เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

.....น่าจะมีคำอธิบายรูปสั้นๆ ด้วยนะคะ..

แล้ว .. วงกลม ไว้ทำไม ... ??????

รูปควายหมายถึงอะไร... เง้อออออ

 

ที่ผมบอกชั่วโมงกว่า น่าจะกว่าชั่วโมง 40 นาที สมัยหนุ่ม แรงอึดเยอะ แต่ตอนนี้

ไม่ค่อยแน่ใจ หากไปอีกที สงสัย น่าจะ 3 ชั่วโมง ตอนขาลง ถึงไม่ต้องใช้แรง

แต่ต้องระวังมาก เผลอไม่เกาะราวหน่อย เดี๋ยวกลิ้งลงมาเอง


เออ...อยากใก้ลชิดกว่านี้จัง เรียกพี่มังกร ดีป่าวอ่ะ

ฟังแล้ว กระฉับกระเฉงขึ้น กำลังใจมาเป็นกอง

ขอให้โรคหอบหืด หายไวไว อนุโมทนา กับใจที่กล้าแกร่ง

 

Baby_par ป๋ะป๋าปลากลัวความสูง T^T


ป๋าไม่กลัวหรอก อ้ายความสูง ลองดูให้ดี เท้ายังติดดิน

ที่น่ากลัว...คือความต่ำของคน ตรงนี้อยากให้ลูกปลากลัว

..........................................................................

MAGNETICS .....น่าจะมีคำอธิบายรูปสั้นๆ ด้วยนะคะ..

แล้ว .. วงกลม ไว้ทำไม ... ??????

รูปควายหมายถึงอะไร... เง้อออออ


ต้องขอโทษครับ ที่ลืมอธิบาย กว่าจะหารูปมาลงได้ และโพสท์

ในกระทู้ น่าจะเกือบ 2 ชั่วโมง สำหรับวงกลม ลองเล่นเกม

เดาใจ เจ้าของรูปดู สนุกดีไปอีกแบบ

 

แหม ลุง มังกร................. เอ้ย พี่มังกร

555.........

 

เพิ่มคำอธิบายให้แล้วค่ะ หวังว่าคงพอช่วยลุงมังกร เอ๊ย พี่มังกรได้

 

อยากไปพบอาจารย์ที่บูทจังคะ

วันอังคารที่ 12 นี้อยู่ไหมคะ

 

กิ้งกือบูรพา....เอ๊ย .มังกรบูรพา หายไปจากจอ นานมากทีเดียว
เพิ่งจะรู้ว่า มัวแต่ไป ไต่เขา นับพันๆขั้น..คนที่ยังไม่เคยไป เมื่อเห็นรายละเอียด
จะมีทางเลือก อยู่ สอง อย่าง
1. ไป เลย สู้ตาย...ขึ้นได้ ถึงยอดได้ บุญ แยะ
2. แฮะ..แฮะ...แฮะ..อยู่บ้านดี กว่า..แล้ว ส่งจิต เอ๊ย ถอดจิตไป..ไม่เหนื่อยแรงด้วย
ไม่ถึงนาทีก็ถึงแล้ว..เอาแรงไว้ทำอย่างอื่นดี กว่า (เชียนหนังสือ)
ก็ขอขอบคุณ คุณ มังกร ที่เอารูปมาเผยแผ่..ให้ผู้คนได้ เห็น ..ได้รู้...ได้ ศัทรา
...................................................................................

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ ตอนทัวร์ วัด (ต่อ)
...................................................
ออกจากวัดโพธิ์ เก้าต้น..ก็วิ่งตรงไปตามเส้นทางเข้า สิงห์บุรี
ระยะทางถึงตัวเมืองสิงห์ ไม่เกิน 15 กม....ประมาณ 15 นาทีก็ถึง
ไปจอดริมแม่น้ำฝั่งซ้าย...รอ สมาชิกขมรมคนตาทิพย์ ที่อยู่ที่ นั่น
จะพาไป ไหว้พระ อีกวัดที่ น่าสนใจ...และกำลังจะดังขึ้นเรื่อยๆๆ
.......................................................................
พอเจ้าที่ทางมา..ก็ขับรถตามกันไป...แล่นตามถนนหมู่บ้าน
ซอกแซก ตามซอย...เป็นถนนแคบๆๆ พอ รถสวน..
ถ้าเป็นรถใหญ่...ก็ต้องแอบกันไป ข้าง
วัดนี้ เป็นวัดประจำหมุ่บ้าน..ทีอยู่ริมแม่น้ำ....
ซึ่งสามารถเดินทางได้ สะดวกในยุคก่อนโดยมาทางเรือ
แต่ในปจจุบัน..การคมนาคม ..ใช้ยานพาหนะ รถยนต์
เส้นทางถนน..ไม่ได้ เผื่อไว้..การเข้าออกจึงยุ่งยาก และ ลำบาก
.....................................................................

