WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

พหลโยธิน หน้าเซ็นทรัล-เมเจอร์น้ำสูง50ซม.

ข่าวสังคม วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 10:07 น.



ถนนพหลโยธินขาออก ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว บางจุดน้ำยังท่วมสูง รถเล็กผ่านไม่ได้ หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว และเมเจอร์ รัชโยธิน น้ำยังสูง 50 ซ.ม.

ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด บนเส้นทาง ถนนพหลโยธินขาออก ตั้งแต่ห้าแยกลาดพร้าว มุ่งหน้าแยกรัชโยธิน พบว่า มีน้ำท่วมตลอดทั้งเส้นทาง โดยห้าแยกลาดพร้าว พบว่า ระดับน้ำยังคงสูงระดับ 30-40 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไป มา ในบริเวณนี้ได้ เช่นเดียวกับ บริเวณหน้าห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ระดับน้ำสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร ถัดมาที่แยกรัชโยธิน
พบว่า น้ำท่วมสูงตั้งแต่ 10-40 เซนติเมตร โดยเฉพาะหน้าเมเจอร์ รัชโยธิน พบว่า เป็นจุดที่น้ำท่วมสูง ถึง 50 เซนติเมตร ทั้งนี้ พบว่าประชาชนในบริเวณนี่สัญจรไป มา ได้อย่างยากลำบาก แม้จะมีรถประจำทางของ ขสมก. บริการ แต่มีจำนวนน้อย

นอกจากนี้ ยังพบว่าประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากรถประจำทางที่ใช้ความเร็วขับฝ่าน้ำท่วม จนทำให้น้ำสาดโดนประชาชนที่ใช้ทางเท้า
Link : พหลโยธิน หน้าเซ็นทรัล เมเจอร์น้ำสูง50ซม

 

กฟผ. แจง น้ำท่วม เกิดจากภัยธรรมชาติ.



กฟผ.ระบุ น้ำท่วมครั้งนี้เกิดจากภัยธรรมชาติ ปริมาณน้ำกว่า ร้อยละ 80 มาจากนอกระบบชลประทานไม่สามารถควบคุมได้

นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมภาคกลางที่เกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. ปริมาณน้ำที่ระบายจาก 2 เขื่อนใหญ่ รวมกันเพียง 5,447 ล้าน ลบ.ม. ในขณะที่ท้ายเขื่อนมีฝนตกหนัก และมีน้ำจากแม่น้ำวัง แม่น้ำยม และน้ำทุ่ง ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา จ.นครสวรรค์ จึงทำให้มีปริมาณน้ำถึง 21,039 ล้าน ลบ.ม. ไหลไปรวมกับน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง 2,738 ล้าน ลบ.ม. และแม่น้ำป่าสัก อีก 3,165 ล้าน ลบ.ม. ไหลเข้าสู่พื้นที่ภาคกลาง ซึ่งจะเห็นได้ว่าปริมาณน้ำส่วนใหญ่ ถึงร้อยละ 80 เป็นปริมาณน้ำฝนที่ตกนอกระบบชลประทาน ไม่สามารถควบคุมได้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ หากตั้งสมมติฐานว่า กฟผ. ระบายน้ำก่อนในช่วงต้นฤดูฝนเต็มที่ หรือ เขื่อนทั้งสองเก็บน้ำไว้ทั้งหมด มวลน้ำที่ไหลเข้าสู่ภาคกลางนั้นยังคงมีมากว่า 20,000 ล้าน ลบ.ม. ในขณะเดียวกัน หากไม่มีเขื่อนทั้งสองแห่งรองรับน้ำไว้ ปริมาณน้ำกว่า 10,000 ล้าน ลบ.ม. ที่เก็บกักไว้ในปี 2554 จะไหลลงสู่พื้นที่ภาคกลางทั้งหมดเช่นกัน จึงเห็นได้ว่าการที่เกิดน้ำท่วมในปีนี้มาจากภัยธรรมชาติที่หลีกเลี่ยงได้ยาก

กฟผ. ในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการฯ ยืนยันได้ว่าการบริหารจัดการน้ำได้พิจารณาจากภาพรวมทุกด้าน ตามหลักวิชาการ และในส่วนของ กฟผ. ได้ปฏิบัติตามมติคณะอนุกรรมการฯ

Mthai News

 

