โดนขังวิญญาณ

to2504 · 12 พฤษภาคม 2011

ขอความเบื่อจงมะลายหายในพลัน
ความเบื่อนั้น มอง ๆ ไป ให้มันเบื่อ
เบื่อก็วาง วางเจ้าลง เจ้าตัวเบื่อ
ชักจะเบื่อเจ้าแล้วหนา น่าเบื่อจริง
โอ้ย! มองความเบื่อนั้นแล้วนึกขำ
ความเบื่อนั้นกลายเป็นตลกไปแล้วหนา
เอางัยหล่ะทีนี้ มันจะเบื่อหรือตลกก็ว่ามา
ตกลงว่าฉันเป็นอะไรไปนะเธอ ...เหอ ๆ ขำ

ศิลามณี · 12 พฤษภาคม 2011

to2504 said: ↑

นั่งมองเห็นความทุกข์อยู่เบื้องหน้า<O</O
มองทุกคราก็ยังเห็นมิรู้หาย<O</O
มองลงไปใจกำหนัดมิเสื่อมคลาย<O</O
ความเบื่อหน่ายนี้ช่างแสนติดตรึงใจ<O</O
ยิ่งมองลงก็ยิ่งแสนทุกข์ระทม<O</O
จมปลักลงสู่ใจน้ำตาเอ่อ<O</O
ไม่เข้าใจตัวเองเลยนะเธอ<O</O
เหมือนพร่ำเพ้อหาอะไรไม่รู้มัน...เฮ้อเซ็งชีวิต<O</O
Click to expand...

คุณทู...แต่งกลอนเก่งนะคะ ของศิลามณี ไม่เอาอ่าวอะไรเลยเรื่องแต่งกลอน. ยังไงก็สู้ๆ นะคะ .chearr

to2504 · 12 พฤษภาคม 2011

ศิลามณี said: ↑

คุณทู...แต่งกลอนเก่งนะคะ ของศิลามณี ไม่เอาอ่าวอะไรเลยเรื่องแต่งกลอน. ยังไงก็สู้ๆ นะคะ .chearr
Click to expand...

ไม่เก่งหรอกค่ะ แค่จะลองแต่งดูว่าจะได้อ่าวไหนซักอ่าวมั้ย (sing)

to2504 · 12 พฤษภาคม 2011

เออ มันหายไปแล้วแปลกดีจัง
มอง ๆ มันมาก ๆ ให้มันเบื่อ
พอเบื่อมาก ๆ เข้า ไม่ให้เหลือ
ให้มันเบื่อ ๆ ไป เบื่อตัวมัน
พอมันเบื่อมาก ๆ เข้า เจ้าตัวนี้
มันเลยหนี หรืออย่างไรไม่รู้เห็น
หรือมันเป็นการปลงลงอนิจจัง...หรือเปล่าจ๊ะพี่จิ-โป

ศิลามณี · 12 พฤษภาคม 2011

to2504 said: ↑

ขอความเบื่อจงมะลายหายในพลัน
ความเบื่อนั้น มอง ๆ ไป ให้มันเบื่อ
เบื่อก็วาง วางเจ้าลง เจ้าตัวเบื่อ
ชักจะเบื่อเจ้าแล้วหนา น่าเบื่อจริง
โอ้ย! มองความเบื่อนั้นแล้วนึกขำ
ความเบื่อนั้นกลายเป็นตลกไปแล้วหนา
เอางัยหล่ะทีนี้ มันจะเบื่อหรือตลกก็ว่ามา
ตกลงว่าฉันเป็นอะไรไปนะเธอ ...เหอ ๆ ขำ
Click to expand...

อันนี้อ่านแล้วรู้สึกเลยละ...ว่าตลก และ ขำ (กลิ้ง) จริงๆคะcatt3

i3lack · 12 พฤษภาคม 2011

กาโน said: ↑

สวัสดีทุกท่านครับ.....
มาติดตามอ่าน......เหมือนเช่นทุกวันครับ
หลังจากที่ได้รับคำแนะนำจาก อ.จิโป ให้ไปดูเรื่องธรรมกาย ตอนนี้ก็กำลังตามจับดวงแก้ว
อยู่นึกเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ไม่รีบร้อนครับ
.....ช่วงนี้พอดีกำลังดำเนินการ จัดทำหนังสือ "แก้กรรมทำเองได้" เพื่อนำไปแจกถวายเป็นธรรมทาน ตอนนี้มีเจ้าภาพมาร่วมแล้ว 106 คน ประมาณ 1800 เล่ม
.....ก้อไม่ได้มีเจตนาอะไรหรอกครับ .... มาบอกเล่าสู่กันฟังเฉยๆๆๆ
Click to expand...

