ลักษณะที่เกิดเวลาสวดมนต์และนั่งสมาธิ

ขอบคุณคุณสันโดษมากๆค่ะ ที่ช่วยชี้แนะแนวทาง
เพราะตอนแรกไม่รู้ว่าจะเริ่มปฏิบัติยังไงดีให้ถูกทางและก้าวหน้าขึ้นเร็ว

ขอถามเรื่องแม่ได้ไหมคะ เพราะแม่เค้าเล่นคอมไม่ค่อยเป็น
คือตอนนี้ที่บ้านทำกิจการตักเหล็กอยู่อ่ะค่ะ รู้สึกว่าแม่ทำแล้วขาดทุนมาเกือบตลอดเลย
ยิ่งเมื่อช่วงก่อนหน้านี้เหล็กแำพงมาก แม่ก็กลัวว่าจะไม่มีเหล็กจะใช้
เลยซื้อตุนไว้เยอะเลยค่ะ ตอนนี้เหล็กลงมาประมาณสิบบาทแล้ว
แต่ของเก่ายังอยู่เต็มเลย ก็เลยต้องขายขาดทุนตลอด
ตอนนี้ขาดทุนไปเท่าไรก็ไม่รู้แล้ว แล้วเศรษกิจก็ไม่ดี เลยยิ่งขายไม่ได้เลยค่ะ
ส่วนตัวเองก็ต้องใช้เงินอยู่ตลอด เพราะกำลังเรียนอยู่
ก็เลยไม่รู้ว่าจะช่วยเค้าได้ยังไง

แล้วแม่ก็เป็นโรคหืดหอบด้วยค่ะ
เคยเข้าโรงพยาบาลเพราะหายใจไม่ออกอยู่ครั้งสองครั้ง
แล้วก็มีอาการมือเท้าชาอ่ะค่ะ ไม่ทราบจะแก้ไขยังไงดีคะ
ส่วนตัวก็พยายามชวนแม่เค้าไปปฏิบัติธรรม แต่เค้าก็ติดเรื่องงาน
ห่วงร้าน ห่วงบ้าน เค้ายังวางไม่ได้ ไปก็ได้ไม่นาน
ก็เข้าใจว่าผู้ใหญ่เค้ามาภาระปัญหาติดขัดเยอะกว่าเรา
อยากให้เค้าอยู่กับเราไปนานๆอ่ะค่ะ เพราะท่านก็แก่มากแล้ว

รบกวนคุณสันโดษช่วยแนะนำหน่อยนะคะ
ว่าต้องทำอย่างไรดี

อ่อ ส่วนเรื่องที่เช็ดหิ้งพระนี่คิดว่าคงจะได้ทำในเร็ววันนี้ค่ะ เพราะว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมานี้ หิ้งพระที่เคยมีมาตั้งแต่จำความได้ ก็หล่นลงมาค่ะ
สองหิ้งเลย คือหิ้งพระกับหิ้งเจ้าแม่กวนอิม ไม่ทราบเหมือนกันว่าหล่นลงมาได้อย่างไร
ทำให้พระเสียหายไปหลายองค์เหมือนกัน น่าเสียดายมาก ไม่ทราบว่าจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ
แต่ว่าตอนนี้ก็ซื้อหิ้งใหม่มาแล้วค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

คำกล่าวนำก่อนทำสมาธิแก้กรรม

"ถึงเจ้ากรรมนายเวรขณะนี้ลูกชื่อ .................นามสกุล..........................

กำลังทำสมาธิถึงเจ้ากรรมนายเวรของลูกอยู่ ซึ่งไม่ว่าเจ้ากรรมนายเวรของลูก

จะเป็นคนใกล้ตัว สัตว์ใกล้ตัว เทวดาใกล้ตัว โดยเฉพาะ........................

ทั้งที่มีชีวิตอยู่และดับสูญกลายเป็นจิตวิญญาณเป็นเทพเเล้วก็ตาม

ชาตินี้ ภพนี้ กับชาติที่เเล้ว ก็เหมือนเป็นคนละคนกันเเล้ว เเต่ผลกรรมยังตามมาตอบสนองอยู่

ตอนนี้ลูกได้รับรู้เเล้วว่าผลกรรมมีจริง จากการที่ลูกประสบปัญหาต่างๆ

..........................................................................

..........................................................................

