ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

17 ภูมิประเทศแปลกๆ ที่ไม่คิดว่าจะมีในโลก "มาดูกัน"

<SCRIPT type=text/javascript> var id=454611; </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="topic.js"></SCRIPT>
1. เดอะเวฟ (The Wave) ที่รัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา

​

"เดอะเวฟ" คือ ภูเขาหินทรายที่ฟอร์มตัวในลักษณะคล้ายคลื่นลาดชัน เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 190 ล้านปีก่อนหรือในยุคจูราสสิก เนื่องจากพื้นที่แถบนี้มีความเปราะบางมาก ทางการจึงจำกัดให้เข้าชมได้เพียงวันละไม่เกิน 20 คน และต้องเดินเท้าเข้าไปเกือบ 5 ก.ม. จึงจะถึงดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้

2. Tessellated Pavement บนเกาะแทสเมเนีย (รัฐหนึ่งในประเทศออสเตรเลีย)

​

นี่ คือภาพลานหินตะกอนบริเวณชายฝั่งที่ Eaglehawk Neck บนเกาะแทสมาเนีย ซึ่งถ้าหากมองเผินๆ จะแลดูคล้ายมีใครนำแผ่นกระเบื้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ม าวางเรียงรายริมทะเล (บริเวณขอบสี่เหลี่ยมที่เราเห็นเป็นแนวเส้นตรงนั้น เกิดจากแรงตึงเครียดของผิวโลก ผนวกกับการกัดเซาะอย่างต่อเนื่องของคลื่นและแรงเสียด สีของทราย)

3. หินรูปทรงประหลาด ในทะเลทรายขาว (White Desert) ประเทศอียิปต

​

ทะเล ทรายแห่งนี้ตั้งอยู่ใน Farafra Oasis มีลักษณะเป็นสีขาวและครีม ประกอบด้วยกลุ่มหินชอล์ครูปทรงประหลาดขนาดใหญ่มากมาย อันเป็นผลงานของพายุทรายที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

4. บ่อน้ำพุร้อนสีเลือด (Blood Pond Hot Spring) ที่เบปปุ ประเทศญี่ปุ่น

​

น้ำพุ ร้อนสีเลือด (Chinoike Jigoku) เป็นหนึ่งในบ่อน้ำพุร้อนชื่อดังของเมืองเบปปุ ในจังหวัดโออิตะ บนเกาะคิวชู สาเหตุที่น้ำพุมีสีเลือดเนื่องจากมีธาตุเหล็กอยู่ในป ริมาณมากนั่นเอง


5. Giant's Causeway ที่ไอร์แลนด์เหนือ

​

Giant's Causeway เป็น ชายฝั่งที่เกิดจากการเย็นตัวของหินภูเขาไฟเมื่อป ระมาณ 50,000 ถึง 60,000 ปีที่ผ่านมา ก่อให้เกิดหินรูปหกเหลี่ยมและหินแท่งสี่เหลี่ยมกว่า 40,000 แท่ง องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียน Giant´s Causeway เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1986 (พ.ศ. 2529

6. ทะเลเกลือ (salt flats) ที่ Salar de Uyuni ประเทศโบลิเวีย

​

จริงๆ แล้วที่ราบเกลือหรือทะเลเกลือลักษณะนี้มีอยู่หลายแห่ งด้วยกัน แต่ทะเลเกลือที่ Salar de Uyuni ของประเทศโบลิเวียนั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากถึง 10,582 ตารางกิโลเมตร

7. ป่าหิน (Stone Forest) เมืองคุนหมิง มลฑลยูนาน ประเทศจีน

​

อุทยาน ป่าหิน ( Shilin National Park) ในเมืองคุนหมิง จัดเป็นป่าหินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่มากถึง 350 ตารางกิโลเมตร แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมเพียง 12 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น เดิมทีหินปูนเหล่านี้อยู่ใต้ผิวโลก แต่ภายหลังได้ถูกดันขึ้นมาในลักษณะเดียวกับหินงอก เชื่อกันว่าป่าหินแห่งนี้มีอายุราว 270 ล้านปีเลยทีเดียว

8. ธารน้ำแข็ง Taylor ใน McMurdo Dry Valleys ที่แอนตาร์คติกา (ขั้วโลกใต้)

​

ธาร น้ำแข็งอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ มีพื้นที่ส่วนหนึ่งที่โดดเด่นเป็นสีแดงส้ม ตัดกับน้ำแข็งส่วนอื่นๆ ซึ่งมีสีขาวโพลน เนื่องจากพื้นที่แถบนั้นเต็มไปด้วยออกไซด์ของเหล็ก (iron oxide) ซึ่งก็คือ "สนิม" นั่นเอง ด้วยเหตุนี้บริเวณดังกล่าวจึงได้รับการขนานนามตามลัก ษณะทางกายภาพว่า "น้ำตกเลือด" (Blood Falls)

9. ทะเลสาปสปอท เลค (Spotted Lake) – ประเทศแคนาดา

​

“สปอ ท เลค” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทะเลสาปที่มีแร่ธาตุชนิดต่างๆ อาทิ แมกนีเซียม ซัลเฟต, แคลเซียม และโซเดียม ซัลเฟต ในปริมาณเข้มข้นมากที่สุดในโลก แต่น่าเสียดายที่ทะเลสาปแห่งนี้อยู่ในที่ดินของเอกชน นักท่องเที่ยวจึงทำได้แค่มองจากราวรั้วกั้นริมถนนเท่ านั้น (ส่วนที่เป็นจุดๆ คือน้ำ นอกนั้นเป็นส่วนของแร่ธาตุนานาชนิด ที่สามารถลงไปเดินสำรวจได้)

10. ทะเลทรายแบล็ค ร็อค (Black Rock Desert) ที่รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา

​

ทะเล ทรายแบล็คร็อค คือ ก้นทะเลสาปที่แห้งสนิท ครั้งหนึ่งดินแดนแถบนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาปใน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่มีชื่อว่า "Lahontan" ซึ่งปรากฏอยู่ในสมัย 18,000-7,000 พันปีก่อนคริสตกาล ในช่วงที่ทะเลสาปโบราณแห่งนี้มีระดับน้ำสูงสุด (เมื่อประมาณ 12,700 ปีก่อน) ทะเลทรายแบล็คร็อคเคยอยู่ใต้น้ำที่มีความลึกถึง 150 เมตรเลยทีเดียว

11.ถ้ำคริสตัล (Crystal Cave) ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา

​

ถ้ำ คริสตัล เป็น 1 ใน 240 ถ้ำ (ที่ถูกค้นพบ) ภายในอุทยานแห่งชาติ Sequoia ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ถ้ำดังกล่าวเป็นถ้ำ "หินอ่อน" ธรรมชาติ ที่ภายในมีอุณหภูมิคงที่ประมาณ 9 องศาเซลเซียส ซึ่งการจะเข้าไปชมภายในถ้ำต้องอาศัยไกด์ทัวร์เป็นผู้ นำทางเท่านั้น

12. ทุ่งหินรูปรังผึ้ง Bungle Bungles ในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย

​

ทุ่ง หินทรายที่มีรูปทรงคล้ายรังผึ้ง หรือ Bungle Bungles นี้ เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Purnululu ที่องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกเมื่อ ปี ค.ศ. 1987 (พ.ศ. 2530) กลุ่มหินดังกล่าวประกอบด้วยหินทรายและหินกรวดมน ซึ่งเมื่อประมาณ 375-350 ล้านปีก่อนหินเหล่านี้เคยเป็นตะกอนในลุ่มน้ำ "Ord"

13. ภูเขาไฟ Redoubt ที่รัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา

​

Redoubt เป็นภูเขาไฟมีพลัง (active volcano) อายุนับพันๆ ปี ที่ยังคงคุกรุ่นและเกิดการปะทุหรือระเบิดขึ้นบ่อยครั ้ง โดยครั้งล่าสุดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม ที่ผ่านมา

14. ดินแดนโบราณ คัปปาโดเกีย ประเทศตุรกี

​

คัป ปาโดเกีย ได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เมื่อปี ค.ศ.1985 (พ.ศ. 2528) ดินแดนดังกล่าวมีภูมิประเทศที่แปลกตาซึ่งเกิดจากจากล าวาภูเขาไฟที่ไหลออกมาปกคลุมพื้นที่ เมื่อวันเวลาผ่านไป พายุ ลม ฝน ได้เป็นตัวแปรที่ก่อให้เกิดการแปรสภาพเป็นหุบเขา ร่องลึก เนินเขา กรวยหิน และเสารูปทรงต่างๆ ที่งดงาม บางส่วนมีประชาชนอาศัยอยู่ภายใน

15. ทะเล (สาป) เดือด Boiling Lake ประเทศโดมินิกา (Commonwealth of Dominica)

​

“Boiling Lake” เป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลก (รองจากทะเลสาป Frying Pan Lake ของประเทศนิวซีแลนด์) มีความกว้างราว 60 เมตร ลึก 59 เมตร อุณหภูมิริมทะเลสาปอยู่ที่ประมาณ 82 – 91.5 องศาเซลเซียส ระดับน้ำภายในทะเลสาปแห่งนี้มีลักษณะขึ้น-ลงตลอดเวลา โดยเมื่อเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2006 (พ.ศ. 2549) น้ำในทะเลสาปแห่งนี้ได้แห้งเหือดหายไป และเพิ่งกลับมาอยู่ในระดับปกติอีกครั้งเมื่อเดือนมกร าคมที่ผ่านมา

16. แม่น้ำสีแดง (Rio Tinto) ที่ประเทศสเปน

​

บริเวณ พื้นที่ตามแนวชายฝั่งแม่น้ำ Río Tinto มีการทำเหมืองทองแดง เงิน ทอง และแร่ธาตุอื่นๆ มาตั้งแต่สมัยโบราณ (ราว 5 พันปีก่อน) ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำดังกล่าวมีค่าความเป็นกรดสูงมาก ส่วนสาเหตุที่น้ำมีสีแดงก็เนื่องมาจากก้อนหินที่อยู่ ในแม่น้ำแห่งนี้ประกอบด้วยธาตุเหล็กในปริมาณเข้มข้นน ั่นเอง เหมืองในแถบนี้ถูกปิดมานานนับ 10 ปี แต่เนื่องจากทองแดงมีราคาสูงขึ้น เจ้าของเหมืองจึงมีแผนเปิดเหมืองทองแดงอีกครั้งในปีห น้า

17. หุบเขาโลกพระจันทร์ (Vale de Lua) ที่ประเทศบราซิล

​

หุบ เขาโลกพระจันทร์ หรือ "the valley of the moon" เป็นที่ราบสูงโบราณที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1.8 พันล้านปี โดยพื้นที่ว่างระหว่างก้อนหินจะมีน้ำจากแม่น้ำ San Miguel แทรกอยู่ภายใน ดินแดนประหลาดแถบนี้เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Chapada dos Veadeiros ซึ่งองค์การยูเนสโกประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ. 2001 (พ.ศ. 2544) ที่ผ่านมา <TABLE style="MARGIN: 10px 0px 0px; FONT-SIZE: 10pt" width="100%"><TBODY><TR><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เฮติประกาศยุติการค้นหาและกู้ภัยแผ่นดินไหวแล้ว​

​

เจนีวา 23 ม.ค.- สหประชาชาติแถลงวันนี้ว่า รัฐบาลเฮติได้ประกาศยุติปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามบรรเทาทุกข์หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7 ริกเตอร์ และสามารถช่วยชีวิตผู้คนไว้ได้อย่างน้อย 132 คนจากซากปรักหักพัง

องค์การเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติออกรายงานล่าสุดเกี่ยวกับความพยายามในการบรรเทาทุกข์ว่า รัฐบาลเฮติได้ประกาศยุติขั้นตอนปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยแล้ว โดยล่าสุดเมื่อวานนี้ ช่วยชีวิตหญิงชรา อายุ 84 ปี และผู้ชาย อายุ 22 ปี ออกมาจากซากอาคารในกรุงปอร์โตแปรงซ์ได้เป็นผลสำเร็จ หลังเหตุแผ่นดินไหวผ่านมาแล้วถึง 10 วัน. -สำนักข่าวไทย

2010-01-23 14:44:32

พายุพัดกระหน่ำเมืองชายแดนของเม็กซิโก จมอยู่ใต้น้ำ​

​

เม็กซิโก 23 ม.ค. - สภาพอากาศเลวร้ายเนื่องจากพายุพัดกระหน่ำ ทำให้เมืองชายแดนของเม็กซิโกต้องจมอยู่ใต้น้ำ

น้ำท่วมฉับพลันที่เกิดจากพายุพัดถล่มมาหลายวัน ทำให้พื้นที่บางส่วนของเมือติฮัวนา มีน้ำท่วมและโคลนสูงระดับเข่า บ้านเรือนอย่างน้อย 3 หลัง ที่สร้างบนดินอ่อนพังถล่ม แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ น้ำท่วมทำให้ชาวบ้านอย่างน้อย 200 ครัวเรือน ต้องอพยพออกไปอยู่ยังที่พักชั่วคราว ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาเด็ก 2 คน วัย 7 ขวบ และ 2 ขวบ ที่ถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากพัดหายไปตั้งแต่เมื่อวันพุธ. -สำนักข่าวไทย

2010-01-23 13:11:25

รัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลีย อากาศร้อนจัดถึง 43 องศา​

​

ออสเตรเลีย 23 ม.ค. - ที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลีย อากาศกำลังร้อนจัด วัดอุณหภูมิได้ถึง 43 องศาเซลเซียส

