ปิดรับบริจาค รวมบันทึกการเดินทางตามรอยพระอาจารย์ ณ บึงลับแล ๒๕๕๒/ร่วมบุญใหญ่หน้า ๑๐๘

ท่านปู่มาหาผมที่ทำงาน

แต่เรื่องที่คุยกับปู่ พูดไม่ได้นะซิ ความลับ ใครอยากรู้ใช้มโน เอาล่ะกันนะครับ

 

งะ อยากฝึกบ้างครับ ทำไงอะ

 

อดเลย มโนไม่แจ่มพอ

 

เอ้า พี่ธีร์ สงเคราะห์น้องกอล์ฟหน่อยสิครับ

ดูเหมือนเรื่องเห็นผี เทวดา ใช้สมาธิประมาณอุปจารสมาธิ ไม่ถึงฌาณ 1 กระมังครับ
แต่จะอารมณ์ประมาณไหนล่ะ ต้องมีการฝึกให้คล่องตัวนะ
ถ้าว่างก็มามโนมยิทธิบ้านสายลมก่อนสิครับ ทุกต้นเดือน
เดือนนี้คง 28 ก.พ. - 2 มี.ค. (11.30 น.) กระมังครับ
ผู้รู้ช่วยบอกหน่อยครับ...

 

น้อมอนุโมทนาบุญกุศลกับทุกท่านด้วยทุกประการค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ไป เพราะรู้ว่าสภาพร่างกายไม่พร้อมจริงๆค่ะ ไว้ิฟิตซ้อมแล้วมีทริปหน้าจะพยายามไม่พลาดนะค่ะ

 

มโนฯ ตอนออก เป็น ฌาน 4 นะครับ ถึงจะเป็นครึ่งกำลังก็ตามที แต่ความชัดหรือไม่นั้นขึ้นกับ กำลังฌาน และ วิปัสนายาน ครับว่าตัดกิเลสตอนนั้นได้ดีแค่ไหน

อย่าลืมสิ่งที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ และ ที่หลวงพี่ฯ เตือนไว้เสมอ ๆ เรื่อง การนำประโยชน์ของมโนมยิทธิ ไปใช้ให้ถูกทางด้วยนะครับ

คุณน้องกอล์ฟเท่าที่คุย ได้ทราบว่า มีมโนปณิธาน ปรารถนาพระโพธิญาณอยู่เหมือนกัน (แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ตัว) ถ้าอย่างไร ก็ขออนุโมทนาในสิ่งที่ปรารถนาด้วยนะครับ สู้ต่อไปครับ

 

ขอพูดแบบคนรู้น้อยแล้วกันนะครับ รู้น้อยก็พูดน้อยแล้วกันนะfficeffice" /><O></O>
<O></O>
1. เตรียมชีวิตเพื่อการฝึกมโนยิทธิก่อนการฝึกมโนยิทธิมีเป้าหมายคือพระนิพพานฤทธิ์เป็นเพียงเครื่องให้รู้และเป็นกำลังใจว่าพระนิพพานมีจริงเพื่อเราจะตั้งใจปฏิบัติเพื่อพระนิพาน การเตรียมชีวิตสรุปได้เป็น 3 ส่วน<O></O>
ทาน - สังฆทาน วิหารทาน ธรรมทาน ชำระหนี้สงฆ์ ทำไปทำให้ทานบารมีเต็ม (มีสติในการทำทานนะ องค์ประกอบ คือ ผู้ให้ ทาน และผู้รับ ยิ่งบริสุทธิ์ อานิสงส์ยิ่งบริบูรณ์))<O></O>
ศีล - อย่างน้อยศีล 5 ถ้ากำลังใจเยอะ ศีล 8 เลยขออนุโมทนาด้วย
ภาวนา - นั่งสมาธิกำหนดลมหายใจเข้า นะ มะหายใจออก พะ ทะ (พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ท่านให้พรไว้สำหรับผู้ฝึก) อย่าลืม ขอขมาพระรัตนตรัยและสมาทานพระกรรมทานทุกวันนะครับ ฝึกนั่งสมาธิทุกๆ วัน ยกเว้น ต้องใช้ด่วน หรือคล่องตัวแล้ว หรือใช้ในชีวิตประจำวันคล่องตัวแล้วก็ไปได้เลย ใช้ได้ทันที ไปเลย ท่านอนุญาติ)
<O></O>
การใช้มโยยิทธิ ให้แจ่มใส ควรทรงอารมณ์อย่างน้อยขั้นต่ำ อารมณ์พระโสดาบัน คือ สามารถตัดสังโยชน์ได้ 3 ประการ<O></O>
- เคารพบูชาพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง ไม่มีข้อสงสัยในพระรัตนตรัย<O></O>
- ศีล 5 ไม่บกพร่อง (ถ้าทำทานบารมีเต็ม ข้อนี้จะไม่ยาก)<O></O>
- ยอมรับว่าชีวิตนี้เกิดว่าจะต้องตายทุกคนยอมรับว่าเราจะต้องตาย มีเกิด แก่เจ็บ ตาย เราจะต้องตาย (ไม่ประมาทในการทำดี) เป็นวิปัสสนาญาณขั้นต้น (ควรทำให้สำคัญมาก) ทำให้อารมณ์ชินเป็นปกติ คิดไว้ทุกวันจิตจะชิน จะเห็นเหตุผลเมื่อตาย อารมณ์จะสบายแล้วเข้าสู่พระนิพพานได้ทันที

