ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

เพื่อนสมาชิก ที่ประสงค์จะได้ รุ่นนี้
แต่กะไหล่เงินลอกออกสัก ๖๐-๗๐ %
ยินดี มอบให้ฟรี ขอค่าจัดส่งEMS ๕๐ บาท (ห้าสิบบาท)

ไปโพส ชื่อ ที่จัดส่ง ไว้ที่กระทู้ ข่างล่าง ถ้ามีหลายท่าน ขออนุญาต
จับสลากแทน เนื่องจาก ตอนนี้เหลือ ๑ เหรียญ ขอรับ

หมดเขต ใช้สิทธิ์ วันจันทร์ ที่ ๒๙ เดือน พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ๒๓:๐๐ น.

http://palungjit.org/threads/แจกฟรี-ลป-ทวด-และพระเกจิ-ครั้งที่-๒-แนะนำประวัติ-หลวงปู่สุภา-๑๑๕-ปี.268856/

 

วัด ก ม 7 อ เบตง จ ยะลา

 

ถ้าเป็นเหรียญเงินจะเลื่ยมสวย ถ้าเป็นทองแดงชุบนิเกิล ไม่แน่ใจน่าจะออกมา
สะท้อนแสงมาก^^

 

ขอบคุณครับ
^^:d

 

น่าจะยังมีอยู่.ลองหาดูครับ ถ้าได้เหรียญเงินยิ่งดี ..ราคายังไม่สูง.

 

เกจิอาจารย์ที่ผมว่าท่านเสกหลวงปู่ทวดได้เป็นอย่างดีอีกองค์ก็อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชยครับ ผมก็ตามเก็บของท่านยุคประมาณปี 44 -45 ไว้บ้างบางอย่าง เนื่องจากได้ข่าวว่าท่านมีลิ้นดำด้่วย ซึ่งทางไสยศาสตร์ว่าคนลิ้นดำจะมีความขลังในตัวเอง เท็จจริงเป็นอย่างไรไม่รู้เพราะผมไม่ใช่คนพื้นที่ครับ

 

ท่านอาจารย์ทอง วัดเสาเภาเชย ท่านศิษย์หลวงพ่อพัฒน์ เกจิอาจารย์ชื่อดังของสุราษฯในยุคนั้นครับ เก็บพระเครื่องของท่านไว้ดีครับ ตอนนี้ท่านไม่ไหวแล้ว รุ่นที่ออกมารุ่นใหม่ ๆ ท่านต้องนอนเสกเลยครับ ร่างกายท่านทรุดโทรมลงมาแล้วครับ ส่วนตัวผมคิดว่าท่านฝืนสังขารเพื่อเป็นกำลังใจสำหรับประชาชนในระแวกนั้นครับ เพราะแถววัดท่านนั้นเขตพื้นที่สีแดงงงงงง

 

หลวงพ่อทวด วัดเมือง ยะลา
หลวงพ่อทวด วัดเมืองนี้ได้พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เป็นเจ้าพิธี ดังนี้พระชุดนี้จึงเป็นที่ปราถนาของผู้ศรัทธาหลวงพ่อทวดเป็นอันมาก สำหรับพิธีวัดเมืองยะลา นั้นมีการจัดสร้างหลายพิมพ์ แบ่งเป็นสามพิมพ์ คือ ใหญ่ กลาง และเล็ก ส่วนเหตุผลที่จะนำมาสนับสนุนว่าทำไมพระพิธีนี้น่าบูชามีดังนี้
เนื้อหาการสร้างนั้นมีเหมือนคล้ายๆกับปี 2497 และยังได้เนื้อหาเดิมของปี 97 จากอาจารย์ทิม มาผสมอยู่ด้วย- เข้าพิธีปลุกเสกพร้อมหลวงพ่อทวด เนื้อโลหะ (หลังเตารีด,หลังหนังสือและเหรียญ รุ่น 4) เมื่อปี 2505 ที่วัดช้างไห้ อีกทั้ง พระอาจารย์ทิม กับพ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา เป็นสหธรรมมิกกัน ดังนั้นเมื่อคราวอาจารย์ทิมไปเยี่ยมพ่อท่านฉิ้นที่วัดเมือง เลยได้ปลุกเสกปู่ทวดของวัดเมือง ยะลา อีกวาระหนึ่ง รวมเป็นสองวาระ
ดังนั้น พระหลวงพ่อทวดวัดเมืองจึงเป็นพระที่น่าเก็บสะสมและใช้แทนหลวงพ่อทวด 2497
(สนนราคาเช่าหาอยู่ที่หลักแสนถึงหลักล้าน) ได้อย่างสนิทใจ......