อนุโมทนาครับ

คนโบราณ ท่านเชื่อว่าเอาไว้ปัดรังควาน ปัดสิ่งไม่ดีออกไป จัดว่าเป็นของทนสิทธิ์อย่างหนึ่ง....ตามธรรมชาติของช้าง เขาจะแหว่งหางอยู่ตลอดเวลา... ปัดพวกแมลง และ สิ่งรบกวนนะคะ ขนหางช้างนี่..ที่เขาให้บูชากัน..หนึ่งเส้น เส้นละประมาณ 80 บาท ไปจนถึงเป็นร้อยๆนะคะ และค่อนข้างหายาก..

ศิลา มณี ได้มาจากผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่ง ให้บูชามาในราคาญาติธรรมมากๆ เดิมทีเขามัดรวมๆทำเป็นแปรง ไว้สำหรับสางเส้นไหม ได้มา3อัน ศิลามณี เลยแกะออก 2 อัน แล้วเอาแต่เส้นขนช้าง ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่.เพราะเขาหยดชันโรงไว้...ล้างน้ำตั้งหลายน้ำนะคะ แล้วเก็บไว้...

พอถึงเวลาทำบุญใหญ่ๆ ที ศิลามณี ก็เอามาประดิษฐ์ทำเป็นพัดบ้าง..ที่พรมทำน้ำมนต์บ้าง..ให้ญาติธรรมท่านมา ประมูล หาเงินทำบุญเข้าวัดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายนะคะ..มาครั้งนี้ ครูบาอาจารย์ท่าน จะเททองหล่อพระพุทธรูป ตั้ง 5 องค์ นะคะ...ก็เลยเอาออกมาใช้
Click to expand...

อนุโมทนาครับ

ainteerati · 12 พฤษภาคม 2011

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1492584/[/MUSIC]

ainteerati · 12 พฤษภาคม 2011

[FONT=&quot]ชีวิตเหมือน ละคร มีตอนฉาก[/FONT]

[FONT=&quot]บ้างพลัดพราก บ้างสมหวัง ดั่งใจหมาย[/FONT]

[FONT=&quot]บ้างทนทุกข์ ดิ้นรน จนตัวตาย[/FONT]

[FONT=&quot]บ้างบทร้าย ก่อกรรม ไม่ช้ำวัน[/FONT]

[FONT=&quot]ได้บทดี มีพระธรรม ประจำจิต[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ใจคิด สร้างสรรค์ ไม่หวั่นไหว [/FONT]

[FONT=&quot]แต่ละคร มีพระนาง คนสร้างไว้[/FONT]

[FONT=&quot]กำหนดได้ ดั่งใจสั่ง ไม่ลังเล[/FONT]

[FONT=&quot]ชีวิตจริง การกระทำ กรรมกำหนด[/FONT]

[FONT=&quot]ไม่งามงด ดั่งละคร ซ่อนหักเห[/FONT]

[FONT=&quot]ไม่มีพระ ไม่มีนาง ดั่งลิเก[/FONT]

[FONT=&quot]มันไม่เท่ สนุก เมื่อทุกข์ใจ[/FONT]

[FONT=&quot]ประสบการณ์ หลากหลาย ในชีวิต[/FONT]

[FONT=&quot]เขียนลิขิต ขีดลง ไว้ตรงไหน[/FONT]

[FONT=&quot]ใจรับชึ้ง ถึงเบื่อปลง ก็ลงใจ[/FONT]

[FONT=&quot]ล้วนฝันไฝ่ หาทางพ้น จากมลทิน[/FONT]

[FONT=&quot]ให้ใจ อิสระ ละจากทุกข์[/FONT]

[FONT=&quot]แต่อยากสุข ฤดี มีทรัพย์สิน[/FONT]

