เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    มีนักสะสมหินประเภทหนึ่ง..ที่เจอปัญหา แล้วมาที่บู๊ธ 042
    เอาก้อนหิน หลายขนาด ใส่ท้ายรถมาเต็มรถกะบะ
    เอามาให้ตรวจ ว่า มีอะไร ผิด ปกติ หรือ เปล่า
    เพราะ เขารู้สึกว่า..ตั้งแต่เอาหินเหล่านี้ เข้า บ้าน
    ดูเหมือน ที่ บ้าน จะมี สิ่งที่มองไม่เห็น พากันเดินเต็มบ้าน
    คนทั้งบ้าน รู้สึกกันหมด..ทำให้ นอน ไม่หลับ
    .................................................................
    ถามสาเหตุ..เบื้องต้น
    เขาเล่าว่า..เขามีความชมชอบ ก้อน หิน จาก แหล่ง น้ำตก
    ว่างเมื่อใด..ก็จะไปเที่ยวน้ำตก..จนเกือบทั่วประเทศ
    ไปที่ใด ก็จะมองๆๆ หิน ขนาด พอยกได้
    และจะมองๆๆ ก้อนที่ มีขนาดพอยกได้ และมีไลเค็น
    หรือ มอส หญ้าเขียวๆๆ ติด อยู่ด้วย..เขาจะยกมาใส่รถ
    ตอนนี้ที่บ้านมีมากกว่า 200 ก้อนแล้ว จาก แหล่ง น้ำตก เป็น ร้อย แห่ง
    ......................................................................
    จากการตรวจเบื้องต้น จาก ก้อนหิน น้ำตก
    ที่ยกมาใส่รถมาให้ดู ประมาณ20 ก้อน
    ลองดู ตัวหนุ่มเจ้าของ พบว่า ที่ จะสัมผัสพลังลึกลับได้
    จึงเลือกหินก้อนที่มีพลังแปลกๆๆมาให้ตรวจ
    ............................................................
    ก็พบว่า ในแต่ละก้อน..จะมีวิญญาณ ป่าเขา ติดมามากมาย
    คล้ายๆๆกับ ลมพัดลมเพ...ที่กระจายอยู่ตามถนน ตามรถยนต์ที่ วิ่ง
    จนเกิดวิชา ติด เสือคาบดาบ/ ใยแมงมุม
    / แผง น้ำพุ/กัน ตามสถานที่ต่างๆๆ
    โดยเฉพาะ ที่ เป็น ทางสามแยก/สามแพร่ง
    รถที่มาเร็ว....จะพาวิญญาณที่ไม่ดี หรือ ลมพัดลมเพ
    เข้า บ้านที่ อยู่ตรงตำแหน่ง ขวาง ทางแยก พอดี
    ....................................................
    ในวิชา ฮวงจุ๊ย เขาจึงแก้ ด้วยการติด สิ่งของ
    และป้าย เสือคาดาบ/แผงน้ำพุ...ใยแมงมุม..ฯลฯ
    ..........................................................
    หินที่มีเจ้าวิญญาณ ติดมา..จึงต้องแก้โดยการขอขมา
    และ แผ่เมตตาทำบุญ อย่างแรง..ขอให้เขาไป อยู่ม ก่อนที่ จะมา
    .................................................................
    วันต่อมา เขาก็ขอให้ ไป ตรวจหินจากน้ำตกทั้งหมด ที่ บ้าน ที่ วางเรียงไว้
    เราก็ไป...พอไปถึง....
    โอ้ โฮ..สารพัดวิญญาณจาก ป่า เขา..ดุดุ ทั้ง นั้น
    .............................................................
    (มีต่อ)
     
  2. กำแพง

    กำแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +232
    สวัสดีครับอาจารย์, ท่านบาส, และท่านอื่นๆด้วยครับ
     
  3. unclenon

    unclenon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +228
    สวัสดีครับ อาจารย์

    อาทิตย์ที่แล้ว ตัวกลมชวนให้ไปหาอาจารย์ด้วยกัน แต่พอดีผมไม่ว่าง มีงานพอดีเลยครับ ขอโทษนะครับ เอาไว้โอกาสต่อไปนะครับ เสียดายจังเลยครับ ยิ่งอาจารย์บอกว่ามีคนมาที่บูธกันเยอะเลยยิ่งเสียดายโอกาสที่จะได้พบได้เจอทุกท่านที่ไป ไม่เป็นไรครับ มีโอกาสมีวาสนาคงได้พบกันนะครับ

    ไปพบอาจารย์คราวก่อนนู้น อาจารย์บอกผมว่าผมก้อไปทำบุญที่วัดเก่าๆในอยุธยาไม่ได้เหมือนกัน เพราะเคยเป็นทหารยุคนั้น ผมเคยไปที่อยุธยาหลายครั้งแต่ก้อยังจับความรู้สึกแบบที่อาจารย์บอกไม่ได้ คงต้องพยายามต่อไป(ใช่ไหมครับอาจารย์)

    เรื่องการทำสมาธิตามแบบที่อาจารย์บอก ตอนนี้ก้อพอจะมองภาพจมูกได้บ้างเป็นบางครั้งครับ แต่ทำไมผมไม่สามารถจินตนาการให้อยู่ใกล้ๆได้ก้อไม่รู้ครับ รูจมูกมันออกห่างผมไปเรื่อยเลย สงสัยมันจะไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้ๆผมมั้ง คงต้องพยายามต่อไป (ใช่ไหมครับ อาจารย์)

    สุดท้าย ขอกราบสวัสดีอาจารย์อีกครั้งด้วยความเคารพครับ
     
  4. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    เรียนคุณ unclenon

    อนุโมทนากับความตั้งใจจริงของคุณ
    ได้เรียนวิชามาอย่างไร ก็ทำตามครูไว้ ทุกระเบียบนิ้ว
    แต่กฎมันมีไว้แหกนะคะ

    จำได้ไหมเอ่ย สมัยตอนที่คุณยังเรียนหนังสืออยู่อะ แม้แต่เด็กที่เรียนเก่งที่สุดในห้อง
    ยังแอบทำอะไรที่แหกกฎครู เหมือนกัน แม้จะนิดๆ หน่อยๆ ก็ต้องเคยบ้างแหละ

    นี่ก็เหมือนกันค่ะ ทำอะไรจริงจังเกินไป ก็เรียกว่าเคร่ง
    ดังพิณที่ตึง ดังพระพุทธองค์ที่ทำตามคำสั่งสอนของครู อดอาหารจนร่างกายผ่ายผอม
    แล้วพิณที่ให้เสียงเพราะเป็นอย่างไรคะ คุณ UNฯ คงจำได้

