โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    อนุโมทนาครับ :cool:
     
  2. i3lack

    i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +102
    2000 คนแล้วเพิ่งสังเกต :cool:
     
  3. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1667876/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    บุญรอด บุณยรัตพันธุ์ เป็นบุตรของ พระยามณเฑียรบาล(บุญศรี)
    หลังกรุงศรีอยุธยาแตก นายบุญรอด มารับราชการกับพระเจ้าตากสิน มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาธรรมาธิกรณ์
    ในรัชกาลที่ ๑ ได้เลื่อนเป็นเจ้าพระยาธรรมาธิกรณ์ เสนาบดีวัง
    ในรัชกาลที่ ๒ เป็นเจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช

    ชื่อบุญรอด เป็นที่มาของคำว่า บุณยรัตพันธุ์ นามสกุลพระราชทานในรัชกาลที่ ๖ สายสกุลท่านแยกเป็น ๓ สายคือ
    ๑ สายเจ้าพระยาภูธราภัย
    ๒ สายพระยาอนุชิตชาญชัย (ขุนทอง)
    ๓ สายพระยาอนุชิตพิทักษ์(บัว)

    ตระกูลนี้ เป็นเจ้าพระยา ๔ ชั่วคนครับ
    ๑ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช(บุญรอด)
    ๒ เจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย) บุตร
    ๓ เจ้าพระยาภูธราภัย( นุช)
    ๔ เจ้าพระยาศรีธรรมาธิราช (เวก)