ฝึกอารมณ์พระโสดาบันให้ได้ทุกๆ วัน ฝึกให้คล่อง จนชินเป็นอารมณ์ ถ้าเจอครูบาอาจารย์เมื่อไหร่ ฝึกมโนยิทธิ แจ่มใส ไปโลดเลยครับ

การฝึกนั่งสมาธิ ควรฝึกให้คล่องทั้ง 4 ฌาน กลับไป กลับมา ยิ่งละเอียดยิ่งดี
แต่การไปพระนิพพานด้วยมโนยิทธิ จริงๆ จะถอยจากฌาน 4 ลงมา ฌาน 3 ละเอียด จะแจ่มใสมาก ถ้ายังปฏิบัติไม่ถึงฌาน 3- 4 ก็ให้ทำสมาธิให้ได้ฌานสูงสุดเท่าที่ตัวเองทำได้ แล้วค่อยขอบารมีพระรัตนตรัยทุกๆ พระองค์ บิดามาร ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณทุกท่าน ให้ท่านทรงนำเราไป ในส่วนนี้จะมาเล่ารายละเอียดอีกทีนะครับ........

มีคำกล่าวในหนังสือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ประมาณว่า พระพุทธเจ้าให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนวิธีที่ง่ายที่สุด บรรลุง่ายที่สุด อย่าสอนในสิ่งยากๆ ที่นักปราชญ์เขานิยมกันสอนยากๆ ยิ่งสอนสิ่งที่ยากวิธีการยากๆ ยิ่งดูว่าตัวเองเก่ง พระพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ มโนยิทธิ เป็นวิธีที่ใน กรรมฐาน 40 กอง สำหรับผู้มีจริต ชอบในด้านฤทธิ์ เป็นวิธีการที่พิสูจน์ สวรรค์ นรก ว่ามีจริงได้ ถ้าปฏิบัติได้ก็สามารถเห็นพระนิพพานได้ ถ้าตั้งใจปฏิบัติอย่างจริงจัง นิพพานชาตินี้อยู่แค่เอื้อม ครับ
<O></O>
2. มีครูบาอาจารย์ที่มีความเข้าใจในการฝึกและเป้าหมายในมโนยิทธิอย่างแท้จริงเป็นผู้สอน
<O></O>
.........ถ้าได้ข้อนี้แล้วจะมาบอกต่อนะ...ถ้ามีส่วนไหนผิดผมต้องขอขมาพระรัตนตรัย และครูบาอาจารย์ด้วย เพราะผมคนมันรู้น้อยแต่ยังแดกดันจะสอนคนอื่นอีก (พุทธภูมิมันกำเริบ) บอกเท่าที่รู้แล้วกัน รอผู้รู้จริงๆท่านมาแนะนำต่อแล้วกันนะครับ<O></O>

 

ง่ะ!!!!