[FONT=&quot]ต่างเวียนไหว้ พรขอ พ่อได้ยิน[/FONT]

[FONT=&quot]แล้วจะสิ้น อย่างไร ละใจเอย[/FONT]

[FONT=&quot] [/FONT]

to2504 · 12 พฤษภาคม 2011

ใจมันทุกข์ มองหาทางหลุดพ้น
ยังเวียนวน ตาย เกิด ไม่เพิกเฉย
หาหนทางพ้นทุกข์ ไม่ละเลย
มันเฉลยออกมา ว่าเบื่อหน่าย
ในความเบื่อนั้นมา เมื่อคราใด
แต่มองไปมิเคยเห็นว่าเบื่อมัน
จนวันนี้มองไปในความเบื่อ
โอ้ความเบื่อ ไหนเลยมิเคยหาย
เมื่อความเบื่อชัดเจนขึ้นที่ใจ
ความเบื่อใน ความเบื่อปรากฎเอง
เมื่อความเบื่อ ในความเบื่อ ปรากฎอยู่
สิ่งที่รู้ คือมันปลงลงไปเอง
มันปรับเปลี่ยนเป็นตลก เพราะวกเอง
มันวกวน อลเวง จนเง็ง..เลย

ainteerati · 12 พฤษภาคม 2011

[FONT=&quot]ที่จริงจิตเป็นเพียงธรรมธาตุคือธาตุรู้ รู้อยู่เฉยแต่สภาวะที่เข้ามากระทบที่ทำให้เกิดทุกข์บ้างสุขบ้างชึ้งเป็นอารมณ์จรมาแล้วก็จากไปแต่หากเราเอาจิตไปหยึดติดไว้อารมณ์เหล่านั้นก็จะอยู่ได้นานเพราะมีเครืองหยึดหากเราไม่สนใจกิเลสหรืออารมณ์จรเหล่านั้นก็จะจากไปโดยง่ายพระท่านจึงมักจะสอนวิธีง่ายๆโดยบอกให้วางบ้าง หรือบางท่านก็บอกดูอารมณ์เหล่านั้นดูอยู่เฉยๆอย่าเอาจิตเข้าแตะ หรืออีกวิธีหนึ่งหากจิตมีกำลังพอก็สามารถขจัดอารมเหล่านั้นออกไปได้ทันที บางท่านอาจจะเพ่งไปตรงจุดที่แข็งๆเวลาสัมผัสได้ในจิตใจ บางท่านอาจใช้แสงแล้วส่องไปตรงที่มืดๆเหล่านั้น หากเราเพ่งเข้าไปแล้วอาการแข็งๆเหล่านั้นหมดไปอารมณ์ต่างๆก็จะดีขึ้น หรือใช้แสงส่างจนความมืดหมดอารมณ์เหล่านั้นก็จะดีขึ้น หากเราบ่อยว่างก็เหมื่อนกันเพียงเราไม่ใส่ใจอารมณ์ต่างๆเหล่านั้นก็จะเปลียนใหม่เร็วขึ้น..ทุกวิธีผลก็ออกมาก็คล้ายกันคือเพื่อขจัดอารมณ์ที่จรมาเหล่านั้นออกไปครับ...[/FONT]

jakrapong11 · 12 พฤษภาคม 2011

รบกวนถามคุณจิ-โป
ผมเช่าตึกอาคารพานิชที่พัทยา 1 คูหา 3 ชั้นครึ่ง มีดาดฟ้า เจ้าของกั้นเป็นห้องเช่าให้เช่านอน 12ห้อง ชั้นล่างเปิดทำการค้าได้ เช่ามาประมาณ 5-6 เดือน แล้ว ผมมีปัญหากับหุ้นส่วนที่เป็นหุ้นลม จึงเลิกทำกันไป ตอนนี้ยังเช่าอยู่ แต่ชั้นล่างไม่ได้ทำอะไร อยากจะเซ้งมาก ขาดทุนแน่นอน เพราะตกแต่งไปเยอะ ตัวเองอยู่ระยอง ไม่มีเวลาไปดูแล ฝากใครก็ไม่ได้เรื่อง มีปัญหาตลอด จึงอยากถามผุ้รู้ว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรดีกับตึกนี้ แล้วตัวเองทำอะไรไม่ค่อยรุ่ง ช่วยแนะนำหน่อยกครับ เพราะเป็นทุกกับเรื่องนี้มาก

ศิลามณี · 13 พฤษภาคม 2011

:z5 สวัสดีคะ....

