เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

ขอบคุณครับ ผมเองก็ชอบครับ

 

ผมก็ไม่ค่อยรู้หรอกครับ หาข้อมูลมาตอบให้เหมือนกัน แล้วจะพยายามหามาให้ครับ...

 

ชอบครับ แต่การจะศึกษายันต์นี่ยากมากครับ ต้องหาหนังสืออ่าน ซึ่งก็หาซื้อยากอีกเช่นกันครับพี่ชาย

 

พี่โจ๊ะครับ ซื้อแผ่นตะกั่วหรือยังครับ




ต้องขออภัยพี่kang_som ด้วย ยังไม่ว่างไปซื้อแผ่นชนวนให้เลยครับ

 

ไม่เป็นไรครับ เอาไว้สะดวกท่านสวนพลูก่อนก็ได้ครับ เกรงใจอยู่เหมือนกัน....

 

ยังเลยครับน้องนัน ได้แผ่นไม่ค่อยถูกใจ ว่าจะไปตลาดน้อย ยังหาเวลาไม่ได้เลย

 

...........ยันต์ภาพบนสุดก่อนหน้า"ยันต์เฑาะว์"...หาไม่พบว่ายันต์

อะไร "หางยันต์เขียนเหมือนงวงช้าง"....."ใช่ยันต์พระพิฆเนศหรือ

เปล่าน้องชาย"...เพราะเขียนเป็นยันต์แรกเหมือนไหว้ครูพระพิฆเนศ

ก่อนเลยครับ......

 

​

1. ยันต์มหาละลวย (อันนี้ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร เพราะปกติหัวจะม้วนเข้า แต่อันนี้ม้วนออก)
2. ยันต์เฑาะห์
3. ยันต์ นะ มหาอุด​

ผิด/ถูก อย่างไรขออภัยผู้รู้จริงด้วยนะครับ ผมก็หาจากในอินเตอร์เน็ต เปรียบเทียบดู....​

 

พี่ชายครับ ผมก็พยายามหาหนังสือเท่าที่มีในบ้าน นั่งเทียบ ก็ไม่มีครับ ยันต์นะมหาอุตม์ น่าจะตำหรับหลวงปู่ศุข ปากคลองมะขามครับ

ผมก็ว่าจะไปนั่งถามหลวงพ่ออยู่ครับว่า มียันต์อะไรบ้าง ส่วนเรื่องสรรพคุณคงไม่ถาม เพราะถ้าหมดนี่ หลวงพ่อคงเหนื่อยแย่ครับ

ยันต์ตัวแรกผมก็นึกว่านะกินไม่รู้หมด แต่พอนั่งเทียบดู ก้อไม่ใช่ ลึกลับมากครับ ยันต์บางตัวไม่เคยเห็นเลยครับ

 

สงสัยว่าวันหยุดยาว ผมจะไปเดินท่าพระจันทร์ครับ เดี๋ยวลองดูมาให้ครับ ว่าจะไปซื้อแผ่นชนวนเก็บไว้ครับพี่ เอาไว้ร่วมบุญกับท่านที่ต้องการนำไปสร้างพระทำบุญ

แต่แผ่นใหญ่ๆยังไม่เคยเห็นเลยครับที่ท่าพระจันทร์ ต้องไปสืบดูหน่อยครับ

 

ยันต์มหาอุตม์ ตามตำราหลวงพ่อตัด วัดชายนาครับ...

 

ให้อภัยกันตลอดครับ เพราะว่ามีความพยายามอย่างยิ่งยวด

ส่วนผมนั่งเปิดหนังสือเท่าที่มี ก็หาไม่ได้ซักกะยันต์

พยายามจะมั่วแล้วหาจากอินเตอร์เน็ต ก็ไม่สำเร็จ ต้องถามตรงเสียแล้วงานนี้

 

ยันต์นะปัดตลอด​

 

ท่านสวนพลูเชือกคาดเอว ที่วัดยังมีรึเปล่าครับ บูชาเส้นละเท่าไร เริ่มสนใจแล้วซิ....​

 

มีท่านสมาชิกถามผมด้วยข้อความส่วนตัวครับ แต่ผมเห็นว่าคำตอบจะมีประโยชน์กับผู้ที่จะไปกราบหลวงพ่อครับ ก็เลยก็อบปี้คำถามมาครับ แล้วก็จะตอบให้ครับ ขออภัยท่านที่ถามด้วยน่ะครับ ที่นำมาโดยพละการ

หลังจากที่ได้ศึกษาในกระทู้แล้ว ผมเกิดศรัทธาครับ
อยากไปกราบหลวงพ่อพิเชฐเร็วๆนี้ครับ ผมไม่เคยไปครับ จะไปเป็นครั้งแรก กะไปวันธรรมดาครับ กลัวคนเยอะ เข้าถึงท่านได้ง่ายใช้มั๊ยครับ ต้องปฏิบัติตัวอย่างไรครับ ต้องเตรียมอะไรไปมั๊ยครับ ตัวผมกับแฟนมีปัญหาทุกข์ใจครับ อยากให้หลวงพ่อท่านช่วย ท่านช่วยได้จริงๆใช้มั๊ยครับ แล้วเราต้องบอกความจริงแก่หลวงพ่อ หรือให้ท่านทักเราครับ บุคลิกผมผมเป็นคนไม่ค่อยพูดน่ะครับ ท่านดุมั๊ยครับ
อีกเรื่องนึงครับถ้าผมเตรียมแผ่นตะกั่ว หรือแผ่นเงินไป ท่านจะจารให้มั๊ยครับ กลั่วท่านจะดุเอา
พอทราบมั๊ยครับว่า แผ่นเงินแท้ หรือ แผ่นตะกั่วนั้น จะหาซื้อได้ที่ไหนครับ

คำถามแรกว่า หลวงพ่อท่านเข้าหาได้ง่ายใช่มั๊ย
ใช่ครับ ท่านที่เคยไปย่อมทราบดีครับ ส่วนใหญ่จะเจอท่านครับ เพราะท่านไม่ค่อยรับกิจนิมนต์ปลุกเสก เพราะว่าเจตนาสร้างไม่ค่อยดีครับยุคนี้ คือว่าถ้าเข้าไปในวัดหลังจากบูชาวัตถุมงคลเสร็จ หรืออาจจะไปถวายสังฆทาน ก็เข้าไปหาหลวงพ่อท่านได้เลย ไม่มีลูกศิษย์คอยกันท่าแต่อย่างใด เหมือนเกจิยุคโบราณครับ
คำถามต่อมา คือจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เตรียมอะไรไปบ้าง
ปฏิบัติตัวแบบฆารวาสผู้ที่เคารพในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ครับ คือมีความนอบน้อม แบบธรรมดาที่เราปฏิบัติต่อสิ่งที่เราเคารพ บูชาครับ
เตรียมอะไรไปบ้าง อันนี้แล้วแต่ศรัทธาครับ จะไปถวายพระพุทธรูป หรือนำถังสังฆทาน หรือจะนำน้ำผลไม้หรืออะไรก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากถวายอะไรให้ศาสนาและพระสงฆ์ครับ

มาถึงเรื่องหลวงพ่อช่วยได้จริงมั๊ย จะบอกความจริงต่อหลวงพ่อ หรือรอให้หลวงพ่อท่านทัก

หลวงพ่อช่วยได้จริงมั๊ย อันนี้มีเงื่อนไขครับ คือถ้าไม่ผิดพระวินัย หรือเกินวิสัยที่พระสงฆ์ท่านจะเมตตาได้ อันนี้้หลวงพ่อท่านก็ช่วยไม่ได้ครับ เพราะผมเคยเห็นคนที่มาให้หลวงพ่อช่วยเรื่องภรรยาหนี หลวงพ่อท่านก็บอกว่า หลวงพ่อเป็นพระน่ะ เรื่องแบบนี้เข้าไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ เป็นเรื่องทางโลกนะ
ในการที่จะรอให้หลวงพ่อท่านทักนั้นอย่าเลยครับ เดี๋ยวจะโดนหาว่าปรามาสน่ะครับ เพราะว่าบางทีการใช้ฌาณแบบนี้ท่านไม่ได้ใช้พร่ำเพรื่อครับ อันนี้ต้องคุยเปิดใจบอกไปตามตรงกับหลวงพ่อครับ บอกหลวงพ่อว่า หลวงพ่อครับ ผมมีเรื่องขอคำปรึกษาครับ แล้วก็เล่าเรื่องราวของเราไปครับ แล้วท่านสมาชิกก็จะได้รับคำตอบครับ และต้องทำตามที่หลวงพ่อท่านแนะนำอย่างเคร่งครัดครับ
หลวงพ่อท่านดุมั๊ย
หลวงพ่อท่านทรงพรหมวิหารสี่ครับ เมตตากับทุกคน ไม่เลือกชั้น แต่หลวงพ่อท่านจะดูนิ่งๆครับ ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ ไม่ต้องกลัวครับ การเข้าหาพระให้เรานอบน้อม ถวายของสองมือ ประมาณนี้ครับ
ส่วนเรื่องแผ่นเงินแผ่นทอง ท่านจะจารให้มั๊ย ซื้อแผ่นที่ไหน
ต้องตอบยาวอีกแล้ว แผ่นเงิน หรือแผ่นทอง ที่จะให้หลวงพ่อท่านจาร นั่นคือนำไปสร้างพระหรือไม่ ถ้าใช่ ก็กราบเรียนหลวงพ่อท่านว่าจะนำไปสร้างพระครับ ถ้านำไปทำบุญหลวงพ่อท่านเมตตาครับท่านไม่ดุใครง่ายๆครับ ส่วนถ้าจะให้ท่านทำพิเศษให้ อันนี้คงต้องทำตัวแบบผมครับ คือไปกราบท่านบ่อย คุยบ่อย ไม่พลาดซักงาน ถวายตัวเป็นลูกศิษย์ครับ ถึงจะได้ดูไม่น่าเกลียดครับ

ซื้อแผ่นได้ที่ท่าพระจันทร์ครับ เข้าไปในซอยที่ขายก๋วยเตี๋ยว แล้วก็ตรงเข้าไปประมาณสามสิบเมตรได้ อยู่ขวามือ หรือถามเขาเอาก็ได้ครับ ว่าแผ่นตะกรุดซื้อที่ไหน

ตอบจบแล้วน่ะครับ
ทุกท่านที่ยังไม่เคยไปก็ให้ปฏิบัติตามนี้เป็นแบบแผนปกติครับ

 

มีครับพี่

เส้นละห้าร้อยบาท ถ้าเห็นแล้วจะบอกว่า ตะกรุดที่จำหน่ายกันดอกละพันสองพันนี่ดูด้อยค่ากว่าเชือกคาดเอวหลวงพ่ออีกครับ เพราะบรรจุแบบอัดแน่นจริงๆ แน่นด้วยคุณภาพครับ

 

พี่ขยันจังเลยครับ

นั่งหาจนได้ครับ แถมยังแต่งภาพด้วย ขอบคุณครับ กระทู้มีสีสันขึ้นเลยครับ อิอิ

 

ท่านสวนพลูมีรูปเชือกคาดเอวแบบเต็มให้ดูมั้ยครับ...อยากเห็น มีกี่สี..

 

ขอเพิ่มเติมนะครับ ผิดยังไงก็ขออภัยไว้ด้วยนะ สอบถามท่านอื่นๆ มาเหมือนกันแล้วก็ดูจากในเวบ

