"พระเจ้าจักรพรรดิราช"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 23 มกราคม 2011.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางความเจริญของโลก

    [​IMG]

    พระฯ ท่านพยากรณ์ว่า
    (จากนักปฎิบัติธรรมสายมโนมยิทธิท่านหนึ่งโปรดใช้วิจารณญาณ)

    หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีฯ พาไปศึกษาธรรมในส่วนคำพยากรณ์ฯ กับพระฯ มีดังนี้คือ:-

    ในอนาคตอันใกล้นี้ คนไทยจะปกครองโลกธาตุและจักรวาล เพราะเวลานี้พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ได้มาถือกำเนิดบนแผ่นดินไทยมานานแล้ว ถ้าหากว่าผู้ใดบำเพ็ญบารมีมาถูกต้องตามแบบแผน และกฎกติกาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายบัญญัติไว้จริง โอกาสที่จะไปทำบุญและเข้าถึงธรรมจากท่านก็มีอยู่มาก ถึงแม้ผู้ที่มาปฏิบัติจะเข้าถึงธรรมอันบริสุทธิ์ได้มากก็จริงอยู่ แต่ถ้าจะไปรู้เรื่องส่วนตัวที่ละเอียดของพระโพธิสัตว์ แต่ละท่านย่อมเป็นไปไม่ได้ เช่น จะไม่รู้ว่าท่านเป็นใครมาเกิด บำเพ็ญบารมีมาแล้วเท่าไร ได้รับคำพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าองค์ใดมา ในพุทธกาลนี้มีชื่อสมมติว่าอะไร และในพุทธกาลหน้ามีชื่อสมมติว่าอะไร

    เหตุปัจจัยที่จะทำให้คนไทยเป็นใหญ่ในโลกธาตุคือ

    ๑) ทรัพยากรบุคคล อันได้แก่ พระโพธิสัตว์ใหญ่หลายท่าน ซึ่งมาเกิดเป็นคนไทย ท่านเหล่านี้มีทั้งบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ แม้แต่พรหมเทวดาที่อยู่ในทุกๆ ภพภูมิ ก็ยังให้ความเคารพท่านอยู่ตลอดเวลา

    ๒) ทรัพยากรธรรมชาติ อันมีอยู่มากมายในผืนแผ่นดินไทย เช่น น้ำมัน ทองคำ ยูเรเนียม รัตนชาติ รวมทั้งแร่ธาตุต่างๆ อีกจำนวนมาก

    ***********************************************************
    คำทำนายของ อ.ปริญญา ตันสกุล

    ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลาง(ความเจริญ)ของโลก และเป็นประเทศแรก ที่มีผู้สร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้ เป็นแห่งเดียวของโลก โดยใช้พลังจิตในการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เชื้อเพลิงในการเผาไหม้ ให้เกิดพลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของโลก ให้เสียหายอย่างเช่นในปัจจุบัน

    นอกจากนี้ต่อมไพนีล หรือตาที่ 3 ของมนุษย์ จะถูกฟื้นฟูขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น จนสามารถเข้าถึงสภาวะนิพพานได้ง่ายขึ้นกว่าในอดีต

    ในระยะเวลาไม่นานนัก พระศรีอริยเมตไตรยจะเปิดเผยพระองค์ เพื่อปลอบประโลมสร้างขวัญกำลังใจ ให้กับมวลมนุษยชาติ ที่มีความบอบช้ำทางจิตใจ ซึ่งในขณะนี้พระองค์ท่านได้เสด็จลงมาบนโลกมนุษย์แล้ว กำลังเป็นสามเณรในพุทธศาสนาและพระองค์ได้มา ปรากฎที่ประเทศไทยนี่เอง !!

    ที่มา http://www.xraythai.com/webboard/ind...pic=919&page=4

    บทความ...จากคุณคนไกล

    เรื่องของภัยพิบัติ จะค่อยๆหนักขึ้นเรื่อยๆแหละ เทวดาเขากำลังคัดมนุษย์เข้าสู่ยุคพระยาธรรมิกราช ผู้ที่สร้างสมบารมีมาไม่พอและไม่มีศีลธรรมก็ค่อยๆทะยอยตายไป ด้วยอำนาจแห่งเทพเจ้าผู้ทำหน้าที่ ทางด้าน ดิน น้ำ ลม ไฟ โรคภัย อุบัติเหตุ/ภัยสงคราม..............​

