเราชาวกรุงเทพ เกิดมาแล้วก็ต้องตายกันทุกคนแต่ถ้าตายแล้วขอไปสวรรค์ดีกว่านะ

 

เห็นด้วยกับคุณ "ธัมมนัตา" เช่นกันครับ

 

เกิดเเก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมชาติ คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ให้เรารู้วันตายเราก็หลบหลีกไม่ได้ ปัจจุบันนี้ทำให้ดีที่สุดของแต่ละวันดีกว่า ถึงเวลาถ้าเกิดจริงๆ เมื่อเราถูกกำหนดโดยกฏเเห่งกรรมแล้วให้หนีไปไหนก็ไม่พ้นความตายอยู่ดี จะวิตกกังวนกันไปทำไม ถ้าเกิดขึ้นจริง แล้วหนีไปได้ ไม่เกิน 80-90 ปี ก็ตายอยู่ดี แค่ ตายก่อน ตายหลังเท่านั้น

 

เป็นสัญญาณว่าฝนจะมาเร็วกว่าปกติมังคะ

 

เห็นด้วยค่ะ และส่วนตัวคิดเองว่า
หากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริง เราก็ไม่ควรคิดมากหรือหนีกรรม ทุกอย่างก็คงจบๆไปตามกาลเวลา ดูอย่างท่านโมคคัลลาเป็นตัวอย่าง(จบกรรมด้วยการชดใช้กรรม..)และคงมีหลายๆท่านที่รู้แจ้งเรื่องภัยครั้งนี้ ท่านเมตตามาเตือนเราให้เร่งสร้างบุญและเตรียมจิตสู้ภัยพิบัติ เราเกิดมาในยุคนี้มีกรรมร่วมกันมา ก็คงต้องปล่อยให้กฎนี้ทำงานต่อไป..:'(