ชาวนครซิดนีย์และใกล้เคียง ต่างพากันหนีร้อนไปรับความชุ่มฉ่ำตามบ่อน้ำพุในที่สาธารณะ หรือตามชายหาดเย็น หลังจากที่อากาศร้อนจัด อุณหภูมิปรอทพุ่งขึ้นไปถึง 43 องศาเซลเซียส ก่อนจะเย็นลงจนถึงขั้นผิดปกติในช่วงบ่าย โดยอุณหภูมิลดลงเหลือ 26 องศาเซลเซียส ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ขณะที่ทางการสั่งห้ามจุดไฟเผาหญ้าเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าไฟจะไหม้ลาม อย่างไรก็ตาม แม้มีความเสี่ยงว่าจะเกิดไฟป่า แต่เจ้าหน้าที่ป้องกันไฟป่าในรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ระบุว่า เกิดไฟป่าน้อยกว่าที่คาดไว้. -สำนักข่าวไทย

2010-01-23 16:08:38

พื้นที่แถบชายฝั่ง ตอ.ของจีน ยังคงเผชิญกับอากาศหนาวเย็น​

​

จีน 23 ม.ค. - พื้นที่แถบชายฝั่งตะวันออกของจีน ยังคงเผชิญกับสภาพอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 40 ปี ผืนน้ำในทะเลกลายเป็นน้ำแข็งขยายวงกว้าง

อากาศหนาวจัดผิดปกติและเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี ยังคงแผ่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ทางเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของมณฑลซินเจียง ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก เพราะมีหิมะตกหนัก น้ำในทะเลโป๋ไห่ กลายสภาพเป็นน้ำแข็งกินบริเวณกว้างถึง 45% ของพื้นที่ทั้งหมด บางจุดน้ำแข็งเกาะตัวหนาถึง 20 เซนติเมตร ส่งผลกระทบต่อประชาชนในมณฑลชานตง มากกว่า 95,000 คน ทั้งยังสร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการประมง เป็นเงินถึงกว่า 1 พันล้านหยวน หรือกว่า 5 พันล้านบาท. -สำนักข่าวไทย

2010-01-23 16:07:44

การผลิตน้ำมันดิบในจีนเสี่ยงเสียหายหนักขึ้นจากทะเลที่กลายเป็นน้ำแข็ง​

​

ปักกิ่ง 23 ม.ค. -สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า ปัญหาทะเลกลายเป็นน้ำแข็งที่สร้างงความเดือดร้อนแก่การคมนาคม และธุรกิจต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งตอนเหนือของจีนจะทวีความรุนแรงขึ้นในอีก 2-3 วันข้างหน้า ซึ่งจะยิ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบใต้ทะเลของจีน

บริษัทชิโนเปค เผยว่า สภาพอากาศที่เย็นจัดทำให้น้ำในทะเลโบไห่จับตัวเป็นน้ำแข็งหนา 30 ซ.ม.และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการผลิตน้ำมันบริเวณแหล่งเซิงลี่ ขณะนี้ชิโนเปคต้องปิดแท่นขุดเจาะน้ำมันไปแล้ว 6 แห่งจากทั้งหมด 8 แห่ง เนื่องจากทะเลที่จับตัวเป็นน้ำแข็งแต่ไม่ยอมให้รายละเอียดของความเสียหายอย่างชัดเจน แต่เมื่อปี 2551 แหล่งผลิตน้ำมันแห่งนี้มีปริมาณการผลิตวันละ 554,800 บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า พื้นที่บริเวณชายฝั่งตอนเหนือของจีนเผชิญปัญหาทะเลกลายเป็นน้ำแข็งครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 40 ปี โดยน้ำแข็งเริ่มจับตัวในทะเลโบไห่ และทะเลเหลืองมาตั้งแต่ต้นเดือนนี้จากอุณหภูมิที่ดิ่งลงอย่างฮวบฮาบ และคาดว่าจะยิ่งขยายเป็นวงกว้าง หลังสร้างความเสียหายไปแล้ว 2,200 ล้านหยวน (ราว 10,626 ล้านบาท). -สำนักข่าวไทย

2010-01-23 14:41:44

หลายพื้นที่ในอินเดียยังเผชิญภัยหนาว​

​

อินเดีย 23 ม.ค. - เมืองหลวงและพื้นที่หลายแห่งของอินเดีย ยังต้องเผชิญกับสภาพหมอกลงจัด เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางของผู้คน

กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย ยังคงเผชิญกับสภาพหมอกลงจัด ทัศนวิสัยที่เลวร้ายมองเห็นได้ในระยะเพียง 100 เมตร ส่งผลกระทบต่อการเดินทางทั้งทางรถไฟ และรถยนต์ นอกจากนี้ยังทำให้เที่ยวบินของสายการบินต่างๆ ทั้งในและระหว่างประเทศมากกว่า 50 เที่ยวต้องออกเดินทางช้ากว่ากำหนดราว 3-4 ชั่วโมง ส่วนการรถไฟต้องยกเลิกการเดินรถ 32 ขบวน กรมอุตุนิยมวิทยาของอินเดีย เผยว่า จะยังมีหมอกลงจัดต่อไปอีก 5-6 วัน เนื่องจากสภาพอากาศผันผวน และมีความชื้นสูง. -สำนักข่าวไทย

2010-01-23 17:18:39

บิยองเซ่-มาดอนน่าร่วมรายการทีวีช่วยผู้ประสบภัยเฮติ​

​

ลอสแองเจลิส 22 มค.-ผู้จัดงาน กล่าวว่า นักร้องชั้นนำบิยองเซ่ และมาดอนน่า ตกลงร่วมรายการทีวี “โฮป ฟอร์ เฮติ นาว” รวมคนบันเทิงช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ ซึ่งจอร์จ คลูนีย์ นักแสดงฮอลลีวู้ด จะร่วมบริจาคเงิน 1 ล้านดอลลาร์ (33 ล้านบาท) ในงานนี้ด้วย

นักร้องสาวบิยองเซ่ มีคิวขึ้นแสดงที่กรุงลอนดอน ส่วน มาดอนน่า จะขึ้นเวทีที่นครนิวยอร์ก ในงานการกุศลค่ำวันศุกร์ซึ่งจะได้ถ่ายทอดในเครือข่ายช่องโทรทัศน์ 4 สถานีหลักของสหรัฐ รวมทั้งเคเบิลทีวี 12 ช่อง และเว็บไซต์บนอินเทอร์เน็ต จอร์จ คลูนีย์ นักแสดงฮอลลีวู้ดซึ่งเป็นผู้จัดงานการกุศลช่วยเหลือเฮติ จะมอบเงินช่วยเหลือ 1 ล้านดอลลาร์ อย่างเป็นทางการในรายการโทรทัศน์ดังกล่าว

ส่วนบุคคลมีชื่อเสียงอื่น ๆ ที่จะมาร่วมงาน ได้แก่ อดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน โบโน นักร้องนำวงยูทู นักร้องชื่อดังบรูซ สปริงทีน เจย์-ซี นักร้องเพลงแรพ ร่วมด้วยนักแสดงฮอลลีวู้ด เดนเซล วอชิงตัน จูเลีย โรเบิร์ตส ทอม แฮงค์ และเมอรีล สตรีพ สถานีโทรทัศน์เอ็มทีวี ผู้ร่วมจัดงาน คาดหวังว่า งานการกุศล "Hope for Haiti Now: A Global Benefit for Earthquake Relief" จะเป็นรายการทีวีที่ระดมเงินบริจาคจากหลายสถานที่มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ .-สำนักข่าวไทย

2010-01-22 09:24:32

ข่าวภายในประเทศ

ยอดผู้รับฉีดวัคซีนหวัด 2009 ช่วง 10 วัน กว่า 40,000 ราย ​

​

กรมควบคุมโรค 22 ม.ค. - นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ในกลุ่มเป้าหมายที่มีความเสี่ยงสูง 5 กลุ่ม ตั้งแต่วันที่ 11-21 มกราคม 2553 รวมระยะเวลา 10 วัน ได้รับรายงานมีผู้รับวัคซีนแล้ว 40,865 ราย ซึ่งขณะนี้ทุกจังหวัดได้ดำเนินการฉีดวัคซีนครบทุกจังหวัดแล้ว และวัคซีนได้จัดส่งไปยังโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั้งหมด 1,194 แห่ง จำนวนวัคซีน 1,029,970 โดส แยกเป็นโรงพยาบาลของรัฐ 994,090 โดส และโรงพยาบาลเอกชน 35,880 โดส

ส่วนการเฝ้าระวังอาการข้างเคียงหลังได้รับวัคซีน มีรายงาน 23 ราย อาการไม่รุนแรง 19 ราย เช่น เป็นไข้ ปวดเมื่อย เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ประจำเดือนมาก่อนกำหนด ใจสั่น มีผื่นขึ้น ชาบริเวณใบหน้า ปวดบวมแดงบริเวณฉีด ทุกรายอาการเป็นปกติหมดแล้ว และผู้ที่มีอาการรุนแรง 4 ราย ประกอบด้วย 1. เพศชาย อายุ 31 ปี อาการปากเบี้ยวด้านซ้าย 2. เพศหญิง อายุ 38 ปี มีอาการไข้ หอบเหนื่อย ไตวาย 3. หญิงตั้งครรภ์ อายุ 31 ปี เด็กในครรภ์เสียชีวิตหลังคลอด 4. เพศหญิง อายุ 29 ปี อาการแพ้วัคซีนมีผื่นขึ้น หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก หลังฉีดวัคซีน 5 นาที ซึ่งอยู่ในช่วงเฝ้าระวังสังเกตอาการ ได้รับการดูแลรักษา ขณะนี้เป็นปกติแล้ว

ดังนั้น การฉีดวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายเสี่ยงสูงจึงมีประโยชน์มาก หากต้องการคำแนะนำหรือความช่วยเหลือ รวมถึงการเปิด Call Center ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ผู้รับบริการแจ้งอาการหรือข้อมูลได้ตลอด 24 ชั่วโมง 16 หมายเลข 082 7881619 ถึง 082 7881634 และประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0 2590 3333. - สำนักข่าวไทย

2010-01-22 17:42:12

หญิงไทยเล่านาทีระทึกจากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ​

​

23 ม.ค. - คนไทย 1 ใน 7 คน ที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยแล้วเช้าวันนี้ แต่หลังนาทีชีวิต คนไทยรายดังกล่าวต้องพบสิ่งสะเทือนใจยิ่งกว่าจะเป็นเหตุใดติดตามได้จากรายงาน. -สำนักข่าวไทย

ดูวิดีโอคลิปได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

หญิงไทยเล่านาทีระทึกจากเหตุแผ่นดินไหวในเฮติ

2010-01-23 19:19:46

ที่มา http://news.mcot.net/social/

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตือน “เมล็ดละหุ่งแดง” มีพิษ ทำปากบวม อาเจียน รุนแรงอาจถึงตาย! </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 มกราคม 2553 10:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

"ละหุ่งแดง" ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต​

สธ.ออกโรงเตือนประชาชนระวังลูกหลานกิน “เมล็ดละหุ่งแดง” หรือเมล็ดฝิ่นต้น เหตุมีสารพิษ แคลเซียมออกซาเลต ทำให้คลื่นไส้อาเจียน ปากบวมพอง พูดไม่ชัด รุนแรงอาจถึงขั้นเสียชีวิต เผยปีนี้พบเด็กนักเรียนที่ จ.น่าน ได้รับพิษแล้ว 13 ราย แนะโดนพิษอาการไม่รุนแรงให้ดื่มนม เพื่อลดการดูดซึมสารพิษก่อนส่งถึงมือหมอ

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในแต่ละปีจะมีเด็กๆ ได้รับพิษจากการกินเมล็ดพืชอยู่เป็นประจำ ซึ่งในปี 2552 สำนักระบาดวิทยา รายงานว่ามีเด็กนักเรียนชั้นป.1 และ ป.2 ในอำเภอปัว จังหวัดน่าน อายุ 6-8 ปี ได้รับพิษจากการการกินเมล็ดละหุ่งแดงหรือเมล็ดฝิ่นต้น ซึ่งปลูกในโรงเรียน จากการสอบสวนโรคพบว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.2552 เด็กนักเรียนดังกล่าวเก็บเมล็ดละหุ่งแดงมากินทั้งหมด 16 คน คนละ 1-5 เมล็ด ในช่วงพักกลางวัน หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง เริ่มมีอาการคลื่นไส้อาเจียน ปวดท้อง 13 คน ครูได้นำส่งรักษาที่โรงพยาบาลปัว หลังรักษาอาการดีขึ้น แพทย์ให้กลับบ้าน 4 ราย ที่เหลือ 9 ราย รับตัวนอนรักษาในโรงพยาบาล ไม่มีเสียชีวิต​

นพ.สุพรรณ กล่าวต่อว่า ละหุ่งแดง หรือฝิ่นต้น (CORAL BUSH,CORAL PLANT)ที่นักเรียนกินครั้งนี้ มีชื่อทั่วไปว่ามะละกอฝรั่ง เป็นไม้พุ่มลำต้นสูงประมาณ 2-4 เมตร จัดเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ลำต้นคล้ายต้นมะละกอ แต่ขนาดเล็กกว่า ใบมีลักษณะเป็นแฉกคล้ายใบมะละกอ กลีบดอกสีแดง ออกเป็นช่อแบนแน่นติดกัน ผลเป็นรูปทรงกลม มีพู 3 พู ผิวเรียบ ผลอ่อนเป็นสีเขียว พอแก่มีสีออกเหลือง ชาวบ้านตามชนบท มักปลูกไว้เป็นยาสมุนไพร ส่วนที่กินได้คือเปลือกของลำต้น มีรสฝาด ใช้ปรุงเป็นยาแก้อาเจียน แก้ท้องเสีย แก้ปวดท้อง ปวดเมื่อยตามข้อ ​

