กัญชา มีอะไรมากกว่ายาเสพติด

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Tiger Dear's, 9 เมษายน 2011.

  1. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ทางการเเพทย์
    <table class="contentpaneopen"><tbody><tr><td class="contentheading" width="100%">การใช้กัญชาในทางการแพทย์ </td> <td class="buttonheading" width="100%" align="right"> [​IMG] </td> <td class="buttonheading" width="100%" align="right"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table> <table class="contentpaneopen"><tbody><tr> <td colspan="2" class="createdate" valign="top"> Friday, 07 October 2005 </td> </tr> <tr> <td colspan="2" valign="top"> [​IMG]ประวัติกัญชาในฐานะยาแพทย์แผนตะวันตกเริ่มในปี ค.ศ.1839 เมื่อมีการตีพิมพ์ของ Shaughnessy แพทย์อังกฤษในกัลกัตตา รายงานว่ากัญชามีฤทธิ์แก้ปวด กันชัก และคลายกล้ามเนื้อ รายงานของเขาสร้างความสนใจอย่างมาก และมีรายงานอีกประมาณ 100 ฉบับในแพทย์แผนตะวันตก ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1840 จนจบศตวรรษนั้น ในศตวรรษที่ 19 กัญชามีการใช้ในทางการแพทย์ในโลกตะวันตก เพื่อบำบัดโรคและความไม่สบาย หลายอย่าง เช่น อาการไอ อ่อนล้า โรคข้อ หอบหืด สั่นเพ้อ ปวดหัวไมเกรน และปวดประจำเดือน แม้การใช้จะลดลงเมื่อมีการสังเคราะห์ยากล่อมประสาท และยาแก้ปวดอื่น กัญชาก็อยู่ในตำรับยาสหรัฐนานจนถึงปี ค.ศ.1941 กฎหมายเก็บภาษีกัญชาทำให้กัญชาเลิกใช้ใน ทางการแพทย์ ์และนับแต่นั้น แพทย์ก็ไม่ใส่ใจในกัญชา