รู้แล้วแต่พูดไม่ออก
โดนอุดปากอยู่

 

เอาไว้พิจารณาก่อนนอนทุกคืนนะครับ

เอาไว้พิจารณาก่อนนอนทุกคืนนะครับ เวลาฝึกมโนยิทธิ จะแจ่มใส

พิจารณาทุกวันจิตจะชิน จะเห็นเหตุผลเมื่อตาย อารมณ์จะสบายแล้วเข้าสู่พระนิพพานได้ทันที

ถ้าทำได้ตามนี้จริง คือการทรงอารมณ์พระอรหันต์ครับ

แต่ผมยังทำไม่ได้นะครับ พูดตามที่หลวงพ่อท่านบอก ถ้าใครทำได้ ขอโมทนาด้วยนะครับ

 

พระโพธิญาณด้วยกัน ดูกันออก ใช่ไหมครับ...

 

ฉะนั้นเวลาเริ่มต้นขอทุกท่านใช้กำลังสมาธิแค่อุปจารสมาธิ ถ้าถึงฌานสมาบัติ กำลังสูงเกินไปเลยความเป็นทิพย์ ถ้าต่ำไปก็ไม่ถึงความเป็นทิพย์
เหมือนกับกำแพงที่มีช่องน้อย ๆ อยู่ช่องหนึ่ง ถ้าเรามองตาสูงกว่าช่องเราก็มองไม่เห็น ต่ำกว่าช่องเราก็มองไม่เห็น เราต้องมองให้พอดี ๆ จึงเห็น
สำหรับ ทิพจักขุญาณ ก็เหมือนกัน จิตเกิดเป็นทิพย์ ตอนจิตเข้าสู่อุปจารสมาธิเท่านั้น ถ้าจิตเลยไปถึงฌานความเป็นทิพย์ก็ดับ ถ้าต่ำกว่าฌานความเป็นทิพย์ก็ดับ
ถ้าจะถามว่า อุปจารสมาธิทำอารมณ์ขนาดไหน ก็ขอตอบแบบตรงไปตรงมาว่าใช้อารมณ์แบบปกติธรรมดา เวลาภาวนาอยู่ การภาวนานี่ต้องคู่กับลมหายใจเข้าออก เพราะว่าลมหายใจเข้าออกทำให้จิตเป็นสมาธิ ทำให้จิตมีกำลัง สมาธิ เขาแปลว่า ตั้งใจ
สำหรับคำภาวนาใช้ภาวนาว่า นะ มะ พะ ธะ คำภาวนา นะ มะ พะ ธะ ทำให้กำลังจิตเป็นทิพย์ แต่ว่าคำภาวนาทำให้จิตเป็นทิพย์มีหลายสิบแบบ ไม่เฉพาะแต่ นะ มะ พะ ธะ อย่างเดียว
แต่ว่าที่เลือก นะ มะ พะ ธะ มาใช้ก็เพราะว่าแบบอื่น ถ้าเราสามารถจะรู้ได้ เห็นได้ ไปได้ ไปท่องเที่ยวในภพต่าง ๆ ได้ แต่คนข้าง ๆ ถามไม่ได้ ต้องจบกิจเรื่องนั้นแล้วกลับมาจึงจะคุยกับคนข้าง ๆ ได้
สำหรับ นะ มะ พะ ธะ นี่ ขณะที่เราไปพบอะไรที่ข้างบน หรือที่ไหนก็ตาม นรกก็ตาม สวรรค์ก็ตาม พรหมโลกก็ตาม คนข้าง ๆ จะถามได้ทันทีแล้วจะตอบได้เลย ทางโน้นตอบมา ฝ่ายนี้ก็พูด พูดรู้เรื่องกันได้ตลอด

 