ในส่วนของเมล็ดนั้นเป็นอันตราย กินไม่ได้ เนื่องจากในเมล็ดมีสารพิษชื่อ แคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน คัน ปวดแสบปวดร้อน ปากบวมพอง น้ำลายไหล ลิ้นเคลื่อนไหวลำบาก กลืนอาหารยาก พูดไม่ชัด หากกินในปริมาณมากอาจเสียชีวิตได้​

“หากโรงเรียนต่างๆ จะปลูกไว้เพื่อให้เด็กนักเรียนศึกษาและรู้จักพืชพรรณสมุนไพร นับว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรเพิ่มการติดป้ายถาวรที่ต้นสมุนไพร เพื่อให้ข้อมูลสรรพคุณสมุนไพร ส่วนที่กินได้ และส่วนที่เป็นอันตราย เพื่อให้นักเรียนรู้ควบคู่ไปด้วย ก็จะช่วยป้องกันอันตรายได้ ทั้งนี้ สำหรับการช่วยเหลือผู้ได้รับพิษจากเมล็ดละหุ่งแดง หากอาการไม่รุนแรง ผู้ได้รับพิษรู้สึกตัว ในเบื้องต้นก่อนนำส่งโรงพยาบาล ควรให้ผู้ได้รับพิษดื่มนม เพื่อช่วยลดการดูดซึมพิษในกระเพาะอาหาร แต่หากอาการรุนแรง ไม่ค่อยรู้สึกตัว ต้องนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว เพื่อล้างท้องทันที” โฆษก สธ.กล่าว​

ที่มา http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9530000009867​

 

จับภาพ ภัยธรรมชาติน่ากลัว แต่สวยงาม..

<SCRIPT type=text/javascript> var id=450748; </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="topic.js"></SCRIPT>

​

 

อัคคีใต้ภิภพ

 

พึ่งโลกุตตระ และ สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เครื่องบินสายการบินเอธิโอเปียฯ ตกทะเล พร้อมผู้โดยสาร 85 คน​

​

25 ม.ค. - เครื่องบินโดยสารของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ ประสบอุบัติเหตุตกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนพร้อมผู้โดยสาร 85 คน

เครื่องบินโดยสารของสายการบินเอธิโอเปีย แอร์ไลน์ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสาร 85 คน ประสบอุบัติเหตุตกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน หลังจากที่ทะยานขึ้นจากท่าอากาศยานในกรุงเบรุต เมืองหลวงของเลบานอนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เพียงไม่นาน มีรายงานว่า ก่อนเกิดเหตุเครื่องบินโดยสารลำนี้ได้หายไปจากจอเรดาร์ และขณะนี้ยังไม่มีรายละเอียด. -สำนักข่าวไทย

2010-01-25 10:06:39

เฮติคาดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวอาจสูงถึง 150,000 คน​

​

ปอร์โตแปรงซ์ 25 ม.ค. - นางมารี-ลอเรนซ์ โจเซลิน ลาสเก รัฐมนตรีการสื่อสารเฮติ คาดยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่อาจพุ่งแตะ 150,000 คน ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า เกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อก) ขนาด 4.7 ริกเตอร์ วานนี้

รัฐมนตรีการสื่อสารเฮติ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากคณะกรรมการสาธารณสุขว่า ภายในวันนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 ม.ค. อาจสูงถึง 150,000 คน โดยประเมินจากศพที่พบและคำนวณไว้ อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะประเมินตัวเลขผู้เสียชีวิต แต่นายกรัฐมนตรีคาดว่าอาจมีถึง 200,000 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระบุมีผู้เสียชีวิตกว่า 112,000 คน
ด้านสำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า อาฟเตอร์ช็อกขนาด 4.7 ริกเตอร์ เมื่อวานนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.51 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับ 04.51 น. วันนี้ ตามเวลาในไทย มีศูนย์กลางห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปทางตะวันตกราว 30 กม. และอยู่ลึกลงไป 4.1 กม. - สำนักข่าวไทย

2010-01-25 07:54:04

ทหารยูเอ็นยิงปืนเตือน หลังเกิดเหตุวุ่นวายขณะแจกจ่ายอาหารที่เฮติ​

​

ปอร์โตแปรงซ์ 24 ม.ค.- ทหารสหประชาชาติยิงปืนเตือนขึ้นฟ้าและยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเฮติหลายร้อยคนหลังจากเกิดเหตุวุ่นวายขณะแจกจ่ายอาหาร น้ำ และน้ำมันพืชที่สนามบินเก่าของกองทัพอากาศ

ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า การแจกจ่ายช่วงแรกดำเนินไปอย่างเรียบร้อย ผู้ประสบภัยเข้าแถวรอสองแถวอย่างอดทน จนกระทั่งเกิดเหตุวุ่นวาย ผู้คนแตกแถว เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของยูเอ็นต้องวางมือจากการแจกจ่ายของไปยิงแก๊สน้ำตาและยิงปืนขึ้นฟ้า อย่างไรก็ดี ข่าวไม่ได้แจ้งว่าในที่สุดแล้วการแจกจ่ายสิ่งของเสร็จเรียบร้อยหรือไม่

ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติที่นครเจนีวากล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นดูเหมือนเป็นเรื่องต่างหากที่เกิดจากความโกรธและสิ้นหวัง เพราะมีรายงานเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในเฮติน้อยมาก ชาวเฮติส่วนใหญ่ใจเย็นและน่านับถือ เธอขอร้องให้ผู้ประสบภัยใจเย็นต่อไป รวมทั้งช่วยดูแลเด็ก คนชราและคนป่วยว่าได้รับอาหารช่วยเหลือเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย

2010-01-24 18:50:29

ผู้พยากรณ์จะเกิดแผ่นดินไหวเฮติแนะอพยพประชาชนออกจากเมืองหลวง​

​

ปอร์โตแปรงซ์ 25 ม.ค. - นายโคล้ด เปรเปอตีต์ นักธรณีวิทยาที่เคยเตือนจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเฮติ แนะนำให้ทางการอพยพประชาชนออกจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรงเท่ากับเมื่อวันที่ 12 ม.ค. ขึ้นมาอีกครั้ง

นายเปรเปอตีต์ วิศวกรประจำสำนักเหมืองแร่ และพลังงานเฮติ กล่าวว่า เฮติตั้งอยู่บนรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลกที่ชื่อ เอ็นริกิลโล-เพลนเทน การ์เดน ซึ่งเสี่ยงจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้ง และแม้สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ระบุว่า มีความเสี่ยงร้อยละ 25 ที่จะเกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อค) ขนาด 6 ริกเตอร์ขึ้นหลังเกิดแผ่นดินไหว 1 เดือน แต่นายเปรเปอตีต์ มีความวิตกถึงรอยเลื่อนของเปลือกโลกความยาว 250 กม. ที่ยังไม่เคลื่อนตัวทางตะวันออกของกรุงปอร์โตแปรงซ์ และเกรงว่า อาจเกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกครั้งทางภาคเหนือ ซึ่งมีรอยเลื่อนอีกรอยอยู่ทางใต้ของเมืองเคป เฮเตียน ที่มีประชากร 300,000 คน

นายเปรเปอตีต์ จึงแนะให้รัฐบาลย้ายประชาชนไปอยู่ตามชุมชนหลายสิบแห่งในระยะปลอดภัย 500 ตารางกิโลเมตร นอกกรุงปอร์โตแปรงซ์ รวมทั้งสร้างระบบสาธารณูปโภค และงานให้ประชาชนที่นั่น ตลอดจนการปรับปรุงมาตรฐานการก่อสร้าง ให้ความรู้แก่ประชาชนที่คุ้นเคยกับภัยพายุเฮอริเคน และอุทกภัย แต่ไม่คุ้นกับแผ่นดินไหว เพื่อให้คนเหล่านี้รู้วิธีเอาชีวิตรอด

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา นายเปรเปอตีต์ พยายามเตือนเรื่องแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ให้ผู้คนทราบ ด้วยการนำเสนอแนวคิดของเขาตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย และการประชุมต่าง ๆ คำเตือนครั้งสุดท้ายของเขาตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์เลอ นูเวลลิสต์ ไม่ถึงเดือนก่อนเกิดแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 มกราคม เขายังระบุว่า แม้แต่นครลอสแองเจลิส ของสหรัฐ ก็เสี่ยงเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เช่นกัน แต่ยังไม่ทราบว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด นายเปรเปอตีต์ กล่าวว่า เคยพยายามผลักดันให้รัฐบาลเฮติซื้ออุปกรณ์ตรวจวัดแผ่นดินไหว ซึ่งทางการก็รับฟัง แต่ก็มีสิ่งสำคัญเร่งด่วนกว่าต้องทำ -สำนักข่าวไทย

2010-01-25 11:15:28

กัมพูชารายงานข่าวปะทะทหารไทย​

​

พนมเปญ 24 ม.ค. - กองทัพกัมพูชาแถลงข่าวทหารกัมพูชากับทหารไทยปะทะกันเป็นเวลาสั้น ๆ ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

พลโทเจีย ทารา รองผู้บัญชาการกองทัพ และผู้บัญชาการท้องถิ่น แถลงว่า กัมพูชาไม่มีผู้บาดเจ็บจากการยิงปะทะกันตามแนวพรมแดน ห่างไปทางตะวันออกของปราสาทพระวิหารราว 20 กิโลเมตรวันนี้ และอ้างว่าทหารไทยรุกล้ำเข้ามาในดินแดนกัมพูชา ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงว่า มีการยิงปะทะกันขึ้น 2 ครั้ง กินเวลาราว 5 นาที เมื่อช่วงหลังเวลา 09.00 น.ไม่นาน.- สำนักข่าวไทย

2010-01-24 14:15:28

ทางการจีนเร่งช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างในหิมะ​

​

จีน 24 ม.ค.-เจ้าหน้าที่กู้ภัยของจีนให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ติดค้างอยู่กลางหิมะที่ตกหนักในซินเจียง

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานในวันนี้ว่า เฮลิคอปเตอร์กู้ภัย 2 ลำได้เข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้าน 7 คนที่ติดค้างอยู่ในกองหิมะที่ตกหนักในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ทางภาคตะวันตก ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัดจนอุณหภูมิติดลบถึง 40 องศาเซลเซียส ชาวบ้านทั้ง 7 คนต้องติดอยู่ในกองหิมะนานถึง 2 วัน ในเขตอัลไต ใกล้กับชายแดนคาซัคสถาน ขณะที่ผู้คนในซินเจียงราว 2 ล้านคน กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นจัด ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 4 คน ส่วนความเสียหายทางเศรษฐกิจคาดว่ามีมูลค่าอย่างน้อย 320 ล้านหยวน หรือเกือบ 1,600 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

2010-01-24 15:07:44

ทีมกู้ภัยนิวซีแลนด์ช่วยวาฬเกยตื้นกลับลงสู่ทะเล​

​

นิวซีแลนด์ 24 ม.ค.-ทีมกู้ภัยนิวซีแลนด์ให้การช่วยเหลือฝูงวาฬหลายสิบตัวที่ว่ายเข้ามาเกยตื้น ให้กลับลงสู่ทะเลได้อีกครั้ง

ฝูงวาฬนำร่องจำนวน 48 ตัวได้พลัดเข้ามาเกยตื้นบริเวณเมืองพอร์ตเลวี บนเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาสมัครได้ช่วยกันพาฝูงวาฬดังกล่าวกลับสู่ทะเลลึกได้อีกครั้ง แต่เป็นที่น่าเสียดายเมื่อพบว่ามีวาฬถึง 15 ตัวในฝูงดังกล่าวต้องล้มตายลง

เหตุการณ์วาฬเกยตื้นครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ที่พบมีวาฬเกยตื้นครั้งใหญ่ในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยทั้ง 3 ครั้งมีฝูงวาฬล้มตายลงถึง 125 ตัว และสามารถว่ายกลับลงทะเลได้ 43 ตัว ขณะที่นักวิทยาศาสตร์เองยังไม่สามารถไขปริศนาได้ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ฝูงวาฬเกยตื้น.-สำนักข่าวไทย

2010-01-24 17:09:13

อิหร่านจะประกาศเรื่องเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในวันฉลองการปฏิวัติอิสลาม​

​

เตหะราน 24 ม.ค.- ประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจัดของอิหร่าน เผยว่า อิหร่านจะประกาศเรื่องเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ร้อยละ 20 ในช่วงฉลองการปฏิวัติอิสลามครบ 31 ปีในเดือนหน้า

สำนักข่าวฟาร์อ้างคำกล่าวของประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจัดที่ตอบผู้สื่อข่าวเรื่องเส้นตายที่อิหร่านให้ชาติตะวันตกรับข้อเสนอของอิหร่านภายในสิ้นเดือนนี้และเรื่องอิหร่านจะเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมให้มีความบริสุทธิ์ร้อยละ 20 ว่า อิหร่านได้ให้โอกาสชาติตะวันตกแล้ว และในช่วงวันที่ 1-11 กุมภาพันธ์ ซึ่งจะมีการฉลองการปฏิวัติอิสลามปี 2522 อิหร่านจะประกาศข่าวดีที่จะทำให้ชาวอิหร่านมีความสุข เป็นข่าวความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ของอิหร่าน

ทบวงการพลังงานปรมาณูสากล (ไอเออีเอ) เสนอให้อิหร่านส่งแร่ยูเรเนียมสมรรถนะต่ำไปเพิ่มสมรรถนะให้มีความบริสุทธิ์ร้อยละ 20 ที่รัสเซียและฝรั่งเศส เพื่อส่งกลับอิหร่านในรูปเชื้อเพลิงสำหรับเตาปฏิกรณ์ด้านการวิจัย แต่อิหร่านเสนอกลับ ขอแลกเปลี่ยนเชื้อเพลิงเป็นระยะโดยให้เวลาชาติตะวันตกตอบรับภายในสิ้นเดือนนี้ ไม่เช่นนั้นอิหร่านจะเดินหน้าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมเอง.-สำนักข่าวไทย

2010-01-24 17:22:55

เกาหลีเหนือขู่ตอบโต้เกาหลีใต้ด้วยกำลังทหาร​

​

เกาหลีเหนือ 25 ม.ค. - เกาหลีเหนือออกมาตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่อท่าทีของเกาหลีใต้ ที่ขู่จะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ ออกมาระบุว่า เกาหลีใต้อาจเปิดฉากโจมตีโรงงานนิวเคลียร์เกาหลีเหนือก่อน หากตรวจพบว่าเกาหลีเหนือเตรียมการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ส่งผลให้เกาหลีเหนือไม่พอใจ ล่าสุดสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือ รายงานแถลงการณ์ของกองทัพ ระบุว่า หากเกาหลีใต้โจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ก็เท่ากับเป็นการประกาศสงคราม และเกาหลีเหนือจะตอบโต้ด้วยกำลังทหารทันที

ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาหลี เริ่มคุกรุ่นนับตั้งแต่เกาหลีเหนือถอนตัวจากการเจรจา 6 ฝ่าย เพื่อคลี่คลายวิกฤตินิวเคลียร์ เมื่อกลางปีที่แล้ว แต่ล่าสุดเกาหลีใต้ตั้งความหวังว่า การเจรจา 6 ฝ่ายจะสามารถเริ่มขึ้นได้อีกครั้งในเดือนหน้า. - สำนักข่าวไทย

2010-01-25 03:00:04

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

ช่วงนี้ไข้หวัดระบาดระลอกใหม่ในหลายภูมิภาค รวมทั้งในประเทศไทยเราด้วยครับ

หน่วยงานรัฐหลายแห่งได้รับคำเตือน แล้ว รวมทั้งหลายโรงพยาบาล แจ้งว่าควบคุมการระบาดไม่ได้ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปทราบ

ดังนั้นดูแลสุขภาพตนเองกันเอาไว้ด้วยครับ

 

ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนจริงๆครับ เดี๋ยว ฝนตก เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวอากาศหนาว

ผมก็เพิ่งเป็นไข้ได้ 3 วันแล้วครับ

 

ขอให้คุณก้องหายเร็วๆครับ

ทานน้ำอุ่น

ทานวิตซี

ฟ้าทะลายโจร

กระเทียม เพิ่มภูมิคุ้มกันเอาไว้ครับ

 

<table id="post2873270" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">ANUWART<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2873270", true); </script>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2008
ข้อความ: 1,499
พลังการให้คะแนน: 327


</td> <td class="alt1" id="td_post_2873270" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->บทเรียนที่เฮติ…กับ 13 รอยเลื่อน ไทย..วันนี้และ วันต่อไป

มกราคม 16th, 2010 เขียนความเห็น ไปที่ความเห็น


จากเหตุการณ์แผ่นดินใหวในประเทศ เฮติ ดู จากภาพข่าวและจากยูทูบจะเห็นว่า ความรุนแรงของธรรมชาติ ที่กลับมาลงโทษ มนุษย์ อย่างไม่ปราณีและไม่เลือกสถานที่และเวลา จึงทำให้ผู้คนล้มตายเป็นเรือนแสนบาดเจ็บอีกมากมาย นับว่าเป็นภัยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ อีกครั้งหนึ่งของชาวโลก ที่จะต้องจดจำและจำลึกใว้ตลอดไป
จากภาพจะ เห็นได้ว่าบ้านเมือง ตึก รามบ้านช่อง พังเสียหายไปเกือบ 70% ไม่เว้นกระทั้งทำเนียบประธานาธิบดี ยังพังลงมา และจากการคาดการของสำนักข่าวต่างประเทศ คาดว่าประชาชนชาวเฮติ คงจะเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ต่ำกว่า 1ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ ที่มีประมาณ 9 ล้านคน ซึ่งจำเป็นต้องรับความช่วยเหลือจากนานาชาติอยู่ขณะนี้

แผ่น ดินใหว จึงถือเป็นภัยธรรมชาติ ที่ร้ายแรงประเภทหนึ่งที่สร้างความสูญเสียให้กับชีวิตมนุษย์ในโลกเรา หลายต่อหลายครั้ง และที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยครั้งล่าสุด แผ่นดินใหวที่มหาสมุทรอินเดีย ก่อนให้เกิดคลื่น สึนามิ ถล่มฝั่งอันดามันของประเทศไทย เมื่อ วันที่ 27 ธันวาคม 2547 ทำให้สูญเสียทางชีวิตและทรัพย์สินไปจำนวนมาก

เมื่อ เหตุการณ์แผ่นดินใหว เกิดขึ้น สดๆร้อนๆในประเทศ เฮติ จึงอดที่จะหันมาดูประเทศเราไม่ได้ ว่าถ้าหากว่าเกิดเหตุการณ์แผ่นดินใหวแบบประเทศเฮติ อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย กับ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศ และมีสิ่งปลูกสร้าง ที่เป็นตึกสูงใหญ่มากมายที่เป็นตึกเก่าๆ และ ตึกเหล่านี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ก่อสร้างออกแบบอาคารต้านแผ่นดินใหว แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าหาก เกิดแผ่นดินใหวขึ้นมาจริงๆ
จากข้อมูลของกรมทรัพยากรธรณีพบว่า มีรอยเลื่อนในประเทศไทยที่มีพลังอยู่มี 13 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.รอยเลื่อนแม่จันและแม่อิง ครอบคลุม จ.เชียงรายและเชียงใหม่ 2.รอยเลื่อนแม่ฮ่องสอน ครอบคลุม จ.แม่ฮ่องสอนและตาก 3.รอยเลื่อนเมย ครอบคลุม จ.ตากและกำแพงเพชร 4.รอยเลื่อนแม่ทา ครอบคลุม จ.เชียงใหม่ ลำพูนและเชียงราย 5.รอยเลื่อนเถิน ครอบคลุม จ.ลำปางและแพร่ 6.รอยเลื่อนพะเยา ครอบคลุม จ.ลำปาง เชียงรายและพะเยา 7.รอยเลื่อนปัว ครอบคลุม จ.น่าน 8.รอยเลื่อนอุตรดิตถ์ ครอบคลุม จ.อุตรดิตถ์ 9.รอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ครอบคลุม จ.กาญจนบุรี และราชบุรี 10.รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ครอบคลุม จ.กาญจนบุรีและอุทัยธานี 11.รอยเลื่อนท่าแขก ครอบคลุม จ.หนองคายและนครพนม 12.รอยเลื่อนระนอง ครอบคลุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนองและพังงา และ 13.รอยเลื่อนคลองมะรุ่ย ครอบคลุม จ.สุราษฎร์ธานี กระบี่ และพังงา
ซึ่ง แต่ละรอยเลื่อนสามารถที่จะเกิดการเคลื่อนตัวขยับได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่ว่าเมื่อใดเท่านั้นเอง ถ้าหากว่าเกิดขึ้นที่รอยเลื่อนใดรอยเลื่อนหนึ่งเหมือนกับประเทศเฮติ อะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน แต่จะมากน้อยแค่ใหนก็อาจจะขึ้นอยู่กับความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์ นั้นๆ
ประเด็นที่น่าเป็นห่วงและก็คน เป็นข่าวมาหลายครั้งด้วยกันกับรอยเลื่อนที่ 9 รอยเลื่อนเจดีสามองค์และรอยเลื่อนที่ 10 รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ ที่อยู่แนวจังหวัดกาญจนบุรี และมีสองเขื่อนขนาดใหญ่คือเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ ที่ตั้งอยู่แนวแขนงรอยเลื่อนทั้งสอง
ถ้า หากเกิดแผ่นดินใหวรุนแรง ที่สองรอยเลื่อนนี้ อะไรจะเกิดขึ้น เขื่อนจะแตกมั้ย?? คำถามที่ประชาชนอยากรู้มาก เพื่อการเตรียมตัวในการอพยพ หนีปริมาณน้ำอันมหาศาล ซึ่งไม่น้อยกว่าสึนามิ แน่นอน

<table class="blog_center_data" border="0"><tbody><tr><td style="padding: 0px 0px 0px 5px; line-height: 18px; width: 482px; font-family: Tahoma,'MS Sans Serif','Microsoft Sans Serif',sans-serif; color: rgb(0, 0, 0); font-size: 13px;">จาก ภาพจำลองชี้ให้เห็นว่า ระยะเวลาที่กระแสน้ำจะมาถึงสถานที่จังหวัดต่างๆถึงไม่เว้นแม้กระทั้ง กทม น้ำจะท่วม 2 เมตรและระยะเวลาในการเคลื่อนตัวของน้ำประมาณ 35 ชั่วโมง
ถึง แม้ว่าโอกาสที่จะเกิดแผ่นดินใหวจะน้อยมาก แต่เราควรที่จะพร้อมอยู่เสมอ และตลอดเวลามิใช่เหรอ เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นมาโอกาสที่ท่านจะแก้ตัว คงจะไม่มีแน่นอน
ภาพคนตายใต้ซากตึกและ บ้านเรือนที่พังลงมาของชาวเฮติ คงจะบอกเราได้เป็นอย่างดี ว่าควรพร้อมอยู่เสมอ พร้อมจะรับมือกับวิกฤตที่จะเกิดขึ้นไม่รู้ว่า ปีใหน เดือนใหน วันใหน เวลาใด อาจจะเป็น วันนี้..หรือว่า.. วันต่อไป..ไม่สามารถทราบได้ล่วงหน้าครับ !!

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
ขอบคุณภาพ จากไทยรัฐออนไลน์
ขอบคุณ พี่ ณ สยาม
</td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table>

 

*** การศึกษาที่ยิ่งใหญ่นำพาสัตว์โลกพ้นทุกข์ ****

ศีล มีมาก่อนพระพุทธเจ้า
พระพุทธเจ้า ค้นพบสัจจะธรรม
จึงพบว่า หนทางหลุดพ้นทุกข์ ไม่ใช่ด้วยศีลใหญ่ที่มนุษย์ทำกันไม่ได้จริง
เป็นเป็นเรื่องของการปลดนิสัยด้วยสัจจะ
การหลุดพ้นทุกข์ จึงอยู่ที่ทำได้ หรือ ทำไม่ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6997 ข่าวสดรายวัน


บินลาเดนโผล่โว สั่งบึ้มเขย่าขวัญ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>




</TD></TR></TBODY></TABLE>บีบีซีรายงานเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่า สถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา ออกอากาศเทปเสียงม้วนใหม่ของนายโอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าเครือข่ายก่อการร้ายอัล ไคด้า ที่ประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ที่นายอุมาร์ ฟารุก อับดุลมูตัลลับ หนุ่มไน จี เรีย วัย 23 ปี พยายามระเบิดเครื่องบินของสหรัฐที่มุ่งหน้าสู่นครดีทรอยต์ สหรัฐ ในวันคริสต์มาส 25 ธ.ค. 2552

ในเทปเสียงชุด "โอซามาถึงโอบามา" บิน ลาเดน กล่าวว่า ต‰องการตอกย้ำเจตนา รมณ์เดิมเหมือนกับเหตุวินาศกรรมตึกเวิลด์ เทรด ซึ่งส่งไปเป?นคำพูดไม่ได้ จึงส่งไปกับเครื่องบินแทน พร‰อมยกยˆองวˆา นายอับดุลมูตัลลับเป็นวีรบุรุษ

บินลาเดนยังกล่าวกับชาวอเมริกันด‰วยว่า "สหรัฐอย่าได้ฝันจะได้อยู่อย่างปลอดภัยจนกว่าชาวปาเลสไตน์จะปลอดภัย"



ตั้ง"นักรบบาร์บี้"ทูต"หาคู่"ทัพอังกฤษ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>



</TD></TR></TBODY></TABLE>เดลี่เมล์รายงานวันที่ 24 ม.ค. ว่า สิบตรีคาทริน่า ฮอดจ์ วัย 22 ปี เจ้าของฉายา "นักรบบาร์บี้" จากความที่มีใบหน้าสะสวยแต่เป็นทหารที่ไปร่วมสมรภูมิอิรัก กระทั่งต่อมาได้ครองมงกุฎนางงามอังกฤษ หรือมิสอิงแลนด์ ล่าสุดได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ใหม่ ให้เป็นทูตแห่งความรักให้กับเว็บไซต์ uniformdating.com ซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยให้บุคลากรในเครื่องแบบใช้เป็นสถานที่หาคู่รัก

ทหารสาวกล่าวว่า ได้แรงบันดาลใจจากจดหมายของคู่แต่งงานที่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ผ่านเว็บไซต์นี้ ทั้งยังเข้าใจว่าเป็นเรื่องยากที่บุคลากรในเครื่องแบบอย่างทหารที่ต้องไปรบในสงครามจะหาคู่ครอง โดยเฉพาะที่จะอยู่กันได้นาน แม้จะมีหลายบริษัทพยายามติดต่อตนไปเป็นทูตโฆษณา แต่ในฐานะที่โตมาด้วยกองทัพอังกฤษและในฐานะมิสอิงแลนด์ จึงอยากตอบแทนกองทัพด้วยงานนี้




นมจากเต้า

เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>



</TD></TR></TBODY></TABLE>ไม่รู้ไปหิวกระหายมาจากไหนแม่วัวตัวนี้จึงได้ตั้งหน้าตั้งตาดูดนมจากเต้าของตัวเองอย่างเมามัน

ภาพตัดตอนออกมาจากคลิปในอินเตอร์เน็ตที่มีผู้ชมกระหน่ำคลิกเข้าไปดูหลายพันคน ที่แม่วัวตัวเขื่องนอนเอกเขนก เอี้ยวคอไปดูดนมตัวเอง จ๊วบๆ อย่างเอร็ดอร่อย

สัตวแพทย์คนหนึ่งบอกว่า มันดูมีความสุขมาก แต่เจ้าของวัวคงไม่ชอบใจหรอกมั้ง ถ้าวัวตัวอื่นพากันเลียนแบบมันน่ะ


แฉเมล์ลวงเงินช่วยเฮติ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>ไซแมนเทคเผยกลลวงนักต้มตุ๋นไซเบอร์ผ่านทางอีเมล์โดยเชิญชวนให้บริจาคเงินให้แก่ผู้ประสบภัยแผ่นดิน ไหวที่เฮติ เช่น อีเมล์ที่อ้างสภากาชาดอังกฤษว่าระดมเงินบริจาคช่วยเหลือเหยื่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ แต่ไม่ได้ใช้ระบบการโอนเงินแบบเวสเทิร์น ยูเนี่ยนในการรับบริจาคและยังใช้อีเมล์แอดเดรสที่ไม่ได้เป็นของสภากาชาดในการติดต่อ ดังนั้น เงินบริจาคจะไม่ถึงมือผู้ประสบภัยแต่จะเข้ากระเป๋าอาชญากรเหล่านี้แทน

ไซแมนเทคเตือนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่ต้องการบริจาคหรือทำการกุศลผ่านระบบออนไลน์ว่าให้หลีกเลี่ยงการคลิกลิงก์ที่น่าสงสัยที่ปรากฏอยู่ในอีเมล์หรือข้อความด่วน (Instant Messaging) ซึ่งอาจเป็นการหลอกเพื่อเข้าไปสู่เว็บไซต์ปลอมที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ จึงควรพิมพ์อีเมล์แอดเดรสขององค์กรช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยตรง

อีกทั้งไม่ควรกรอกข้อมูลส่วนตัวหากมีการถามมาทางอีเมล์ รวมทั้งข้อมูลทางการเงินหรือรหัสผ่านเพราะองค์กรช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มีชื่อเสียงจะไม่ถามข้อมูลส่วนบุคคลผ่านทางอีเมล์ หากสงสัยควรติดต่อหน่วยงานดังกล่าวโดยตรง

เตือน"สบู่เหลว"ในห้องน้ำ แพร่เชื้อโรคอื้อ-ทำผิวหนังติดเชื้อ



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>มหาวิทยาลัยอริโซนา สหรัฐอเมริกา เปิดงานวิจัยเพื่อหาเชื้อปนเปื้อนที่แฝงอยู่ในสบู่ในห้องน้ำสาธารณะ ทั้งร้านอาหาร ฟิตเนส อาคารสำนักงาน และห้างสรรพสินค้า โดยเก็บตัวอย่างสบู่จำนวน 541 ตัวอย่าง ทั้งสบู่เหลวแบบเติมและสบู่เหลวแบบบรรจุภัณฑ์ปิด (เมื่อใช้น้ำยาหมดแล้วทิ้ง) ซึ่งพบว่า สบู่ชนิดกล่องที่ติดผนังห้องน้ำที่ต้องเปิดฝาเติมน้ำสบู่อยู่เรื่อยๆ มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนอยู่ถึงร้อยละ 25 จาก 133 ตัวอย่าง โดยร้อยละ 65 ของเชื้อที่พบคือเชื้อโคลิฟอร์ม ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่พบมากในสิ่งปฏิกูลของสัตว์เลือดอุ่นและมีโอกาสส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขอนามัยของผู้ใช้ ทั้งในระบบทางเดินหายใจ กระแสโลหิต ระบบปัสสาวะ และการติดเชื้อบริเวณผิวหนัง สิ่งปนเปื้อนเหล่านี้เกิดขึ้นขณะที่มีการเปิดฝากล่องเพื่อเติมสบู่ แต่สบู่เหลวที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบปิดกลับไม่พบเชื้อแบคทีเรียเลย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>


</TD></TR></TBODY></TABLE>

นอกจากนี้ จากการวิจัยของวารสารสาธารณสุขอเมริกันปี 2544 พบว่า การล้างมือและเช็ดมืออย่างถูกวิธีอย่างน้อย 5 ครั้งต่อวันช่วยลดโอกาสติดเชื้อหวัดได้ถึงร้อยละ 45 การศึกษาในมหาวิทยาลัยเวสมินสเตอร์ ยังชี้อีกว่า การใช้กระดาษเช็ดมือทุกครั้งหลังการล้างมือจะช่วยให้แบคทีเรียลดลงถึงร้อยละ 58 ในขณะที่การใช้เครื่องเป่าลมร้อนกลับพบแบคทีเรียในมือเพิ่มขึ้นร้อยละ 25









คนกรุงครองแชมป์โรคท้องร่วง



นางวันทนีย์ วัฒนะ รอง ผอ.สำนักอนามัย (สนอ.) เผยว่า จากการจัดเก็บสถิติอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนในโรคติดต่อที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังทางระบาดวิทยาของฝ่ายระบาดวิทยา กองควบคุมโรค สนอ. ตลอดปี"52 ที่ผ่านมา โดยใช้ฐานข้อมูลประชากรกลางจำนวน 5,710,883 คน พบคนกรุงเทพฯ ป่วยด้วยโรคอุจจาระร่วงมากที่สุด 736.75 คนต่อแสนประชากร รองลงมาคือโรคตาแดง 270.51 คนต่อแสนประชากร

โรคไข้หวัดใหญ่ 237.42 คนต่อแสนประชากร โรคปอดบวม 149.1 คนต่อแสนประชากร และโรคสุกใส 108.07 คนต่อแสนประชากร ส่วนโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่เพิ่งเริ่มระบาดเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา คนกรุงเทพฯป่วยมากถึง 100.31 คนต่อแสนประชากร ซึ่งอัตราการป่วยมีความใกล้เคียงกับประชากรที่ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก 100.59 คนต่อแสนประชากร แสดงให้เห็นว่าโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 มีแนวโน้มจะระบาดเพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้ จากสถิติโรคที่กรุงเทพฯ ป่วยทั้งหมดนั้นเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสทั้งสิ้น ดังนั้น ทุกคนต้องรักษาสุขอนามัยส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปิดปากเมื่อไอหรือจาม หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ รวมทั้งการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการหรือรู้ตัวว่าจะป่วยเป็นไข้หวัด เพื่อลดผลกระทบโดยเฉพาะการแพร่เชื้อไปสู่คนรอบข้าง โดยเฉพาะสภาพอากาศในปัจจุบันที่แปรปรวนเหมาะต่อเชื้อไวรัสที่จะเติบโตได้ง่าย

"ดารา"ผวาภัยพิบัติ! เกิดถี่บอกเหตุอนาคต

คอลัมน์ กระแสร้อน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อก่อนดูหนังที่เกี่ยวกับภัยพิบัติ ก็อาจจะมองว่าเป็นแค่หนัง แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เมื่อเหตุการณ์ที่เกิดในชีวิตจริงเริ่มใกล้เคียงกับเหตุการณ์ในหนังเข้าไปทุกที

อย่างล่าสุดหนัง "2012(วันสิ้นโลก)" เมื่อดูหนังแล้วทำให้คนคิดกันไปหลายมุมถึงความน่าจะเป็นที่จะเกิดขึ้นได้ เพราะมีภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจริง เช่น พายุหิมะ โคลนถล่ม พายุฝน แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ

เหล่าคนบันเทิงก็มีความเห็นในหลายทรรศนะเช่นกัน

นางเอกสาว "เบนซ์"พรชิตา ณ สงขลา ให้ความเห็นว่า

"เหตุการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ที่หลายคนมองว่าเหมือนตอกย้ำว่าปี 2012 ที่โลกวิบัติ เบนซ์เชื่อนะ หลายๆ อย่างมันเริ่มฟ้อง ถ้าเกิดจริงเบนซ์ก็คงอยู่กับครอบครัวและคนที่เรารักให้มากที่สุด"

ดูโอสาว "มด"ณปภัช วัฒนากมลวุฒิ บอกว่า

"ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นมดว่าส่วนหนึ่งมีผลมาจากโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นหิมะถล่ม หรือล่าสุดแผ่นดินไหวที่เฮติ วันนี้เราอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบที่ร้ายแรง แต่ถ้าเราไม่คิดจะช่วยกันลดโลกร้อน วันหนึ่งเราอาจจะต้องสูญเสียอะไรมากกว่านี้ อย่างหนัง "2012 วันสิ้นโลก" หลายคนตื่นเต้นว่าจะเกิดขึ้นจริงมั้ย แนวโน้มเกิดขึ้นจริงก็เป็นได้ ถ้าเราไม่ช่วยกันดูแลโลก"

ด้านคู่หูดูโอ "โฟร์"ศกลรัตน์ วรอุไร มองเป็นเรื่องใกล้ตัวเข้ามาทุกที

"ตอนแรกโฟร์มองภัยพิบัติเป็นเรื่องไกลตัว แต่ 2-3 ปีมานี้มีข่าวต่างๆ ทั้งแผ่นดินไหว พายุหิมะถล่ม น้ำท่วม ทำให้เริ่มคิดแล้วว่าทำไมมันเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิด อย่างโฟร์เคยไปดูหนัง "2012 วันสิ้นโลก" ตอนดูก็กลัวมากแต่ก็คิดว่าเป็นแค่หนัง แต่พอเห็นข่าวเยอะๆ เริ่มไม่แน่ใจ หนังอาจจะเป็นไกด์ว่าถ้าเราไม่ช่วยกันอะไรจะเกิดขึ้น"

คุณแม่คนสวย "ปิ่น"เก็จมณี วรรธนะสิน ศึกษาข้อมูลมาอย่างดี โดยเผยว่า

"ปิ่นค่อนข้างเชื่อนะคะกับกระแส 2012 เพราะปิ่นศึกษาข้อมูล คิดว่ามันใกล้เข้ามาแล้ว ปิ่นก็สอนลูกว่าโลกเราเริ่มเปลี่ยนแปลงแล้ว อยู่ๆ ก็มีพระจันทร์ยิ้ม หิมะตก ถ้าเกิดเป็นจริง ก็คงใช้ชีวิตให้มีความสุข อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด"

สาวอินเลิฟ "แตงโม"ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ ยังแบ่งรับแบ่งสู้ "ตอนแรกที่ดูหนัง โมเชื่อ 30 เปอร์เซ็นต์ค่ะ คิดว่าโลกแตกคงมี เพราะเราทำลายทรัพยากรธรรมชาติเยอะ คิดว่าน่าจะเป็น 100 ปี แต่พอมีเหตุการณ์ร้ายแรง โมเริ่มเชื่อ 50 เปอร์เซ็นต์แล้วว่ามันจะเกิดขึ้นเร็วขึ้น อยากให้ทุกคนหันมารักและห่วงใยกัน"

หนุ่มฮอต "เปอร์" สุวิกรม อัมระนันทน์ มองเป็นเรื่องธรรม ชาติ

"ผมไม่ค่อยเชื่อว่าโลกจะแตกจริง ผมเชื่อว่าธรรมชาติอยากให้เราเป็นยังไงก็ปล่อยให้เป็นอย่างนั้น ไม่กลัว เพราะผมเชื่อว่าไม่มีทางที่โลกจะแตก ผมเชื่อว่าตัวเองคงอยู่ไม่ถึงวันนั้นหรอก ถ้าอยู่ถึงก็อยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร"

สาวเซ็กซี่ "ปู"ไปรยา ลุนด์เบิร์ก เจอมาด้วยตัวเองทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศ เล่าให้ฟังว่า

"เหตุการณ์ที่ใกล้ตัวปูที่สุดและเจอมาไม่ใช่แค่อากาศที่ร้อนขึ้นเรื่อยๆ ในเมืองไทย แต่ที่อังกฤษปูก็เจอคือหิมะตกหนักมากแบบไม่เคยตกหนักขนาดนี้มาเกือบ 30 ปีแล้ว ปกติหิมะที่โน่นจะตกช่วงเดือนก.พ. แต่ปีนี้ตกตั้งแต่เดือนธ.ค. แล้วตกถึงเข่ามันก็แปลก ตัวปูเองช่วยอะไรได้ไม่มาก ช่วยปิดไฟเวลาที่ไม่ได้ใช้"