(บอกปัญหา หรือ โรคที่เกิดขึ้นกับตัวเองให้ละเอียดที่สุด)


ซึ่งลูกรู้เเล้วว่ามันเจ็บปวดเพียงใด มาบัดนี้ได้รับรู้ผลกรรมที่ลูกทำไว้กับท่านในอดีตชาติเเล้ว

ลูกสำนึกบาปเเล้ว ลูกจึงขอทำสมาธิเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรเห็นว่าลูกได้สำนึกผิดเเล้ว

การทำสมาธินี้ไม่ใช่การทำเพื่อเอาผลบุญให้แก่ท่าน

เเต่เป็นการทำเพื่อให้รู้ว่าลูกสำนึกในบาป บุญ คุณ โทษ กรรมเวรต่างๆ ที่ได้ทำไว้เเล้ว

เพราะผลบุญถ้าใครอยากได้ท่านต้องปฏิบัติเอง โดยการทำความดี ทำสมาธิ ถือศีล 5

โดยถ้าท่านพอใจการทำสมาธิ ขอให้ท่านนำเอาสิ่งที่ทำทิ้งไว้กับลูกกลับคืนไปด้วย

ด้วยการให้อาการและปัญหาต่างๆ ของลูกหายเป็นปลิดทิ้ง โดยลูกจะขอนั่งสมาธิ ณ บัดนี้




(ทำเฉพาะกลางวันเท่านั้นนะคะ)

<TABLE class=tborder style="MARGIN: 10px 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 425><THEAD><TR><TD class=tcat style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2></TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED src=http://www.youtube.com/v/EW56QbIRjCw width=425 height=350 type=application/x-shockwave-flash wmode="transparent" allowfullscreen="true"></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

สันโดษก็มีปัญหา เหมือนกันคะ เลยเข้าไปค้นหาเกี่ยวกับการเเก้กรรม ของริชชี่คะ

ลองเขาไปดูนะคะ ลองดูนะคะ ตั้งเเต่ต้นจนจบ จะได้วิธีไปช่วยคุณเเม่อย่างละเอียด จากกระทู้นี้คะ>>> สำหรับคนใกล้หลุดกรรม

 

ขอสอบถามคุณสันโดษค่ะ ว่าเวลานั่งสมาธิหลายครั้งจะเกิดอาการศรีษะโยกไปมา
จนปวดคอไปหมด อยากทราบว่าเป็นเพราะอะไรเหรอคะ ปฏิบัติผิดรึเปล่าคะ หรือ
เป็นเจ้ากรรมนายเวรคะ ควรจะทำอย่างไรคะ บางท่านก็บอกให้ตามรู้ไป แต่บางที
มันหมุนมากซะจนจิตไม่สงบเลยค่ะ แล้วก็ยังอาการเย็นๆที่ศรีษะอีกด้วยค่ะ อันนั้น
ไม่น่าห่วงรึเปล่าคะ

ขอบพระคุณค่ะ

_/|\_

ปล. กรรมฐานที่ใช้อยู่ถูกจริตกับตัวเองไหมคะ

 

ขออนุโมทนาด้วยค่ะ ดิฉันเหมือนกัน ขนลุกตั่งแต่เริ่มระลึกถึงหลวงพ่อโตเลยจากนั้นก็เป็นระยะแต่ว่าถ้ารู้สึกว่าใจนิ่งเมื่อไหร่ขนก็จะลุกซู่เลยค่ะแขนจนถึงศรีษะเลยค่ะ (ไม่แน่ใจว่าอุปทานไปเองรึเปล่า)แต่ถ้าสวดมนต์บทอื่นไม่เป็นไรเลย ขอขอบคุณสันโดษมากค่ะ ข้อความและคำแนะนำของคุณดีมากๆ

 

ขอบคุณคุณสันโดษมากค่ะ ที่พยายามช่วยนะคะ จะลองศึกษาดูนะคะ อยากช่วยแม่จริงๆ
ขอบคุณจริงๆค่ะ