    เล่าถึงเจ้านายไปทัพครั้งศึกเจ้าอนุวงศ์แล้ว
    ตอนนี้เล่าถึงเสนาบดีขุนนางไปทัพ ซึ่งมีทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนบ้าง
    ในสมัยโบราณ ยามบ้านเมืองสงบข้าราชการทุกฝ่ายต่างก็ปฏิบัติราชการไปตามหน้าที่ แต่หากบ้านเมืองมีศึกไม่ว่าทหาร (บู๊) หรือพลเรือน (บุ๋น) ต้องออกรบเหมือนกันหมด
    ศึกครั้งนั้น เจ้าพระยาอัครมหาเสนา (สังข์) สมุหพระกลาโหม อายุท่านมากถึง ๗๑-๗๒ แล้ว จึงมิได้โปรดฯให้ออกไปทัพ คงออกศึกแต่เฉพาะเจ้าพระยาอภัยภูธร (น้อย) สมุหนายก (ตำแหน่งจักรี) ขณะนั้นอายุประมาณ ๖๒ แม้จะเข้าเขตชรา แต่ยังแข็งแรงและเป็นผู้เข้มแข็งชำนาญการศึก
    น่าเสียดายที่ เมื่อได้ชัยชนะแล้ว ท่านไปป่วยเป็นไข้ป่วงในค่ายเมืองฟันพร้าว ซึ่งในครั้งนั้นจดไว้ในจดหมายเหตุว่า ไพร่พลทหารไปล้มป่วยตายกันเสียมาก รวมทั้งเจ้าพระยาอภัยภูธร
    โปรดเกล้าฯให้ญาติพี่น้องรับศพกลับพระนคร
    ถึง พ.ศ.๒๓๗๑ ชนะศึกแล้ว แม้ว่าจะยังจับพระเจ้าอนุวงศ์ไม่ได้ จึงโปรดฯให้ทำพระเมรุถวายพระเพลิง สมเด็จกรมพระอมรินทรามาตย์ (สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีในรัชกาลที่ ๑) สมเด็จพระอัยยิกา ณ ทุ่งพระเมรุ ถวายพระเพลิงสมเด็จพระอัยยิกา และพระราชทานเพลิงพระบรมวงศ์ พระสัมพันธวงศ์ ซึ่งสิ้นพระชนม์และถึงอสัญกรรมไปก่อนหน้านั้น รอพระราชทานเพลิงอยู่ แล้วจึงโปรดฯให้ชักศพเจ้าพระยาอภัยภูธรเข้าเมรุพระราชทานเพลิง เสร็จแล้วจึงรื้อพระเมรุ ระหว่างกำลังรื้อพระเมรุ ฝนตกพรำๆเกิดอสุนีบาตลงมาที่เมรุแล้วไหม้เมรุจนหมด ทำให้ผู้คนราษฎรตื่นเต้นอื้ออึง
    เจ้าพระยาอภัยภูธร ท่านนี้ คงจำกันได้ว่าท่านเคยมีเรื่องมีราวกับเจ้าพระยามหาเสนา (สังข์) ซึ่งว่าที่จริงแล้วเหตุนั้นเกิดจากพวกทนายบ่าวไพร่ของทั้งสองฝ่ายมากกว่า แต่เรื่องก็ถึงเจ้าพระยามหาเสนา กราบบังคมทูลฟ้องร้องกล่าวโทษ โปรดฯให้พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ทรงชำระความ ยังไม่ทันเรียบร้อยก็พอดีพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ รัชกาลที่ ๒ เสด็จสวรรคตเสียก่อน
    ครั้นขึ้นรัชกาลที่ ๓
    พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ มิได้ทรงชำระความต่อ หากแต่โปรดเกล้าฯพระราชทานเกียรติยศสูงสุดเป็นพิเศษทั้งสองท่าน โปรดฯให้ขึ้นเสลี่ยงงากั้นกลดเข้ามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในพระบรมมหาราชวังทุกวัน (ขุนนางผู้ใหญ่แต่ก่อนที่มีอายุมากนั้น นั่งแคร่กัญญา คือแคร่ไม้ มีหลังคาที่เรียกกันว่า หลังคากันแซงเตย ลักษณะเป็นกระแชงสานด้วยเตย แคร่นั้นมีพนักหลังพิง คานหามทำด้วยไม้ไผ่ลำใหญ่ เรียกว่าไม้ลำมะลอก)
    การโปรดเกล้าฯ เพิ่มเกียรติยศแก่ทั้งสองฝ่ายโดยมิได้ทรงรื้อฟื้นเรื่องเก่า มิได้ทรงตัดสินเรื่องราว นับว่าเป็นพระปรีชาญาณ เมื่อทรงเห็นว่าเรื่องราวมิใช่เรื่องสำคัญอันอาจทำความเสียหายแก่บ้านเมือง เป็นเพียงเรื่องส่วนตัวอย่างที่ปัจจุบันเรียกว่า ‘เขม่น’ กันเท่านั้น จึงทรงถนอมน้ำใจเอาไว้ทำคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นเสมอ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ มักทรงไกล่เกลี่ยเช่นเมื่อข้าราชการท่านหนึ่งแต่งกลอนว่าข้าราชการอีกท่าน หนึ่งเขียนลงกระดาษข่อยมาปิดแถวท้องพระโรงด้วยซ้ำ เมื่อทรงทราบถึงพระกรรณ ก็ทรงพระสรวล ตรัสว่า เขาหยอกกันเล่น เมื่อเป็นดังนี้ฝ่ายที่กำลังจะกราบทูลฟ้องก็เลยต้องระงับไม่ฟ้อง เพราะพระเจ้าอยู่หัวท่านทรงเห็นว่าเป็นเพียงเรื่องหยอกล้อไร้สาระเสียแล้ว
    เสนาบดีท่านที่ ๒ ที่ออกศึกครั้งนั้น คือ เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ) ท่านผู้นี้ประวัติของท่านมีผู้แต่ง ผู้เขียนเล่าเอาไว้มาก เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป
    เมื่อโปรดฯให้เป็นแม่ทัพ ท่านเพิ่งดำรงตำแหน่งเจ้าพระยาพระคลังเสนาบดีกรมท่าเต็มที่ แต่อันที่จริงแล้ว ท่านก็เป็นว่าที่เจ้าพระยาพระคลัง มาแต่ปลายรัชกาลที่ ๒ แล้ว
    ผู้อ่านที่อ่านเรื่อง ‘บุญบรรพ์’ มาแต่บรรพแรกคงจำกันได้ว่า ท่านเป็นพระญาติสนิทของพระเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่รัชกาลที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓
    <table align="right" border="0" width="20%"> <tbody><tr> <td>
    [​IMG]
    </td> </tr> <tr> <td>
    รูปปั้นเจ้าพระยาบดินทรเดชา
    (สิงห์) ที่เจ้ากรุงกัมพูชา
    (นักองค์ด้วง) โปรดให้สร้าง