    ประโยชน์ของกัญชาในทางการแพทย์ที่มากที่สุด คือ ความปลอดภัยของมัน อัตราปริมาณยาที่ทำให้ตาย ต่อปริมาณ ที่ออกฤทธิ์ในสัตว์สูงเกือบสองหมื่นเท่า กัญชาปริมาณมากถูกป้อนให้สุนัขโดยไม่ทำให้ตาย และไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อ ถึงการตายด้วยกัญชาในมนุษย์ กัญชายังมีประโยชน์ ที่ไม่รบกวนการทำงานปกติ ของร่างกายหรือทำลายอวัยวะร่างกาย เมื่อใช้ในปริมาณเพื่อการบำบัด กัญชาทำให้ติดหรือทนยาเพียงเล็กน้อย ไม่เคยมีหลักฐานว่าการใช้กัญชาทางการแพทย์ ทำให้ติดเสพ เหมือนเป็นยาเมา
    กัญชาดิบมีข้อด้อยที่ ไม่ค่อยแน่นอนในความแรงและไม่ละลายน้ำ จึงเป็นการยากที่กัญชา จะดูดซึมเข้ากระแสเลือดทางระบบกระเพาะลำไส้ อีกปัญหาหนึ่งคือ กัญชามีส่วนผสมหลายอย่าง ซึ่งอาจมีโทษเช่น ทำให้เมามากเกิน ส่วนผสมหนึ่งคือ dronabinol เป็นกัญชาสังเคราะห์ กฎหมาย อนุญาตให้ใช้เพื่อบำบัดอาการคลื่นไส้อาเจียนในการบำบัดยามะเร็งและในผู้ป่วย เอดส์ที่น้ำหนักลด การสูบให้ผลเร็วและแน่นอนกว่าในการดูดซึมกัญชาเข้ากระแสเลือด ผู้ป่วยที่รับยาบำบัดมะเร็งอาจคลื่นไส้ทำให้กินยายาก แต่ผู้ป่วยหลายคนเกลียดการสูบหรือสูบไม่เป็น
    กัญชากับโรคทางระบบประสาท ร้อยละ 20 ของผู้ป่วยลมชักไม่อาจบรรเทาได้ด้วยยาต้านชัก ทั่วไป กัญชาพบว่าเป็นทางเลือกหนึ่งอย่างน้อยก็มีรายงานผู้ป่วยรายหนึ่งที่สูบกัญชาร่วมกับยากันชัก ตามมาตรฐานคือ ฟีโนบาร์บิทาล และไดฟีนิลไฮแดนโทอิน ซึ่งเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการควบคุม การชักในชายหนุ่มที่เป็นลมชัก กัญชาลดการกระตุกและสั่นของกล้ามเนื้อในคนที่เป็นอัมพาตสมอง หรือมัลติเปิล สเกอโรซิซ สารจากกัญชาที่ดูเป็นประโยชน์ต่อลมชักคือ cannabidiol ในการศึกษา งานหนึ่ง สารนี้ได้เพิ่มเข้ากับยากันชักทำให้มีผลดีในผู้ป่วยเจ็ดรายที่ชักแบบ grand mal มีสามราย ดีขึ้นมาก ผู้ป่วยแปดรายที่ได้ placebo มีรายเดียวที่ดีขึ้น
    มีรายงานการใช้กัญชาเพื่อบรรเทาหอบหืด ยาแก้หอบหืดทุกตัวมีข้อเสียคือมีข้อจำกัด ทั้งประสิทธิภาพและผลข้างเคียง เนื่องจากกัญชาขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม กัญชาได้รับการทดสอบเป็นยาแก้หอบหืด การสูบกัญชาอาจไม่ใช่วิธีที่ดีในการบำบัดหอบหืด เนื่องจาก การระคายเคืองเป็นระยะเวลานานของทางเดินหายใจจากน้ำมันดินและสารอื่นในควัน กัญชา จึงมี รายงานการค้นหาการบริหารยาเข้าร่างกายที่ดีกว่าเดิม กัญชาในรูปละอองสเปรย์มีการค้นคว้าอย่างมาก นิยมใช้สาร cannabinol และ cannabidol แทน THC มาก การค้นพบที่น่าสนใจอีกอย่าง คือการวิจัยพบว่า cannabinoid มีผลต่อหลอดลมในกลไกที่แตกต่างจากยาแก้หอบหืด
    การใช้กัญชาทางการแพทย์อีกด้าน คือ การรักษาตาต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับสองที่ทำให้ คนตาบอดในสหรัฐ คนอเมริกาเกือบล้านที่ป่วยด้วยต้อหินที่รักษาได้ด้วยกัญชา กัญชาทำให้ความดัน ภายในลูกนัยน์ตาลดลงได้ดีหลายชั่วโมงในคนปกติและในคนที่ความดันลูกนัยน์ตา สูงจากต้อหิน การให้กัญชาทางปากหรือทางหลอดเลือดดำให้ผลเหมือนกัน ซึ่งขึ้นกับชนิดอนุพันธ์กัญชามากกว่า จะเกิดจากฤทธิ์กล่อมประสาทของกัญชา กัญชาไม่ได้รักษาโรคขาด แต่ช่วยยับยั้งการบอดไม่ให้เป็นมากขึ้น เมื่อยาทั่วไปไม่อาจช่วยได้ และการผ่าตัดเป็นเรื่องเสี่ยงเกิน ยังรอผลการศึกษากันอยู่ว่า การใช้กัญชาเป็นยาทาหรือยาหยอดตาจะได้ประโยชน์หรือไม่ ในกรณีนี้ ยาหยอดตากัญชายังไม่พบว่ามีประสิทธิภาพ และในปี ค.ศ.1981 สถาบันตาแห่งชาติ ประกาศว่า จะไม่อนุมัติการวิจัยในมนุษย์โดยใช้ยาหยอดตาเหล่านี้ การศึกษายังคงต่อไปโดยใช้อนุพันธ์กัญชาสังเคราะห์และกัญชาธรรมชาติอื่นๆ การสูบกัญชาเป็นวิธีดีกว่าในการปรับปริมาณ กัญชาเมื่อเทียบกับการกิน และคนไข้ส่วนใหญ่ก็ชอบวิธีนี้มากกว่า โชคไม่ดี ผู้ป่วยที่อายุมากหลายคน ไม่ชอบฤทธิ์ทางจิตของกัญชา
    อนุพันธ์กัญชามีประโยชน์หลายอย่างในการบำบัดมะเร็ง อาจใช้เป็นสารกระตุ้นความ อยากอาหาร กัญชาจะช่วยชะลอน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง กัญชายับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็งในสัตว์ทดลอง แต่ผลยังไม่เป็นที่สรุป และอนุพันธ์กัญชาอีกชนิดคือ cannabidiol ดูจะทำให้มะเร็งโตเร็วขึ้น บางทีกัญชาเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันการโตของมะเร็ง แต่สิ่งที่กัญชาช่วยได้แน่ในการบำบัดมะเร็งคือการป้องกันการคลื่นไส้อาเจียน ในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด เกือบครึ่งของผู้ป่วยที่รับยาต้านมะเร็งต้องทุกข์จากการคลื่นไส้อาเจียน อย่างแรง ประมาณร้อยละ 25 ถึง 30 ของผู้ป่วยเหล่านี้ ยาแก้อาเจียนทั่วไปใช้ไม่ได้ผล อาการคลื่นไส้อาเจียนไม่เพียงแต่ ไม่น่าพอใจแต่ยังรบกวนประสิทธิภาพการบำบัดรักษาด้วย การอาเจียนอาจทำให้เกิดการฉีกขาด ของหลอดอาหารและซี่โครงหัก ทำให้ไม่ได้รับอาหารเพียงพอ และสูญเสียน้ำ ยาแก้อาเจียนส่วนใหญ่ที่ใช้ในเคมีบำบัดคือ โพรคลอเพราซีส (Compazine) และออนแดน เซทรอน (Zofran) และกรานิเซทรอน (Kytril) คำแนะนำว่ากัญชาอาจช่วยเรื่องนี้ได้กล่าวมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 70 เมื่อผู้ป่วยหนุ่มบางรายที่รับเคมีบำบัดมะเร็งพบว่า การสูบกัญชาซึ่งผิดกฎหมายจะลด อาการคลื่นไส้อาเจียนของเขาได้ ในการศึกษาผู้ป่วย 56 รายที่ไม่ได้รับยาแก้อาเจียน ร้อยละ 78 ไม่มีอาการนี้เมื่อสูบกัญชา กัญชาทางการแพทย์เพื่อบำบัดอาการคลื่นไส้และน้ำหนักลดมีการนำมาใช้กับผู้ ป่วยเอดส์ อาการคลื่นไส้เป็นอาการของโรคนี้และผลข้างเคียงจากยาบางตัว โดยเฉพาะ AZT สำหรับผู้ป่วยเอดส์ สิ่งที่รบกวนและคุกคามมากที่สุดคือ การผอมแห้ง กัญชาจะชะลอการสูญเสียน้ำหนักในผู้ป่วยส่วนใหญ่ และช่วยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ในบางราย
    ข้อสรุปจากรายงานปี ค.ศ.1982 คือ กัญชาดูได้ผลในบางเรื่อง แม้ปริมาณที่จะช่วยให้ได้ฤทธิ์ที่ต้องการมักใกล้เคียงกับปริมาณ ที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบบ่อยและยอมรับไม่ได้ สิ่งที่น่าสนใจ … คือ กัญชาดูเป็นประโยชน์ ทางกลไกที่แตกต่างจากยาอื่นๆ ที่มีอยู่ สิ่งนี้จะเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้ป่วยที่ไม่ได้ประโยชน์จากการบำบัด ทั่วไป ให้ได้รับการบำบัดด้วยกัญชา … เป็นไปได้ที่จะลดอาการข้างเคียงโดยการสังเคราะห์โมเลกุล เพื่อให้ได้ฤทธิ์ที่ต้องการมากกว่าฤทธิ์ที่ไม่ต้องการ การวิจัยในเรื่องนี้ควรเป็นเรื่องเร่งด่วน มีการแนะนำให้วิจัยต่อไปโดยเฉพาะการบำบัดอาการคลื่นไส้อาเจียนในเคมีบำบัด หอบหืด ต้อหิน และชักกระตุก ตามกฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐ กัญชาเป็นสารเสพติดประเภทที่หนึ่ง คือ มีความเสี่ยงสูง ในการใช้ในทางที่ผิด ไม่มีประโยชน์ที่ยอมรับในทางการแพทย์ และไม่มีความปลอดภัยในการใช้ภายใต้ การดูแลของแพทย์ กัญชาไม่ควรจ่ายด้วยใบสั่งธรรมดา และควรใช้เฉพาะในงานวิจัย