เมื่อกี้ได้ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับการเ่พ่งพระพุทธรูปบ้างแล้วแต่ว่าก็ยังไม่ค่อยกระจ่างเท่าไร
แต่ก็จะพยายามหาดูไปเรื่อยๆนะคะ เพราะส่วนใหญ่จะเจอแต่กสินสิบ
แล้วก็ยังไม่ได้หาเต็มที่้เท่าไรเพราะไปสะดุดกับสถานที่นึงที่เรียกว่าแดนมหามงคลมาค่ะ
ส่วนตัวไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เพราะยังเด็กอยู่ ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องธรรมะเท่าไร ก็เลยหาข้อมูลไปเรื่อยๆ อยากไปมากค่ะแต่ไม่รู้จะได้ไปรึเปล่า เป็นไปได้อยากไปภายในอาทิตย์หน้านี้เพราะจะเปิดเทอมแล้ว แต่ดูท่าว่าจะต้องไปคนเดียวเลยหวั่นๆ แล้วแม่ก็ไม่ค่อยสับสนุนเท่าไร แม่บอกว่าอย่าเพิ่งไปเคร่งมากเลยเรียนไปก่อนเถอะจะเปิดเทอมแล้ว ซึ่งนั่นก็เป็นความเห็นของเค้า แต่หนูอยากไปจริงๆค่ะ แล้วก็อยากไปปฏิบัติธรรมที่วัดยานนาวาวันอาทิตย์ด้วย ที่เค้าสอนเกี่ยวกับการเพ่งกสินอ่ะค่ะ แต่ก็ไม่รู้จะได้ไปหรือเปล่า แต่หนูเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว จะเป็นยังไงหนูก็ยอมรับและเดี๋ยวหนูคงได้รู้เอง

เรื่องการปฏิบัติคืบหน้ายังไงหนูจะมารายงานเรื่อยๆนะคะ เพราะคิดว่ายังคงต้องการคนแนะแนวทางให้อยู่ และกำลังจะหาพระพุทธรูปที่จะมาเพ่งอ่ะค่ะ ว่าจะเป็นองค์ไหนดี หนูอยากได้ที่สวยๆและเป็นองค์ที่หนูชอบอ่ะค่ะ ออกจะเรื่องมากไปซักหน่อย ซึ่งบางทีมันคงไม่มีความจำเป็นเ่ท่าไรนัก คุณสันโดษพอจะมีแนะนำบ้างไหมคะ

ขอบคุณนะคะที่คอยช่วยเหลือผู้คนมาตลอดเท่าที่จะช่วยได้ หนูนับถือคุณจริงๆค่ะ แอบคิดเหมือนกันว่าคุณเป็นใครรู้ทุกอย่างเลย ซึ่งเชื่อว่าคนอื่นก็คงคิดเหมือนกัน แต่ก็เป็นเพียงความรู้สึกในใจเท่านั้น ก็ขอให้คุณรักษาสุขภาพด้วยนะคะ ดูแลตัวเองให้มาก จะได้มีกำลังเพื่อให้ธรรมทานแก่ผู้อื่นต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนาค่ะ

 

การปฏิบัติที่ทำอยู่ ไม่ถูกจริตกับตัวเองเลยคะ

เพราะว่า ตัวเองเป็นคนชอบคิดมาก ฟุ้งซ่านตลอดเวลา

เเละที่สำคัญ ชอบพูดมากๆ การพูดมากจึงสร้าง มโนกรรมอยู่เสมอ

ปัญหา จึงทำให้ตัวเอง พูดให้คนอื่นรู้สึกไม่ดี

ดังนั้นการปฏิบัติ ที่ถูก จริต คือ การสวดมนต์คะ

พยายาม สวดมนต์บ่อยๆ บริกรรมบ่อยๆ

ถ้าอยู่คนเดียวมีโอกาสสวดนานๆ ก็ท่องบทยาวๆ อย่างพระคาถาชินบัญชรก็ได้คะ

ถ้าไม่มีสมาธิก็ ให้สวดบทสั้นๆ เช่น

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

อย่านั่งสมาธิตามดูจิต เพราะว่า จิตคุณอ่อนจะทำให้อะไรเข้ามาง่าย

เมื่อคุณจิตว่าง ตามดูจิต กายขยับ ที่นี้อะไรเข้ามาเเฝง คุณจะเชื่อง่ายไหลไปตามจิต

พูดง่ายๆ จะโดนสิงเเล้ว จะทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิต เช่น คุณเหาะได้ คุณเป็นเจ้าแม่กวนอิม

ขอให้สวดมนต์ เเละ บริกรรม เเทน นั่งสมาธิ ไปก่อน จนกว่า จิตจะเเข็ง

เมื่อ จิตเราทำสมถะด้วยบทสวดมนต์ จิตเราเเข็ง เเล้วต่อไป ค่อยนั่งสมาธิ

ถือศีล 5 ให้ครบ เเล้ว พอ สวดมนต์จนติด (หรือหลอนตัวเอง)

คือ ได้ยินเสียงสวดมนต์ก้องในหัวเองโดยไม่ต้องสวด

(เหมือนเวลาฮัมเพลงเองโดยไม่รู้ตัวนั้นละคะ)

สวดให้ได้เเบบนั้น เเล้ว สมาธิจิตจะเเข็งเอง ต่อไปจะนั่งสมาธิปลอดภัย

เวลานั่งตัวโยก ไม่กลัว ไม่สงสัย ตามดู ก็จะไปต่อได้เองคะ

 

สาธุค่ะ ตรงตามที่คุณสันโดษว่าทุกอย่างเลยค่ะ
ทุกวันนี้พยายามพูดให้น้อยลงอยูค่ะ เพราะพูดแล้วไม่ดีจริงๆ
สงสัยวิบากด้านวจีกรรมจะเยอะ ควรจะทำอย่างไรคะ เพื่อแก้ตรงนี้

ที่บอกว่าจะโดนสิงแล้ว แปลว่าที่หัวโยกๆ คือวิญญาณเข้ามาใช่ไหมคะ
นอกจากสวดมนต์แล้ว ทุกวันนี้สวดพาหุงมหากา + มหาการุณิโก
และอิติปิโสบางวันค่ะ เดี่๋ยวจะลองเพิ่มชินบัญชรดูค่ะ ยังไม่เคยสวดบทนี้เลย
แล้วก็จะลองสังเกตตัวเองดูค่ะว่า อาการหัวโยกเป็นเวลานั่งโดยไม่ได้สวดมนต์
ทุกครั้งหรือเปล่า

แล้วถ้าสวดมนต์แล้วนั่งสมาธิต่อได้ไหมคะ หรือดูจิตระหว่างวันตามที่พระอาจารย์ปราโมชสอนค่ะ

ทุกวันนี้ก็หลอนนะคะ เห็นจิตมันแอบไปสวดมนต์เองบ่อยๆ แว๊บมาแบบบทสั้นๆ
อย่างนี้ถือว่าได้ไหมคะ

ถ้าก่อนนั่งอาราธนาคุณพระรัตนตรัย คุณพระอริยสงฆ์มาช่วย จะดีขึ้นไหมคะ
หรือสามารถหาวัตถุมงคลใดๆ มาช่วยได้ไหมคะ ทุกวันนี้อยู่บ้านจะอัญเชิญ
พระพุทธรูปมาวางข้างหน้า แล้วก็นั่งสวดมนต์+ทำสมาธิค่ะ แบบนี้คุณท่าน
จะคุ้มครองเราไหมคะ

ขอบพระคุณคุณสันโดษค่ะ ที่ช่วยชี้ทางให้ เพราะนั่งแบบไม่มีครูอาจารย์เลยค่ะ
ควรจะไปกราบครูอาจารย์ไหมคะ


_/|\_


ป.ล. อาการเย็นๆที่ศีรษะนี่ผิดปรกติไหมคะ ปล่อยทิ้งไว้จะอันตรายไหมคะ

 

ให้คุณทำบุญด้วยคำพูด เเละ พูดเเต่สิ่งที่ดีๆ เป็นมงคล

ถึงเเม้จะเป็นเรื่องจริง ก็ให้หลีกเลี่ยงการพูดทำร้ายความรู้สึกผู้อื่น

เวลาปฏิบัติให้จิตระลึกถึง พระพุทธเจ้าก่อนคะ

ขอให้ครูบาอาจารย์มาช่วยสอน (ผ่านร่าง)

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราบูชา เเละ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ท่านคุ้มครองเรามาตั้งเเต่เกิด

พวกท่านจะมาสอนผ่านร่างเอง อาจจะพาไปเจอพระอาจารย์ที่ดีจริงๆ

หรือ บอกผ่านทางสื่อทีวี, อินเตอร์เน็ต หรือ ดลใจให้เราไปวัดนั้นวัดนี้

เวลานั่งสมาธิ ไม่ต้องคิดมาก เเละปล่อยตัวให้ว่าง

เวลาที่เกิดอะไรขึ้นระลึกถึง พระพุทธองค์

หากจิตระลึกถึงสิ่งใด อย่าบังคับการรู้

อาจจะคิดถึงบทสวด หรือ เรื่องลามก หรือ ของที่เราอยากกิน

อย่าบังคับตัวเองในการคิด เพราะความคิดทั้งหมด ทั้งมวล คือ จิตกุศลเเละอกุศล ณปัจจุบัน

พยายาม ดูเเล้วมองให้เห็นเป็นเรื่อง ไม่เที่ยงอย่าฝืนตัวเองให้คิดเเต่สิ่งดีๆ

เพราะเวลานั่งสมาธิ ความคิดในอดีตจะผุดขึ้นมาเอง

เรียกว่า กรรม ดังนั้น ไม่ผิดที่เราจะคิดอะไรทั้งสิ้น

เวลาต้องการบูชาพระ เพราะ จิตดลใจเช่นเดียวกัน ดังนั้นเวลาบูชาอย่าคิด

เวลาคิดอย่าบูชา ให้ท่านดลใจเเล้ว เลือกบูชาที่เรา รู้สึกอยากบูชาทันที

อย่าหาตำหนิของพระ เเต่เอาความรู้สึก เเละสัญชาติญาณเป็นตัวเลือก

การขยับกายไม่ต้องกังวลมาก เมื่อใดที่เราอยากรู้เเล้วสงสัย ให้รู้ว่าสงสัย

ถ้าอยากถามก็ถาม ถ้าท่านอยากบอกเเต่เรายังสื่อทางสัมผัสไม่ได้

ท่านก็จะบอกเรา ผ่านความฝัน หนังสือ หรือ รูปถ่าย หรือ อะไรก็ตามที่พาเราไปรู้ว่าท่านมา

อย่าเร่งในการปฏิบัติ เเต่จงเพียรในการ ระลึกรู้ในการสร้างบุญบารมีคะ

 

จิต มีส่วนสำคัญมากในการ ปฏิบัติ

สันโดษจะสอนคนเสมอว่า จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว

การปฏิบัติของสันโดษ คือ ตั้งจิตอธิษฐานต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขอนิพพานชาตินี้

ดังนั้นการปฏิบัติ เเละ การเดินทางของชีวิต เป็นเพราะ จิตนำเสมอมา

การเดินทาง การพบผู้คน การทำงาน ล้วนเกิดจากจิตดลใจ

ดังนั้นการไว้วางใจ ในพระพุทธศาสนา จึงทำให้ปฏิบัติด้วยตนเอง

ไม่มีครูบาอาจารย์ที่เป็นคนจริงๆ อาศัยอ่านตามเว็บไซด์ต่างๆ

เมื่อไรที่อยากรู้อะไรก็จะทำตามที่จิตอยากทำ

ปณิธานต่างกัน จุดหมายต่างกัน ดังนั้น การที่สันโดษเลือกเดินทางเส้นนี้

การได้เจอครูบาอาจารย์ทางตัวอักษร เพราะ จิตนำไปทั้งสิ้นคะ

สันโดษไว้ใจจิตใจของตนเองในการปฏิบัติธรรม ไม่ได้เชื่อว่าถูกทางเพียงอย่างเดียว

เชื่อว่า ถูกจริต เเละ การที่ได้มาช่วยคนในเว็บไซด์นี้ก็ รู้สึกดีเช่นเดียวกัน

เมื่อใดที่เราทำอะไรเเล้วรู้สึกดี นั้นเเสดงว่าเรามาถูกทางคะ

 

คนที่มาเจอสันโดษ จะมีสิ่งนึงที่เหมือนกัน บอกว่า รู้ได้ยังไง

เป็นเพราะว่า สันโดษ ทำงานให้พระพุทธองค์

ดังนั้นเมื่อใดที่พวกท่านทุกข์ท่านขอให้ พระพุทธองค์ช่วย

ถ้าท่านทุกข์จริงๆเเล้ว ไร้ที่พึ่งจริงๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะพาไปพบกับคนที่ช่วยชี้ได้จริงๆ

เเต่ถ้าท่านไม่ได้ทุกข์จริง ไม่ได้เดือดร้อนจริง ท่านก็ย่อมไม่ได้เจอคนที่จะช่วยท่านได้

คำอธิษฐานมีผลจริงเมื่อท่าน มีความคิดที่ทุกข์มาก ดังนั้น ขอให้ระวังความคิดตนเองให้มาก

