ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

ขอบคุณท่านผู้อาวุโส no.9 เป็นอย่างสูงครับที่ช่วยให้ความกระจ่างในเรื่องนี้อย่างชัดเจน ธรรมบรรยายของท่านผู้อาวุโส no.9 ก็เป็นอีกผู้หนึ่งที่ผมติดตามมาโดยตลอด (ขออนุญาตเรียกว่าท่านผู้อาวุโสนะครับ)

นี่เป็นเหตุผลหนึ่งใช่ไหมครับที่คนของเขากะลาทุกคน จึงจำเป็นที่จะต้องปฎิบัติธรรม เพื่อยกสภาวะจิตให้สามารถรับ wave หรือข้อมูลจากระบบโดยตรงได้ การฝึกเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วยอมรับครับว่าเป็น wave เพราะการแสดงอาการต่างๆ เราไม่สามารถบังคับมันได้

แต่จากการติดตามในช่วงหลังๆนี่ เห็นแต่ละคนมักกล่าวอ้างว่าการกระทำของตนเองเป็น wave เลยทำให้ผมสับสนว่า มันเป็น wave จากระบบจริงหรือไม่ ถ้าจริงมันก็อาจจะหลอกให้คนกล่าวอ้างยึดติดก็ได้โดยที่ไม่รู้ตัว โดยเฉพาะบุคคลที่ได้ชื่อว่าอาจารย์.....

 

เห็นด้วยกับคุณมองตนอย่างยิ่ง

 

สวัสดีครับ


ขอบคุณสำหรับคำถามของคุณมองตน และคำตอบของอาจารย์ NO.9

ผมถือว่าเป็นปุจฉา วิสัชนา ที่ดีมากมาก ผมฟังธรรมะหรืออ่านกระทู้โดย

ที่ไม่มีคำถามเลย บางครั้งผมก็เข้าใจไปเองว่าตัวเราเข้าใจอย่างถ่องแท้

ในความหมายของคำว่า " WAVE " แต่สุดท้ายพอมาเจอคำถามจาก

คุณมองตน ผมเองก็ไม่สามารถตอบคำถามเรื่อง " WAVE " ได้เลย

ส่วนตัวแล้วอยากให้คนในกระทู้มีคำถามในเรื่องธรรมะกันแบบต่อเนื่อง

สลับกับการโพลสรูปทำกิจกรรมต่างต่าง และการบรรยายธรรมะ "ขันธ์ 5 "

ผมว่ามันเป็นสีสรรอย่างหนึ่ง ทำให้กระทู้นี้มีอะไรที่น่าติดตามอย่างสม่ำเสมอ

และสามารถดึงดูดสมาชิกหน้าใหม่ให้เข้ามาอ่านและศึกษาธรรมได้เพิ่มขึ้น


ขอบคุณครับ

 

*** สมาธิ ****

ที่ไหน ก็มีสมาธิได้
ถ้าเราพิจารณาตนเองอยู่ตลอดเวลา
เรียกว่า..."สมาธิพิจารณา" จะช่วยให้เกิดปัญญาพาให้รอดพ้นทุกข์ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ตัวนิสัยเป็นอย่างไร ****

สิ่งที่พาให้เกิดความทุกข์...คือ นิสัยตัวเราเองทั้งสิ้น
นิสัยสันดาน มันพาเราไป....ลองพิจารณาให้ดี
คลี่คลายนิสัยตัวเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ตัวตัดนิสัยสันดาน ****

คือ ตัวศาสนา
คือ การตัดลดนิสัยตัวเอง
คือ สัจจะปฏิบัติ ... ที่ต้องทำเป็นประจำ เหมือนพระสมัยพุทธกาล

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** เลือกทางเดินเอง ****

เราจะฝึกสมาธิแล้วเหาะเหินได้ หายตัวได้ เมื่อตายแล้วเกิดใหม่
หรือ จะใช้สมาธิพิจารณาตัดนิสัยสันดาน หลุดพ้นทุกข์อย่างพระพุทธเจ้า
เราต้องพิจารณาเลือกทางเดินเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

แม้ผมจะไม่ใช่คนของระบบ แต่ผมก็เป็นนักปฎิติที่ได้ศึกษาและปฎิบัติมาเกือบทุกสำนัก ยอมรับครับว่า สายลด ละ เลิก และปล่อยวาง ไม่ยึดติดในอุปทานขันธุ์ 5 นั้น ตรงและสั้นที่สุด มีหลายสำนักครับที่ได้นำไปเป็นแนวทางในการปฎิบัติ แต่มีวิธีการที่แตกต่างกันไปของแต่ละสำนัก สำหรับธรรมะของเขากะลานั้นผมเห็นว่า ผู้อาวุโสโดยเฉพาะ อ.สุดใจ ได้ชี้แนะแนวทางการก้าวเดินไปให้ทราบก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งนี้ก็เพื่อความหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารคือการไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก กล่าวคือมุ่งตรงสู่พระนิพพาน