    ครูบาอาจารย์ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า อันพระทรงเครื่อง อย่างพระแก้วมรกต เป็นต้น เป็นสัญญลักษณ์ของพระเจ้าจักรพรรดิ์(พระยาธรรมหรือพระยาธรรมิกราช) ซึ่งต่อไปไม่เกินปี พ.ศ. 2562. ก็จะได้เห็นว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นเป็นอย่างไร (ที่จริงท่านเล่าให้ฟังรายละเอียดมีมาก แต่จะไม่ขอกล่าวในที่นี้) ท่านว่ารอให้ประเทศไทยเกิดเหตุใหญ่เสียก่อน (และจะมีความวิบัติเกิดขึ้นทั่วโลก) เทวดาผู้ทำหน้าที่ เขาจะล้างพวกไม่มีศีลธรรมออกไปก่อน (คนไม่มีบุญจะต้องตายหมด) หลังจากนั้นพระยาธรรมจึงจะมาทำนุบำรุงพระศาสนาและพระอรหันต์ที่อยู่ในที่เร้นลับก็จะปรากฎตัวออกมาเต็มเมือง พุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองพอๆกับสมัยที่พระพุทธเจ้ายังอยู่นั่นแหละ แล้วถึงตอนนั้นจะได้เห็นเองว่าพระอรหันต์จริงๆนั้นเขาเป็นกันอย่างไร และจะได้คุยกับเทวดา เขาจะมาเป็นตัวสดๆแบบคนนี่แหละ

    "อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล" จากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟัง และจากที่ตัวเองปฏิบัติจิตไปพบเห็น ก็ไปพบว่าผู้ที่ขี่จักรได้นั้นมีอยู่จริงในโลกทิพย์ ซึ่งพระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นท่านขี่จักรแก้วไปได้ทั่วจักรวาล - คนไกล

    จากคุณ : คนไกล [06 เม.ย. 48 [15:26 ]

    ที่มา เว็บลานธรรม
    http://larndham.net/index.php?showtopic=11923&st=39

    หมายเหตุ

    ตามความคิดของผม คิดว่าเรื่องประเทศไทยจะสร้างยานอวกาศไปท่องจักรวาลได้นั้น ที่จริงแล้วก็คือ"จักรแก้ว"ของพระเจ้าจักรพรรดิราช(พระศรีอาริย์) นั่นเอง เพราะขับเคลื่อนด้วยพลังจิต ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงใดๆ อันจะทำลายสิ่งแวดล้อมเหมือนอย่างในปัจจุบันนี้ครับ<!-- google_ad_section_end -->​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2011
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    ที่สุดแห่งเทคโนโลยี ยุคชาววิไล
    โดยคุณม้งคละ


    [​IMG]

    เมื่อนั้น พระราชา(พระศรีอาริย์) ก็เริ่มคิดค้นถึงเทคโนโลยีขั้นสูงสุด ที่เป็นที่รวมของทุกสิ่งทุกอย่าง คือ เป็นเครื่องมือที่สามารถจะดึงอณูธาตุที่มีในอากาศมาขึ้นรูปเป็นวัตถุสิ่งของต่างๆได้ตามปรารถนา โดยไม่ต้องได้ตัดไม้เพื่อมาทำกระดาษ ไม่ต้องขุดดินระเบิดหินเพื่อมาทำซีเมนต์หรือก้อนอิฐ ไม่ต้องผลิตคอมพิวเตอร์เป็นจอๆ แบบมีแป้นควบคุมนี้มาใช้

    ด้วยว่า ข้าวของเครื่องใช้เหล่านี้ มีความสิ้นอายุไป แล้วก็กลับกลายเป็นของเสียในภายหลัง มีความล้าหลัง มีคุณสมบัติหลายอย่างไม่ตรงตามปรารถนา ประกอบกับในเวลานั้น ปัญหาขยะในโลกก็ยังคงมีอยู่ แม้ว่าเทคโนโลยีที่พยายามพิจารณาดีแล้วนั้นจะก่อมลพิษน้อยก็ตาม แต่มันก็ยังมีอยู่ สืบต่อไปในระยะกาลประมาณหนึ่ง ก็มีอันต้องสะสมกันล้นพื้นที่ได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ พระราชาจึงพิจารณาเพื่อสร้างวัตถุอันเป็นที่สุดแห่งเทคโนโลยีขึ้นมา คือจักรรัตนะ หรือจะเรียกว่า เครื่องควบคุมพลังงานหรือธาตุในจักรวาลให้เป็นไปตามใจปรารถนา ก็ได้

    ก็จักรรัตนนี้นั้น เมื่อปรากฏสำเร็จขึ้นมาแล้ว จะมีคุณสมบัติในการควบคุมธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ในขอบเขตเท่าที่ใจนึกได้ โดย เครื่องมือชนิดนี้จะตอบสนองโดยตรงต่อความนึกของมนุษย์ ในการป้อนข้อมูลเข้าจักรรัตนะ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยแป้นพิมพ์ ไม่ต้องอาศัยหน่วยความจำภายนอก และขอบเขตในการควบคุมธาตุ กว้างใหญ่ไปเท่าที่ใจของผู้เป็นเจ้าของจะนึกถึงได้ ...

