ถ้าเราจับภาพเป็นประกายพรึกได้ตลอด นี่ถือว่าเราได้ณาน 4 ไหมครับ ?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิญญาณนิพพาน, 25 ตุลาคม 2011.

  1. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,653
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    สวัสดีครับเพื่อนๆ คือผมอยากจะทราบว่า ถ้าผมไม่เคยนั่งสมาธิจนถึงเเบบอาการที่ไม่มีลมหายใจเลย เเต่เวลาที่ผมจับภาพกสิณ หรือภาพพระพุทธรูป ผมจะสามารถจับได้เป็นประกายพรึก เเละวางอุเบกขาได้ตลอด คือไม่ยึดอะไรทั้งสิ้น เเบบนี้ถือว่า ผมถึงณาน 4 ไหมครับ ? คือที่ผมกําลังงงอยู่หน่อย เพราะเคยได้ศึกษามา ( ถ้าผิดก็ต้องขอภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ) ถ้าเราสามารถทรงภาพกสิณ หรือภาพพระพุทธรูปเป็นประกายพรึกใสระยิบระยับได้ อันนี้ถือว่าเราได้ณาน 4 อย่างนี้ตกลง ถ้าเราจับภาพเป็นประกายใสได้ นึกตอนไหนก็จับได้ เเละสามารถทรงภาพได้ตลอด เเต่เรายังไม่เคยถึงขั้นไม่มีลมหายใจ เเบบนี้ถือว่า เราปฎิบัติถึงณาน 4 รึยังครับ ? รบกวนช่วยเเนะนําด้วยครับทุกท่าน ขอบคุณมากครับ อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  2. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    เลยแล้วครับท่านเป็นอรูปไปแล้ว
     
  3. NICKAZ

    NICKAZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +812
    เจ้าของกระทู้จับภาพกสิณด้วยใช่ไหมครับ ไม่ทราบว่าจับภาพกสิณอะไรครับ เอาอย่างนี้ วิธีการพิสูจน์ด้วยตัวเองง่ายๆ ไม่ต้องทำอะไรยุ่งยาก ทราบได้ด้วยตัวเอง ว่าท่านฝึกจนถึงที่สุดของกสิณแล้วหรอยัง ถึงฌาน 4 แล้วหรือยัง ให้ลองจับภาพกสิณให้ถึงที่สุดที่จะทำได้ ให้ถึงขั้นเป็นประกายพรึกนั่นล่ะ แล้วลองอธิษฐานผลในกสิณกองนั้นดู ถ้าสำเร็จผล แสดงว่ากำลังใจถึงขั้น สำเร็จในกสิณกองนั้นแล้ว แต่ถ้ายังอธิษฐานให้เกิดผลที่ต้องการไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร แสดงว่าจิตยังไม่คงตัว ให้ฝึกต่อไปครับ

    การจับภาพพระ ได้ภาพเป็นประกายพรึกแล้ว ดีครับ ทำอย่างอื่นๆต่อไปได้ไหม ภาพพระนั่งอยู่ เปลี่ยนเป็นพระยืนไหม พระนอนไหม คุยกับพระได้ไหม อันนี้ ลองเข้าไปคุยในห้องอภิญญา xp จะมีผู้มีประสบการณ์ให้แลกเปลี่ยนกันได้มากขึ้นครับ
     
  4. Red people

    Red people เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +153
    สงสัยนี่ยังไม่ใช่ ถ้าถึงแล้วจะรู้กระจ่างแจ้งได้ด้วยจิตเอง

    .
     
  5. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    อรูปต้องเพิกนิมิตได้แล้ว
     
  6. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    ประกายพรึกเอย กำหนดเมื่อไหร่ก็มา สัญญาณนี้ก็บอกได้ว่ามีกำลังพอ ควบคุมพลังได้แล้ว

    เรื่องฌานก็คือฌาณ มีองค์ประกอบ คุณก็คงจะทราบข้อมูลอยู่แล้ว คงจะมาถามเพื่อเพิ่มข้อมูล
     
  7. tOR_automotive

    tOR_automotive เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    582
    ค่าพลัง:
    +184
    หลอกตัวเองก็มีเ่ช่นกัน หลงไปได้เช่นกัน จิตนี้แหละนำพาให้ไม่น่าเชื่อที่สุดเลย
     