จาก หนังสือ 108 พระดีที่มองข้าม โดย ษรวัฒน์

เดี๋ยวนำภาพมาให้ชมค่ะ...

* เพิ่มเต็มข้อมูลอีกนิดนะคะ...
พระอาจารย์ทิม ถ่ายทอดวิชาให้พ่อท่านฉิ้น
หลวงปู่ทวดวัดเมืองสร้างในปี 2505 โดยพระอาจารย์ทิมได้ทำพิธีขออนุญาตต่อดวงวิญญาณหลวงปู่ทวดไปยังรัฐไทรบุรี มาเลเซียเพื่อกราบนมัสการและนำพลีดินตามสถานที่พักศพต่างๆ ถึง 13 แห่งด้วยกัน พร้อมกับเก็บรวบรวมเนื้อหามวลสารต่างๆ รวมไปถึงว่านเก่าของวัดช้างให้ และพระอาจารย์ทิมเป็นประธานกดแม่พิมพ์ด้วยตนเอง ใช้เวลาเดือนกว่ารวมพระที่ได้ประมาณ 10,000 องค์ มี 3 พิมพ์
* เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่(พิเศษ)
* เนื้อว่าน พิมพ์ใหญ่
* เนื้อว่าน พิมพ์เล็ก (พิมพ์พระรอด)
โดยพระทั้งหมดนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ที่วัดช้างให้เมื่อวันที่ 19 พค.2505
หลักการนั้นเป็นต้นมา โดยเฉพาะช่วงระหว่างปี 2524 จนถึง ปี 2537
ได้มีการจัดสร้างพระเครื่องอย่างต่อเนื่องอีกหลายรุ่น เช่น
*รุ่นอภินิหาร หลวงปู่ทวด รุ่น 1 เตารีด พ.ศ.2539
*รุ่นขอสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ยะลา หลวงปู่ทวดรุ่นมหาเศรษฐี พ.ศ.2541 ฯลฯ

พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา ถือได้ว่าเป็น "ศิษย์พุทธาคมอาจารย์ทิม" ที่สำคัญรูปหนึ่งเป็นพระปฎิบัติ นักพัฒนา และนักสังคมสงเคราะห์ สมนศักดิ์ที่ได้รับพระราชทานใน พระราชทินนาม "พระไพศาลประชานารถ" หมายถึง "พระผู้เป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างกว้างขวาง" ต่อมาสภาการฝึกหัดครูถึงกับมอบปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาพัฒนาชุมชน ให้แก่ท่าน

 

หลวงพ่อทวด วัดดีหลวง สงขลา
วัดดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา เกี่ยวพันกับองค์หลวงพ่อทวด ตามตำนานท่านบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดนี้
ในปี 2505 วัดดีหลวงได้จัดสร้างพระหลวงพ่อทวดขึ้น พระชุดนี้ได้ผสมผงเก่าของพระหลวงพ่อทวดปี 2497 และมวลสารมงคลต่างๆ เป็นจำนวนมาก เช่น
1. ว่าน 108 แบ่งเป็น 3 ประเภท
* ว่านที่เป็นตบะ
ว่านที่มีคุณทางแคล้วคลาด
* ว่านเสน่ห์มหานิยม
2. ว่านที่มีคุณสมบัติเป็นยารักษาโรค จำนวน 300 ชนิด แก้โรคต่างๆเช่น แก้ลม,
แก้สัตว์มีพิษกัดต่อย
3. ดินที่บ้านเรือนเกิด ที่ต้นเลียบฝังรก ที่ต้นหว้าผูลเปล ที่ต้นยางไม้เท้า ที่โรงศาลาการเปรียญ
* ดินที่เขื่อนบัวสมภาร อ.จวง
* ดินกากยายักษ์ในห้วยลำพยา และดินเหนียวคนธรรพ์บนยอดเขาลำพยา
* หินระโอ เมืองกาญจน์ หินนมผา
* แร่แก้วห้วยเย็น
* ไคลจืด ไคลศรีมหาโพธิ์ แป้งยอดนิมิตร 4 วัด

พิธีปลุกเสก 2 วาระที่ สำนักสงฆ์วัดต้นเลียบ และวัดดีหลวง พิธีพุทธาภิเภษที่ยิ่งใหญ่ เกจิสายใต้ปลุกเสก 108 รูป อาจารย์ทิม. อาจารย์นอง. หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ฯลฯ

 

ขอบคุณคุณนวลสำหรับข้อมูลดีๆสำหรับผู้ศรัทธาหลวงปู่....ยอดเยี่ยมครับ

 

http://palungjit.org/threads/หลวงปู่ทวด-กับประสบการณ์ตรงของผม.154749/page-3

อีกหนึ่งประสบการณ์ตรงของชาวเวปครับ

 

สวัสดียามค่ำ ค่ะ คุณเพชรฉลูกัน
ต้องนำเสนอเป็นข้อมูลค่ะ.....เพราะพระในกรุน้อยๆ ไม่มีแล้วค่ะ...

 

หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด .... เสด็จหนี

เมื่อประมาณ 2-3 ปีที่แล้ว วันนั้นเป็นวันฉลองปีใหม่ คุณพ่อคุณแม่ของผมพาไปฉลองงานปีใหม่ที่บ้านหลานชายของพ่อแถว ๆ รังสิตคลอง2 มีศักดิ์เป็นพี่ชายของผม วันนั้นคุณพ่อผมเอา เหรียญหลวงปู่ทวด วัดดีหลวง ปี 36 ไปแจกทุกคนเป็นของขวัญวันปีใหม่ครับ คนสุดท้ายที่มารับเหรียญหลวงปู่ทวดเป็นน้องชายของภรรยาพี่ชายผม พูดง่าย ๆ เป็นน้องชายพี่สะใภ้

เจ้าตัวบอกว่า ...

.. เมื่อก่อนผมก็เคยแขวนหลวงปู่ทวด พี่เชื่อไหมสร้อยอยู่ตลับพระอยู่แต่พระไม่รู้หายไปไหน เหลือแต่กรอบ สงสัยซนเกิน ..


จบประโยคนี้ผมเข้าใจว่า เจ้าตัวเขาต้องแขวนพระเข้าไปในสถานที่ "อโคจร" แน่นอนครับ เรื่องแบบนี้เคยปรากฏให้ประจักษ์กันมาแล้ว เช่น มีคนแขวนหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เข้าสถานบริการทางเพศ ออกมาพระเหลือแต่ตลับ

เป็นเรื่องที่แปลกมากครับแต่ก็เกิดขึ้นจริงมาแล้ว ... อย่างน่าฉงน

แขวนพระดีต้องทำตัวให้ดีตามท่านไปด้วยครับ ยิ่งทำตัวดีเท่าไหร่ยิ่งสัมผัสบารมีธรรมขององค์ท่านเหล่านั้นได้มากขึ้นด้วยครับ

 

พระผงหลวงปู่ทวด ครบรอบ 45 ปี วัดเมืองยะลา

 

อยากเล่าสู่กันฟังค่ะ พอฟังเรื่อง....ที่บอกว่าเสด็จหนีนะคะ......