    ครูสอนมาอย่างไร ปรับใช้ หรือประยุกต์ให้เข้ากับจริตของคุณค่ะ
    ไม่เห็นถ้ำของรูจมูกก้ไม่เป็นไรคะ

    มนุษย์เราก็อย่างนี้แหละคะ ยิ่งต้องการยิ่งไม่ได้

    อย่างเช่นพระอานนท์ต้องการเป็นพระอรหันต์ เพราะใกล้เวลาพระพุทธเจ้าจะปรินิพาน
    กลัว คิดไปว่าพระรุปอื่นที่พระพุทธเจ้าบวชให้เป็นพระอรหันต์หมดแล้ว เหลือแต่ตัวท่านผู้เดียว
    ที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ กลุ้มจนนอนไม่หลับ ในราตรีหนึ่ง เกิดคิดได้ว่า ช่างมันเถอะ
    เป็นไงเป้นกัน
    เท่านั้นแหละคะ พระอานนต์วางได้ ท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์เลย

    เช่นเดียวกับพิณของคุณ unฯ ในตอนนี้ ระวังสายมันจะขาด
    ครูเป็นเพียงผู้แนะ เราเป็นผู้ปฎิบัติ แต่ใครจะรู้ดีเท่าจริตของเราเอง ว่าจะรับได้อย่างไร
    แล้วเอาไปประยุกต์ใช้ค่ะ

    เหมือนเราเรียนหนังสือ ยังโดดเรียน ก็เห็นยังตามวิชาที่ครูสอนทัน แถมยังสอบผ่านกันมาก็มาก
    แม้จะได้แบบงูๆ ปลาๆ แต่เวลาเอาไปประกอบอาชีพ ก็ยังไปทำอาชีพตามจริตของตัวเราเอง

    คุณ Unฯ คงเข้าใจเรื่องจริตและการประยุกต์ใช้มากขึ้นนะคะ
     
  5. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไปบู๊ท the third eyes

    ดิฉํนจะเลิกพิมพ์ชื่ออาจารย์แล้วนะคะ พิมพ์ยาก แถมยาวอีก จะเรียกอาจารย์สามตา
    อย่างที่เคยเรียกเมื่อหลายปีที่ผ่านมาละกัน พอดีปีนี้เพิ่งกลับเข้ามาเว็บนี้
    หลังจากหายไปประมาณ 2 ปี กลับมาอีกที เลยเรียนชื่อเต็มยศอาจารย์
    แต่พิมพ์ไม่ไหวแล้ว ยาวเกิน เรียกอ.สามตา เหมือนคนอื่นละกันคะ

    ก่อนอื่นต้องขอโทษคน ๆหนึ่ง รุปดอกบัวสีขาว ที่ต้องการพบดิฉันด้วยนะคะ
    บอกเขาไปว่า จะไปบู๊ทอาจารย์อีกทีต้นเดือนหน้าค่ะ
    แต่อยู่ดีๆ ดิฉันไปโผล่บู๊ทอาจารย์เมือวันศุกร์ทีผ่านมา
    ต้องขอโทษจริงๆ พอดีไปธุระแถว ธกส เรียกว่าโดดงานไปค่ะ ไม่ได้ตั้งไจ๊ ไม่ได้ตั้งใจ

    อย่างที่อาจารย์ได้เกริ่นไว้ในหน้า 115 ว่าเดี๋ยวให้ดิฉันมาเล่า ก็อยากจะเล่าอยู่ค่ะ
    แต่เรื่องมันเยอะ จะค่อยๆ เล่าละกัน แถมยังมีเรื่องเล่าที่ติดค้างไว้ด้วยในหน้า 113 ว่ายังมีต่อ
    แต่ตั้งนานแล้ว ยังไม่ได้มาเขียนต่อสักกะที แหะๆ ไม่ได้ลืมนะคะ เดี๋ยวจะเล่าต่อค่ะ
    (เอามือตบเข่าดังฉาด ....แหม...กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แท้ๆ ...ตอนสำมะคัน...เสียด้วย)

    แล้วยังมีเรื่องเล่าที่ได้จากการไปสอนธรรมะให้เด็กมหาวิทยาลัยที่ไปทำกิจรรม
    ที่วัดภาษีเอกมัย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอีก ได้เจอน้องที่มีพลังบารมีเก่าด้วย
    แต่เขาไม่รู้เรื่องอะไรจำพวกนี้เลย ดิฉันได้ลองทดสอบเขา เขาค่อนข้างรับพลังความรู้สึกได้ไวคะ
    ใช้ได้เลย
    แล้วยังมีเด็กอีกคนที่สติดีมากๆ แต่พอนั่งสมาธิแล้วหลับค่ะ ก็บอกทางแก้ไขให้เขาไป
    เดี๋ยวจะค่อยๆ เข้ามาเล่าคะ ขอเวลาอีกวัน 2 วัน เจ้าค่ะ

    คุณตัวกลมเจ้าค่ะ
    อนุโมทนาบุญด้วยเจ้าคะ ใครที่คคุณติดหนี้เขาอยู่ เจอกุศลของคุณ แล้วคุณแผ่ให้เขาดีๆ
    เรียกว่าแผ่ให้ทุกวันก็ยังได้ เพราะที่กดดื่มน้ำของคุณที่บู๊ทอาจารย์ รับรองว่าหนี้คุณหมดเร็วแน่นอนค่ะ อ่านๆ มานี่ แสดงว่าอาจารย์เปิดตาที่สามให้คุณแล้วนะสิ แต่เสียดายมาก เจอกันแล้วแท้ๆ แต่ไม่ได้คคุยกันเลย

    คุณ Pbun อีกคน มาจากระยอง ได้คุยกับอาจารย์หน่อยเดียว คนอะไรขี้เกรงใจชะมัด
    เห็นเราคุยกับอาจารย์หน่อยเดียว เลยไม่อยุ่แล้ว ก็ดิฉันเห็นว่าคุณบอกว่า มีสัมมนาบริหาร
    เรื่องบริหารนี้ถ้าเข้าฟังช้า เป็นอันไม่รู้เรืองทั้งหมดหนะคะ ดิฉันเคยมาแล้ว
    ก็เลยบอกให้คคุณ Pbun ไปฟังสัมมนาของตัวเองก่อน ไม่คิดว่าเพราะคุณ Pbun จะเกรงใจ
    ที่ดิฉันอยู่เป็น กขค. ด้วย เลยไม่ได้พูดจาอะไรกับอาจารย์เท่าไหร่ ขอโทษด้วยนะเจ้าคะ
    ที่ขัดความตั้งใจของคุณ ยังไงมาคุยกับอาจารย์คราวหลังได้คะ
    ต้องขอโทษไว้ ณ โอกาสนี้
    หรือถ้ายังไงคุยกับดิฉํนไปพรางๆ ก่อนก็ได้ ผ่าน PM ก็ได้ค่ะ อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  6. unclenon

    unclenon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2007
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +228
    สวัสดีครับ คุณ Atidtarn

    ผมขอขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำที่ดีๆ ช่วยผมได้มากมายเลยครับ เพราะกำลังตึงแบบที่คุณบอกมาเลยครับ สงสัยตัวเองว่าเราจะทำยังไงให้ได้ตามที่อาจารย์บอก(ก้อเคารพอาจารย์นี่ครับ) เพราะทำเท่าไรไม่เป็นไปตามที่อยากให้เป็นเลยครับ คงต้องปล่อยวางบ้างตามที่คุณบอกแล้วละครับ เอาตามรูปแบบที่เราเป็นใช่ไหมครับ ผมก้อพยายามประยุกต์ตามแบบที่คุณแนะนำครับ เพราะหลังๆนี่ก้อพยายามคิดเรื่องลมที่อาจารย์บอก ให้เปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ จาก แดง เป็น เขียว เป็นเหลือง ......... ก้อพยายามอยู่ครับ คงต้องใช้เวลาอีกนานครับ สำหรับผม เพราะเพิ่งรู้จักกับคำว่านั่งสมาธิจริงจังเมื่อไม่นานมานี่เองครับ

    ต้องขอขอบคุณอีกครั้งนะครับ สำหรับคำแนะนำที่มีค่า และผมขอให้เป็นกุศลผลบุญกลับไปที่คุณ Atidtarn ด้วยนะครับ ที่ช่วยเหลือผู้ไม่รู้ให้รู้ ขอบคุณจริงๆครับ

    เมื่อเช้าเพิ่งคุยกับตัวกลม เห็นบอกว่าคุณ Atidtarn ตัวนิดเดียว อายุก้อยังไม่มาก พอเจอกับตัวกลมแล้ว ตัวกลมรู้สึกสนิทกันมากๆ ไม่รู้ทำไม สงสัยว่าคงเคยเกื้อหนุนกันมาก่อนนะครับ เสียดายครับ ที่ไม่ได้ไปกับตัวกลมด้วย เลยพลาดโอกาสเจอคุณ Atidtarn แต่ผมว่าผมคงมีโอกาสได้เจอคุณครับ
     
  7. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    อ่านชีวิตไมเคิล แจ๊คสัน แล้วน่าสงสาร จิตของเขาที่พิการตั้งแต่เริ่มทำงาน ก็อายุเพียง 8-9 ขวบ
    ขณะนั้น เราๆ ท่านๆ กำลังทำอะไร? เล่นโดดหนังยางอยู่ใช่เปล่า? ใบหน้าของคุณยิ้มจากภายในใช่หรือไม่
    แล้วไมเคิลได้ยิ้มเต็มจิตอย่างนั้นบ้างหรือเปล่า? จิตของไมเคิลหล่ะ ถ้อยคำของผู้ใหญ่ที่เห็นเด็กเป็นทางผ่านทางการค้า
    และอะไรอีก การเหยียดผิวที่รุนแรง เข้าไปในโสตจักษุของเด็กชายตัวน้อยที่น่าสงสาร
    ***************

    แต่จะเกี่ยวอะไรกับกระทู้นี้ด้วย คำตอบคือไม่เกี่ยว

    ถ้าจะเกี่ยวก็ในแง่ของจิต
    ทั้งตัวไมเคิลเองในวัยเด็ก และลูกๆ ของไมเคิล ที่ไม่ชอบหน้ากากที่พ่อให้ใส่
    และนี่ยังมีข่าวอีกว่า แม่ที่ให้กำเนิดลูกของไมเคิลคนแรกและคนที่สอง ใช้น้ำเชื้อของคนอื่น ที่ไม่ใช่ไมเคิล แต่เขาก็รับเลี้ยงเป็นลูก
    จิตของเด็กจะเป็นเช่นไร?
    การเป็นคนดังก็ใช่ว่าจะมีแต่ด้านดีไปเสียหมด
    ********************

    เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงถือเอาส่วนดีที่มีอยู่
    เป็นประโยชน์แก่โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย
    จะหาคนมีดีโดยส่วนเดียว อย่าไปเที่ยวค้นหาสหายเอ๋ย
    เหมือนค้นหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย หัดให้เคยถือแต่ดีมีคุณจริง
    (ท่านพุทธทาส-อินทปัญโญ)
    *****************

    เช่นเดียวกับการฝึกสมาธิลืมตา อย่างที่ดิฉันได้เล่าให้ฟังในหน้า 113
    นอกจากเราจะฝึกหัดให้ตัวเองมองพลังสูงสุดจนติดตาแล้ว
    เราจะต้องมองคนรอบข้างเป็นพลังงาน หรือเว่าตรงๆ ดังที่ดิฉันบอกกับน้องๆ มหาวิทยาลัย ที่มาทำกิจกรรมที่วัดภาษีเอกมัยว่า
    ดิฉันมองน้องๆ ไม่ใช่คน
    อันนี้พอดิฉันพูดออกไป ก็โมโหตัวเองเหมือนกัน เรียกว่าตอนพูดไม่ได้มีสติ ไตร่ตรองคำพูดของตัวเอง
    มัวแต่ติดนิสัยเถรตรง ขวานฝ่าซากอยู่
    ************

    จริงๆ น่าจะกล่าวว่า ดิฉันมองทุกคนเป็นพลังงานที่ไม่มีร่างกาย
    ซึ่งต้องฝึกควบคู่ไปกับการมองเห็นพลังงานสูงสุด
    กำลังแผ่กระจายพลังงานมาที่ดิฉันและทุกๆ คน
    เพราะ ทุกคนคือเพื่อนผองพี่น้องกัน
    พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า (เข้าวิถีพุทธสักหน่อย)
    ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่เคยเกิดเป็นพี่น้องกัน ต่างคนเคยเกี่ยวดองกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    **********************

