โดนขังวิญญาณ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ainteerati, 14 สิงหาคม 2010.

  1. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ตอนแรกก็กะจะบอกว่าใครผ่านมาอยากได้ก็มาเอาจะแบ่งให้ฟรีๆครับ
    แต่ก็ลบข้อความนั้นไปเพราะต้องถามพระก่อนว่าพระธาตุยังงี้เราแบ่งได้ใหม
    จะถือว่าเราทำลายส่วนหนึ่งส่วนใดท่านเหมือนหักเอาเศียรพระพุทธรูปรึเปล่า
    รึว่าต้องมีพิธีขอขมายังไงก่อนจะแบ่งออก รึหักออกมา
    ถ้าหลวงพ่อท่านบอกหักเลยจะหักออกมาใว้แบ่งคนอื่น แต่ถ้าบอกให้พระธาตุหักเอง
    หรือว่ารอให้พระธาตุแบ่งตัวออกเอง คงต้องรอไปก่อนนะครับ
     
  2. angeltk229

    angeltk229 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,584
    ค่าพลัง:
    +6,912
    หักไม่ได้ค่ะท่านจิ-โป ต้องรอให้ท่านแบ่งองค์เพิ่มเป็น 2 3 4 องค์เองค่ะ เดี๋ยวปราญฯจะลองอธิษฐานจิตขอท่านว่าปราญฯปรารถนาจะได้ท่านมาบูชาเพื่อเป้นพุทธานุสสติ แล้วเดี๋ยวรอดูว่าท่านจะแบ่งองค์ไหม แต่ว่าถ้าแบ่งเป็นองค์ที่ 2 แล้วล่ะก็ ปราญฯลงชื่อไว้เป็นคิวแรกเลยนะคะ อิอิ
     
  3. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    ศิลามณี.... นี่...ไม่รู้เรื่องเลยนิ ก็เห็นอยู่ว่ามีสีทอง และ สีหน้าแปลกๆอยู่เหมือนกัน..ไม่ได้เฉลียวใจเลยคะ...คิกๆๆ มองไม่เห็นปู่ฤษี เห็นแต่สีทอง...บนหัว
    ..........

    คุณจิ-โป โชคดี ...........
     
  4. ศิลามณี

    ศิลามณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +1,321
    สวัสดีคะ คุณจิ-โป...เห็นหลังไวๆ เลยทักซะเลย...............................
     
  5. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    สวัสดีครับ ผมอยู่ชายแดนครับ เข้ามาแล้วจอค้างบอกให้กด F5 หรือเข้ามาใหม่
    รอไม่ไหวเลยออกครับ เน็ตผมอาตี๋น้อยบอก 6 เม็ด(หยิบในโถให้มือล้างรึเปล่าไม่รู้)
    สงสัย 6 เม็ดบ๊วยเค็มคงไม่พอ คงต้องเอาทั้งโหลครับ.
     
  6. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1268751/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ผมมีเรื่องจะถามคุณ ji-po อีกแล้วครับ คิดว่ามาที่นี่ได้เจอตัวแน่ เกี่ยวกับเรื่องอาการข้างเคียงของคนที่ชอบเพ่งอากาศ หรือเพ่งแสงสว่างเป็นอารมณ์

    คือผมมักจะเห็นจุดไข่ปลา(ขาวใสๆ สีเทาอ่อนๆ เป็นกระจุกบ้าง 2-3 ลูกบ้าง เห็นเป็นเส้นก็มี เพราะเดี๋ยวนี้ผมมองจากไฟฉายมือถือ)บ่อยๆเวลาอยู่ข้างนอก มองอะไรเพลินๆก็โผล่ออกมา ทั้งวันที่แดดแรง และแดดร่ม บางทีอยู่ในห้องปิดผ้าม่าน ถ้าสว่างพอมันก็เห็นเหมือนกัน แต่ไม่ได้เห็นทุกครั้ง ไม่แน่นอน
    ก็ว่าจะให้หมอตรวจเหมือนกัน แต่ผมอยากหาข้อมูลให้ดีก่อนน่ะครับ จะได้ไม่เสียเวลา
     
  8. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196

    อาการข้างเคียงนี้เป็นทุกคนที่ฝึกกสิณครับ ไม่ใช่เฉพาะแสงสว่างเท่านั้น
    แต่ว่าในกรณีแสงสว่างนั้นมันพิเศษกว่าเลยเห็นปรากฏชัดเจนกว่า