    จักรรัตนะนี้ รับข้อมูลเข้าไปในรูปของอารมณ์จิต จึงมีอานุภาพเป็นทิพย์ มีความสามารถในการเร่งพลังงานข้ามมิติแห่งกาลเวลาเข้าไปยังภพภูมิต่างๆในต่างมิติได้ สามารถจะไปนรกสวรรค์ได้ ไปพรหมโลกได้ คือ ไปได้ทุกที่ที่มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เท่าที่ใจของเจ้าของจะนึกถึง ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ก็จะใช้งานแค่ในขอบเขตจักรวาลหนึ่งเท่านั้น ไม่ค่อยนำไปใช้งานข้ามแกแล็กซี่นัก แต่ในความจริง จักรรัตนะ สามารถเดินทางข้ามแกแล็กซี่ได้

    เมื่อต้องการจะเข้าไปศึกษาเรื่องราวของวัตถุธาตุในจักรวาล เช่น โครงสร้างดาวโลกชมพู โครงสร้างดวงอาทิตย์ หรือเนบิวลา หรือวัตถุอื่นใดในวงกว้างนั้น จักรรัตนะจะเร่งพลังงานเข้าไปไว้ในระดับทิพย์ที่ไม่แตะต้องกับธาตุ 4 แบบมนุษย์ แล้วแทรกซึมเข้าไปในเนื้อวัตถุธาตุเหล่านั้นได้ มีการนำเสนอโครงสร้างของดวงดาวเหล่านั้นได้คล้ายอย่างที่คอมพิวเตอร์นำเสนอข้อมูลในรูปกราฟฟิก จะต่างกันก็แค่ว่า จอมอนิเตอร์สำหรับจักรรัตนะแล้ว เป็นจอที่ไม่มีขอบเขตแน่นอน

    ไม่ใช่เพียงเท่านั้น จักรรัตนะนั้นเอง ยังมีกำลังอำนาจในการขยายอณูแห่งธาตุเข้าไปยังระดับโครงสร้างที่เล็กลงๆ ไปเรื่อยๆ ได้ตามปรารถนา

    เรียกจักรรัตนะว่า เป็นเครื่องมือสารพัดจะนึก สารพัดจะใช้ก็ได้

    เพราะเหตุที่จักรรัตนะมีความพิเศษอย่างนี้ จึงมีอานุภาพครอบงำแม้กระทั่งอานุภาพของเหล่าเทวดา จึงมีอำนาจในการจัดอารักขาป้องกันภัยอันตรายให้พระราชาได้ตามที่พระราชาปรารถนา

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้รู้แจ่มแจ้งโลก เมื่อกล่าวถึงโลกในมุมอันเป็นทีสุดแห่งความเจริญในด้านความรู้เทคโนโลยี พระองค์จึงกล่าวถึง จักรรัตนะนี้ ว่า เป็นสิ่งพิเศษสูงสุด และตรัสเรียกพระเจ้าจักรพรรดิ ผู้สามารถก่อเหตุปัจจัยให้เหมาะสมในการปรากฏจักรรัตนะนั้นว่า เป็นอัจริยะมนุษย์ เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นอัจริยะมนุษย์ คือสามารถคิดค้นสิ่งที่มนุษย์ทั่วไปไม่อาจจะคาดคิดถึง แม้กระทั่งจะจินตนาการว่ามันมี มนุษย์ทั้งหลายก็ไม่กล้าจะจินตนาการ

    แต่บุคคลพิเศษผู้นั้น กลับมีกำลังปัญญาข้ามกรอบมนุษย์ทั่วไปนั้นไป จึงกล่าว่า พระเจ้าจักรพรรดิเป็นบุคคลพิเศษ และเพราะความที่พระเจ้าจักรพรรดิทำประโยชน์เกื้อกูลโลก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ จึงดำรงอยู่ในฐานะที่ควรเคารพสักการะ ควรแก่การระลึกถึง ผู้ที่ระลึกถึงพระเจ้าจักรพรรดิ มีผลให้เข้าสู่สุคติภูมิได้ หลังจากตายเพราะกายแตก

    พระเจ้าจักรพรรดินั้นเอง คือพระธรรมราชา เป็นราชาโดยธรรม เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในโลก ในคุณสมบัติต่างๆ

    แม้จะอย่างนั้นก็ตาม พระเจ้าจักรพรรดิผู้พิศษเยี่ยงนั้น ก็เปรียบไม่ได้แม้เสี้ยวหนึ่งในแสนโกฏิเสี้ยวแห่งองค์คุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย

    ที่มา [​IMG]
    ผมมานั่งคิดนะครับ จริงๆแล้วท่านพระจักรพรรดิ์จะมาเมื่อไหร่ ก็อาจจะไม่เกี่ยวอะไรกับเราสักเท่าไหร่ ตอนนี้ในหลวงยังอยู่ ถ้ามีใครสักคนจะมาแทนที่ท่าน มันคงยากนะครับ ยากส์มาก อย่าไปรอเลย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    พระเจ้าจักรพรรดิ์(พระศรีอาริย์) ท่านไม่ได้มาแทนใครนะครับ เพราะท่านเป็นกษัตริย์ของคนทั้งโลก กษัตริย์ของประเทศต่างๆ ในโลกนี้รวมทั้งของประเทศไทยด้วย ก็ยังอยู่เป็นปกติเช่นเดิม พระเจ้าจักรพรรดิ์พระองค์นี้(พระศรีอารย์) จะมาในลักษณะที่พิเศษกว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์องค์อื่นๆ เพราะไม่ได้เกิดในตระกูลกษัตริย์ จึงต้องรอให้พระอินทร์ท่านมาทำพิธิมุรธาภิเษกให้ครับ

    โดยพระอินทร์(ท้าวสักกะเทวราช) ท่านจะมาเนรมิตปราสาทราชวังที่ทำด้วย แก้ว 7 ประการ 1 หลัง ทอง 1 หลัง และ เงิน 1 หลัง รวม 3 หลัง ให้กับพระเจ้าจักรพรรดิ์ และจะมาเนรมิตบ้านเรือน ให้คนที่หนีรอดจากภัยพิบัติได้อยู่อาศัยจำนวน 36 ล้านหลัง โดยจะอาศัยพื้นที่บางส่วนของประเทศไทย ประเทศพม่า และประเทศลาว มาตั้งเป็นอาณาจักรแห่งสัมมาทิฏฐิแห่งใหม่ของโลก เป็นศูนย์กลางการปกครองโลกในยุคชาววิไลครับ

    ข้อมูลทั้งหมดนี้ ผมเขียนขึ้นมาจากการที่ได้ศึกษารวบรวมความรู้ทั้งหมด ที่ผมได้ศึกษามาจากทั้งตำนานพื้นบ้าน พุทธพยากรณ์ และจากคัมภีร์ทางศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม และศาสนาฮินดูครับ จึงพอจะประมวลได้ถึงเหตุการณ์ในอนาคตอันใกล้นี้ ว่าพระเจ้าจักรพรรดิ์จะเสด็จมาปกครองโลกนี้ในลักษณะเช่นใด (จะเชื่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละท่านครับ)

    เรื่องพระอินทร์ท่านมาเนรมิตปราสาท ขึ้นบนโลกมนุษย์ ให้กับผู้มีบุญนี้ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันนะครับ ในพระไตรปิฎกก็มีบันทึกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง ที่เคยเกิดมาแล้วในสมัยพุทธกาล ในเรื่องของท่านโชติกะเศรษฐีดังนี้ครับ

    <CENTER><BIG>อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท พราหมณวรรคที่ ๒๖</BIG> <CENTER class=D></CENTER></CENTER>
    หน้าต่างที่ ๓๓ / ๓๙.

    ท้าวสักกะเสด็จมานิรมิตสมบัติให้โชติกเศรษฐี

    ท้าวสักกะทรงใคร่ครวญดูว่า "นี้เหตุอะไรหนอแล?" ทรงทราบว่า "ชน<WBR>ทั้งหลาย<WBR>กำลัง<WBR>จับ<WBR>จอง<WBR>ที่<WBR>ปลูก<WBR>เรือน<WBR>เพื่อโชติกะ" ทรงดำริว่า "โชติกะนี้ จักไม่อยู่ในเรือนที่ชนเหล่านั่นทำแล้ว, การที่เราไปในที่นั้น ควร" แล้วเสด็จไปที่นั้นด้วยเพศแห่งนายช่างไม้ ตรัสว่า "พวกท่านทำอะไรกัน?"

    เหล่าชน. พวกฉันจับจองที่ปลูกเรือน สำหรับโชติกะ.

    ท้าวสักกะตรัสว่า "พวกท่านจงหลีกไป, โชติกะนี้จักไม่อยู่ในเรือนที่พวกท่านปลูก" แล้วทอดพระเนตรดูภูมิประเทศประมาณ ๑๖ กรีส. ภูมิประเทศนั้นได้เป็นที่สม่ำเสมอในทันใดนั้นนั่นเอง ดุจวงกสิณ. ท้าวเธอทรงดำริอีกว่า "ขอปราสาท ๗ ชั้นสำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงชำแรกแผ่นดินผุดขึ้น ณ ที่นี้" แล้วทอดพระเนตรดู. ปราสาท (เห็นปานนั้น) ผุดขึ้นแล้วในขณะนั้นนั่นเอง.

