ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สุดใจเขากะลา, 9 สิงหาคม 2007.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Blog 17

    Blog 17 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +26
    ที่สามารถแยกข้อมูลระบบได้เป็นอย่างดี เพราะข้อมูลที่เข้ามานั้น จะเข้ามาโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจจะคิด ไม่ได้ตั้งใจจะทำแต่เมื่อข้อมูลเข้ามา เราจะต้องหยุด แล้วดูความคิดนั้นให้เห็น เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คิด ไม่ได้ตั้งใจจะทำมาก่อน เมื่อมองเห็นความคิดนั้น และรู้ว่ากำลังคิดอะไร
    และหากข้อมูลดังกล่าว ต้องการให้ดำเนินการตามนั้น ข้อมูลจะเริ่มเข้มข้นขึ้น เริ่มเร่งเร้ามากขึ้น จนต้องไปทำตามข้อมูลนั้น ในกรณีนี้ หากระบบจะให้ร่วมทำการปลูกต้นไม้ทั้งต้นก็ได้ เพราะไม่ได้เกินกำลังของอาจารย์MOUNTAIN แต่อย่างใด [แต่ว่าข้อมูลจะมา จะบอกเพียงเท่านี้ ให้ทำเพียงเท่านี้ บริจาคเพียงเท่านี้ หรืออาจจะให้มากกว่านี้ก็ได้ อันนี้ให้ได้ อันนี้ให้ไม่ได้จนบางครั้งก็จะงงว่า ทำไมทำแค่นี้ ทำไมทำแบบนี้ ทำไมให้ไปที่นั่น ทำไมไม่ให้ไปที่โน่น อะไรประมาณนั้นคำถามมากมายที่พบเจอมา ก็เพราะบางครั้งยังแยกไม่ได้ก็เลยปนกันกับความคิดของเรา
    แต่ถ้ามีสติ ให้หยุด แล้วดูให้เห็นความคิดนั้น ว่าคิดจะทำอะไร คิดเรื่องอะไร เป็นความคิดที่เราตั้งใจไว้ไหม [/COLOR] ก็จะเริ่มแยกได้ว่า ความคิดนี้เป็นความคิดใหม่ ไม่ได้คิดมาล่วงหน้าก่อน
    เป็นความคิดที่ระบบส่งมา เพื่อให้ทดลองหัดแยกความคิดระบบ ออกจากกัน และดำเนินการไปตามนั้น
    แล้วหากไม่สนใจ ความคิดก็จะวนไปวนมา จนกว่าจะดำเนินการตามนั้นไปแล้ว
    ความคิดก็จะหายไป โปร่งโล่งเบาสบายดังเดิม นี่การส่งข้อมูลมาให้คนที่มีหน้าที่ต้องดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้กับระบบ โดยที่บุคคลนั้นเป็นคนของระบบที่วางไว้ ในบางท่านรู้ตัวว่าทำงานกับระบบ
    แต่คนระบบส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ตัวว่าทำงานกับระบบ แต่จะทำตามสิ่งที่แต่ละท่านคิด และคิดว่าเป็นความคิดเราเอง จึงทำได้อย่างถูกต้องตรง

    แต่อาจารย์MOUNTAIN ทำงานแบบรู้ตัวว่าทำงานกับระบบ รู้ว่าระบบให้ทำอะไร ให้โอนเงินช่วยไปแค่นี้ ก็ทำแค่นี้ จะไม่ทำมากกว่าที่ระบบให้ข้อมูล นี่คือการแยกข้อมูลออกมาจากความคิดตัวเอง
    และทำแล้ว ก็รู้ว่าระบบเขาทำเอง ไม่ได้ยินดี ยินร้าย ในสิ่งที่ทำไป ไม่พยายาม
    จะอยากช่วยระบบ ว่าอยากทำมากกว่านี้ แค่นี้น้อยไป ทำแล้ววางลง เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ทำ ไม่ได้เป็นผู้ให้ ไม่เป็นผู้มีบุญคุณใด ๆ แค่ทำตามหน้าที่ที่ระบบส่งมาให้ทำเท่านั้น
    คือไม่มีตัวตน ตั้งแต่ผู้คิด ผู้ทำ และผู้รับผล(บุญ)ที่ทำ จึงเป็นการกระทำที่ว่างจากผู้กระทำนั่นเอง
    จึงไม่ต้องไปเวียนเกิด เพื่อไปรับบุญที่ทำในครั้งนี้อีก

    ขออนุโมทนากับอาจารย์ MOUNTAIN ค่ะ ที่แยกข้อมูลได้อย่างชัดเจน แล้วทำไปตามหน้าที่ และอยู่เหนือสุข เหนือทุกข์ในกิจกรรมครั้งนี้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2009
  2. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    สรุปยอดต้นไม้ทั้งหมด พร้อมดำเนินการ ดังนี้

