ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ตื่น!บางแสน น้ำเปลี่ยนสี ปลาเกยตื้นจำนวนมาก </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันนี้(12 ต.ค.) ที่บริเวณชายหาดบางแสน จ.ชลบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า

    นักท่องเที่ยวหลายคนตกใจกับปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี และสัตว์น้ำทะเลตายเกลื่อน จากการสอบถาม ชาวบ้านละะแวกนั้น ทราบว่า
    เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นสาเหตุน่าจะมาจากน้ำจืดที่สะสมในทะเลมีมากเกินไปและไหลเข้าฝั่ง จึงทำให้ปลา และสัตว์น้ำทะเลที่หากินบริเวณชายฝั่งขาดอากาศหายใจตาย ส่วนปลาที่ตายนั้นสามารถนำมาทำกินได้ตามปกติ เพราะทุกปีที่หาดบางแสนแห่งนี้จะมีครั้งเดียว และหลังจากนั้น 2-3 วัน ฝูงปลาก็จะหายไป

    ขณะเดียวกันด้านเทศบาลเมืองแสนสุข ได้ออกประกาศทางสายแจ้งให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทราบว่า

    น้ำทะเลที่มีสีเปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีแดงนั้นยังคงลงเล่นได้ตามปกติ เพียงแต่ว่าสีน้ำทะเลจะมีสีออกแดงเล็กน้อย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์จากธรรมชาติที่หาดบางแสนจะได้รับทุกปี ส่วนปลาที่ขึ้นมานั้น สามารถจับปลาไปรับประทานได้ แต่ขอให้ควรระวังปลาที่มีเงี่ยง อาทิเช่น ปลากระเบน ปลาดุก และปลาอีกหลายชนิด ที่มีพิษเวลาโดนแทงจะเกิดอาการเจ็บปวดมาก บางรายถ้าแพ้ต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาทันที และควรใช้อุปกรณ์มาจับหรือตักเพื่อความปลอดภัย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>ด้าน นายวรเทพ มุธุวรรณผอ.สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา กล่าวว่า

    ตนได้มาสังเกตการณ์ในช่วงเช้าแล้ว พบว่าแพลงตอนซึ่งเป็นพืชกำลังเจริญเติบโตไปทั่วบริเวณชายหาด เนื่องมาจากแพลงตอนได้รับสารอาหารจากการปล่อยน้ำเสียของชุมชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี รวมทั้งได้เกิดฝนตกหนักชะล้างของเสียลงทะเล ประกอบกับช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาแสงแดดแรงมาก ทำให้พืชเกิดการสังเคราะห์สารอาหาร ทำให้แพลงตอนเจริญอย่างรวดเร็ว

    เมื่อแพลงตอนขยายตัวอย่างเต็มที่และใช้ออกซิเจนในน้ำจนหมด ก็จะตายลง ช่วงนี้จะเกิดผลกระทบต่อสัตว์น้ำทะเล ที่อาศัยอยู่หน้าดินไม่มีอากาศหายใจและตายลง
    ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดหมุนเวียนเป็นประจำทุกปี อาจจะเกิดปีละหลายครั้งแล้วแต่วงจรของแพลงตอนจะสมบูรณ์หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาวิธีป้องกันได้ ต้องปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ

    อย่างไรก็ตามวิธีการป้องกัน

    สามารถทำได้โดยรณรงค์ให้ประชาชนไม่ทิ้งน้ำเสียลงทะเล หรือต้องได้รับการบำบัดน้ำเสียก่อนจะทิ้งลงทะเล ซึ่งจะทำให้แพลงตอนไม่มีสารอาหาร ทำให้การเจริญเติบโตช้าลงปรากฏการณ์ก็จะเกิดน้อยลง ซึ่งปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีหรือขี้ปลาวาฬที่เกิดขึ้น ไม่เป็นอันตรายกับผู้ที่ลงเล่นน้ำทะเล ส่วนแพลงตอนจะเป็นชนิดใดนั้นกำลังให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอีกครั้ง.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>
    ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. Famnakub

    Famnakub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,677
    -ขอให้ปู่เย็นหลับสบาย ชั่วชีวิตหนึ่งของคนเดินดินธรรมดามีคนกล่าวถึง ยกย่องได้เพียงนี้ ก็น่าภาคภูมิใจแทนคนเพชรบุรี หลับให้สบายนะคะ ชีวิตปู่จะเป็นอีกตำนานของคนทรนง
     
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    นักวิชาการยันน้ำทะเลบางแสนเปลี่ยนสีเป็นวงจรธรรมชาติ

    [​IMG]