แต่หนทางการเดินทางนั้นไม่ได้โปรยไว้ด้วยดอกกุหลาบ และใช่ว่าผู้ปฎิบัติในสายนี้จะหลุดพ้นกันได้หมดทุกคน อย่างน้อยก็เป็นการยกสภาวะจิตให้สูงขึ้นไปในอีกระดับหนึ่ง ภพภูมิการกลับมาเกิดก็สั้นลง แต่ทุกคนก็หนีไม่พ้นกรรม แม้พระพุทธองค์ก็หนีไม่พ้นกรรมเช่นเดียวกัน พระพุทธองค์ได้ทรงชดใช้กรรมในชาติสุดท้ายด้วยการที่พระพุทธองค์ทรงดับขันธุ์ปรินิพพานใต้ต้นรังคู่

แล้วเราๆท่านๆละ จะหนีกรรมไปได้อย่างไร เมื่อภพภูมิการเกิดมันสั้นลง กรรมต่างๆที่ได้เคยกระทำไว้ทั้งในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ก็จะกระหน่ำพรั่งพรูถาโถมเข้ามา เราจึงควรน้อมรับกรรมนั้นๆเข้ามาใส่ตัว อย่างรู้เท่าทันจะได้ไม่ทุกข์ ไม่ต้องไปทำพิธีขอขมากรรมหรือผ่อนหนักให้เป็นเบา เพราะไม่รู้ว่าเจ้ากรรมนายเวรจะยอมอโหสิกรรมให้กับเราหรือไม่ มีแต่จะทำให้ภพภูมิการเกิดยาวขึ้นไปเสียอีก ดังนั้น เราจึงไม่ควรยึดติด

ความคิดเห็นดังกล่าวข้างต้นถูกต้องหรือไม่ วานผู้รู้ช่วยตอบด้วย...และถ้าหากเป็นการรบกวนก็ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้

 

*** ตัวตนแท้จริง มองไม่เห็น ****

ตัวกระทำ ตัวตนของการกระทำ เหมือนล่องหนอยู่ตลอดเวลา
ตัวเราตายไป ตัวกระทำยังอยู่
คนเกิดมาหนึ่งคน มีนิสัยสันดานติดตัวมา
นิสัยสันดานนี้ เป็นตัวที่มองไม่เห็น
สัตว์โลกจะหลุดพ้นทุกข์ได้ ต้องตัดนิสัยสันดานหมดสิ้น
มีเพียงมนุษย์เท่านั้น ที่ตัดลดละนิสัยตนเองได้ สัตว์และต้นไม้ทำไม่ได้
ผู้ที่ตัดลดนิสัยจนหมดสิ้น คืออรหันต์ เป็นผู้ทำได้ใกล้เอื้อม
เกิดเพศชายหรือหญิง ล้วนเป็นมนุษย์ ต่างเพียงภายนอกที่เห็น

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ขอขอบคุณ อ.Astro Neemo ครับ ที่มาช่วยอธิบายให้มีความเข้าใจในคำว่า wave เพิ่มมากขึ้น ต้องขออนุญาตเรียกท่านว่าอาจารย์นะครับ เพราะท่านจัดว่าเป็นผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมที่สูงยิ่งอีกคนหนึ่ง โดยเฉพาะในเรื่องของจิตและวิญญาณสายวัชรยาน เพราะจะหาผู้ที่รู้จริงแบบ อ.Astro Neemo ได้ยากยิ่ง แม้บางครั้งจะถูก wave หลอกไปบ้างเหมือนกัน แต่ในสายตาคนนอกอย่างผม ผมรู้ว่าคนอย่าง อ.Astro Neemo น่าจะรู้เท่าทัน ก็เลยไม่ทุกข์ สงสารแต่คนที่ไม่รู้เท่าทันน่ะ จะตกเป็นเครื่องมือและแบกความทุกข์ที่ อ.Astro Neemo ก่อขึ้นไว้นั้นเอง

ไม่มีใครหรอกครับที่ไม่ถูกหลอก แม้จะมีความรู้ในระบบมากแค่ไหน บางครั้งก็เผลอตัวถูกหลอกได้เหมือนกัน อยู่ที่ว่ารู้ตัวหรือเปล่าว่าถูกหลอก มันก็เท่านั้นเอง

บางคนถูกหลอกแต่ไม่รู้ตัวว่าโดนหลอก แล้วยังหลงระเริงกับคำว่า wave นี่ซี ยังเห็นมีอยู่มาก ผมถึงบอกไงว่า ไม่ต้องมองคนอื่น ให้มองเข้าไปที่ตัวของตัวเองนั่นแหละ ดีที่สุด

 