ศิลามณี จะไปร่วมงานบุญใหญ่..ในช่วงวันหยุดยาวนี้คะ.. เลยวิ่งมาบอกเพื่อนๆกันก่อน เดี๋ยวจะว่าหายไปไหนนาน....

..แล้วจะเอาบุญกองโตๆ มาฝากนะคะ

i3lack · 13 พฤษภาคม 2011

ศิลามณี said: ↑

:z5 สวัสดีคะ....

ศิลามณี จะไปร่วมงานบุญใหญ่..ในช่วงวันหยุดยาวนี้คะ.. เลยวิ่งมาบอกเพื่อนๆกันก่อน เดี๋ยวจะว่าหายไปไหนนาน....

..แล้วจะเอาบุญกองโตๆ มาฝากนะคะ
Click to expand...

อนุโมทนาด้วยครับ

noinid0209 · 13 พฤษภาคม 2011

ศิลามณี said: ↑

:z5 สวัสดีคะ....

ศิลามณี จะไปร่วมงานบุญใหญ่..ในช่วงวันหยุดยาวนี้คะ.. เลยวิ่งมาบอกเพื่อนๆกันก่อน เดี๋ยวจะว่าหายไปไหนนาน....

..แล้วจะเอาบุญกองโตๆ มาฝากนะคะ
Click to expand...

อนุโมทนาบุญ ด้วยนะครับ

ว่าแต่ไปทำที่ไหนครับ

ศิลามณี · 13 พฤษภาคม 2011

noinid0209 said: ↑

อนุโมทนาบุญ ด้วยนะครับ

ว่าแต่ไปทำที่ไหนครับ
Click to expand...

วัดป่า... ที่อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัยคะ

noinid0209 · 13 พฤษภาคม 2011

เดินทางปลอดภัยนะครับ คุณศิลามณี ไม่รู้ว่า วัดที่จะไปน้ำท่วมหรือเปล่า

เห็นชื่อ คุณศิลามณี แล้วนึกถึงเพลงประกอบละครศิลามณี จัง
เพลงเพราะมาก หุหุ

ainteerati · 13 พฤษภาคม 2011

เขาสิเนรุและทวีปทั้ง๔ (มนุสสโลก)

มนุสสโลก ที่ข้าพเจ้ากล่าวถึงในที่นี้ มิได้หมายถึงเพียงแค่โลก หรือดาวโลก ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง เท่านั้น แต่หมายถึง แดนอันเป็นขอบเขตแห่งมนุษย์ หรือแดนที่ธรรมชาติ (อันผ่านการปรับสมดุลย์แล้ว) สร้างไว้เพื่อมนุษย์ ขอบเขตแห่งแดนนี้ นั่นแล คือแดนมนุสสโลก

ขอบเขตมนุสสโลก กว้างขวาง กว้างใหญ่ สุดสายตาธรรมดาจะมองเห็นได้ อันประกอบด้วยจักรวาลมากมาย จากดาวโลกของเราไป กระทั่งดาวดวงที่อยู่รอบนอกสุดแห่งจักรวาลอื่น นักวิทยาศาสตร์อาจยังสำรวจไม่พบ และที่สำรวจพบแล้ว ก็มีระยะทางคำนวณแล้วหลายล้านปีแสง ซึ่งก็ไกลมากทีเดียว หากนับจากดาวดวงรอบนอกสุดแห่งจักรวาลอื่นออกไป ในรัศมีการดึงดูดของมัน นั่นแล คือขอบเขตแห่งมนุสสโลก... ซึ่งจักรวาลอื่นๆ บางจักรวาล ก็มีมนุษย์อาศัยอยู่เช่นกัน... ลองเงยหน้าขึ้นมองดวงดาวบนท้องฟ้า แล้วจินตนาการเอาว่า ดาวที่เรามองเห็นนั้น อยู่ไกลแค่ไหน... นั่นแหละ เทวโลก อยู่ไกลกว่านั้นไปอีก....

