มีความสงสัยเรื่องกลุ่ม ILLUMINATI ว่าจะทำจริงหรือไม่ในวันที่ 21-12-2012

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย inw999, 15 มิถุนายน 2010.

  1. speed1234

    speed1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2010
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +403
    ขอขอบพระคุณจากใจ ที่ให้คำแนะนำดี ๆ ก็คงจะขึ้นอยู่กับจิตใจ จิตสำนึกของแต่ละบุคคลแล้วละครับว่าจะเลือกทางเดินชีวิตแบบไหน ขออนุโมทนากับเพื่อนมนุษย์ทุกคนที่ทำแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต
     
  2. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +1,511
    ขอบคุณคุณสันโดษที่มาพร้อมกับเนื้อหาและภาพที่แน่นเปรี่ยะ เช่นเคยครับ
     
  3. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    สำนักปู่สวรรค์ ได้รนรงณ์เรื่อง ภ้ยพิบัติที่จะเกิดแก่โลกและไทย มาราว 40 ปี ตอนนั้นไม่มีกระแส คนไม่รู้เรื่อง ถูกด่าและกล่าวหาว่า ทำให้คนแตกตื่น และได้แนะนำวิธีแก้แต่ไม่มีใครสนใจ เขาก็ดิ้นรนช่วยเท่าที่จะทำได้ เป็นผลให้ภัยพิบัติชะลอความรุนแรงลง ไม่เต็มที่ตามคำทำนาย แต่งานเลี้ยงต้องมีการเลิกลา ในที่สุดความรุนแรงต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆถ้าไม่ได้รับการแก้ไข ลองเข้าไปศึกษาที่นี่หน่อยว่าสำนักนี้เป็นอะไรกันแน่ถึงกล้าพูดว่าเป็นผู้ชะลอภัยพิบัติโลกไว้ แล้วมาเล่าให้กันฟัง ว่า จริงหรือโม้ ประการใด ครับ
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ทุกคนมีกรรมต่างกันต่างวาระ จงพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีก็พอ

    มากคนมากเรื่องมากความ ปัญหาเยอะ ฟุ้งซ่านคิดมาก จิตไม่สงบในที่สุด

    ใครดี หรือ ไม่ดี เเน่หรือไม่เเน่ เเล้วยังไง? จะพิสูจน์ไปทำไม? บารมีเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล

    ไม่มีใครสร้างหรือทำให้กันได้ เพราะเริ่มต้นที่จิตเป็นกุศลเท่านั้น

    เเค่คิด อกุศล ใจขุ่นมัว คนที่ทุุกข์ก็คือ คนที่ิึคิด ไม่ใช่คนอื่นที่ไหน

    คนที่รู้ทุกอย่างมีเเค่คนเดียว คือ ตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2010
  5. รวียากร

    รวียากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +1,309
    ILLUMINATI มันคืออะไรหว่า ไม่มีความรู้เรื่องนี้ - - * เห็นพูดกันบ่อย

    ในความคิดเรานะ ไม่มีใคร ใหญ่เกิด กรรม
     
  6. dodo68

    dodo68 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +137
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%AA%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%94%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A2%E0%B9%8C-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87-illuminati-2012-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81-%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4-%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1-42-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B9%89.227813/

    ตามนี้เลยครับ คุณPremsuda (May) , Angel_Internet รวบรวมไว้ทั้งหมด 42 กระทู้ ครับเกี่ยวกับ illuminati และ 2012
     
  7. รวียากร

    รวียากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +1,309
    ILLUMINATI <<<< นี่มันคืิ ลัดธิ หรือความ มนุษย์กลุ่ม 1 ตั้งขึ้นมาใช่ไหมคับ
    (ไม่รุ้ว่าเข้าใจถูกไหม) เราว่า มันผิดเพี้ยนไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้านะ - -*

    ยังไงก็ช่างเถอะ หมั่นทำความดีๆ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด จะตายก็ต้องตาย
    ทุกสิ่งที่เรารัก ย่อมพลัดพลาดจากเราทุกสิ่งอยุ่แล้ว บุญรักษา. . .
     
  8. รวียากร

    รวียากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    342
    ค่าพลัง:
    +1,309
    และเราไม่เชื่อด้วยว่า คนเพียงกลุ่มเดียว ที่กำหนดชะตาโลก จะมีชีวิตรอด ในยุคหลังภัยพิบัติ ไม่ว่าจะ ฉลาด ขนาดไหน เก่งแค่ไหน มีอำนาจ ร่ำรวยขนาดไหน ก็หนีไม่พ้น

    ความตาย และ กรรม ที่ตนก่อ ได้หรอก
     
  9. inw999

    inw999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,167
    ทำไมในหนังเรื่อง 2012 ถึงมีแผนที่ประเทศไทยเยอะจัง เกี่ยวข้องกันอย่างไร เขาต้องการสื่อให้เรารู้อะไร ด้านดี หรือ ด้านร้ายสำหรับประเทศไทย
     
  10. thontho

    thontho เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    398
    ค่าพลัง:
    +612
    ทันโลก เหนือโลก เขย่าโลก เชิญไปค้นคว้าที่ สำนักปู่สวรรค์
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คนสร้างหนังเรื่อง2012 เขาอาจจะชอบเมืองไทย
    ประทับใจยิ้มสยามของคนไทย
    ก็เลยช่วยโปรโมท ประเทศไทยผ่านหนังของเขาไง
    คนดูหนังทั่วโลกก็ได้เห็นสัญลักษณ์แล้วนึกถึงเมืองไทย
    พอดูหนังแล้วก็อาจจะอยากมาเที่ยวเมืองไทย
    มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ ต้องขอบใจเขานะเนี่ย ช่วยโปรโมทเมืองไทยให้เรา
    แหะ แหะ
     
  12. inw999

    inw999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,167

    จะมีใครที่มีข้อมูลที่ดีกว่านี้มั้ย
     
  13. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +7,747
    เพราะต้องการสื่อบอกข้อมูลบางอย่างช่วงเกิดภัยพิบัติประเทศไทยจะยังคงเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญต่อคนทั้งโลก เป้าหมายของเขาคือเข้ามายึดเอาอาหารของคนไทยไปให้คน.... อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดตามกฏแห่งกรรมอยู่แล้วครับอย่ากังวลไปเลยครับ
     
  14. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616
    illuminati = New World Order
    illuminati = ISH (Isis Seth Horrus)
    illuminati = Jesuit
    illuminati = Free Mason
    illuminati = The end game in 2012
    illuminati = The Extra-Terrestrial
    illuminati = Satanic
    illuminati = Hollywood
    illuminati = Anti-crist
    illuminati = Very high technology
    illuminati = US government
    illuminati = Conspiracy Theory

    And the last..illuminati are The Fallen Angels !

    ....
     
  15. texsum

    texsum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +1,511
    มันเกี่ยวกับพวก Fallen หรือปล่าวครับ
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Satan/The Fallen Angel Revealed: เปิดโปงโฉมหน้าซาตาน

    <!-- Main -->หลายท่านคงยังสงสัยว่า ซาตานคือใคร และมาจากไหน


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ซาตานนั้นก็ถูกให้กำเนิดให้เป็นวิญญาณบริสุทธิ์โดยพระเจ้าผู้ทรงสร้างตั้งแต่ก่อนสร้างโลกใบนี้แล้ว และดูเหมือนว่าซาตานนั้นมีหลายชื่อและครั้งหนึ่งพระผู้เป็นเจ้าเรียกเขาว่า ลูซีเฟอร์(Lucifer) ดังปรากฏหลักฐานในพระธรรมอิสยาห์ 14:12 ที่ว่า...



    <CENTER>"โอ ลูซีเฟอร์เอ๋ย โอรสแห่งรุ่งอรุณ
    เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซินะ
    เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ
    เจ้าผู้ซึ่งกระทำให้บรรดาประชาชาติตกต่ำ" </CENTER>





    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ลูซีเฟอร์นั้นมีรูปงามและสมบูรณ์แบบ พระเจ้าเคยแต่งตั้งเขาให้คอยดูแลสวนเอเดน...



    <CENTER>"12....เจ้าเป็นตราแห่งความสมบูรณ์แบบ
    เต็มด้วยสติปัญญา และมีความงามอย่างพร้อมสรรพ
    13 เจ้าเคยอยู่ในเอเดน พระอุทยานของพระเจ้า
    เพชรพลอยทุกอย่างเป็นเสื้อของเจ้า
    คือทับทิม บุษราคัม เพชร พลอยเขียว
    พลอยสีน้ำข้าว และหยก ไพทูรย์ มรกต
    พลอยสีแดงเข้มและทองคำ
    ความเชี่ยวชาญแห่งรำมะนาและปี่ของเจ้า
    ได้จัดเตรียมไว้ในวันที่สร้างเจ้าขึ้นมา
    14 เจ้าเป็นเครูบผู้พิทักษ์ที่ได้เจิมตั้งไว้
    เราได้ตั้งเจ้าไว้ เจ้าเคยอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์แห่งพระเจ้า
    และเจ้าเคยเดินอยู่ท่ามกลางอัญมณีอันส่องประกายโชติช่วงดุจไฟ
    15 เจ้าก็ปราศจากตำหนิในวิธีการทั้งหลายของเจ้า
    ตั้งแต่วันที่เจ้าได้ถูกสร้างขึ้นมา จนพบความชั่วช้าในตัวเจ้า" เอเสเคียล 28:12-15</CENTER>


    ต่อมาลูซีเฟอร์และพวกได้ละเมิดกฎเกณฑ์ของพระเจ้าเมื่อครั้งที่โลกและมนุษย์ถูกสร้างขึ้นใหม่ๆ...

    "...ต่อมาเมื่อมนุษย์เริ่มทวีมากขึ้นบนพื้นแผ่นดินโลก และพวกเขาให้กำเนิดบุตรสาวหลายคน บุตรชายทั้งหลายของพระเจ้า(หมายถึงเหล่าฑูตสวรรค์)เห็นว่าบุตรสาวทั้งหลายของมนุษย์สวยงาม และพวกเขารับเธอทั้งหลายไว้เป็นภรรยาตามชอบใจของพวกเขา" ปฐมกาล 6:1-2




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>
    จากพระธรรมเอโนค 7:2:11

    Note: หนังสือที่ถูกตัดออกจากการเป็นพระคัมภีร์เมื่อประมาณช่วงศตวรรษที่ 2 โดยรีบบีชื่อ Simeon ben Jochai เพราะซาตานไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องราวของมัน มันมักแอบทำอะไรแบบลับๆล่อเสมอ เช่น พฤติกรรมของบรรดาสมาชิกของสมาคมลับต่างๆที่บูชาซาตานนั่นเอง

    "....2. เหล่าฑูตสวรรค์ มองดูพวกนาง จึงเกิดความลุ่มหลงในพวกนาง และกล่าวแก่กันและกัน: 'มา ให้พวกเราเลือกบุตรหญิงในหมู่มนุษย์มาเป็นภริยา และ.ให้กำเนิดลูกของเรากันเถิด'
    3. และ Samyaza ที่เป็นผู้นำของพวกเขากล่าวแก่พวกเขาว่า: 'ฉันกลัวพวกเจ้าจะไม่เต็มใจที่จะกระทำการเช่นนี้
    4. และฉันคนเดียวจะต้องจ่ายการลงโทษในความผิดอันใหญ่หลวง.'
    5. และพวกเขาทั้งหมดตอบเขาและกล่าวว่า'เราทั้งหมดสาบาน
    6. และผูกมัดตัวเองโดยทั้งสองฝ่ายโดยกระทำการอันชั่วช้าร่วมกัน ไม่ละทิ้งแผนนี้แต่ให้ทำสิ่งนี้. '
    7. แล้วพวกเขาทั้งหมดสาบานและผูกพันด้วยตนเองโดยทั้งสองฝ่าย กระทำการอันชั่วช้าร่วมกัน พวกเขาทั้งหมดมีจำนวนสองร้อย ผู้ที่ได้ลงมาสู่อาร์ดีส ที่อยู่บนยอดเขาอาร์โมน (เฮอร์โมน)
    8. และพวกเขาจะเรียกภูเขาอาร์โมน(เฮอร์โมน) เนื่องจากพวกเขาได้สาบานและผูกพันด้วยตนเองโดยทั้งสองฝ่ายที่นั่น
    9. และเหล่านี้คือชื่อของผู้นำ: Samyaza ผู้นำของพวกเขา, Urakabarameel, Akibeel, Tamiel, Ranuel, Danel, Azkeel, Saraknyal, Asael, Armers, Batraal, Anane, Zavebel, Samsaveel, Ertael, Turel, Yomyael, Arayal. ทั้งหมดมีครบถ้วนในจำนวนสองร้อย
    10. พวกเขาก็ได้เลือกภริยาสำหรับตนเอง และพวกเขาได้เริ่มเข้าหาพวกเธอ หา และพวกเขาก็สอนวิชาหมอผี เวทมนต์คาถา การปลุกเสก รวมทั้งวิชาการทำลายล้าง(การทำสงครามในปัจจุบัน-ผู้เรียบเรียง) ให้กับภริยาที่พวกเขาอยู่ร่วมนั้น
    11. และพวกผู้หญิงก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรเป็นมนุษย์ร่างยักษ์
    12. แต่ละคนมีรูปร่างสูง 300 ศอก คนยักษ์เหล่านี้กินอาหารทั้งหมดของมนุษย์ที่มีอย่างตะกละตะกลาม จนกระทั่งมนุษย์ไม่สามารถเลี้ยงพวกเขาได้
    13. แล้วพวกมันจึงต่อสู้กับมนุษย์ เพื่อจะได้มากินมนุษย์.
    14. และพวกเขาเริ่มทำร้ายนกและสัตว์ และสัตว์เลื้อยคลาน และปลา แล้วก็ฆ่ากันเอง "




    <CENTER><EMBED src=http://www.youtube.com/v/D5aOP-azKzs&hl=en&fs=1&color1=0x3a3a3a&color2=0x999999&border=1 width=445 height=364 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></EMBED></CENTER>



    <CENTER></CENTER>[​IMG][​IMG]

    <CENTER></CENTER>


    <CENTER>หลักฐานการขุดพบซากมนุษย์ยักษ์โบราณ</CENTER>



    เอโนค บทที่ 9
    1. แล้วไมเคิล, กาเบรียล, ราฟาเอล และ ยูเรียล มองลงมาจากฟากฟ้า เห็นการกระทำอันชั่วร้าย และเลือดนองบนแผ่นดิน. พวกท่านกล่าวต่อกันว่า ‘นี่เป็นเสียงร้องเรียกจากพวกเขา’
    2.บุตรมนุษย์แห่งแผ่นดินโลกร้องเสียงกึกก้อง ถึงประตูชั้นฟ้าสวรรค์
    3.และตอนนี้ก็ถึงท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชั้นฟ้าแล้ว วิญญาณของมนุษย์คร่ำครวญ ร้องเรียกหาการพิพากษาจากองค์ผู้สูงสุด แล้วพวกท่านจึงทูล จอมกษัตริย์ จอมเจ้านายแห่งเจ้านาย พระเจ้าของพระทั้งปวง กษัตริย์ของกษัติย์ทั้งปวง พระบัลลังค์ของพระองค์อยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาลถึงนิรันดร์กาล เป็นพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่สรรเสริญ พระองค์ผู้ทรงศักดิ์สิทธิ์และทรงสมควรสรรเสริญ
    4.พระองค์ผู้ทรงสร้างสิ่งสารพัด ผู้ทรงครอบครองทุกสิ่ง และทุกสิ่งก็เปิดเผยและประจักษ์จำเพาะพระพักตร์พระองค์ พระองค์ทรงเห็นทุกสิ่ง ไม่มีสิ่งใดถูกปิดบังจากพระองค์เลย
    5.พระองค์ทรงเห็นสิ่งที่ Azazyel ได้กระทำแล้ว เห็นวิธีที่เขาสอนความชั่วทุกอย่างบนโลก และได้เปิดเผยสารพัดความลับที่ทำในชั้นฟ้าต่อชาวโลก
    6.Samyaza ก็สอนเวทมนตร์แก่ผู้ที่ องค์บริสุทธิ์ใด้ให้อยู่ใต้การดูแลของเขา และก็ไปกับเขาด้วย เขาไปสู่บุตรหญิงของมนุษย์ด้วยกัน และได้สมสู่ ทำให้มีมลทิน
    7.และกระทำความบาปผิดต่อพวกนาง
    8.และหญิงเหล่านั้นก็ได้ให้กำเนิดคนยักษ์
    9.ดังนั้น ทั่วทั้งแผ่นดินโลกจึงนองไปด้วยเลือด และความบาป
    10.และ ดูซิ วิญญาณของผู้ตายเหล่านั้น ร้องออกมา
    11.และเสียงคร่ำครวญ ก็ดังมาถึงประตูสวรรค์
    12.เสียงครวญครางของพวกเขาก็ขึ้นมา เขาไม่สามารถหลีกหนีจากความชั่วร้าย ที่มีอยู่บนแผ่นดินโลกได้เลย พระองค์ทรงทราบทุกสิ่ง ตั้งแต่ก่อนที่มันจะดำรงอยู่
    13.พระองค์ทรงทราบสิ่งเหล่านี้ และสิ่งที่พวกเขาได้กระทำนั้นแล้ว แต่พระองค์ไม่ทรงตรัสแก่เรา
    14.จากสิ่งเหล่านี้ เราความทำสิ่งใดแก่พวกเขาเล่า

    เอโนค บทที่ 10
    1.แล้วองค์สูงส่ง องค์บริสุทธิ์และเกรียงไกร ทรงตรัส
    2. และส่ง ยูเรียล (Uriel) บุตรของลาเมช ( Lamech)
    3. และกล่าวว่า บอกเขาในนามของเราว่า "จงซ่อนตัวเอง!"
    4. และเปิดเผยแก่เขาถึงที่สิ้นสุดที่จะเกิดขึ้น การรื้อฟื้นอย่างสมบูรณ์จะบังเกิดขึ้น จะเกิดน้ำท่วมทั่วทั้งแผ่นดินและสิ่งสารพัดที่อยู่บนนั้นจะถูกทำลาย
    5.และสั่งสอนเขาถึงวิธีการที่เขาอาจหนีไปได้และเมล็ดพันธ์แห่งเขาอาจหลงเหลืออยู่บนโลก
    6.และอีกครั้ง พระเจ้ากล่าวต่อราฟาเอล ( Raphael) ว่า 'มัดมือและมัดเท้าของ Azazyel และโยนเขาลงไปในความมืดและเปิดทะเลทรายซึ่งอยู่ใน ดาเดล(Dadael) และโยนเขาไปในนั้น
    7.โยนหินที่เป็นปุ่มปมลงไปบนเขา แล้วคลุมเขาไว้ด้วยความมืด
    8.ที่นั่น เขาจะอยู่ตลอดกาล ปกหน้าเขาไว้ เพื่อเขาจะไม่ได้เห็นแสงสว่าง
    9.และในวันพิพากษาอันยิ่งใหญ่ เขาจะถูกโยนลงไปในบึงไปนรก
    10.จงไปฟื้นฟูแผ่นดินโลกที่พวกเขาเหล่านั้นได้ทำให้เสียหาย และจงประกาศชีวิต ซึ่งเราจะฟื้นขึ้นมาใหม่


    มีคาเอลและทูตสวรรค์ต่อสู้กับซาตาน

    "...มีสงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลและพวกทูตสวรรค์ของท่านได้ต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับพวกทูตของมันก็ต่อสู้...แต่ฝ่ายพญานาคแพ้ และพวกพญานาคไม่มีที่อยู่ในสวรรค์อีกเลย... พญานาคใหญ่ซึ่งเป็นงูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่า พญามารและซาตาน ผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก พญานาคและพวกทูตของมันก็ถูกผลักทิ้งลงมาในแผ่นดินโลก" วิวรณ์ 12:7-9

    พระเยซูตรัสว่า "เราเห็นซาตานตกจากฟ้าสวรรค์เหมือนฟ้าแลบ" ลูกา 10:18



    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    ซาตานนั้นโกรธและทะนงตน นอกจากการขาดความยำเกรงในพระเจ้าผู้ทรงสร้างเขามา....และแล้วหลังจากนั้นมันก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อเทียบเทียมพระเจ้า




    <CENTER>[​IMG]</CENTER>



    <CENTER>"... เจ้ารำพึงในใจของเจ้าว่า `ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์
    ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ เหนือดวงดาวทั้งหลายของพระเจ้า
    ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ด้านทิศเหนือ...
    ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ
    ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด'
    อิสยาห์ 14:13-14</CENTER>

    ซาตานได้กลายมาเป็นผู้ครอบครองโลก และชักนำให้ผู้คนต่อต้านพระเจ้า ซึ่งมีกล่าวไว้ในพระคัมภีร์ดังนี้


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    <CENTER>" ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้น(หมายถึงไม่เชื่อพระเจ้า)
    พระของยุคนี้ได้กระทำใจของเขาให้มืดไป
    เพื่อไม่ให้ความสว่างของข่าวประเสริฐอันมีสง่าราศีของพระคริสต์
    ผู้เป็นพระฉายของพระเจ้า ส่องแสงถึงพวกเขา"
    2 โครินทร์ 4:4</CENTER>

    Note: ในทางกลับกัน ผู้ที่เชื่อในพระเจ้าด้วยหัวใจแห่งการเชื่อฟังจริง ก็มีหัวใจที่สว่าง หมายถึงตาสว่างขึ้นมองเห็นความจริง แยกแยะได้ว่าสิ่งใดมาจากพระเจ้า สิ่งใดเป็นการล่อลวงของซาตานนั่นเอง

    <CENTER>[​IMG][​IMG]</CENTER>


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ซาตานยังได้พยายามแยกมนุษย์ให้หนีห่างจากพระเจ้าตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจที่หลายๆคนเมื่อได้ยินเรื่องจริงเกี่ยวกับพระเจ้าแล้วปิดใจ หรือมีความคิดว่าคนที่พูดถึงพระเจ้านั้นงงงาย ไร้สาระหรือบ้าไปแล้ว เหตุเพราะเขาถูกครอบงำจากวิญญาณชั่วต่างๆนั่นเอง.... ด้วยมีพระคัมภีร์เขียนไว้ว่า


    <CENTER>"....พวกเขาพินาศเพราะปฏิเสธที่จะรักความจริงซึ่งนำไปสู่ความรอด
    เพราะเหตุนี้พระเจ้าจึงทรงให้ความลุ่มหลงมาครอบงำเขา
    ให้เขาเชื่อสิ่งที่เท็จเพื่อคนทั้งหลายที่ไม่เชื่อความจริง
    แต่ยินดีในการไม่ชอบธรรม จะได้ถูกลงพระอาชญาทุกคน"
    2 เธสะโลนิกา 2:11-12</CENTER>

    ซาตานและลูกสมุนของมันทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะพาคนให้ลงไปอยู่ในนรกกับพวกมันให้มากที่สุด ก่อนที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมาอีกครั้งตามที่พระองค์ทรงสัญญาไว้

    พระเจ้าได้เตือนไว้แล้วสำหรับเรื่องนี้ว่า..."


    <CENTER>ท่านทั้งหลายจงเป็นคนใจหนักแน่น จงระวังระไวให้ดี
    ด้วยว่าศัตรูของท่าน คือพญามาร วนเวียนอยู่รอบๆดุจสิงโตคำราม
    เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกัดกินได้" 2 เปโตร 5:8</CENTER>

    ชาวโลกส่วนใหญ่ในปัจจุบันนั้นตกอยู่ภายใต้การครอบงำของผีมารซาตาน เขาจึงยังชอบที่จะดำเนินชีวิตตามใจตนเอง ซึ่งกล่าวชัดๆก็คือตามใจที่ถูกชักนำและควบคุมโดยวิญญาณชั่วต่างๆนั่นเอง

    เขากระทำสิ่งที่ชั่วทั้งๆที่รู้ว่าชั่วแต่เขาไม่สามารถเลิกทำได้ หรือไม่เขาก็เสพติดความชั่วเหล่านั้นไปเลย เช่น การรักผิดประเภท กามวิปริต ชอบหลอกลวงผู้อื่นเพื่อตัวเอง เขาไม่มีความรักที่แท้จริง แม้แต่กับคนในครอบครัวก็ยังเป็นความรักแบบเห็นแก่ตัว เขาไม่ชอบแบ่งปัน และแม้บางครั้งที่แบ่งปันก็ยังทำเพื่อเชิดหน้าชูตาตนเอง วัยรุ่นส่วนใหญ่ก็ชอบที่จะอยากเด่นอยากดัง เป็นที่ยอมรับในหมู่พวก แคร์สายตาคนอื่นว่าเขาจะมองตนอย่างไร บ้างก็ลามก เสพสิ่งเสพติด ติดการพนัน ปล้น ฆ่า ล่วงประเวณี

    เขาโลภอยากได้ตลอดเวลาไม่เคยมีความอิ่มหรือเพียงพอในจิตใจ เขาโหยหาตลอดเวลา แม้บางครั้งก็ไม่รู้ว่าหาอะไร วิ่งวุ่นเหมือนหนูถีบจักร ไม่เคยมีเวลาหยุดพัก ไม่มีสันติสุขหรือความสงบสุขในใจเลย เขารักการสนุก รักสมบัติ เสพติดทรัพย์สิน หาเท่าไรก็ไม่พอ ไม่มีเวลาที่จะอบรมสั่งสอนลูกหลาน เลี้ยงลูกด้วยเงิน หรือเกมส์คอมพิวเตอร์ที่ซาตานทำมาให้เล่น

    เขาคิดว่าความสนุกคือความสุข แต่พอหายสนุกก็ทุกข์หนักขึ้นไปอีก ผู้คนมีชีวิตที่วนเวียนอยู่อย่างนี้แล้วออกจากวงจรอุบาทว์นี้ไม่ได้

    เพราะเขาได้กลายเป็นทาสของซาตานโดยฝ่ายวิญญาณและทำให้สำแดงออกมาในเชิงพฤติกรรม ชีวิตของเขาจึงอยู่ในความเสี่ยงตลอดเวลา ตราบใดที่เขายังไม่กลับใจมาหาพระเจ้า


    <CENTER>"....ดำเนินตามวิถีของโลกนี้ตามเจ้าแห่งอำนาจในย่านอากาศ
    คือวิญญาณที่ครอบครองอยู่ในบุตรแห่งการไม่เชื่อฟัง" เอเฟซัส 2:2</CENTER>


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    ปฏิปักษ์พระคริสต์ (The Antichrist)


    <CENTER>".....บัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว และตามที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาว่า ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์จะมา บัดนี้ปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์ก็มีอยู่มากแล้ว
    ฉะนั้นเราจึงรู้ว่าบัดนี้เป็นวาระสุดท้ายแล้ว เขาเหล่านั้นได้ออกไปจากพวกเรา แต่เขาเหล่านั้นก็ไม่ใช่พวกเรา เพราะว่าถ้าเขาเป็นพวกของเรา เขาจะอยู่กับเราต่อไป แต่เขาได้ออกไปแล้ว ซึ่งก็เป็นที่ปรากฏชัดแล้วว่า เขาเหล่านั้นหาใช่พวกของเราทุกคนไม่....ใครเล่าเป็นผู้ที่พูดมุสา ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นผู้ที่ปฏิเสธว่าพระเยซูมิใช่พระคริสต์ ผู้ใดที่ปฏิเสธพระบิดาและพระบุตร ผู้นั้นแหละเป็นปฏิปักษ์ต่อพระคริสต์"
    1 ยอห์น 2: 18-19,22</CENTER>


    <CENTER>"คนอย่างนั้นเป็นอัครสาวกเทียม เป็นคนงานที่หลอกลวง
    ปลอมตัวเป็นอัครสาวกของพระคริสต์
    การกระทำเช่นนั้นไม่แปลกประหลาดเลย
    ถึงซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์แห่งความสว่างได้
    เหตุฉะนั้นจึงไม่เป็นการแปลกอะไรที่ผู้รับใช้ของซาตานจะปลอมตัวเป็นผู้รับใช้ของความชอบธรรม
    ท้ายที่สุดของเขาจะเป็นไปตามการกระทำของเขา
    2 โครินทร์ 11:13-15</CENTER>


    <CENTER>"....คนแห่งการบาปนั้นจะประจักษ์แจ้ง คือลูกแห่งความพินาศ
    ผู้กีดกั้นขัดขวางและยกตัวขึ้นต่อสู้อะไรๆที่ได้ชื่อว่าเป็นพระเจ้า
    หรืออะไรๆที่เขาไหว้นมัสการนั้น
    แล้วมันก็นั่งในพระวิหารของพระเจ้าเหมือนอย่างพระเจ้า
    ประกาศตัวว่าเป็นพระเจ้า" 2 เธสะโลนิกา 2:3-4 </CENTER>

    ซาตานมักจะเข้ามาในมาดที่ดูดีเสมอ เพื่อล่อลวงและผูกมัดใจคน อีกทั้งมันยังสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจอีกด้วย เพราะว่าซาตานเองก็ยังปลอมตัวเป็นทูตสวรรค์แห่งความสว่างได้นั่นเอง


    <CENTER>"....อำนาจลับๆของคนนอกกฎหมาย(Antichrist)นี้ก็กำลังทำงานอยู่แล้ว....

    ผู้นั้นที่มาโดยการดลบันดาลของซาตาน
    พร้อมกับบรรดาการอิทธิฤทธิ์และหมายสำคัญ
    และการมหัศจรรย์แห่งความเท็จ และอุบายชั่วทุกชนิดอันล่อลวงบรรดาผู้ที่กำลังจะพินาศ
    พวกเขาพินาศเพราะปฏิเสธที่จะรักความจริงซึ่งนำไปสู่ความรอด"
    2 เธสะโลนิกา 2:8-10</CENTER>


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    <CENTER>"...บัดนี้ถึงเวลาที่จะพิพากษาโลกนี้แล้ว
    เดี๋ยวนี้ผู้ครองโลกนี้จะถูกโยนทิ้งออกไปเสีย"
    ยอห์น 12:31</CENTER>

    ซาตานนั้นเป็นแหล่งที่มาของความชั่วช้าทั้งสิ้นบนแผ่นดินโลก เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง การก่อตั้งศาสนาเทียมเท็จ การกราบไหว้บูชาและลัทธิความเชื่อผิดๆแปลกๆทั้งหมดที่ไม่ได้มาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้าง เช่น การไหว้รูปเคารพ การบูชายัญ บูชาพระอาทิตย์พระจันทร์ การดูหมอ ดูฤกษ์ดูยาม ไสยศาสตร์ ทรงเจ้าเข้าผี และการสอนให้ยกย่องกำลังและความรู้ของตัวเองเป็นที่ตั้งในการดำเนินชีวิต แทนการพึ่งพาในพระผู้เป็นเจ้า ฯลฯ

    พระผู้เป็นเจ้าทรงสอนว่า...


    <CENTER>"อย่าทำตัวฉลาดตามสายตาของตนเอง
    จงยำเกรงพระเยโฮวาห์
    และออกไปเสียจากความชั่วร้าย"

    สุภาษิต 3:7</CENTER>


    <CENTER>"อย่ามีพระอื่นใดนอกเหนือจากเรา
    ...อย่ากราบไหว้หรือปรนนิบัติรูปเหล่านั้น"

    เฉลยธรรมบัญญัติ 5:7,9</EMBED></CENTER>


    <CENTER>[​IMG][​IMG]</CENTER>


    <CENTER>พระเยโฮวาห์ตรัสว่า...
    "....บาปของเจ้าทั้งหลายก็กันสิ่งที่ดีไว้เสียจากเจ้า
    เพราะท่ามกลางประชาชนของเราจะพบคนชั่ว
    เขาซุ่มคอยเหมือนคนดักนกซุ่มอยู่
    เขาวางกับไว้ เขาดักคน

    เรือนของเขาเต็มด้วยความหลอกลวงเหมือนกระจาดที่มีนกเต็ม
    เพราะฉะนั้นเขาจึงใหญ่โตและมั่งมี

    เขาจึงอ้วนพีจนตัวเกลี้ยงเกลา
    ในเรื่องการกระทำความชั่วเขาล้ำหน้า
    เขามิได้ตัดสินคดี คือคดีของลูกกำพร้าพ่อ ด้วยความยุติธรรม
    ถึงกระนั้นเขาก็เจริญ
    เขามิได้ป้องกันสิทธิของคนขัดสน"

    พระเยโฮวาห์ตรัสว่า
    "เพราะสิ่งอย่างนี้เราจะไม่ทำโทษเขาหรือ
    และไม่ควรที่จิตใจเราจะแก้แค้นประชาชาติที่เป็นอย่างนี้หรือ

    สิ่งที่น่าตกตะลึงและน่าหวาดเสียวได้เกิดขึ้นในแผ่นดินนี้
    คือผู้พยากรณ์ได้พยากรณ์เท็จ
    และบรรดาปุโรหิตก็ปกครองตามการชี้นิ้วของเขา
    และประชาชนของเราชอบที่มีการอย่างนี้
    แต่เจ้าทั้งหลายจะกระทำอะไรเมื่อกาลสุดปลายมาถึง"

    เยเรมีย์ 5:25-31</CENTER>
    Note: นิมโรดคือชายคนแรกที่ได้รับการดลใจจากซาตานให้เขาหันหนีจากพระเจ้ามานับถือตัวเอง และเขาก็ได้ก่อการกบฎต่อพระเจ้าอย่างชัดเจน และจากตำนานเรื่องของนิมโรดแห่งบาบิโลนนี่เองที่ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดของศาสนาต่างๆทั่วโลกในปัจจุบัน
    โปรดอ่านเพิ่มเติม: http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=29-09-2009&group=1&gblog=2

    ****การดำเนินชีวิตในเส้นทางของพระเจ้าไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้สร้าง(Creator) กับผู้ถูกสร้าง(Creatures)*****

    ซาตานนั้นจะทำทุกอย่างเพื่อเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้าผู้สร้าง

    แต่พระเจ้าได้เคยกำชับไว้แล้วผ่านทางโมเสสว่า...


    <CENTER>"...ผู้ที่มอบเชื้อสายของตนให้แก่พระโมเลค(อีกภาพหนึ่งของซาตาน-ผู้เรียบเรียง)
    ผู้นั้นต้องมีโทษถึงตายเป็นแน่ ให้ประชาชนแห่งแผ่นดินเอาหินขว้างเขาเสียให้ตาย
    และเราจะตั้งหน้าของเราต่อสู้ผู้นั้น และจะตัดเขาออกเสียจากท่ามกลางชนชาติของตน
    เพราะว่าเขาได้มอบเชื้อสายของเขาแก่พระโมเลค
    กระทำให้สถานบริสุทธิ์ของเราเป็นมลทิน และลบหลู่นามบริสุทธิ์ของเรา
    และถ้าประชาชนในแผ่นดินนั้นไม่เอาใจใส่ที่จะฆ่าคนนั้นเมื่อเขาให้เชื้อสายแก่พระโมเลค
    เราจะตั้งหน้าของเราต่อสู้ผู้นั้น และต่อสู้กับครอบครัวของเขา
    และจะตัดเขาและผู้ใดที่ทำตามเขาในการเล่นชู้กับพระโมเลคออกเสียจากชนชาติของตน
    ผู้ที่หันไปหาคนทรงเจ้าเข้าผีหรือพวกพ่อมดหมอผี เล่นชู้กับเขา
    เราจะตั้งหน้าของเราต่อสู้ผู้นั้นและจะตัดเขาออกเสียจากชนชาติของตน
    เหตุฉะนั้นเจ้าจงชำระตัวให้บริสุทธิ์ เพราะเราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า
    จงรักษากฎเกณฑ์ของเราและกระทำตาม
    เราคือพระเยโฮวาห์ผู้ตั้งเจ้าไว้ให้บริสุทธิ์"
    จากพระธรรมเลวีนิติ 20:2-8</CENTER>


    ในปัจจุบันชาวโลกส่วนใหญ่ได้ติดตามซาตานทั้งที่โดยรู้ตัวและยอมรับอย่างออกหน้าออกตา ดังจะเห็นได้ว่ามีคริสตจักรซาตานเกิดขึ้นทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็มีผู้หลงติดตามมันไปแบบไม่รู้ตัว และติดตามแบบรู้ตัวแต่ทำอย่างลับๆ

    โปรดสังเกตรูปกางเขนด้านหลังโป๊ป : ไม้กางเขนหัวกลับเป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านพระเจ้า


    <CENTER>[​IMG][​IMG]</CENTER>


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>

    Ref:
    http://www.thaipope.org/webbible/49_002.htm
    http://www.sacred-texts.com/bib/boe/
    http://www.sabbathcovenant.com/Catholicism/satanism.htm
    http://theconspiracyzone.podcastpeople.com/posts/32574
    http://www.cephas-library.com/catholic/catholic_upside_down_cross.html


    <CENTER>ไม่ว่าจะเป็นคริสมาส อีสเตอร์ ฮาโลวีน และโดยเฉพาะ Black Mass ซึ่งบรรดาผู้นำระดับโลก และสมาชิกสมาคมลับต่างร่วมกันทำกิจเหล่านี้ล้วนเป็นกิจกรรมที่ใช้ในการแสดงความเคารพบูชาต่อซาตานทั้งสิ้น</CENTER>


    <CENTER>
    "......คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นไปด้วยความอัศจรรย์ใจ
    เขาทั้งหลายได้บูชาพญานาคที่ได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น
    เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น" วิวรณ์ 13:3-4</CENTER>


    <CENTER>[​IMG][​IMG]

    กลยุทธ์ในการครอบครองโลกของสมาคมลับ
    Problem - Reaction - Solution (PRS)
    สร้างปัญหา - ดูปฏิกริยาตอบสนองของสังคม - เสนอแนวทางแก้ไข

    เช่น:
    Problem : เหตุการณ์ 911 ตึกเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายถล่ม จัดให้มีกลุ่มรับผิดชอบเป็นมุสลิม อัลไคดะ เพื่อให้ชาวอเมริกันเกลียดชัง และ มีบินลาเดนเป็นโต้โผ (แต่จริงๆแล้ว บินลาเดนคือซีไอเอ คนหนึ่งที่เขาใช้ให้ไปเฝ้าไร่ฝิ่นที่อัฟกานิสถาน ฉะนั้นจึงมีการเสนอข่าวออกมาเป็นระยะๆว่าจับบินลาเดนไม่ได้ซักที อ้อ! อย่าแปลกใจเลย สมาคมลับคุมสำนักข่าวใหญ่ทั่วโลก เขาจะนำเสนอข่าวเฉพาะสิ่งที่เขาต้องการให้เรารู้ และข่าวก็มีทั้งข่าวจริงและข่าวหลอกอีกต่างหาก เราๆจึงต้องมีการพิจารณากันให้ดี)

    Reaction: ชาวอเมริกันเกิดความโกรธแค้น จึงสนับสนุนให้ทำสงคราม ลงขันกันยกใหญ่จากพันธบัตรรัฐบาลที่ออกมาเพื่อระดมทุนในการทำสงครามโดยเฉพาะ

    Solution: รัฐบาลโดยมีกลุ่มสมาคมลับอยู่เบื้องหลังได้ปรับแก้กฎหมายหลายฉบับซึ่งไปในแนวของระบบคอมมิวนิสต์ ในขณะเดียวกันก็ทำสงครามในตะวันออกกลาง บุกอิรักเข้าไปเอาทรัพยากรน้ำมันของเขาซะดื้อๆ

    และทั้งหมดนี้มีวาติกันซึ่งเป็นตัวแทนของซาตานอยู่เบื้องหลัง เขาใช้ประเทศอเมริกาเป็นฐานอำนาจและเป็นมือเป็นเท้าในการทำงาน ทั้งยังมีประเทศต่างๆในสหภาพยุโรปเป็นฝ่ายสนุบสนุน
    ท่านอาจจะแปลกใจว่าทำไมซาตานมันมีอำนาจนักหนาในการครองใจคน รวมทั้งการพัฒนาวิชาการต่างๆรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ

    คำตอบคือว่า ซาตานนั้นเป็นวิญญาณและพระเจ้าเคยให้อำนาจมันมาก่อน และพวกนี้ได้สติปัญญาที่มาจากสวรรค์ทั้งสิ้น แต่นำมาใช้ในการมอมเมามนุษย์และการทำลายล้าง เพื่อแย่งมนุษย์มาจากพระเจ้า มันจึงใช้ความพยายามทำทุกอย่างเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้หลงไปติดตามมัน ซาตานและพวกวิญญาณชั่วต่างๆสามารถแปลงร่างไปได้มากมายหลายรูปแบบ จะทำให้ดูหล่อดูสวยเหมือนนางฟ้าเทวดาหรือจะทำให้ดูน่าเกลียดน่าขยะแขยงแค่ไหนก็ได้ มันยังมีความสมารถเข้าควบคุมจิตใจของมนุษย์ได้ด้วย ไปนำให้กระทำการอันชั่วร้ายต่างๆ ที่เราเห็นอยู่ประจำในเหตุการณ์ปัจจุบัน ไปกระตุ้นให้เกิดความไม่สงบสุขในจิตใจต่างๆเช่น ตัญหา ราคะ ความโกรธ โลภ หลง ความวุ่นวายใจ หงุดหงิด ฯลฯ ดังนั้นมนุษย์ธรรมดาๆจึงถูกล่อลวงและติดตามพวกมันไปได้อย่างง่ายดาย มารสามารถให้พรได้ด้วย ทำให้คนร่ำรวย แต่ขอให้สังเกตดูว่า ผู้ที่ร่ำรวยจากกิจการหรือกิจกรรมต่างๆที่มาจากมารซาตานนั้น ทรัพย์สมบัติที่พวกเขาหามาได้จะอยู่ไม่นาน หรือทรัพย์มาพร้อมกับความเจ็บป่วย หลายคนนั้น...ที่สุดแล้วทรัพย์ก็หมดไปกับการรักษาโรคร้ายต่างๆ หรือตายไปอย่างกระทันหัน หรือเกิดเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้เสียหาย เพราะพรที่มาจากมารนั้นมาพร้อมกับความโศกเศร้า

    แต่พระพรที่พระเจ้าประทานมาให้นั้น เป็นพระพรล้วนๆ พระองค์ไม่ได้แถมความโศกเศร้ามาด้วย ตามพระสัญญาที่กล่าวไว้ในพระธรรมสุภาษิต 10:22ว่า " พระพรของพระเยโฮวาห์กระทำให้มั่งคั่ง และพระองค์มิได้แถมความโศกเศร้าไว้ด้วย"

    แต่..ยังมีมนุษย์อีกกลุ่มหนึ่งที่ติดตามพระเจ้า และพวกเขาได้รับพระพรและสติปัญญาจากพระองค์ จึงได้รู้เท่าทันกลเกมณ์ต่างๆของซาตานและสมุนของมันไม่ว่าจะมาในรูปแบบใด พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงสถิตอยู่ด้วยกับผู้ที่เชื่อและวางใจในพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ จะทำให้พวกเขามองภาพต่างๆออกและเข้าใจถึงที่มาที่ไป แล้วจึงได้นำมาเปิดเผยนี่เอง