    ที่เก๋งวัดโพธาราม
    เมืองอุคงมีชัย พ.ศ.๒๓๙๒
    ด้วยไปช่วยรบกับญวนจน
    เขมรตั้งตัวได้ว่าเป็นรูปปั้น
    ที่เหมือนตัวจริงที่สุด
    </td> </tr> </tbody></table> พูดกันอย่างภาษาสามัญ คือ ท่านเป็นลูกผู้น้องของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๒ เพราะแม่ของท่านเป็นน้องสาวแท้ๆของสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี นอกจากนั้นแม่ของท่านยังได้เคยอุ้มชูเลี้ยงดูพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ มาแต่ยังทรงพระเยาว์ จึงเป็นน้าที่สนิทกันมาก
    กับพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ นั้น ท่านจึงมีศักดิ์เป็นอา ทว่าท่านอ่อนกว่ารัชกาลที่ ๓ หนึ่งปี (เกิด พ.ศ.๒๓๓๑ รัชกาลที่ ๓ ทรงพระบรมราชสมภพ พ.ศ. ๒๓๓๐)
    ท่านจึงเคยเป็นเพื่อนเล่นมาแต่ยังเยาว์วัยด้วยกัน ครั้นโตเป็นหนุ่มก็ยังคุ้นเคยสนิทสนมกัน จนกระทั่งบวชก็บวชพร้อมกัน จำพรรษาอยู่วัดเดียวกัน คือวัดพลับ (วัดราชสิทธาราม) ขณะอยู่วัดยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้น ครั้นถึงรัชกาลที่ ๒ พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๓ ท่านยังเป็นกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ โปรดฯให้กำกับกรมท่า ก็ทำงานร่วมกันอีก ถึงรัชกาลที่ ๓ เจ้าพระยาพระคลังจึงเป็น ๑ ในจตุสดมภ์ ที่เป็นหลักของแผ่นดินจริงๆหลักหนึ่ง โดยเฉพาะในหน้าที่ของท่าน คือกรมท่าหรือต่างประเทศ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯนั้นไม่โปรดให้พวกฝรั่งที่เข้ามาขอทำสัญญาค้าขายบ้าง ขอเข้ามาทำสัญญาพันธไมตรีบ้าง เข้ามาถึงพระองค์ ด้วยทรงเห็นว่า หากเข้าถึงพระองค์ก็จะมาเอาโน่นเอานี่ หรือพาลหาเหตุต่างๆง่ายๆดังที่ทำกับชาติอื่นๆมาแล้ว จึงทรงเอื้อเฟื้ออยู่แต่ห่างๆ เจ้าพาระยาพระคลัง จึงเป็นเสนาบดีต่างประเทศคนแรกที่เปรียบได้กับรัฐมนตรีต่างประเทศของสมัยนี้ คือ ‘ออกหน้า’ และเป็นผู้เจรจาในพระนามของพระเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาพระคลังเป็นผู้ ‘ออกหน้า’ ทว่า ‘นโยบาย’ เป็นของพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งบางเรื่องบางประการก็ทรงปรึกษาหารือกับเจ้านายและขุนนางสำคัญๆที่พอจะมี ‘หัวฝรั่ง’ ในเวลานั้น
    แม้จะเป็นเสนาบดีสายพลเรือน ยามศึกก็ต้องออกศึก แต่โดยนิสัยแล้วท่านเป็นคนใจอ่อน พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรง ‘รู้จัก’ คนของพระองค์ท่านเป็นอย่างดี คงจะทรงทราบข้อนี้อยู่เมื่อครั้งโปรดฯให้ไปรบญวนใน พ.ศ.๒๓๗๖ จึงโปรดฯให้ไปด้วยกันกับเจ้าพระยาบดินทรเดชา เจ้าพระยาบดินทรเดชาเป็นแม่ทัพบก เจ้าพระยาพระคลังเป็นแม่ทัพเรือ
    ที่จริงโดยตำแหน่งแล้ว เจ้าพระยาบดินทรเดชาในขณะนั้นเป็น สมุหนายก (ที่จักรี) เจ้าพระยาพระคลังนั้นเป็นทั้งเสนาบดีกรมท่าและว่าที่สมุหพระกลาโหมด้วย
    ที่ ‘ว่า’ ทั้งสองตำแหน่งนั้น เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อเจ้าพระยามหาเสนา (น้อย) ถึงแก่อสัญกรรม พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าฯ จะโปรดฯให้เจ้าพระยาพระคลังเลื่อนขึ้นเป็นเจ้าพระยาอัครมหาเสนา แต่ท่านไม่ยอมรับ อ้างว่าคนเป็นเจ้าพระยามหาเสนา มักอายุสั้นจึงโปรดฯให้เป็นเจ้าพระยาพระคลังอยู่ตามเดิม แต่ว่าทั้งกรมท่าและกลาโหม ในสมัยนั้นจึงเรียกกันว่า ‘เจ้าพระยาพระคลังว่าที่สมุหพระกลาโหม’
    ที่เจ้าพระยาพระคลังอ้างเช่นนั้น เพราะเมื่อเจ้าพระยาอัครมหาเสนา (สังข์) ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว โปรดฯให้เจ้าพระยายมราช (น้อย) เป็นเจ้าพระยาอัครมหาเสนาเป็นอยู่ประมาณ ๓ ปี ก็ถึงแก่อสัญกรรม
    ส่วนเจ้าพระยาอัครมหาเสนา (สังข์) นั้นเป็นสมุหพระกลาโหมเพียงแค่ ๕ ปี ถึงอสัญกรรม
    เจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ) จึงเห็นว่า ตำแหน่งเจ้าพระยามหาเสนา เป็นตำแหน่งที่มีอายุสั้น มาเป็นกันได้ไม่กี่ปีมักถึงแก่อสัญกรรมกันทั้งนั้น
    ตัวเจ้าพระยาพระคลัง (ดิศ) นั้น มาถึงแก่พิราลัย เมื่ออายุ ๖๗ ปี ในรัชกาลที่ ๔ เมื่อเป็นสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยุรวงศ์ เรียกกันว่า ‘สมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่’ ใช้ราชาศัพท์เสมอหม่อมเจ้า ถือศักดินา ๓๐,๐๐๐ พระราชทานเสลี่ยงงาและกลด และพระแสงประดับพลอยลงยาราชาวดี ซึ่งเป็นเครื่องสำหรับยศอย่างพระองค์เจ้าต่างกรม (คือพระองค์เจ้าที่ทรงกรม)
     