ย่อเข้ามาในจักรวาลที่เราอาศัยอยู่ อันเป็นจักรวาลขนาดเล็ก กระนั้นก็ตาม ก็มีมนุษย์อาศัยอยู่มากมาย นอกจากมนุษย์ที่เรามองเห็นกันอยู่นี้แล้ว ยังมีมนุษย์เหล่าอื่นอีก ที่เรามองไม่เห็น เป็นมนุษย์เหมือนกัน อยู่ในจักรวาลเดียวกัน แต่มองไม่เห็น เพราะอยู่คนละมิติ

หากจะมองภูมิศาสตร์มนุสสโลก แห่งจักรวาลนี้แล้ว.... จักรวาลของเรานี้ มีเขาสิเนรุ เป็นแกนกลาง และสรรพวัตถุแห่งจักรวาลนี้ ก็วิ่งวนหมุนรอบเขาสิเนรุ

เขาสิเนรุ เป็นภูเขาสูงใหญ่ มีมวลมากพอจะดึงดูดหลายๆสิ่ง หลายๆมิติ ให้หมุนวนรอบได้ เขาสิเนรุ มิได้อยู่ในมิติของเราก็จริง แต่อำนาจแห่งแรงโน้มถ่วง ก็ส่งมาถึงมิติของเราได้

ถัดจากเขาสิเนรุออกมา มีเทือกเขาแวดล้อมอีก ๗ เทือกเขา เรียกว่า สัตตบริภัณฑ์ คือ

๑. อัสสกัณณะ
๒. วิเนตกะ
๓.เนมินธร
๔.ยุคันธร
๕.อิสินธร
๖.กรวีกะ
๗.สุทัสสนะ

และระหว่างเขาสิเนรุกับเขาอัสสกัณณะ รวมถึงระหว่างเทือกเขาแต่ละเทือก มีมหาสมุทรคั่นอยู่ รวมแล้ว ๗ มหาสมุทร เรียกว่า สีทันดรมหาสมุทร หรือมหาสมุทรสีทันดร แปลว่ามหาสมุทรที่อยู่ในระหว่าง ซึ่งมีน้ำสุขุมละเอียดยิ่งนัก ถึงกับทำให้ทุกๆ สิ่งแม้เบาที่สุด เมื่อตกลงก็จมทันที คำว่า สีทะ แปลว่า ทำให้ทุกๆ สิ่งจมลง บวกกับคำว่า อันตระ แปลว่า ระหว่าง หมายถึงคั่นอยู่ระหว่าง จึงรวมเรียกว่า สีทันตระ ไทยเราเรียกว่า สีทันดร... การจะข้ามทะเลสีทันดรไปได้ ต้องอาศัยการบินข้าม เหาะข้าม เท่านั้น ไม่สามารถข้ามได้ด้วยเรือ เพราะไม่มีอะไรลอยอยู่บนน้ำทะเลสีทันดรได้

มหาสมุทรสีทันดร เปรียบเสมือนกำแพงแห่งมิติ กำแพงแห่งกาลเวลา การข้ามผ่านสีทันดร ต้องได้อาศัยฤทธิ์ทางใจ ผู้ที่จะข้ามผ่านไปได้ ต้องเป็นผู้มีฤทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์กึ่งเทพ หรือเทพก็ตาม.... หรือไม่ก็ต้องอาศัยของวิเศษ เช่นจักรรัตนะ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม คนธรรมดา ก็สามารถจะข้ามผ่านสีทันดรได้ ด้วยวิธีพิเศษ ที่เรียกว่า “จุติ”

การจุติ เป็นการ เปลี่ยนย่านความถี่ของจิต จากย่านความถี่หนึ่ง เป็นอีกย่านความถี่หนึ่ง หรือเป็นย่านความถี่เดิม แล้วแต่กิเลสกรรมและวิบากอันติดอยู่กับจิต จิตที่จุตินั้น นั่นแล จะสามารถลอยข้ามผ่านสีทันดรไปได้... การจุติ พูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การตายแล้วเกิดใหม่ นั่นเอง....