    การส่งรับพลัง จึงไม่ได้ส่งให้ดิฉันเพียงคนเดียว แต่พลังสูงสุด ส่งให้กับทุกคน
    แต่ใครจะเปิดคลื่นจูนรับหรือไม่รับพลังงาน ที่เขาส่งมาให้
    พลังงานที่ส่งมานี้ ก็เหมือนกับคลื่นวิทยุ เปิดให้ตรงช่องกับผู้จัดรายการ ดีเจ ที่เปิดเพลงโปรดให้เราฟัง
    แต่คนยุคนี้ มีช่องโปรดมากกว่าเรื่องทางจิต
    เช่น ช่องทางของสีเสื้อ ช่องทางวัตถุนิยม ช่องทางยา ช่องทางค้ามนุษย์ ฯลฯ อันนี้เปรียบเทียบให้ฟังเฉยๆ นะคะ
    (ว่าไปนั่น จริงๆ ก็เกิดมาจากช่องเดียวคือช่องวัตถุนิยมนั่นแหละ ซึ่งดิฉํนก็วัตถุนิยมเหมือนกัน แหะๆ แต่จะมากจะน้อยเท่านั้น)
    **************

    พลังงานสูงสุดเปิดพลังไว้โล่งๆ ง่ายๆ ให้คนมาดูดเอาไปใช้
    แต่ไม่มีใครเปิดใจ หมุนคลื่น(เปิดจิต) เข้ามาดูด เข้ามาฝึก
    ให้จิตเข้าเกาะเกี่ยว ผูกพันกับพลังงานสุงสุดนั้น ตลอด 24 ชม.
    (ซึ่งดิฉันเองในปัจจุบันก็ทำไม่ได้ขนาดนั้น
    แต่จะเล่าให้ฟังว่าตอนที่อยู่ในช่วงวัยที่เกาะเกี่ยว ผูกพันได้มากที่สุด มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง)
    ************

    ช่วงปี3 อย่างที่เล่าว่า น้องปี 2 ไปจองรถมหาวิทยาลัย พาน้องปี 1 ไปเที่ยวทะเล
    ซึ่งเด็กบางคนมาจากอีสาน ไม่เคยเห็นทะเลมาก่อน
    ไอ้ช่วงเล่นก็เล่นกันไป แต่ดิฉันมันจำพวกคนขี้เกียจ ไม่ได้ไปดูดำดูดีน้องๆ เขาสักเท่าไร
    ไม่อย่างนั้นจะหาว่าก้าวก่ายหน้าที่ปี2
    แต่จริงๆ ขี้เกียจนั่นแหละ ขอย้ำ
    ขากลับก็หาเรื่องนอน (อีกแล้วครับท่าน) ก็หลับตา
    (มีต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2009
  8. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    ในระหว่างนั้นมันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ นั่งอยู่ที่เก่าอี้เบาหลังสุดของรถ มหาวิทยาลัย คล้ายรถเมล์ คือ ที่นั่งด้านหลังจะเป็นเบายาว
    เราก็มองน้องปี 2 คนหนึ่ง ชื่อน้องแหม่ม ที่ไม่มีที่นั่ง เลยต้องยืนเกาะราวเก้าอี้ (เหมือนที่เกาะราวบนรถเมล์)
    แล้วดิฉํนก็หลับตา แต่ก่อนหลับตาไม่รุ้ยังไง มันเกิดภาพติดตาเป็นโครงร่างของน้องแหม่ม
    ดังนั้นพอหลับตา แทนที่จะเป็นภาพดำๆ ทั่วไป น้องแหม่มก็ยังติดอยู่ในมโนฯ ของเรา
    ******

    บิ้วอารมณ์หน่อยนะคะ....

    ทุกคนคงเคยดูทีวี ถ้าเรานั่งดูทีวีตอนกลางวัน แล้วไฟเกิดดับกระทันหัน
    ดวงตาของเราจะจำโครงร่างของทีวีได้ ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
    หรือเราถูกถ่ายรูปโดยใช้แฟลช เวลาเขาถ่ายเสร็จ
    ดวงตาของคุณจะเบลอ เห็นทุกอย่างยังมีจอสี่เหลี่ยมซ้อนอยู่ในมโนฯ ดวงตา
    ใช่ไหมคะ?
    เอ้าาาาา...กลับมา....กลับมา....กลับมาอ่านกันต่อ


    มโนฯ ของดิฉํนที่มองน้องแหม่มก็คล้ายๆ แบบนั้นแหละค่ะ
    แต่ว่า ดิฉันไม่ได้เห็นแค่โครงร่างของน้องแหม่มเป็นสีขาวดำ
    แต่เห็นเป็นสีๆ เหมือนขนมชั้นห่อหุ้มตัวน้องแหม่มอยู่ แต่ละชั้นก็เป็นสีๆ ต่างสีกัน แต่ละสีก็สว่าง
    แถมชั้นนอกสุดเด็ดมาก เป็นเหมือนรัศมีแหลมๆ เหมือนขนเม่น กระจายออกมา
    ดิฉันเห็นอย่างนั้นก็แปลกใจ เอ...อะไรหว่า นี่ตาของฉันเป็นอะไรไปวะ
    ไม่เคยเป็นแบบบนี้เลย
    ***************

    ก็เลยลืมตาขึ้นมาดูน้องแหม่มใหม่ เขาก็ยังยืนเกาะราวเกาะอี้อยู่ที่เดิมเด๊ะ
    เราก็หลับตาใหม่ เห็นชั้นสีของเขาเหมือนเดิมเด๊ะ เราก็จ้องมองดูรายละเอียดของชั้นสีต่างๆ ที่ปรากฎ (มีต่อ)<!-- google_ad_section_end --> <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2009
  9. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    นี่เราเป็นอะไรไปวะ...
    ทำไมตาของเรามองเห็นน้องแหม่มมีโครงร่างเป็นชั้นสีสว่างสดใสแบบนี้
    แถมตรงนอกขอบสุด ยังเห็นเป็นรัศมีแปลกประหลาด
    เราก็จ้องมองไป รัศมีที่ว่านี้แหลมจริงๆ ค่ะ แหลมละเอียด ยิบๆ
    เหมือนเข็มกระจายสูงต่ำไม่เท่ากัน
    ไม่เหมือนรัศมีที่เราเคยดูจากภาพวาด หรืออะไรๆ ที่เราเคยเห็นมา
    เช่น การกระจายรัศมีที่พระเศรียรพระพุทธองค์
    แต่นี่มันแหลมเปี้ยวไปทั่วตัว
    ********

