ตื่นโลกแตก พระ-ฆราวาส หนีขึ้นภูเขา

การที่ผมจะรอดหรือไม่รอดไม่ใช่หน้าที่ของผม มันเป็นเรืองกรรม

หากว่าผมยังมีประโยชน์กับสังสารวัฏอยู่

มีหรือจะไม่รอด เอาแบบนี้เลยดีกว่า

ผมเองก็ไม่เห็นจะมีนิมิตรอะไรเลยเกี่ยวกับภัยพิบัติ

ยังกินอิ่นนอนหลับได้เหมือนเดิม ไม่เครียดเลยแม้แต่นิดเดียว

มีแต่นิมิตรคนอื่นนั่นแหละที่เล่าผ่านมาให้ผมฟังจนหลอนไปหมด

เรียกว่าที่ผ่านมาไปรับกระแสชาวบ้านจนตื่นเต้นไปด้วยตลอด

จากนี้ไปไม่เอาแล้วครับ ขอดับว่างแล้วก็โปรดสัตว์อย่างเดียวจนนาทีสุดท้าย

ไว้ลายแบบที่เคยบอกเอาไว้ว่า ถ้าจะตายก็ขอตายในท่าเดินครับ

ขอนำไป Share Facebook นะคะ
เพราะการสร้างบารมีด้วยการทำให้คนอื่นสบายใจ
เวลาที่เราทุกข์ใจผลบุญตรงส่วนนี้จะได้คืนสนองเรา
เรียกว่า กฎเเห่งมโนกรรม
การสร้างกรรมที่เกิดจากความคิด
คิดดี ทำดี พูดดี เพื่อให้เราสบายใจในอนาคต
​

 

เม้นท์นี้ก็เจ๋งดีนะ หุหุ

เขียนโดย ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม (ยังไม่ยืนยันความถูกต้อง) เมื่อ 22 มีนาคม, 2011 - 22:08
@}->- สวัสดี admin ตัวเองก็โดนภาวะหนีภัยพิบัติ สภาพตรงข้ามกับ admin คือ ครอบครัวที่รักบังคับให้หนีไปที่จ.เลยตั้งแต่วันพุธ ให้ยื่นใบลาออกทิ้งไว้ ทั้งๆที่ไม่อยากทิ้งเพื่อนและหน้าที่กลางคันแล้วหนีตายไป เราบอกว่าตอนนี้เราไม่กลัวตาย ถ้าหากจะตาย อยู่ที่ไหนก็ตาย ไม่มีใครฝืนธรรมะจัดสรรไปได้หรอก แต่คนที่บังคับเขาขอร้อง และบอกว่าถ้าเราตายคนเดียวก็เห็นแก่ตัวเกินไป ถ้าเรามีชีวิตอยู่เราจะทำประโยชน์ได้อีกมาก การตายในสภาวะภัยพิบัติ จะตกลงสู่ที่ต่ำ วนอยู่ในสังสารวัฏอีก แต่สิ่งที่ admin พูดมาถูกใจเรา ถ้าเลือกได้ เราไม่อยากหนีตายเลย มันกระอักกระอ่วนใจ พุธที่แล้วหลังเลิกงานเราไปถึงสนามบินก็อยากทิ้งตั๋วเปลี่ยนใจไม่ไป ปกติจะเป็นคนประหยัดมากไม่เคยทิ้งตั๋วเลย แต่ครั้งนี้ยอมทิ้งได้ อีกคนที่ไปด้วยกันก็ได้รับมอบหมายว่าจะต้องลากเราไปให้ได้ เราเลยขอว่าถ้าไปแล้วไม่เกิดอะไรก็ขอกลับมาเคลียร์งานที่กท.อีกในวันจันทร์ ครอบครัวเราอยากให้เราลาออกไปอยู่วัดตั้งแต่ช่วงมีค.เมย.นี้ โดยไม่ต้องไปสนใจใครว่าอะไร แต่เราทำไม่ได้ เราติดหนี้บางอย่างที่ไม่ใช่เงินหรือจะเรียกว่ากรรมก็ใช่้ คนที่ขอร้องให้ไปเขาก็ว่าเราตายเพื่อหน้าที่มากี่ชาติแล้ว อย่างไรก็ดีเราขอผัดผ่อนทำงานจนสิ้นปี พอหลวงพ่อพูดเรื่องภัยพิบัติเขาก็เลยบังคับให้เราออกแทบทุกวัน เราอยู่ที่เลยจนวันจันทร์เย็นจึงกลับมา ทีแรกเขาจะไม่ให้เรากลับ วันอังคารไปทำงานปกติ ที่ทำงานโทรตามเราตั้งแต่วันศุกร์ เขาก็พูดกันว่าพอไม่เกิดภัยพิบัติคนที่กลับไปก็ชะล่าใจ ทำให้คนตายมากเหมือนเดิม เพื่อนเราที่อยู่ทางใต้เขาก็พยายามนึกถึงมรณะอยู่ทุกเวลาเพื่อความไม่ประมาท
ก่อนหน้านี้นานมากแล้วเราอยากเป็นโพธิสัตว์ ช่วยคน แต่ตอนนี้เราก็ไม่รู้ เหมือนๆจะไม่อยากเป็นอะไร เหมือนๆอยู่ทิ้ง เพราะไม่ได้ปฏิบัติเหมือนก่อน แต่จริงๆก็ยังทิ้งไม่หมดนะ มีฝันตั้งแต่ปลายกุมภาพันธ์นะว่า ตื่นสาย จะไปทำงาน กะไปเรียกมอเตอร์ไซค์ แล้วเจอรถยนต์พยายามขับผ่านน้ำที่ไหลเชี่ยว หลังจากนั้นก็ไม่ได้ฝันแบบนี้อีก ฟังคนอื่นเล่าฝันต่างๆ ก็ยังเฉยๆ ไม่ได้ตื่นกลัว เล่าให้พี่สาวฟังว่าเราก็คิดคล้ายๆกับ admin นะ
แต่พี่สาวมีความเห็นว่า หลงทำแบบทดสอบกันไปเองหรือเปล่า จริงๆแล้วมันมีแบบทดสอบหรือเปล่า อยู่เพราะห่วงหรืออยู่เพราะโปรด ไม่ว่าจะด้วยเงื่อนไขอะไรมันก็ทิ้งมันไม่ได้ ก็ห่วงทั้งนั้น
ปล.ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามขอให้ทุกดวงจิตดวงวิญญาณตรงต่อสัจจธรรม ลุล่วงพ้นทุกข์และขออโหสิกรรมซึ่งกันแลกกัน