    ชลบุรี 12 ต.ค.- ผอ.สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา ระบุน้ำทะเลบางแสนเปลี่ยนสี หรือขี้ปลาวาฬ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่มีน้ำเสียจากชุมชนร่วมด้วย ทำให้แพลงตอนเติบโตเร็วขึ้น ย้ำไม่เป็นอันตรายยังเล่นน้ำได้ตามปกติ

    นายวรเทพ มุธุวรรณ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา เปิดเผยถึงน้ำทะเลชายหาดบางแสน อ.เมือง จ.ชลบุรี เปลี่ยนเป็นสีแดงขุ่นว่า จากการสังเกตสภาพน้ำพบว่าแพลงตอนเจริญเติบโตทั่วบริเวณชายหาด เนื่องจากได้รับสารอาหารจากการปล่อยน้ำเสียของชุมชน และฝนที่ตกหนักชะล้างของเสียลงทะเล ประกอบกับช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา แสงแดดแรงมาก ทำให้พืชเกิดการสังเคราะห์สารอาหาร แพลงตอนจึงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ถือว่ายังไม่เกิดผลกระทบรุนแรงต่อสัตว์น้ำ แต่ถ้าแสงแดดยังแรงอยู่ คาดว่า 5-7 วัน เมื่อแพลงตอนขยายตัวเต็มที่และใช้ออกซิเจนในน้ำจนหมด แพลงตอนจะตายลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเลไม่มีอากาศหายใจและตายลง

    อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดหมุนเวียนเป็นประจำทุกปี อาจจะเกิดปีละหลายครั้ง แล้วแต่วงจรของแพลงตอนจะสมบูรณ์หรือไม่ คือ แสงแดด และอาหารพอเพียง ก็จะเกิดเหตุการณ์ขี้ปลาวาฬ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาวิธีป้องกันได้ ต้องปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ

    ส่วนวิธีป้องกันสามารถทำได้โดยรณรงค์ให้ประชาชนไม่ทิ้งน้ำเสียลงทะเล หรือต้องผ่านบำบัดน้ำเสียก่อนจะทิ้ง ซึ่งจะทำให้แพลงตอนไม่มีสารอาหาร การเติบโตช้าลง ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดน้อยเช่นกัน

    นายวรเทพ ยืนยันด้วยว่า ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หรือขี้ปลาวาฬ ไม่เป็นอันตรายกับผู้ที่ลงเล่นน้ำทะเล ส่วนแพลงตอนจะเป็นชนิดใดนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่. - สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 14:27:24

    ชาวชุมชนริมฝั่งแม่น้ำมูลยังเดือดร้อน หลังถูกน้ำท่วมนานกว่า 3 สัปดาห์

    [​IMG]

    อุบลราชธานี 12 ต.ค. - ชาวชุมชนริมฝั่งแม่น้ำมูล จังหวัดอุบลราชธานี ยังเดือดร้อนหนักหลังบ้านเรือนถูกน้ำท่วมนานกว่า 3 สัปดาห์

    สถานการณ์น้ำท่วม 27 ชุมชน พื้นที่อำเภอเมือง และวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านยังคงเดือดร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะชุมชนท่าบ้งมั่ง และชุมชนเกตุแก้ว ซึ่งถูกน้ำท่วมขังสูงประมาณ 1 เมตร นานกว่า 3 สัปดาห์ ชาวบ้านต้องใช้เรือสัญจรเข้า-ออก ระหว่างหมู่บ้าน และอาบน้ำจากน้ำที่ท่วมขัง ทำให้ป่วย โรคผื่นคันตามร่างกาย และน้ำกัดเท้า รวมทั้งป่วยเป็นโรคเครียด

    สำนักงานชลประทานที่ 5 จังหวัดอุบลราชธานี รายงานว่าปริมาณน้ำที่จะไหลมารวมกัน ที่จังหวัดอุบลราชธานี จะสูงสุด วันที่ 14-15 ตุลาคมนี้ แต่หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีก คาดว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำมูลจะลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง. -สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 10:06:17

    ฉี่หนูระบาดอีสานตอนบนป่วยกว่า 600 ราย

    [​IMG]

    ขอนแก่น, เลย 10 ต.ค.- สคร. 6 ห่วงปัญหาโรคฉี่หนูระบาดสูง 8 จังหวัดอีสานตอนบน เผย 9 เดือน ป่วยกว่า 600 ราย เสียชีวิต 11 ราย เน้นย้ำเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับโรคอย่างจริงจัง ด้าน สสจ.เลย พบพื้นที่ระบาดมาก อ.ด่านซ้าย และวังสะพุง