    1. หางนกยูง 10 ต้น ต้นละ 500 บาท
    +Winny ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท
    (โอนแล้ว 700 บาท 23/06/2009)

    + Mead ขอเป็นเจ้าภาพ 2 ต้น
    รวมเป็นเงิน 1,000 บาท

    +กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติธนะและครอบครัว 1 ต้น (อาจารย์ไก่)
    รวมเป็นเงิน 500 บาท

    + คุณอภิชาญ ขอเป็นเจ้าภาพ 2 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 1,400 บาท


    +คุณ Resculp ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท

    (โอนแล้ว 700.11 บาท 25/06/2009)

    +คุณ Juksawat ขอเป็นเจ้าภาพ 2 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 1,400 บาท

    +คุณมะลิวัลย์(แม่น้องอ๊าต) ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท

    2. เสลา 4 ต้น ต้นละ 600 บาท
    +ดร.กัลยา ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 800 บาท
    (รับเงินแล้ว 800 บาท 20/06/2009)


    +คุณวาสนา ชื่นสำนวน ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 800 บาท
    +คุณโสภา วรรณอนันต์ ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 800 บาท


    +คุณ NewWorldขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 800 บาท
    (โอนแล้ว 800 บาท 22/06/2009)


    3. เหลืองปรียาธร 7 ต้นต้นละ 500 บาท
    +คุณโสภา วรรณอนันต์ ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท

    +คุณ NewWorldขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท
    (โอนแล้ว 700 บาท 22/06/2009)


    +คุณ ชูศรี ขอเป็นเจ้าภาพ 2 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 1,400 บาท

    +กรณ์กาญจน์ ภมรประวัติธนะและครอบครัว (อาจารย์ไก่)
    รวมเป็นเงิน 500 บาท

    -พี่เม้าท์ + อาจารย์ไก่ รวมเป็นต้นปรียาธรอีก 1 ต้น (300+200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 500 บาท
    (โอนแล้ว อ.เม้าท์ 300 บาท 24/06/2009)


    +คุณ Dookbuabarn ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท

    4. แผ่บารมี (หูกระจง) 2 ต้นต้นละ 2,500 บาท
    คุณ Sutassee ขอเป็นเจ้าภาพทั้ง 2 ต้น (รวมค่าบำรุงต้นไม้)
    รวมเป็นเงิน 5,400 บาท
    (โอนแล้ว 5,400 บาท 24/06/2009)


    5. ปาล์มหางกระรอก 4 ต้นต้นละ 800 บาท
    คุณฺ Bizan ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 4 ต้น (รวมค่าบำรุงต้นไม้)
    รวมเป็นเงิน 4,000 บาท
    (โอนแล้ว 4,000 บาท 23/06/2009)


    6. มะพร้าว......จำนวนหลายต้น
    ผู้ใจบุญมอบให้สถานธรรม (เพื่อนพี่วรรณ)

    7. ทองหลางด่าง 1 ต้น 800 บาท
    +คุณวาสนา ชื่นสำนวน ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 1,000 บาท


    8. โมก 1 ต้น 500 บาท
    +คุณสมจิตร แร่เพชร ขอเป็นเจ้าภาพ 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 700 บาท
    (รับเงินแล้ว 700 บาท 22/06/2009)

    9. สาระอินเดีย...1ต้น 1,500 บาท
    พี่สุดใจ ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 1,700 บาท


    10. ลีลาวดี 1 ต้น 1,000 บาท
    คุณไอย...ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 1 ต้น
    รวมเป็นเงิน 1,000 บาท


    11. ต้นโพธ์..
    เจ้าของร้านมอบให้สถานธรรม 1 ต้น

    12. ต้นราชพฤกษ์ (ต้นคูณ) 2 ต้น ต้นละ 600 บาท
    +ดร.กัลยา ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 1 ต้น (รวมค่าบำรุง 200 บาท)
    รวมเป็นเงิน 800 บาท
    (รับเงินแล้ว 800 บาท 20/06/2009)


    +คุณวาสนา ชื่นสำนวน ขอเป็นเจ้าภาพจำนวน 1 ต้น (รวมค่าบำรุงต้นไม้)
    รวมเป็นเงิน 800 บาท

    และคุณSaisawan ร่วมช่วยเหลือจัดซื้อระบบอุปกรณ์ดูแลต้นไม้
    อาทิ..เครื่อง pump และท่อน้ำ PE พร้อมหัวฉีดน้ำแบบหมุนเหวี่ยง..ฯลฯ
    เป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท
    (โอนแล้ว 5,000 บาท 22/06/2009)


    รวมเป็นเงินรับโอนทั้งสิ้น 19,900.11 บาท

    เงินผู้ร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรมในบัญชีเดิม 3,156 บาท


    ยอดเงินรวมทั้งสิ้น 23,056.11 บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2009
  3. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    และทำแล้ว ก็รู้ว่าระบบเขาทำเอง ไม่ได้ยินดี ยินร้าย ในสิ่งที่ทำไป ไม่พยายามจะอยากช่วยระบบ ว่าอยากทำมากกว่านี้ แค่นี้น้อยไป ทำแล้ววางลง เพราะเราไม่ได้เป็นผู้ทำ เป็นผู้ให้ เป็นผู้มีบุญคุณใด ๆ แค่ทำตามหน้าที่ที่ระบบส่งมาให้ทำเท่านั้น

    คือไม่มีตัวตน ตั้งแต่ผู้คิด ผู้ทำ และผู้รับผล(บุญ)ที่ทำ จึงเป็นการกระทำที่ว่างจากผู้กระทำนั่นเอง

    จึงไม่ต้องไปเวียนเกิด เพื่อไปรับบุญที่ทำในครั้งนี้อีก


    ขอทำความเข้าใจในประโยคเหล่านี้ เพื่อความกระจ่างอีกสักนิดนะคะ

    โดยธรรมชาติแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมไม่ได้เป็นตัวใครของใคร เป็นธรรมชาติล้วน ๆ ที่มาประชุมรวมกัน แล้วเกิดการอุปทานในขันธ์ห้าว่าเป็นตัวเราของเรา

    ดังนั้น ผู้ที่ปฏิบัติเพื่อการละวางอัตตาตัวตน ย่อมต้องทำความเข้าใจในข้อความนี้ให้ถูกตรง ให้เห็นจริง และเพียรเพื่อที่จะปฏิบัติให้เห็นกลไกการปรุงแต่งของขันธ์ห้า ที่มันปรุงแต่งเองตามเหตุปัจจัยที่มากระทบ แล้วไม่ให้อุปาทานไปเกาะ รับว่าเป็นตัวเราของเรา


    ผู้ปฏิบัติทั้งหลาย พึงระลึกอยู่เสมอว่า ร่างกายนี้ ความคิด ความรู้สึก อารมณ์เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นภายในขันธ์ห้านี้ เป็นการปรุงแต่งของธรรมชาติ ไม่ได้มีตัวใครของใคร จึงไม่สามารถบังคับบัญชาให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ ตามต้องการ

    แม้ภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านยังต้องออกธุดงค์ ปลีกวิเวก เพื่อที่จะไปพิจารณาขันธ์ห้าตามความเป็นจริง ให้เห็นการปรุงแต่ง ให้เห็นการเกิดดับของขันธ์ห้า ให้เห็นจริงว่าขันธ์ห้าทั้งหลายไม่ได้เป็นตัวตน ไม่ได้เป็นตัวใคร ความคิดทั้งหลายก็สักแต่ว่าคิด อารมณ์ทั้งหลายก็สักแต่ว่าอารมณ์ ความคิด ความรู้สึก ก็เพียรเพื่อเห็นการเกิดดับ เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของทุกสรรพสิ่งที่รวมกันขึ้นมา จนเห็นเหมือนว่ามีตัวคน ตัวสัตว์ ตัวเรา ตัวเขา นั่นเอง

    นี่คือการปฏิบัติที่เป็นแก่น ของพระธรรมคำสั่งสอน

    ดังนั้น เราก็ต้องเพียรที่จะพิจารณาเนือง ๆ ว่า ความคิดนี้ สักแต่ว่าคิด จะคิดอะไร จะฟุ้งซ่านมากน้อยแค่ไหน ก็อย่าตามความคิดไป ให้มีสติเห็นความคิดเหล่านั้น ว่ามันไม่ได้เป็นตัวตนของตน สักแต่ว่าคิดไปตามเหตุปัจจัยที่มากระทบ อย่าไปให้ความสำคัญมากนัก เพราะไม่อย่างนั้น จะพาแต่คิดไปหาเหตุแห่งทุกข์อยู่เรื่อย

    การเห็นนี้สักแต่ว่าเห็น เพราะอายตนะมันทำหน้าที่รับภาพ รับเสียง รับสิ่งต่าง ๆ เข้ามาเพื่อให้ขันธ์ห้า ขันธ์อื่น ๆ รับช่วงต่อทำหน้าที่ปรุงแต่งต่อไป ทางธรรมะจึงบอกว่า เห็นสักแต่ว่าเห็น อย่าได้นำมันมาปรุงแต่ง เพราะมันไม่ได้มีความสำคัญพอที่จะทำให้เราต้องไปสุขทุกข์กับมัน

