เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

เรื่องพลังแห่งคำพูดนี่ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันนะ ส่วนเรื่องชื่อนี่เดอะท็อปซีเคร็ตเค้าเขียนประมาณว่าชื่อแต่ละชื่อก็มีความสำคัญเหมือนสิ่งแทนตัวเองน่ะครับ อย่างเวลาบางคนเปลี่ยนชื่อน่ะครับนิสัยจะเปลี่ยนไปมากเลย ประมาณนั้นน่ะครับ
แล้วที่เหลือผมก็เดาเอาประมาณว่าจะเป็นไปได้มั้ยที่เวลาเราบอกว่าเราชื่ออะไรเค้าจะกำหนดบุคลิกของเราเพราะชื่อส่วนหนึ่งและส่งกระแสจิตไปตามชื่อของคนๆนั้นว่าเจ้าของชื่อจะต้องเป็นอย่างนั้นและถ้าเจ้าของชื่อต้องการจะเป็นอย่างงั้นจริงๆเค้าก็จะคล้อยตามความหมายของชื่ออีกทีนึงน่ะครับ
ผมก็เลยลองถามความเห็นของพี่นักเขียนนี่ครับว่าพี่นักเขียนคิดยังไง เพราะตอนแรกพี่นักเขียนก็ใช้ชื่อwriterแล้วเข้าไม่ได้เหมือนกัน พอเปลี่ยนเป็นnova analaiจึงเข้ามาในกระทู้นี้ได้ หรือเพื่อนๆมีความคิดเห็นยังไงก็ว่ามากันได้นะครับ

 

น้าน... หัวหน้า ลืมอีกห้องไปเรยยยย สงบมาตามค่ะ
มาห้องนี้ อ่านแล้วก็ออกไปเลยค่ะ ไม่ค่อยได้คุย เคยคุยแล้วไม่มีคนคุยด้วยอายเล็กน้อยเลยไปอยู่แต่ห้องฝันฯ (ฝันกันให้มันส์ไปเลย) มีหัวหน้าคอยเอาอกเอาใจอีกต่างหาก หงบแพ้คนเอาใจอ่ะค่ะ แหง่บๆ ฮิ้ววววว.... ฮ่า ฮ่า ล้อเล่น แต่.. เหมือนจริง อิ อิ
สำหรับเรื่องชื่อ คงมีส่วนอยู่มากเพราะตอนสมัครสมาชิก ใช้ชื่ออะไรก็ไม่ผ่าน มาได้ "สงบระงับ" ผ่านโลด ใครมีอะไรก็เล่ามานะค่ะสงบเก็บอ่านจนเกือบหมดแล้ว แต่บางคนมาแรกๆก็คุยตลอด ตอนหล้งก็หายหน้าไป สงสัยไม่ถูกจริต เลยเลิกคุยไปเลย ว่างั้นไหมค่ะ

 

เห็นมีคนถามบ่อยก็เลยลองๆ โพสมาให้ดูที ให้เห็นกันแว๊บๆ อิอิ

ส่วนเรื่องชื่อตอนสมัครไม่รู้จะใช้ชื่ออะไรก็ใช้ชื่อที่แว๊บเข้ามาในหัวนี่แหล่ะสมัครเลย ก็ไม่รู้ด้วยว่าความหมายหมายความว่าอะไร มารู้ทีหลังว่าคำว่า zipper มันก็มีความหมายแฮะ

 

แยกร่างไม่ทัน ฮ่าๆๆ ออกตามหาแบบนี้เดี๋ยวกลับไปแน่ครับ
ช่วงนี้พูดน้อยไม่ว่ากันนะ (งานเข้าครับ)
ทักทายกันตามอัทยาศัยนะครับ หน้าห้อง-หลังห้อง
เห็นว่าหลายๆคนต้องทำงานหนักขึ้นตามสภาพเศษฐกิจ
แต่ไงก็ขอให้ผ่านช่วงเวลาแบบนี้ไปได้อย่างสวยงามกันทุกคนครับ

เรื่องชื่อนี่ ถ้าพ่อ-แม่ หรือมีพระตั้งให้ตั้งแต่เกิดก็ถือเป็นชื่อมงคลครับ
ชื่ออาจมีผลกับความเชื่อกับผู้คนอื่นๆบ้างในแง่ของความหมายส่วนหนึ่ง
และความหมายนั้นจะดีเหมาะกับเราหรือไม่? ก็ไม่ใช้เรื่องที่ต้องกังวลครับ
การเปลื่ยนชื่อ หากว่าเราพอใจในความหมายหรือบุคลิกภาพใหม่ๆก็ทำได้
ถ้าเรารู้สึกว่าเป็นชื่อที่เราชอบส่วนตัวและเป็นแรงผลักดันที่ดีให้กับเราได้