    เรื่องรัศมีกระจายตัวอันนี้ ดิฉันพบว่า แต่ละคนไม่เหมือนกันด้วย
    ตอนที่ดิฉํนได้พบอาจารย์สามตาครั้งแรก ท่านได้อนุญาตให้ดิฉันได้ดูออร่าของท่าน
    โดยท่านเชื้อเชิญเอง
    เราก็ไม่กล้าดู เพราะเหินห่างมานาน แต่ก็ดูๆ ไป ท่านเร่งให้ดู ก็ดู
    เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด
    ดิฉํนเห็นกายภายในเป็นสีทอง แต่ไม่อร่ามแบบทองที่ขายในร้านทองนะคะ
    เป็นทองขุ่น กระจายเป็นชั้นจนขาวใส
    รอบนอกแทนที่จะเป็นเป็นเข็มๆ เต็มไปรอบโครงร่างของคน เช่นน้องแหม่ม
    ก็เป็นเหมือนหลังเต่า คุ่มๆ ค่ะ เป็นชั้นๆ จนขาวใสอย่างที่บอก
    อันนี้ถ้าดูผิดก็ต้องขออภัย เพราะตอนแรกที่เห็น กับตอนที่ไปพบอาจารย์ครั้งแรก
    มันห่างกันเกือบ 10 ปี และไม่ได้มีเวลานั่งพิจารณาแบบที่เห็นน้องแหม่มด้วย
    อันนั้นได้นั่งพิจารณาได้นานๆ ค่ะ
    **************

    เรียกว่า วิชายังอยู่หลังจาก 10 ปี มาแล้ว โดยไม่ได้ใช่อะไรเลยในระหว่าง 10 ปีนั้น
    ได้ถูกลื้อฟื้นมาใหม่ภายในวันนั้นวันเดียว ที่ได้พบอาจารย์
    วิชาเรียกกลับคืนมาได้แค่นั้น เรียกว่าใช่ได้หรือเปล่า ผู้อ่านคงต้องเป็นผู้ตัดสิน
    **********

    ดิฉํนก็คิดว่าสมองของตัวเองคงเบลอไปแล้วแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นอย่าคิดมากเลย
    หลับตานอนให้หลับไปเลยดีกว่า
    เท่านั้นสวิตท์เราก็ปิด หลับไปจนถึงมหาวิทยาลัย
    อีกวันสองวันต่อมา ดิฉันก็นึกถึงเหตุการณ์นั้นขึ้นมาได้ ก็เลยคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นหว่า
    ลองมองออกไปด้านนอกระเบียงที่ตัวเองยืนอยุ่อีกสักที ดีไหม
    ********************

    ดิฉันเลยมองออกไปที่คนๆ หนึ่ง ไม่รูว่าใคร เพราะเขายืนอยุ่ไกล
    แล้วเวลานั้นก็เริ่มเย็นมากแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า
    คิดว่าแค่เล่นๆ แต่ปรากฏว่า สิ่งที่เราเคยเห็นกับน้องแหม่มก็ยังเป็นเหมือนเดิม
    เราก็รีบลืมตาแล้วหลับตา ลืมตาแล้วหลับตา
    อะไรวะ...ทำไมตาของเราเป็นอย่างนี้อะ??
    เราต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
    ********

    เพราะไม่รู้ว่าจะหาคำตอบจากใครได้ที่ไหน เลยโทษตัวเองสถานเดียวค่ะ ว่าดิฉันเพี้ยนไปแล้ว
    เวลาปรกติก็บ้าอยู่แล้ว นี่เราจะเพี้ยนเข้าไปใหญ่หรือเนี่ย
    ถ้าไปเล่าให้ใครฟัง เขาต้องหาว่าเราบ้าแน่ๆ
    ดังนั้น เรื่องนี้จึงไม่เคยเล่าให้ใครฟัง ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
    แม้กระทั้งเพื่อน และพี่ที่สอนเรานั่งสมาธิลืมตา
    ดิฉํนเองก็ไม่ได้ฝึกต่อ ไม่ได้ใส่ใจ พยายามลืมในสิ่งที่เห็น ในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะคิดว่าตัวเองประสาท
    และตอนนั้นเพื่อนๆ ก็เรียนกัน 3 ปีครึ่ง เลยไม่ได้ไปฝึกที่บ้านพี่สาวบ่อยๆ เหมือนแต่ก่อน
    เรียกว่าในกลุ่ม ไม่มีใครชวนกันไปบ้านพี่สาวอีกเลย
    **********************

    เราคิดเอาเองว่า เราเพี้ยน จนกระทั้งได้มาเจอกระทู้ของอาจารย์สามตา
    แล้วก็ได้พบอาจารย์ และท่านบอกอนุญาตให้ลองดูภายในอาจารย์นั่นแหละค่ะ
    ถึงได้นึกออก ว่าเหตุการณ์เพี้ยนๆ ที่เคยเกิดกับเรามันไม่ได้เพี้ยนอย่างที่คิด
    แต่วิชาที่ว่านี้ ถ้าไม่ได้ฝึก มันก้จะเหมือนภาษาอังกฤษ ท่องศัพท์ เคยจำศัพท์ได้
    แต่พอไม่ได้ใช้ แม้จะรู้โครงสร้างไวยกรณ์ แต่ก็ลืมคำศัพท์ที่จะใช้อย่างไรให้เป็นประโยคที่สละสลวยได้ไปเสียแล้ว
    แต่ก็ยังดี ที่ยังมีวิชาอื่นพอจะติดตัวอยู่บ้าง นั่นก็คือการไม่ลืมพลังสุงสุด
    และรู้วิธีดึงพลังนั้นมาใช่ช๊าตพลังให้กับตัวเอง
    ถ้าเป็นอาจารย์สามตา ท่านจะใช้ดูดพลังจากแสงอาทิตย์ ฯลฯ เป็นต้น
    **********************