รายงานสด..น้ำฝั่งตะวันออก กทม.กำลังโอบล้อมนิคมฯ บางชัน



น้ำที่กำลังไหลผ่านลงมาทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพมหานคร กำลังมาโอบล้อมพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมบางชัน สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงสูงเช่นนี้ ทำให้ตลอดทั้งวันนี้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมเครื่องสูบน้ำมาช่วยผันและระบายน้ำ แต่พื้นที่รอบนอกโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มจุดที่รับผลกระทบจากคลองแสนแสบและคลองสาขา ทั้งในเขตมีนบุรี และสะพานสูงก็กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเพราะน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างช้าๆ

เครื่องสูบน้ำจำนวนมากถูกระดมมาติดตั้งโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ตั้งแต่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยขณะนี้ น้ำจากคลองพระยาสุเรนทร์ คลองบางชัน กำลังไหลเอ่อลามเข้าพื้นที่ในซอยย่อยด้านข้างนิคมแทบทุกจุด และไหลลงสู่บึงกระเทียมจนล้น ก่อนจะย้อนกลับมาสู่พื้นผิวถนนหม่อมเจ้าสง่างามสุประดิษฐ์ และกระจายไปสู่ชุมชนใกล้เคียง

อย่างไรก็ตามนิคมบางชันยังให้ความมั่นใจว่า กระสอบทรายบิ๊กแบ็ก และเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่ รวมถึงการป้องกันด้านใน จากกระสอบทรายที่คลุมทับด้วยผ้าใบ 50 ชั้น จะช่วยป้องกันพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งมีโรงงานอยู่ 93 โรงงานเอาไว้ได้

อย่างไรก็ตามตอนนี้สถานการณ์โดยรวมของฝั่งตะวันออกยังอยู่ในภาวะเสี่ยง เพราะหลายพื้นที่โดยเฉพาะจุดที่รับผลกระทบจากคลองแสนแสบ และคลองสาขา ยังคงมีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะชุมชนในซอยรามคำแหง 174 ซึ่งทีมข่าวเราต้องโบกรถสิบล้อของบริษัทปาล์มวิลเลจ เข้าไปลงพื้นที่ เพราะระดับน้ำจุดที่ลึกสุดมากกว่า1 เมตร เราจึงได้เห็นสภาพของหมู่บ้านบัวขาว ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่ทั้ง 840 หลังคาเรือน ไม่ต่างจากชุมชนวังทองพัฒนาซึ่งอยู่ติดกันอีก 140 หลังคาเรือน เนื่องจากกลุ่มหมู่บ้านเหล่านี้ที่ติดกับคลองโดยรอบด้าน ทั้งจากคลองต้นขนุน คลองบึงขวาง คลองลาดบัวขาว และคลองแสนแสบ ซึ่งรับน้ำต่อมาอีกทอดจากนิคมบางชัน และตอนนี้ปัญหาของชุมชนเหล่านี้คือ ความขัดแย้งหลังจากทุกหมู่บ้านพยายามสูบน้ำป้องกันเขตของตนเอง ที่สำคัญชุมชนที่ถูกน้ำท่วมหนักมักเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักมากขึ้นในทุกปี หลังจากมีหมู่บ้านจัดสรรโครงการใหม่ๆ มาปลูกสร้างขวางทางน้ำและถมที่สูงกว่าที่ดินเดิม

ส่วนชุมชนในเขตสะพานสูง ในซอยรามคำแหง 118 จุดที่ถูกน้ำท่วมมานานหลายวันวันนี้ระดับน้ำก็ยังทรงตัว 30-50 เซนติเมตร เช่นเดียวกับหัวน้ำที่เชิงสะพานข้ามคลองบางเตย ในถนนนวมินทร์ หน้าซอย 66 ก็ยังจ่ออยู่ในระดับใกล้เคียงกับเมื่อวาน และแทรกซึมไปตามคอสะพานหลายแยก เช่น แยกนิด้า และแยกสวนสน

 