นอกเหนือความตาย: Admin Returns | rombodhidharma.net

 

นับวันพุทธศาสนา ค่อยๆ เสื่อมศรัทธาเพราะพระบางรูปไม่ยึดบัญญัติ
แถมชี้นำให้ผิดเพี้ยนตามที่ตนเองคิดแตกต่าง แก่นแท้ๆ ดีๆ มีอยู่ไม่นำมาเผยแพร่
กลับคิดว่าตนเองคิดถูกต้อง กว่าของเดิมที่ดีอยู่แล้ว
เมื่อก่อนเคยบวช ก็เคยคิดว่าทำไมต้องบิณฑบาต แต่เช้า
เพราะผู้คนต้องตื่นมาใส่บาตร อีกทั้งต้องฉันแต่เช้า และพอเพล
ต้องฉันอีกแล้ว ทีนี้ต้องทิ้งช่วงเวลาถึงเย็น กว่าจะเช้าก็หิว
พอคิดเข้าข้างตัวเอง ก็เลยคิดไปว่าไม่สมเหตุ สมผลเลย
เพราะน่าจะให้ฉันได้ถึงเย็น หรือไม่ก็น่าจะเวลาเที่ยงก็น่าจะเป็นบ่ายก็ยังดี
คิดไปนั่น.....
ทุกอย่างที่บัญญัติไว้ย่อมดี และมีเหตุผลที่ดีอยู่แล้ว
อย่างเช่นจะมาใส่เสื้อผ้าเหมือนฆราวาส และไว้ผม ไว้เครา
อ้างเหตุว่า อย่าได้ยึดติด เช่นนั้นทำอะไรที่เสื่อมทราม ก็อ้างได้ว่าอย่ายึดติด
เพราะทุกอย่างไร้ตัวตน