    ท้าวสักกะทรงดำริอีกว่า "ขอกำแพง ๗ ชั้น ที่สำเร็จด้วยแก้ว ๗ ประการ จงผุดขึ้นแวดล้อมปราสาทนี้" แล้วทอดพระเนตรดู. กำแพงเห็นปานนั้นผุดขึ้นแล้ว.

    ครั้งนั้น ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขอต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลาย จงผุดขึ้นในที่สุดรอบกำแพงเหล่านั้น" แล้วทอดพระเนตรดู. ต้นกัลปพฤกษ์ทั้งหลายเห็นปานนั้น ผุดขึ้นแล้ว. ท้าวเธอทรงดำริว่า "ขุมทรัพย์ ๔ ขุม จงผุดขึ้นที่มุมทั้ง ๔ แห่งปราสาท" แล้วทอดพระเนตรดู. ทุกสิ่งได้มีอย่างนั้นเหมือนกัน.

    ก็บรรดาขุมทรัพย์ทั้งหลาย ขุมทรัพย์ขุมหนึ่งได้มี<WBR>ประมาณ<WBR>โยชน์<WBR>หนึ่ง, ขุม<WBR>หนึ่ง<WBR>ได้<WBR>มี<WBR>ประมาณ ๓ คาวุต, ขุมหนึ่งได้มีประมาณกึ่งโยชน์, ขุมหนึ่งได้มีประมาณคาวุตหนึ่ง,<SUP>๑-</SUP> ที่ซุ้มประตูทั้ง ๗ ยักษ์ ๗ ตน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ในซุ้มประตูที่ ๑ ยักษ์ชื่อยมโมลีพร้อมด้วยยักษ์พันหนึ่งที่เป็นบริวารของตน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๒ ยักษ์ชื่ออุปปละพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๒ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๓ ยักษ์ชื่อวชิระพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๓ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว,

    ที่ซุ้มประตูที่ ๔ ยักษ์ชื่อวชิรพาหุพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๔ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๕ ยักษ์ชื่อสกฏะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๕ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๖ ยักษ์ชื่อสกฏัตถะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๖ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว, ที่ซุ้มประตูที่ ๗ ยักษ์ชื่อทิสามุขะพร้อมด้วยยักษ์ที่เป็นบริวารของตน ๗ พัน ยึดการรักษาไว้แล้ว. ทั้งภายในและภายนอกแห่งปราสาท ได้มีการรักษาอย่างมั่นคงแล้ว ด้วยอาการอย่างนี้.

    ___________________________________________________
    <SUP>๑-</SUP> เบื้องหน้าแต่นี้ คำพูดอย่างนี้ ปรากฏโดยมาก :-
    ก็ประมาณนั่น ได้เป็นประมาณแห่งปากขุมทรัพย์ที่เกิดขึ้นแก่พระโพธิสัตว์. เบื้องล่างได้มีที่สุดแผ่นดิน, ประมาณขอบปากแห่งขุมทรัพย์ที่เกิดขึ้นแก่โชติกเศรษฐี ท่านมิได้กล่าวไว้. ขุมทรัพย์ทุกขุมเต็มเปี่ยมเทียวผุดขึ้น เหมือนผลตาลที่เขาฝานหัวฉะนั้น, ลำอ้อย ๔ ลำเป็นวิการแห่งทองคำ ประมาณเท่าต้นตาลรุ่นๆ เกิดขึ้นที่มุมปราสาททั้ง ๔. ลำอ้อยเหล่านั้นมีใบเป็นวิการแห่งแก้วมณี มีข้อเป็นวิการแห่งทองคำ. นับว่าสมบัตินั้นเกิดขึ้นแล้ว เพื่อแสดงบุรพกรรม (ของเขา).

    ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/attha/...b=25&i=36&p=33<!-- google_ad_section_end -->
     