ขอยืมคำตอบของท่าน anoldman มาร่วมตอบให้ ตามนี้ครับ

พอจะเดาได้ 3 ตัว คือ
k1. ตัวที่มีแต่ตัวหนังสือ 4 แถว 4 บรรทัด อ่านว่า นะ มะ อะ อุ แล้วก็อ่านวนกันไปเรียกว่า ตั้งธาตุ หนุนธาตุ เป็นตัวกำกับยันต์ทั้งหมด
k2. ยันต์ที่เป็นสี่เหลี่ยมมีมุมช่อง และมีเส้นกากบาท ตัดเป็น 4 ช่อง และมีตัวอักษรคุม น่าจะเป็นยันต์กันขโมย กันโจร ปกป้องทรัพย์
k3. ยันต์ที่คล้ายตัวเฑาะ แต่หางกลม เรียกว่ายันต์ ทอ อยู่ทางซ้ายมือของยันต์นะเมตตา แต่ไม่รู้ว่าเขาเรียกทางการว่าอะไร เพราะมีตัว มะ อะ อุ ครุมยันต์อีกชั้น ดูแล้วก็ถือว่าเป็นนะตัวหนึ่งโดยสมบูรณ์ แต่ยันต์ ทอ ตัวเดียวหลวงปู่ปานวัดบางนมโค ใช้ยันต์ตัวนี้ตัวเดียวฤทธิ์ก็ครอบจักรวาลแล้ว ครับ

​

 

คัดลอกมาจากเวบบางพระนะครับ...

ว่าด้วย..พุทธาคมกับไสยศาสตร์

เป็นบทความดีๆที่กระผม ซึ่งมีความเชื่อถือศรัทธา ในศาสตร์ แขนงนี้ (สักเสกเลขยันต์) หากแต่มีคนบางกลุ่มบางคนในสังคม รังเกียจในรอยสักยันต์ ที่มีความคิด อคติกับคนที่สักอย่างพวกเรา เค้ามองพวกเราเป็นคนไม่ดี นักเลง อัธพาล แต่พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้มองสิ่งที่พวกเรายึดถือปฏิบัติตามวิถีแห่งชาวพุทธ นั่นก็ คือ ประกอบแต่กรรมดี ละเว้นกรรมชั่วทั้งปวง
บางคนว่า พวกเรา งมงายไร้สาระ แต่ในความไร้สาระนั้นก็ทำให้กระผมรู้จัก ศีลทั้ง 5 ข้อ ซึ่งน้อยคนนักที่จะยึดถือปฏิบัติได้ครบ......

แม้โลกยุคปัจจุบันจะเป็นโลกวิทยาศาสตร์ก็ต้องยอมรับว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์และอิทธิปาฎิหาริย์เป็นของที่มีจริงและแน่นอน แต่เราก็ต้องใช้วิจารณญาณพิจารณาดูให้รู้ก่อนโดยแท้ว่าอิทธิปาฎิหาริย์นั้นๆ เกิดจากทางสูงหรือทางต่ำ

ทางสูง : ได้แก่ พุทธาคม อันบรรดาคณาจารย์ ผู้สำเร็จอภิญญา สำเร็จสมถะกัมมัฎฐาน สำเร็จวิชาวิปัสสนากับกัมมัฎฐานได้รจนาไว้ พร้อมทั้งพระพุทธคาถาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเอง ก็ถือว่าเป็นบทท่องสวดภาวนาเพื่อให้เกิดศิริมงคล ป้องกันสรรพอันตรายแคล้วคลาดห้วงภัยนานาประการ ตลอดจนเจริญภิญโญในวิถีชีวิตด้วยขอให้ผู้ใช้มีอัคศรัทธายึดมั่น ตั้งสมาธิแน่วแน่ก็ย่อมจะยังผลสัมฤทธิ์ให้อย่างแน่นอนส่วนอีกทางหนึ่ง คือ ไสยเวทย์เวทย์มนต์
คือ เวทย์มนต์ที่เกิดจาก ไสยศาสตร์ ซึ่งก็มีจริงและสามารถเกิดปาฏิหาริย์ได้เหมือนกัน แต่เกิดจากทางต่ำและแยกออกได้ 4 ประเภท คือ
1.คงกระพัน เหนียว ฟันแทง เชือด ยิงไม่เข้า
2.ชาตรี ไม่เจ็บ ถูกตะพด กระบอง ก้อนหินทุ่มไม่เป็นไร
3.รู้สำนึก รู้ตัวว่าอันตรายจะเกิดแก่ตน
4. พวกสเน่ห์ยาแฝด หงษ์ร่อน มังกรรำ เป๋อ อิ้น งั่งตาแดง ปล่อยคุณไสย
ในจำนวนทั้ง 4 ประเภทนี้
วิชาที่เรียกได้ว่า เป็น เดียรถีย์วิชา (เดรัจฉาน) คือ ประเภทที่4 เป็น วิชาที่ต่ำช้าชั่วร้ายมากที่สุด
ในพระพุทธศาสนานั้น ผู้ที่สำเร็จญาณสมาบัติได้ ต้องเป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ย่อมแสดงอิทธิฤทธิ์ได้หลายอย่างเป็นเอนกประการ อิทธิฤทธิ์เหล่านี้เรียกว่า "อิทธิปาฎิหาริย์" เป็นการกระทำที่สามัญชนไม่สามารถจะกระทำได้
ดังมีหลักฐานปรากฏอยู่ในพระไตรปิฎก มากมาย และพระคณาจารย์เจ้าผู้สำเร็จญาณสมาบัติ ท่านย่อมทรงไว้ซึ่งฤทธิ์โดยที่พระพุทธองค์ ผู้เป็นเจ้าของพุทธศาสนานั้น พระองค์ทรงไว้ด้วยคุณ 3 ประการ คือ
1.พระเมตตาคุณ
2.พระปัญญาคุณ
3.พระบริสุทธิ์
ดังนั้นพระเถรานุเถระผู้ทรงไว้ด้วยญาณสมาบัติ ก็มักจะใชฤทธิ์ของท่านช่วยชีวิตมนุษย์และสัตว์โลก ซึ่งถือเอาหลักพระเมตตาคุณ เป็นการตามรอยพระยุคลบาทแห่ง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระบรมศาสดา

พระพุทธเจ้าก็ทรงเคยแสดงยมกปาฎิหาริย์อันเป็นมหามหัศจรรย์ พระโมคคัลลานเถระ อรหันต์เจ้า และพระอรหันตสาวกอีกจำนวนมาก ล้วนเคยแสดงอิทธิปาฎิหาริย์มาแล้วทั้งนั้น หากแต่ว่าพระองค์มิได้ทรงยกย่องอิทธฺปาฎิหาริย์ให้สูง เท่า อนุสาสนีปาฎิหาริย์เท่านั้นเอง

พระพุทธเจ้าจึงทรงห้ามมิให้แสดงฤทธิ์พร่ำเพรื่อ แต่เมื่อถึงคราวพระพุทธศาสนาดับขึ้น ตกอยู่ในห้วงอันตราย พระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่งย่อมแสดง อิทธิปาฎิหาริย์ ช่วยกู้พระศาสนาไว้อยู่เสมอ ตัวอย่างมีในพระไตรปิฏก หาอ่านดูได้
นี่ก็แสดงให้เห็นว่า การแสดงฤทธิ์นั้น เป็นสิ่งจำเป็นอยู่เสมอ ไม่ใช่จะเป็น วิชาต่ำช้า งมงาย ดังปัญญาชน และครูบาอาจารย์บางสำนักประนามเลย

ขอจงจำไว้อย่างเดียวว่า ถ้าเราไม่เรียนไม่ฝึกวิปัสสนาแล้ว วิชาอิทธิฤทธิ์ก็ไม่ขวางทางวิปัสสนา หรือไม่ขวางทาง พระนิพพาน แต่ถ้าเราท่านเรียนฝึกวิปัสสนา เพื่อจะเป็นพระอรหันต์ไม่อยู่นิพพานละก็ วิชาอิทธิฤทธิ์ เป็นอุปสรรคขัดขวางความเป็นพระอรหันต์อย่างเต็มทางเลยทีเดียว

"วิชากรรมฐาน 40 วิธีทำให้ได้สมาธิ ณาณสมาบัติ 8 และได้อภิญญา 5 ยังเกี่ยวข้องกับโลกมนุษย์ โลกสวรรค์ และพรหมโลกอยู่เสมอ ยกเว้นพระนิพพานเท่านั้น"
--------------------------------------------------------------------
ขออนุญาติเจ้าของบทความ...คุณ Oat มา ณ ที่นี้ด้วยครับ