เคยมีพระบางรูป ที่ข่าวได้เคยออกไปแล้ว
สั่งสอนให้อย่าไหว้หรือกราบพระพุทธรูป
บอกว่าเป็นเพียงแค่สิ่งที่ทำขึ้น อย่าได้ไปหลงงมงาย

ถ้าเช่นนั้นรูปเคารพต่างๆ ก็ไม่ควรจะไปเคารพด้วย
ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายของบรรพบุรุษ หรือจะอะไรก็แล้วแต่

มันทำให้จิตใจเราขาดซึ่งความเคารพ สุดท้ายก็จะไม่ระลึกถึง
ในคุณงามความดีอะไรที่เค้าได้เคยทำไว้เลย

 

เขียนโดย ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม (ยังไม่ยืนยันความถูกต้อง) เมื่อ 22 มีนาคม, 2011 - 12:54
ตั้งแต่ได้คำว่า ไม่ต้องไม่ตั้ง ก็ปล่อยวาง ไม่เคยคิดกลัวเรื่องภัยพิบัติเลย อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด กลัวไปก็เท่านั้น อยู่กับปัจจุบันดีที่สุด

นอกเหนือความตาย: Admin Returns | rombodhidharma.net

 

ติดตามภัยภิบัติ ทำให้นึกถึงความตายดีนักแล...

 

หนี้กันไปต่างจังหวัดสุดท้ายสิ่งที่คาดว่าจะเกิดเหตุเพสภัยกลับกทม โอละพ่อ กทมปลดภัยสุด ตูละหาแตก

 

พระธรรมไม่เรียนรู้ให้เข้าใจ
พระวินัยมีไม่ปฏิบัติตาม
จะกล่าวอ้างว่าตนเป็นสงฆ์ได้อย่างไร
คนเหล่านี้ในสมัยก่อนเขาเรียก"ตาเถร" บวชในพุทธศาสนา แต่ด้วยกิเลสมากอยากตัณหา ไม่สามารถดำรงวัตรเป็นพระสุปฏิปันโนเป็นสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ ถูกไล่ออกไปจากหมู่สงฆ์ไปอยู่หากินหลอกชาวบ้านไปวันๆ ไว้ผมยาวหนวดยาวนุ่งห่มคล้ายจีวร ทำในสิ่งที่ขัดกับพระวินัยทั้งสิ้น

 

เราเคยไ้ด้รับซีดี คำเทศของหลวงพ่อ เรื่องวันสิ้นโลกเหมือนกัน ท่านให้ปล่อยวางในทุกสิ่ง ดำรงชีิวิตอยู่ไปอย่างปกติ ตอนช่วงแรกของซีดีก็ฟังดีอยู่ แต่ช่วงหลัง ท่านว่าจะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ทุกคนต้องรับมือให้ดีใครมีเงินก็เอาไปซื้อทองเก็บไว้ แต่ถ้าใครมีเพชร นิลจินดา ให้ถวาย และมีเสียงลูกศิษย์ท่านถามว่า "ถวายใครเจ้าคะหลวงพ่อ" ท่านตอบว่าถวายหลวงพ่อนี้แนะ หลวงพ่อจะนำไปสร้างพระขนาดใหญ่ โดยใช้เพชรทำเป็นนัยต์ตาขาวขององค์พระ จะใช้เพชรเม็ดใหญ่ ๆ ใครมีก็ให้นำมาถวาย
ได้ฟังเช่นนี้ ทำให้เรารู้สึกเลยว่ามันคืออะไร
ท่านสอนให้ปล่อยวาง แต่ท่านจะนำเพชรไปสร้างพระองค์ใหญ่ ๆ นั้นท่านปล่อยวางแล้วหรือยัง

(หากความคิดนี้เป็นการล่วงเกินหลวงพ่อ เราคงบาปน่าดู แต่คำว่าคนต้องมีคิดบางละ คงต้องยอมรับผลกรรมแห่งการล่วงเกิน เพราะเราคิดไปแล้ว)

 

