ไม่เคยฝึกมโนมยิทธิ แต่สิ่งที่ตัวเองสื่อได้ คล้ายๆจะมาทางด้านนี้

ขอความเมตตาช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันค่ะ

คือว่า ดิฉันมีเพื่อนบ้านคนนึงชื่อ "ป้าช้อย" แกพิการแขนขาด้านขวาลีบมาแต่กำเนิด เดินกระเผลกๆ
แกมีอาชีพไปขายล็อตเตอรี่ที่ จ.เชียงใหม่ ไป 2 ครั้ง/เดือน วันที่ 16 ตค.52 ที่ผ่านมาแกถูกรถชน<O
เข้าอย่างจังขณะที่กำลังเดินข้ามถนนคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าถูกชนจนตัวลอย อาการสาหัสสลบ
ไปหลายวันพอพื้นขึ้นสภาพก็คล้ายเจ้าหญิงนิทรา พูดไม่ได้ ขยับแขนขาได้นิดหน่อยช่วยเหลือตัวเอง
ไม่ได้ ตอนนี้แกถูกส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.วังสะพุง ญาติพี่น้องก็แยกย้ายครอบครัวไปหมด
มีพี่คนเดียวที่นอนเฝ้าอยู่ ทางบ้านแกฐานะยากจนต้องหาเลี้ยง ดูแลพ่อค่ะ ดิฉันไปเยี่ยมป้าช้อยมา
เห็นแล้วน่าสงสารมากๆ ป้าแกไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครไปเยี่ยมสลึมสลือ เพราะสมองด้านขวาถูกกระแทกค่ะ
ไม่รู้ว่าจะช่วยป้าแกยังไง เลยนำเรื่องของป้าช้อยมาบอกกล่าวให้เพื่อนกัลยาณมิตรได้ทราบ
และขอความเมตตาช่วยเหลือป้าช้อยด้วยค่ะ ขอบพระคุณท่านกัปตัน ที่โมทนาในครั้งนี้ สาธุ
ขอบพระคุณท่านกัลยณมิตรที่สละเวลาอ่านเรื่องราวของป้าช้อย..


ป้าช้อย


พ่อของป้าช้อย และบ้านป้าช้อย


บัญชีธนาคารของป้าช้อย
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธกส.
เลขที่บัญชี 133-2-34036-9
ชื่อบัญชี น.ส. สุ้ม คำก่อ

 

ผมจะขอร่วมบุญ สมทบปัจจัยร่วม ซื้อตู้พระไตรปิฎก พร้อมหนังสือพระไตรปิฎก วัดถ้ำวัวแดง ด้วยครับ แต่อาจจะต้องรอปัจจัยนิดหน่อยครับ ไม่เกินสิ้นเดือนแน่นอนครับ

 

"นอกจากนี้ ท่านยังได้พูดเตือนอีกหลายๆ เรื่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราอาจมองข้าม เป็นต้นว่า เอ่ยปากใช้พระหยิบโน่นหยิบนี่ ไม่ยกเว้นแม้กรณีขอให้พระท่านหยิบซองให้เพื่อจะใส่ปัจจัยถวาย การหยิบฉวยของสงฆ์ไปใช้ส่วนตัว การพูดชักไปในทางโลกในขณะที่ผู้อื่นกำลังสนทนาธรรม การส่งเสียงรบกวนผู้ที่กำลังปฏิบัติภาวนา การขายพระกิน ซึ่งเรื่องหลังนี้ ท่านพูดเอาไว้ค่อยข้างรุนแรงว่า ใครขายพระกิน จะฉิบหาย สมัยท่านยังมีชีวิต ท่านจะพูดกระหนาบบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเวลารับประทานอาหาร ทานไม่ให้พูดคุยกัน จะทำกิจอันใดอยู่ ก็ให้มีสติ พยายามบริกรรมภาวนาไว้เรื่อยๆ เรียกว่าเกลี่ยจิตไว้ให้ได้ทั้งวัน เมื่อถึงคราวนั่งภาวนา จิตจะได้เป็นสมาธิได้เร็ว เวลาจิตจะโลภ จะโกรธ จะหลง ก็จะได้รู้ได้เท่าทัน