  8. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมขอถามหน่อยครับ ตัวกระผม ไม่เชื่อสิ่งที่ผมเชื่อ (ไม่เชื่อที่ใจคิดมันจะหลอกตัวผม ที่เป็นสติตลอดเวลา) ผมขอถามหน่อยว่า ถ้าบุคลใด ที่ได้เห็น ประกายพรึก ที่แบบว่า กระหยุบกระหยิบ ตลอดเวลา ตอน เจริญอาปานุสติ รู้ลมหายใจตลอดเวลา ว่าเราหายใจ เท่าใด ไม่หายใจรึไหม ถ้าจะให้เทียบ ประกาย กระหยุบกระหยิบนี่ งาม กว่าเพชร อีก ถ้าบุคลใดเห็นแบบนี้ จะถึงญาณ ด้านไหนครับ งั้นนี้ มันต้องเกี่ยวกับ บารมี คือ กําลังใจด้วยนะครับ
     
  9. กิดากร

    กิดากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,047
    ญาณ 1-4 ครับถ้าเป็นประกายพรึก ถ้าลมหายใจหายเป็นญาณ 4 แต่ต้องแยกแยะว่า เรานึกภาพอ่ะ จะนึกภาพให้มันเป็นสีไหนก็ได้ แต่จะญาณ 4 จริงหรือไม่มันต้องรู้จักสำรวจอารมณ์ตัวเอง คือ ญาณ 4 เนี้ยมันเป็น อารมณ์ไม่ใช่ภาพ อาณาปาก็เหมือนกันมันเป็นอารมณ์ กรรมฐานทุกกองมันเป็นแค่เปลือก ตัวญาณจริงๆ คือ อารมณ์ (เนื้อ) ถ้าคุณฉลาดสักนิดลองสังเกตุดูว่ามันนึ่งขนาดนั้น มันเป็นญาณระดับไหน ต้องควบคู่อาณาปาไปด้วยก็สังเกตุอารมณ์ของอาณาปาก็ได้ เช่น ญาณ 1 อารมณ์มั่นคงขนาดนี้ ถ้ามันมั่นคงขึ้นอีกคือญาณ 2 สังเกตุแบบนี้ก็ได้

    อย่าถามคนอื่นเลยว่าแบบนั้นเป็นญาณ 4 ไหม มันต้องรู้อารมณ์ตัวเอง ถ้ายังไม่รู้ก็ทำอีก ทำจนมันรู้ ความรู้ที่เกิดในอารมณ์ญาณน่ะ มันรู้แบบหายสงสัยเลย ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่รู้ แต่คนอื่นเค้าไม่ได้รู้ด้วย จะเอาเป็นประกายพรึกแค่ไหนก็ได้แล้วแต่ใจจะนึก มันต้องวัดกันที่อารมณ์ตัวเอง ถ้าคุณฟังเทปหลวงพ่อสอนเรื่อง กสิณ 10 มีตอนหนึ่งท่านบอกว่า "ความจริงภาพกสิณมันไม่สำคัญเท่าไร มันสำคัญอยู่แต่อารมณ์ใจตัวเดียว" ผมลองทำดูก็เป็นจริงตามนั้น ครั้งล่าสุดที่อารมณ์ดีๆ ผมลองจับภาพพระพุทธชินราช ไม่ชัดนัก แต่ภาพท่านเป็นสีเหลือง ไม่ใช่ประกายพรึก แต่อารมณ์ตอนนั้นตั้งไว้ที่พระท่านไปที่ไหนเราจะตามไปด้วย แค่นั้นเอง ไปโผล่สวรรค์ซะทั้งๆ ที่ภาพพระก็เป็นภาพพระธรรมดา ไม่ใช่ประกายพรึก คือ ผมไม่สนใจว่าภาพพระจะเปลี่ยนสีหรือเปล่า ผมสนใจอยู่อย่างเดียวรักษาภาพพระให้นานที่สุด.

    ก็อย่างที่บอก ผมไม่ได้ยึดติดกับเปลือก ผมกินส้มผมกินแต่เนื้อ.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2011
  10. วัฒน์ชภัส

    วัฒน์ชภัส สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +5
    อยากรู้ก็ลองใช้ฤทธิ์ดูสิครับ
     
  11. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ยึดตามตำราว่าแบบนั้น

    แต่มันไม่ใช่

    ร้อยละ99ไปเปรียบเทียบตามตำราว่าได้อย่างนั้นอย่างนี้กิเลสหลอกตัวเอง ส่วนอีก1ปฏิบัติโดยไม่สงสัยปฏิบัติเพื่อละอย่างเดียวตรงนี้ล่ะถึงแน่ถึงแบบรู้เองว่า อ๋ออย่างนี้สิน๊ะ แล้วก็อุเบกขาไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...