คิดเเต่สิ่งดีก็จะได้เจอเเต่สิ่งดีคะ

 

ขอบพระคุณคุณสันโดษอีกครั้งค่ะ เรื่องคำพูด เดี๋ยวนี้ก็พยายามจะไม่พูดสิ่งไม่ดีแล้วค่ะ
แต่นิสัยแย่ๆ พูดแบบไม่คิดนี่ มันขุดออกยาก ก็จะพยายามต่อไปค่ะ

ตั้งแต่ตามดูจิตนี่รู้เลยว่าเราสร้างมโนกรรมไม่ดีเยอะมากๆ แถมคิดซ้ำๆซากๆ มันถึงได้
ออกมาทางคำพูด+กายแบบแรงๆ ทั้งๆที่ไม่ได้อยากจะเป็นอย่างนั้น

อ่านช่วงท้ายๆแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่จะปฏิบัติตามที่คุณสันโดษให้คำแนะนำมาค่ะ

ขออนุโมทนาคุณสันโดษที่มาช่วยพวกเราค่ะ ขอให้คุณประสบกับสิ่งที่คุณหวังตั้งใจได้โดยพลันนะคะ


_/|\_

 

คุณสันโดษคะ

มีเรื่องนึง ....นึกขึ้นได้ เลยอยากจะขอสอบถามคุณสันโดษเพิ่มอีก 1 คำถามค่ะ

อาทิตย์ก่อนโน้น ไปปฏิบัติธรรม 3 วันค่ะ ตอนขากลับมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น (ตอนไม่ได้นั่งสมาธินะคะ)
มีความรู้สึกเหมือนรู้สึกตัวตลอดเวลา และเวลาตามดูจิต ได้ยินเสียงที่จิตแอบไปคิดเอง และที่ตั้งใจคิด
เป็นเสียงดังๆ เหมือนคนมาอ่านหนังสือออกเสียงให้ฟัง

และตอนที่จะเกือบเกิดอุบัติเหตุรถชน รู้สึกว่าใจนิ่ง ไม่รู้สึกถึงความกลัว + ตกใจ แต่พอดูกาย
พบว่า หัวใจกำลังเต้นแรงด้วยความกลัว / ตื่นเต้น และตอนที่เกิดความหงุดหงิดๆ รู้สึกถึง
ความกระเพื่อมๆที่ระหว่างอก แต่ใจไม่ได้อินไปกับความหงุดหงิดนั้นน่ะค่ะ

คือไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นค่ะ เป็นเพราะเหตุปัจจัยที่เราปฏิบัติ หรือเพราะเราไปอธิษฐานจิตไว้กับพระหรือคะ

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ


_/|\_

 

เรียนถามคุณสันโดษ น่ะครับ

เวลาที่ผมสวดมนต์ไหว้พระ หรือ สวดมนต์บางบท และไปไหว้พระ หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิที่ไหนทำไมถึงรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ในเวลาที่นั่งสมาธิ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาปะทะเราจากด้านหน้า ทำให้ตัวเราค่อยๆ เอนตัวนอนลงไปเรื่อยๆ อ่ะครับ ผมพยายามสังเกตุ และ ลองปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แต่ก็รู้สึกกังวล เพราะผมหัดนั่งสมาธิด้วยตนเอง ไม่ทราบว่าผมควรปฎิบัติ อย่างไรต่อไปดีครับ<!-- google_ad_section_end --> (ตอนนี้ผมฝึกมโนยิทธิอยู๋อ่ะครับ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะถูกจริตกับตัวเราไหม) ถ้ายังรบกวนขอคำแนะนำ จาก คุณสันโดษ ด้วยน่ะครับ

 