    ขอเน้น วรรคนี้ เป็นพิเศษ สาวกคีโม บําบัดควรอ่าน
    อนุพันธ์กัญชามีประโยชน์หลายอย่างในการบำบัดมะเร็ง อาจใช้เป็นสารกระตุ้นความ อยากอาหาร กัญชาจะช่วยชะลอน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง กัญชายับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็งในสัตว์ทดลอง แต่ผลยังไม่เป็นที่สรุป และอนุพันธ์กัญชาอีกชนิดคือ cannabidiol ดูจะทำให้มะเร็งโตเร็วขึ้น บางทีกัญชาเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันการโตของมะเร็ง แต่สิ่งที่กัญชาช่วยได้แน่ในการบำบัดมะเร็งคือการป้องกันการคลื่นไส้อาเจียน ในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด เกือบครึ่งของผู้ป่วยที่รับยาต้านมะเร็งต้องทุกข์จากการคลื่นไส้อาเจียน อย่างแรง ประมาณร้อยละ 25 ถึง 30 ของผู้ป่วยเหล่านี้ ยาแก้อาเจียนทั่วไปใช้ไม่ได้ผล อาการคลื่นไส้อาเจียนไม่เพียงแต่ ไม่น่าพอใจแต่ยังรบกวนประสิทธิภาพการบำบัดรักษาด้วย การอาเจียนอาจทำให้เกิดการฉีกขาด ของหลอดอาหารและซี่โครงหัก ทำให้ไม่ได้รับอาหารเพียงพอ และสูญเสียน้ำ ยาแก้อาเจียนส่วนใหญ่ที่ใช้ในเคมีบำบัดคือ โพรคลอเพราซีส (Compazine) และออนแดน เซทรอน (Zofran) และกรานิเซทรอน (Kytril) คำแนะนำว่ากัญชาอาจช่วยเรื่องนี้ได้กล่าวมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 70 เมื่อผู้ป่วยหนุ่มบางรายที่รับเคมีบำบัดมะเร็งพบว่า การสูบกัญชาซึ่งผิดกฎหมายจะลด อาการคลื่นไส้อาเจียนของเขาได้ ในการศึกษาผู้ป่วย 56 รายที่ไม่ได้รับยาแก้อาเจียน ร้อยละ 78 ไม่มีอาการนี้เมื่อสูบกัญชา กัญชาทางการแพทย์เพื่อบำบัดอาการคลื่นไส้และน้ำหนักลดมีการนำมาใช้กับผู้ ป่วยเอดส์ อาการคลื่นไส้เป็นอาการของโรคนี้และผลข้างเคียงจากยาบางตัว โดยเฉพาะ AZT สำหรับผู้ป่วยเอดส์ สิ่งที่รบกวนและคุกคามมากที่สุดคือ การผอมแห้ง กัญชาจะชะลอการสูญเสียน้ำหนักในผู้ป่วยส่วนใหญ่ และช่วยให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ในบางราย

    </td></tr></tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011
  2. ระยับแดด

    ระยับแดด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +117
    ความโกรธไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป มันจะมาตอนเราเผลอเท่านั้น
    ถ้าเรามีสติ ความโกรธจะเข้ามาไม่ได้เลย
    วิธีจัดการกับศัตรูได้ดีที่สุด คือการให้อภัย
    ชัยชนะ จะไม่ยิ่งใหญ่ หากไม่รู้รสชาติที่แท้จริงของคำว่าแพ้

    บทเรียนของคุณคือพัฒนาสำนึกทางจิตใจ มองหาครูดีๆ ใช้เวลาของคุณและพลังงานในการไตร่ตรอง
     
  3. angel323

    angel323 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    70
    ค่าพลัง:
    +6
    แหม!!อ่านแล้วน่าหามาลองกันซัก3-4มวนนะครับ เอิ๊กๆๆๆ
     
  4. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    รับทราบเจ้าค่ะ

    รับทราบเจ้าค่ะ ช่วงนี้ ถึงตามกันไม่ทัน เเต่ก็ ตามมาเร็วกว่าเเต่ก่อนเยอะ เลยค่ะ คงเพราะครูห้อง อภิญา นี่ของเขาดีจริงๆ หุ หุ หุ (deejai)(deejai)(deejai)
     
  5. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=nQdleTyWQtg]YouTube - แอ๊ด คาราบาว - กระท่อมกัญชา[/ame]
     
  6. jirat12182

    jirat12182 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +97
    Yeah กัญชา กัญชา เป็นยาวิเศษ
    พวกเรานัก กัญชา ใจกล้าหาญ
    เชี่ยวชาญชิงชัยไม่ย่นย่อ
    คราวชนะขอ บ้องใหญ่ ไม่รีรอ
    คราวแพ้ก็ไม่ท้อ รอต่อคิว...