ถัดจากเทือกที่ ๗ ออกมา ก็เป็นมหาสมุทรน้ำเค็ม มีทวีปใหญ่ๆ อยู่ใน ๔ ทิศ แห่งเขาสิเนรุ ทิศละ ๑ ทวีป (ทวีป คือแดนต่างมิติอันมนุษย์อาศัยอยู่) คือ

๑. ทางทิศตะวันออก มีทวีปชื่อว่า วิเทหะ หรือเรียกว่า บุพพวิเทหะ มีมนุษย์อาศัยอยู่ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นซึก

๒. ทางทิศใต้ มีทวีปชื่อว่า ชมพู หรือเรียกว่า ชมพูทวีป เป็นทวีปที่เราอาศัยอยู่ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นชมพู (แปลว่าไม้หว้า) ต้นชมพูที่กล่าวถึงนี้ อยู่ที่ภูเขาหิมพานต์

๓. ทางทิศตะวันตก มีทวีปชื่อ อมรโคยาน มีมนุษย์อาศัยอยู่ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นกระทุ่ม

๔. ทางทิศเหนือ มีทวีปชื่อ อุตตรกุรุ มีมนุษย์อาศัยอยู่ ต้นไม้ประจำทวีป คือ ต้นกัลปพฤกษ์… เป็นทวีปที่เจริญที่สุด

ทวีปทั้ง๔ นี้ อาศัยพระอาทิตย์ดวงเดียวกัน อาศัยแรงโน้มถ่วงจากแหล่งเดียวกัน

หากผู้มีฤทธิ์ขึ้นไปบนฟ้า ณ ที่สูงกว่าดวงดาวทั้งหลาย (เพราะแค่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ก็อยู่สูงกว่า ไกลกว่า ดาวทั้งหลายแล้ว.... ณ ที่ที่มีดวงดาว โคจรไปถึง ขอบเขตที่ดวงดาวโคจรไปถึง อันกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วยจักรวาลมากมาย ทั้งหมดนี้ คือขอบเขตแห่งมนุสสโลก... เทวโลกอยู่ไกลเกินนั้นไปอีก...พรหมโลก ก็ไกลกว่านั้นไปอีก...) มองลงมา ก็จะเห็น ยอดเขาสิเนรุ อันแวดล้อมด้วย ทวีปทั้งสี่ ทิศละหนึ่งทวีป... เปรียบเหมือน เรามองดูอ่างบัวซึ่งมีกอบัวหนึ่งกอ มีดอกหนึ่งดอก มีใบสี่ใบ ทิศละหนึ่งใบ ดอกบัว เปรียบเหมือนยอดเขาสิเนรุ ใบบัว เปรียบเสมือน ทวีปทั้งสี่ ...เขาสิเนรุ สูงเกินกว่าที่สายตาเรามองจนถึงยอดได้ ทว่า ถ้าไม่มีตาทิพย์ ก็มองไม่เห็นอยู่ดี

sleepyman · 13 พฤษภาคม 2011

สวัสดีครับคุณainteerati
เข้ามาซะดึกเชียวนะครับ
นี่ผมก็มารออ่านเรื่องดีๆในนี้อยู่เหมือนกันครับ

ainteerati · 13 พฤษภาคม 2011

sleepyman said: ↑

สวัสดีครับคุณainteerati
เข้ามาซะดึกเชียวนะครับ
นี่ผมก็มารออ่านเรื่องดีๆในนี้อยู่เหมือนกันครับ
Click to expand...

สวัสดีครับฝนตกไหมครับที่นี้กำลังตกเลยครับ

sleepyman · 13 พฤษภาคม 2011

ภูเก็ตยังไม่ตกครับ...
คงจะช่วงดึกกว่านี้ไม่ก้อเกือบเช้าน่ะครับ...

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

โดนขังวิญญาณ

to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

012 ผู้ต้องเดือดร้อนในโลกทั้งสอง.mp3

ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

jakrapong11 สมาชิกใหม่

ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

i3lack เป็นที่รู้จักกันดี

noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

noinid0209 เป็นที่รู้จักกันดี

ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

sleepyman สมาชิกใหม่

ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

sleepyman สมาชิกใหม่

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

โดนขังวิญญาณ

ไฟล์ที่แนบมา:

012 ผู้ต้องเดือดร้อนในโลกทั้งสอง.mp3

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา