ผมทำผิดศีลข้อ3 ไปแล้วครับ จะทำอย่างไรต่อดีครับไม่ให้บาปมาก

ขอมาเป็นกำลังใจให้ คุณคนคิดมากนะคะ ลองคุยกับภรรยาดีๆแบบใจเย็นๆค่อยๆคุยกัน ผู้หญิงไม่ว่าใครถ้ารู้ว่าสามีตัวเองไปมีผู้หญิงอื่นต้องทำอย่างภรรยาคุณทุกคน ลองเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง คิดถึงความดีที่เคยรักกันถึงขนาดยอมแต่งงานกันก็ต้องหมายความว่าเราเองก็รักภรรยาเหมือนกัน บางทีผู้ชายจะเอาภรรยาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงอื่นทำไมภรรยาเราไม่เป็นแบบนี้บ้างนะ ก็ต้องเข้าใจผู้หญิงบ้างเวลานานไปอาจไม่เอ่ยคำว่ารักแต่จะคอยห่วงเพราะว่ารักมาก คุณลองทบทวนดีๆนะคะและอีกอย่างคิดถึงลูกให้มากๆเพราะเด็กไม่มีความผิดเลยที่จะต้องเติบโตขึ้นมาโดยที่พ่อแม่แยกทางกัน คิดดีๆนะคะก่อนตัดสินใจอะไร เพราะปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ไขเพียงแต่เราจะเลือกทางออกแบบใหน หวังว่าจะหาทางออกบนความถูกต้องและอยู่ในศีลธรรมนะคะ ;aa44

 

ไม่ได้เข้ามานานมาก มาเจอกระทู้ของผมอยู่หน้าแรกซะแล้ว
ขอบคุณอีกครั้ง สำหรับทุกความเห็น

ผมจะมาสารภาพทุกอย่างให้ทราบเลยนะครับ
ตอนที่ผมมาโพสต์ครั้งแรก ยังไม่รู้จริงๆครับ ว่าน้องกิ๊กท้อง
น้องกิ๊กเธอก็ไม่บอกว่าท้อง คือ เธอบอกผมว่า ไม่อยากทำร้ายครอบครัวผม
ไม่อยากทำร้ายจิตใจแฟนเก่า และลูกชายอายุ3ขวบของผม
คือ เธอเป็นคนดีจริงๆครับ จิตใจบริสุทธิ์มาก ยุงกัดเธอยังร้องไห้

พอเดือนกรกฎาคม แฟนเก่าผมรู้ว่าน้องกิ๊กท้องและได้จดทะเบียนสมรสกับผมแล้ว ช่วงที่เธอวีนแตกโทรไปด่าคนนั้นคนนี้ ขู่ว่าจะฟ้องร้องผม แล้วน้องเขาก็ขอร้องผมว่าเพื่อความปลอดภัย ควรจดทะเบียนไว้ก่อน ผมก็เลยไปจด
พอเพื่อนน้องโทรไปบอกเธอๆก็เลิกติดต่อผมไปเลย
แต่จะโทรมาเตือนให้ผมโอนเงินให้ค่าผ่อนบ้านทุกเดือนเท่านั้น
ตอนนี้ก็ไม่ค่อยคุยกัน เพราะน้องขอร้องว่า เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว ก็ควรจะเลิกติดต่อกับทางนู้น

ช่วง2-3เดือนก่อนก็เครียดบ้างเรื่องสุขภาพเรื่องงาน ก็ไม่รู้ว่าจะใช่ผลกรรมไหม
ครับ คงเป็นจริงอย่างทุกท่านว่า อดีตกลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว
ผมจะตั้งใจเป็นคนดี ทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไปครับ

 

ลองคุยกันดีๆนะครับ คิดถึงลุกเป็นที่ตั้ง จะเป็นกำลังใจใหผ่านไปด้วยดีครับ

 

อ่านตอนแรก ก็คิดว่าปัญหาครอบครัว แล้วค่อนข้างเอนเอียงไปทางคุณเล็กน้อยว่าแม่ของลูกคุณคงอารมณ์ร้ายจริง ๆ
แต่พออ่านข้อความนี้

น่าคิดนะค่ะ ยังคบอยู่อีก 2-3 คน
ตกลงปัญหาอยู่ที่ใครกันแน่

คนเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นความผิดตัวเอง
ตัวเองถูกเสมอ พยายามยกเหตุผลต่าง ๆ มาอ้างให้ตัวเองถูก