    อึมอึมอึม อึ่มอึม"""กัญชา กัญชา เป็นยาวิเศษ
    เพิ่มตัวกิเลส มองลิงช่างเหมือนคน
    ผลของการฝึกตน เล่น กัญชา สามคน ตะละล้า...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011
  7. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    INM13:ข้อดีของยาเสพติดที่ชื่อว่า "กัญชา"

    ลองเปิดใจกันดูนะครับ
    สิ่งที่คิดว่ามีโทษก็มีประโยชน์เหมือนกัน
    การใช้กัญชาเพื่อบรรเทาหอบหืด ยาแก้หอบหืดทุกตัวมีข้อเสียคือมีข้อจำกัด ทั้งประสิทธิภาพและผลข้างเคียง เนื่องจากกัญชาขยายหลอดลมและลดการหดตัวของหลอดลม
    การใช้กัญชาในการรักษาต้อหิน คือ การรักษาตาต้อหิน ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับสองที่ทำให้ คนตาบอดในสหรัฐ คนอเมริกาเกือบล้านที่ป่วยด้วยต้อหินที่รักษาได้ด้วยกัญชา กัญชาทำให้ความดัน ภายในลูกนัยน์ตาลดลงได้ดีหลายชั่วโมงในคนปกติและในคนที่ความดันลูกนัยน์ตา สูงจากต้อหิน การให้กัญชาทางปากหรือทางหลอดเลือดดำให้ผลเหมือนกัน ซึ่งขึ้นกับชนิดอนุพันธ์กัญชามากกว่า จะเกิดจากฤทธิ์กล่อมประสาทของกัญชา กัญชาไม่ได้รักษาโรคขาด แต่ช่วยยับยั้งการบอดไม่ให้เป็นมากขึ้น เมื่อยาทั่วไปไม่อาจช่วยได้ และการผ่าตัดเป็นเรื่องเสี่ยงเกินไป
    อนุพันธ์กัญชามีประโยชน์หลายอย่างในการบำบัดมะเร็ง อาจใช้เป็นสารกระตุ้นความ อยากอาหาร กัญชาจะช่วยชะลอน้ำหนักลดในผู้ป่วยมะเร็ง กัญชายับยั้งการเติบโตของเซลมะเร็งในสัตว์ทดลอง แต่ผลยังไม่เป็นที่สรุป และอนุพันธ์กัญชาอีกชนิดคือ cannabidiol ดูจะทำให้มะเร็งโต เร็วขึ้น บางทีกัญชาเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันการโตของมะเร็ง แต่สิ่งที่กัญชาช่วยได้แน่ในการบำบัดมะเร็งคือการป้องกันการคลื่นไส้อาเจียน ในผู้ป่วยที่รับเคมีบำบัด เกือบครึ่งของผู้ป่วยที่รับยาต้านมะเร็งต้องทุกข์จากการคลื่นไส้อาเจียน อย่างแรง ประมาณร้อยละ 25 ถึง 30 ของผู้ป่วย เหล่านี้ ยาแก้อาเจียนทั่วไปใช้ไม่ได้ผล อาการคลื่นไส้อาเจียนไม่เพียงแต่ ไม่น่าพอใจแต่ยังรบกวนประสิทธิภาพการบำบัดรักษาด้วย การอาเจียนอาจทำให้เกิดการฉีกขาด ของหลอดอาหารและซี่โครงหัก ทำให้ไม่ได้รับอาหารเพียงพอ และสูญเสียน้ำ
    เห็นไหมครับ ยาเสพติดที่เรียกว่ากัญชา ก็ใช่ว่าจะไม่ดีนะครับ


    [​IMG]
    ที่มา www.thanyarak.go.th -
     
  8. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    สเปนพบสารออกฤทธิ์ในกัญชา ต้านเซลล์มะเร็งในสมองได้ ถึงจะเป็นพืชอันตราย ที่ทำให้ผู้เสพเกิดอาการประสาทหลอน แต่นักวิทย์สเปนกลับพบว่า สารสำคัญในกัญชามีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งในสมองได้ดี โดยกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเอง อนาคตหวังพัฒนายาต้านมะเร็งจากพืชยาเสพติดชนิดดังกล่าว
    สำนักข่าวซีบีเอสนิวส์รายงานว่า กิลเลอร์โม เวลาสโก (Guillermo Velasco)


    นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคอมพลูเทนส์ (Complutense University) ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน และคณะ ค้นพบว่า สารสำคัญในกัญชา (marijuana) มีฤทธิ์ยังยั้งเซลล์มะเร็งสมองได้ ทำให้นักวิจัยมีความหวังในการพัฒนายาต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในอนาคต ซึ่งเอเอฟพีรายงานว่า นักวิจัยได้ตีพิมพ์ผลงานดังกล่าวในวารสาร เจอร์นัล ออฟ คลินิคัล อินเวสติเกชัน (Journal of Clinical Investigation) ของสหรัฐฯ ฉบับเดือนเมษายน 2552[​IMG]
    ทีมนักวิจัยทดลองฉีดสารเตตระไฮโดรแคนนาบินอล หรือ ทีเอชซี (tetrahydrocannabinol: THC) ที่สกัดได้จากกัญชาแก่หนูทดลองที่เป็นมะเร็งในสมองชนิดเดียวกับในคน โดย ฉีดทีเอชซีเข้าไปในสมองบริเวณใกล้กับที่มีเซลล์มะเร็ง พบว่ากลุ่มเซลล์มะเร็งบริเวณดังกล่าวค่อยๆลดลง ทั้งนี้เพราะทีเอชซีไปกระตุ้นเซลล์มะเร็งให้เกิดกระบวนการทำลายตัวเอง (autophagy)
    จากนั้นได้ทดลองในระดับคลินิกกับผู้ป่วยอาสาสมัคร จำนวน 2 ราย ที่เป็นเนื้องอกในสมองขั้นรุนแรง โดยการให้สารทีเอชซีเข้าไปในสมองโดยตรง และ เมื่อตรวจชิ้นเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวเปรียบเทียบกันก่อนและหลังที่ผู้ ป่วยจะได้รับทีเอชซี ซึ่งพบว่ามีการทำลายเซลล์เนื้องอกเพิ่มมากขึ้นตามคาด ขณะเดียวกันไม่พบผลข้างเคียงใดๆจากการรักษาเลย จึงมีศักยภาพในการพัฒนาเป็นยายับยั้งการเจริญของเนื้องอกหรือเซลล์มะเร็งได้ ในอนาคต
     
  9. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
  10. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
  11. วิถีคนจร

    วิถีคนจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +226
    มีปรมจารย์คนหนึ่งแก่อยู่กระท่อมริมรั้ว ราบ11 ริมคลอง แกบอกดูดมา30-40ปี แกยังอยู่ดีเลย ตอนนั้นผมเรียน ทหารครับ เพื่อนพาไปรู้จักแก แก่เป็นทหารผ่านศึก ลุงแกดูดทีเป็นเขียง แค่ผมนั่งดูจะเป็นลมตาย ควันอย่างกะ ตำหนักเข้าทรง 555+ เล่าให้ฟังนะครับ
     
  12. มโหสถผู้เจริญ

    มโหสถผู้เจริญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +851
    เหรียญมีสองด้าน
    บัณฑิตย่อมปลอกเปลือกมังคุตกินแต่เนื้อใน
    หนูๆ ที่ได้อ่านกระทู้นี้ ห้ามทดลอง เด็ดขาดนะจ๊ะ
    กล่าวถึงกัญชา จะเล่าสิ่งที่พบ เจอมาให้ฟัง

    ข้าพเจ้ามีเพื่อนสมัยเรียนหลายคน สมัยยังวัยรุ่น พวกเขาจะชอบสูบกัญชากัน
    ถามว่าเป็นยังไงทำไมไปสูบกัญชา พวกมันตอบว่า ประมาณว่าดึงดาวไง
    ท่านลองคิดดูว่า อารมณ์ประมาณว่าดึงดาวมาได้มันขนาดใหน นั้นมันคงทำให้เราหลงใหล ในความสุขจอมปลอมอย่างแน่แท้เชียว แต่รู้ไหมที่ข้าพเจ้าไม่เข้ารวมกลุ่มสูบกับเขาด้วยเพราะว่า สัจจะคำเดียว ดันไปลั่นวาจาว่า จะไม่สูบบุหรี่เด็ดขาด เพราะฉะนั้นอะไรที่เกี่ยวกับการสูบข้าพเจ้าแอนตี้ว่างั้นเหอะ,,,,ทุกวันนี้เห็นแล้วว่า สัจจะที่ท่านหนุมานบอก มันของจริง,,,
    ต่อมา กลุ่มวัยรุ่นก็ ลักลอบสูบกันบ่อยขึ้น พ่อแม่ไม่รู้ว่างันเถอะ
    สิ่งที่พบคือ หลังจากสูบกัญชาแล้ว ส่วนใหญ่ยังหาเงินเองไม่ได้ ก็ตามมาด้วยการลักขโมยของกิน เช่น ไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้
    ปลาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ก็ไปขโมย ผลไม้ก็ยังขโมย เอาเป็นว่าสูบแล้วหิวโน่นนี่ก็แล้วกันนะ
    เช่นนั้น การเริ่มต้นเพียงเล็กน้อยนี้ กลับเป็นเชื้อให้ทำสิ่งที่เรวร้ายกว่า
    นานเข้าก็หลงมัวเมา คำว่าศีลธรรมย่อมไม่มีในสมอง
    หนักเข้า ก็กินเหล้าด้วย บางคนดมกาวเสริม
    เรียกว่าอบายมุขทุกอย่าง ประดังเข้ามา เพราะคนยิ่งมากก็สรรหามากันมากกับอบายมุข

    หนักไปอีกก็เอาผู้หญิงมาลงแขก
    ผลลัพคือ ผู้หญิงคนนั้นติดเอดส์ ตายกันยกกลุ่มเลยเอา
    อยากเตือนท่านทั้งหลาย ความสุข ภายนอกคือสิ่งมอมเมาพวกเราอยู่
    เนื่องจากเราจะมองไม่เห็นเหตุที่จะเกิดในกาลอนาคตเพราะตอนนี้เราสุขอยู่
    จึงประมาท เมื่อประมาท ผลลัพก็ไม่ต้องบอกกัน ทุกท่านรู้ดี
    ข้าพเจ้าไม่ได้ดีเด่อะไร เพียงแต่เพิ่งจะตื่น ด้วยเหตุบางประการทำให้ตื่น
    คือตื่นจากคความมัวเมาแล้ว ตอนนี้ก็ได้แค่ตื่นนะ ต้องตื่นก่อน เพราะหลับอยู่คงทำอะไรไม่ได้ ตอนนี้อยากให้คนที่ยังไม่ตื่นให้ตื่นก่อน สาธุหวังว่าที่ข้าพเจ้า บอกไปนี้สกิดใจ
    คนแม้สักหนึ่งคนให้ฉุกคิด ก็นับว่าดีแล้ว เวลาเหลือน้อยเหลือเกิน เร่งกันหน่อยท่านทั้งหลาย.......จะหาว่า มโหสถไม่เตือน
     
  13. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้


    คิดว่าไม่น่าที่จะเป็นไปได้
    1
    พวกมันตอบว่า ประมาณว่าดึงดาวไง
    กรณี ในการดึงดาว ที่ว่ามานี้ ในทางปฎิบัติ ของ อาการ ไม่เฉียดเลยน่ะเจ้่าค่ะ ยังห่างไกลอยู่มาก ในเรื่องของภาพนิมิต ต่างๆ ถึงจะพยายามดูดมากสักเพียงใด อาการดังกล่าว ไม่เกิดขึ้นเเน่นอนค่ะ

    เหมือนคนเมาเหล้า เมายังไงก็มิสามารถ มองเห็นขี้หมาเป็น เนื้อสเต็กโคขุนโพนยางคําไปได้


    2
    การลักขโมยของกิน เช่น ไก่ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้
    เรื่องลักขโมยนี้ เอาไก่มากิน ยิ่งเป็นไปได้ลําบากเข้าไปใหญ่ เเค่จะให้เดินให้ ตรงทาง ยังลําบาก เเม้เเต่จะเมาเพียงเเค่พอ กรึมๆ ก็ทําไม่ได้ เพราะมันเป็นอารมณ์ ขี้เกียด อารมณ์ สบาย ตัว ผ่อนคลาย เสียมากกว่า ที่จะชวนกันลุกไป วิ่งไล่จับไก่