    ในแก้วตาคนเรานั้น พระพุทธเจ้าท่านแบ่งแยกในส่วนแก้วตาออกมาใว้หลาย
    ชื่อเป็นหน่วยย่อย ผมจำชื่อไม่ค่อยได้แต่เคยอ่านผ่านๆตอนที่สอบนักธรรมโท
    ท่านแบ่งออกเป็น วงกลม สี่เหลี่ยม สี่เหลี่ยมคางหมูฯลฯ เป็นชื่อบาลีหมด
    ตาของคนธรรมดาที่ไม่ผ่านการฝึกนั้น จะไม่มีเซ็ลล์สีขาว ถ้าเราดูด้วยทิพย์
    มันจะเป็นยอดแหลมๆใสๆ เป็นเหลี่ยมๆรอบตัว เส้นๆประสาทแก้วตานี้จะมา
    จากการฝึกแสงสว่างเป็นอารมณ์ คนธรรมดาไม่มี

    ทีนี้เวลาเราฝึก เซลล์แก้วตานี้จะก่อตัวขึ้นทำให้เราเห็นจุดๆ ดวงๆ ลอยมา
    ลอยไป บางทีก็เป็นเทวดา บางทีก็เป็นผี วิญญาณต่างๆอันนี้ขอแบ่งออกว่า
    เป็นสองอย่าง
    1.เห็นเองโดยเราไม่กำหนดให้มีขึ้นมา อันนี้ให้สักแต่ว่าเห็น เรากำหนดให้
    วงแสงนั้นมาตรงหน้าเรายังไงก็ไม่ได้ ขยายก็ไม่ได้ ย่อก็ไม่ได้ ปล่อยมันไป.
    2.เห็นโดยเรากำหนดให้มีขึ้นมา อันนี้ท่านสอนให้เราย่อ ขยาย และกำหนด
    ให้มันลอยอยู่ตรงหน้าบ้าง ซ้ายขวาบ้าง เป็นการฝึกเส้นประสาทสีขาวที่เพิ่มมา
    นี่เอง เพื่อให้เหลี่ยมมุมของมันคมครบหลายๆแฉก เพื่อเกิดการเห็นที่พิเศษ
    ต่อไปนั่นเอง

    ในบางคนที่มีบารมีมากๆอาจจะถึงกับตาพร่าเวลาออกจากสมาธิเลยก็มี อันนี้
    เพราะเส้นปราสาทมีขาวใสนี้ยังไม่เป็นเหลี่ยม ยังไม่ถูกพัฒนาให้ดี แต่ต่อไป
    เมื่อฝึกดีแล้วจะไม่พร่า แต่ยังคงเห็นดวงๆลอยไปลอยมาบ้างเป็นปกติ


    ดวงที่เห็นนั้น ในตอนที่จิตเราทรงตัวเราสามารถกำหนดรูปโดยดูขอบของวง
    นั้นๆ ทั้งสีสรร วรรณะ และความหงิกงอของขอบวงกลม จะทำให้วงปรากฏ
    เป็นรูปของวิญญาณนั้นๆให้เราเห็นได้ในมโนจิตของเราครับ
     
  9. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ขอบคุณท่านอาจารย์ครับ แสดงว่าผมไม่ต้องไปหาหมอตาแล้ว แต่อาจได้ไปหาหมอผีแทน ฮา
     
  10. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    ครับ ถ้าไม่สบายใจก็ไปหาหมอก็ได้ แต่คนที่มีประสบการณ์แบบนี้หลายคน
    ไม่ต้องทำอะไรเดี๋ยวก็ชินไปเอง

    ..ประกาศ..
    "to2504 อยู่ไหน มาเล่าให้เขาฟังหน่อยว่าเวลาทีโอเห็นดวงๆน่ะ ทีโอทำยังไง แล้วเห็นน่ะเห็นยังไงครับ"
     
  11. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230

    สวัสดีค่ะ<O:p</O:p
    ทีโอ กำหนดแสงเป็นอารมณ์ + พรหมวิหาร 4 ค่ะปกติแล้วจิตจะแผ่ออกได้ ถ้าไม่ติดกิเลส ถ้ามีกิเลสจะแผ่แสงออกมาไม่ได้ ก็จะต้องพิจารณาแล้วปลงออกไป จึงจะเห็นแสง<O:p</O:p
    ช่วงที่เห็นดวง ๆ นั้น บางทีไม่ได้กำหนด ก็เห็นลอยมาเฉย ๆ ก็จะรู้ว่าเค้าแค่มาดูนะมีบางอย่างมาดู ก็เคยพยายามที่จะเลื่อนมาเพื่อขยายดูแต่ไม่เป็นผล(ตอนแรกนึกว่าเราอยู่ในสภาวะของเรา ถ้ากำหนดจึงจะเป็นสภาวะของเรา) แต่นั่นเค้าเห็นเรา เค้าเลยมาดู ส่วนเราก็เฉย ๆไว้พอค่ะ
    แต่ถ้าจะอยู่ในสภาวะของเรา จะต้องกำหนดแสงก่อนแล้วมองให้แสงอยู่ในมโนจิต ในสภาวะนั้นจะกำหนดดูอะไรก็ได้ จะเห็นดวง ๆ แว๊บมาบ้างก็มีบางทีเห็นอยู่ต่อหน้าก็จะรู้ว่าเป็นอะไร สีอะไร ขอบเป็นอย่างไร ลักษณะเป็นอย่างไรชัดเจนแต่ส่วนมากอารมณ์ต้องนิ่ง ๆ สบาย ๆ จึงจะมองเห็น