 

เข้าไปได้ ประมาณ 700-800 เมตร ก็ถึงวัด
เลิ้ยวซ้ายเข้าไป..ก็พบลานกว้าง พอ สมควร
มีหมู่ อาคารและศาลา เรียงกัน ทั้งซ้ายและขวา
ทางขวา..มองเห็นท่อนไม้ ขนาดใหญ่..ดำและยาว วางบนพื้น
เห็นตู้เสื้อผ้า วางเรียง..มีราวผ้าชุด แบบไทย ประยุกต์แขวนไว้
.....................................................................
เราจอดรถ ตรงนั้น..เข้าไปดูใกล้ๆๆๆ.ท่อนไม้ที่วางอยู่
มีป้ายบอก.."แม่ตะเคียนทอง.." อ้อ เป็นศาลเจ้าแม่ ตะเคียนทอง
มี ผู้คนเอาฃุดเสื้อผ้า ทรงไทย มาแก้ บน..
สงสัย เจ้าแม่คงจะให้ เบอร์หวยดี..จึงมีชาวบ้านมาขึ้นมาก
......................................................................
เป็นวิถีของชาวบ้านอีกแบบหนึ่ง..ที่พึ่งพา..ความศักดิ์ สิทธิ์ ในการเสี่ยงโชค
ในทุกภาคของประเทศไทย..เป็นแบบนี้...เป็นความพอใจ..และความเชื่อถือ
ในขณะที่ ผู้คนบางกลุ่มเห็นเป็นเรื่อง งมงาย..สุขใครสุขมัน ครับ
...............................................................................
ถัดมาเป็น ตัวอาคารโบสถ์ ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอย่างใหญ่โต
ตรงไป คือ..กุฏิเจ้าอาวาส..พวกเราก็พากันเข้าไปกราบ
และขออนุญาต...เข้าสักการะ พระพุทธรูป องค์ที่เพิ่งค้นพบใหม่
...ลืมบอกไป..วัดนี้ ชื่อ.."วัดเสถียรวัฒนดิษฐ์" อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
อยู่ในเขต อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี
............................................................................

 

แต่เดิม วัดนี้ เป็นวัดเล็กๆๆ ประจำหมู่บ้าน
บุคคลภายนอกจะไม่รู้จัก..มีแต่คนในหมู่บ้าน อุปภัมถ์ วัด
มีงานวัด/มีงานบุญ/งานเข้าพรรษา/งานเทศกาสล ฯลฯ
ก็ผู้คนในหมู่บ้านและใกล้เคียงนั้นเอง..มาช่วยกัน
............................................................
จนเมื่อไม่นานมานี้...มีการสร้างศาลา..และมีการยก พระพุททธรูปปูนปั้น
ที่ มีขนาด เล็ก กว่า ขนาดคนเล็กน้อย..ขณะยก เกิด อุบัติเหตุ
พระพุทธรูปปูนปั้น..ตกลงมา จากตำแน่งที่ไม่สูงนัก
ปูนกะเทาะ..แตกออก...มองเห็นเนื้อ ทอง ข้างใน
.............................................................
ผู้คนก็ตกใจ..ช่วยกันกะเทาะปูนออกจนหมด
กลายเป้นพระพุทธนูป ทองคำแท้ หนัก กว่า 1 ตัน
มาในตำราเดียวกับการพบ พระทองคำ วัดไตรมิตร กทม.
แต่ที่วัดไตรมิตร..ทองคำหนักประมาณ 3 ตัน
ใหญ่กว่า พระทองคำของวัดเสถียร มากกว่า 3 เท่า
............................................................
แค่พระพุทธรูป ทองคำ หนัก 1 ตัน..ก็ ตีราคาไม่ได้ อยู่แล้ว
นักวิชาการจากกรมศิลป์ และ กระทราวงศาสนา..ได้มาตรวจสอบ
พบว่า เป็น พุทธศิลป์ แบบ สุโขไทย..พิมพ์เดียวกับ ที่ วัดไตรมิตร
จึงคาดกันว่า..เมื่อ สร้าง พระทองคำวัดไตรมิตร ขนาด 3 ตัน แล้ว
ทองยังเหลือ.จึงมาสร้างอีกองค์..ที่ ขนาดเล็กกว่า..
ให้พอดี กับ ปริมาณ ทองคำที่เหลือ...ผู้คนที่ได้ ข่าว..
ก็พากันมาไหว้ และเยี่ยมชม
และเราก็เป็นหนึ่งในนั้น
..................................................................
(มีต่อ)