    3
    ก็กินเหล้าด้วย บางคนดมกาวเสริม
    ในข้อนี้ หากใครเคย ดูดกัญชาเเล้ว กินหล้าตามเข้าไป จะรู้ดีว่า มันก็ไม่ต่างจาก กินหล้าขาว เเล้วตามด้วย ทุเรียนหมอนทอง ของ คู่นี้ มันเเสลงกัน เเบบตรงกันข้าม สุดขั่วอย่างรุนเเรง ส่วนของ กาว ที่นํามาดม เสริม ของจริงทําไม่ได้ ค่ะ เพราะ มันเเก้กัน ถ้าจะเลือกดม ก็ดมไป จะสูบก็สูบไป ไม่สามารถปนกันได้อย่างเด็ดขาด มิเช่นนั้น นอนโรงพยาบาลยาวเเน่นอน เจ้าค่ะ ของมัน เเก้กัน

    4
    หนักไปอีกก็เอาผู้หญิงมาลงแขก
    ขอนี้ยิ่งดูรุนเเรงเกินกว่าเหตุ ดูจะเป็นการโยนความผิดให้กับ ผู้เสพกัญชา ในเเบบเกินควร เพราะหลังจากเสพ เเล้ว อย่างที่บอกเเต่ต้นว่า การจะทําอะไรที่ต้องใช้ เเรง ใช้ พลังนั้น เเถบจะเป็นไปได้ลําบากพอควร เเต่ที่เกิดน่าจะเป็นเพราะสุรา เเละ นิสัยส่วนบุคคลเสียมากกว่า ถ้ากัญชาเพียวๆ เเล้ว เป็นไปได้ยากค่ะ

    เคยเห็นหนังสือพิม เล่มไหนไหมค่ะ ที่ ออกมาบอกว่า ฆ่าข่มขืน เพราะ เมากัญชา เคยเห็นไหมค่ะ เมากัญชาปีนเสาไฟฟ้าเเรงสูง เคยเห็น ไหมค่ะ เมากัญชาอาราวาด มีเรื่องชกต่อย หรือ ว่า เมากัญชาเเล้ว เห็นภาพหลอน ฆ่า คนตาย ถ้าเอาเเค่กัญชาเพียงอย่างเดียว รับรอง เลยค่ะ ว่าไม่มีเรื่องเช่นนั้นเเ่น่นอน ส่วนถ้า เพิ่มมาเป็น อย่างอื่นด้วยนี่ก็ไม่เเน่ สาเหตุ ของเพื่อน พี่ มโหสด นี่ไม่ได้เกิดจากกัญชาเเน่นอน เจ้าค่ะ

    น้องขอฟันเฟิมเจ้าค่ะ ว่า สาเหตุ พวกที่กล่าวมาข้างต้นนี้ มิได้เกิดจากกัญชา เเน่นอนนนนน
    อ้าวววว พี่ พี่ ที่เคยเสพ หรือกําลังเสพ ออกมายืนยันกันหน่อย ว่า ที่น้องพูดมาเนี้ยยย มีตรงไหนผิด เช่นไร บ้างไหมเจ้าค๊าาาาาาา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011
  14. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ลองกลับกัน

    ลองกลับกัน ถ้าเป็น สุรา หรือ ยาบ้า ล่ะจะเป็นเช่นไรน๊าาาาา
    เมาเเบบสุดกําลัง ของกัญชา ทําได้เต็มที่ ก็เเค่ หงายหลัง ลงไปหมุนขว้าง ลอยไปมา หรือ จม ดิ่ง ลงสู่เบื้องลึก ที่ ลึกสุดใจ นั่นล่ะ ที่สุดของความเมา กัญชา
     
  15. IllusionSoul

    IllusionSoul Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +45
    จากประสบการณ์ตรงนะครับ ช่วยให้ผมเข้าถึงองค์ความรู้ภายในได้ง่ายแต่ ตอนนี้แบบบริสุทธิ์ดีที่สุดครับ ยังไม่เคยมีข่าวว่าในวงกัญชาใช้บ้องกัญชาทำร้ายกันส่วนใหญ่จะมีข่าวในวงสุราซะเป็นส่วนใหญ่ที่มีข่าวทำร้ายร่างกายกัน แต่ตอนนี้ผมเลิกหมดแล้ว ปอดฉีกเกือบเอาชีวิตไม่รอดสงสัยใช้เกินพอดี แถมอีกนิด ฺ(Bob Marley บอกว่าพืชแห่งพระเจ้า ทำไมต้องเป็นพืชแห่งพระเจ้าตีความหมายกันเอาเองนะครับ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2011
  16. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ว๊ากกกกก...ขำว่ะ คุณนราสภา ถุๆๆๆๆๆถูกต้องนะค้าบบบ
    :อ้อ!ลุงบ๊อบที่เป็นมาเร็งตายใช่ป่ะ5555
     
  17. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    การตายของลุง บ็อบ

    ลุงบ็อบ ได้รับอุบัติเหตุ เล็กน้อย ในระหว่างเล่นบอล เป็นเเผล เล็กๆ ที่นิ้วเท้าด้านขวา
    เเต่ลุงบ็อบ เเกไม่ได้ใส่ใจ ปล่อย ปะละเลย ตะเวน ถอดรองเท้าทัวคอนเสริต ต่อไป จน เเผลเริ่มอักเสบ เเละบวกกับนิ้วเท้าข้างนั้น ก็ มีอาการของ เล็บ มุด กลับเข้าไปในเนื้อ ตรงบริเวณเเผลพอดี หลังจากวันนั้น สี่ เดือนว่าๆ ลุงบ็อบก็ จากโลกนี้ไป ด้วยอาการ ติดเชื้อ ที่บริเวณ เเผล หรืออาจจะเรียกได้ว่า ลุงบ็อบตายเพราะ
    เล็บ ขบ ก็ได้นะ
    บ็อบ มาร์เลย์