ตอนพบกันครั้งแรกกับพี่นักเขียนฯ พี่เค้าก็บอกว่า สมกับชื่อ Mead มากๆ
แต่ก็ไม่รู้หรอกนะครับว่าทำไม (ไม่ได้ถามต่อ)
เพราะความหมายจริงๆเหมือนจะเป็นเหล้าองุ่น แต่ก็เป็นชื่อที่คิดว่ามีอะไรมากกว่านั้นครับ

บางคนก็บอกว่าคุณ Mead ในห้องวิทย์เป็นแบบหนึ่ง ตัวจริงก็เป็นอีกแบบนึง
คงจะมีหลายหลายบุคลิก ว่ากันไปตามที่รู้สึกส่วนตัว
แต่ส่วนมากจะบอกว่าดูเด็กกว่าในรูปมาก อิอิ (อันนี้ OK ครับ)
เรื่องนี้น่าสนใจมากไว้รอฟังจากพี่นักเขียนด้วยอีกคนครับ
คิดว่า ชื่อน่าจะมีอิทธิพลกับความเชื่อส่วนตัว
และสามารถเปลี่ยนแปลงดึงดูดความเชื่อระหว่างเรากับคนอื่นๆได้เหมือนกัน

 

HBD khun Mead

Happy Birthday khun Mead ..

ขอให้มีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลก และทางธรรม นะคะ

;aa41กระทู้ยอดนิยมลำดับที่ 7100 แล้วค่ะ ..


​

 

<table class="tborder" id="threadslist" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody id="threadbits_forum_2"><tr><td id="td_threadtitle_86527" images="" smilies="" in-love.gif="" border="0" alt="" title="<img src=" smilieid="22" class="alt1"> ขอต้อนรับทุกท่านสู่ห้องวิทย์ฯค่ะ (f) ผู้ที่ยังไม่ได้อ่านหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย ขอเชิญชวนให้ไปสำรวจข้อมูลและอ่านหนังสือบทที่ 1 ของทุกเล่มได้ที่ http://www.novaanalai.com/novaanalai/Index.html หรือฟัง Audio Book บทที่ 1-5 ของเล่มที่หนึ่ง โนวา อนาลัย ขยายความ ธรรมชาติของชาติภพได้ที่...">
แนะนำ เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer] (22 คน กำลังดูอยู่) ( 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ... หน้าสุดท้าย)
mead
</td> <td class="alt2" title="จำนวนตอบ: 7,100, จำนวนอ่าน: 236,064">

วันนี้ 03:26 PM
โดย Little Duck ​

</td> <td class="alt1" align="center">7,100</td> <td class="alt2" align="center">236,064</td></tr></tbody></table>

 

ฝันเหมือนกันเลย ฝันเห็นห้องเรียน และนักเรียนมากมายพยายามไขประตู เราก็เป็นคนหนึ่ง

 

เย้ วันนี้ความฝันจะเป็นจริงแล้ว จะได้ขึ้นเวทีแล้ว สู้ ๆๆๆ จัมโบ้เอ คิก ๆๆ

 

happy มากๆ นะครับคุณmead

 

ยืน-เดิน-นั่ง-นอน-สมาธิ

การทำสมาธิ คือ การอบรมจิต ฝึกฝนจิต ให้รู้จักจดจ่อและคิดไปในทิศทางที่เราต้องการ ไม่ใช่ปล่อยให้ จิต หรือจิตวิญญาณเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปอย่างสะเปะสะปะตามอารมณ์ คิดเรื่องต่างๆ ตามแต่มันจะผุดขึ้นมาในขณะจิต เสมือนลิงที่เปลี่ยนไปเกาะกิ่งไม้ กิ่งแล้วกิ่งเล่า โดยไร้การควบคุม ไร้เป้าหมาย แต่ไปตามอารมณ์ หรือสิ่งแวดล้อมภายนอก

อีกนัยหนึ่งได้ว่า การทำสมาธิ คือ การกำหนดวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณ ให้จดจ่อไปในทิศทางที่เราต้องการ คือไปในทิศทางที่เราใฝ่รู้ ต้องการจะรู้