ตนมองตน ไม่เห็นตน แล้วจะให้ใครมองเห็น
ตนมองตน เห็นตน เกิดประโยชน์ตน ไม่ต้องให้ใครมาเห็น

 

ต้องขอขอบพระคุณคุณมองตนเป็นอย่างสูงนะครับ ที่กรุณาเข้ามาอ่านข้อความในกระทู้ของพี่สุดใจนี้ อีกทั้งยังให้ความสนใจมีข้อซักถามในสิ่งที่น่าสงสัยต่างๆ อีกด้วย ต้องขออนุโมทนาด้วยเป็นอย่างสูงนะครับ ทางกลุ่มฯ เราแค่ไม่มีใครเข้ามาด่าทอให้ต้องปล่อยวางกันมากกว่านี้ ก็ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่งแล้วละครับ

ผมต้องขออนุญาตเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยในส่วนของการทำความเข้าใจนะครับ จากที่คุณมองตนกล่าวว่า คนของเขากะลาทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติธรรมเพื่อยกสภาวะจิตให้สามารถรับWAVE หรือข้อมูลได้นั้น ยังอาจจะไม่ถูกต้องเสียทีเดียวนะครับ เนื่องจากคนระบบ (ขอใช้คำนี้แทนคำว่า “คนของเขากะลา” เป็นการชั่วคราว) คือคนที่ต้องเกิดมาเพื่อทำงานเกี่ยวข้องกับภัยพิบัตินี้ ทั่วโลกมีอยู่ประมาณ 5,000 คน ประกอบไปด้วยหลากหลายเชื้อชาติ และศาสนา เพราะฉะนั้นการที่ผู้ที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเป็นไปได้ยากที่จะมาทำความเข้าใจในการศึกษา และปฏิบัติธรรมในรูปแบบต่างๆ แต่บุคคลทั้งหมดนี้ก็จะต้องได้รับWAVE กันทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นคนระบบที่ต้องทำงาน ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะเป็นงานอะไรตามแต่ระบบที่ได้จัดวางไว้<O

ตามที่ผมได้กล่าวแล้วว่าจุดประสงค์หลักของการเดินทางมาของมนุษย์ต่างดาวนั้น คือการช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้นกับโลกมนุษย์ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีบุคลากรที่เป็นมนุษย์ด้วยกัน เหมือนๆ กัน พูดคุยกันเองได้อย่างรู้เรื่อง และเป็นที่น่าไว้วางใจมาเป็นผู้ร่วมทำงาน แต่รางวัลหรือสิ่งตอบแทน ที่บุคคลกลุ่มนี้จะได้รับก็ควรจะเป็นสิ่งที่ผู้รู้ทั้งหลายสรรเสริญว่าประเสริฐที่สุด มากกว่าอามิสสินจ้างใดๆ ที่เป็นเงินเป็นทอง ก็คือการที่ทำให้ภพชาติของเขาเหล่านั้นสั้นลง ก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของการปล่อยวาง มนุษย์ต่างดาวที่ตอนนี้พวกเราเหมารวมเรียกว่า “ระบบ” นั้น เขามีความเจริญทั้งทางเทคโนโลยี และทางจิตวิญญาณที่สูงมาก รู้ซึ้งถึงสัจจะธรรมซึ่งเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ระบบจึงมาทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพื่อชี้ทางให้ผู้ที่ต้องทำงานเหล่านี้ได้ปฏิบัติให้ถูกตรงที่สุด ลัดสั้นที่สุด สำหรับช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่นี้ และระบบก็วางตนอยู่ในฐานะครูบาอาจารย์ ในฐานะผู้มีอายุที่กอปรด้วยพรหมวิหารสี่ มิได้มาในฐานะเป็นศาสดา หรือเจ้าลัทธิแปลกใหม่อะไรแต่ประการใดทั้งสิ้น

และการที่ต้องมีการฝึกปฏิบัติปล่อยวางเพื่อการละวางตัวตนนั้น ก็เพื่อประโยชน์ตนของผู้ฝึกเอง ที่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำงานจริงในขณะที่ภัยพิบัติกำลังเกิดขึ้นอยู่นั้น จะได้ไม่ทำงานไปด้วยเสียสติไปด้วย หรือทำงานไปด้วยบ้าไปด้วย<O

ดังนั้นบุคคลจำนวนเพียงน้อยนิดในจำนวน 5,000 คน ที่กระจายอยู่ทั่วโลก ที่ได้มีโอกาสมาฝึก มาปฏิบัติ มารับฟังการอธิบายขยายระบบนี้ จึงถือว่าโชคดีอย่างที่สุดโดยที่มิต้องหาอะไรมาเปรียบ และระบบเรียกการทำงานของบุคคลกลุ่มนี้ว่า “ทำงานแบบรู้ตัว” คือรู้ตัวว่าตนเองกำลังทำงานให้ระบบอยู่ ไม่ได้คิดเอง ไม่ได้อยากจะทำเอง เพียงแต่มีอะไรเข้ามาในขันธ์ห้า เช่น ความคิดจะสร้างนี่ ความอยากจะทำโน่นไปนั่น จะคุยกับคนนั้น ต้องการจะไปหาคนนี้ เป็นต้น สามารถที่จะแยกWAVEได้ มากบ้างน้อยบ้าง คนที่รู้ตัวว่ากำลังทำงานให้ระบบอยู่นี้ก็จะตั้งสติ ปล่อยวางขันธ์ห้า และไม่รับผิดชอบอะไรในกิจกรรมนั้นๆ อย่างสิ้นเชิง นี่เรียกว่าได้รับเช็คความว่างเป็นรางวัลไปแล้ว ซึ่งต่างคนต่างก็ต้องเพียรทำเพียรปล่อยวางเป็นการเฉพาะตนของตนกันไป เมื่อทำได้บ่อยขึ้น ชำนาญขึ้นจนเป็น AUTOแล้ว ตามทฤษฏีระบบก็ยืนยันว่าจะCOMPLETEความว่างได้ในวันข้างหน้า<O

ส่วนบุคคลส่วนใหญ่ใน 5,000 คน ทั่วโลกนั้น จะทำงานแบบไม่รู้ตัวว่ากำลังทำงานให้ระบบอยู่ ไม่รับรู้ ไม่เข้าใจเรื่องWAVE ไม่สามารถจะแยกแยะได้ และอาจไม่ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมเสียด้วยซ้ำ แต่งานของระบบก็คือการช่วยเหลือบุคคลอื่นให้ได้รับรู้ ให้ได้รอดพ้นจากความสูญเสียในเรื่องของภัยพิบัติ บุคคลเหล่านี้ก็จะได้รับรางวัลที่ได้เกิดมาแล้วในภพชาตินี้ กลับไปไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์<O

WAVEเพื่อการฝึกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็คือWAVEเพื่อการฝึกครับ ฝึกปล่อยวางแท้ๆ เลย ล่อหลอก เชื่อถือไม่ได้ ใครจับเป็นเจอทุกข์ไปหมด (ปัจจุบันก็ยังไม่น่าไว้วางใจนะครับ) แต่ถ้าเป็นWAVEทำงานจริงๆ แล้ว จะไม่มีผิดพลาดง่ายๆ เลยนะครับ เพราะระบบจะคุมด้วยWAVE FLOW หมายถึงผู้นั้นจะพูดเองทำเองโดยที่ขันธ์ห้าของผู้นั้นยังไม่ทันคิดว่าจะพูดอะไร จะทำอะไรเลยด้วยซ้ำ และถ้าผู้นั้นมองเห็นขันธ์ห้าในหมวดของ“นาม”ตามที่ผมเคยกล่าวไว้แล้ว ว่าเป็นWAVEทั้งหมดได้แล้ว ก็ถือว่าผู้นั้นทำความเข้าใจได้อย่างถูกต้องแล้วครับ เมื่อเห็นหลายๆ ขันธ์ในขันธ์ทั้งห้าเป็นอื่นไปเสียแล้ว ความสนิทสนมกลมเกลียวที่คิดว่าขันธ์นั้นก็ของเรา ข้นธ์นี้ก็ของเรามันจะอยู่กันอย่างแนบแน่นต่อไปอย่างไรได้ มันก็มีแต่จะจางคลายจากความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของตนไปเรื่อยๆ นั่นแหละครับ<O

 

วันนี้เห็นคำถาม-คำตอบมีความเข้มข้นดีนะครับ
เพราะเป็นคำถามที่เชื่อว่าหลายๆคนก็ยังสงสัยอยู่..
เลยขอแสดงความคิดเห็นสักเล็กน้อยครับ

โดยส่วนตัวกับกลุ่มเขากะลานี่เรียกว่ารู้จักเป็นอย่างดีและยาวนานมาก
โดยเฉพาะพี่สุดใจ คุณวาสนา พี่สมจิตร รวมถึงคุณลุงเชิดด้วย
ตอนนั้นสนใจมาก จะขับรถไปหาทันทีที่ว่างช่วงเสาร์-อาทิตย์
เพราะบันทึกภาพ UFO ที่มาปรากฎจากมิติของเค้าได้เต็มลำ เคลื่อนที่รวดเร็วมาก
จากการสื่อสารของลุงเชิดในครั้งกระนั้น เมื่อราว 11 ปีก่อนนู้นนน
ที่โรงเรียนสิงห์บุรี จนต้องบอกว่ายากจะปฎิเสธ..จึงติดตามเรื่อยมาครับ