    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <table class="infobox" style="width: 20em; font-size: 95%;"> <tbody><tr> <th style="text-align: center; color: black; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(240, 230, 140);" colspan="3"> ?
    บ็อบ มาร์เลย์</th> </tr> <tr style="text-align: center;"> <td colspan="3">[​IMG]
    บ็อบ มาร์เลย์ ในคอนเสิร์ตที่ซูริก ปี พ.ศ. 2523
    </td> </tr> <tr> <th style="color: black; background: none repeat scroll 0% 0% rgb(240, 230, 140);" colspan="3">ข้อมูลพื้นฐาน</th> </tr> <tr> <td>ชื่อจริง</td> <td colspan="2">โรเบิร์ต เนสตา มาร์เลย์
    (Robert Nesta Marley)</td> </tr> <tr> <td>ฉายา</td> <td colspan="2">Tuff Gong</td> </tr> <tr> <td>วันเกิด</td> <td colspan="2">6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488</td> </tr> <tr> <td>แหล่งกำเนิด</td> <td colspan="2">ประเทศจาเมกา</td> </tr> <tr> <td>วันที่เสียชีวิต</td> <td colspan="2">11 พฤษภาคม พ.ศ. 2524</td> </tr> <tr> <td>แนวเพลง</td> <td colspan="2">เร้กเก้</td> </tr> <tr> <td style="white-space: nowrap;">อาชีพ</td> <td colspan="2">นักร้อง,นักดนตรี</td> </tr> <tr> <td style="white-space: nowrap;">เครื่องดนตรี</td> <td colspan="2">กีตาร์,เพอร์คัชชัน</td> </tr> <tr> <td>ปี</td> <td colspan="2">พ.ศ. 2505-2524</td> </tr> <tr> <td style="padding-right: 1em;">ค่าย</td> <td colspan="2">Studio One, Beverley's, Upsetter/Trojan, Island/Tuff Gong</td> </tr> <tr> <td style="padding-right: 1em;">ส่วนเกี่ยวข้อง</td> <td colspan="2">The Wailers Band
    The Wailers</td> </tr> <tr> <td>เว็บไซต์</td> <td colspan="2">bobmarley.com</td> </tr> </tbody></table> โรเบิร์ต บ็อบ เนสตา มาร์เลย์ (อังกฤษ: Robert "Bob" Nesta Marley) นักดนตรีชาวจาเมกา เกิดเมื่อวันพุธ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 เป็นบุตรชายคนเดียวของ นาง ซีเดลล่า กับ ร้อยเอก นอร์วัล มาร์เลย์ ในชุมชนคนผิวดำ เมืองเชนต์แอนน์ ประเทศจาเมกา มีชื่อเต็มว่า เขาใช้ชีวิตในวัยเด็ก และเติบโตท่ามกลางชุมชนทาสในครอบครัวที่แตกแยก ปี พ.ศ. 2500 มารดาของเขาอพยบครอบครัวเข้าสู่เมืองหลวง คือ กรุงคิงสตัน อาศัยอยู่ในสลัม เทรนช์ทาวน์ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของคนยากจน มีวิถีชีวิตตามความเชื่อดั่งเดิมของคนดำ คือเชื่อว่าตนเป็นลูกหลานของกษัตริย์โซโลมอน และ เป็นชนชาวยิวพลัดถิ่น รอวันกลับสู่แผ่นดินของตน ถิ่นนี้เป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมและ ลัทธิรัสตาฟาเรียนิสม์ (rastafarianism) ชีวิตวัยเด็กบ็อบมีนิสัยเห็นแก่ตัว แต่ไม่มีนิสัยลักขโมยแบบเด็กสลัมทั่วไปเขารักเพื่อน และทำทุกอย่างเพื่อเพื่อน อายุ 17 ปีเขาก็เริ่มทุ่มเทให้กับการร้องเพลงฝึกฝนอย่างจริงจัง เริ่มจากการร้องในโรงภาพยนตร์ และไช้เวลาหลังจากเลิกเรียนหัดร้องเพลงกับเพื่อนๆแทนการทำการบ้าน เหมือนพระเจ้าประทานโอกาสมาสู่เขา เมื่อได้มีโอกาสเรียนรู้ด้านดนตรี จาก โจฮิกก์ส ศาสตราจารย์ข้างถนนที่มีความสามารถทางดนตรีอย่างเยี่ยมยอด เขาเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับดนตรีอย่างจริงจัง
    <table id="toc" class="toc"> <tbody><tr> <td> เนื้อหา

    [ซ่อน]