    ความจำนี้สักแต่ว่าจำได้ ก็มันเคยบันทึกไว้ มันก็ส่งออกมาแบบนี้ เป็นเรื่องธรรมดา มันไม่ใช่ว่าเราจำเก่ง เราจำแม่น เราดีกว่าเขา เพราะจำได้ดีกว่าเขา พออายุมาก ก็ลืมเลือนพอกัน เพราะมันไม่ใช่ของใคร มันก็เสื่อมถอยไปตามกลไกธรรมชาติ

    หรือแม้ว่าร่างกาย การเปลี่ยนแปลงแปรปรวนไปเรื่อย เซลล์เปลี่ยนแปลง แปรปรวน ถ้าจะไปยึดเกาะสิ่งหนึ่งสิ่งใด สิ่งนั้นย่อมเป็นทุกข์ได้ตลอดเวลา

    ดังนั้น การเปลี่ยนแปลง การใหลไปของกระแสธรรมชาติ มันใหลไปตลอดเวลา ไม่ได้เป็นของใครแม้แต่น้อยนิด เพียงแต่ถ้าใครอุปทานว่าสิ่งนี้ ความคิดนี้ ความจำนี้ อารมณ์นี้เป็นของเรา เขาก็ต้องรับสิ่งที่ขันธ์ห้ามันปรุงหลากหลายอารมณ์เหล่านั้น ว่าเป็นของเขาไปด้วย เท่ากับไปปั้นอุปทาน ไปปั้นสิ่งที่เป็นความว่างให้มีตัวตนขึ้นมา

    แล้วมันก็เป็นกลไกธรรมชาติ เมื่อมีตัวตน มีตัวเราผู้กระทำ ก็ย่อมมีการบันทึกผลของกรรมนั้น ๆ ไว้ให้ตัวตนของผู้กระทำ จึงต้องมีการรับผลของการกระทำนั้น ๆ ที่บันทึกไว้ เพื่อชดใช้ทั้งกรรมดี กรรมชั่ว

    จึงยังต้องเวียนเกิดเวียนตาย ใช้บุญใช้กรรมกันต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    นั่นคือ เมื่อมีตัวตนผู้กระทำ จึงมีตัวตนของผู้รับกรรม ก็มีการบันทึกวิบากต่าง ๆ เก็บไว้ให้ตัวตนของผู้กระทำนั่นเอง

    ต้องชดใช้กันไปไม่มีที่สิ้นสุด ต้องเวียนเกิดเวียนตายเพื่อมาชดใช้วิบากเหล่านั้น

    ต้องเกิดมาเป็นเศรษฐี เป็นผู้ใจบุญ เพราะสร้างวิบากดีไว้เยอะ แม้จะไม่อยากเกิด อยากไปนิพพาน แต่มีตัวผู้ทำบุญก็ต้องมารับบุญ ไปนิพพานยังไม่ได้ เพราะยังมีตัวตนผู้ทำบุญอยู่

    กฏแห่งกรรม ก็ต้องเก็บบุญไว้ให้ตัวผู้ทำกรรมดีนั้น มารับไป

    ต้องเกิดมาเป็นยาจก มาเป็นผู้ร้าย เพราะสร้างวิบากไม่ดีไว้เยอะ ต้องมาชดใช้เวียนไปไม่มีที่สิ้นสุด เพราะยังมีตัวตนผู้รับวิบากไม่ดีอยู่

    ถ้ายังไม่เห็นว่า ทุกอย่างล้วนเป็นของธรรมชาติ ไม่ได้มีตัวตน ไม่ได้มีตัวใคร ของใคร ที่ควรจะต้องไปเกาะ ไปยึด ไปบังคับบัญชา

    แล้วถอยออกมาดูการปรุงแต่งของแต่ละขันธ์ด้วยความเข้าใจ จะทำสิ่งใดก็มีสติรู้เห็นการกระทำนั้น ๆ ว่าเป็นการสมควรเพียงใด เหมาะสมเพียงใด แล้วทำไปตามเหตุปัจจัยที่ควรกระทำ

    แล้วไม่ไปยึดเอาธรรมชาติขณะที่กระทำนั้น ว่าเป็นเราผู้กระทำ เราผู้ช่วยเหลือ เราผู้ให้ เราผู้ไม่ให้ เราผู้ทำอย่างนี้ อย่างนั้น

    ไม่รับทั้งบุญ และบาป ไม่มีทั้งเขาและเรา ไม่ได้มีใครให้ใคร มีแต่การช่วยเหลือกันไปของธรรมชาติกับธรรมชาติเท่านั้น

    มันจึงไม่ได้มีใครทุกข์ มีใครสุข เพราะอยู่เหนือขันธ์ห้า อยู่เหนืออารมณ์ปรุงแต่งสุขทุกข์ทั้งหลาย