หากปราศจากการอบรมฝึกฝนจิต จิตวิญญาณของเราจะเปลี่ยนวิถีการจดจ่อไปเสมอๆ ตามธรรมชาติ เพื่อไปรู้เห็นอดึต-อนาคต และเส้นทางแห่งความเป็นไปได้อื่นๆ เพื่อนำข้อมูลทั้งหมดมาใช้สร้างสรรค์ปัจจุบัน แต่การรู้เห็นเหล่านั้นจะกลายเป็นการเห็นสะเปะสะปะโดยไม่รู้ตัวว่า กำลังรู้เห็นอะไร และรู้เห็นไปทำไม เพราะเราปราศจากเป้าหมาย ปราศจากคำถาม แต่คำตอบกลับผุดขึ้นมา โดยที่เราไม่รู้ได้ว่า มันคือคำตอบสำหรับคำถามใด เป็นคำถามที่เราเคยถามไปตั้งแต่เมื่อไร

การทำสมาธิจึงนอกจากจะเป็นสิ่งที่ทำได้ทุกวันแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ควรจะทำทุกวันจนเป็นนิจนิสัย
เพราะหากเราศึกษาข้อมูลความรู้มากมายจากหนังสือของท่านอาจารย์อนาลัย แม้เราก็จะเต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย แต่หากปราศจากการฝึกอบรมจิต จิตวิญญาณของเราก็จะปราศจากทักษะ ที่จะนำข้อมููลความรู้เหล่านั้นไปใช้

หนังสือชุดนี้ให้ข้อมูลความรู้แก่เรา แต่ไม่อาจให้ทักษะแก่เราได้ เราทุกคนจึงจำเป็นต้องฝึกสมาธิ เพื่อเสริมสร้างทักษะในการเปลี่ยนวิถีการจดจ่อของจิตวิญญาณ เพื่อช่วยให้เราสามารถนำข้อมูลความรู้ทั้งหลายมาใช้ได้ทั้งในโลกภายใน-และโลกภายนอก

พี่น้กเขียนได้แนะนำให้พวกเรานอนสมาธิ และแนะนำให้ทำสมาธิเพื่อรักษาโรค เพราะเชื่อว่าพวกเราที่สนใจการทำสมาธิจะคุ้นเคยกับการเดินสมาธิ(เดินจงกรม)และการนั่งสมาธิไม่มากก็น้อย จึงได้หันมาเน้นการนอนสมาธิเพิ่มเติมขึ้นมาอีก เพื่อให้พวกเราตระหนักได้ว่า การทำสมาธินั้น ทำได้ทุกอิริยาบท คือ ยืน เดิน นั่ง นอน

ยืน --------------เดิน


นั่ง------Full-lotus --------Half-Lotus -------Cross-legged


นอนตะแคง -------------------------------------------นอนหงาย

ไม่ว่าเราจะ ยืน เดิน นั่ง นอน ด้วยท่าใดๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำให้ร่างกายของเราอยู่ในภาวะสมดุลย์ รู้สึกปลอดภัยทั้งกายและใจ อยู่ในท่าที่ผ่อนคลายกล้ามเน้ือได้ทุกส่วน ผู้ที่เลือกนั่งสมาธิด้วยท่าขัดสมาธิ เช่น Full-lotus หรือ Half-lotus หรือ ขัดสมาธิธรรมดาๆ หรือนั่งเก้าอี้
จำเป็นต้องเลือกท่าที่เราสามารถผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วนได้อย่างดีที่สุด คำตอบสำหรับคุณน้อง fidgi คือ หนุนหมอนได้ตามต้องการ หากเป็นท่านอนที่สบายและผ่อนคลายที่สุดสำหรับคุณน้องค่ะ

ท่า Fulll-lotus หรือ Half-lotus เป็นท่าที่มีประโยชน์มาก เพราะเป็นท่าที่ช่วยให้พลังงานสามารถเดินผ่านกระดูกสันหลังได้อย่างเป็นธรรมชาติที่สุด แต่ทุกวันนี้ คนสมัยใหม่คุ้นเคยกับการนั่งเก้าอี้ หรือนั่งกับพื้นด้วยการขัดสมาธิธรรมดๆกันจนชินตั้งแต่เล็ก ทำให้กล้ามเนื้อของเราไม่คุ้นเคยกับท่านั่ง Fulll-lotus หรือ Half-lotus