    </td> </tr> </tbody></table> [แก้] การเล่นดนตรี

    จนถึงปี พ.ศ. 2505 ก็เริ่มก่อตั้งวงดนตรีกับ บันนี และ ปีเตอร์ แมคอินทอช เล่นเพลงป๊อปอเมริกาเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพในระหว่างฝึกฝนด้านดนตรี และเริ่มมีแผ่นเสียงของตนเองออกจำหน่ายในปีนั้น ปี พ.ศ. 2506 บ็อบ มาร์เลย์ ก็ก่อตั้งวงดนตรีชื่อ เดอะ เวลลิงรูดบอยส์ กับเพื่อนอีก 6 คน วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1966 แต่งงานครั้งแรกกับ ริต้า แอนเดอร์สัน ปี พ.ศ. 2503 จังหวะเพลงสกาเริ่มช้าลงเปลี่ยนเป็น ร็อกสเตดี จนผสมผสานระหว่างอเมริกากับจาไมก้ากลายมาเป็น ดนตรีที่เรียกว่า เร็กเก้ แต่ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะกระแสเพลงร็อกยังร้อนแรงอยู่ เวลาผ่านไปบทเพลงเร็กเก้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น และมีผลงานเพลงแนวเร็กเก้เจ้าแรกผลิตแผ่นเสียงออกสู่ตลาดใน ปี พ.ศ. 2511 เจ้าของผลงาน คือ ทูตส์ ฮิบเบิร์ต แห่งวง เดอะ เมย์ตัลส์
    มนต์เพลงเร็กเก้ และคนดำ
    จังหวะเร็กเก้เป็นจังหวะที่เน้นความสำคัญของกลองและเบส การให้จังหวะของกลอง และเครื่องเป่าจังหวะการเคาะที่แตกต่างจากจังหวะร็อก คืออยู่ที่จังหวะ 1-3 ในขณะที่ร็อกอยู่ที่ 2-3 ส่วนเนื้อหาของบทเพลงสะท้อนถึงมุมมองชีวิตของชาวลัทธิรัสตาฟาเรียน และวิพากษ์วิจารณ์สังคมตามมุมมองของชาวรัสตา ปี พ.ศ. 2509 ประเทศจาไมก้า ตกอยู่ในภาวะร้อนระอุบทเพลงเนื้อหาเริ่มร้อนแรงขึ้นอันเป็นผลมาจากการปราบ จราจลสงครามระหว่างสีผิวในปี พ.ศ. 2508 ติดตามด้วยกระแสต่อต้านคนดำ และการไล่รื้อสลัมทำหมู่บ้านจัดสรรในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2509 และการประทะของกลุมชนที่เข้าข้างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอันได้แก่พรรค อนุรักษ์นิยมแจแอลพี และพรรค สังคมนิยมพีเอ็นพีฝ่ายค้าน
    ธันวาคม ปี พ.ศ. 2519 บ็อบและเพื่อนร่วมวงถูกลอบยิงระหว่าซ้อมดนตรีเพื่อนแสดงในคอนเสิร์ต smaile jamaicaเพื่อปรองดองความขัดแย้งของฝ่ายต่างไนจาไมก้าตามคำขอของ นาย แมนเลย์ แห่งพรรคสังคมนิยมพีเอ็นพี ที่ บ็อบ ถือหางอยู่
    วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2523 บ็อบ มาร์เลย์ได้รับเชิญไห้ร่วมเล่นดนตรีในพิธีเฉลิมฉลองเอกราชของประเทศ ซิมบับเว ที่เคยป็นอาณานิคมของอังกฤษตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 ซิมบับเว เป็นประเทศเอกราชลำดับที่ 50 ของทวีปอัฟฟริกา
    สิ้นเสียงเจ้านกสันติภาพ
    วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 เวลา 11.45 น. บ็อบ มาร์เลย์ ราชาเร็กเก้ เสียชีวิตที่ โรงพยาบาลชีดาร์ ออฟ เลบานอน ในไมอามี่ ประเทศอเมริกา รวมอายุ 36 ปี ด้วยสาเหตุ คือโรคมะเร็ง ที่เริ่มจากแผลที่นิ้วเท้าจากการเตะฟุตบอลกีฬาที่เขาชื่นชอบ ศพของบ็อบ มาร์เลย์ ถูกนำไปฝังที่หลักเก้า บ้านเกิด ศพนอนภายในโลงสีบรอนซ์สวมเจ็คเก็ตผ้าเดนิม นิ้วมือขวาวางบนคัมภีร์ไบเบิลเปิดกางไว้ที่ บท psalm 23 ส่วนมือซ้าย วางทาบบนกีตาร์ กิ๊บสัน-เลสพอล สีแดงเพลิงกีตาร์คู่ใจของเขา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2011
  18. IllusionSoul

    IllusionSoul Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +45
    Bob Marley: Could he have prevented his cancer death? Published: August 15, 2009


    Published: August 15, 2009
    [​IMG] Reggae legend Robert Nesta “Bob” Marley died from cancer on May 11th 1981 aged 36. The illness stemmed from a toe injury acquired by the former Wailers singer during a football game in May 1977. Marley refused to have his toe amputated, due to his Rastafari belief that the body must remain “whole”, even after doctors found a form of malignant melanoma – a less common and very serious type of skin cancer – in his wound in July of that year. Despite his distrust of medical doctors, he let an orthopaedic surgeon perform a skin graft on his toe. However, the cancer continued to grow and eventually spread to his lungs, liver, stomach and brain. Marley collapsed while jogging in New York’s Central Park after playing two shows as part of his autumn 1980 Uprising Tour. The tour was cancelled, but Marley played one last concert at the Stanley Theatre in Pittsburgh, Pennsylvania on September 23rd 1980. The famous live version of his “Redemption Song” was recorded at this concert.
    [​IMG]Towards the end of his life, Marley sought the help of German physician Josef Issels, who offered an alternative treatment of cancer. “The Issels Treatment” is based on holistic principles and involves eliminating certain substances from the diet, having specialised vaccines and vitamin supplements, and chelation and enzymatic therapies. The method is unapproved in the UK and deemed ineffective by the American Cancer Society. Marley died shortly afterwards, during a stop-over in a Miami hospital, whilst on his way back to Jamaica from Germany. It is said to be the brain tumour that eventually killed him, though it may also have been the lung or stomach cancer. The star refused to write a will, because he believed that doing so would go against the Rastafari belief that life is “everlasting”. Ferocious legal battles between Marley’s children ensued as a result of this.
    To this day, Bob Marley remains the most widely known and reverred performer of reggae music in the world. The singer-songwriter is also hailed for helping the spread of Jamaican music and the Rastafari Movement, of which he remained a committed follower till his death. In 1994 Marley was inducted into the Rock and Roll Hall of Fame and in 2001 he was posthumously awarded the Grammy Lifetime Achievement Award.
    Other celebrities who died of cancer include Ingrid Bergman, Farrah Fawcett, Patrick Swayze and George Harrison


    ที่มา Bob Marley: Could he have prevented his cancer death? - Celebrities - Celebrities with diseases
     
  19. yavoiii

    yavoiii Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +65
    --++ มาสูบกัญชากานเถอะพี่น้อง ++--
     
  20. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ไม่ดีน่ะจ๊ะ

    ไม่ดีน่ะจ๊ะ นํามาใช้ในด้านอื่น มีประโยชกว่าน่ะจ๊ะ
    ม่ายยยย เอา ม้ายยยยพิมน๊าาาาา
     

แชร์หน้านี้

Loading...