ถ้าจิตอยู่ในขั้นอุปจารสมาธิ มันเป็นแบบนี้แหละ เพราะยังไม่ได้ฌานสมาบัติ ถ้าจิตจะทรงตัวจริงต้องเป็น ฌานสมาบัติ
ทีนี้พอได้เวลาก็จะมีผู้เข้าไปแนะนำโดยตรง(สำหรับผู้ฝึกใหม่) วิธีนี้ถ้าปล่อยให้ปฏิบัติธรรมดานะ พระเคยทำมาแล้ว ๓๐ ปีบ้าง ๔๐ ปีบ้าง บางองค์ ๔๐ ปีไม่ได้ ตายไปเลย ตายไปเยอะ ไม่ใช่เรื่องเล็กนะ เป็นเรื่องใหญ่มากเดิมทีเดียวต้องขึ้นต้นด้วยฌาน ๔ ทีนี้กว่าจะได้ฌาน ๔ เขี้ยวเหี้ยน กินหญ้าต่อไปไม่ได้แล้ว
ต่อมาท่านเจ้าของมาแนะนำบอกว่า ปฏิบัติอย่างนี้ (แบบเก่า) มันไม่มีผล เพราะว่ากำลังของคนไม่พอ ท่านก็แนะนำบอกว่า ให้ขึ้นต้นด้วยอุปจารสมาธิ ใช้กำลังของวิชชาสามแทน การใช้กำลังของวิชชาสามแทนนี้ก็อ่อนไปหน่อย การเคลื่อนไหวตัวรู้สึกตัวน้อย ๆ เป็นที่น่าสงสัย
ถ้าหากว่าใช้กำล้ังเดิม คือกำลังของฌาน ๔ เวลามันออกมันรู้ตัวเหมือนอกจากกระบอกไม้ มันพุ่งตรงออกจากโพรงไม้หรือออกจากถ้ำำ มันรู้ตัวเลย ก็จะปรากฏชัดเป็นแสงสว่างในอากาศ แสงสว่างเป็นลำบ้าง เป็นแสงทั่วไปในอากาศบ้าง จะปรากฏเห็นกายข้างในมันพุ่งตรงออก ไปไหนก็มีรู้สึกเหมือนเราไปเอง
แต่ว่ากำลังแบบนี้เวลานี้ท่านพุทธบริษัทยังรับไม่ได้กว่าจะรับได้ก็ใช้เวลาเป็นเดือนหรืออาจจะเป็นปี ที่สอนมาแล้วระยะต้น เมื่อปี ๒๕๐๘ ได้มาประมาณ ๘๐ คน หลังจากนั้นมาอีก ๑๐ ปี ไม่มีใครได้เลย เพราะกำลังไม่พอ ต่อมาท่านเจ้าของจึงแนะนำบอกว่า ให้ลดกำลังลงเหลือกำลังของวิชชาสาม
ทีนี้กำลังของวิชชาสามมีสภาพคล้ายความฝัน เป็นที่น่าสงสัย กำลังของวิชชาสามก็คือใช้กำลังของอุปจารสมาธิแทนฌานสมาบัติ

 

คำว่า ทิพจักขุญาณ นี่ไม่ใช่แปลว่า ลูกตาเนื้อเป็นทิพย์ ญาณ เขาแปลว่า รู้ ทิพจักขุญาณ เขาแปลว่า มีความรู้ทางใจคล้ายตาทิพย์ อย่าลืมนะว่าความรู้สึกทางใจคล้ายตาทิพย์ เพราะว่าเรายังไม่ได้ใช้ฌาน ๔ ถ้าใช้ฌาน ๔ ตัวนี้ไม่ต้องอธิบายเพราะมันออกไม่รู้ตัว เมื่อใช้กำลังของวิชชาสามกำลังลังอ่อนลง ไม่สามารถจะมีความเข้มแข็งแบบนั้นได้ ต้องใช้ความสังเกตเป็นเกณฑ์
ถ้าหากว่าศีลดี สมาธิดีพอสมควร ไม่มากนักการตัดสินใจด้านพระนิพพานน้อยเกินไป อย่างนี้ทิพจักขุญาณจะเกิดอย่างอ่อน เกิดความรู้สึกของใจ ความรู้สึกทางใจนี่มันจะมีความรู็สึกอันดับแรกว่าเป็นอะไรต้องตอบทันที ตัวแรกเป็นตัวแท้แล้วก็แน่นอน

http://www.larnbuddhism.com/grammathan/mano/naenam.html

 