ท่อนซุงทั้งท่อน ถ้าไม่ได้ขวานช่วยสับช่วยบาก ไม่ได้กบไสไม้ ช่วยทำพื้นไม้หยาบๆ ให้เกลี้ยงเกลาขึ้น ไม่ได้กระดาษทรายช่วยขัดให้ไม้เรียบเนียน ไม่ถูกดัดถูกประกอบ ก็คงไม่กลายมาเป็นเครื่องเรือนเครื่องใช้ที่มีประโยชน์ ฉันใดก็ฉันนั้น จิตใจของเราที่หยาบอยู่ หากไม่ได้รับการขัดเกลาหรืออบรมจากครูอาจารย์ไม่ได้รับการอบรมด้วยธรรมของ พระพุทธเจ้า จิตใจนั้นก็ย่อมเอาเป็นที่พึ่งไม่ได้"

 

สวัสดีค่ะ เป็นสมาชิกใหม่ ขออนุญาตร่วมลงเรือบุญลำนี้ด้วยค่ะ

ขออนุโมทนาในบุญทั้งหลายของทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

และหากมีกรรมใดๆ ที่ได้ล่วงเกินทุกท่านไว้ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
(และรวมถึงอนาคต ^ ^) ด้วยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ขออโสสิกรรมจากทุกท่านด้วยค่ะ
และขออโหสิกรรมให้ทุกท่าน เพื่อถวายเป็นอภัยทานแก่พระพุทธองค์ค่ะ

วันนี้ เวลา ๒๐.๐๙ น. ได้โอนเงิน ๑,๐๐๐ บาท เพื่อร่วมทำบุญถวายพระไตรปิฎก
วัดถ้ำวัวแดง เข้าบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยเทสโก้โลตัส คลอง 3
หมายเลขบัญชี 368-2-03897-2 ค่ะ

ขอฝากเนื้อฝากตัวกับทุกท่านด้วยนะคะ จะขอเข้ามาพูดคุยอีกในโอกาสต่อไปค่ะ ^ ^

 

ยินดีต้อนรับค่ะ แล้วก็ขออนุโมทนาในบุญกุศลที่ทำด้วยนะคะ สาธุ

 

สวัสดีพี่น้องเรือธรรมทุกท่าน ขอโมทนาในทุกบุญกุศลกับทุกดวงจิตค่ะ

และขอนำบุญมาให้ วานนี้ได้ให้พี่สาวโอนเงินร่วมทำบุญผ้าไตร ปัจจัยกับคณะนำบุญสู่ประเทศพม่า หนึ่งหมื่นบาท ขอให้พี่น้องร่วมโมทนาบุญร่วมกัน ขออำนาจแรงบุญครั้งนี้จงส่งผลให้ทุกท่านได้มีดวงตาเห็นธรรม ขอความขัดข้อง ขอคำว่าไม่มีอย่าได้เกิดแก่พวกเราชาวเรือธรรมทุกคน จนกว่าจะสำเร็จในสิ่งที่ปรารถนาเทอญ

ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่ด้วยค่ะ

ขอบคุณคุณน้องสาวที่เล่าประสบการณ์การทำสมาธิค่ะ
พี่ได้ส่งที่ติดต่อและชื่อไปทาง PMคุณน้องสาวแล้วนะค่ะ

คิดถึงคุณน้องฝนจัง อากาศทางโน้นคงหนาวแล้ว ดูแลสุขภาพนะค่ะ

และขอให้คุณขาโจ๋ข้าเองมีสุขภาพแข็งแรงโดยเร็วค่ะ

บุญรักษาค่ะ

ปล เขียนทีเดียวทุกเรื่อง ประหยัดเนื้อที่

 

มาให้กำลังใจครับ คุณขาโจ๋ฯ

ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้พิจารณาอย่างเข้าถึงและเข้าใจในร่างกายเราว่า ร่างกายนี้ไม่ใช้ของเรา (สักกายทิฏฐิ)

คนที่ไม่เคยสัมผัสอาจจะเข้าใจ แต่ไม่เข้าถึงนะครับ

ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

 

สวัสดีครับน้องเบญ

พี่อ๋า (คุณพัชมณ วงษ์วันทนีย์) ขอร่วม สมทบปัจจัยร่วม ซื้อตู้พระไตรปิฎก พร้อมหนังสือพระไตรปิฎก วัดถ้ำวัวแดง ๕๐๐ บาทครับ

 

ขออนุญาตท่านกัปตัน ยินดีต้อนรับคุณ andrea ด้วยครับ

พี่หนิงเตรียมไม้พายให้สมาชิกท่านใหม่ด้วยครับ

ที่นั่งข้างขวายังว่างอยู่ครับ เดินชิดใน แล้วอย่าลืมไม้พายนะครับ

ช่วยกันพายครับ รับรองถึงจุดหมายแน่นอน

อย่างไรก็อย่าลืม ส่งรายละเอียด ที่ติดต่อได้ให้กับกัปตันของเรานะครับคุณ andrea

โมทนาบุญ ในบุญที่ได้ทำด้วยนะครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

Welcome on board.