5 อำเภอชายแดน"ตาก"อากาศเริ่มหนาว


13 พย. 2554 10:37 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก รายงานว่า ขณะนี้สภาพอากาศทั่วไปในอำเภอแม่สอด และพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนของ จังหวัดตาก เช่น อำเภอแม่สอด พบพระ อุ้มผาง แม่ระมาด และอำเภอท่าสองยาง เริ่มมีอากาศหนาวเย็น ทำให้ประชาชน เริ่มซื้อเสื้อกันหนาว และห่มเสื้อกันหนาวกันมากขึ้น ขณะที่บางพื้นที่อากาศหนาวเย็นถึงขั้นต้องคนผิงไฟ และยืนรับแสงแดดเพื่อความอบอุ่น เช่นเดียวกับร้านกาแฟ มีบรรดานักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดที่ไปเที่ยวอำเภอแม่สอด ต่างไปหาอาหารที่ให้พลังงานทานกัน เช่น โรตีปะโอ่ง และชา กาแฟ

 

น้ำยังท่วม 7 อำเภอในพิจิตร


13 พย. 2554 10:38 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จ.พิจิตรที่น้ำท่วมนานกว่า 5 เดือน แม้ว่าจะคลี่คลายลงแต่น้ำที่มีจำนวนมากยังคงท่วมขังบ้านเรือนประชาชน ถนนในหมู่บ้าน พื้นที่ทางการเกษตร ในพื้นที่ 7 อำเภอ 34 ตำบล 343 หมู่บ้าน ประชาชนยังได้รับผลกระทบ 20,098 ครัวเรือน แบ่งเป็นพื้นที่แม่น้ำน่าน 2 อำเภอ คืออำเภอตะพานหิน และอำเภอบางมูลนาก นอกจากนี้ ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ 4 ตำบล 39 หมู่บ้าน ส่วนแม่น้ำยมยังท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ คือ อำเภอวชิรบารมี สามง่าม โพธิ์ประทับช้าง บึงนาราง และอำเภอโพทะเล ที่น้ำยังท่วมขังในพื้นที่ 30 ตำบล 304 หมู่บ้าน ประชาชนจำนวนมากยังต้องใช้เรือเป็นพาหนะในการสัญจร
สำหรับระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ Y 17 อำเภอสามง่าม ระดับน้ำ 5.75 สูงกว่าจุดวิกฤติ 19 เซนติเมตร ส่วนที่สถานีวัดน้ำ Y5 อำเภอโพทะเล ระดับน้ำ 7.88 ระดับน้ำสูงกว่าจุดวิกฤติ 93 เซนติเมตร ระดับน้ำลดลงวันละ 4- 5 เซนติเมตร

 

มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะมีกำลังค่อนข้างแรง

ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปและมีฝนตกหนักบางพื้นที่

ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปสูงประมาณ 2 เมตร

ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

แผนที่ลม

 

แผนภาพแสดงปริมาณน้ำฝนใน 24 ชั่วโมง

 

Sasin Chalermlarp

ฟัง อ.เสรี แล้ว คิดว่า เราน่าจะ "คาดการณ์" สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับน้ำท่วม กทม. ได้ตามสมควรครับ ผมว่าสถานการณ์ ชัดเจนว่า ถ้าคลองบางซื่อ (ในส่วนของผมเคยคิดว่าจะมาถึง คลองสามเสน) ไม่มีปัญหา น้ำจะไม่มาถึงเสาวรีย์ชัย ดังนั้น เขต พญาไท ดินแดง และ ห้วยขวาง น่าจะไม่ท่วม ถ้า ระบบการสูบน้ำที่บางซื่อยังไหว เช่นเดียวกับ ฝั่งรามคำแหง ที่ผมคิดว่าไม่รอดแน่เพราะเป็นที่ต่ำ จะมีน้ำซึมใต้ดินมาถึง แต่จากการที่ กทม. นำน้ำออกไปสู่แสนแสบและทุ่งตะวันออกได้มาก ดังนั้น ระบบระบายน้ำในพื้นที่ต่ำระหว่างคลองแสนแสบและคลองประเวศ เขตสวนหลวง บางกะปิ และ สะพานสูง น่าจะสู้ไหว ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเพิ่มเติม ดังนั้น เขตด้านใต้ลงมาชั้นในทั้งหมด น่าจะวางใจได้ ถ้าเขตที่ว่ามาไม่ท่วม (ถึงท่วมก็เตรียมการทัน)