การพยายามทำสมาธิด้วยสองท่านี้ สำหรับบางคนแล้ว จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะกลายเป็นท่าที่ทรมานร่างกายจนไม่อาจจดจ่อกับการฝึกฝนจิตได้ นักเรียนสมาธิชาวอเมริกันยิ่งไม่คุ้นเคยกับการนั่งกับพื้นเช่นชาวไทย พวกเขานั่งไม่ได้แม้แต่ท่านั่งขัดสมาธิธรรมดาด้วยซ้ำไป โดยเฉพาะผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือมีปัญหาเกี่ยวกับไขข้อ-หัวเข้า ข้อเท้า เอว หลัง สะโพก จำเป็นต้องอยู่ในท่านั่งเก้าอี้ หรือนอน

ดังนั้นท่าที่สบายและช่วยให้เราสามารถผ่อนคลายได้อย่างดีที่สุด คือท่าที่เราควรใช้ฝึกสมาธิ เพราะจะช่วยลดภาระและความกดดันทางร่างกายไปได้ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหากสามารถฝึกท่านั่ง Fulll-lotus หรือ Half-lotus ได้ ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะช่วยให้เราสามารถรักษาสุขภาพได้พร้อมกันกับที่ฝึกอบรมจิต แต่ถ้านั่งสองท่านี้ไม่ได้ ท่านอนก็เป็นท่าที่ดีและใช้การได้ไม่น้อยไปกว่ากัน

ภาพวาด อาบัง ชุดนี้ มาจากหนังสือชื่อ Samadhi- Eastern Theory for Western Practice เป็นหนังสือสอนให้ทำสมาธิด้วยตนเองที่พี่นักเขียนเขียนเป็นภาษาอังกฤษ ใช้มาหลายปีแล้ว และเพิ่งจะนำมาปรับปรุงเป็น edition ที่ 4 อีกไม่นานจะเขียนเป็นภาษาไทยอีกชุดหนึ่งค่ะ ที่จริงแล้วนางแบบคือ Rebecca เพื่อนรักของพี่นักเขียน เขายอมเป็นนางแบบทำท่าต่างๆให้พี่นักเขียนถ่ายภาพ แต่เขามีความเห็นว่า หนังสือชุดนี้ควรใช้ภาพประกอบให้ดูเป็น Eastern ตามชื่อหนังสือ และบอกพี่นักเขียนว่า หากได้นายแบบเป็นโยคี หรือ เป็นนางแบบหุ่นดีๆแบบพวกเล่นโยคะก็น่าจะดี ผลเลยออกมาเป็นอย่างนี้แหละค่ะ และเจ้าตัวบอกว่าชอบมากกว่าภาพถ่าย เพราะภาพประกอบอื่นๆในเล่ม เป็น style เดียวกันทั้งหมด ทำให้หนังสือดูไม่ค่อยจะหนักเท่าไร มีผลต่อผู้อ่านในแง่บวกได้พอสมควรค่ะ

หวังว่าพวกเราคงจะให้ความสำคัญกับการทำสมาธิ และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอจนเกิดทักษะ เพราะที่สุดแล้ว เราจะพบว่า เราจำเป็นต้องใช้สมาธิ เพื่อเอาตัวรอดจากภาวะทางกาย-ทางจิต ไม่มากก็น้อยตลอดชีวิต หากปราศจากทักษะ แม้จะมีข้อมูลความรู้มากมายเพียงใด เราก็จะไม่สามารถนำมาใช้อย่างได้ผลและทันท่วงที

ตนคือที่พึ่งแห่งตน

วันนี้คุณฝึกสมาธิแล้วหรือยัง?(rose)

 

Happy Birthday

ขอกล่าว สุขสันต์วันเกิด ย้อนหลัง แต่คุณ Mead และคุณ ธรรมจิตต์ ครับ
ช่วงวันหยุดที่ผ่านมาเจ็ดวันไม่ได้เข้าเน็ตเลย
เป็นช่วงของการรับประสบการณ์ (ที่ไม่ได้อยากได้สักหน่อย) ของคนเจ็บ
เพราะได้รับอุบัติเหตุจากรถ (จักรยานยนต์) ที่โดนสุนัขวิ่งมาชน
จากนั้นก็รถก็ล้มทับทั้งสุนัขและคน พอออกมาได้ก็เห็นสุนัขโดนทับอยู่
ด้วยความเป็นห่วงกลัวว่ามันจะตายก็เลยรีบไปยกรถออกให้มัน
ก็เลยโดนกัดเข้าให้แถมท้าย เลยต้องฉีดยาทั้งกันบาดทะยักและพิษสุนัขบ้า
อุบัติเหตุของ VeggieGuy ครั้งนี้เลยกลายเป็น Funny Accident ในที่ทำงานไปเลย