ด้านสาว "อั้ม"พัชราภา ไชยเชื้อ ไม่ต้องเตรียม ตัวอะไร เน้นหาความสุขให้ตัวเองดีกว่า

"อั้มก็ใช้ชีวิตปกติทำตัวเองให้มีความสุข อั้มว่าเรื่องแบบนี้ทุกคนต้องช่วยๆ กันค่ะ"

นักแสดงจากหนัง มาย วาเลนไทน์ "จิ๊บ"วสุ แสงสิงแก้ว อ้างอิงหลักศาสนา

"ถ้าเอาหลักศาสนามาตอบด้วยคงตอบว่าเป็นสิ่งที่เป็นไปตามกรรม ผมไม่กลัวกับเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น ถ้ามันจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าคุณไปอ่านคำทำนายที่เขาทำนายไว้อย่าง 2012 น้ำจะท่วมโลกจนต้องเขียนแผนที่โลกกันใหม่ ถ้าเรามัวแต่วิตกจริตโดยที่เราไม่คิดทำอย่างอื่น ก็เหมือนตายล่วงหน้า ผมว่าสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเอาไว้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว คือมีสติ ใช้ชีวิตกับปัจจุบันดีที่สุด"

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด...ทำใจไว้ดีที่สุด

3 มุมนักวิชาการ สันติภาพที่ยั่งยืน



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>"ไฟใต้กับกระบวนการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน" เป็นหนึ่งหัวข้อเสวนาในงาน "มหกรรมสันติภาพชายแดนใต้" จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตปัตตานี ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ครบทั้งสาระ ความสนุกสนานกับการละเล่นทางวัฒนธรรม และข้อเสนอแนะต่อวิธีแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่

การเสวนานี้ มีวิทยากร ดร.ธเนศวร์ อาภรณ์สุวรรณ คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, รศ.ดร.จรัล มะลูลีม อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ดร.มาร์ค ตามไท อาจารย์สถาบันเพื่อการศึกษาศาสนาและวัฒน ธรรม มหาวิทยาลัยพายัพ โดยมีนายกริยา มูซอ เลขาธิ การสหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดำเนินการเสวนา

ดร.ธเนศวร์ เริ่มด้วยมุมมองเปรียบเปรยว่า ปัญหาขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้ามองจากระบบใหญ่ สะท้อนสงครามทางการเมืองแล้ว เปรียบระบบการเมืองเป็นร่างกาย ร่างกายนี้กำลังมีเชื้อโรคเกิดขึ้นต่างๆ แล้วร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำไม่สามารถจัดการได้ ยาที่ได้รับจากภายนอก ก็ยิ่งมาทำร้ายร่างกายเร็วยิ่งขึ้น

สภาพสังคมการเมืองโดยทั่วไป มี 2 ลักษณะ คือ สันติกับสงคราม ถ้าสงครามเต็มตัว จะยุติลงไป จะไม่มีสงครามที่นานเป็นร้อยปี แต่สถานการณ์ภาคใต้อยู่ในภาวะกึ่งสงครามก็ไม่ใช่ กึ่งสันติก็ไม่เชิง ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้ อยู่ระหว่างสงครามที่ไม่ได้เต็มตัว หรือสันติก็เกิดไม่ได้ มันเป็นภาวะของการเกิดโรคพยาธิภายในร่างกาย

อาจารย์ธเนศรว์ เสนอทางออกว่า กุญแจสำคัญที่จะไขเพื่อนำไปสู่สันติภาพ ต้องทำให้เป็นการเมืองในระนาบใหม่ ที่เป็นการเมืองของภาคประชาชน และต้องเปิดพื้นที่ภาคประชาชน ให้ประชาชนเป็นเจ้าของ เพราะปัจจุบันผู้เป็นเจ้าของพื้นที่สาธารณะ ส่วนใหญ่เป็นของรัฐ แม้แต่พื้นที่สื่อเองก็ตกอยู่ในอุ้งมือของรัฐ

ขณะที่ ดร.มาร์ค ยกตัวอย่างให้แคบเข้าไปอีก โดยระบุว่า มีชั้นเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ชั้นเรียนนี้มีเด็กเกเร ไม่สนใจเรียน ใช้หนังสติ๊กยิงกันบ้าง ถ้าผู้บริหารมองปัญหาว่าอยู่ที่เด็ก ก็จะตามครูแนะแนว หรือไม่ก็ครูจิตวิทยา ว่าเด็กนักเรียนมีปัญหาอะไร <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

แต่ถ้ามองปัญหาอยู่ที่ครู การแก้ปัญหาก็จะเป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ผู้บริหารจะมองว่าครูเตรียมสอนดีหรือเปล่า สามารถพูดให้นักเรียนสนใจหรือเปล่า ถ้าเด็กไม่สนใจ เพราะครูสอนไม่ค่อยดี ก็ต้องปรับปรุงวิธีสอน นี่คือ 2 วิธีในปัญหาเดียวกันที่มองความวุ่นวายในห้องเรียน พอมองต่างกันก็จะพยายามแก้ต่างกัน และไม่ใช่แก้ต่างกันอย่างเดียว แต่ต้องให้มีคนรับผิดชอบมาแก้ปัญหาของคนละกลุ่มด้วย

อาจารย์มาร์คชี้ว่า ปัญหาภาคใต้ไม่ใช่ปัญหาความมั่นคง แต่เป็นปัญหาจริยธรรมของสังคมไทย ถ้ามองปัญหาในพื้นที่เป็นปัญหาจริยธรรมของสังคมไทย จริยธรรมในแง่การเมือง การปกครอง วิธีเข้าใจปัญหาและคนที่จะถูกมอบหมายให้แก้ไข ก็จะเป็นคนละแบบเลย เหมือนกับในห้องเรียนที่ยกตัวอย่างไป

ถ้ามองเป็นเรื่องของความมั่นคง ก็จะต้องให้หน่วยงานความมั่นคงเป็นผู้รับผิดชอบหลัก แล้วหน่วยงานอื่นมาเสริม แต่ถ้าเป็นปัญหาทางจริยธรรมในแง่การเมือง การปกครอง ผู้ที่จะเป็นฝ่ายนำในการแก้ปัญหา ก็จะเป็นฝ่ายการเมืองการปกครองของรัฐบาล ไม่ใช่การทหาร

"เวลาเราพูดการเมืองนำการทหาร มันกลายเป็นยุทธศาสตร์ของความมั่นคงไป ถ้าเราให้การเมืองนำการทหาร แปลว่าพื้นที่จะมั่นคงขึ้น แต่ถ้ามองเป็นปัญหาทางจริยธรรมของสังคม การเมืองนำการทหารก็แปลว่าความถูกต้อง และความเป็นธรรมจะต้องเกิดขึ้นถ้าใช้การเมืองนำการทหาร ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ยุทธศาสตร์ของความมั่นคง ที่จะลดความรุนแรงอย่างเดียว"

อาจารย์มาร์ค กล่าวถึงวิธีการมองต่อปัญหาที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด พร้อมทั้งยืนยันว่า การสร้างกระบวนการสันติภาพของภาคประชาชนเองเป็นกุญแจสำคัญ ส่วนคนอื่นๆ เป็นหน่วยเสริม ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาลไม่สำคัญ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ส่วนดร.จรัล สะท้อนให้ฟังว่า ในความเป็นมุสลิม เวลาไปประชุมต่างประเทศ มีคำถามเยอะมากว่าประเทศไทยดูแลชนกลุ่มน้อยอย่างไร ทำไมจึงมีเหตุการณ์ และจะแก้ปัญหาอย่างไร เป็นปัญหาศาสนาหรือไม่ หรือเป็นปัญหาชาติพันธุ์มลายู หรือถูกมองว่าเป็นพวกชนชายขอบ

หลายคนมองและสรุปว่า ปัญหาของภาคใต้เป็นผลจากการละเลยทางเศรษฐกิจมายาวนาน ขาดโอกาสในการทำงานร่วมกับชาวมุสลิม ทั้งภาครัฐและเอกชน ขาดการรับรู้จากฝ่ายราชการ การไม่ยอมรับในด้านศาสนา ภาษาศาสตร์ และความหลากหลายวัฒนธรรม ภายใต้ระบอบการปกครองของไทย

ฉะนั้น การแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แน่นอนรัฐไทยต้องใช้ความพยายามหลายด้าน รวมทั้งการมองปัญหาความมั่นคง ที่ต้องเป็นความมั่นคงสมัยใหม่ด้วย เพราะทุกวันนี้ในทางรัฐศาสตร์ ความมั่นคงแบบเก่ากำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างแรง คือการใช้กำลังทหาร เป็นหลัก

แต่ความมั่นคงใหม่ คือการเข้าใจ วัฒนธรรม วิถีชีวิต สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติของพื้นที่ ถ้าหากสามารถเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ การเสริมสร้างสันติภาพ และเสถียรภาพภายในประเทศไทยจะเกิดขึ้นได้ มิเช่นนั้นแล้วภายนอกจะมองด้วยสายตาที่ผิดพลาด และเข้าใจว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องต่อต้านประชาคมมุสลิม แล้วปัญหาชน กลุ่มน้อยในประเทศไทย ก็จะถูกจัดให้อยู่ในระดับเดียวกันกับกรณีปาเลสไตน์ แคชเมียร์ เคนยา อิรัก และอัฟกา นิสถาน เป็นต้น

อาจารย์จรัล ระบุว่า เมื่อเปรียบเทียบภาคเหนือของมาเลเซียกับภาคใต้ของประเทศไทย จะพบว่าชาวมาเลเซียเชื้อสายไทยถูกมองเป็นเชิงบวก ขณะที่ประวัติศาสตร์ของชาวไทยเชื้อสายมลายู เป็นประวัติศาสตร์ปกปิด อีกทั้งสถาบันครอบครัวส่วนใหญ่ก็ไม่มีความเข้าใจในประวัติศาสตร์ของชาติพันธุ์ตนเอง ผลที่ตามมาคือ สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษาไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทนขัดเกลาทางสังคมให้แก่เยาวชนไทยเชื้อสายมลายูได้

แม้ว่ารัฐบาลไทยพยายามจะให้สิทธิแก่พลเมืองในชาติอย่างเท่าเทียมกัน แต่ประเทศไทยก็ไม่ได้เป็นพหุสังคมอย่างแท้จริง เอกลักษณ์ของความเป็นไทย มักมีศูนย์รวมอยู่ที่ส่วนกลางของประเทศ และดูเสมือนว่าต่อต้านเอกลักษณ์ทางสังคมของไทย โดยเฉพาะไทยเชื้อสายมลายู ในหลายรูปแบบ

นอกจากนี้ ในเรื่อง "นครรัฐปัตตานี" หรือ "เขตปกครองพิเศษ" ที่ถูกนำเสนอเข้ามาเป็นหนึ่งในแนวทางแก้ไขปัญหา อาจารย์จรัล มองว่า ยกตัวอย่างประเทศต่างๆ เช่น ในอินเดียมีภาษาที่ใช้ทำงาน 23 ภาษา ชนกลุ่มน้อยได้ใช้อย่างดี มีภาษาส่วนกลาง 4 ภาษา ประเทศไทยแค่เสนอภาษามลายูถิ่นใช้ในการทำงาน ก็ได้รับการคัดค้าน ด้วยการอ้างว่ารัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยวแบ่งแยกไม่ได้ แต่ไม่ได้มองความแตกต่างทางภาษาว่าเป็นความสวยงาม

"ไม่ว่าจะมีวิธีการจัดการอย่างไร ประวัติศาสตร์ชี้ให้เห็นว่า ในหลายประเทศมีเขตปกครองพิเศษ อย่าง จีน ทิเบต และอีกหลายประเทศที่เป็นรัฐ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า จะเป็นการแยก หรือหลุดออกจากการเป็นประชาชนของประเทศไทยหาไม่ มีความพยายามที่จะใช้กฎหมายอิสลามให้ทั่วถึงกัน ไม่ใช่มี 2 มาตรฐาน เพื่อเข้าไปจัดการ ทั้งเรื่องมรดก การแต่งงาน และการหย่าร้าง ถ้าสิ่งนี้เป็นความจำเป็น ทำไมรัฐไม่ลอง เพราะว่ามันไม่นำไปสู่ปัญหาความมั่นคง และจะไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง การต่างประเทศ และการทหารด้วย"

การเปิดพื้นที่ในชุมชน เพื่อให้ประชา ชนได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้ ทัศนคติ และข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงผ่านการบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิต เพื่อให้สังคมได้เรียนรู้อัตลักษณ์ของตนเองและผู้อื่น เชื่อว่าเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่การสร้างสันติ ภาพที่ชายแดนใต้อย่างยั่งยืน

ร้อยเอ็ดแล้ง-ขุดหอยขมกินแล้ว



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
แล้งหนัก - นางลำมูล อุดมฉวี อายุ 56 ปี ชาวต.บ้านบาก อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด ขุดหอยขม หรือหอยจูบ เพื่อทำเป็นอาหารประทังชีวิต หลังสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เมื่อวันก่อน