ผมไปมาแล้ว

ก้ออย่างที่ หนังสือพิมพ์ ว่าเลย คับ วัดเป็นประเภทที่ว่า ถ้าคนรวยเข้าหาก็จะทำการต้อนรับอย่างดี แต่ถ้า คนจนๆ เดินเข้าไป ทางวัด ก็จะทำเป็นเหมือนพวกขอทาน ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ เหมือนกับ แบ่งชนชั้น ทางสังคม ตัวอย่างในกรณีนี้ ญาติของผม ยังโดน มา เลย ด้วย การ บริจาค ทรัพย์ เพื่อ สร้าง กุฎิ จำนวน มาก เห็นได้ ชัดๆ ว่า มีการใช้ เงิน ในทางที่สื่อไปทางผิดศีลธรรมสงค์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็ เหมือน กัน พระที่ วัดนี้ ฉัน กัน วันละ กี่มื้อ นับไม่ถ้วน อีกทั้ง ยัง มีพระที่สามารถขับรถได้ โดย ไม่ผิด ศีล น่าคิดเหมือนกัน ว่า ยังจะใช่สงฆ์ อยู่หรือเป่า

 

การหลงไปจากคำสอนนั้น สำหรับเราเป็นเรื่องที่น่ากลัวซะยิ่งกว่าความตาย

 

ใครจะผิด ใครจะถูก สุดท้ายผมว่า ก็ต้องชดใช้สิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น
ส่วนตัวไม่ต่อว่าใคร และ ไม่ติดีกว่า เพื่อปกป้องตนเอง

เหมือนในบทความที่ว่า จะเขี่ยเสี่ยนออกจากตาของเพื่อน แล้วท่อนไม้ในตาของท่านล่ะเอาออกหรือยัง....

 

กรรมจริง ๆ บริโภคข่าวแบบนี้ แทนที่จะมีสติกับกลายเป็นงมงาย แปลงร่างเป็น กุ้งหัวโต ประชากรกุ้งติดแหชาวประมงหัวใส
เกิดมาใช้กรรม ใยเจ้าจะหนี้กรรมนั้นพ้น แม้แต่พระอรหันต์ยังต้องใช้กรรม แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร ถึงหลบหลีกกรรมนั้นได้
ต้องไปฟังเพลง สรุปว่าตัวฉันบ้าๆๆๆๆๆๆๆ

 

เรียนคุณ K.Kwan

ผมได้ข้อมูลจากคุณอ๋อ ว่าพระอาจารย์รัตน์ท่านบอกไว้น่าฟังดีครับ ท่านบอกว่าคนกรุงเทพส่วนใหญ่เขาก็มีบุญกุศลเก่าของเขาอยู่ และด้วยเหตุนี้คนกรุงเทพจะเจอกับเหตการณ์ที่ไม่สามารถทำมาหากินได้ต้องอพยพขึ้นไปอยู่ที่อื่นก่อนจากนั้นกรุงเทพถึงจะจมลงครับ

ถ้าให้ผมเดานะครับ ผมคิดว่าแผ่นดินกรุงเทพจะมีการจมลง 2 ขั้นตอนครับ

ขั้นตอนแรกกรุงเทพจะจมตัวลงก่อนประมาณ 2 - 3 เมตร ช่วงนี้น้ำทะเลจะไหลเข้าท่วมกรุงเทพ กลายเป็นเมืองเวนิสแห่งอินโดจีนครับ ระบบการเงินการธนาคารการธุรกิจการศึกษาทั้งหมดหยุดชะงักเป็นเวลาหลายเดือน ช่วงนี้แหละครับที่คนกรุงเทพได้มีโอกาสอพยพไปยังที่อื่นๆที่พวกเขาคิดว่าปลอดภัย มีการอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญๆไปประดิษฐานในที่ๆปลอดภัยโดยเฉพาะพระแก้วมรกต หากท่านไปประดิษฐานณ.ที่ใดพวกเราก็น่าจะตามไปอยูณ.ที่นั้นครับผมเชื่อเต็มร้อยว่าที่นั่นปลอดภัย

ขั้นตอนที่สองกรุงเทพจมลงทั้งหมดอาจจะมากกว่า 10 เมตรตึกถล่มหมดบ้านเรือนเกือบทั้งหมดจมน้ำ

 

ใกล้จะเกิดแล้วหรือยังครับ

 

มกมุ่นกลัวภัยธรรมชาติ เคยคิดภัยที่ใกล้ตัวเราไหม...ภัยมนุษย์ผมว่าน่ากลัวสุด...มนุษย์นั้นอยากแท้หยั่งถึงจิตใจ..ทำนายดังกับเป็นเทวดาเสียเอง...เอ๋..หรือว่ามีเทวดามาโพสข้อความ..บรือๆ..