    สุภาษิต 2:6-12
    6 เพราะพระเยโฮวาห์ทรงประทานปัญญา ความรู้และความเข้าใจมาจากพระโอษฐ์ของพระองค์
    7 พระองค์ทรงสะสมสติปัญญาไว้ให้คนชอบธรรม พระองค์ทรงเป็นโล่ให้แก่ผู้ที่ดำเนินในความเที่ยงธรรม
    8 พระองค์ทรงรักษาระวังวิถีของความยุติธรรม และทรงสงวนทางของวิสุทธิชนของพระองค์ไว้
    9 แล้วเจ้าจะเข้าใจความชอบธรรมและความยุติธรรม และความเที่ยงตรง คือวิถีที่ดีทุกสาย
    10 เมื่อปัญญาจะเข้ามาในใจของเจ้า และความรู้จะเป็นที่ร่มรื่นแก่จิตใจของเจ้า
    11 ความเฉลียวฉลาดจะคอยเฝ้าเจ้า และความเข้าใจจะระแวดระวังเจ้าไว้
    12 เพื่อช่วยเจ้าให้พ้นจากทางแห่งคนชั่วร้าย จากคนที่พูดตลบตะแลง

    สุดท้ายแล้วนั้น ซาตานและบรรดาลูกสมุน
    คือผีร้ายวิญญาณชั่วต่างๆ รวมทั้งมนุษย์ผู้ที่ติดกับดักการล่อลวงของมัน
    ทั้งได้ติดตามมันและนมัสการมันนั้น ก็จะถูกทิ้งลงไปในบึงไฟนรก

    "....ส่วนพญามารที่ล่อลวงเขาเหล่านั้น
    ก็ถูกโยนลงไปในบึงไฟและกำมะถัน
    ที่สัตว์ร้ายและผู้พยากรณ์เท็จอยู่นั้น
    และมันต้องทนทุกข์ทรมานทั้งกลางวัน
    และกลางคืนตลอดไปเป็นนิตย์ "
    วิวรณ์ 20:10

    "...ผู้ที่ตายแล้ว ทั้งผู้ใหญ่และผู้น้อย
    ยืนอยู่จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า
    และหนังสือต่างๆก็เปิดออก หนังสืออีกม้วนหนึ่งก็เปิดออกด้วย
    คือหนังสือแห่งชีวิต
    และผู้ที่ตายไปแล้วก็ถูกพิพากษาตามข้อความที่จารึกไว้ในหนังสือเหล่านั้น ตามที่เขาได้กระทำ..
    และผู้ใดที่ไม่มีชื่อจดไว้ในหนังสือแห่งชีวิต
    ผู้นั้นก็ถูกทิ้งลงไปในบึงไฟ"
    วิวรณ์ 20:12-15
    [​IMG]

    **ผู้เรียบเรียงมีความหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เนื้อหาสาระเหล่านี้น่าจะเพียงพอที่จะเปิดมุมมองใหม่ให้ท่านผู้ที่เปิดเข้ามาอ่านได้เข้าใจ และเป็นข้อมูลพื้นฐานในการตัดสินใจเลือกทางเดินที่ถูกต้องให้กับชีวิตของตนเองได้ ขอพระเจ้าพระเยซูคริสต์ช่วยท่านให้รอดจากบ่วงมารด้วยเถิด....^_^
    ที่มา Bloggang.com : Narno7 - Satan/The Fallen Angel Revealed:

    ปล.โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เด็กๆควรมีปกครองคอยให้คำแนะนำ
    </CENTER>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สมาคมลับเหนือสมาคมลับครองโลก ตอนที่ 3 (Knights Templar)

    ใครคือ The Templar????




    <center>[​IMG][​IMG]</center>

    กางเขนอัศวินเทมพลาร์




    สัญลักษณ์อัศวินเทมพลาร์




    <center>[​IMG][​IMG]</center>



    เทมพลาร์บูชาปีศาจบาโฟเมต(Baphomet/Satan)





    <center>[​IMG]</center>

    เทมพลาร์เป็นที่มาของฟรีเมสัน




    <center>[​IMG]</center>จากข้อมูลของ Nesta H. Webster, Secret Society and Subversive movement, (Christian Book of America, 1924)พบว่า ในปี 1118 ซึ่งเป็นเวลา 19 ปีหลังจากสงครามครูเสดครั้งแรกสิ้นสุดลงซึ่งมุสลิมพ่ายแพ้นั้น

    อัศวินเทมพลาร์ ถูกก่อตั้งขึ้นโดย Hughes de Payens ชนชั้นสูงจากฝรั่งเศส พร้อมกับอัศวินผู้ติดตามอีก 8 คน ก่อตั้งกลุ่มที่มีจุดมุ่งหมายในการปกป้องผู้แสวงบุญในดินแดนศักดิ์สิทธิ กษัตริย์ Baldwin II แห่งเยรูซาเลม ได้อนุญาตให้ทั้ง 9 คนไปอาศัยอยู่ที่บริเวณทิศใต้ของ Temple Mount ซึ่งทั้งชาวคริสต์และอิสลามถือกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ

    ชาวคริสต์เชื่อกันว่าโบสถ์นี้ตั้งอยู่บนซากปรักพังของ Temple of Solomon ในคัมภีร์ไบเบิล และสำหรับชาวมุสลิม กาหลิบอุมัยยะห์อับด์ อัล-มาลิคเคยสร้าง วิหาร โดมทองแห่งเยรุซาเล็มซึ่งภายในบรรจุก้อนหินที่ศาสดามูฮัมหมัดได้รับจากสวรรค์ ณ ที่ตรงนี้

    ซึ่งการที่อัศวินเทมพลาร์มาอาศัยอยู่ในสถานที่สำคัญทางศาสนาอย่างยิ่งยวดเช่นนี้ ทำให้ในภายหลัง กลายเป็นบ่อเกิดของตำนานต่างๆนานา ของ Knights Templar ที่เล่าลือกันว่า พวกเขาพบ The Holy Grail (จอกเหล้าองุ่นที่พระเยซูคริสต์ใช้ในการรับประทานอาหารมื้อสุดท้าย/The last supper)

    ในช่วงเริ่มต้นนั้น พวกอัศวินเทมพลาร์ใช้ชีวิตอย่างสมถะ ประทังชีวิตด้วยของบริจาค จึงได้รับการขนานนามว่า อัศวินผู้ยากไร้ และหลังจากที่อัศวินเทมพลาร์ไปอาศัยอยู่ในสถานที่ ที่เชื่อกันว่าเคยเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Temple of Solomon จึงได้รับการขนานนามอีกว่า อัศวินแห่งโบสถ์โซโลมอน

    9 ปีต่อมา เชื่อเสียงของอัศวินผู้สมถะผู้อุทิศตัวเพื่อปกป้องผู้แสวงบุญ และผลงานดีเด่นต่างๆ แพร่เข้าไปในยุโรป มีผู้บริจาคทรัพย์สินเงินทองมากมาย ทั้งที่ดิน และเงินทองไหลบ่าสู่พวก Knights Templar มากมาย ชนชั้นสูงชาวยุโรปหลายคนยังส่งลูกหลานของตัวเองให้เข้าร่วมกลุ่มด้วย Knights Templar จึงเติบโตอย่างรวดเร็ว และในปี 1139 อัศวินเทมพลาร์ได้รับเกียรติยศอันสูงสุด เมื่อพระสันตปาปา อินโนเซนต์ที่ 2 ประกาศให้พวกอัศวินเทมพลาร์อยู่เหนือกฎหมายของทุกประเทศ ไม่ต้องเสียภาษี และสามารถเดินทางผ่านดินแดนใดก็ได้โดยมิให้ผู้ใดขัดขวาง

    ถึงแม้อัศวินเทมพลาร์จะเป็นกลุ่มที่เน้นหนักไปในด้านการทหาร แต่สมาชิกที่ไม่ได้เป็นนักรบก็มีหน้าที่คอยบริหารจัดการทรัพย์สินต่างๆและอำนวยความสะดวกให้กับนักรบ โดยในกลุ่มอัศวินเทมพลาร์แบ่งออกเป็น 4 ส่วน - อัศวิน ถูกฝึกฝนในแบบของทหารม้าหนัก แต่งกายด้วยสีขาวและสัญลักษณ์กางเขนสีแดง - Sergeants มาจากชนชั้นที่อยู่ต่ำกว่าอัศวิน ทำหน้าที่ในฐานะทหารม้าเบา พวกนี้จะสวมชุดสีน้ำตาล - the serving brothers ทำหน้าที่บริหารจัดการทรัพย์สินของกลุ่ม และทำหน้าที่ติดต่อค้าขาย -the chaplains พระที่ทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณและทางศาสนาให้กลุ่มพวกอัศวินเทมพลาร์เข้าร่วมสมรภูมิสำคัญๆในดินแดนแถบนี้ในฐานะกองทหารชั้นยอด และยังเคยเข้าร่วมกับกองทัพของ Louis VII แห่งฝรั่งเศส และ King Richard I แห่งอังกฤษ ในการรบในดินแดนปาเลสไตน์