    และขอสารภาพว่า...
    ปัจจุบัน ข้าเจ้าทำบ่อได้แล้วค่ะ...ไอ้การมองเห็นออร่าของคนอื่น
    แต่ก็ยังเห็นและเกาเกี่ยวพลังสูงสุดอยู่ทุกวัน
    ส่วนวิชาดูออร่าชาวบ้าน...ท่าทางจะคืนครูไปหมดแล้ว
    เพราะว่าดิฉันไม่ได้ฝึกเข้มข้นเหมือนก่อน
    ซึ่งมันต้องใช้สติในแต่ละวันค่อนข้างมาก
    และต้องนั่งสมาธิกับพลังสูงสุดบ่อยๆ
    ซึ่งดิฉันไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้ว
    เพราะจิตมองว่า มันไม่ใช่ทางไปนิพาน
    ดิฉันเห็นว่า มันน่าจะกลับมาดูที่ลมหายใจของเรา
    มีสมาธิจากภายใน
    ดังนั้น ความสามารถบางอย่างที่เกิดจากการฝึกแบบนั้น จึงอาจหายไปด้วยประการฉะนี้หรือเปล่า ไม่อาจทราบได้
    แต่ดิฉันไม่เสียใจเลย
    ยังไงก็ยังมีความรู้สึกด้านอื่นๆ อยู่
    อย่างที่กล่าวไปแล้ว ... อาทิ ยังพอมองพลังทางจิตของคนอื่นออก
    จับพลังพระเครื่อง หรืออะไรต่ออะไรได้บ้าง นิดๆ หน่อยๆ
    ไม่คิดจะโหยหาอะไรมากมาย เพราะไม่ได้ช่วยให้เราไปนิพาน เราจากโลกนี้ไป ความสามารถนี้ ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเรา
    เพียงแต่ได้รู้ว่า มิติอื่นมีอยู่จริง พลังงานที่ตาธรรมดา มองไม่เห็น มีอยู่จริงเท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2009
  10. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168
    อ้าวปุ่มอนุโมทนากลับมาแล้ว
    ไอ้ปุ่มนี้ก็ดีนะคะ ดิฉันใช้ส่วนนี้ เป็นที่ทราบว่า มีคนเข้ามาอ่านกระทู้ที่เราเขียน
    เราก็เกิดกำลังใจเขียนต่อ ประหนึ่งว่า มีคนเข้าใจในสิ่งที่เราเขียน
    ก็จะได้เขียนต่อไป
    แต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้คุยกับ ๙ตาล๙
    ถามความเห็นว่าปุ่มอนุโมทนาไม่มีดีหรือเปล่า?
    เขาบอกว่า บางคนบ้าพลัง ชอบไปตั้งกระทู้ หรือไปกดอนุโมทนา
    เพื่อเพิ่มพลังคะแนนให้กับตัวเอง ประเภทติดมาจากการเล่นเกมกด สะสมคะแนนให้ตัวมาริโอ้ อะไรเทือกนั้น
    ก็เอานิสัยนี้ มาใช้กับปุ่มอนุโมทนาด้วย... อืม มีเหตุผลที่เป็นไปได้มาก...ถึงมากที่สุด
    แล้วคุณล่ะคิดยังไง??
    *******************

    เมื่อวานเขียนเสร็จก็กลับบ้านไปนั่งคิดไตร่ตรองว่า
    เราเขียนอธิบายไม่หมด อาจทำให้ผู้อ่านไขว้เขวได้
    ก็เลยจะขออธิบายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ในประโยคที่อธิบายไปว่า.....

    จริงๆ น่าจะกล่าวว่า ดิฉันมองทุกคนเป็นพลังงานที่ไม่มีร่างกาย
    ซึ่งต้องฝึกควบคู่ไปกับการมองเห็นพลังงานสูงสุด
    กำลังแผ่กระจายพลังงานมาที่ดิฉันและทุกๆ คน
    เพราะ ทุกคนคือเพื่อนผองพี่น้องกัน
    พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า (เข้าวิถีพุทธสักหน่อย)
    ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ไม่เคยเกิดเป็นพี่น้องกัน ต่างคนเคยเกี่ยวดองกัน ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
    *********************

    คำว่า ดิฉันมองทุกคนเป็นพลังงานที่ไม่มีร่างกาย ไม่ได้หมายความว่า...
    มองเห็นเป็นแสงสีเหมือนกล้องจับพลังงานที่นักวิทยาศาสตร์เขาใช้กัน

    แต่หมายถึงว่า มองเห็นพลังงานของทุกคนอยู่ที่ทางเปิดผ่านระหว่างการเกิดดับ
    หรือก็คือที่ระหว่างคิ้ว
    ใช้จิตกำหนดว่า เห็นแสงของแต่ละคน ส่องสว่างลอดออกมาจากช่องนี้
    เราจะไม่มองคนนั้นด้วยร่างกาย แต่มองคนนั้นที่ตรงนี้
    โดยมีพลังสูงสุดส่องแสงรัศมีกระจายอยู่เหนือทุกคน
    พร้อมเปิดรับการผูกเกี่ยวของคนที่ต้องการดูดรับพลัง เพื่อนำไปใช้งานให้เกิดความสงบ
    โอม ชาน ติ....ฉันสงบ
    *******

    เมื่อคนเราสงบจะเกิดอะไร?
    แน่นอน...คือ...สติ
    สติมา..ปัญญาเกิด
    สติมา...มีความรู้ตัวทั่วพร้อม
    **********************

    ความสงบ ก่อให้เกิดความว่าง
    ความว่างทำให้เกิด อนัตตา
    อนัตตา คือ การไม่มีตัวตน
    (อันนี้เว่าเอง เจ้าค่ะ)
    *******************

    จริงเท็จแค่ไหน ไม่สามารถบอกได้ว่า คุณจะได้เห็นพลังในมิติที่ซ้อนทับกันอยู่
    แต่ทั้งนี้เป็นเรื่องของ ปัจจัตตัง
    หมายถึง.....รู้ได้เฉพาะตน
    (เข้าวิถีพุทธต่อท้ายตอนจบอย่างสวยงาม....)
     
  11. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    วันอาทิตย์ได้ไปนั่งเล่นที่บูทอาจารย์ ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา
    แต่ไม่ค่อยได้คุยกะใครนอกจาก จะเป็นคนรู้จัก อย่างอาจิรศักดิ์ อาจักรพล
    ที่ไปก็ต้องไปเอาของที่ข้างบนสั่งให้เอาไปให้อาจิรศักดิ์อีกแล้ว จริงๆอยากเก็บไว้
    เองมากเลยเพราะเป็นของที่หายาก และไม่คิดว่าจะได้มา ได้ง่ายอย่างนี้ และได้มามาก
    หลายอย่าง จริงๆ อีกอย่างนึงครับว่าการที่ไปพบอาจารย์ในแต่ละที่ ก็จะได้ธรรมมะกลับ
    มาสอนตัวเองในแต่ละครั้ง การไปครั้งนี้ก็เช่นกัน การไปเห็นอาจารย์คอยแนะนำคน
    มีความอดทนต่อการสอนคน ให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ของหรืออุปกรณ์ของใช้ในชีวิต
    ประจำวันบางคนก็เชื่อและนำไปใช้บางคนก็ไม่เชื่อการที่มีโสตทิพย์ นั้นไม่ใช่ว่าแค่เห็นแต่รู้
    ถึงจิตใจของผู้นั้นเลย การที่หลายคนไปหาอาจารย์นั้น ความต้องการต่างกัน
    บางคนแค่ อยากรู้อยากเห็น บางคนแค่อยากได้สังคมเพื่อนคุย หรืออื่นๆ แต่เนื่องจาก
    การที่ส่วนตัวผมไวต่อการทราบจิตคน เลยทำให้ตัวเองไม่ค่อยอยากยุ้งกะใคร
    เพราะคนเราโดยปรกติจะนำด้านที่ดีด้านที่อยากให้คนอื่นเห็น แต่ตัวผมเองกลับไปรู้
    ไปเห็นในตัวเค้าทุกด้าน เห็นแม้กระทั่งด้านที่เค้าไม่อยากให้ใครเห็น
    เห็นความเห็นแก่ตัวในคน เห็นกรรมที่เค้าก่อขึ้น ในอดีต และในปัจจุบัน ผมก็ทราบว่า
    อาจารย์รู้ว่าแต่ละคนเป็นอย่างไร แต่อาจารย์ก็คอยสอนคอยพูดกับคนเหล่านั้น
    โดยถ้าเป็นผมตัวผมเองคงไม่คุยด้วยแล้ว เพราะเราไม่ชอบในสิ่งที่เค้าทำ ก็เลย
    ได้ธรรมมะเอามาสอนตัวเราเองครับ
     