แต่ในขณะเดียวกัน ด้านตะวันออก นอกคันร่มเกล้า นับว่าท่วมเต็มหลายวันแล้ว ก็คงเพิ่มระดับขึ้นที่เขตใต้ลงมาโดยเฉพาะ ลาดกระบัง พื้นที่ บางพลี บางเสาธง ของจังหวัดสมุทรปราการ คงไม่มีน้ำลงมาเร็ว เพราะ ถนนมอเตอร์เวย์ กั้นไว้ จะลอดคลองมาได้ ที่คลองลาดกระบัง คลองหนองงูเห่า คลองจรเข้ใหญ่ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต พื้นที่ราบมาก ยังมีคลองย่อยๆ น้ำมาไม่เยอะ ระบบสูบน้ำออกแรง ดังนั้น ไม่น่าจะท่วมหนัก เอ่อ ๆรอบสุวรรณภูมิ ตามท่อมั๊งครับ แต่ไม่ควรประมาท ว่าจะไม่ท่วมเลย ต้องตามข่าวระดับน้ำในคลองที่ผมว่ามาว่าล้นตลิ่งมาแค่ไหน


http://www3.thaipbs.or.th/flood54/preview.asp?newsid=C0002004

 

กทม.ประกาศอพยพ 3 ชุมชน แขวงแสมดำ


13 พย. 2554 11:16 น.

เมื่อเวลา 10.45 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. ได้ลงนาม ในประกาศ กทม.

เรื่องสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน โดยขอให้ประชาชนใน 3 ชุมชน ประกอบด้วย

ชุมชนการเคหะแห่งชาติ โครงการ 1, ชุมชนทรัพย์สินพัฒนา และ ชุมชนเชื่อมสัมพันธ์ ถนนพระรามที่2 ซอย 88

ขนย้ายสิ่งของ ทรัพย์สินมีค่า รถยนต์ ปลั๊กไฟฟ้าขึ้นที่สูง และให้ผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ดังกล่าว อพยพไปอยู่สถานที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่ กทม. เตรียมไว้ให้

และขอให้ย้ายผู้ป่วย สตรีมีครรภ์ และคนชราก่อนอันดับแรก ทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือ ได้ที่สำนักงานเขต

หรือศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม กทม. หมายเลขโทรศัพท์ 1555 หรือ 02-2211212 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

น้ำท่วมสามพราน 70% สูงกว่า 60 ซม.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2554 11:12 น.

นายมงคล กิตติธรรมคุณ นายอำเภอสามพราน จ.นครปฐม กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ขณะนี้ว่า น้ำท่วมประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 10,000 ครัวเรือน ระดับน้ำเฉลี่ย 0.60 - 1 เมตร ทั้งนี้ให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งทางจังหวัด กองทัพ และภาคเอกชน ที่ดูแลอย่างเต็มที่ โดยพยายามเร่งช่วยเหลือและเยียวยาความเดือดร้อนในเบื้องต้น เช่น ตั้งศูนย์พักพิง แจกถุงยังชีพ แจกเรือ และสุขาเคลื่อนที่ เข้าไปยังชุมชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึง ขณะนี้ยังมีหลายพื้นที่ที่ยังป้องกันน้ำ อาทิ คลองจินดา บางช้าง คลองใหม่ และตลาดจินดา โดยพยายามใช้เรือผลักดันน้ำให้ลงทะเลเร็วที่สุด

 

ศปภ.สรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2554 11:13 น.


ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ ศปภ.แถลงภาพรวมสถานการณ์น้ำล่าสุดเมื่อคืนนี้ เริ่มดีขึ้น ปริมาณน้ำลดลง ขณะที่บางพื้นที่น้ำที่ท่วมขังอยู่เดิมจะแผ่กระจายไปในวงกว้าง แต่ระดับน้ำไม่สูงขึ้น ขณะที่ปริมาณน้ำราว 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตรท่วมอยู่บริเวณที่ราบเจ้าพระยา น้ำส่วนใหญ่ 3,000-4,000 ล้านลูกบาศก์เมตรจะถูกเก็บไว้ในทุ่ง เพื่อใช้ในการเกษตร น้ำอีกส่วนประมาณ 1 ใน 3 จะไหลลงสู่ลำน้ำและทะเล โดยภาครัฐจะต้องเร่งระบายในส่วนนี้ และยังมีน้ำหลากทุ่งที่เป็นปัญหาอีกประมาณ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะถูกระบายผ่านฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกต่อไป

 