    มองเห็นมันเป็นสักแต่ว่าสุข ทุกข์ในอารมณ์ ในความรู้สึกเท่านั้น

    ถ้ายังเกาะเกี่ยว มีตัวผู้ทำ ผู้ให้ ผู้รับ ผู้ทำดี ผู้ทำชั่วอยู่ละก็

    ยังต้องเวียนอยู่ในวัฏฏะสงสาร ออกไม่ได้แน่นอน

    เหมือนเช่นพระอรหันต์ พระองคุลิมาล ถ้าท่านยังไม่บรรลุธรรม ที่ได้รับฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าแล้วนั้น ท่านต้องชดใช้กรรมอีกเท่าไร กว่าที่ท่านจะใช้ได้หมดในการฆ่าคนจำนวนมหาศาลเหล่านั้น

    แต่เพราะท่านได้มารู้ความจริงที่เป็นกฏธรรมชาติ เป็นสิ่งที่คนทั่วไปรู้ได้ยาก ท่านเห็นว่าสิ่งทั้งหลายทั้งปวงไม่ได้เป็นตัวตน ไม่ได้เป็นตัวใครของใคร เป็นเพียงธรรมชาติ แต่ด้วยความไม่รู้จึงทำสิ่งที่ผิดจากหลักธรรมชาติ ไปยึดมั่นถือมั่นในอัตตาตัวตน จึงต้องมีตัวเรา ทำร้ายตัวเขา จึงต้องรับกรรม วิบากกรรมมาเป็นของเรา

    แต่เมื่อรู้เห็น รู้ความจริง ท่านจึงออกจากตัวตน ออกจากอุปทานขันธ์ห้า ท่านจึงอยู่เหนือสุข เหนือทุกข์ เหนือกรรม วิบากกรรม คือบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ ไม่ต้องเกิดมาเพื่อใช้กรรมอีก

    แต่ขันธ์ห้า ที่เคยยึด เคยคิดว่าเป็นตัวตน มันก็ยังต้องรับกรรมของมัน กรรมของขันธ์ห้า ถูกขว้างปาทุบตี ถูกทำร้ายด้วยความอาฆาตจากชาวบ้าน พระองค์คุลิมาลท่านก็ไม่ทุกข์ ก็ให้ขันธ์ห้าชดใช้ไป ก็ทุบตีไป ขันธ์ห้าก็ใช้กรรมไป เมื่อสิ้นขันธ์ห้า ก็แยกย้ายจากกันไป ไม่ต้องกลับมารวมกันเป็นขันธ์ห้า เพื่อเกิดใหม่อีกนั่นเอง

    จะเห็นได้ว่า จุดแก่นจริง ๆ ก็คือ ให้เห็นความเป็นจริงของขันธ์ห้า ให้เห็นความเป็นเช่นนั้นเองของธรรมชาติ ว่ามันไม่ได้เป็นตัวตน ไม่ได้มีตัวใคร เป็นเพียงอุปทานขันธ์ห้าเท่านั้น ที่มันยึดเหนี่ยวเอาไว้

    ดังนั้น การหลุดพ้น จึงหลุดพ้นจากอุปทานขันธ์ห้า ที่มันปรุงแต่งแล้วหลอกล่อให้ยึดมั่นถือมั่นเท่านั้น

    ถ้าเห็นตามจริง และมีสติอยู่ในปัจจุบันขณะ ก็จะเห็นว่า มันไม่ได้เป็นตัวตน ของตนจริง ๆ

    แต่ถึงพูด ถึงบอกยังไง มันก็ไม่เห็น เพราะมันเข้าใจไม่ได้ ยังไปไม่ถึง ยังวนอยู่ในขันธ์ห้ากันอยู่ เกาะติดอยู่ในขันธ์ห้า ไม่เคยคิดที่จะแยกออกมาดูมันทำงานกันเองเลยสักครั้ง

    ไม่เคยที่จะฉุกใจสักนิดว่ามันไม่ได้มีใคร ไม่ได้มีตัวตนของตนใด ๆ อยู่ในขันธ์ห้าเลย

    การจะอยู่เหนือขันธ์ห้า มันจึงเป็นเรื่องที่เกินวิสัยจะคิดได้


    แล้วจะไปโทษใคร ไปโทษอะไร เพราะเราไม่เข้าใจเอง เราจึงยังสุข ยังทุกข์กันอยู่เอง

    ถึงเวลาหรือยัง ที่จะมีความเห็นให้ถูกตรง ให้เข้าถึงแก่นของธรรมชาติ เข้าถึงแก่นของธรรม เพื่อออกจากสังสารวัฏอันยาวนานกันเสียที
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2009
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    พี่สุดใจ อธิบายชี้แจงได้ชัดเจนมากเลยครับ
    คลื่นความคิดเดียวกัน แต่ผมยังไม่สามารถเรียบเรียงได้
    พอมาเห็นพี่สุดใจ เจาะประเด็นนี้ ทำให้เกิดความกระจ่างขึ้นมาทันที
    มันเป็นเช่นนั้นเอง

    ขออนุโมทนาครับ
     
  5. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ความเข้าใจในความเป็นจริงของขันธ์ห้า
    สามารถทำให้เรา ไม่ทุกข์ แม้จะอยู่ในท่ามกลางทะเลแห่งทุกข์
    ที่กำลังถาโถม โรมเร้าเข้ามา

    ทุกข์เกิด เพราะ มีตัวตน เป็นผู้กระทำ และเป็นผู้รับผลจากการกระทำ
    ปราศจากตัวตน ก็ไม่มีผู้กระทำ และผู้รับผลของการกระทำ


    ความคุ้นเคยกับการยึดเกาะขันธ์ห้า
    เสพสุขทุกข์ ผ่านอายตนะ-ตา หู จมูก ลิ้น
    แล้วปรุงแต่ง จนเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า
    ขันธ์ห้านี้เป็นตัวฉัน เฝ้าบำรุงบำเรอมันมานานแสนนาน
    ไม่เคยห่างออกจากขันธ์ห้า แม้ขันธ์ห้าแตกลับดับสูญ

    ด้วยจิตผูกพัน ที่ปราศจากอิสระ ก็จะยึดเหนี่ยวธาตุสี่ ขันธ์ห้า
    ให้มารวมตัวกันอีก เกิดมาเสวย สุข ทุกข์ แบบเดิมๆ
    ซ้ำๆซากๆ หนีไม่พ้นวัฎจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด

    มาเริ่มต้นทำความเข้าใจในขันธ์ห้าที่เรายึดมั่นถือมั่นกันอยู่นะครับ
    จะได้ไม่ต้องกลับมาเหนื่อยแล้วเหนื่อยอีก ในชีวิตที่หาแก่นสารสาระไม่ได้

    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านที่สนใจเข้ามาศึกษาเรื่องของความเป็นจริงในขันธ์ห้า
    ได้พบประสบความสำเร็จ สามารถสลัดยางเหนียวที่เคยเกาะกุมชีวิต
    ให้ทุกข์ทรมาณมาแล้วอย่างยาวนาน เดินสู่หนทางชีวิต ที่มีภพภูมิสั้นลงๆ
    สู่อรหัตผล ตรงเข้าพระนิพพานได้ในที่สุด

    ขออนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กรกฎาคม 2009
  6. Dookbuabarn

    Dookbuabarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    96
    ค่าพลัง:
    +225
    เรียน อ.สุดใจ

    ได้โอนค่าต้นไม้ เหลืองปรียาธร + ค่าดูแล เป็นเงิน 700 บาท ให้แล้วนะคะ
    ตามเลขที่บัญชีที่อาจารย์แจ้งไว้นะคะ (โอนเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. )

    ขอขอบคุณ คุณวาสนา ที่ได้เปิดโอกาสให้ได้มีส่วนร่วมในการปลูกต้นไม้ ณ สถาน
    ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ด้วยนะคะ

    ขอบคุณมากค่ะ
     
  7. Blog 17

    Blog 17 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +26
    [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  8. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    ในตอนนี้ 27 มิถุนายน 2552


    พี่สุดใจได้เดินทางมาถึงกรุงเทพฯ แล้ว

    และกำลังจะเดินทางไปสถานธรรมธนบุรีรมย์พร้อมอาจารย์นีโม่ในช่วงบ่ายวันนี้


    และคงได้ไปจัดสถานที่ ที่จะจัดตั้งเป็นสำนักงานของกลุ่มประสานงานฯ สาขากรุงเทพฯ


    สำหรับในส่วนของห้องที่อาจารย์นีโม่ได้จัดไว้ให้สำหรับเป็นสำนักงานฯ และที่พักของผู้อาวุโส คือห้องที่ 42 นั้น



    ห้องแรกหัวมุมมีติดกันสองห้อง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ห้อง ๔๒ สำหรับอาจารย์สุดใจและผู้อาวุโสมาพัก


    [​IMG]



    [​IMG]

    ตอนนี้ยังมีแต่ความว่างครับ

    [​IMG]
    ว่างๆๆ


    สำนักงานของกลุ่มประสานงานฯ สาขากรุงเทพฯ และเป็นที่พักของผู้อาวุโสในกรุงเทพฯแห่งนี้