แต่พอมาเจอคำว่าระบบหรือเครื่องมือที่พี่สุดใจมาเล่าให้ฟังอะไรเหล่านี้ในภายหลัง ก็อึ้งเล็กน้อยครับ
หลังจากเก็บมาคิดและเทียบเคียงกับความรู้เดิมๆ แต่ก็ไม่เข้าใจชัดเจนอยู่ดีหล่ะครับ
จนทุกวันนี้เลยหยุดคิด พยายามเข้าใจใหม่และมองให้เห็นความหมายซ่อนอยู่จริงๆว่าคืออะไรแน่?
ระหว่างนั้นก็ได้ยินบางคนกล่าวว่าเป็นพลังที่แรงและไม่ค่อยดีให้ระวังไว้หน่อย
ซึ่งตรงนี้มันขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคนที่จะทำให้สิ่งนั้นเป็นลบหรือเป็นบวกก็ได้
พี่นักเขียนฯโนวา อนาลัย เคยตอบ Mail สมาชิกเกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ
-----------------------------------------------------------------------
"ตามธรรมชาติแล้ว ไม่มีพลังบวกหรือลบ พลังชั่วหรือพลังดี ทุกส่ิงทุกอย่างที่มีพลังที่เรียกได้ว่า เป็นทั้งบวกและลบอยู่ในตัว ไม่มีสิ่งใดที่เป็นบวกล้วนหรือลบล้วน ดีล้วนหรือชั่วล้วน และต่างก็เป็นพลังอันเกิดจากการถ่ายทอดอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดหนึ่งๆ เราจะเรียกอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดหนึ่งๆว่าเป็นแง่ลบหรือบวก ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองและความเชื่อของเรา ณ จุดหนึ่งๆ และอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดหนึ่งๆจะทำร้ายเราได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อในตนเองเท่านั้น..."

" พลังภายนอกตัวตนทั้งหลาย ล้วนเป็นสิ่งที่ปราศจากความหมาย
มันมีความหมาย มีพลัง มีอำนาจต่อเราได้ ก็เพราะความเชื่อของเราโดยแท้"
------------------------------------------------------------------------
ความเชื่อของเรานั้นล่ะที่ปรุงแต่งให้มันเป็นและคล้อยตามสิ่งนั้นๆ
นั่นคือความจริงเรื่องหนึ่งที่ทำให้รู้สึกสบายใจและเข้าใจยิ่งขึ้นครับ
จะเห็นได้ว่า "ความเชื่อที่ขาดความรู้" นั่นล่ะน่ากลัวที่สุดครับ

ก็รู้สึกดีที่เห็นหลายๆคนในกลุ่มปล่อยวางได้จริงๆ เป็นการละวางตัวตนในแบบเขากะลาครับ
คุณ No.9 ก็เล่าให้ฟังซะละเอียดยิบ เห็นความยากลำบากในการฝึกว่าโหดขนาดไหน
พี่สุดใจเองก็เป็นตัวอย่างของการละวางตัวตนที่เห็นมาโดยตลอดและก็ก้าวหน้ายิ่งขึ้นทุกวัน
คุณนีโม่ก็มีความรู้ลึกๆสารพัด พองัดออกมาทีไรก็ทำให้เข้าใจและกระจ่างไปด้วยทุกๆครั้ง

ดังนั้นปัญหาจึงไม่ใช่อยู่ตรงระบบนี้หรือระบบไหนๆ
อุปกรณ์ที่ติดตั้งนั้นไม่ใช่ปัญหาอีก...
แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น คือ อัตตาตัวตนที่เกาะกิน ในความเป็นปถุชน หากเรายังควบคุม และยังไม่เข้าใจ ถึงกิเลส ตัณหา ดีพอ และไม่ใช้ให้อยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็น
ถ้าจะบอกตนเองว่า เราไม่ได้ทำเอง (แต่ wave ทำ) อันนั้นอาจจะเป็นปัญหาได้เหมือนกัน (อิอิ)

หากเรามองลึกลงไปให้ละเอียดกับคำว่า "ระบบ"หรือ "wave"
จะเห็นความสัมพันธ์ของจิตวิญญาณที่เชื่อมโยงกันเป็น"ระบบเครือข่าย"
ซึ่งมีความเป็นสากลและมีความสลับซับซ้อนหลากหลายมิติมากอีกด้วย
ด้วยทุกๆสรรพสิ่งได้ร้อยโยงกันไว้ด้วยความรัก เหมือนทุกๆหน่วยยืนอยู่บนใยแมงมุมเดียวกัน
มีการช่วยเหลือสนับสนุนกันเพื่อบรรลุเป้าหมายจากการช่วยเหลือกันในระบบเครือข่ายจิตวิญญาณอย่างเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว

ถ้า wave คือพลังงานที่ว่านี้ก็น่าจะเป็นเส้นใดเส้นหนึ่งจาก "มิติใดมิติหนึ่ง"
แต่จะให้คำจำกัดความอย่างไรก็ไม่ผิดและอาจไม่สามารถจำกัดความได้ด้วย
เป็นทั้งข้อมูลความรู้อันเป็นสากล เป็นได้ทุกอย่างที่อยากให้เป็นนะครับ