อ่านข้อความที่คุณสันโดษตอบทุก ๆท่าน รู้สึกเชื่อถือและศรัทธาอยากทำความรู้จักคุณสันโดษค่ะติดต่อได้ที่ไหนค่ะ เพราะเป็นคนที่เหมือนยังต้องการคำตอบในหลาย ๆ เรื่องที่เหมือนจะคุยกับใครก็ดูจะไม่ค่อยโดนเท่าคุณสันโดษ คือพึ่งเข้ามาทำความรู้จักที่เว็ปพลังจิตค่ะ คือมีเรื่องทุกข์ใจมากหาทางออกไม่ได้มันมืดมนไปหมด ก็เลยลองสวดมนต์ หัดนั่งสมาธิ ก็พอช่วยให้ใจไม่ทุกข์ได้บ้าง แต่สำหรับปัญหาก็ยังไม่มีทางออกอยู่ดี แต่เชื่อว่าซักวันคงจะผ่านมันไปได้ค่ะแต่ไม่รู้จะนานเท่าไหร่ ตอนนี้ก็พยายามรักษาทางใจโดยการสวดมนต์ไหว้พระ อยากถามคุณสันโดษค่ะว่าเวลาเราสวดมนต์ไหว้พระจำเป็นต้องจุดธูปเทียนมั๊ยค่ะ แล้วอีกเรื่องค่ะคือตอนนี้พอจะสวดพระคาถาชินบัญชรได้แล้ว ก็เลยจะใช้เวลาว่างถ้านึกขึ้นได้ก็จะสวดคือเหมือนติดหรื่อเห่อที่จำคาถาได้ค่ะ เหมือนเราร้องเพลงได้ก็จะร้องแต่เพลงนั้นตลอดเวลา หรือแม้แต่ตอนขับมอร์ไซด์ไปทำงานก็จะสวด อย่างงี้จะดีมั๊ยค่ะ มันเหมือนเป็นการสวดเล่นๆพร่ำเพรื่อไหมค่ะ ช่วยตอบด้วยนะค่ะ รอคำตอบอยู่ค่ะ

 

จิตก็คือ จิตคะ ท่องไว้นะ

การปฏิบัติอยู่ที่จิต ไม่ใช่กาย หากใจเรานิ่ง จิตเราสงบ

พระท่านก็อยู่ในกายใจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พวกท่านไม่มีร่างกาย เเต่เป็นจิต

ถึงเรียกว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้น เมื่อใดที่เราปฏิบัติ

เราจะต่อบุญให้กับตัวเอง เมื่อเราได้ยินเสียงก็ให้น้อมจิตตั้งใจฟัง ตั้งใจดู

เวลาได้ยินเสียงก็สักเเต่ว่ารู้ ไม่ต้องสงสัย สังเกตุเอาขากความรู้สึกนะคะ

ว่ารู้สึกกลัวหรือรู้สึกดี ถ้ารู้สึกดี เเสดงว่า จิตดี เเต่ถ้า กลัว เเสดงว่า จิตที่มาอ่อน

เรารับได้ จากความกลัวที่เกิดขึ้น ดังนั้น เวลาที่เราคิดอะไร คือ จิตทั้งสิ้น

ไม่ต้องสงสัยมากปฏิบัติบ่อยๆ เดี๋ยวจะรู้มากขึ้นเพิ่มเติมเองคะ

 

มโนมยิทธิ คือ 1 ใน อภิญญา 5 เพียงเท่านั้นเองคะ

ถ้าตั้งใจปฏิบัติจริงๆ อย่าคิด เเล้วตั้งใจปฏิบัติเพียงอย่างเดียว

สิ่งที่ถูกจริตของคุณ จริงๆ คือ การดูกาย ดูจิตคุณไม่ค่อยได้ เพราะ คุณเป็นคนจิตนิ่ง

เป็นคนไม่คิดมากเลย ด้วยซ้ำ ดังนั้น ฝึก กำหนด ยุบ หนอ พอง หนอ

หรือ อานาปานสติ จะถูกจริตกับคุณที่สุดคะ

เดินจงกรม หรือ เดินเล่นๆ อะไรก็ได้ เพราะ คุณ เป็น คนนิ่งมากๆ จนเกินไป

หลวงพ่อ ปราโมทย์ เรียกคนประเภทนี้ว่า จิตพรหม คือ ติดสุข จน ไม่ใช่ ใจมนุษย์

ฝึก กายก่อนเเล้ว ใจจะมาเอง ถ้าทนไม่ได้ หงุดหงิดหรือ เบื่อหน่าย

เอาให้เห็นความไม่เที่ยง ของสังขาร คิดจะตามมาเอง

ส่วนการปฏิบัติ ที่ทำ ก็มาถูกทางเเล้วคะ เเต่อย่าไปอยากได้ ฤทธิ์

เพราะ คนที่ฝึกเเล้วได้ฤทธิ์ คือ คนที่ฝึกโดยไม่คิดอะไรเลย

พอไม่คิดอะไรเลย ทำเล่นๆ ไม่จริงจัง จิตผ่อนคลาย สุดท้าย จิตก็ว่างได้จริง

ถ้าเพ่งมากตั้งใจมาก สุดท้าย จิตก็เครียดเกร็ง เผลอๆ เพ่งมากจนคอเคล็ดเพราะความเครียดคะ