  3. pump - อภิเตโช

    pump - อภิเตโช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,202
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +6,803
    หลวงพ่อเกษมกล่าวถึงหลวงปู่ดู่ "กราบท่านเหมือนกับกราบอีกองค์หนึ่งล่วงหน้า 1 ชาติ"<!-- google_ad_section_end -->
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110120/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><INS style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><INS id=google_ads_frame1_anchor style="PADDING-RIGHT: 0px; DISPLAY: block; PADDING-LEFT: 0px; VISIBILITY: visible; PADDING-BOTTOM: 0px; MARGIN: 0px; WIDTH: 336px; BORDER-TOP-STYLE: none; PADDING-TOP: 0px; BORDER-RIGHT-STYLE: none; BORDER-LEFT-STYLE: none; POSITION: relative; HEIGHT: 280px; BORDER-BOTTOM-STYLE: none"><IFRAME id=google_ads_frame1 style="LEFT: 0px; POSITION: absolute; TOP: 0px" name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=280&slotname=0551074580&w=336&lmt=1295934966&flash=10.0.32.18&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff13%2F%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B9%25E0%25B9%2588-%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A1%25E0%25B8%25B7%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%259A%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25B5%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%2584%25E0%25B9%258C%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B6%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%2599%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25B2-1-%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B4-275383.html&dt=1295934966899&shv=r20101117&jsv=r20110120&saldr=1&correlator=1295934966961&frm=0&adk=915509266&ga_vid=2089808817.1266223859&ga_sid=1295934967&ga_hid=726320204&ga_fc=1&ga_wpids=UA-7034934-1&u_tz=420&u_his=2&u_java=1&u_h=600&u_w=800&u_ah=570&u_aw=800&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=779&bih=413&eid=30143102&ref=http%3A%2F%2Fwww.google.co.th%2Fsearch%3Fhl%3Dth%26source%3Dhp%26q%3D%25E0%25B8%25AB%25E0%25B8%25A5%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A9%25E0%25B8%25A1%2B%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25A5%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7%25E0%25B8%2596%25E0%25B8%25B6%25E0%25B8&dtd=156&xpc=Gp9VdNqDys&p=http%3A//palungjit.org" frameBorder=0 width=336 scrolling=no height=280 allowTransparency></IFRAME></INS></INS>
    [​IMG]

    มาบอกเล่าเรื่องราวของกระผมที่โดยได้สัมผัสของพระโพธิสัตว์เมืองกรุงเก่า
    และพระอริสงฆ์แห่งเมืองลำปางที่ท่านทั้งสองได้แสดงความคารวะในธรรมของแต่ละท่าน

    ครั้งหนึ่งที่ผมได้เดินทางไปเที่ยวเมืองลำปางเพื่อไปกราบพระธาตุลำปางหลวง
    ในครั้งนั้น ผมมีโอกาสได้เข้ากราบนมัสการหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์

    [​IMG]


    พอท่านหลวงปู่ครูบาเจ้าเกษมเห็นหน้าท่านก็พูดว่า 'มาจากไหน'
    ตอบท่านว่ามาจากสิงห์บุรีครับหลวงปู่

    ท่านก็พูดว่า

    'มาจากสิงห์บุรีไปกราบขอพรหลวงพ่อดู่ แห่งเมืองกรุงเก่าหรือยังล่ะ'

    ผมก็เลยตอบท่านไปว่า
    ยังไม่เคยไปครับหลวงปู่

    ท่านเลยพูดว่า
    'ไปกราบท่านนะ ท่านเกิดชาตินี้ชาติสุดท้ายแล้วนะ ท่านเป็นพระโพธิสัตว์นะลูก ไปกราบท่านนะลูก
    ลูกกราบท่านเหมือนลูกกราบอีก ๑ องค์ด้วยนะลูก กราบล่วงหน้า ๑ ชาติด้วยนะลูก'

    คนดูแลหลวงปู่ จึงถามว่า หมายความว่ายังไงขอรับหลวงปู่


    ท่านก็ตอบว่า
    'ท่านก็คือพระศรีอริยเมตไตรยในชาติสุดท้ายก่อนที่จะมาตรัสรู้ไงล่ะลูก'

    ผมถึงกลับขนลุกซู่เลยครับเมื่อได้ยินหลวงปู่เกษมพูดแบบนี้

    ก่อนจะลากลับ หลวงปู่ท่านเมตตามอบผ้าสังฆาฏิ
    เพื่อฝากให้ผมนำไปคารวะ (มอบให้) หลวงปู่ดู่
    แล้วท่านหลวงปู่เกษม ได้เมตตามอบพระเครื่องและพระบูชา ๙ นิ้ว มาให้ผมบูชาอีกเยอะเลย
    (โดยไม่ได้เช่าบูชาเลย แต่ก็ถวายปัจจัยให้หลวงปู่นะครับ)
    แล้วหลวงปู่เกษมท่านก็ให้ศีลให้พรแล้วก็ลากลับสิงห์บุรี

    จากบันทึกของคุณ songpol
    ชุมชนคนรักหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     
  4. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    ขออนุโมทนาท่านเกษม เจ้าของกระทู้ และเพื่อนๆทุกท่าน

    เมื่อได้อ่านความเห็นแล้ว ขอเชิญเพื่อนๆเร่งการทำความดี
    ช่วยกันส่งเสริมเพื่อนสรรพสัตว์รอบตัวให้ทำความดีกันมากๆ