กรณีนี้ไม่รู้ว่าอย่างไรแน่ เพราะคุณก็เล่าได้ว่าแม่ของลูกคุณอารมณ์ร้าย
แต่ๆ เกิดจากอะไรหรือ....... หาเหตุผลดี ๆ หรือยัง
อันนี้ก็ไม่ขอ comment เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

แต่ที่จะ comment คือ มาอยู่กับคนใหม่ แล้วยังคบอีก 2-3 คน
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ฟังไม่ขึ้นทั้งนั้น จะอ้างว่าอยากรู้จักผู้หญิงว่าเป็นเหมือนแฟนเก่าทุกคนหรือเปล่า

ไม่ต้องไปหาคำตอบหรอก ดูนิ้วตัวเอง ห้านิ้ว ยังไม่เหมือนกันเลย
คุณยังไม่เหมือนพ่อคุณ ลูกคุณก็ไม่เหมือนคุณ จบข่าว

 

อย่ามีภรรยาเกิน 4 คนแล้วก็กัน

การครองเรือนเป็นเหตุแห่งทุกข์อยู่แล้วหละครับ

ก็ดันมีมากกว่าคนอื่นตั้ง 2 เท่า
ก็ต้องทุกข์ 2 เท่าสิคุณ

ไม่ต้องห่วง ท่านไม่ได้เดียวดายหรอก

นึกภาพคนมีภรรยามากเกิน 2 คนสิคุณ มันทุกกว่าอีกนะนั้น

โชคดีแล้วที่ยังมีแค่ 2 คน
อย่าไปมีเพิ่มอีก เป็นอันว่ายังพอใช้ได้

 

ควรประยุกเรื่องมวลชนมาใช้ในบ้านให้ได้

แสดงว่าคุณตอบสนองภรรยาท่านแรกได้ไม่ดีพอ

หน้าที่แจกแจงให้ภรรยาสบายใจ เป็นความรับผิดชอบของสามี

หากท่านสามารถทำให้ภรรยาท่านแรก ยอมรับในภรรยาที่ถัดมาได้
ปัญหาด้านนี้จะหมดไปในทันที

อนุภรรยา พึ่งบูชา ภรรยาผู้อาวุโสกว่า ประดุจมารดา ของตน

หากท่านมีความสามารถ อบรมอนุของท่าน ให้มีความนอบน้อม
น่ารัก ประดุจบุตรในอุทรของภรรยาหลวงได้

การจะมีภรรยาเพิ่มอีกซักคน หรือ 2 คน ย่อมเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

ขออวยพร ให้ท่านพบทางออก โดยง่ายดาย
โชคดี

 

คุณแค่รู้สึกผิดเท่านั้น
เพราะสุดท้ายสิ่งที่คุณเลือกก้อคือตัวคุณเอง
ไม่ใช่ ภรรยา และลูก หรือน้องกิ๊ก

อยากให้ทั้งสามคน อ่านหนังสือ รักอย่างไรรักให้เป็นของ รศ.ดร นวลศิริ เปาโรหิตย์ค่ะ
เปลี่ยนความรักแบบความใคร่ ยึดติดเป็นของตน เป็นความรักแบบเมตตาสงสาร

 

มาเป็นกำลังใจให้ครับ..

ขอให้พบเจอกับความรักที่ดี อย่าผิดศีลข้อสามเป็นอันดีครับ

 