(ปล. ฝากเนื้อฝากตัว อย่าลืมหัวและแขนขา นะครับ ฮิ ฮิ)

 

อนุโมทนาครับ
พี่สาวครับสมมติถ้าเราทำบุญแล้วเรามีความสุขใจในการทำ แต่กายอาจจะทุกข์บ้าง เช่น เมื่อทำแล้วก็อาจจะต้องอดข้าวสัก มื้อสองมื้อ แบบนี้ถือว่าเบียดเบียนตนเองใช่ไม๊ครับ

 

วันนี้ (15 พ.ย. 52) เวลา 09.13 น.ได้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย จำกัด เข้าบัญชี ธนาคารไทยพานิชย์ เลขที่ 368-2-03897-2 จำนวน 396.00 บาท เพื่อร่วมทำบุญสร้างพระไตรปิฎก




ธรรมะไม่กลับมา โลกาวินาส

 

วันนี้(15 พ.ย.52) ได้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย จำกัด เข้าบัญชี ธ.ก.ส. เลขที่ 1332340369 จำนวน 396.00 บาท เพื่อช่วยเหลือป้าช้อย

ขอให้ป้าช้อยหายป่วยเร็วๆ





ธรรมะไม่กลับมา โลกาวินาส

 

เมื่อวานได้ไปกราบหลวงพ่อฤาษีที่วัดท่าซุง ทำบุญถวายสังฆทานผ้าไตรจีวร-พระพุทธรูป และร่วมทำบุญหยอดตู้ทั้ง 20 ตู้ ได้แก่
1. วิหารทาน 2.สังฆทาน 3.ธรรมทาน 4.ชำระหนี้สงฆ์ 5.ร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐม
6.ร่วมสร้างหอพระไตรปิฏก 7.ค่าน้ำ-ค่าไฟฟ้า 8.ร่วมทำบุญทุกอย่าง 9.เลี้ยงอาหารพระ 10.ทำบุญสะเดาะเคราะห์
11.ร่วมสร้างวิหาร 100 เมตร 12.ร่วมบวชพระ-บวชเณร 13.ร่วมซื้อที่ดิน 14.ทำบุญต่ออายุ 15.ถวายค่ายารักษาโรค
16.ถวายยานพาหนะ 17.ทุนนักเรียน 18.มูลนิธิ 19.ซื้อทองคำเปลวปิดทองพระ 20.ร่วมสร้างมณฑปสมเด็จองค์ปฐม
ขอให้กัลยาณมิตรทุกท่านร่วมอนุโมทนาบุญด้วยกันนะคะ-Happy Smile_

 

เมื่อวานนี้ (วันที่ ๑๔ ) ได้ไปวัดท่าซุงมาขอรับ และได้ถวายสังฆทาน ๓ คน (ผม และลูกอีก ๒ คน คนละชุดกัน) ขอทุกท่านโมทนาด้วยครับ
ยังเหลืออีก ๘ เดือนที่จะต้องทำให้เจ้ากรรมนายเวรที่เกาะติดหลังอยู่ หลวงปู่ปานฝากบอกผ่านญาติผู้เป็นพี่ให้ทำ ๙ เดือน แปลว่าผมยังจะต้องอยู่ต่อไปอีก ๙ เดือนด้วยซิเนื่ยยังไม่ตายง่ายๆ

ครานี้เอาลูกสาวตัวแสบไปฝึกมโนมยิทธิ หุหุหุ คนฝึกน้อย ผ่านฉลุย แถมเห็นชัดกว่าผมและลูกชายเสียอีก เห็นถึงรายละเอียดเครื่องประดับของเทวดา ว่าเป็นเพชรประดับ *-*
อันนี้เป็นความเข้าใจของลูกสาวผิดถูกผมไม่ขอยืนยัน เพราะยังเลวอยู่ไม่ได้ดีไปกว่าเขา
ฝึกเสร็จก็ต้องมาลองถามสิ่งที่เห็นนั้นถูกต้องมั้ย จากเรา และลูกชายว่าคล้องกันมั้ย คล้ายกันมั้ย หุหุหุ ปรากฏว่าเห็นภาพพระดีกว่าเราเสียอีก ชัดกว่า ใสกว่า