ลพบุรี-เร่งกู้ถนนเลี่ยงเมือง



ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เร่งกู้พร้อมซ่อมถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี-สระบุรี-สิงห์บุรี ที่ถูกน้ำท่วมนานกว่า 2 เดือน และได้รับความเสียหายหนัก เพื่อให้สามารถเปิดใช้ได้ภายใน 7 วัน

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี ออกสำรวจถนนสาย 311 เลี่ยงเมืองลพบุรี-สระบุรี-สิงห์บุรี ซึ่งถูกน้ำท่วมมานานกว่า 2 เดือนจนไม่สามารถใช้การจราจรได้ และถนนยังชำรุดได้รับความเสียหายหลายจุด โดยเฉพาะช่วงหลักกิโลเมตรที่ 15-16 ช่วงหมู่ที่7และ8 ตำบลโพธิ์ตลาดแก้ว อำเภอท่าวุ้ง ที่น้ำได้เซาะถนนทรุดไปครึ่งเลน และคอสะพานขาดเป็นทางยาว

ซึ่งหลังจากสำรวจแล้วได้สั่งให้กรมทางหลวง เร่งกู้ถนนสายดังกล่าว โดยจุดที่คอสะพานขาดให้เร่งนำสะพานแบริ่งมาเสริมให้วิ่งได้ ส่วนจุดที่น้ำเซาะถนนทรุดไปเกือบครึ่งเลนให้นำหินใหญ่เข้ามาซ่อมแซ่ม เพื่อเร่งให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันเพื่อสามารถเปิดถนนให้ใช้สัญจรได้อีกครั้ง ทั้งนี้เพื่อให้รถขนาดใหญ่ได้ใช้ไม่ต้องวิ่งเข้าไปในตัวเมืองลพบุรี เพราะเกรงว่าโบราณสถานจะได้รับความเสีหาย และเพื่อไม่ให้การจราจรติดขัด แต่เบื้องต้นรถเล็กพอวิ่งผ่านได้แล้ว หลังเจ้าหน้าที่นำสะพานแบริ่งมาวางเรียบร้อยแล้ว แต่รถใหญ่ต้องรออีก 1 สัปดาห์จะสามารถเปิดให้ใช้ได้

 

เชียงใหม่-นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสหนาวที่อำเภอปายคึกคัก



นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นเหนือไปเที่ยวที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนกัน เพื่อสัมผัสอากาศหนาว ขณะที่บรรยากาศการท่องเที่ยวคึกคักในช่วงวันหยุด

บรรยากาศการท่องเที่ยวทางภาคเหนือเริ่มกลับมาคึกคักรับลมหนาวแล้ว โดยเฉพาะช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่หนาวที่สุดช่วงแรกของปี ประกอบกับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติหันมาเที่ยวทางภาคเหนือมากขึ้นเนื่องจากพื้นที่ทางตอนล่าง และภาคกลางได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ส่วนหนึ่งก็มีประชาชนหนีน้ำท่วมมาเที่ยวภาคเหนือทำให้บรรยากาศช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และวันหยุดเสาร์อาทิตย์แหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน คึกคักขึ้นมาทันที

ส่วยใหญ่ประชาชนจะเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปเที่ยวที่อำเภอปาย ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นบ้างก็ใช้รถจักรยานยนต์ และอาศัยรถโดยสารขึ้นไปเที่ยวอำเภอปายกัน บรรยากาศที่ถนนคนปาย ซึ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนก็คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่ออกมาเลือกซื้อของฝาก ถ่ายภาพ และชมบรรยากาศของอำเภอปายในช่วงกลางคืน

ส่วนยามเช้าที่อำเภอปายยังคงความเป็นเมืองสามหมอก ช่วงเช้ามีหมอกหนาปกคลุมไปจนถึองเกือบช่วง 11.00 น.นักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายภาพก็จะตื่นแต่เช้ารีบไปหามุมสวยๆ ของอำเภอปายเก็บภาพกัน โดยเฉพาะภาพหมอกในตอนเช้าตามทุ่งนา ซึ่งเป็นช่วงที่ข้าวออกรวงใกล้ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวเป็นมนต์สเน่ห์ของอำเภอปายช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวนี้

 

ถ.ไปสวนสยามน้ำท่วม50ซม.ยูโรจมแล้ว4คัน

ข่าวสังคม วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 11:25 น.