คุณน่าจะปรับความเข้าใจกับแฟนคุณดีๆ อย่างที่ใครๆพูดแหละค่ะว่า ไม่มีผุ้หญิงคนใดในโลก อยากจะมีสามีหลายคน เพราะผุ้หญิงคือฝ่ายเสียหาย ลูกคือสิ่งสำคัญ เลยคิดว่าน่าจะปรับความเข้าใจกันเสียเถอะค่ะ เพื่อชาติหน้าที่ดีกว่า ทำบุญเยอะๆ สวดมนต์ไหว้พระบ้าง ทำจิตใจให้สงบ สติมา ปัญญาก็จะเกิดเองค่ะ แล้วก้คิดให้รอบคอบ เพราะยังไง เลือดของคุณก็อยู่ในตัวลูกคุณครึ่งนึง รักมากก็เกลียดมาก คุณน่าจะคิดแต่ทางดีๆของเขาบ้่าง อย่างน้อยๆ เขาก็เป้นแม่ของลูกคุณ คุณเองก้เคยบวชน่าจะรู้อะไรบ้าง อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะค่ะ เก็บมาจำให้รกสมองเปล่าๆ คิดถึงวันข้างหน้า อย่าไปคิดเรื่องอดีต ถ้าคุณเจ็บปวดทรมาน ที่ทนให้เขาทุบตีไม่ได้คุณก้ค่อยๆพูดคุยกับเขา พาเขาไปทำบุณไหว้พระ พาลูกไปเข้าวัดเข้าวานั่งทำสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ ดีกว่ามานั่งเสวยสุขอยู่กับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเอง มันจะยิ่งทำให้บาปขึ้นถ้าหันกลับไปปรับความเข้าใจกัน บอกเขาว่าคุรไม่ชอบอะไรในตัวเขา และให้โอกาสเขาพุดว่าเขาไม่ชอบอะไรในตัวคุณ แล้วพยายามแก้ไขปรับปรุงตัวเองไป เพื่อลูกคุณนะคะ เขาเป้นอนาคต เราควรจะให้ความรักเขามากๆ แกตัวไป เขาจะได้มาดูแลเรา จะได้ไม่ลำบาก คิดไปโน่นดีกว่า ดีกว่ามานั่ง มีแฟนทีละหลายๆคน โกรธแค้นเคืองกัน อายุมากขึ้นนะคะ ไม่ใช่ลดลง คิดไปตอนแกดีกว่า ถ้าเราเลี้ยงเขาดี ให้ความสุขเขา เขาก้จะให้ความสุขแก่เรา แต่ถ้ามัวแต่ทะเลาะก็อย่าหวังเลยค่ะว่าจะเจอคำว่าความสุข

 

ดิฉันก็อยู่ในฐานะเดียวกับแฟนคุณ โดยที่สามีดิฉันอาจจะเอาดิฉันไปประจานเหมือนที่คุณทำกับเธอ ขอบอกในฐานะที่อยู่ในฐานะเดียวกัน ผู้หญิงไม่ว่าจะทำดีแค่ไหน พวกผู้ชายมักมากแบบคุณ ก็ไม่เห็นความดีหรอก คิดแต่จะโยนความผิดให้ผู้หญิงฝ่ายเดียว ขอบอกว่าถ้าเธอไม่ดีอย่างที่คุณว่าจริง เธอคงไม่ทนคุณได้ถึงขนาดนี้หรอก ถ้าสามีของดิฉันมีความคิดที่จะเลิกกับดิฉันเหมือนคุณ ฉันคงดีใจมาก ไม่ต้องมาทนทุกข์เหมือนทุกวันนี้ ถ้าฉันไม่ดีสามารถหาเรื่องไปมีคนใหม่ได้ ก็เลิกกันซะเรื่องมันก็จบ ภรรยาคุณเป็นคนโชคดีมากที่เลิกกับคนอย่างคุณ

 

ขอบคุณครับที่ยังเข้ามาตอบคำถามในกระทู้ผม
ผมก็เข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆ ครับ

ช่วงปีใหม่ ผมก็กลับไปหาแฟนเก่าครับ ไปดูความเป็นอยู่ของเธอกับลูก
แต่เธอไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้
ไปหา 2-3 ครั้ง เธอก็เปลี่ยนกุญแจบ้าน กุญแจรั้ว ผมก็เข้าไม่ได้
ไปคุยกับลูกก็ต้องยืนคุยหน้ารั้วบ้าน
ผมก็เข้าใจนะครับว่าเธอยังโกรธอยู่

บางวันผมผ่านไปใกล้ๆที่ทำงานเธอ ก็ไปชวนเธอไปทานข้าวตอนกลางวันบ้าง แต่เธอก็ปฏิเสธ ซื้อของไปฝากเธอฝากลูกบ้าง

ผมยินดีที่จะส่งค่าเลี้ยงดูเธอกับลูกไปตลอด เพราะมีลูกยังไงก็ตัดกันไม่ขาด
เพียงแต่.....ถ้าเธอจะไม่โทรไปบอกแฟนใหม่ผม
บอกว่าให้ผมเก็บเงินไว้ซื้อนมเลี้ยงลูกใหม่
แฟนใหม่(น้องกิ๊ก) ก็ต่อว่าผม ว่าจดทะเบียนกันแล้ว ลูกก็มีแล้ว ทำไมต้องกลับไปหาพี่เขาอีก ทะเลาะกัน อีก ถามว่า ผมรักใคร แล้วก็ให้เพื่อนๆเขา มาช่วยด่าผมด้วย ฯลฯ