ไปครานี้มีเรื่องแปลกให้เห็น ก่อนที่จะให้ลูกไปสาวไปฝึกมโน ปรากฏว่าได้กลิ่นแป้งหอมมาก ก็คิดว่าพวกที่บวชชีพราหมณ์เขาใส่ก็ยังสงสัยว่า อือ ใส่แป้งซะหอมฟุ้งเลยนะนี่ และก็เฉยไปเสีย แล้วนั่งฝึกกรรมฐานกันไปตามปกติ

หลังจากฝึกเสร็จก็จะพาลูกทั้ง ๒ คนไปเลี้ยงอาหารปลาที่ท่าน้ำของวัด บังเอิญให้ขับรถสวนกับชีพราหมณ์ที่ขับมอไซด์สวนกันหน้าประตูทางเข้าตึกรับแขก เอะ กลิ่นแป้งอีกแล้ว สงสัยพราหมณ์คนนี้ใส่แน่ แค่ขับรถสวนยังเข้ามาถึงในรถได้ ตอนนั้นเปิดกระจกไว้นิดนึงให้อากาศระบายเพราะรถจอดไว้แดดส่องมันเลยร้อนนิดๆ

เดินลงไปที่ท่าน้ำของวัดนั่งมองลิง ๒ ตัวกำลังให้อาหารปลา เอ๋า กลิ่นแป้งอีกแล้วกลิ่นเดิมด้วยดิ มองซ้ายมองขวาไม่มีคนทาแป้ง ไม่มีคนเดิมที่เห็น หันไปถามลิง๒ตัว ได้กลิ่นแป้งไหม๊ลูก คำตอบที่ออกมาเล่นเอาอึ้ง มานั่งนึกดูแป้งที่ได้กลิ่นนั้นคุ้นๆเหมือนเคยได้กลิ่น แต่ไม่รู้ยี่ห้ออะไร แต่รู้ว่าเป็นกลิ่นที่คุ้นมาก หุหุหุ

หลังจากนั้นก็ได้คุยกับญาติผู้เป็นพี่ แล้วเล่าสู่กันฟัง ญาติผู้เป็นพี่บอกว่าทำไมไม่เอาจิตถาม มัวแต่ใช้ตาเนื้อเสียนิสัย เอิ๊กๆ กลัวเฝือเลยไม่ใช้ งิงิ โดยส่วนตัวถ้าไม่เห็นด้วยตาเนื้อมักไม่ค่อยเชื่อ เสียนิสัย(สลับกันนะ ^^) ไม่ดีนะขอรับ

ตะนี้ได้คุยกันถึงเรื่องนึงอาจจะไม่สำคัญนักแต่ก็ได้อย่าประมาท หลังจากนี้ไปมันจะมีเหตุหลายอย่างเข้ามามันอาจจะไม่โดนพวกเราโดยตรงแต่ก็มีผลกระทบ ระวังสถานที่ที่เป็นชุมชนกันไว้หน่อยก็ดี เหตุในปีนี้อาจจะยังไม่แรงแต่ปีหน้าไปอาจจะเรื่มรุนแรงขึ้นไปตามลำดับ

ที่ได้นำมาบอกไม่ได้ให้กลัว หรือให้เชื่อ แต่ให้คิดไว้เสมอว่าอย่าได้ประมาทเพราะสิ่งที่รู้มาอาจจะเกิดหรือไม่เกิดก็ได้ ไม่มีสิ่งยืนยัน แต่ถ้ามันเกิดก็ให้ระวังเรื่องสถานที่ๆมีคนเข้าไปมากๆ ที่ไหนไม่สำคัญ ถ้าถึงคราวมันจะตายอยู่ไหนมันก็ตาย

พึงระลึกไว้ว่า พระนิพพานคือที่ๆเราจะไป สังโยชน์ ๓ พึงระลึกไว้ (ศีลที่เรารักษาเป็นปกติ ไม่สงสัยในคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกถึงความตายเป็นปกติ ระลึกถึงพระนิพพานเป็นปกติ) ถึงเราอาจจะยังไม่ได้เป็นพระอริยะในเบื้องต้น แต่เมื่อใกล้ที่เราจะทิ้งสังขาร เราระลึกถึงพระนิพพานจนเป็นอารมณ์มันจะรวมตัวกันเป็นพระอรหันต์ในเบื้องท้ายตัดเข้าพระนิพพานก็อาจเป็นได้ใครจะรู้ หลวงพ่อท่านก็ได้เคยบอกไว้ ^^