 

ติดตามอ่านอยู่นะคะท่านผู้รู้ทุกท่าน ดีใจจังสนใจเรื่องนี้อยู่พอดี

ขอติดตามอ่านเงียบๆแบบนี้ไปเรื่อยๆนะคะ

ผูน้อยขออนุโมธนาบุญด้วยค่ะ สาธุ สาธุ

 

เพ่ ชยา หายไปไหนอ่ะ ปล่อยให้อาจารย์โชว์คนเดียวเลย แชร์ประสบการณ์หน่อยสิ น้องๆ รออ่านอยู่ ประสบการณ์พี่ชยา อ่านแล้วมันดี 55

 

เอ๊............ อาจารย์สามตา ไป ไหน น้า........

 

คุณ ชยา ช่วงนี้ คง ปฏิบัติ ราชการลับ อยุ่ มั้ง..........

ว.5 = ราชการลับ
จึง มิอาจเปิดเผย ได้.............. 55

 

เจ้าที่ที่นำทาง บอกว่า ..องค์พระทองคำ อยู่ที่ กุฏิเจ้าอาวาส
เราทั้งหมดก็เดินตรงไป...อาคารกุฏิ เป็น ตึกค่อนข้างใหม่ สองชั้น
พอถึงประตู ทุกคนก็ถอดรองเท้า..คลานเข้าไป...เพราะ ท่านเจ้าอาวาส
มานั่งรอรับแขก อยู่ ตรงหน้า ประตูเลย
...........................................................................
อายุอานาม ของเจ้าอาวาส ประมาณ 50 ขึ้น..ท่าทางแข็งแรง
รับแขกเก่ง..สังคมดี...ชวนคุย เรื่อง อนาคตของ วัด..ที่จะมาในอนาคต
อนาคตที่สวยงามจากการที่ จะมีคนมาเยี่ยม ไหว้ พระทองคำอันมีค่า ยิ่งนัก
.............................................................................
ท่านชวนคุยนาน..เราจึงปลีกตัวจะมาดู องค์พระยังไม่ได้
เห็น สองหนุ่ม วิศณุ และ จิระศักดิ์..ผลุดลุก ผลุดนั่ง สามสี่ ครั้ง
ก็พอดี เจ้าอาวาส ท่านหยุดพักหายใจ จากการพูด
เราก็ ตัด ตอนว่า..จะมาไหว้พระ ทองคำที่เพื่งพบใหม่
ท่าน..ก็มองหน้า แล้ว บอกว่า..เชิญเลย
....................................................................
ท่านเก็บองค์พระ ทองคำไว้ที่ ชั้นบน...ต้องขึ้นบันได ไป
ตอนกำลังขึ้นไป..เราถามว่า มีอะไรหรือ....ถึงได้ลุกลี้ลุกลน
สองหนุ่มตอบว่า...ข้างบนส่ง โทรจิตไป บอกว่า..."ขึ้นมาเสียที ซิ!!!!
อ้อ มีอะไร ส่ง โทรจิต ไปเร่ง ให้ ขึ้นมา....ใครหนอ ที่ ส่ง โทรจิตได้
..........................................................................

 