ดังนั้น หากใครเข้ามาก็เชิญพูดคุยและสังเกตการณ์กันตามอัทยาศัยสบายๆครับ ทุกคนมีอิสระต่อกัน และไม่มีคำว่ากลุ่มอยู่อย่างแท้จริง เพราะเราและเขาก็คือเรา
ขอให้มีความร่มเย็นสมานฉันท์ และมีรอยยิ้มแย้มแจ่มใสกันทั่วหน้าครับ
มีกิจกรรมอะไรก็ช่วยกันทำให้สนุกสนานกับสิ่งที่ทำเป็นการปลดปล่อยพลังที่ดีจากตัวเราไปพร้อมๆกันครับ

ฝากอีก 1 ข้อความดีๆครับจาก Mail ที่พี่เค้าส่งมาให้อ่านกันครับ

------------------------------------------------------------------------
"กลุ่มความเชื่อทั้งหลายที่แสวงหาพลังภายนอก แสวงหาสิ่งที่อยู่นอกตัวตนของตนเอง และรับเอา ล้วนเป็นกลุ่มความเชื่อที่กำลังแสวงหาความเป็นจริงด้วยกันทั้งสิ้น"

พี่นักเขียนเพิ่งจะ post ไปว่า พระพุทธองค์ทรงสอนว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน และจากพระคัมภีร์ Bible - Jesus ได้ทรงสอนว่า God helps only those who help themselves.
พี่นักเขียนมีความเชื่อในคำสอนขององค์ศาสดาทั้งสอง และศาสดาอื่นๆที่สอนให้ช่วยตนเอง และเชื่อว่า กลุ่มความเชื่อทั้งหลายที่มีความรู้ที่แท้จริง ย่อมจะดำเนินวิถีทางในการรับสมาชิกกลุ่ม โดยตั้งอยู่บนรากฐานของความเชื่อในการสนับสนุนช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกัน เพื่อให้สมาชิกแต่ละคนสามารถช่วยตนเองได้ต่อไปอย่างดีที่สุด หากสมาชิกคนใด มีความแข็งแกร่งขึ้น จนไม่ต้องการการพึ่งพา หรือรับการช่วยเหลือของกลุ่มอีกต่อไป
แต่การช่วยตนเอง พึ่งตนเอง สำหรับผู้ที่เชื่อว่าตนเองอ่อนแอ อาจจะเป็นของยาก และทำให้เขามักจะแสวงหาที่พึ่งภายนอก หรือตัวช่วยภายนอกต่อไปเรื่อยๆ เพราะตัวช่วยและที่พึ่งภายนอกเหล่านั้นล้วนมีอายุสั้น เพราะอย่างมากที่ตัวช่วยและที่พึ่งภายนอกเหล่านั้นจะส่งผลกระทบในแง่บวกต่อตนเองได้ ก็เป็นเพียงระยะสั้น ซึ่งเป็นระยะที่ตนเองเชื่อในสิ่งเหล่านั้นอย่างตาบอดเท่านั้น เมื่อเริ่มมองเห็นบางสิ่งบางอย่างได้ แม้จะเลือนราง พลังเหล่านั้นก็จะอ่อนตัว และทำให้บุคคลเหล่านั้นมองเห็นว่าตัวช่วยและที่พึ่งภายนอกเหล่านั้น ไม่ใช่ของจริง หรือไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าที่เคย โดยหารู้ไม่ว่า พลังหรือความศักดิ์สิทธิ์ของสิ่งเหล่านั้น ไม่ได้มาจากแห่งหนใด นอกจากความเชื่อของตนเอง

ด้วยความปรารถนาดี
พี่นักเขียน

 

"ดังนั้นปัญหาจึงไม่ใช่อยู่ตรงระบบนี้หรือระบบไหนๆ
อุปกรณ์ที่ติดตั้งนั้นไม่ใช่ปัญหาอีก...
แต่ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น คือ อัตตาตัวตนที่เกาะกิน ในความเป็นปถุชน หากเรายังควบคุม และยังไม่เข้าใจ ถึงกิเลส ตัณหา ดีพอ และไม่ใช้ให้อยู่ในขอบเขตที่ควรจะเป็น
ถ้าจะบอกตนเองว่า เราไม่ได้ทำเอง (แต่ wave ทำ) อันนั้นอาจจะเป็นปัญหาได้เหมือนกัน "


โดนครับโดน...