ขอบคุณขอรับสำหรับกำลังใจที่ทุกท่านให้ไว้ ไม่มีคำใดที่ดีพอพอที่จะกล่าว ได้แต่ขอให้ทุกท่านทำบุญตามกำลังที่พึงมี(อย่างที่พี่สาวบอก) และขอให้ทุกท่านได้เข้าสู่พระนิพพานเป็นที่สุด ขอรับ

 

ไปตอนไหนอ่าา ไม่ได้ทักทายกันเยย
อ่ะ แต่ว่ายังไม่เคยเห็นหน้ากันนิ เลยไม่รู้ว่าคนไหน
ผมไปก่อนช่วงฝึกมโน ก็ประมาณ ๑๑.๒๐ อะครับ อยู่ในวิหาร ๑๐๐ เมตร จนถึง เวลา ๑๔.๐๐ ค่อยย้ายไปแพให้อาหารปลางับ
เสียดาย โอกาสหน้ายังมีเนอะ ถ้ายังมีชีวิตอยู่นะ คิคิคิ

 

อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะครับ
วันนี้ผมและแฟนได้ไปทำบุญร่วมสร้างวิหารวัดเขาวง(ถ้ำนารายณ์) สระบุรีมาครับ
แล้วตอนบ่ายนี้ได้ไปฝึกมโนยิทธิกับอาจารย์ชนะ ที่ ศูนย์พุทธศรัทธา อ.บ้านหมอ มาด้วยครับ ต้องกราบขอบพระคุณอาจาย์ชนะด้วยนะครับ^^ อาจารย์ชนะใจดีมากครับมีโอกาสผมและแฟนไปอีกแน่นอนครับ

 

โอ้ ตาขาโจ๋ฯมีทางรอดแล้ว ดีดี ยังซ่าได้อีกนาน

 

หลวงปู่ดู่เทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงผู้ได้มโนมยิทธิ
หลวงปู่ดู่ท่านเทศน์สอนคณะศิษย์วัดท่าซุงที่ได้มโนมยิทธิ
ซึ่งได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ดู่ ตามคำสั่งหลวงพ่อฤาษีฯ ​

​

หลวงปู่.....เอ้า คณะนี้มาจากไหน (แล้วหลวงปู่ท่านก็เงียบ)...อ๋อเด็กฝาก

คณะมโนมยิทธิ...หลวงพ่อ(ฤาษี) ท่านให้มากราบเจ้าค่ะหลวงปู่รู้จักไหมเจ้าคะ

หลวงปู่ดู่...รู้จัก

คณะมโนมิยทธิ....หลวงปู่เจ้าคะดิฉันฝึกมโนขึ้นไปกราบพระข้างบนดีไหมเจ้าคะ?

หลวงปู่ดู่.....การไปกราบพระ พบพระนั้นเป็นของดี
ให้หมั่นรักษาองค์พระ(ภาพพระ)เข้าไว้ พระท่านจะสอน
ท่านจะบอกวิธีการปฏิบัติ เราก็นำมาประพฤติปฏิบัติตามด้วยความตั้งใจ
เคร่งครัด แต่ถ้าพบพระแล้ว ท่านสอนแล้วไ ม่นำมาประพฤติปฏิบัติ
หรือปฏิบัติจนพบพระแล้วไม่สามารถทำให้อารมณ์ชั่วทั้ง ๓ คือ
โลภ โกรธ หลง มันเบาบางหลง อย่างนี้ยังใช้ไม่ได้ ถือว่าปฏิบัติผิดทาง
คนที่มัวแต่เอาสิ่งที่ตนเองได้ (ญาณ) ไปดูนั้นดูนี่ ทำนายทายทัก
ไม่นานอุปทานก็เข้าแทนที่ ทีนี้แทนที่มันจะไปสุคติภูมิ
มันก็ไปอบายภูมิแทน เหตุจากการแอบอ้าง คำสอนของพระ
เพราะอารมณ์อุปาทานนั้นเอง จงระวังไว้ ท่านมหาวีระ
ท่านมีบารมีสูง มีข้างบนเป็นกำลังหนุน เป็นอาจารย์ใหญ่สอน
คนได้จำนวนมาก ข้าขอโมทนา พวกแกเกิดมาพบพระอรหันต์
ที่มีบารมีสูง อย่าให้เสียทีที่ได้พบ เอาสิ่งที่ตนปฏิบัติบัติได้(ญาณ)
มาอบรมตนเอง อย่าเที่ยวไปทำนายทายทักชาวบ้าน
ข้ออันนั้นเห็นจะไม่ใช่จุดประสงค์ แม้ลูกศิษย์ อยู่ใกล้ข้าแท้ๆ
ยังเฝือได้ แล้วถ้าพวกแกยังประมาท ระวังนรกจะกินหัวเอา....