วันที่ 28 นึกถึงหน้าคุณ Mead แต่ก็ลืมไปว่าเป็นวันเกิด (โถ)

 

คุณนักเขียนคะมีคำถามค่ะ ตอนนี้จินต์เริ่มทำนอนสมาธิที่คุณนักเขียนสอน แต่ไม่ใช้ซีดีเพลงซิงเกิลโบล์ว เนื่องจากขาดอุปกรณ์ ขอเรียนถามเพิ่มเติมว่า ควรกำหนดแต่ละจุดนานเท่าไรคะ (ประมาณเป็นกี่นาทีคะ) เพราะตอนทำกำหนดมั่วไม่รู้นานเท่าไร กำหนดจนหลับไปเลยค่ะ แต่เป็นเหมือนคนอื่นคือชอบคันยิบ ๆ สร้างความรำคาญและกวนสมาธิเราดีแท้ สู้นั่งทำไม่ได้ ถูกธาตุและจิตเป็นสมาธิดีมาก

พี่นักเขียนคะ ส่วนใหญ่พี่นักเขียนสอนให้พวกนักเรียนกำหนดตรงไหนคะ ที่ลมหายใจ ที่กึงกลางลำตัว และตัวกำกับมีไหมคะ อย่างเช่นพุทธโธ หรือยุบหนอ พองหนอ หรือแค่วางจิตไว้ตรงที่เรากำหนดโดยปราศจากตัวกำกับ (งงไหมคะ คนถามยังงง ๆ เหมือนกันเลย) fficeffice" /><O></O>


เมื่อคืนฝันแปลกดี ฝันว่าได้ไปยืนดูภาพหลายภาพบนฝาผนัง แต่ละภาพเป็นภาพเทพผู้ยิ่งใหญ่ตามความคิดของเรา ขณะกำลังดูปรากฏชายแต่งตัวเหมือนพระจีน จี้กง จีวรเหลืองมาจับเราเหมือนบังคับไปยืนอยู่หน้าภาพหนึ่ง บอกว่า นี่คือตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของเรา พร้อมพาเราไปดูภาพการ์ตูนอีกหลายชุดบนฝาผนัง ทุก ๆภาพการ์ตูนต่างก็กำลังดำเนินเรื่องราวของมันไปพร้อม ๆ กันทุกเรื่อง เราก็บอกว่า รู้แล้วมันก็วนไปวนมาอยู่อย่างนั้นน่ะแหละ เขาพาไปดูภาพต้นไม้ บอกว่าเป็นต้นไม้แห่งชีวิต ทุกสิ่งมีชีวิตอุบัติขึ้นจากตรงนี้ เป็นภาพสิ่งมีชีวิตทั้งคนและสัตว์อุบัติขึ้นมา เขาบอกว่าจะพาไปดูการอุบัติขึ้นของเรา เราก็รอดู แต่เขากลับไม่ให้ดู ได้แต่พูดว่า เราอุบัติเป็น สองบวกหนึ่ง ตัวตนส่วนที่หนึ่งของเราสามารถระลึกรู้ถึงตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของตัวเองได้ดี แต่ยังมีอีกตัวตนหนึ่งที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าเลย แถมแนะนำงานใหม่ให้ด้วย ว่าถ้าอยากประสบความสำเร็จต้องทำอย่างนี้ เวลาตื่นขึ้นมาต้องมากรองอีกที เพราะเอาภาวะจิตไปผสมเพียงเลย ฮ่า ๆๆๆ

 

ยังดีนะครับ หวังว่ารถจักรยานยนต์คงไม่เป็นอะไรมาก
อ้อ..ไม่ใช่สิ..คุณเบิ้มกับเจ้าสุนัขต่างหาก ไปช่วยเขาแต่โดนเขากัดเข้าให้
ยังไงก็ต้องช่วยนะครับ เค้าพูดไม่ได้ว่าเจ็บตรงไหน ถ้าพูดได้จริงคงวิ่งหล่ะ (อิอิ)
ถือเป็นประสบการณ์หนึ่งที่เป็นวีรกรรมเล็กๆแต่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่น้อยเลยครับ