  5. miyoko

    miyoko Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +40
    ขอบคุณค่ะ ที่หาเกี่ยวกับท่านทั้งสองมาให้อ่าน
     
  6. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    วันนี้พาน้องๆ ไปทำบุญมาครับ...
    ส่วนใหญ่ ก้อจะนำพวกอาหารแห้งไปถวายพระ เพื่อให้สามารถเก็บอยู่ได้หลายวันหน่อย
    เนื่องจากสภาพแวดล้อมบังคับ
    จึงต้องลุยๆ กันเข้าไป อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ.....
    ทางเข้ามีเหลือทางเดียวต้องข้ามสะพานเท่านั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P001.jpg
      P001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      181.3 KB
      เปิดดู:
      50
    • P003.jpg
      P003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      187.8 KB
      เปิดดู:
      65
    • P004.jpg
      P004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      220.2 KB
      เปิดดู:
      71
    • P005.jpg
      P005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      207.2 KB
      เปิดดู:
      68
  7. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    โชคดีที่ด้านในเริ่มแห้งแล้ว....
    ด้านในศาลา น้ำยังเข้าไม่ถึง
    และก้อวิวด้านนอกโดยรอบ ก้ออย่างที่เห็นนั่นแหละครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P008.jpg
      P008.jpg
      ขนาดไฟล์:
      170.5 KB
      เปิดดู:
      58
    • P007.jpg
      P007.jpg
      ขนาดไฟล์:
      173.1 KB
      เปิดดู:
      66
    • P009.jpg
      P009.jpg
      ขนาดไฟล์:
      197.9 KB
      เปิดดู:
      62
    • P010.jpg
      P010.jpg
      ขนาดไฟล์:
      116.9 KB
      เปิดดู:
      61
  8. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    อนุโมทนา ด้วย ครับ ถ้าสะพาน ขาดขึ้นมา คงลำบาก แย่เลย
     
  9. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    ครับพอดี บริเวณสะพาน ไม่ได้เป็นจุดที่มีการไหลของน้ำ เลยยังพอทนได้
    อนาคต คงจะต้องเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ละครับ
     
  10. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    ทำโปรเจค หาเงิน สร้าง สะพาน เลยซิครับ :cool:
     
  11. กาโน

    กาโน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +152
    ครับ ....คงจะค่อยๆทำไปตามสมควร
    เพราะตอนนี้ ก้อ มีผู้มีจิตศรัทธากำลังสร้างกุฏิ เพื่อเป็นที่พักสงฆ์ที่มาปฏิบัติ อยู่ 2 - 3 หลัง นะครับ
     
  12. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275

    อนุโมทนาด้วยครับ............
     
  13. Bosszat

    Bosszat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +14
    เพิ่งสมัครสมาชิกใหม่ทดลองห้องนี้ประเดิมเลยครับ

    เพิ่งสมัครสมาชิกใหม่ทดลองห้องนี้ประเดิมเลยครับ(sorry sorry):cool:
     
  14. Bosszat

    Bosszat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +14
    ลองใส่รูปครับ

    น่ารักรูปหล่อดีมั้ยคร้าบบบบบบบบบบบบบบ:cool:
     
  15. Bosszat

    Bosszat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +14
    หน้าแตกเลยครับ

    พี่ๆครับผมจะใส่รูปความรู้ก็น้อยทำไงดีคับToT:'(
     
  16. miyoko

    miyoko Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +40
    ขออนุโมทนาค่ะ.........
     
  17. Bosszat

    Bosszat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2011
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +14
    ขอขอบคุณ

    ขอบคุณพี่ๆ ที่ดูแลด้วยขอรับ:cool:
     
  18. noinid0209

    noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    742
    ค่าพลัง:
    +570
    มากระทู้นี้ ระวังโดนขังนะครับ อิอิ
     
  19. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    .................__16
     
  20. jets-one

    jets-one เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +737
    พี่คมใบ้หวย ..
    16
     

แชร์หน้านี้

Loading...