    จะได้เข้าสู่โลกของพระจักรพรรดิกันมากๆครับ
    อย่ามัวรีรอ รั้งรอกันอยู่เลย รีบสะสมความดีกันมากๆ
    รีบลด ละ เลิก ความไม่ดีทั้งปวง...นับแต่กาลบัดนี้เถิด
     
  5. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    เท็จจริงยังไง? เวลาคือเครื่องพิสูจน์
    ท่านผู้นั้นอาจอยากจะร้องเพลงนี้บอกก็ได้นะครับ คือเพลงน้ำลายของซิลลี่ฟูล จาก อัลบั้มคิงส์ไซส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 มกราคม 2011
  6. ตุ๊โต้ง

    ตุ๊โต้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +223
    โปรดอภัยให้ผมด้วยเอาลิงค์คลิปเพลงนี้มาลงไม่เป็นอ่ะ ครับ T_T
     
  7. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    พระจักรพรรดิ์ ท่านลงมาโลกมนุษย์และกลับขึ้นไปแล้วครับ ปัจจุบันนี้ท่านทำงานผ่านลูกหลานของท่าน โดยเฉพาะผู้ที่สร้างบารมีมากับท่านในยุครามเกียรติ์และยุคอื่นๆ ปัจจุบันนี้เขาลงมากันทั้งหมด เด็กหนุ่มๆสิบกว่าคนมีสื่อญาณเปิดพร้อมๆกัน มีทั้งญาณของหนุมาน ญานพระพิฆเนศร์(ยุคสังข์ศิลป์ชัยคือสีโห) ญาณท้าวพุชงค์(จ้าวสมุทร) ญาณของพระพรต ญาณของพิเภก และ ฯลฯ

    สำหรับพระศรีฯเองท่านก็มีสื่อญาณลงมาคอยชี้แนะเหล่าเทพที่ลงมาสร้างบารมี เช่นกัน

    ปู่ฤษีสำคัญๆที่อยู่เร้นลับท่านก็มีสื่อญาณมาทำหน้าที่ประสาทธ์วิชาให้สานุศิษย์ของท่าน อยู่เช่นกัน

    ปี 2555 เป็นต้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ท่านจึงจะเปิดให้คนมีบุญใช้บุญญฤทธิ์หรือใช้วิชาที่เป็นบุญญฤทธิ์บนโลกได้ ซึ่งคนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวหลายๆคนปัจจุบันนี้เขาก็เร่งบำเพ็ญภาวนาเพื่อให้จิตมีกำลังสามารถรองรับญาณบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นได้

    อีกไม่นานพ่อพระอินทร์ท่านก็ลงมาสร้างบารมีบนโลกมนุษย์ ท่านให้ผู้ที่เกี่ยวข้องสร้างสัญญลักษณ์เพื่อเป็นสื่อญาณของท่าน ในวันที่พระอินทร์ท่านลงมาสร้างบารมีบนโลกมนุษย์สีของดวงอาทิตย์ในตอนเช้าของวันนั้นจะเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นสัญญาณที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีหน้าที่อยู่เครือข่ายของพระจักรพรรดิ์

    มีปู่ฤษีตนนึง ท่านเป็นใหญ่อยู่ในจักรวาลนี้ ท่านสร้างบารมีคู่กันมากับพระศรีฯ ท่านบอกว่าผู้ที่ไม่มีศีลธรรมจะต้องตายหมด ให้เหลือไว้เฉพาะผู้มีบุญบารมีเท่านั้น(ผมแอบฟังท่านในช่วงที่ท่านบอกกล่าวกับเทวดา)

    ที่จริงพระจักรพรรดิ์ ท่านก็มีองค์กรของท่าน ท่านวางเครือข่ายไว้มากมายบนโลกมนุษย์ แต่ผู้ที่ไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถเข้าถึงตรงนี้ได้(ไม่มีสิทธิ์รู้เห็นในเรื่องเหล่านี้)และแม้จะมีวิชาใดๆก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะบารมีของพระจักรพรรดิ์ท่านปิดไว้ เพื่อป้องกันมารทั้งหลาย นั่นเองครับ

    สรุปความก็คือ เมื่อถึงเวลานั้นพระจักรพรรดิ์ท่านจะเคลื่อนจากโลกทิพย์ลงมาบนโลกมนุษย์ มนุษย์ผู้มีบุญ จะสามารถมองเห็นท่านได้ด้วยตาเนื้อ ซึ่งก็คือยุคของพระจักรพรรดิ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2011
  8. เด็กอุทัย