</TD></TR></TBODY></TABLE>ร้อยเอ็ด - จากสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดนับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น แหล่งน้ำทุกแห่งน้ำแห้งขอดและลดลง ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชนบทเดือดร้อนเรื่องอาหารการกิน ไม่มีน้ำทำการเกษตรเพื่อผลิตอาหารและรายได้ ได้อาศัยท้องทุ่งนาเป็นแหล่งทำมาหากิน ขุดหอย จับกบ นำมาเป็นอาหารประทังชีวิตไปวันๆ โดยเฉพาะครอบครัวของนางลำมูล อุดมฉวี อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 บ้านหนองผักตบ ต.บ้านบาก อ.ศรีสมเด็จ แม่ม่ายสามีเสียชีวิต ต้องดูแลครอบครัวที่มีลูกหลานถึง 5 คน ในตอนเช้าแต่ละวันจนถึงมืดค่ำ จะขับขี่รถจักรยานคู่ใจพร้อมจอบเสียมออกจากหมู่บ้านไปยังท้องทุ่งนาท้ายบ้าน เพื่อขุดหอยขม หรือหอยจูบ ตามภาษาพื้นบ้านอีสาน และหอยโข่ง ซึ่งมีขนาดโตกว่า นำมาคั่ว ต้ม แกง ผัด และป่น ประทังชีวิตไปวันๆ นางลำมูลบอกว่า รัฐบาลต้องให้ความสนใจในระดับรากหญ้า โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำเพื่อทำการเกษตรในชนบทเป็นสิ่งแรก เนื่องจากแหล่งน้ำจะเป็นทั้งแหล่งอาหาร และแหล่งผลิตพืชผลทางการเกษตรอันจะทำรายได้ให้แก่ราษฎร สามารถนำเงินไปจับจ่ายใช้สอยและซื้ออาหารการกินได้อย่างเป็นสุขไม่เดือดร้อนเหมือนในปัจจุบัน



ชาวนาพิจิตรซวย-โรคจู๋ระบาด



พิจิตร - นายสมพร สุขเฉลิม เกษตรกรชาวนา ต.ท่าหลวง อ.เมืองพิจิตร กล่าวว่า ชาวนาพิจิตรหลังจากถูกเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดในข้าวเสียหายจนหมดตัว จึงได้ปลูกข้าวขึ้นมาใหม่ ปรากฏว่าข้าวที่ปลูกไว้อายุต่ำกว่า 90 วัน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากอากาศที่แปรปรวน และมีความหนาวเย็นจึงทำให้เกิดโรคจู๋ระบาดในนาข้าว ซึ่งโรคจู๋ดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลเป็นพาหะ แล้วนำเชื้อไวรัสมาแพร่ระบาดจนทำให้ต้นข้าวที่ปลูกไว้ไม่โต ทำให้ต้นข้าวไม่ออกรวง ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วทั้งจังหวัดแล้ว สร้างความเสียหายให้กับเกษตรกรชาวนาเป็นรอบ 2 แล้ว ชาวนาพิจิตรอยากเรียกร้องให้ทางราชการช่วยเหลือและหาแนวทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน

นายเกรียงชัย อินทรทัต นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานการเกษตรจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ได้ลงสำรวจพื้นที่นาข้าวที่ได้รับผลกระทบจากโรคจู๋ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มียาที่จะใช้แก้ หรือป้องกันโรคจู๋ได้ แต่มีคำแนะนำว่าชาวนาควรเปลี่ยนมาปลูกข้าวพันธุ์ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลตามที่เคยแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

สาธุ.. ดูแล้วสลดใจ มีทั้งข่าวดี ข่าวร้าย บางคน บางประเทศ ก็ยังสะสมอาวุธ หลงในอำนาจ ดินฟ้าอากาศแปรปรวน
เมื่อไหร่ จิตใจคนถึงจะบริสุทธิ์ขึ้น เมื่อไหร่ ถึงจะลบล้าง กิเลสออกจากจิตให้หมด ให้กลายเป็นจิตบริสุทธิ์ เช่นเดิม..

ขออุทิศบุญกุศล ให้ดวงวิญญาณชาวเฮติ ไปสู่สุขคติ ด้วยค่ะ สาธุ

 

หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ) 18 ม.ค. 2553
เมื่อคืนวันที่ 11 ติดต่อรุ่งเช้าวันที่ 12 ม.ค. 53 ผม “ฝัน” ว่าเห็น เครื่องบินตกไฟลุกท่วม ในฝันนั้นผมเห็นชัดเจนทั้งการตกของเครื่องบินและชื่อของสายการบิน นี่ผมจะบ้าไปแล้วหรือนี่ขอให้ทุกอย่างเป็นเพียงความฝัน เท่านั้นก็พอ และอยากจะให้ทุกท่านกรุณาใช้สติในการ อ่านบทความวันนี้ อีกทั้งอยากจะให้ทุกๆท่านกรุณา อย่าด่าผมเลย ผมไม่รู้ว่าทำไม... อะไร แต่ผมยังไม่บ้าครับ...

ข่าวต่างประเทศ ข่าวต่างประเทศฮอตฮิต เหตุเครื่องบินโดยสารของเอธิโอเปียตกในทะเล

25-01-2553 | 17:00 l ชมทั้งหมด 42
ความคืบหน้าเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737-800 สายการบิน "เอธิโอเปียน แอร์ไลน์ส" เที่ยวบินที่ 409 พร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 92 คน ตกในทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียน หลังบินออกจากสนามบินในกรุง "เบรุต" ของเลบานอนเพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุง "แอดดิส อาบาบา" ของเอธิโอเปียได้เพียงไม่นาน ล่าสุดมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยของเลบานอนสามารถกู้ร่างผู้เสียชีวิตได้ แล้ว 21 คน ขณะที่ยังคงเร่งค้นหาร่างผู้โดยสารคนอื่นๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุให้เครื่องบินตก แต่พบว่าเหตุเกิดท่ามกลางสภาพอากาศที่เลวร้าย ทั้งนี้จากคำบอกเล่าของชาวบ้านที่อยู่ริมชายฝั่งใกล้จุดที่เครื่องบินตก ระบุว่าเห็นลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งตกลงไปในทะเล ขณะที่ประธานาธิบดี "มิเชล สุไลมาน" เชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับการก่อการร้าย

 

ทหารไทย-กัมพูชา คลายปัญหาเหตุปะทะชายแดนศรีสะเกษ​

​

ศรีสะเกษ 24 ม.ค. - พ.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม เสนาธิการกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 พร้อม พ.อ.ธวัชชัย แจ้งประจักษ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และคณะนายทหารกองกำลังสุรนารี ลงพื้นที่ฐานปฏิบัติการซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และประชุมร่วมกับ พล.ท.ซรัย ดึ๊ก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา

เพื่อติดตามข้อเท็จจริงกรณีมีเหตุปะทะกันบริเวณซำแต ตอนท้ายห้วยขนุน เมื่อเช้าวันนี้ (24 ม.ค.) โดยการประชุมใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงมีข้อตกลงกันว่า เพื่อความเรียบร้อยของทั้งสองฝ่ายได้ให้ทหารบริเวณใกล้จุดปะทะกลับไปยังที่ตั้งของแต่ละฝ่าย ส่วนการตรวจสอบพื้นที่บริเวณดังกล่าวไม่มีผู้เสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ.-สำนักข่าวไทย

2010-01-24 18:27:58

ป่าต้นน้ำหัวหินวิกฤติหนักถูกนายทุนโค่นพินาศหลายร้อยไร่​

​

ประจวบคีรีขันธ์ 25 ม.ค.- ร.ท.จิตติวัฒน์ วาดเจริญ ผบ.หน่วยลาดตระเวน หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังออกลาดตระเวนตรวจพื้นที่ป่าบ้านแพรกตะคร้อ ต.บึงนคร อ.หัวหิน ห่างจากชายแดนไทย-พม่า ประมาณ 8 กม.พบผืนป่าถูกนายทุนบุกรุกตัดโค่นต้นไม้เป็นบริเวณกว้าง เนื้อที่ประมาณ 400 ไร่ มีทั้งไม้ตะแบก, ไม้จันทน์หอม, ต้นไทร ซึ่งสภาพต้นไม้ถูกโค่นลงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ยังไม่มีการเผาทำลาย แต่พบมีการปักไม้สูงและผูกถุงพลาสติกสีขาวแสดงแนวเขตของนายทุนที่เข้าครอบครองพื้นที่

จากการตรวจสอบพบไม้ตะแบกและไม้ตับเต่า แผ่นขนาดต่างๆ ยาวประมาณ 5 เมตร เกือบ 100 แผ่น ซึ่งไม้ตับเต่าเป็นไม้ที่นิยมนำมาทำเป็นกรงนก ราคายกละประมาณ 50,000 บาท และพบร่องรอยเพิงพักและร่องรอยการแปรรูปไม้ในละแวกเดียวกัน เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไม้แผ่นทั้งหมด สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าต้นน้ำปราณบุรี ซึ่งเมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจจงอางศึกได้เข้าตรวจยึดพื้นที่ใกล้เคียงกันถูกบุกรุกประมาณ 400 ไร่มาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

2010-01-25 13:54:38

อากาศเลยแปรปรวนฝนตกฤดูหนาว-พืชไร่เสียหาย​

​

เลย 24 ม.ค.- นายคำพัน บุตรราช ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดเลย รายงานสภาพอากาศในพื้นที่ จ.เลย ว่า ระยะนี้มีฝนตกหนักเบาสลับกันมาเป็นเวลา 4 วันแล้ว และอากาศทั่วไปยังคงหนาวเย็น เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากประเทศเทศจีนแผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทำให้มีฝนและอุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส

โดยเมื่อวานนี้ (23 ม.ค.) มีฝนตกหนักเกือบทั่วไป และตกหนักสุดที่ อ.วังสะพุง วัดปริมาณน้ำฝนได้ 66.2 มิลลิเมตร จากอากาศหนาวเย็นและมีฝนตกนั้นอาจส่งผลกระทบต่อพืชการเกษตรได้รับความเสียหาย เบื้องต้นสำนักงานเกษตรจังหวัดเลย แจ้งว่า ช่วงนี้เป็นการเก็บเกี่ยวมะขามหวานพันธุ์สีทองในจังหวัดเลย และได้รับผลกระทบจากอากาศแปรปรวนแล้ว ผลผลิตเริ่มเน่าเสียและเกิดราในฝักมะขามหวาน รวมทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์มีความชื้น.- สำนักข่าวไทย

2010-01-24 13:57:14

ลำปางส่อเค้าแล้งหนักแม่น้ำวังตื้นเขิน​

​

ลำปาง 25 ม.ค.- นายกฤษเพชร เพชรบูรณนิล หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงปัญหาภัยแล้งว่า ปีนี้จังหวัดลำปางประสบปัญหาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติเริ่มแห้งขอด โดยเฉพาะพื้นที่ อ.วังเหนือ ซึ่งเป็นต้นน้ำหลายสายที่ไหลผ่านจังหวัดลำปาง

และขณะนี้แม่น้ำวังมีปริมาณน้อยมาก มองเห็นผืนทรายโผล่ขึ้นชัดเจน ทางอำเภอวังเหนือและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งวางกระสอบทรายชะลอการไหลของน้ำ เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค รวมถึงพื้นที่การเกษตรได้ในระดับหนึ่ง เพราะคาดว่าปีนี้ภัยแล้งจะส่งผลกระทบมากกว่าทุกปี ซึ่งสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเจ้าหน้าที่ออกสำรวจหมู่บ้านและพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อเตรียมป้องกันและการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในเบื้องต้น.-สำนักข่าวไทย

2010-01-25 13:48:57

ชาวบ้านบางสะพานน้อยประสบภัยแล้ง เดือดร้อนกว่า 15,000 คน​

ภาพประกอบจากทางอินเตอร์เน็ต

​

ประจวบคีรีขันธ์ 25 ม.ค. -นายสุรพล ศรีมณฑา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ราษฎรทั้ง 8 หมู่บ้านของ ต.ช้างแรก กว่า 15,000 คน กำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อใช้อุปโภค-บริโภค โดยเฉพาะชาวบ้าน หมู่ 2, 4, 7 และ 8 ที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบสูงด้านทิศตะวันตกของป่าไชยราช-คลองกรูด ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น มะพร้าว ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และเลี้ยงโค กำลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง น้ำแห้งบ่อเก็บน้ำต้นทุนอย่างรุนแรง

ที่ผ่านมาจะมีฝนตกลงมาบ้าง แต่ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ เนื่องจากไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำที่ดีพอ เนื่องจากแหล่งน้ำต้นทุน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กเพียงแห่งเดียวใน ต.ช้างแรก จุน้ำได้ 1 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคนำน้ำในอ่างมาผลิตเป็นน้ำประปา โดยต่อท่อส่งน้ำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านทิศตะวันออกทั้ง 2 อำเภอ คือ อ.บางสะพาน และบางสะพานน้อย ใช้บริโภค แต่ขณะนี้น้ำในอ่างเหลืออีกจำนวนไม่มากนัก เบื้องต้น อบต.ได้นำรถบรรทุกน้ำอออกแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่เดือดร้อนบางส่วนแล้ว.- สำนักข่าวไทย

2010-01-25 14:01:59

เพลี้ยแป้งระบาดหนัก ชาวไร่มันสำปะหลังบุรีรัมย์รายได้หายกว่า 142 ล้านบาท ​

​

บุรีรัมย์ 24 ม.ค.-ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันชัย ทิพย์อักษร ผู้ช่วยเกษตรจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมนักวิชาการกรมส่งเสริมการเกษตร และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริหารศัตรูพืชจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่รณรงค์แนะนำวิธีการป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้งให้กับเกษตรกรในอำเภอปะคำ