หลายวันก่อนนำหลวงพ่อทวดมาถ่ายภาพ...แล้วนำหลวงพ่อทวดหลายรุ่นด้วยกัน...
จำได้ว่านำเก็บ...เข้าที่เรียบร้อยทุกองค์

จากนั้น 2 วันค่ะ พอดีจะหยิบเงินในกระเป๋า อยู่ๆ หลวงพ่อทวดมาอยู่ในกระเป๋า งงมาก
แต่พอฟังเรื่องคุณphattharaphong เล่า.......
(คิดว่าแน่ใจค่ะว่า วันนั้นได้เก็บท่านเรียบร้อยแล้ว)
ต้องเอาองค์ที่บอกไปเลี่ยมทองแล้วล่ะค่ะ.......

 

บิ๊กญี่ปุ่น'ไดโซะ อิโตะ'ทึ่งประสบการณ์หลวงปู่ทวด<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1>http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%8D%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9B%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%8B%E0%B8%B0-%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B6%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%A7%E0%B8%94.55061/

 

งดงามมากค่ะ แว่น 5 ซม.
อยากเล่าให้ฟังค่ะ รุ่นนี้เคยได้รับจากเพือ่น......เพื่อนบอกวัดเมืองปลุกเสกหลวงพ่อทวดเขาจะเอามาฝาก นัดเจอกันที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ค่ะ...รถไฟจากยะลาจะมาถึงหาดใหญ่ประมาณบ่าย 3 โมงก็ไปรอที่สถานีรถไฟ...และรับพระ....รถจอดไม่นานรับพระเสร็จ รถไฟก็เดินรถเลย พอเปิดดู ปรากฎว่า องค์พระร้าวแตกเสียดายมากค่ะ เพราะพระสวยอีกอย่างครบรอบ 45 ปีวัดเมืองด้วย
เลยรีบโทรศัพท์บอกเพื่อน เพื่อนบอกว่าตอนที่ถือมาพระไม่แตกนะ....

แต่เพื่อนก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะหาให้ใหม่....แต่เขาเล่าให้ฟังว่าตอนที่นั่งมาบนขบวนรถไฟ...รถไฟเสียเวลาด้วย...เพราะระหว่างทางมีการเก็บกู้ระเบิด...ทางรถไฟ...ระหว่างยะลา-ปัตตานี...

 