 

รายชื่อผู้จองประคำประมวลพลัง

1. แบบเม็ดประคำทำจากผงเหล็กน้ำพี้ ร่วมบูชาสร้างสถานปฏิบัติธรรม เส้นละ 199.-บาท(หนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าบาท)

๑. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->EUROPE<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2101397", true); </SCRIPT> ........................................ 1 เส้น
๒. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->naraiyana...................................... 2 เส้น
๓. คุณJoypor........................................... 5 เส้น(โอนแล้ว 21/5)
๔. คุณamadi (สีดำ 1,สีน้ำตาล 1)................... 2 เส้น
๕. คุณดาวดวงน้อย...................................... 2 เส้น
๖. คุณwanpos.......................................... 3 เส้น
๗.คุณอินทรียสงวร (สีดำ 1,สีน้ำตาล 1).............. 2 เส้น
๘. คุณซุปเปอร์แมน....................................... 3 เส้น
๙. คุณsitprogpo (สีดำ)............................... 1 เส้น
๑๐.คุณศราวุธ (สีดำ)..................................... 1 เส้น
๑๑.คุณอภิญญา8 (สีดำ 1,สีน้ำตาล 1)................. 2 เส้น
๑๒.คุณengporn (สีดำ 3,น้ำตาล 2).................. 5 เส้น
๑๓.คุณton344 (สีดำ)................................... 2 เส้น(โอนแล้ว 24/5)
๑๔.คุณทนงศักดิ์ ศิริภูวณิชย์.............................10 เส้น
๑๕.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Surajeng(สีดำ).................................. 1 เส้น<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2122443", true); </SCRIPT> (โอนแล้ว 22/5)
<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2102131", true); </SCRIPT>๑๖.คุณBlog 17 (สีดำ).................................. 2 เส้น
๑๗.คุณก้านแก้วเก้า (ดำ 2,น้ำตาล 2)................. 4 เส้น(โอนแล้ว26/5)1,845.-
๑๘.คุณพุทธันดร (สีดำ).................................. 5 เส้น
๑๙.คุณukrin.............................................. 5 เส้น (โอนแล้ว 24/5)
๒๐.คุณกุเวร (สีดำ)....................................... 2 เส้น
๒๑.คุณAugeas (สีดำ).................................. 1 เส้น
๒๒.คุณsam.tansiri(ดำ,น้ำตาล)...................... 2 เส้น(โอนแล้ว 23/5)(1,459.-)
๒๓.คุณwinny ( ดำ 3, น้ำตาล 3 )..................... 6 เส้น
๒๔.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Surajeng (สีน้ำตาล)........................... 1 เส้น

รวม....70 เส้น


2. แบบเม็ดประคำเป็นหินมงคล มีสีขาว แดง ดำ ฟ้า เป็นต้น
ร่วมบูชา เส้นละ 999.-บาท(เก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาท)


๑. คุณsitprogpo จองประคำหินสีขาว......................1 เส้น
๒. คุณLuoShanHui (ไม่ระบุสี).............................1 เส้น
๓. คุณจิตตานุปัสสนา (ฝาก อ.นีโม่ พิจารณาสี)........... 1 เส้น
๔. คุณลุงจิ๋ว (จองสีขาว 1 และสีแดง 1).................... 2 เส้น
๕. คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->pkanlaya<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2103650", true); </SCRIPT> (จองสีขาว 1,สีแดง 1).................. 2 เส้น
๖. คุณamadi (จองสีเขียว).................................. 1 เส้น
๗. คุณrutchanon (จองสีเขียว)............................ 1 เส้น(โอนแล้ว18/5)1,049.-
๘. คุณprapaanpong (อ.โม่ พิจารณาให้ด้วย).......... 1 เส้น
๙. คุณnanasaratamma (สีแดง)......................... 1 เส้น(โอนแล้ว 18/5)
๑๐.คุณ<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chanasorn<!-- google_ad_section_end --> (สีเขียวเข้ม)............................1 เส้น(โอนแล้ว 22/5)
๑๑.<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2107843", true); </SCRIPT> คุณศราวุธ (หินสีเขียว).................................... 1 เส้น
๑๒.คุณอภิญญา8 (หินสีเขียว)................................. 1 เส้น
๑๓. คุณAriyaporn (แดง 1,ขาว 1)......................... 2 เส้น
๑๔.คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->guyvettanajittham<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2112285", true); </SCRIPT> (พิจารณาสีให้ด้วย)......... 1 เส้น
๑๕.คุณsuwat.su (สีฟ้า)...................................... 1 เส้น (โอนแล้ว19/5)
๑๖.คุณkwok (สีฟ้า)............................................ 1 เส้น
๑๗.คุณลูกแก้วแววตา (สีเขียว,สีฟ้า).......................... 2 เส้น
๑๘. คุณengporn (สีเขียว,สีแดง)............................. 2 เส้น
๑๙.คุณBlog 17 (สีฟ้า,สีแดง)................................. 2 เส้น
๒๐.คุณพุทธันดร (สีแดง,สีขาว)................................. 3 เส้น
๒๑.คุณก้านแก้วเก้า (รวมสี)..................................... 1 เส้น(โอนแล้ว26/5)1,845.-
๒๒.คุณsam.tansiri(สีขาว).................................... 1 เส้น(โอนแล้ว23/5)( 1,459.-)
๒๓.คุณwinny(เขียวหยก 1, ฟ้า 1 )........................... 2 เส้น