 

โอ้กรุงเทพเมืองฟ้า อมรถ้ามีสัญญาณสเตปแรกก็โกยแนบแร้วว! คงไม่อยู่ล่องเรือเวนิสส์กทม. หรอกนะตอนนี้อยู่กรุงเมคมันนี่สำหรับเตรียมตัว เตรียมเสบียง ก่อนและขอบอกอีกอย่าง…..เป็นเครดิตจากร่างทรงแถวบ้านผมบอกมานานแล้วตั้งแต่กลางปี 53 ก่อนหน้านี้เคยเตือนเรื่องน้ำท่วมหนักซึ่งก็เกิดไปแล้ว เตือนเรื่องส่วนตัวก็โดนมาแล้วหลายดอก และเค้าเค้ายังบอกอีกว่าพญานาคเค้ารอพระแก้วเสด็จกลับอยู่นะเมื่อถึงเวลาจะมีเหตุให้ต้องย้ายไปยังที่ปลอดภัยเองแหล่ะโอ้ช่างสอดคล้อง..สอดคล้อง ใครจะว่าจับแพะชนแกะ แตกตื่น กะเซิญเด้อล่ะfficeffice" /><O></O>

* แถมอีกนิ้ดส์ นึ่งใครที่อยู่ริมครอง และบริเวณที่เคยเป็นแหล่งน้ำ รวมถึงคลอง ริมตลิ่งให้ระวังตัวให้ดี นะเพราะนาคเค้ากำลังทวงสิทธิ์ของเค้าคืนนะ

 

โอ้ว...จะนั้งตรงนี้ (กทม)จะดูวันนั้น ตายก็ยอม.คงสนุกดีพิลึก....นั้งไปเรื่อยๆดูซิว่าจริงไหม....เอาแค่ 2012...2555..นี้ให้มันเกิดก่อนเด้อ

 

ถึงเวลาก็คงจะรู้เอง ล่ะค่ะ
ถ้าเป็นคนช่างสังเกตหน่อย ก็คงจะรอดได้ เพราะรู้หลบรู้หลีก
รู้ข้อมูลไว้เยอะๆ ใครบอกอะไรก็ฟังๆไว้ ถึงเวลามันเกิดจริงก็จะรู้เอง
มันจะนึกออกเอง ถ้าไม่มีอะไร ก็ถือเป็นการฝึกสติฟังข่าวร้ายไปเรื่อยๆ
ไม่สะเทือน ก็รู้ว่าไม่สะเทือน สติแตกก็รู้ว่าสติแตก ไม่สติแตกก็รู้ว่าไม่สติแตก
อะไรที่เราฟังคนอื่นมา ก็อย่าเพิ่งไปหลงว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงอย่างนี้จริง
ขนาดเราเห็นด้วยตาตัวเองเราก็ยังไม่เชื่อตัวเองเลย ต้องรอมันเกิดจริงกับ
ตัวเองจริง ถึงค่อยเชื่อ และอะไรๆที่เรารู้ข้อมูลล่วงหน้า และเราตัดสินใจเลือก
แล้ว เลือกว่าจะทำแบบนี้ เวลามันเกิดอะไรขึ้นมาจะได้ยอมรับชะตากรรม
ว่าเราเลือกแบบนี้ ก็ต้องแก้ไขปัญหาไปตามที่เกิดจากที่เราเลือกเอง เรียกว่า
ยอมรับชะตากรรม เพราะเรารู้และวิเคราะห์ถี่ถ้วนแล้ว ด้วยเหตุผลที่ดีที่สุด
สำหรับตัวเราและคนที่เรารักแล้ว ถึงเวลานั้นมันจะเกิดหรือไม่เกิดอะไร
ก็ไม่ต้องไปโทษใคร ไม่ต้องไปโทษตัวเอง แต่ให้เลือกยิ้มรับทุกสถานการณ์
ที่เกิดขึ้น เพราะเราเลือกเองก็ทำให้ดีที่สุด