ซึ่งทั้งอำเภอมีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังกว่า 35,000 ไร่ และประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาด กัดกินใบ และยอดอ่อนต้นมันสำปะหลังได้รับความเสียหายจำนวนมาก พร้อมระบุว่า บุรีรัมย์มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังทั้งจังหวัดกว่า 280,000 ไร่ เกษตรกรกว่า 7,000 ราย ปัจจุบันประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดได้รับความเสียหายไปแล้วร้อยละ 50 จากที่เคยผลิตได้เฉลี่ยปีละ 140,000 ตัน ลดลงเหลือเพียง 72,000 ตัน ทำให้เกษตรกรต้องสูญเสียรายได้จากการขายผลผลิตมากถึง 142 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเกษตรจังหวัดได้เข้าไปแนะนำวิธีการป้องกันและกำจัดในเบื้องต้นแล้ว และจะได้ร่วมกับศูนย์บริหารศัตรูพืช หาวิธีแนวทางกำจัดเพลี้ยอย่างยั่งยืนถาวรต่อไป .- สำนักข่าวไทย

2010-01-24 11:22:54

ระเบิดทหารปัตตานีชุดพัฒนาสันติบาดเจ็บ 3 นาย​

​

ปัตตานี 24 ม.ค.- เมื่อเวลา 09.45 น. วันนี้ (24 ม.ค.) พ.ต.ท.วีรชาติ คูหามุข รองผู้กำกับการ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี พร้อมชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดปัตตานี เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดบนถนนทางหลวงชนบท ม.5 บ้านดอนนา ต.บางเขา อ.หนองจิก พบรถกระบะของทหารพรานชุดพัฒนาสันติ 43-4 และเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 3 นาย ถูกนำส่งโรงพยาบาลหนองจิก คือ อาสาสมัครทหารพรานมานพ ชุมพล อาสาสมัครทหารพรานสมพงษ์ ปานเพชร และอาสาสมัครทหารพรานจอม เซ้งทับ

ส่วนที่เกิดเหตุพบชิ้นส่วนวัตถุระเบิดกระจัดกระจาย คาดว่าเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง ใส่ไว้ในถังดับเพลิงฝังใต้ผิวถนน ลากสายไฟเข้าไปในป่าข้างทางเป็นตัวจุดชนวน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่าขณะที่ทหารชุดพัฒนาสันติ 43-4 จำนวน 5 นาย ออกจากฐานปฏิบัติการมาได้เพียง 2 กิโลเมตร เพื่อติดตามการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างต่อเนื่องจากอุทกภัยที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุได้จุดชนวนระเบิดขึ้น และล่าสุดอาสาสมัครทหารพรานทั้ง 3 นาย อาการปลอดภัยแล้ว.- สำนักข่าวไทย

2010-01-24 12:27:05

ประกบยิงสารวัตรกำนัน ต.จะแนะ เจ็บพร้อมสามี​

​

นราธิวาส 25 ม.ค. - เกิดเหตุคนร้ายประกบยิงสารวัตรกำนัน ต.จะแนะ กับสามี บนถนนสายนราธิวาส-ระแงะ ขณะขับรถกลับที่พัก แต่โชคดีเอาชีวิตรอดมาได้

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณปั๊ม ปตท. บ้านกาเสาะ หมู่ 7 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ขณะที่นางจิราวรรณ ดอเลาะ สารวัตรกำนัน ต.จะแนะ และนายดอฮะ ซึ่งเป็นสามี กำลังขับรถกลับที่พัก มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสั้นขนาด 9 มม. ยิงใส่ทั้งคู่ จนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยนำตัวส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

ทั้งคู่เล่าว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน นั่งท้ายรถกระบะตามประกบยิง ก่อนจะขับรถหลบหนีไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่า เป็นฝีมือของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้. - สำนักข่าวไทย

2010-01-25 00:20:24

ประกบยิงครูอัตราจ้างนราธิวาสบาดเจ็บ​

​

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (25 ม.ค.) นายจำลอง ไกรดิษฐ์ นายอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อม พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุ นายอับดุลกอเดย์ เจ๊ะเต๊ะ อายุ 37 ปี ครูอัตราจ้างสอนวิชาประวัติศาสตร์โรงเรียนบ้านสโลบูกิตจือแร ม.9 บ้านสโลว์บูกิ๊ตยือแร ต.รือเสาะ ถูกยิงบาดเจ็บขณะขับรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กษว 221 นราธิวาส มาตามถนนสายยี่งอ-รือเสาะ ปากทางเข้าโรงเรียนบูกิ๊ตจือแร

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่เก็บปลอกกระสุนปืนอาก้าไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทราบว่าระหว่างที่นายอับดุลกอเดย์ ชะลอความเร็วรถเพื่อเลี้ยวเข้าประตูโรงเรียน มีชาย 2 คน นั่งรถจักรยานยนต์ไม่ติดป้ายทะเบียนขับแซงขึ้นแล้วผู้ที่นั่งซ้อนท้ายใช้ปืนอาก้ายิงใส่ นายอับดุลกอเดย์ จากนั้นผู้ก่อเหตุยังวกรถกลับมา พอดีน้องชายของนายอับดุลกอเดย์ ขับมาถึง จึงใช้ปืนขนาด .38 ยิงขึ้นฟ้า ทำให้ผู้ก่อเหตุรีบหลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิษฐานจากปัญหาความไม่สงบ.- สำนักข่าวไทย

2010-01-25 11:02:48

ที่มา http://news.mcot.net

 

หนูนับแสน กัดต้นข้าว ชาวนากรุงเก่าระทม​

​

กองทัพหนูหนีน้ำท่วม อาละวาดกัดต้นข้าวยับนับพันไร่ ร้องเรียนภาครัฐแต่ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือ เชื่อหนูมากเพราะงูในพื้นที่ถูกจับไปขายหมด...

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. นายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบางบาล อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า เกษตรกรชาวนากว่า 100 ครอบครัวเรือนในพื้นที่ ต.บางหลวงโดด ต.บางชะนี ต.บางหัก และ ต.บางบาล อ.บางบาล ได้รับความเดือดร้อนได้ถูกหนูท้องขาวหนีน้ำท่วมมา อาศัยอยู่ตามริมถนนและหัวคันนา ออกมาอาละวาดกัดกินรวงข้าว ต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องและทำรังอาศัยอยู่นับแสนตัวนาข้าวได้รับความเสียหาย ประมาณ 1,800 ไร่และพื้นที่ตำบลใกล้เคียงอีกจำนวนมากรวมแล้วประมาณ 3,000 ไร่

นายกเทศมนตรีตำบลบางบาล กล่าวต่อว่า ชาวนาส่วนมากทำนาปี เก็บเกี่ยวได้ไร่ละประมาณ 70-80 ถัง ขณะนี้ราคาข้าวดีแต่เหมือนได้ทุกขลาภมาพร้อมกัน นาข้าวถูกหนูกัดกินรวง ข้าว ต้นข้าวเสียหายจึงยังไม่ใครเกี่ยวข้าวเพราะเกี่ยวแล้วกลัวขาดทุนชาวนาต้อง จ้างรถเกี่ยวข้าวจึงปล่อยทิ้งไว้ เทศบาลได้ประสานกับทางอำเภอให้เจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอหาทางแก้ไขโดยจะใช้ วิธีวางยาเบื่อหนูแต่มีข้อแม้ว่าต้องวางยาวัน เวลา เดียวกันทุกตำบลเพื่อหวังผลให้หนูตายและหนีไป

นายชูเกียรติ กล่าวต่ออีกว่า หากปริมาณหนูยังมากทางเทศบาลได้เตรียมสำรวจส่งเสริมให้ชาวบ้านจับหนูไปกิน หรือขายและนำหางหนูมาขึ้นเงินกับทางเทศบาลโดยจะสำรวจและประเมินผลอีกครั้ง ว่าจะให้ตัวละเท่าไหร่เพื่อช่วยลดปริมาณหนูอีกทาง ส่วนชาวบ้านที่ใช้กรงดักจับหนูแล้วใช้อาหารสดล่อ เช่น หอยเชอรร์รี่และปลาทู เมื่อผ่านไปมดจะมาตอม หนูท้องขาวจะไม่เข้าไปกินจะมีแต่หนูกพุกเท่านั้นจึงทำให้หนูท้องขาวมีจำนวนมาก

ด้าน นายบุญส่ง หาศาสตร์ศรี อายุ 55 ปี ชาวนา ต.บางบาล กล่าวว่า สภาพแปลงนาข้าวที่ถูกหนูออกอาละวาดกัดกิน ส่วนปลายยอดต้นข้าวได้รับความเสียหายขาดวิ่น เสียหายเป็นแปลงขนาดใหญ่ และเป็นวงกว้าง มีทั้งร่องรอยที่ถูกหนูกัดกินไปกอ่นหน้าแล้วกระจายอยู่ทั่วแปลงนา โดยในพื้นที่อ.บางบาลไม่เคยปรากฏว่า มีหนูออกมาอาละวาดกัดกินต้นข้าวแต่อย่างไร หนูที่พบส่วนใหญ่เป็นหนูท้องขาว คาดว่าเป็นหนูท้องขาวที่อพยพหนีน้ำท่วมในเขตพื้นที่อำเภอใกล้เคียงที่ถูกน้ำ ท่วมไม่มีแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหาร อพยพหนีน้ำเข้ามาอาศัยอยู่ในอ.บางบาล พื้นที่ทำนาปีต้นข้าวกำลังตั้งท้อง

ชาวนาที่ได้รับผลกระทบ กล่าวต่อว่า เหตุนี้ทำให้ อ.บางบาล ถูกกองทัพหนูอาละวาดแทะกัดกินต้นข้าวได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างกระจาย อยู่ทั่วบริเวณรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 2,000 – 3,000 ไร่ ชาวนาที่ได้รับความเดือดร้อนได้รวมตัวร้องขอความช่วยเหลือไปยังเกษตรอำเภอ บางบาล ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือแต่อย่างไร อ้างว่าที่ผ่านมาไม่เคยปรากฏว่ามีหนูมากัดกินต้นข้าวแต่อย่างไร จึงไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้ช่วยเหลือ ชาวนาทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเองได้วิธีการออกว่างกับดักจับหนูเพื่อให้ลด ปริมาณลงแต่ไม่เป็นผล หนูยังคงออกอาละวาดไล่กัดกินทุกวัน

นายบุญส่ง กล่าวด้วยว่า เคยคิดกันถึงขนาดจะนำลวดมาขึงรอบแปลงนาข้าวปล่อยกระแสไฟฟ้าช็อตหนูให้ตาย แต่ต้องล้มเลิกความคิดเนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยแก่ชาวบ้านถูกไฟฟ้าช็อตตายเอง ตามปกติในธรรมชาตินกกลางคืน และงูจะเป็นตัวช่วยกำจัดไม่ให้ประชากรของ หนูเพิ่มมากขึ้นสมดุลในธรรมชาติ พบว่าที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนักล่างูจากจ.สุพรรณบุรีเหมารถเข้ามาใน พื้นที่อ.บางบาล ไล่ล่างูทุกชนิดไปขาย ทำให้จำนวนงูลดน้อยลงตรงกันข้ามจึงทำให้จำนวนของหนูเพิ่มมากขึ้นออกมาอาละวาดไล่กัดกินต้นข้าวของชาวนาได้รับความเสียหาย วอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าทำการช่วยเหลือด่วนถ้าปล่อยทิ้งไว้นาข้าว ที่เหลืออีกหลายพันไร่จะถูกกองทัพหนูกัดกินเสียหายอีกเป็นวงกว้าง

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ออนไลน์ วันศุกร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ.2553

ที่มา http://www.thairath.co.th/

 

ฝึกอภิญญาเพื่อช่วยเหลือผู้คนยามเกิดภัยพิบัติ​

​

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kananun<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2841522", true); </SCRIPT> หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

ช่วงนี้หลายๆคนในเว็บ ทั้งมาเล่าและส่งพีเอ็มมาให้ทราบตรงกัน เกือบสิบรายว่า

มีพระสงฆ์ท่านมาสอน สมาธิ สอนวิชา สอนอภิญญาในฝัน

บางคนท่านพาไปสอนในถ้ำ บางคนท่านสอนให้ทำอิทธิวิธีตาม เช่น เดินบนผิวน้ำบ้าง หายตัวบ้าง เหาะไปในอากาศบ้าง

หลายท่านก็มีครูบาอาจารย์ท่านมาสอนธรรมมะขั้นสูง

สอดคล้องกับที่พระสงฆ์ครูบาอาจารย์หลายรูปท่านกล่าวตรงกันว่า พระอภิญญาท่านเริ่มออกมามากขึ้น ท่านมาสอนผู้มีวาระและวาสนาทางธรรมเกี่ยวพัน

หลายท่านจะเร่งการปฏิบัติเองโดยอัตโนมัติเพื่อนำอภิญญาไปใช้เพื่อช่วยเหลือผู้คนยามเกิดภัยพิบัติ

ดังนั้นขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ สาธุ<!-- google_ad_section_end --> __________________

<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->" จิตใจที่ดีงามจะคงอยู่ตลอดไป "​

การแสดงพลังจิตของ cyril ครับ ปั้นดินเหนียวโดยไม่ให้มือโดนครับ
<TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><THEAD><TR><TD class=tcat style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2></TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/JHXGxwkSsbA width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash allowfullscreen="true" wmode="transparent"></TD></TR></TBODY></TABLE>​

ที่มา http://palungjit.org/threads/cyill-นักมายาจิต-สุดยอดเหมือนกันครับ.101254/page-1