เพื่อนๆก็ถามหากันอยู่เลยครับ มาชวนวาดรูปแล้วก็หายต๋อมไป
ขอให้แผลหายไวๆ และขอบคุณสำหรับคำอวยพรจากเพื่อนๆทุกคนด้วยครับ

คุณเอ ฝันน่าสนใจมากมีพระจีนพาไปดูภาพอะไรๆต่างๆตามฝาผนัง
มีภาพต้นไม้แห่งชีวิตด้วย ทำให้ถึงภาพที่พี่นักเขียนฯอธิบายเรื่องภพชาติเลย
ยังมีอีกตัวตนหนึ่งที่กำลังก้าวตามมาอีกคน ถึงจะล้าหลังหน่อยก็ต้องช่วยประคับประคองกันไปนะครับ
(แล้วจับโบ้ เอ..จะไปขึ้นเวทีไหนล่ะครับ +AF รึเปล่า อิอิ)

 

คุณมี้ดไม่ได้ไปขึ้นเวทีเอเอ๊ฟที่ไหนหรอกค่ะ แค่ร้องเพลงในงานสังสรรค์ที่มีการจัดจ้างไว้ ตอนขึ้นก็อธิษฐานขอพลังตัวตนที่เป็นนักร้องอาชีพมาช่วยหน่อย ตอนขึ้นขาสั่นเหมือนกันเพราะร้องต่อหน้าคนเยอะมาก และไม่มีการซ้อมมาก่อน แต่พอขึ้นแล้วกลับทำได้ดีกว่าที่คิด ทำให้แปลกใจตัวเองเช่นกันเหมือนไม่ใช่เราเลย

ส่วนความฝัน จินต์ว่าตัวตนที่ล้มเหลวไม่เป็นท่าจะเป็นตัวตนภายนอกอย่างจินต์มากกว่าล่ะมั้ง ส่วนตัวตนภายในยังไงเขาย่อมมีความรู้ถึงตัวตนรวมอยู่แล้ว ว่าแล้วก็ขำไอ้บวกหนึ่งน่ะ มันแปลว่าอะไรหว่า หุ หุ

 

นั่ง------Full-lotus --------Half-Lotus -------Cross-legged

ท่านั่งขัดสมาธินี้ตะวันออกเราคุ้นเคยดีนะครับ คนทางตะวันตกไม่ง่ายเลยต้องใช้เวลาฝึกฝนกันสักพัก
ในสามท่านั่งนี้ ต่างกันที่การวางตำแหน่งมือกับการวางขานะครับ
ท่าแรกดูจะเกร็งๆและปวดเมื่อยเอาเรื่องออกแนวโยคี อันนี้ไม่ค่อยถนัด
ท่าที่สองดูคุ้นเคยเพราะพระสงฆ์ในบ้านเราก็นั่งท่านี้กันเยอะมาก
ท่าที่สามดูผ่อนคลายสบายดีครับ เป็นแนวพลังจักรวาล (จะนั่งได้บ่อยๆ)
การวางมือก็มีหลายรูปแบบด้วย เช่น ต่อมือชนกันเพื่อโคจรพลัง แบมือรับ-ส่งพลัง โอริงฯ มีสารพัดเลย
แต่ก็อย่างที่พี่นักเขียนบอกไว้ว่าทุกๆท่าล้วนมีเป้าหมายเพื่อการควบคุมจิต
เพื่อเหนี่ยวนำพลังงานและความรู้มาใช้ในโลกของความเป็นจริงเช่นเดียวกันหมด
หนังสือสมาธิ (ภาคภาษาไทย) ของพี่นักเขียนฯ
ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยครับ (โดยเฉพาะวาดภาพประกอบ ถนัดสุด)
ที่ทำออกมาก็ดูน่ารักดีแล้วครับ+

 