    <O:p</O:pส่วนแสงที่คุณจิ-โป บอกนั้น ตาพร่าจริง ๆ แม้แสงแค่นิดเดียวยังทำให้เราตาพร่าได้เลยค่ะ หลังจากออกจากสมาธิ พร่าไปหลายวันเลยค่ะ ต้องคอยสังเกตดูจุดสีขาวว่าอยู่ซ้าย หรือขวา หรืออยู่ตรงกลาง อย่าให้แสงสีขาวนี้หายไปเท่านั้นเอง แล้วก็ฝึกไปเรื่อย ๆ ค่ะ<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แต่ถ้าอยู่ในอารมณ์อุเบกขา จะมองไม่เห็นแสงในมโนจิตแล้ว จะเป็นเพียงอารมณ์ก็จะแผ่ออกไปด้วยอารมณ์นั้น ๆ ตอนแรกก็ไม่สบายใจเหมือนกัน เพราะสภาวะนี้จะแห้งแล้ง โล่ง ๆ ว่าง ๆ ไม่มีอะไรเลย ลองกำหนดดูตัวเองก็ไม่เห็น กำหนดแสงก็ไม่เห็น คราวนี้ก็ทุกข์สิคะ เพราะมันแห้งแล้ง ก็เพราะเราเอาอารมณ์นี้ไปเปรียบเทียบกับอารมณ์ที่เราเคยได้ก่อนหน้านี้ มันเลยรู้สึกแห้งแล้ง และทุกข์กับมัน เพราะคิดว่าไม่ใช่ แต่ลองมองต่างมุม แล้วจะรู้ว่า มันเป็นแบบนี้แค่นั้นเอง ก็จะไม่ทุกข์ไปกับมัน ที่ทุกข์เพราะยึด เมื่อไม่ยึดก็ไม่ทุกข์ เมื่อเคยชินแล้วก็จะมองเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว มันเหมือนปลาได้น้ำใหม่ทำนองนั้นน่ะค่ะ <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010
  12. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    อีกอย่างนึง ความละเอียดของจิตที่ฝึกมาทำให้มองเห็นอะไรได้ละเอียดกว่า ในเรื่องของแสงนะคะ อย่างเช่น ในอากาศนี่ เมื่อมองดูดี ๆ จะมองเห็นเป็นกลุ่มควัน และเป็นจุดเล็ก ๆ เต็มไปหมด เหมือนไข่ปลาเป็นล้าน ๆ ดวง เยอะมากค่ะ นับไม่ถ้วน พอมองเห็นก็ขยายมาดูก็จะเห็นเป็นกลุ่มดำ ๆ ลักษณะม้วนกันเหมือนดอกไม้ ม้วนเข้า แปลกดีค่ะ

    ส่วนเรื่องไปหาหมอก็ลองไปเช็คดูก็ได้นะคะ แต่ทีโอ เคยไปเช็คมาแล้วทุกอย่าง ตอนนั้นเป็นมาก ตาพร่ามาก ๆ หมอบอกปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรเลยค่ะ
     
  13. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ขอบคุณครับคุณ ทีโอ(ชื่อเหมือนมนุษย์ ต่างดาวเลย) คุณคงจะถึงขั้นกำหนดแสงขณะลืมตาได้แล้วสิครับ
     
  14. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1270489/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230

    เราเพียงแค่กำหนดแสงไว้ในมโนจิตแค่นั้นเองค่ะ (ฤทธิ์ทางใจ) ก็จะรู้สึกว่าแสงอยู่กับเราตลอดเวลา เป็นการฝึกสติค่ะ และมีพรหมวิหาร 4 เป็นเครื่องอยู่ของจิตค่ะ
     
  16. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1270492/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1270501/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1270541/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2010
  19. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1270529/[/MUSIC]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. ainteerati

    ainteerati เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,233
    ค่าพลัง:
    +2,275
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • CIMG3362.jpg
      CIMG3362.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      52
    • CIMG3363.jpg
      CIMG3363.jpg
      ขนาดไฟล์:
      213.3 KB
      เปิดดู:
      380
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...