รวม....33 เส้น

(สรุปถึง 19.27 น. 26/5/52)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ตอนนี้เนตเร็วมาก จนวิ่งตามแทบไม่ทันเลยครับ เปลี่ยนหน้าที โตะจายหมกเลย
อะไรจะเร็วปานนั้น
ขอบคุณจารย์โม่เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ป้าๆ ลุงๆ กระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันตาเห็น 555+

 

ขอบคุณผู้อาวุโส no.9 มากครับที่ได้มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องของมนุษย์ต่าวดาว ภัยพิบัติ และบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก 5000 คน ทุกถ้อยคำที่ท่านตอบล้วนมีเหตุ มีผล และมาจากการปฎิบัติทั้งสิ้น มิได้จดจำคำของใครมาพูด มิได้ลอกบทความหรือถ้อยคำใครมาตอบ สมแล้วครับที่ผมจะเรียกว่าเป็นอาจารย์ของระบบอีกคน

สำหรับเรื่องมนุษย์ต่างดาวและภัยพิบัติ ผมไม่ได้ยึดติดครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เชื่อ.....ผมจบวิทยาศาสตร์ครับและสนใจดาราศาสตร์มา ตั้งแต่เด็ก ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าทั่วทั้งจักรวาลหรือ เอกภพ จะมีดาวเคราะห์เพียวดวงเดียวที่มีสิ่งมีชีวิต และที่สำคัญผมเคยเห็นวัตถุบินลึกลับบนท้องฟ้า เคยเห็นดวงไฟสีส้มลอยไปมาอยู่เหนือยอดไม้ ชาวบ้านบอกว่าเป็นผีกระสือแต่ผมไม่เชื่อและได้เคยเดินออกไปพิสูจน์ แต่ดวงไฟสีส้มนั้นก็ลอยหนีหายไป คงพบแต่รอยไหม้บนพื้นหญ้าและซากศพกบ อึ่งอ่างที่นอนแห้งตายอยู่บริเวณนั้น ส่วนเรื่องภัยพิบัติผมเชื่อแน่ว่าจะต้องเกิด สาเหตุที่เกิดก็เพราะมนุษย์ไปเปลี่ยนแปลงธรรมชาติ ไปทำลายสิ่งแวดล้อม เพียงแต่ว่าจะเกิดเมื่อใดนั้นผมไม่ทราบ จะช้าหรือเร็วก็อยู่ที่มนุษย์ แต่มนุษย์ดันไปโทษธรรมชาติ เผลอๆ คน 5000 คนที่มาช่วยอาจจะตายก่อนที่ภัยพิบัติจะเกิดเสียอีก

นี่คงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งกระมังที่มนุษย์ต่าวดาวต้องลงมาช่วย เพราะหากโลกเป็นอะไรไป ย่อมกระเทือนไปทั่วจักรวาล รวมไปถึงดวงดาวที่เขาอาศัยอยู่ด้วย

 

แม้จะเป็นWAVEที่เกิดจากเหตุปัจจัยการปรุงแต่งของขันธ์นั้นๆ เอง ไม่ได้เป็นWAVEที่ส่งมาจากระบบ แต่ถ้าเจ้าของขันธ์นั้นๆ เขาเห็นWAVEของเขาเองไม่ว่าจะส่งมาจากระบบหรือไม่ก็ตาม นั่นก็หมายความว่าเขาปล่อยวางได้ ความทุกข์ไม่ได้กินเขา

แต่ผู้ที่เฝ้ามองดูเขาต่างหากที่ถูกความทุกข์เข้ากัดกินไม่เห็นWAVEของตนเอง ก็คือธรรมารมณ์ในข่ายลบ เช่น ปฏิฆะขุ่นเคืองใจ เป็นต้น เข้ามาเกาะกุมจิตใจ

ความทุกข์ย่อมเกิดจากภายในของผู้ที่รู้สึกว่าทุกข์เท่านั้น ไม่ได้เกิดจากเหตุปัจจัยภายนอกเลย

โดนมั๊ยครับ

 

ความทุกข์มาเกาะอยู่ที่คนเฝ้ามอง...
อันนี้ โดนเสียยิ่งกว่าโดน

 

เหล่าๆ อาจารย์ กำลังถาม - ตอบ ห้วข้อข้อธรรมะเรื่องการละวาง อัตตาตัวตนกับเรื่อง เวป กัน

เด็ก ป.2 อย่างเรา ก็พลอยได้อานิสงค์ในการพิจารณา เป็น Case Study ดีค่ะดี อนุโทนากับทุกท่านเป็นอย่างสูง ค่ะ