พออ่านเรื่องความฝันกับโรงเรียนของพี่นักเขียนแล้ว ก็คิดถึงความฝันของตัวเอง เพราะฝันบ่อยครั้งที่เกี่ยวกับโรงเรียน ซึ่งตรงกับที่พี่นักเขียนแนะนำไว้ คือบางครั้งก็ฝันว่าเปลี่ยนชุดนักเรียน บางครั้งเป็ฯชุดที่เหมาะกับตัวและบางครั้งก็ไม่เหมาะ มีบางครั้งคือเรื่องรองเท้าคือหารองเท้าที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้ ไม่เคยแปลความหมายออกเลย พอได้อ่านที่พี่โพสต์ไว้ทำให้เข้าใจที่แท้จิตวิญญาณเรายังเลือกเส้นทางไม่ได้ บางครั้งก็ใส่รองเท้าที่ขนาดไม่เหมาะกับเท้าตัวเองบ้าง บางครั้งก็หาเสื้อใส่ไม่ได้ ที่แท้ช่วงนี้เป็นช่วงที่จิตวิญญาณพิจารณาตนเองหลังความตายนั่นเอง จินต์อยากใช้ประโยชน์จากความฝันในชีวิตประจำวันมากกว่านี้จัง โดยเฉพาะทางเลือก บางทีคิดว่าจะมีสักวันไหมนะ ที่ชีวิตตัวเองจะตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่พร้อมกับชาติภพใหม่ โดยตัวของเราไม่รู้เห็นรอยต่อของมันเลยfficeffice" /><O></O>
<O></O>
การนอนของสมาธิที่พี่นักเขียนแนะนำ น่าจะคล้ายกับการเดินลมปราณหรือเปล่า เพราะทำให้พลังงานสามารถเคลื่อนย้ายผ่านจักระทุกจุดได้ <O></O>
<O></O>
ป.ล. ถ้ามีใครเมตตาอัดซีดีเพลงซิงเกิลโบล์วให้จินต์สักชุดก็ดีน่ะสิ บางครั้งสิ่งง่าย ๆ ของคนอื่นก็เป็นเรื่องที่ยากสำหรับเราเหมือนกันนะ<O></O>

 

คุณจินต์พูดเหมือนอยากเริ่มต้นมีชีวิตใหม่เลยนะครับเนี่ย
เวลาที่ผ่านมาก็คงเหมือนต้นทุนแห่งประสบการณ์ การกลับไปแก้ไขใหม่คงไม่ง่ายเลย..ถ้าจะเปลื่ยนชุดทำงานก็ต้องไปสวมชุดใหม่ๆ อาจเป็นมิติอื่นๆหรือรูปแบบอื่นไปอีก ตอนนี้เราทำวันนี้และพรุ่งนี้ให้ดีขึ้นไปเป็นลำดับ..สบายใจครับ มีโอกาสก็ช่วยเหลือผู้อื่นที่เค้าเป็นยิ่งกว่าเรา แล้วชีวิตจะมีคุณค่าอย่างบอกไม่ถูก ชีวิตนั้นไม่ยากอย่างที่คิด คงเป็นเพราะความคิดทำให้สับสนมากกว่า จัมโบ้เอซะอย่าง...เรื่องแบบนี้สบายมากนะครับ อิอิ

มีเพื่อนคนหนึ่งเค้ามีลูกชายที่ไม่สมประกอบ สมองพิการแล้วก็มีอารมณ์เกรี้ยวกราดเป็นบางครั้ง ก็มารำพึงให้ฟังว่าไม่อยากอยู่แล้ว ความตายก็ไม่กลัว อยากจะไปตอนนี้ด้วยซ้ำ คือเค้ามักจะคิดสั้นบ่อยๆกับเรื่องนี้..แล้วก็เชื่อว่าลูกคนนี้เป็นเจ้ากรรม-นายเวรของเค้าด้วย..ถามเค้าว่ารักลูกมั๊ย เค้าบอกก็รัก..ถ้ารักก็ต้องดูแลเค้าให้ถึงที่สุดสิ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น แต่อย่าคิดสั้นเลย เดี๋ยวเรื่องนี้ก็จะวนกลับมาให้ตัดสินใจใหม่อีกไม่รู้จักจบ ถ้ามองในมุมของจิตวิญญาณเรื่องพวกนี้แทบจะเป็นเรื่องสนุกไปเลยครับ กับความเป็นจริงที่ต้องเผชิญ เพื่อมาหาประสบการณ์ที่เป็นจริงบนโลกใบนี้ร่วมกัน เหมือนนัดกันมา จูงกันมาเกิด ควรนึกว่าเค้าเป็นของ"ขวัญจากฟากฟ้า"แบบเพลงที่ลูกเกดแต่งไว้คงจะดี..เลยให้ยืมหนังสือ "อิสระแห่งความปราถนา" ไปอ่านเล่มนึง คงจะช่วยเปลื่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ได้ไม่มากก็น้อย หวังว่าเค้าจะพบทางเลือกใหม่ๆโดยเร็ว

ชีวิตที่ก้าวเดินไป ต้องพบเจอเหตุการณ์สนุกๆรายทางแบบนี้ ขอให้สนุกกับชีวิตครับ
"โลกของเรามีกี่ใบ และโลกของใครควรปกป้อง..."