    เด็กอุทัย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +29
    คุณเกษมได้ยินมาเองกับหูหรือเปล่าครับว่าหลวงพ่อฤาษีท่านพูดว่าพระศรีอาริยเมตไตรยท่านลงมาเกิดแล้ว
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,194
    เปล่าครับ แต่เพื่อนสมาชิกของเว็บพลังจิต ที่เป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงพ่อฤาษีฯ บอกเล่ามาให้ผมทราบอีกทีหนึ่งครับ เป็นการที่หลวงพ่อฤาษีฯ พูดให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดท่านนี้ฟังเท่านั้น จึงไม่มีการบันทึกเสียง และไม่มีการเขียนเอาไว้ในหนังสือเล่มใดๆของวัดท่าซุงครับ แต่ผมเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเพื่อนสมาชิกท่านนี้เป็นคนดีมีศีลธรรม ที่ผมให้ความเคารพนับถือมากท่านหนึ่งครับ
     
  10. SALEEN

    SALEEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +130
    ขออนุโมทนาอย่างสูงด้วยความศรัทธายิ่งครับ
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** เรื่องใหญ่ ****

    คนไม่สนใจสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  12. ugudei

    ugudei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +254
    ไม่รู้สิแต่เคยฝัน มีคนบอกว่าจักรแก้วอยู่ใกล้ๆชายแดนเวียดนาม ไม่รู้จริงรึเปล่า ใครว่างๆก็ไปเดินหาให้หน่อย มุกฮาก่อนนอน
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,705
    ค่าพลัง:
    +51,934
    *** การปฏิบัติของมนุษย์ ข้อ ๑ ****

    ทำตนเป็นคนมีสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    นักการเมืองไม่เคยถือสัจจะ ก็เห็นแต่เจริญรุ่งเรือง ใครแตะต้องไม่ได้

    แค่คิดหักมุมครับ แต่ผมเชื่อเรื่องสัจจะ แม้รักษาไม่ได้ 100% แต่น่าจะเกิน 80%
     
  15. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,865
    ยุคพระเจ้าจักพรรดิคงใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว นะครับ

    เพราะภัยพิบัติก็อยู่ตรงหน้า ปี 2562 ก็อีกไม่นาน
    เผลอๆท่านอาจจะเข้ามาดูกระทู้นี้ในเวปพลังจิตอยู่ นะครับ.....อิอิอิอิ :cool:
     
  16. Kunanop

    Kunanop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2011
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +218
    สุดยอดครับ......

    ทุกอย่างจะดี เมื่อเราทำดี
    ทุกอย่างจะแย่ เมื่อเราทำชั่ว

    แม้ท่านจะลงมาโปรด
    แต่ถ้าคนที่โชคดีได้พบ แล้วคิดไม่ได้ ก็ไร้ความหมาย

    แต่แม้ท่านไม่ได้ลงมาโปรด
    แต่คนที่รู้และเข้าใจ คิดดี พูดดี ทำดี ย่อมเป็นผู้ที่เข้าถึงพระธรรมได้
    ดั่งเช่น องค์ตถาคต ได้ตรัสไว้ว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต

    :cool: :cool:
     
  17. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949

    ถ้าท่านดูกระทู้ข้าพเจ้าขอถวายตัวเป็นสาวกครับ:cool:
     
  18. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    พระศรีฯ ไม่มา ต ต ต แต่....

    ว ว ว ว วิษณุเทพาบุก มากระทู้นี้แล้ว

    ขอซื้อ มะม่วง 1 โล เด้อ
     
  19. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710
    -พระศรีอาริยเมตไตรย
    -พระเจ้าจักรพรรดิราช
    -ช้างเผือกหนุ่ม--คำพยากรณ์หลวงปู่มั่น
    -ดอกบัวกำลังบานทางทิศตะวันตก--คำกล่าวหลวงปู่ชา สุำภัทโท
    (เป็นความหมายกว้างๆ ไม่ได้เฉพาะเจาะจง แม้ว่าลูกศิษย์พระชาวต่างชาติจะมาก แต่ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ประโยคนี้อาจจะมีนัยแฝง ซึ่งอาจหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งในประเทศไทยที่มีความพิเศษ ที่เกิดมาและเติบโตพร้อมกับการแสวงหารสพระธรรมและบุคคลนี้อาจจะมีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดทางทิศตะวันตกของจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งอาจจะไม่ใช่ประเทศที่อยู่แถบตะวันตกก็เป็นได้)

    ทั้ง 4 ประเภทนี้จะเป็นคนๆเดียวกันหรือเปล่า และจะเป็นคนเดียวกันกับที่พวกเราตามหากันไหม

    *สาธุ ขอให้ผมมีบุญรอดตายจากภัยพิบัติต่างๆ และขอให้พบท่านผู้มีบารมีนี้ด้วยเถิด สาธุ สาธุ...
     
  20. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    นะโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา
    พุทโธ ธรรมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธรรมะบูชา สังฆะบูชา
    อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง
    อะหังวันทามีทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส
    พุทธะ ธรรมะ สังฆะ ปูเชมิ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...