    อัศวินเทมพลาร์คือผู้ริเริ่มรูปแบบระบบการธนาคาร

    อัศวินเทมพลาร์มีทรัพย์สินจำนวนมหาศาล และเริ่มให้ผู้แสวงบุญชาวเสปนยืมเงินสำหรับใช้เดินทางไปดินแดนศักดิ์สิทธิในปี 1135

    ปี 1150 Knights Templar ก็เริ่มใช้ระบบใหม่ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบของระบบธนาคาร นั่นคือ เมื่อมีผู้แสวงบุญในยุโรปประสงค์จะเดินทางไปดินแดนศักดิ์สิทธิ พวกเขาจะนำทรัพย์สินทั้งหมดของตนไปฝากไว้กับฐานของอัศวินเทมพลาร์ในประเทศของตน ซึ่งทางอัศวินเทมพลาร์จะออกใบเสร็จซึ่งจดบันทึกรายการทรัพย์สินที่ฝากเอาไว้ให้ผู้แสวงบุญติดตัวไป และเมื่อผู้แสวงบุญกำลังเดินทางไปดินแดนศักดิ์สิทธิ หากต้องการใช้เงินเมื่อไหร่ ก็นำใบเสร็จนี้ไปยื่นต่ออัศวินเทมพลาร์ที่เจอระหว่างทาง และเอาทรัพย์สินของตนออกมาใช้ได้ ด้วยวิธีนี้ผู้ แสวงบุญจะปลอดภัยจากการถูกปล้นชิงกลางทาง เพราะไม่ได้นำของมีค่าติดตัวไปด้วย

    นอกจากมีระบบฝากเงินแล้ว ด้วยความร่ำรวยของอัศวินเทมพลาร์จึงมีหลายต่อหลายคนในยุโรปเข้ามาขอยืมเงิน ไม่ว่าจะเป็นขุนนางมายืมเงินเพื่อไต่เต้าตำแหน่ง แม่ทัพยืมเงินไปสร้างกองทัพ พ่อค้ายืมเงินไปทำธุรกิจ แม้แต่พระก็ยังมายืมเงินจากอัศวินเทมพลาร์เนื่องจากการคิดดอกเบี้ยเป็นเรื่องต้องห้ามของศาสนจักร พวกอัศวินเทมพลาร์จึงไม่ได้คิดดอกเบี้ย แต่คิด"ค่าเช่า"แทน
    อัศวินเทมพลาร์กลายเป็นกลุ่มที่ร่ำรวยและมีอำนาจอย่างมาก ครอบครองที่ดินทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง สร้างปราสาทและโบสถ์มากมาย มีฟาร์มหลายแห่ง ค้าขายสินค้าทั้งส่งออกและนำเข้า มีกองทัพเรือของตัวเอง และครอบครองเกาะไซปรัสทั้งหมด


    อัศวินเทมพลาร์ถึงการณ์ล่มสลาย

    เมื่อกรุงเยรูซาเลมพ่ายต่อสุลต่าน ซาลาดิน การสนับสนุนจากยุโรปก็ตกต่ำลง ในช่วงท้ายปี 1300 กษัตริย์ ฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ได้ยืมเงินจำนวนมากจากอัศวินเทมพลาร์เพื่อใช้ในการทำสงครามกับอังกฤษ แต่ไม่มีเงินพอที่จะใช้คืนได้ เลยหาเหตุเบี้ยวหนี้ สั่งสอบสวนผู้นำของ Templar Grand Master Jacques de Molay ในฐานะเป็นพวกนอกรีต ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธ

    ในวันศุกรที่ 13 ปี 1307 ฟิลิปจับกุมตัวสมาชิกอัศวินเทมพลาร์ทั้งหมดในฝรั่งเศส กล่าวหาว่าพวกอัศวินเทมพลาร์บูชาปีศาจบาโฟเมต(ซาตาน) เป็นพวกนอกรีต และสั่งประหาร ซึ่งทำให้ฟิลิปรอดพ้นจากการเป็นหนี้พวกอัศวินเทมพลาร์ซ้ำฟิลิปยังยึดทรัพย์สินของพวกอัศวินเทมพลาร์ทั้งหมดในฝรั่งเศส


    ด้วยแรงกดดันจากฟิลิป พระสันตปาปาคลีเมนต์จึงสั่งยุบกลุ่มอัศวินเทมพลาร์ที่ดินของอัศวินเทมพลาร์ถูกโอนไปให้พวก Hospitallers และพวกผู้นำในยุโรปก็เอาตามอย่างฟิลิป ประกาศให้พวกอัศวินเทมพลาร์เป็นพวกนอกรีตและยึดทรัพย์สิน ในปี 1314 ผู้นำของอัศวินเทมพลาร์ทั้ง 3 คน ถูกจับเผาทั้งเป็น


    ***ตำนาน ศุกร์ที่ 13
    หลายคนเชื่อว่า ความเชื่อที่ว่าวันศุกร์ที่ 13 เป็นวันโชคร้าย มีสาเหตุมาจากที่พวกอัศวินเทมพลาร์ถูกจับในข้อหาเป็นพวกนอกรีตในวันศุกร์ที่ 13 นี่เอง***



    ตามประวัติ พวกอัศวินเทมพลาร์ตั้งฐานบัญชาการแห่งแรกใกล้ๆ Temple Mount ซึ่งถือเป็นสถานทีศักดิ์สิทธิของคริสเตียน ยิว และมุสลิม


    เชื่อกันว่าTemple Mount ตั้งอยู่บนซากปรักหักพังของโบสถ์โซโลมอนในไบเบิ้ล มีคำล่ำลือมากมายเกี่ยวกับโบสถ์นี้ว่า เป็นสถานที่เก็บวัตถุศักดิ์สิทธิยิ่งยวดเอาไว้ เช่น เป็นสถานที่เก็บ หีบแห่งพันธสัญญา ที่โมเสสใช้ติดต่อกับพระเจ้า บางตำนานก็ว่ามีอุโมงค์ลับใต้วิหารซึ่งเป็นที่เก็บ ชิ้นส่วนของไม้กางเขนที่ใช้ตรึงพระเยซู บางตำนานก็กล่าวว่าในนั้น เก็บเอกสารสำคัญบางอย่างที่มีมาตั้งแต่สมัยพระเยซู ด้วยเหตุหลายคนจึงเชื่อกันว่า พวกอัศวินเทมพลาร์พบเจออะไรบางอย่างในโบสถ์นั้น และสิ่งนั้นทำให้ Knights Templar ก้าวขึ้นสู่อำนาจสูงสุด

    นักวิชาการบางคน เช่น Hugh J. Schonfield มีข้อสันนิษฐานว่า พวกอัศวินเทมพลาร์อาจไปเจอคัมภีร์โบราณ Copper Scroll "ม้วนบันทึกทองแดง" ซึ่งอาจจะเป็นเหตุให้พวก Knights Templar ถูกข้อกล่าวหาว่าเป็นพวกนอกรีต


    (คัมภีร์ Copper Scroll คือส่วนหนึ่งของคัมภีร์ Dead Sea Scrolls และ Lilith of Dead Sea ซึ่งมีการค้นพบในถ้ำคูมรัน เป็นคัมภีร์โบราณที่เกี่ยวกับศาสตร์ลึกลับที่เขียนไว้เป็นรหัสลับ ต้องมีการติดต่อกับวิญญาณต่างๆจึงจะเข้าใจ และคัมภีร์นี้เองเป็นที่มาของลัทธินอสติค (Gnosticism) และในขณะนั้นทางวาติกัน(คาทอลิค)ได้สั่งห้ามไม่ให้มีการเผยแพร่คัมภีร์นี้ออกสู่สาธารณะ)

    ถึงแม้อัศวินเทมพลาร์จะล่มสลายลง แต่ยังคงเหลือสมาชิกอีก 100 คนที่ยังหลงเหลือในยุโรป กองเรือของพวกอัศวินเทมพลาร์ได้หลบซ่อนตัวเองและตั้งชื่อใหม่ว่า “the Knights of Christ”


    จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์พบว่า ภรรยาของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นลูกสาวของ Knight of Christ คนหนึ่ง และในเรือของโคลัมบัสก็มีกางเขนของเทมพลาร์อยู่ในนั้นด้วย โคลัมบัสได้ล่องเรือข้ามมหาสมุทรเพื่อแสวงหาแผ่นดินใหม่คือประเทศอเมริกาปัจจุบัน



    สมาคม Freemasonry รับธรรมเนียมปฏิบัติและพิธีกรรมมากจากกลุ่ม Knights Templar ซึ่งก็คือลัทธิบูชาซาตานหรือปีศาจบาโฟเมตนั่นเอง

    “อัศวินเทมพลาร์หลายคนได้ออกเดินทางไปกอบกู้สถานศักดิ์สิทธิ์ในดินแดนปาเลสไตน์จากชาวSaracen (แขกซาราเซน, ชาวมุสลิมโบราณ) และได้ก่อตั้งสมาคมลับชื่อ “สมาคมฟรีเมสัน” เพื่อสานต่อเจตนารมรณ์เดิมคือการสร้างวิหารโซโลมอนขึ้นมาใหม่” (จาก Secret Society and Suversive Movement, Nesta Webster, (South Pasadena, California:Emissary Publication, 1980 Origin pubished in 1924) p.139)


    [​IMG][​IMG]


    เทมพลารปัจจุบัน



    [​IMG]

    [​IMG][​IMG]



    เทมพลารปัจจุบัน คือ สมาคม Freemason



    To be continue...