  12. n00m

    n00m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ขอบคุณ พี่บาส ครับ

    พูดน้อย เรียบร้อย น่ารัก นี่แหระ พี่บาส

    เจอพี่บาส 2 หน ได้คุย 2 ประโยค

    อาศัย แอบ PM ถามเอาครับ
     
  13. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    ตอนนี้ทำรายการโทรทัศน์ ทางช่องทีวีผ่านดาวเทียม
    ช่อง S-CHANNEL ของทางสหพัฒน์ ถ้าใครมีดาว์เทียมก็
    เปิดดูได้ครับ เป็นผมเป็น ครีเอถีบอยู่....5-5-5

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 00.jpg
      00.jpg
      ขนาดไฟล์:
      63.8 KB
      เปิดดู:
      842
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 มิถุนายน 2009
  14. นาย เอ

    นาย เอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +535
    ขอแสดงความยินดีกันคุณวิษณุ ที่มี่ความก้าวหน้าทั้งทางโลก และทางธรรม แบบ กระฉูด ครับ
     
  15. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    มิน่าหล่ะ ไม่ค่อยเห็นพี่บาสเลย อิอิ
    สำหรับน้องคนนี้แล้ว ต่างจากพี่บาสและ อาจารย์ ดังนั้นสิ่งที่จิตสอนตนนั้นจึงต่างจากพี่บาส

    วันนี้ได้ค้นพบตัวเองแล้ว บุคคลเดิมในอดีตเมื่อ 8 ปีก่อน เรากลับมาจุดที่เราหลงทาง เพื่อจะเดินทางใหม่ บนเส้นทางใหม่ สดใสกว่าเดิมแน่ และ จะไม่กลับไปที่เดิมอีก

    เมื่อวาน พระแม่มารีอา มาหา เราก็ยินดีให้ท่านเรียนรู้จิตเราในแต่ละวัน
    วันนี้ จี้กง ขอโทษเราอีกแล้ว 55 และ ยอมรับผิดซึ่งกันและกัน
    วันนี้ เรากลับไปยังจุดเดิม เรียนรู้จุดที่ผิดพลาด สิ่งที่ได้ของแต่ละคนต่างกัน
    ดังนั้น เราจะเอาของตัวเองไปวัดคนอื่นไม่ได้ และ คนอื่น มาวัดเราไม่ได้
    รู้นะ ว่าใครด่า ว่าไรเรามั่ง.. ไม่เป็นเรา ไม่รู้หรอก
    อย่าคิดแค่ว่า คำตำหนิของใครเป็นจริง อย่าคิดว่า สิ่งที่ตัวรู้ มันจะรู้จริง
    สิ่งที่รู้นั่นแหละ คือ ตัวหลอก แล้วก็ตำหนิผู้อื่น อย่างนั้น อย่างนี้
    ที่จริงแล้ว คำตอบคือ ไม่ใช่

    ไม่มีคำแก้ตัว แต่มีเหตุผลในสิ่งที่เป็น ไม่มีถูก ไม่มีผิด
    หากจะมีก็ ถูกใจ และ ไม่ถูกใจ ที่เอามาวัดกัน แค่นี้จริงๆ
     
  16. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    แวะมาอ่านรอบเช้ามืด ง่ะ ปุ่มอนุโมทนา สำหรับตัวกลมก็เหมือนประมาณอ่านแ้ล้ว ขอบคุณค่ะ
    ที่กรุณามาโพสข้อความให้ได้อ่านกัน
    ตอนนี้ไม่มีก็อยากจะบอกว่า ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเขียน

    คุณอธิษฐานก็หายไป 2ปี ได้โอกาสเข้ามาเขียน แสดงว่าเป็นช่วงที่ถึงเวลาได้บอกกล่าวให้คนมากมาย
    (ในเน็ตนี่ถือว่าเยอะมาก) ได้เขาได้รู้อะไรๆเพิ่มเติมจากอาจารย์สามตา คุณvisnu พี่ดาวทะเลทรายก็เหมือนกันค่ะ
    และอีกหลายคน เราตั้งใจมุ่งในนิพพานขององค์พระพุทธโคดม แต่หากเราบารมีไม่ถึง องค์พระศรีอาริย์
    ท่านยังให้กำัลังใจ ขอให้คนธรรมดาพยายามรักษาศิล5ของพระพุทธเจ้าเราปัจจุบัน อย่างน้อยที่สุดวันพระ
    เพื่อที่จะได้ไม่หลุดจากยุคพระองค์ในอนาคตกาล แม้หากเผลอไผลทำผิดลงนรก อาจค้างเติ่ง
    พลาดจากการหลุดพ้นไปอีกไกล ไม่รู้จะได้เจอพระพุทธเจ้าองค์ไหน หรือพลาดไปอีกยาวววววววว
    ฉะนั้นผู้ทีีำ่ทำให้คนเกรงกลัวต่อบาป เชื่อในวิบากกรรม เขาก็ยิ่งได้บุญมากขึ้น เพราะคนที่เกรงกลัีวต่อบาป
    อย่างน้อยจะไม่กล้าสร้างกรรมชั่ว อนุโมทนาคุณอธิษฐานที่ตั้งมั่นอยู่ในนิพพานค่ะ เป็นกำลังใจให้สำเร็จ