ฝึกไปเรื่อยๆ อยากฝึกก็ฝึก นั่งได้ 1 นาที หรือ 1 ชั่วโมง

นั่งไปไม่ต้องกำหนด พอนั่งเเล้ว ลืมตา เอง ค่อยดูเวลาว่าเรานั่งสมาธิไปนานเท่าไร

ทุกอย่างอย่าอยากได้ คนอยากได้มักทำได้ไม่ค่อยดีคะ

 

มีอะไรอยากจะถาม ก็ถามที่นี้ได้เสมอคะ สันโดษมีเวลาก็จะมาเช็ค

ส่วนการปฏิบัติเมือถึงเวลา ตัวเราเองจะเริ่มต้นปฏิบัติเองไม่ต้องไปเร่งตัวเองคะ

บุญมี กรรมบัง เจ้ากรรมนายเวรเล่นงาน เราก็ไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติ

เมื่อไรที่ถึงเวลาบุญมาวาสนาถึง เดี๋ยวตัวเราจะอยากปฏิบัติเองคะ

ดังนั้น ขอให้ปล่อยเป็นธรรมชาติคะ ตอนนี้อยากสุขทางโลกก็สุขเสียก่อนให้พอใจ

เบื่อเมื่อไร อยากศึกษาทางธรรมก็ศึกษาทางธรรม

ชีวิตเกิดมาเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่อยากรู้ เมื่อไม่อยากรู้ก็อย่าเรียน เพราะ นั้นจะทำให้ทุกข์ใจ

พระพุทธองค์สอนให้ ดับทุกข์ อะไรที่ทำให้จิตใจเราสงบ เเสดงว่า เรารู้จริตตนเอง

ถ้าเราฝืนปฏิบัติธรรมไปเข้าวัดบวชชีโกนผมทั้งๆที่ใจไม่ได้อยากบวช

อย่างนี้เรียกว่า สร้างกรรมให้ตนเอง เพราะฉะนั้น ไม่ต้องคิดมากทำตัวให้สบายๆ

ส่วนการสวดมนต์ไหว้พระ จุดหรือ ไม่จุด เเต่งชุดขาวหรือ ชุดธรรมดาไม่สำคัญ

ความสำคัญอยู่ที่ใจคะ ในการปฏิบัติ จุดธูป จุดด้วยใจนะคะ

คำอธิษฐานจะได้ถึง พระพุทธองค์จริงๆ เพราะ เป็นการจุดด้วย สมาธิ

จิตเราถึง พระองค์ก็ได้ยินคะ ส่วนการสวดมนต์ ก็เช่นเดียวกัน

สวดที่ไหนก็สวดได้ อาบน้ำก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ได้ ขอให้จิตสงบเเละเคารพในบทสวด

หากใจเราดี จิตเราดี การสวดมนต์จะเจริญสติของตัวเราเองคะ

 

สาธุค่ะ คุณสันโดษ

ขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับคำแนะนำ เมื่อคือได้อธิษฐานขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
และขอให้ครูบาอาจารย์มาช่วยสอนตามที่คุณสันโดษแนะนำแล้วค่ะ

แถมวันก่อนอ่านเจอกระทู้ว่าเวลาปฏิบัติ ให้เชิญเทวดากับเจ้ากรรมนายเวรมาร่วมกันสร้างกุศล
ลองทำดูมา 2 วันแล้ว รู้สึกดีค่ะ


_/|\_

 

มีความยินดีเหลือเกินที่ได้รู้จักเว็บนี้ ได้มีกัลยาณมิตรที่ดียิ่ง เช่นคุณสันโดษ และเพื่อน ๆ พี่น้อง ทุกท่าน ผ่านตัวอักษร ขออนุโมทนาบุญอันยิ่งใหญ่นี้กับคุณสันโดษนะคะ คอยติดตามข้อความของคุณสันโดษอยู่เสมอค่ะ ขอบคุณจริง ๆ หากมีอะไรที่แนะนำได้ ขอความกรุณาคุณสันโดษด้วยนะคะ