ก็มีแผน1 แผน2 แผน3...ไว้ ถ้ามาแบบนี้ เราไปแบบนู้น บริหารสมองไปด้วย
มีแต่ได้กับได้ เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ดีกว่าประมาท เป็นไหนๆ
จิ้งจกทักยังมีคนฟัง นี่บอกให้ฟังจะจะ เขาบอกว่าจากเบาไปหาหนัก ก็พินาไป
ตามสติปัญญา ดีกว่าเกิดจากหนักไปหาเบาจะแก้ไขไม่ทันการณ์ เนาะ

รู้ตัวก่อน ก็ไหวตัวก่อน ก็ล้อฟรีก่อนไง รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป
จะไปไหน จะเอาอะไรไป จะทิ้งอะไร ไม่ต้องคิดนาน วิ่งนำหน้าไปก่อนใคร
คนที่ไม่รู้ไม่เตรียมใจไว้เลย ถึงเวลาก็ห่วงนั่นห่วงนี่ห่วงนู่น สุดท้ายก็หมุนอยู่ตรงนั้น

เวลาคนสติแตกเป็นหมู่มาก ก็เหยียบกันตาย ตัวอย่างก็มีให้เห็นถ้ารู้จักสังเกตบ้าง

 

ครับผมก็คอยดูทีอยู่ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหนพลาง ๆ กับวางแผนเอาไว้ด้วย

 

ยังมีอีกครับเกียวกับเรื่องวัดนี้ เกียวกับเรื่องคู่บารมีเรื่องร่างทรงองค์เจ้าอยู่กันเป็นคู่ๆแถมชียังกินเหล้าดูดบุรี่พระชีเดินไปหากันยามวิกาลแถมพระขี่รถไปซื้อเหล้าที่ จ.เลยนูนแล้วรถคว่ำอีกต่างหาก จ.หวัดเลยเค้ารู้กันหมดแล้ว แถมมีประกาศเป็นคู่บรมีกันอีกตากหากแถมเจ้าอาวาสวัดนี้ยังออกไปกับผู้หญิงสองต่อสองบางบางที่ก็ให้โยมสีกาขับรถให้ด้วยแถว อ.หนองหินเค้ารู้ดี แถมพระที่อยู่ที่นั้นยังจีบเมียชาวบ้านเค้าไปหมดทำให้ครอบครัวแตกแยกแล้วเจ้าอาวาสวัดนี้ยังแอบไปกุติโยมสีกายามวิกาลอีกตั่งหาก วัดนี้เหมือนนักแลงยังใงก็ไม่รู้บางที่ด่ากันเองตีกันเองกินข้าวเย็นตลอดแถมมีการฝากให้โยมซื้อเบียร์ให้อีกตากหาก ข้างนอกดูเป็นที่ศรัทธาของผู้คนแต่คนรอบข้างเจ้าอาวาสหรือคนที่อยู่ในนั้นมานานเค้ารู้ดีครับว่าเป็นยังใงแถมผมได้ข่าวมาว่ามีโยมถวายเงินเป็น20-30ล้านให้เอาไปสร้างศาลาจนปันจุบันยังไม่สร้างเลยครับ แถมมีคนบอกว่าเงินที่โยมให้20-30ล้านเอาไปให้สีกาหมดซื้อรถให้สีกาตั่งหลายคันแล้วก็ซื้อบ้านให้สีกาด้วย เรื่องทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ได้กล่าวล้อยๆเพราะว่าแฟนของน้องผมพอไปวัดนี้ก็เลิกกับน้องผมเลยแถม(มีลูกกับน้องผมด้วยนะครับ)แต่ดันไปชอบพระในวัดซะงั้นแถมมีการบอกว่าพระกับแฟนน้องผมเป็นคู่กรรมกันมาก่อนพอมาเจอกันก็ต้องใช้กรรมซะงั้นแล้วบอกว่าเป็นการโปรด ผมเลยสงสัยวัดหาไรวะสอนกันยังงี้สอนให้เลิกกับผัวเมียชาวบ้านแล้วให้มาอยู่วัด (ที่ผมเขียนมาไม่ได้บังคับให้ทุกคนเชื้อแต่ผมมีมูลเหตุมายังนี้ผมห็เขียนไปตามนั้น) ขอบคุณที่ให้ระบายครับ!