อาจารย์หนู กันภัย แขวนหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด

ไหว้ครู อ.หนู กันภัย
ลูกศิษย์ทุกคนเมื่อได้รับการสักยันต์แล้ว มีข้อห้ามอย่างเคร่งครัด คือ
๑.ไม่เป็นคนเจ้าชู้กับเมียใคร
๒.ไม่ด่าว่าพ่อแม่ใครโดยเด็ดขาด
๓.ไม่ทำลายพระพุทธศาสนา
๔.ไม่ลบหลู่บิดามารดา เวลาท่านต่อว่า
๕.ไม่เสพสิ่งเสพติดที่ผิดกฎหมายทุกประเภท
๖.ไม่ทำผิดในศีลธรรม
๗.ห้ามเป็นนักเลงหัวไม้ และ
๘.ห้ามตีรันฟันแทงกับใครอย่างเด็ดขาด
ขณะเดียวกัน ต้องหมั่นสวดมนต์ภาวนาอยู่เป็นประจำทุกๆ วัน หากปฏิบัติตามได้ ก็จะเป็นคนอยู่ยงคงกระพันชาตรี ไม่มีอะไรทำร้ายได้
แต่ถ้าศิษย์คนใดทำผิดศีล ไม่ปฏิบัติตาม ลายสักยันต์ก็จะเป็นเพียงรูปวาดบนผิวหนังเท่านั้น
ทั้งหมดนี้เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติในการสักยันต์ของ อ.หนู กันภัย เจ้าสำนักสักยันต์แห่งเมืองปทุมธานี
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นถึงเจ้าสำนักสักยันต์ที่มีชื่อเสียง มีลูกศิษยทั้งชาวไทย และต่างประเทศเป็นจำนวนมาก แต่ อ.หนู ก็ยังต้องพึ่งพุทธคุณจากองค์พระเช่นกัน โดยเฉพาะพระพุทธคุณจากพระหลวงปู่ทวด
อ.หนู บอกว่า การอาราธนาพระแขวนติดตัว จะต้องทำด้วยกายและใจให้อยู่จุดเดียวกัน เอาคุณงามความดีอธิษฐาน ไปไหนก็ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ให้หมดทุกข์ หมดโศก ถ้าลูกยังมีบุญอยู่ ถ้าลูกยังมีกรรมอยู่ก็ขอให้กรรมนั้นค่อยๆ หมดไป จึงขอชี้แนะทางธรรมให้ได้ทำบุญทำทานให้หมดเคราะห์นี้ พร้อมยึดถือบิดามารดาเป็นพระอรหันต์ เคารพสักการะบิดามารดา ครูบาอาจารย์เป็นที่ตั้ง และต้องยึดถือให้จริง
ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นได้จากตัวเราที่มาจากกระแสจิต เหมือนกับแบตเตอรี่ ที่มีไฟอยู่เต็ม แต่ถ้าเราไปจี้ผิดขั้ว ไฟก็จะไม่เข้า เช่นเดียวกัน เมื่อเรามีสิ่งดีๆ อยู่ในตัวเอง แล้วไปทำในสิ่งที่ไม่ดี กระแสจิตที่เกิดจากตัวเราก็จะไม่เกิด นี่ก็เป็นอำนาจจิต กระแสจิตที่นำพาให้เราพบกับความเป็นปาฏิหาริย์
สำหรับปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้น อ.หนู เล่าว่า เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นระหว่างที่ขับรถออกไปพร้อมกับอาราธนาหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เพื่อไปซื้อกลอนหน้าต่าง จังหวะที่ขับรถไปเรื่อยๆ เห็นร้านที่เราจะเข้าไปซื้อของ ไม่ทันได้ระวังอะไรก็หักรถเข้าประชิดทางขวาเพื่อไปยังร้าน ไม่ทันเห็นว่ารถสิบล้อวิ่งตามมาข้างหลัง
แต่เป็นเรื่องที่น่าแปลก จังหวะหักพวงมาลัยไปทางขวามือ ความรู้สึกวันนั้นเหมือนมีคนมาดึงพวงมาลัยกลับ เสี้ยววินาทีนั้น เป็นจังหวะที่ฉิวเฉียดเพียงฝ่ามือเดียว เพราะถ้าไม่มีใครมาช่วยดึงพวงมาลัยเอาไว้ วันนั้นต้องตายแบบสยอง รถที่ขับก็ต้องเละไม่เป็นท่า หรือไม่เช่นนั้นเราก็คงตายไปแล้ว
ประสบการณ์ครั้งที่สอง ขับรถยนต์คันใหม่เอี่ยม หยุดอยู่สี่แยกไฟแดง พอรอจังหวะไฟเขียวขึ้น ก็แตะเกียร์ทันที แต่ไม่รู้เป็นอย่างไร จังหวะที่แตะเกียร์เพื่อจะขับรถออกไป กลับไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเหมือนมีคนมาตบเกียร์กลับคืนมา จึงไม่สามารถออกรถไปได้ และเป็นแบบนี้อยู่ ๓ ครั้ง จนรถคันหลังต่างบีบแตรไล่
แต่พอเข้าเกียร์ครั้งที่สี่ได้ ก็ขับรถออกไปทันที เสี้ยววินาทีนั้นเอง ก็มีรถสิบล้อวิ่งแหกออกมากลางสี่แยกดังกล่าว นับว่าเป็นโชคช่วย เกือบตายไปแล้ว เพราะห่างจากรถสิบล้อเพียงสองศอก นี่แหละที่เขาเรียกว่าปาฏิหาริย์