    ที่มา Bloggang.com : Narno7 -

    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=29-09-2009&group=1&gblog=1
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=29-09-2009&group=1&gblog=2
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=29-09-2009&group=1&gblog=4
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=01-10-2009&group=1&gblog=5
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=debunk&date=03-10-2009&group=1&gblog=6

    ปล.โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เด็กๆควรมีผู้ปกครองคอยให้คำแนะนำ
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2010
  18. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616
    จากข้อความที่คุน k.kwan กล่าวว่า :..ท่านอาจจะแปลกใจว่าทำไมซาตานมันมีอำนาจนักหนาในการครองใจคน รวมทั้งการพัฒนาวิชาการต่างๆรวมทั้งเทคโนโลยีใหม่ๆ การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ
    <center>
    คำตอบคือว่า ซาตานนั้นเป็นวิญญาณและพระเจ้าเคยให้อำนาจมันมาก่อน และพวกนี้ได้สติปัญญาที่มาจากสวรรค์ทั้งสิ้น แต่นำมาใช้ในการมอมเมามนุษย์และการทำลายล้าง เพื่อแย่งมนุษย์มาจากพระเจ้า มันจึงใช้ความพยายามทำทุกอย่างเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้หลงไปติดตามมัน ..

    </center>[/QUOTE]

    นี่แหละ สาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมมนุษย์ถึงมีวิวัฒนาการแบบก้าวกระโดดสุดขั้วจนเจริญมาเป็นโฮโมเซเปี้ยนส์จนถึงทุกวันนี้โดยใช้เวลาน้อยกว่าความเป็นจริงหลายเท่า!!! อย่างเช่นการที่มนุษย์จากอดีตจะพัฒนามาถึงทุกวันนี้ได้ มีคอมพิวเตอร์ใช้กันถ้วนหน้าแบบทุกวันนี้นั้น น่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายแสนปี จนถึงเป็นล้านปีเลยทีเดียว เเต่ทว่า เรากลับใช้เวลาวิวัฒนาการจากโฮโมเซเปี้ยนส์มาถึงวันนี้ ...ใช้เวลาไม่ถึงแสนปีครับ!? โอ้ ให้ตายเถอะ จอร์จี้!! ก็นี่แหละครับ พวก fallen ที่ได้ทรยศต่อพระเจ้าและได้นำเทคโนโลยีต่างๆลงมายังโลกนี้ และ ...บู้ม!! กลายเป็นโกโก้ครั้นช์ ให้เราได้กินกันอยู่ทุกวันนี้นั่นเอง (ขอนอกเรื่องซักนิด ฮาๆ)


    ต่อด้วยเรื่องข้อเท็จจริงกันดีกว่า ...เรื่องการก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการของมนุษย์

    ว่าด้วยปริศนาในปัจจุบันเรื่องโครโมโซมและ DNA ของมนุษย์ที่ขาดหายไปส่วนหนึ่ง ที่เรียกกันว่า Missing DNA (ซึ่งผู้ที่เรียนมาในเรื่องนี้น่าจะพอเข้าใจ หรือไม่ก็ถามครู กุ้ก เอาเองนะครับ)

    จาก ส่วนที่ขาดหายไปนี้ ทำให้เราตรวจหาบันทึกเส้นทางของการวิวัฒนาการที่อยู่ใน DNA ของพวกเรา พบว่ามันได้หายไปส่วนหนึ่ง และเป็นส่วนสำคัญเสียด้ายเพราะมันคือจุดกระโดดของการวิวัฒนาการของมนุษยชาติ ก่อนหน้านั้นวิวัฒนาการของมนุษย์อยู่ในไลน์ของสัตว์โลกทั่วไป แต่หลังจาก ตำแหน่งของ Missing เป็นต้นมา วิวัฒนาการของมนุษย์ก็เป็นไปในแบบกราฟพุ่ง หรือการก้าวกระโดดที่รวดเร็วจนแทบไม่น่าเชื่อ

    ชาร์ล ดาวินได้เสนอ ทฤษฎีวิฒนาการว่าด้วยความต้องการอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ ว่านั่นคือสาเหตุที่ทำให้มนุษย์พัฒนามาถึงจุดนี้ แต่จะมีใครสักคนตอบได้ไหมว่า เกิดอะไรขึ้นกับส่วนที่หายไปในวิวัฒนาการช่วงนั้น ที่ทำให้มนุษย์พัฒนาขึ้นมาแตกต่างไปจากสัตว์โลกอื่นๆ? ทฤษฎีวิวัฒนาการนี้ยังคงใช้ได้กับสัตว์เกือบทั้งหมด ยกเว้นมนุษย์!!! โอเคครับ... ไม่มีใครเถียงว่าทฤษฎีของดาร์วินเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพียงแต่ท่านเชื่อหรือไม่ครับว่า ถ้าการวิวัฒน์ตามทฤษฎีนี้มีอยู่จริง มันอาจจะเกิดขึ้นที่ดาวดวงอื่น แต่ไม่ใช่โลกของเราอย่างเด็ดขาด ทำไมน่ะหรือครับ ก็เพราะว่า ปัจจุบันเราพิสูจน์ได้แล้วว่า สิ่งมีชีวิตที่เป็นบรรพบุรุษของเรานั้น แท้ที่จริงแล้วโครงสร้างและอื่นๆของพวกนั้นไม่ได้ส่อแววเลยว่า จะสามารถวิวัฒนาการมาเป็นโฮโม เซเปี้ยน มนุษย์ปัจจุบันอย่างพวกเราเลยแม้แต่น้อย และล่าสุดกรณีของการศึกษา DNA ของโฮมินอยด์ประเภท ออสตรัลโลพิทธิคัส และโฮโม อิเร็คตัส ปรากฏว่าไม่มีวี่แววของความเกี่ยวข้องกับมนุษย์ปัจจุบนเลย ซึ่งถ้าทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นเป็นจริงบนโลกเราแล้วไซร้ เจ้าห่วงโซ่ที่หายไปมันจะไปอยู่ส่วนไหนของโลกกันครับ ช่วยตอบที?

    แต่..คำถามนี้ก็ยังคงไม่มีคำตอบ นั่นเพราะ ไม่มีใครทราบโดยแท้จริง


    ราวกับว่ามีบางคน จงใจทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนั้น ใช่แล้วครับ แนวโน้มมันเป็นแบบนั้นจริงๆซะด้วย!!

    หากเป็นเช่นนั้นจริง แล้วเหตุใดพวกเขาต้องจงใจปรับ เปลี่ยน DNA เพื่อพัฒนาสายพันธุ์มนุษย์ด้วย? การกระทำที่เข้ามาแทรกแซงการเติบโตของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์หนึ่งนั้น ไม่ต่างอะไรกับนักวิทยาศาสตร์ที่หมกมุ่นกับการทดลองเลยสักนิด!!

    "ความเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆที่เกิดขึ้นใน แต่ละสปีชี่ส์กินเวลาอย่างน้อยพันล้านปี ขึ้นไป ในขณะที่ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆจะกินเวลาสิบถึงร้อยล้านปี ซึ่งกรณีของมนุษยชาติ มันแหกกฏเกณฑ์ดังกล่าวอย่างไม่แยแส ระยะเวลาที่ควรใช้ในการวิวัฒน์ผิดไปจากทฤษฎีราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2010
  19. somg

    somg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2008
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +0
    สรุปว่าพวกมันกําลังจะฆ่าคน....ทําอะไรไปในตอนนี้ก็เขาทางพวกเขาหมด...เพราะเขากําลังจะฆ่าคน...God they are going to kill someone...Oh my god
     
  20. jitakorn

    jitakorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +16
    โดยปกติส่วนตัวผมก็ไม่ได้หวาดกลัวอะไรแล้ว ที่ดูๆไปก็เพื่อความไม่ประมาท เกิดก็ได้ไม่เกิดก็ดี แต่ข้อสงสัยต่างๆยังคงมีอยู่ต่อไปว่าทำไมเหตุการณ์ต่างๆถึงได้เชื่อมโยงกันอย่างลงตัว มันบังเอิญหรือจงใจ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...