    ขอบคุณนะคะ ที่แนะนำเรื่องการแผ่กุศลให้นายเวร อาจารย์ก็ให้กำลังใจเวลาทำบุญ ไปทีไร
    ให้พรมากมาย ใครที่ได้รับพรอาจารย์ก็ยินดีด้วยนะคะ เป็นไปตามอาจารย์ว่า ส่วนใหญ่เวลาไปหา
    ก็จะกลับมาหลับสบาย ยิ่งวันศุกร์ที่แล้ว พรใหญ่(ที่คุณอธิษฐานว่า)เหมือนลิงได้แก้วอยู่ อิอิ
    ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ แต่เวลาโยคะ ชาร์จพลังได้มากมาย คงเอามาใช้ได้จริง
    หลังเรียนพลังยูเรอัสนี่แหละค่ะ

    ดีใจกับคุณvisnuที่การงานก้าวหน้าค่ะ แล้วรายการนี้ต้องเป็นเคเบิ้ลนี่เนาะ สงสัยที่บ้านตัวเองจะไม่มี
    และดีใจอีกทีที่เริ่มวางอุเบกขา แต่ก็อย่างนี้แหละ ช่วยแบบนี้มันเหนื่อย เพราะดันเห็นหมด ยิ่งกว่า เห็นไส้เห็นพุง

    คุณunclenonนี่ขยันค่ะ ดีใจด้วยที่พัฒนากว่าเดิม เราเริ่มของเราก่อนแล้วกัน บางทีไปดันคนข้างๆยังไม่ได้
    คุณploy manee ผ่านมาแล้ว 8ปี รู้วิธีอยู่ร่วมกับชาวทิพย์แบบให้อภัย เข้าใจวิธีอยู่ร่วมกันเป็นแล้ว ดีใจด้วยนะคะ

    มาให้กำลังใจ ถึงแม้ไม่มีปุ่มอนุโมทนาให้ผู้เขียน ขอให้เข้าใจว่า มีคนติดตาม รออ่าน ขอบคุณนะคะ
     
  17. กำแพง

    กำแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +232
    สาธุ สาธุ ...

    นี่คืออีกด้านของความรู้พิเศษ ซึ่งถ้าคนที่อินทรีย์ไม่แก่กล้า (อย่างกระผม) เห็นนู่นเห็นนี่ รู้นั่นรู้นี่ จะไม่ยิ่งสติแตกเหรอ.. เหอ เหอ เหอrabbit_run_away

    ขอคารวะท่านบาสหนึ่งจอก...
     
  18. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    คุณอธิษฐาน เข้ามาร่ายยาว ให้สมาชิกอ่านกันเพลินๆๆ
    ยาวมากๆๆ.นับว่า อดทน ในการพิมพ์ ขณะที่ เวบนี้ กำลัง ขึ้นอืด เหลิอเกิน
    กดส่งทีไร ต้องภวนาให้มันไป เถอะ..อย่าหลุดเลย..เพี้ยง เพี้ยง
    ......................................................................
    เรื่องเล่าก่อนอนคืนนี้ต่อ (พลังแห่งหิน)
    ............................................................
    ก้อนหินมีตระไคร่จับเขียว..เรียงราย แบบคนชอบสะสม
    ขนมามากมาย จากน้ำตก..ไม่รู้ว่า กี่แห่ง
    ขนมา ก็มีพลัง และวิญญาณ แปลกๆๆ ติดมาด้วย
    พอได้จุดที่เกิน พอดี..บ้านนั้นก็จะเป็นบ้าน..
    มีวิญญาณ เดินกันเต็มบ้าน..คนกับผี อยู่ด้วยกัน
    สนุก กัน ตรงไหน
    .......................................................
    วิธีแก้ คือ ต้องเอาเชาไป คืน ที่เดิม
    ปัญหา ก็คือ.มีมากมาย จำไม่ได้ ว่า ก้อนไหน มาจาก น้ำตกไหน
    ก็นั่งคิด ช่วยเขา...ในที่สุดก็คิดออก
    ..........................................................
    ในสมัยรัชกาลที่ หก.คราหนึ่งพระองค์เสด็จไป ประพาส
    ดงพญาไฟ เพื่อดูความดุร้ายของป่า..ที่ร่ำลือกันมาก
    (ปัจจุบันคือ แถบ ปากช่อง ทางไป นครราชสีมา)
    ก็ทรงพบกับ เจ้าป่า เจ้าเขา..มีการสนทนากันเป็นอย่างดี
    รัชกาลที่หก...ทรงนับถือ เจ้าป่า เจ้าเขา ที่มาสนทนาด้วย
    ..............................................................
    เมื่อกลับมาเมืองหลวง..ก็ทรงสร้างศาลขนาดใหญ่ไว้ที่ ท้ายวัง ของ พระองค์
    อัญเชิญ เจ้าป่า เจ้าเขา "ท้าวหิรัญพนาสูรย์) ให้มาประทับที่ ศาลนี้
    วังที่ว่า คือ วังพญาไท...
    ปัจจุบันคือ โรงพยาบาลพระมงกุฏ ใกล้ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
    ........................................................................
    จึงแนะนำให้เขาไป ขอขมาเจ้าป่าเจ้าเขา.และขอท่าน
    เมื่อขอแล้ว วิญญาณแห่งป่า ทั้งหลายที่เป็น ลูกน้องของท่าน
    จะได้ไม่ออกฤทธิ์ อีกต่อไป
    ..............................................................
    วันที่24 มิถุนายน 2475
    เป็นวันที่คณะราษฎร์ หรือ คณะทหารเข้ากุมอำนาจทางการปกครอง
    มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมากมาย
    วังของเจ้านายใหญ่ๆๆถูกยึด
    เช่น วังพญาไท...กลายเป้นโรงพยาบาล ของ ทหาร
    วังปารุสของสกุลจักรพงษ์..กลายเป็น ที่ตั้ง กรมราชการลับ หน่วยข่าวกรอง.
    การยึดครองก็ยังอยู่..ไม่ยอมคืนให้เจ้าของเดิม
    แม้แต่อำนาจประชาธิปไตย..อย่างที่เห็นกันอยู่
    .......................................................................
     
  19. atidtarn

    atidtarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    637
    ค่าพลัง:
    +4,168

    ชอบประโยคของคุณ ploy ที่ว่า หากจะมีก็ ถูกใจ และ ไม่ถูกใจ ที่เอามาวัดกัน

    ช๊อบ ชอบ จริงๆ

    อนุโมทนาเจ้าค่ะ
     
  20. iguaz

    iguaz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +539
    อนุโมทนาสาธุทุกท่านครับ..
    ได้ฤกษ์เมื่อไรคงได้ไปรบกวนอาจารย์อาชวินครับ
    สาธุๆๆความรู้ทุกท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...