แฮะ ๆ คุณน้องเขาบอกว่าเขายังไม่อยากนิพพานหนะครับ เขายังอยากช่วยชาวบ้านอยู่ก็เลยรู้ครับ ... ส่วนตัวผมเองไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นครับ ...:z2

 

กสิน ๑๐? : จะตั้งใจแลพยายาม

.....มีคนอยากฝึกมโนฯ กันเยอะเลยแฮะ สำหรับผมข่มจิตสมถะภาวนาไม่ผ่านความปวดเมื่อยล้าทางร่างกาย และหลังจากได้สนทนากับพี่ธีร์ พี่นน ทำให้เกิดความสนใจในกสิน ก็ได้หาโหลดกสิน ๑๐ ของหลวงพ่อพระราขพรหมยาน ฤาษีลิงดำมาฟังแล้ว
.....ผมอยากทราบว่า การเลือกฝึกกสิน ต้องตรงกับธาตุประจำตัวเราหรือเปล่าครับ จะได้ไปให้ผู้รู้ครูบาร์อาจารย์ดูทางโหราศาสตร์ ดูลักขณาตน ว่าผมธาตุอะไร หรือไม่จำเป็นต้องเลือกกสินกองที่ตรงกับธาตุตน? ขอคำแนะนำขอรับ

 

เอารูปที่วัดวังฯ ของหลวงพ่ออุตมะมาให้ชมค่ะ

รูปสุดท้ายเป็นท่านสิงห์ที่เฝ้าบันไดพระสยามเทวาธิราชค่ะ

 

ชอบอันไหนให้ทำอันนั้น
ถ้าชอบหลายอัน
ให้ทำสลากใส่กระบอก แล้วอธิษฐานหน้าองค์พระฯ ขอว่า กสินกองใดที่ข้าพระพุทธเจ้าเคยได้มาแล้วในอดีตขอให้หยิบได้อันนั้น

แต่ถ้าหากว่าอยากมีมโนฯแจ่มใสเป็นของแถม
ให้ฝึกกสินไฟ, กสินแสงสว่าง

ขออย่างเดียวว่า
ทำให้จริงเป็นพอ

เอาใจช่วยนะน้อง
;aa8

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 14 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 7 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>Sujinno, เด็กเมื่อวานซืน, cinderella2517, Schmeichel, yordnakorn, ดอกแก้ว, ธรรมคุณาลังการ

สาธุ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เสียดายรูปหมู่ที่ถ่ายรวมที่บึงลับแลจัง ไม่มีรูปนางซินอยุ่ด้วย เพราะมัวแต่เดินเถลไถลไปถ่ายรูปมุมอื่น (ดันมาถึงก่อนเขา เลยแอบหนีเที่ยว) ถ้าใครมีรูปของนางซิน รบกวน pm บอกหมายเลขบัญชีธนาคารด้วยนะคะ จะสนับสนุนค่า C/D และค่าจัดส่ง EMS จะฝากให้ write ลงแผ่น CD แล้วให้ส่งไปรษณีย์มาให้น่ะค่ะ พอดีว่าอยู่หาดใหญ่ เลยไม่สะดวกไปรับที่บ้านอนุสาวรีย์ค่ะ ถือว่าเมตตาคนแก่นะคะ หุหุ

ที่อยุ่ที่จะให้ส่งรูปก็ที่นี่เลยค่ะ
ศินิชา มีเหม็ง
85/12 ซอยเลื่อนอนุสรณ์ ถ.ราษฎร์อุทิศ
ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ สงขลา 90110

ยิ่งเห็นรูปแล้วยิ่งประทับใจ ในทุกเหตุการณ์ยังจำไม่ลืมค่ะ เดี๋ยวธรรมะจัดสรรค์เมื่อไหร่ ก็จะได้พบกันอีก

 

สวัสดีครับพี่หญิงหอบบุญกลับมาเลยทีเดียว^^ อนุโมธนา สาธุครับ