ผมก็บอกว่า รักเท่ากัน มีลูกด้วยกันทั้งคู่ เป็นภรรยาทั้งคู่


แต่ในใจผม มันรู้ว่าใครเป็นคนดี คนไม่ดีแล้วครับ

ส่วนตัวผมเอง ไม่ดีจริงๆๆครับ ตายไปตกนรกแน่ๆ

 

อย่าเครียดมากเลยคุณ
อย่างน้อยถ้าคุณตกนรกคุณก็มีน้องกิ๊กที่แสนดี
และเพื่อนน้องกิ๊กที่เป็นใจช่วยกัน
แย่งสามีชาวบ้านตกเป็นเพื่อน ไม่เหงาหรอก

 

คุณอย่าตัดสินใครเลย ว่าดีหรือไม่ดี
ทุกคนมีเหตุในการกระทำ
และเหตุใดล่ะ?..ที่ทำให้ภรรยาคุณเป็นแบบนี้

สมมุติ นะคะว่า
น้องกิ๊กของคุณตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับภรรยาคุณ
น้องกิ๊กของคุณ ยังจะดีกับคุณอยู่หรือไม่

เป็นกำลังใจให้ทั้งสามคน
ผ่านปัญหานี้ไปได้นะคะ
เพื่อไปพบกับความสุขที่แท้จริง

 

เห็นด้วยอย่างมากคะ (||)(||)(||)(||)(||)

 

ช่วงนี้ ผมทบทวนไปมา
ผมก็คิดว่า ผมรักตัวเองมาก จริงๆๆๆๆ ครับ
พอเรื่องต่างๆ มันเริ่มสงบ ผมก็ได้คิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ
ที่เกิดขึ้นกับผม มันเร็วมากในตอนต้น จนผมตั้งตัวไม่ทัน
แต่ไม่ถึงปี มันก็คลายตัวไปเรื่อยๆ
จากคิดมาก ฟุ้งซ่าน วุ่นวายใจ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
จนตอนนี้ เพียงแค่รอเวลาเท่านั้น

บางครั้ง ในใจก็คิด อยากจะไปบวช แล้วครับ

คิดไป คิดมา ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด

อยู่คนเดียว สงบใจดีแท้

ถ้าผมเคลียร์งานต่างๆ ได้ลงตัว ก็มีคำตอบในใจให้ตัวเองแล้วครับ

หวังว่า ผู้หญิงทั้ง 2 คน กับลูกทั้ง 2 คน คงอโหสิกรรมให้ผม

 

ขอบคุณครับ พี่ Komodo ที่เตือน

แต่ลูกใหม่ที่เกิดจากน้องกิ๊ก แฟนใหม่ ผมกับเธอก็ไม่ได้เลี้ยงครับ
คลอดได้ 2-3 วัน ก็เอาไปให้ยายกับป้า (แม่กับพี่สาวน้องกิ๊ก) เลี้ยงตลอด จนตอนนี้เกือบ 4 เดือน แล้วครับ
ก็เลยไม่ห่วงเท่าไร อยู่ที่ตัวน้องเขาอย่างเดียว ตอนนี้คุมผมยิ่งกว่านักโทษเสียอีก

ผมก็บอกอะไรไม่ได้มาก อ่านข้อความเดิมๆ ผมก็ว่า ผมว่าแต่ผู้หญิงมากไปหน่อย

จริงๆ ทุกอย่าง มันเป็น กรรม ที่ต้องเป็นไปตาม กฎแห่งกรรม

ทำไมต้องมีน้องกิ๊ก(นามสมมตินะครับ) เข้ามาในช่วงที่ผมเบื่อแฟน

ทำไมน้องกิ๊กต้องอยากมีลูกกับผม

ทำไมผมต้องหนีแฟนเก่าไป จนกระทั่ง ทำไมผมต้องกลับไปทำดีกับแฟนเก่าอีก

กรรมจัดสรร ให้ผมได้รู้ถึงทุกข์ และความไม่เที่ยง

ตอนนี้ผมเชื่อเรื่อง กฎแห่งกรรม มาก และเชื่อ เรื่อง ศีล 5 เป็นอย่างมาก
เชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เลยศรัทธายิ่งกว่าตอนบวชเรียน(หนังสือ)
ทำให้อยากกลับไปบวชเพื่อศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างจริงจังครับ

 

เอาลูกมาเลี้ยงด้วยสิครับ แล้วถ้าเอาลูกมาเลี้ยงแล้วแฟนใหม่คุณจะว่าไหม