    คุณ Digital ได้ขอเป็นผู้จัดตั้งเริ่มแรก โดยได้มอบเงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อเป็นกองทุนเปิดสถานปฏิบัติธรรมเขากะลา สาขากรุงเทพฯ ให้กับผู้อาวุโสไว้ขยายระบบ และได้เป็นที่พัก ยามเดินทางมากรุงเทพฯ จำนวน 1 ห้อง เพื่อแบ่งเบาภาระจากอาจารย์นีโม่ และคุณไอย

    และยังได้บริจาค คอมพิวเตอร์โน๊ตบุค จำนวน 1 เครื่อง ไว้ให้ใช้ทำงานในระหว่างเดินทางมาประสานงานที่กรุงเทพฯ ด้วย เพื่อความสะดวก และทำงานได้อย่างต่อเนื่อง

    และพร้อมกันนี้คุณวิจิตร ได้สนับสนุนค่าเดินทางมาประสานงานที่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ จำนวน 2,000 บาท โดยให้ใช้เป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในขณะที่ยังคงทำหน้าที่ประสานงานอยู่ ณ กรุงเทพฯ

    และอาจารย์กัลยา ท่านยังคงมอบค่าน้ำมันรถยนต์ เดือนละ 2,000 บาท ไว้ใช้เติมน้ำมันรถยนต์ ในการเดินทางไปดูสถานที่ก่อสร้าง และต้อนรับผู้เดินทางมาเยือนเขากะลา โดยพาคณะต่าง ๆ ไปดูไซด์งานนั้น ท่านยังคงสนับสนุนค่าน้ำมันอย่างต่อเนื่องตลอดมาทุก ๆเดือน ขออนุโมทนาด้วยอย่างยิ่งค่ะ

    อาจารย์จักษวัชร์ ท่านยังคงเติมเงินค่าโทรศัพท์ให้กับพี่สุดใจ ไว้โทรศัพท์ประสานงานกับบุคคลต่าง ๆ จำนวน 300 บาท ทุกเดือนจนกว่าการก่อสร้างอาคารจะแล้วเสร็จ

    อาจารย์เม้าท์ ท่านก็ได้สนับสนุนเติมเงินค่าโทรศัพท์สมทบมาให้ในบางช่วง ที่มีการใช้มากกว่าจำนวนที่ได้รับมา

    ต้องขออนุโมทนากับทุก ๆ ท่านด้วย ที่เห็นความสำคัญของการให้ประโยชน์ท่านทั้งหลาย ในการเห็นความสำคัญของการให้ธรรมะ เห็นความสำคัญในการให้ความรู้ความเข้าใจ ในเรื่องของกฏธรรมชาติแด่บุคคลอื่น


    สิ่งที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันในครั้งนี้ ก็เป็นการทำเพื่อยังประโยชน์ผู้อื่น เป็นการให้โอกาสผู้อื่นให้ได้มาพบ มาเจอ มารับฟังการขยายระบบ และสามารถพัฒนาความสามารถในการเห็นความว่าง ว่างจากอุปทานทั้งหลายได้


    ดังที่ทุกท่านที่ได้ร่วมบริจาคสมทบทุนนี้ ได้พบเจอ ได้เห็นความว่าง และปล่อยวางจนเบาบางจากทุกข์ได้แล้วนั่นเอง

    ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยอย่างยิ่งค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2009
  9. imjoice

    imjoice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +125
    ขออนุโมทนาสำหรับทุกๆบุญด้วยค่ะ อ.สุดใจคะ เหตุการณ์ที่จอยเจอ อย่างนี้เขาเรียกว่า ระบบแจกทุกข์หรือเปล่าคะ พอดีมือถือเสีย เราก้อเอาเข้าศูนย์ ผ่านไป 4 วัน ก้อเอะใจ ทำไมยังไม่เสร็จ ความคิดก้อเข้ามาว่า ต้องโทรไปถามซะหน่อยละ ก้อหยิบมือถือ(เครื่องสำรองของเรา)มาหาเบอร์ศูนย์ หน้าจอบอกนาฬิกา 15.15 น. (เลขซ้ำๆ จอยเจอบ่อยมาก) หลังจากนั้นไม่กี่วิ ก้อมีสายเรียกเข้า ทางศูนย์โทรเข้ามา (ด้วยความบังเอิญสุดๆ เหมือนใจตรงกัน) บอกจอยว่า มือถือของเราต้องเอาเข้าศูนย์ใหญ่ ใช้เวลาซ่อม 10 วันทำการ โอ้โห เลยนึกถึง ระบบเลย ว่า แบบนี้หรือเปล่า ที่พี่ๆ เขาว่า แจกทุกข์ให้เนี่ย
     
  10. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451

    วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน2552

    ณ สถานธรรมธนบุรีรมย์
    หมู่บ้านมัณฑนาธนบุรีรมย์
    ซอยประชาอุทิศ129
    บ้านเลขที่ ซอย 5/8