โผล่ขึ้นไปที่ ชั้นบน...เบื้องหน้า เป็นที่ ว่าง..ไว้นั่งกราบพระ
ด้านชิดพนัง เป็น ชั้นวางพระพุทธรูปหมู่
หลังสุด ..บนสุด คือ องค์พระทองคำเหลืองอร่ามที่ อยากจะเห็น
อยุ่ในท่า ปางมารวิชัย..ใบหน้า เหลี่ยมแบบพุทธศซิลป์ สุโขไทย
...................................................................
ทรุดลงกราบไหว้ สามงาม..และ นั่งสมาธิ
มีพลังเย็นวาบเข้ามาสู่กาย...ความเย็นเข้ามาในกระดูก
เป็นพลังความเย็น แบบ พุทธบารมี...ที่ยิ่งยวด
จำในจิตให้แน่น..ว่า ของ องค์ ที่ วัดนี้เป็นเช่นไร
แล้วอัญเชิญ พลัง ของ องค์พระทองคำแห่งวัดไตรมิตร
มาเทียบกันในจิต...พบว่า พลังของ วัดนี้ ซาบซ่า เย็นกว่า
ของ วัดไตรมิตร....ความเย็นที่ ต่างกัน..คงจะเป็นเพราะ
เป็นพระในบ้านนอก เมื่อเที่ยบกับ พระในกรุง
...........................................................
หลังจากกราบและทำสามาธิ เสร็จ ก็ ลุกขึ้น เดินไป รอบๆๆ องค์
ที่ วาบนแท่น...โดยฐานแท่นก็สูงระดับหัวแล้ว
เราเดินวนสามรอบ แบบ ทักษิณาวัตร
แล้วมาหยุดที่ เบื้องขวา...เอามือไป รอง ที่ ชาหณุ (หัวเข่า ด้านซ้าย)
ขององค์พระ..ตั้งจิตขอพร...ทันใดก็มีกระแสเย็น
ไหลจาก ชาหณุไหลลงมาใส่มือ..เหมือนน้ำเย็น ที่รู้สึกได้
เราเอาน้ำเย็นนั้นมาลูบหัวตัวเองให้เป็น ศิริมงคล ที่ไม่มีสิ่งใด เทียบได้
นี่คือพลัง แห่งศรัทรา และ พุทธบารมี ที่ ค้ำจุนโลก
.................................................................
ขอพลังแห่ง พุทธ พระศรีอริยเมตไตร..
ทรง คุ้มครอง คนดี ด้วย เถิด
นะโม พุทธายะ...นะโมพุทธายะ...นะโม พุทธายะ
................................................................
(มีต่อ)

 

..............ไม่ลับอะไรหรอกครับ ทำงานธรรมดา ไม่ค่อยว่าเขียน แต่ตอนนี้เริ่มจะว่าง ๆ เขียนต่อแล้วครับ;34

 

.................เดี๋ยวได้อ่านครับ..........(sing)(sing)

 

กลับมาบ้านดึกหน่อยตอนนี้ เกือบ 5 ทุ่มแล้ว เพราะว่าหลังจากออกจากบูทอาจารย์
ต้องไปงานศพญาติผู้ใหญ่ที่เพชรเกษม 69


ตรวจแล้วได้กำลังภายในมี 146 เมตร แต่ไม่สามารถเปิดตาที่สามได้ อยากได้ๆ
อาจารย์บอกว่าเห็นผีแล้วจะดียังไง
มันมานั่งขอส่วนบุญ ให้เราเห็นทุกวันๆ ไม่ลำคาญเหรอ จริงแฮะ

อาจารย์ใจดี พอดีเจออีกท่านตรวจฮวงจุ้ยบ้านลูกศิษย์อาจารย์ โชคสองชั้น ได้คุยเรื่องฮวงจุ้ยด้วย

ยังมีเรื่องจะถามอีกคะอาจารย์ จะไปหาอีกครั้งกำลังนัดกับคนที่สนใจ จะไปพร้อมกันค่ะ
ตอนเชิญพระแม่กวนอิมพันมือลงมา หนาวมากๆเลย หนาวจนขนลุก
ได้วิชาช๊อปปิ้งติดตัวมาด้วย

พรุ่งนี้ จะต้องลองใช้ดัชนีซ้ายเลือกแชมพูสระผม ยิ้มสดชื่น...

ป.ล. เป็นแฟนพันธุ์แท้กระทู้ท่านชยา เพราะเล่าได้มิติมาก เหมือนอยู่ในเหตุการณ์
เฝ้ารออ่านมานานแล้ว มีเวลาเขียนเมื่อไหร่ ก็ตามอ่านเมื่อนั้น หนุกดี

 

เจอของจริงล่ะครานี้ 5555555 พลังแห่งพุทธบารมี ที่มีเมตตาสูง..........

เิอ! ไงต่อหว่า.......ปรกติของคนทั่วไป จะสัมผัสได้เพียง ขนลุกพองสยอง

เกล้า และอาจรู้สึกได้ที่กระหม่อมบ้าง เย็นตามจุดใดจุดหนึ่งบ้าง ที่ทำให้รู้สึก

วูบวาบบ้าง.......บรรยายไม่ค่อยถูกอ่ะ ตามนี้ ๆ


แต่อาจารย์สามารถสัมผัสพลังเย็น จนรู้สึกได้ถึง ชั้นกระดูก ก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พลังภายในท่านอาจารย์ ล้ำลึก เหลือรับทาน สุดๆๆๆๆๆๆๆๆ