ถนนมุ่งหน้าสวนสยาม น้ำท่วมสูง 50 ซ.ม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ขณะที่รถยูโรจอดซ่อมในอู่สวนสยาม จมน้ำแล้ว 4 คันเหตุน้ำสูง 1 ม.

บรรยากาศการเดินทางของประชาชน บริเวณแยกเกษตร-นวมินทร์ เช้าวันนี้ เป็นไปอย่างเงียบเหงา เนื่องจากตลอดเส้นทาง มีน้ำท่วมสูง 20-30 เซนติเมตร การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีเพียงรถประจำทาง ขสมก. และรถทหารเท่านั้น ที่ให้บริการอยู่ ขณะที่เส้นทางสวนสยาม ซึ่งเป็นถนนที่มุ่งหน้าสู่สวนสยาม พบว่า ตลอดเส้นทางน้ำท่วมสูง โดยระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 30-50 เซนติเมตร รถประจำทางยังคงให้บริการอยู่ แต่รถเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งพนักงานขับรถประจำทาง ขสมก. รายหนึ่ง กล่าวว่า บนถนนสวนสยาม น้ำท่วมสูง 30-50 เซนติเมตร แต่ในอู่รถเมล์สวนสยาม ซึ่งอยู่ข้างๆ เป็นอู่รถ และ
ท่าปล่อยรถ ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตรแล้ว ทำให้รถเมล์ต้องย้ายอู่รถไปจอดที่อื่น แต่อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์น้ำท่วมในถนนสวนสยาม และอู่รถเมล์สวนสยาม ซึ่งอยู่ข้างๆ กัน ทำให้รถยูโร ซึ่งจอดอยู่ในอู่รถ ได้รับความเสียหายจมน้ำไปแล้ว 3-4 คัน โดยเป็นรถที่รอการซ่อม

Link : http://www.innnews.co.th/ถ-ไปสวนสยามน้ำท่วม50ซม-ยูโรจมแล้ว4คัน--320901_03.html

 

ปภ. เตือน ปชช.ระวังสารเคมีในบ้านรั่วไหล

ข่าวสังคม วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 11:30 น.



อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนประชาชนเก็บสารเคมี ให้ดี ช่วงน้ำท่วม กันสารเคมีรั่วไหลไปตามน้ำ


นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ในช่วงน้ำท่วม อาจทำให้สารเคมีที่ใช้ภายในบ้านเรือนรั่วไหลกระจายไปตามน้ำ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงควรสำรวจและตรวจสอบภาชนะบรรจุสารเคมี ให้อยู่ในสภาพปลอดภัย ไม่มีรอยบุบ ผุกร่อน หรือแตก ฝาภาชนะปิดมิดชิด พร้อมนำถุงพลาสติกสวมทับภาชนะบรรจุสารเคมี อีกชั้นหนึ่ง และมัดปากถุงด้วยยาง
หรือเชือกอย่างแน่นหนา จากนั้นให้นำสารเคมีไปจัดเก็บไว้ในที่สูง พ้นจากระดับน้ำท่วมถึง เก็บแยกจากอาหารและเครื่องดื่ม และระมัดระวัง อย่าให้สารเคมีรั่วไหลปะปนกับน้ำที่ท่วม เพราะอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากเป็นไปได้ ควรงดใช้สารเคมีในช่วงน้ำท่วม สำหรับการกำจัดขยะประเภทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย ให้คัดแยกออกจากขยะแห้ง ประเภทอื่น และเก็บให้พ้นน้ำ

ทั้งนี้ หากพบเห็นภาชนะบรรจุสารเคมี บ่อกักเก็บน้ำทิ้ง หรือจุดทิ้งขยะอันตราย ในพื้นที่ ที่มีน้ำท่วม ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการ ขณะที่หลังจากเดินลุยน้ำท่วมหรือสัมผัสกับสารเคมี ควรทำความสะอาดร่างกายและเช็ดให้แห้ง หากมีอาการผิดปกติ เช่น คัน เป็นผื่นแดงตามผิวหนัง คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ อาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์

Link : ปภ เตือน ปชช ระวังสารเคมีในบ้านรั่วไหล

 