Kokopelli สัญลักษณ์แห่งการเกิดใหม่

 

ขอบคุณคุณมี้ดสำหรับกำลังใจ จินต์ยังรักที่จะหาประสบการณ์ผ่านร่างกายตัวตนนี้อยู่ค่ะ เพียงแต่จินต์อยากจะพลิกผันผันเหตุการณ์ทางกายภาพบางอย่างให้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือภายในชั่วข้ามคืน คล้ายกับการเกิดใหม่เท่านั้นน่ะค่ะ หัวหน้าเราจิตใจดีอย่างนี้นี่เอง ไม่น่าห้องนี้ถึงดึงดูดแต่คนดี ๆ เข้ามาfficeffice" /><O></O>

 

เคยคิดเหมือนกันค่ะ บางทีพอเรามึนๆกับชีวิต แบบแก้ปัญหาไม่ตก
การหนีก็ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง การพยายามฝึกฝนและเปลี่ยนความเชื่อ ก็ต้องใช้เวลา และก็ไม่ง่ายนัก

บางที เดรดก็คิดนะ ก่อนนอนนึกว่า เอ...ถ้าพรุ่งนี้ ชีวิตเราเปลี่ยนไปเลยละ
แบบข้ามชาติ ข้ามภพไปเลยละ มันจะดีกว่านี้ไหม หรือแย่กว่าหว่า???
เพราะเราไม่รู้ว่าจะเรา random ไปเจอชาติไหน...ตามวิถีการจดจ่อ

แต่...ถ้าเกิดมันเปลี่ยนของมันอยู่แล้วละ เราจะรู้ได้ไง...??
เพราะเราไม่มีทางจำภพชาติเดิม ของเราได้แน่ๆ
ทุกวันนี้ ที่เราตื่นขึ้นมา มันอาจเป็นภพชาติ ใหม่เรื่อยๆก็ได้นะคะคุณจินต์...ว่ามะ
ภพชาติที่เรา มีข้อมูลอยู่...ก็คือ โลกแห่งความเป็นจริงที่เราเป็นไป ดำเนินไป

สงสัยมานานแล้วเหมือนกัน เพราขณะที่ร่างกายเกิด ดับไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่
เรายังหารอยต่อมันไม่เจอเลย
...อือ เขียนไปเขียนมา เริ่มมึน อีกแระ

ทิ้งไว้เป็นปริศนาแล้วกัน...มีใครสามารถอธิบายได้ดีกว่านี้ บ้างไหมคะ

อ้อ...เรื่องเพลงทำสมาธิ เดรดไรท์ซีดี ไว้แล้ว ถ้าคุณจินต์ต้องการ เดี๋ยวไรท์ ให้ก็ได้ค่ะ
ส่งที่อยู่ หลังไมค์ เลยค่ะ เดี๋ยวจัดให้...

 

เดรดได้รับ e-mail จากน้องลูกเกด เราคุยกันถึง ความทุกข์ และสุข
เกด แนบข้อความบางอย่างที่พี่นักเขียน กล่าวไว้ ขออนุญาตินำมาลง
เพราะ เดรดรู้สึกว่า มันโดนใจเหลือเกิน

".......ประสบการณ์ชีวิตพร้อมด้วยความเชื่อว่า เมื่อเราทิ้งความสุขสบายส่วนตน
เพื่อบรรลุเป้าหมายอันได้แก่ความสุขและความสำเร็จของผู้อื่น
เราจะพบความน่าสนเท่ห์ของชีวิต
และพบคุณค่าชีวิตอันน่าเทิดทูนเสมอ และบ่อยครั้งชีวิตที่มีคุณค่านั้นๆก็ให้รางวัลเราทางอ้อม

คำว่าเหงาเล่นตลกกับเราได้หลายรูปแบบ
บางคนอาจเรียกความเหงาชนิดนี้ว่า อยู่ไม่สุข หรืออยู่ดีไม่ว่าดีก็ได้นะ
แต่ไม่ว่าใครจะเรียกมันว่าอะไร ........เราทุกคนเกิดมาเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น

และรางวัลชีวิตอันสูงสุด คือ การเห็นผู้อื่นมีความสุข มีความสำเร็จ
อันเกิดจากการสนับสนุนของเรา
คนที่ทุกข์จัด คือ คนที่มัวแต่คิดถึงแต่ตนเอง มัวแต่หาความสุขให้ตนเอง"

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณ mead...