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  11. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    พระอาจารย์หลวงน้าพร้อมคณะของคุณพีท เดินทางมาถึงสถานธรรมธนบุรีรมย์ ในช่วงเย็นวันเดียวกัน

    ทุกคนกราบนมัสการท่าน และพระอาจารย์หลวงน้าได้เป็นตัวแทนรับพานการขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย ขอขมากรรมต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ของผู้มาร่วมพิธีในวันนั้น

    ซึ่งผู้ที่เดินทางมาทำพิธีขออโหสิกรรมในครั้งนี้ ก็ได้ทำการขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัยพร้อมกันทุกท่าน ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่ได้ทำการขอขมากรรมพระรัตนตรัยก่อนการเข้าพรรษาในครั้งนี้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  12. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    he llo _carคงได้ไปเขากะลาที่ใหม่แน่ในสัปดาห์ต่อๆไป;aa40ดีจังที่มีรถจากเดอะมอลล์ไปด้วยง่ายมากเลย:z10คงได้ไปให้อ.โม่สอนโหราศาตร์บ้างแน่:z10:z10
     
  13. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    หลังจากนั้น อาจารย์นีโม่ก็ทำพิธีขออโหสิกรรมให้กับผู้ที่เดินทางมาเพื่อร่วมทำพิธีขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

    ญาติโยมก็ได้รับฟังข้อธรรมะ และรับพรจากพระอาจารย์หลวงน้า

    ก่อนเดินทางกลับ พระอาจารย์หลวงน้าท่านเมตตา มอบปัจจัยทั้งหมดที่ญาติโยมถวาย มอบให้เป็นกองทุนร่วมสร้างสถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ที่เขากะลา ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ที่ญาติโยมถวาย เป็นจำนวนเงิน 2,556.75 บาท

    ขอกราบอนุโมทนาค่ะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  14. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    กราบพระประธานฯ และถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับเพื่อน ๆ สมาชิก ก่อนเดินทางกลับ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451


    เมื่อวานนี้ 28 มิถุนายน 2552

    คุณแม่คุณพีท ท่านได้เมตตาให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เดินทางไปดูต้นไม้ในสวนของท่าน ที่อนุบาลนิธิกานต์ เพื่อที่จะนำแบบต้นไม้ และการจัดสวน ไปจัดทำที่สถานปฏิบัติธรรม จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ที่เขากะลา

    และท่านยังได้นำชมต้นไม้นานาชนิดด้วยตัวท่านเอง พร้อมอธิบายรายละเอียดการปลูก การเพาะ การดูแลรักษา และต้นไม้ชนิดใดเหมาะสมที่จะปลูกยังจุดใด เพื่อความสวยงาม ทนทาน และเหมาะสมกับสถานที่

    และท่านยังนำชมโรงเรียนอนุบาล ได้เห็นถึงความสวยงาม สะอาด และความเป็นระเบียบของโรงเรียนนี้อย่างยิ่ง ซึ่งวันที่เดินทางไปนั้นเป็นวันอาทิตย์โรงเรียนหยุด จึงได้เก็บภาพโรงเรียนอนุบาลนิธิกานต์มาให้ชมด้วย ซึ่งจะนำมาให้ชมในครั้งต่อไป จะเห็นถึงความพร้อมของอุปกรณ์การเรียนการสอนของอนุบาลแห่งนี้ค่ะ

    คุณแม่ของคุณพีท กำลังนำชมสวนไม้ดอกไม้ใบ ไม้ประดับ และบรรยายให้ฟังในศาลาพักผ่อนที่น่านั่งพักพิงอย่างยิ่ง



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  16. สุดใจเขากะลา

    สุดใจเขากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    2,083
    ค่าพลัง:
    +11,451
    ภาพสวย ๆ จากสวนอันร่มรื่น
    ภายในอนุบาลนิธิกานต์ค่ะ

    ฝีมือการถ่ายภาพของคุณ ukrin



    [VDO]http://palungjit.org/attachments/a.623275/[/VDO]​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2009
  17. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ภาพประกอบเพิ่มเติมวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน2552

    ภาพประกอบเพิ่มเติมวันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน2552

    ณ สถานธรรมธนบุรีรมย์
    หมู่บ้านมัณฑนาธนบุรีรมย์

    ซอยประชาอุทิศ129
    บ้านเลขที่ ซอย 5/8


    [​IMG]


    [​IMG]
    คณะของคุณพีท เดินทางมาถึงบ้านคุณJohnny

    [​IMG]
    พี่สุดใจ ออกไปต้อนรับ กราบนิมนต์หลวงน้า
    มาเป็นประธานพิธีขอขมากรรม รับพานขมา

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  18. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  19. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    เริ่มพิธีขอขมากรรม

    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  20. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...