คลองบางซื่อเสูบน้ำดีวิภาวดีฯน้ำลด

ข่าวสังคม วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 11:30 น.
share



ระดับน้ำถนนวิภาวดีฯ น้ำลดลงต่อเนื่อง คลองบางซื่อเร่งสูบน้ำออก ด้านถนนรัชดาฯ ระดับน้ำลดลงเช่นเดียวกัน แต่รถเล็กยังไม่สามารถสัญจรได้


สถานการณ์น้ำล่าสุดขณะนี้ ที่บริเวณคลองบางซื่อ ถนนวิภาวดี-รังสิต เจ้าหน้าที่ได้เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังอยู่บริเวณถนนวิภาวดีฯลงคลองบางซื่อ ตลอด 24 ช.ม. เพื่อลดระดับน้ำที่ท่วมขัง ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง หัวน้ำก็ยังไม่ได้ไหลข้ามไปท่วมบริเวณแยกสุทธิสาร ส่วนระดับน้ำในคลองบางซื่อ ก็ถือว่าลดลง เหลือระดับเดียวกับบริเวณแนวคันกั้นน้ำแล้ว

ทางด้านถนนรัชดาภิเษก ตั้งแต่บริเวณสะพานข้ามแยกรัชดา-ลาดพร้าว มาจนถึงบริเวณคลองบางซื่อ ขณะนี้ระดับน้ำมีความสูงอยู่ที่ประมาณ 30-35 ซ.ม. ถือว่าลดลง จากเมื่อวานนี้ประมาณ 5-10 ซ.ม. ในบางจุด ส่วนบริเวณเชิงสะพานนั้น ระดับน้ำมีความสูง อยู่ที่ประมาณ 50-60 ซ.ม. เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำ ซึ่งบางจุดเลนขวาสุด เริ่มมองเห็นฟุตปาธบริเวณเกาะกลางแล้ว สำหรับหัวน้ำก็ยังไม่ไหลข้ามมายังอีกฝั่งของสะพาน ด้านการจราจรนั้น รถเล็กยังคงไม่สามารถสัญจรได้ ตั้งแต่บริเวณสะพานข้ามคลองบางซื่อ ไปทางแยกรัชดา-ลาดพร้าว
Link : http://www.innnews.co.th/คลองบางซื่อเสูบน้ำดีวิภาวดีฯน้ำลด--320903_03.html

 

ไอ้ตอแหล.........

แก้ตัวได้แค่นี้เองเหรอ...ไอ้หน้าโง่...ไปไกลๆเลย.....ไป๊.....ไอ้ผู้ว่า..จอมสอพลอ....ยามเฝ้าเขื่อนยังมีความรู้เรื่องน้ำมากกว่ามรึงอีก...
ประชาชนยุคนี้ไม่ได้โง่นะโว้ย....

 

ถ.พหลโยธิน ช่วงกำแพงเพชร น้ำลดต่อเนื่องข่าวสังคม วันอาทิตย์ที่ 13 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 12:46 น.
share

ถนนพหลโยธิน ช่วงแยกกำแพงเพชร น้ำยังลดต่อเนื่อง ฝั่งขาออกน้ำเริ่มแห้ง ส่วนฝั่งขาเข้าน้ำเริ่มลด



สถานการณ์ระดับน้ำในถนนพหลโยธินล่าสุด ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะถนนพหลโยธินขาออก จากแยกกำแพงเพชร ล่าสุด ถนนเริ่มแห้ง และรถขนาดเล็กและรถมอเตอร์ไซค์ สามารถขับผ่านเข้ามาได้แล้ว ส่วนถนนพหลโยธินขาเข้านั้น น้ำก็ยังคงลดระดับเช่นกัน ซึ่งล่าสุด ลานจอดรถฝั่งติดกับสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต น้ำเริ่มแห้ง และไหลลงไปบนผิวถนนแล้ว ส่วนระดับน้ำ
ห้าแยกลาดพร้าว และมหาวิทยาลัยเซ็นจอห์น แม้น้ำจะลดลง แต่ก็ยังคงมีระดับสูง โดยวัดจากด้านหน้าสรรพสินค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว ล่าสุดบางจุดอยู่ที่ 65 เซนติเมตร ซึ่งการเดินทางจากห้าแยกลาดพร้าว มุ่งสู่สี่แยกรัชโยธิน ยังคงต้องใช้รถทหาร และรถขนาดใหญ่เท่านั้น
Link : ถ พหลโยธิน ช่วงกำแพงเพชร น้ำลดต่อเนื่อง