ครั้งที่สาม เป็นช่วงที่กำลังปลูกสำนักใหม่ ประกอบกับเราศรัทธาหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ มาก เนื่องจากท่านเป็นพระโพธิสัตว์ จึงบอกกับช่างว่าต้องการหน้าจั่วของสำนักอยากให้เป็นองค์หลวงปู่ทวดตั้งอยู่ พอช่างบอกว่า ทำไม่ได้ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
พอตกกลางดึก หลวงปู่ทวดมาเข้าฝันว่า มึงต้องทำให้กู กูจะอยู่ตรงนี้
เช้าวันนั้น ช่างป๋องมาที่บ้านด้วยสีหน้าตาแตกตื่นแล้วบอกว่า หลวงปู่ทวดมาเข้าฝันว่า กูจะอยู่ตรงนี้ มึงต้องทำให้กู
ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น เมื่อครั้งเดินทางไปต่างประเทศ โดยอาราธนาหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่ทวด กับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ระหว่างที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านจีนเก่าๆ ซึ่งทุกครั้งจะสั่งบะกุ๊ดเต๋ และจะมานั่งร้านนี้เป็นประจำ แล้วสังเกตเห็นพัดลมเก่าๆ ไปกี่ครั้งก็จะมองแทบทุกครั้ง เรียกว่าเก่าจนน่ากลัว
วันนั้นไม่รู้เป็นยังไง ไม่อยากนั่งโต๊ะตัวเดิมที่เคยนั่ง จึงย้ายไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง เพียงเสี้ยววินาทีนั้น พัดลมที่ว่าก็ตกลงมาขณะหมุนด้วยความเร็ว ชามโต๊ะแตกกระจายไปหมด หากนั่งอยู่คอคงขาดเป็นแน่
อ.หนู บอกด้วยว่า จากที่ท่องคาถาเวทมนตร์ ทำให้เคารพครูบาอาจารย์ที่กราบไหว้ท่านอยู่ทุกวันแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงชอบสะสมพระเครื่องเพื่อเอาไว้บูชาสักการะ โดยจะไม่ขายไม่เช่าใดๆ ทั้งสิ้น และส่วนใหญ่มีคนให้มา ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อพรม วัดช่องแค หลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง พระนางพญา เป็นต้น
หลายคนที่ประสบกับเรื่องปาฏิหาริย์ การแขวนพระเครื่องของคนเราจิตใจต้องมีศีลมีธรรม ไม่ใช่เราแขวนพระกันแล้วไปคดโกง ไปโกงกิน ไปโกหก ไปทำในสิ่งที่ไม่ดี พูดง่ายๆ ไปทำให้สังคมเดือดร้อน ยิ่งร้ายไปกว่านั้น ถึงขั้นไปผิดภรรยาคนอื่น ก็เป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรม
เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณพระก็จะคุ้มครองได้น้อย เพราะคุณพระจะคุ้มครองผู้ที่ทำความดี อยู่ในศีลในธรรมเท่านั้น "การแขวนพระเครื่องอย่างถูกต้อง ต้องอาราธนาศีล เหมือนกับเราวิงวอนให้อำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาครูบาอาจารย์แห่งอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ระหว่างที่อาราธนาก็ขอให้เราแคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาหากินให้เจริญรุ่งเรือง แต่ถ้าสัจจะในตัวเราไม่มี กลับไปคดโกงผู้อื่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านก็จะไม่คุ้มครอง ดังนั้น คนแขวนพระต้องมีศีลมีธรรม ไม่ใช่แขวนพระเพื่อไปเป็นนักเลงหัวไม้ เป็นมาเฟีย ไปข่มเหงผู้อื่น การแขวนพระจึงต้องมีพรหมวิหาร ๔" อ.หนู กล่าวทิ้งท้าย

 

พระเครื่องรุ่นนี้ประสบการณ์ดีมากนะครับคุณ เก็บไว้ดี ๆ นะครับ

 

ผมว่าหลายๆคนศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวดอยู่แล้ว
แต่หลายๆคนที่ยังไม่เคยมีประสพการณ์ในองค์หลวงปู่ทวด
แล้วเข้ามาอ่าน ก็อยากจะหามาบูชากันเพราะประสพการณ์ของพี่ๆ
ที่นำมาเล่าให้ฟังในกระทู้
ร่วมกันเผยแพร่พุทธคุณหลวงปู่ทวด ให้กว้างไกล เพื่อบูชาพุทธคุณขององค์หลวงปู่


สาธุครับ