คณะมโนมยิทธิ...เราจะรู้ได้ยังไงเจ้าคะว่าเวลาเราขึ้นไปกราบนั้น เราเห็นจริงๆ

หลวงปู่....แกลองใช้อารมณ์นั้น(ญาณ) ตรวจสิ่งที่มองไม่เห็นแต่สิ่งนั้นยังมีอยู่สิ เช่น แกลองตรวจดูว่าในกระเป๋าของเพื่อน
ที่มาด้วยกันมีเงินอยู่เท่าไหร่ ถ้าแกตอบถูก อารมณ์ที่แกขึ้นไปกราบพระ แกก็เห็นจริง แต่ถ้าแกตอบไม่ถูก พระที่แกเห็นก็ไม่จริง...


คณะมโนมยิทธิ....เราถามเทวดาเลยได้ไหมเจ้าค่ะ

หลวงปู่....เอ้า เงินในกระเป๋านี้มันเป็นของหยาบแกยังมองไม่เห็นเลย นับประสาอะไรกับเทวดา แกจะไปมองเห็นล่ะ กายเทวดาละเอียดกว่ากันเยอะ


คณะมโนมยิทธิ...ต้องตรวจอารมณ์เช่นนี้ก่อนใช่ไหมค่ะ

หลวงปู่ดู่...ใช่ ข้าก็ให้ลูกศิษย์ตรวจอารมณ์อย่างนี้ก่อนแล้วค่อยขึ้นไปกราบพระ ถ้าตรวจแล้วไม่ตรงก็ต้องหัดวางอารมณ์ใหม่
ไม่นานก็ตรง คราวต่อไป ไม่ต้องกำหนด เขาจะรู้เลยว่า อะไรซ่อนอยู่ตรงไหน .....(หลวงปู่เงียบสักพัก) (แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า)
พระมหาวีระยังสอนให้แกหัดทำเวลาตอนเช้ามืด ให้ลองตรวจว่า เช้าวันนี้จะมีใครมาหาไหม เขาจะมาทำอะไรใส่เสื้อสีอะไร ใช่ไหมล่ะ

คณะมโนมยิทธิ....หลวงปู่รู้ได้ยังไงเจ้าคะ

หลวงปู่ดู่...ก็พระมหาวีระบอกข้า อยู่ข้างๆนี่แหละ บอกว่า..
พวกแกมันลิงทะโมน ต้องจับไปมัด เฆี่ยนแล้วสอน
(เสียงหลวงปู่หัวเราะ แล้วพูดว่า)ต่อไปให้รีบตั้งใจปฏิบัติ
อย่าสนใจคนอื่น สนใจจิตตัวเองให้มากๆ รักษาจิตตนเองให้ดี
รักษาองค์พระ(ภาพพระ)ไว้อย่าให้หาย ชำระใจให้
ปราศจากความโลภ โกรธ หลง มันก็ถึงเองแหละนิพพาน
ไม่ใช่ปากก็บอกจะไปนิพพาน แต่ไม่ชำระโลภ โกรธ
หลงให้ขาดไป อธิษฐานยังไงมันก็ไม่ถึงนะแก
นิพพานเข้าไม่ได้ด้วยการอธิษฐาน แต่ต้องอาศัยการปฏิบัติ
ซึ่งจุดสำคัญคือการละอารมณ์ โลภ โกรธ หลง

ละได้เมื่อไหร่ถึงทันที ละไม่ได้มันจะถึงแค่หัวตะพาน....

คณะมโนมยิทธิ...สาธุเจ้าค่ะ หลวงปู่

หลวงปู่ดู่ ...(ให้พร)......

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="85%" height="100%">หลวงปู่บรมครู พระครูธรรมเทพโลกอุดร
(คัดลอกจากหนังสือ ตามรอยหลวงปู่ใหญ่ พ.ศ.2549 โดยคุณพรหมินทร์ อึ้งสกุลรัตน์)
ตอนที่ 3
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นพระอริยสงฆ์อีกรูปหนึ่งที่เคยพบ หลวงปู่บรมครู พระครูธรรมเทพโลกอุดร ดังที่คุณวิรัตน์ โรจนจินดาได้บันทึกไว้ดังนี้

“เหตุการณ์ครั้งหนึ่ง เกิดขึ้นในช่วงที่ข้าพเจ้า เริ่มตระเวณหา ครูบาอาจารย์ ตามวัดต่างๆ ตามคำแนะนำของผู้ปฏิบัตธรรม วันหนึ่งข้าพเจ้าได้เดินทางไปกราบหลวงปู่ดู่ ที่วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อไปถึงนั้นเป็นเวลา 4 โมงเย็น ข้าพเจ้าได้ไปถามเด็กวัดว่า กุฏิหลวงปู่ดู่ อยู่ทางไหน เด็กคนนั้นก็พาข้าพเจ้าไปจนพบตัวท่าน ขณะท่านกำลังอยู่ที่ศาลาริมน้ำ ข้าพเจ้าเข้าไปกราบเท้าท่าน ท่านก็เมตตาและถามว่ามาจากที่ไหน ข้าพเจ้าก็กราบเรียนถามท่านว่า มาจากกรุงเทพฯ ครับ แล้วท่านก็นั่งหลับตาอยู่นานสองนาน จนข้าพเจ้าคิดไปต่างๆ นานาว่าท่านคงไม่สบาย เวลาผ่านไปนานพอสมควร พอท่านลืมตาขึ้นข้าพเจ้าก็รีบถามท่านทันทีว่า หลวงปู่ไม่ลบายหรือเปล่า หลานจะไปซื้อยามาถวาย ท่านก็ตอบข้าพเจ้าว่า “ฉันกำลังคุยกับหลวงพ่อเกษมที่ลำปางอยู่ จึงไม่ได้พูดคุยกับเธอ”

เหตุการณ์ครั้งนั้นข้าพเจ้าแทบไม่อยาก เชื่อเลยว่า หลวงปู่ดู่ ท่านอยู่ถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะสามารถส่งกระแสจิต ติดต่อกับหลวงพ่อเกษมที่จังหวัดลำปางได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ จิตใจก็เกิดปรามาสท่าน เพราะขณะนั้นข้าพเจ้ายังไม่แตกฉานในเรื่องธรรมะ ภายหลังต่อมาข้าพเจ้าได้เริ่ม ปฏิบัติพระกรรมฐาน เริ่มศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าจึงได้เข้าใจ อย่างลึกซึ้งว่า ท่านคือ พระสุปฏิปันโนรูปหนึ่ง ข้าพเจ้าจึงได้กลับไปที่วัดสะแก อีกครั้งหนึ่ง พร้อมด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน และเครื่องสักการะ เพื่อขอขมาลาโทษ ที่ได้เคยล่วงเกินด้วย กาย วาจา หรือใจก็ตาม ท่านก็เมตตาให้โอวาทและอบรมสั่งสอนธรรมะแก่ข้าพเจ้านับแต่นั้นมา

จากนั้น ข้าพเจ้าก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน ท่านไดสอนวิปัสสนากรรมฐานจนข้าพเจ้าพอได้รู้ ได้เห็นบ้างตามสมควร ทำให้ข้าพเจ้าทราบว่า พระสุปฎิปันโนนั้นสภาวะจิต สภาวะธรรมของท่านละเอียดอ่อน สามารถติดต่อถึงกันได้ไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหนก็ตาม

หลังจากนั้นแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้คอยรับใช้ท่านอยู่หลายปี ท่านมีเมตตาเล่าเรื่องหลวงปู่ใหญ่ให้ข้าพเจ้าฟังว่า สมัยที่ท่านออกเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรนั้น วันหนึ่งในฤดูหนาวท่านเดินทางไปถึงดงพญาเย็น แล้วเกิดเป็นไข้มาลาเรียอยู่ท่านกลางป่าดงดิบ ท่านคิดว่าคงจะไม่รอดชีวิตแน่แล้ว แต่จู่ๆ ก็มีพระรูปร่างสูงใหญ่องค์หนึ่งเอายาเม็ดกลมๆ ปั้นเหมือนลูกกลอนมาให้ท่านฉัน 2 เม็ด เมื่อท่านฉันเสร็จแล้ว ปรากฎว่าอาการไข้กลับทุเลาลงอย่างน่าอัศจรรย์ พอท่านหายพระรูปร่างสูงใหญ่องค์นั้นก็จากไป โดยที่ท่านไม่ทราบว่า พระองค์นั้นชื่ออะไร ภายหลังที่ท่านกลับมาอยุธยา ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ อาจารย์ ของท่านฟัง หลวงพ่อกลั่นหัวเราะแล้วบอกว่า พระรูปร่างสูงใหญ่องค์นี้ ท่านเป็นพระหลายยุค หลายสมัย ท่านเข้ามาเผยแผ่ พระไตรปิฎกในสุวรรณภูมิ คอยค้ำชูบวรพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง ไม่ให้ตกต่ำจนกว่าจะถึงยุคพระศรีอาริย์ พระภิกษุ สามเณร สมณชีพราหมณ์ อุบาสก อุบาสิกา ท่านใดได้พบเห็น ไม่ว่าจะเป็นการทิพย์ หรือ กายเนื้อ ถือเป็นมงคลอันสูงสุด

หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเป็นหน่อพุทธภูมิที่จุติลงมาเพื่อค้ำชูพระพุทธศาสนา ท่านเพียรสั่งสอนอบรมเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ของท่านให้ปฎิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อมิให้ตกไปสู่อบายภูมิ หลังจากละสังขารไปจากโลกนี้แล้ว

ข้าพเจ้าได้พบเห็นบารมี ในทางธรรมของท่าน สมัยที่ข้าพเจ้าไปรับใช้ท่านอยู่ เมื่อครั้งท่านสร้างพระสมเด็จ ลักษณะมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับนั่งอยู่เหนือสุดของพระพรหม วิธีการสร้างของท่านนั้น ท่านแกะแม่พิมพ์ขึ้นมาด้วยตัวของท่านเอง รวมทั้งท่านทำผงวิเศษเอง มีตระไคร่โบสถ์ ผลนะปัด ตลอดซึ่งท่านสำเร็จวิชานะปัดตลอดมาจากครูบาอาจารย์ของท่าน ซึ่งวิธีการนั้น ทำได้โดยใช้ชอล์คเขียนอักขระ เลขยันต์ลงบนกระดานชนวน เมื่อเขียนเสร็จแล้วก็ใช้มือลูบเบาๆ ที่อักขระ เลขยันต์นั้น ผงวิเศษก็จะทะลุกระดาษชนวนลงไปในบาตร จากนั้นนำผงวิเศษนี้ไปผสมกับปูนขาว ปั๊มออกมาเป็นพระสมเด็จตามต้องการ

พระที่หลวงปู่สร้างไว้รุ่นแรกๆ นี้ วิธีการอธิษฐานจิตของท่านเป็นเรื่องแปลกมหัศจรรย์ และเล่าขานสืบต่อมาดังนี้

ท่านจะนำพระที่สร้างไว้แล้ว เข้าไปไว้หน้าพระประธานในโบสถ์ โยงสายสิญจ์จากโบสถ์มาที่กุฎิของท่าน แล้วปิดหน้าต่างทุกบานรวมทั้งประตูโบสถ์ก็ล็อคกุญแจเรียบร้อย วันนั้นเป็นวันอาสาฬหบูชา เมื่อพระภิกษุ สามเณร สมณชีพราหมณ์ และอุบาสิกาที่ไปปฏิบัติธรรมกับท่าน ทำวัตรเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วท่านก็กล่าวว่า

“วันนี้เป็นวันดี ฉันจะเชิญองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระอริยสาวกทุกพระองค์ และครูบาอาจารย์ของฉันมี หลวงปู่บรมครู พระครูธรรมเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ มาร่วมอธิษฐานจิตในเวลาสองยามของค่ำคืนนี้ ขอให้ทุกคนจงร่วมจิตอธิษฐานด้วย”

พอได้เวลาสองยาม ท่านก็นั่งลงจุด ธูป เทียน สักการะบูชา องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าและท่านเองก็นั่งสมาธิอธิษฐานจิตพระเครื่องของ ท่านด้วย

และแล้วสิ่งมหัศจรรย์เหลือเชื่อก็ บังเกิดขึ้น เหล่าบรรดาพระภิกษุ สามเณร และอุบาสก อุบาสิกา ตลอดจน สมณชีพราหมณ์ ที่นั่งอยู่ในนั้น ต่างได้ยินเสียงสวดมนต์ดังออกมาจากโบสถ์ ซึ่งปิดสนิทหมดทุกด้าน และไม่มีใครอยู่ในนั้นเลย !!!

พระเครื่องของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ รุ่นนี้ ผู้ใดได้ไว้สักการะบูชา พร้อมทั้งปฏิบัติตนอยู่ในศีล ในธรรม มีกาย วาจา ใจบริสุทธิ์ ก็บังเกิดพระธาตุเสด็จมาที่องค์พระนั้นเป็นที่อัศจรรย์

</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>