    นพ.ณรงค์ วงศ์บา ผู้อํานวยการสํานักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จ.ขอนแก่น (สคร.6 ขอนแก่น) เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน พบผู้ป่วยโรคเลปโตสไปโรสซิส หรือฉี่หนู ในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนบน คือ ขอนแก่น อุดรธานี หนองคาย เลย ร้อยเอ็ด หนองบัวลําภู มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ จำนวน 607 ราย เสียชีวิต 11 ราย ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและสังเกตอาการของโรค โดยคิดว่าเป็นอาการป่วยไข้ธรรมดา จึงหายารับประทานเอง และจะไปพบแพทย์เมื่อมีอาการหนักมาก ทำให้รักษาไม่ทันและเสียชีวิต ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

    ด้าน นายวิวรรธน์ ก่อวิริยกมล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย กล่าวว่า โรคฉี่หนูเป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียมาจากปัสสาวะของหนู หรือสัตว์ที่ติดเชื้อและปนเปื้อนอยู่ตามน้ำ ดิน และทรายที่เปียกชื้น หากร่างกายมีบาดแผลหรือรอยขีดข่วน เมื่อลงย่ำน้ำเป็นเวลานาน เชื้อสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ ซึ่งตั้งแต่เดือนมกราคม-6 ตุลาคม พบผู้ป่วยโรคฉี่หนู 62 คน เสียชีวิต 1 ราย มากสุดอยู่ที่ อ.ด่านซ้าย 14 ราย และ อ.วังสะพุง 10 ราย.-สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 10:50:11

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. คุณ 4

    คุณ 4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    733
    ค่าพลัง:
    +5,159
    เขื่อนกักน้ำคลองชัยบุรีแตก

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>

    </TD><TD>วันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2551 20:12

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    เขื่อนกักต้นน้ำที่สุราษฎร์พัง บ้านเรือนประชาชนหลายหลังถูกพัดจมหาย

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อเวลา 19.00 น.ที่ผ่านมาวันนี้ (12 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุ เขื่อนต้นน้ำคลองชัยบุรี ตั้งอยู่พื้นที่หมู่ 8 บ้านสองแพรก ต.ชัยบุรี อ.ชัยบุรี ซึ่งไม่สามารถรับน้ำปริมาณน้ำได้ จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่นานกว่า 2 ชั่วโมง ทำให้แนวสันเขื่อนพังทลายลง

    ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งมีบ้านเรือนราษฎรถูกกระแสน้ำ และดินโคลนพัดหายไปกับกระแสน้ำหลายหลัง และยังไม่ทราบชะตากรรมราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าว และที่ประสบเหตุ เนื่องจากเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ จากสภาพพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย และมืด แต่ก็ไม่ละความพยายามเร่งหาทางเข้าพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นการด่วน

    จาก website: post today
     
  5. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    ทำไมทางเวปพลังจิตมีการเเจ้งเเผ่นดินไหว เเต่ไม่มีการเเจ้งเรื่องเขื่อนเเตก
    หรือภัยอื่นๆทางโทรศัพท์มั่งเลยอ่ะคับ
     
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    จริงๆ เราเตือนที่คิดว่าจะอันตราย กับประเทศไทย เป็นส่วนมาก เพราะค่า sms ที่ส่งไปก็พวกเราในเวบนี่แหล่ะ ช่วยๆ กันออก เลยคิดว่าส่งที่จำเป็นมากที่สุดดีกว่า ที่ช่วยได้มากที่สุด

    เรื่องเขื่อน พวกเราไม่มี ระบบที่ online real time เหมือนแผ่นดินไหว

    แผ่นดินไหว มีองค์กร เยอะมาก แต่ละองค์กรจะ monitor ต่างๆ กัน ถ้าอันไหนคิดว่าเป็นอันตราย ก็จะเตือนแหล่ะจ้า

    ขอบคุณที่มาให้ความแนะนำนะ ;welcome2[​IMG]
     
  7. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ขออนุญาติเสริมครับ sms ละ 40 หรือ 70 สตางค์ นี่ละครับ
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หมอนิดเตือน"ระวังมือที่สาม"

    [​IMG]

    มือที่สาม
    <O:p</O:p
    ขอเตือน!...”ระวังมือที่สาม” กำลังจะลงมือสร้างความปั่นป่วน…สถานการณ์นองเลือดครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขอให้รีบหาทางป้องกันโดยด่วน…(ขอให้คำทำนายนี้ ”ผิด” ด้วยเถิด)…ย้ำอีกครั้ง…ระวังจะมีการสร้างสถานการณ์ ขอให้ทุกคน “ตื่นตัว” แต่อย่า “ตื่นกลัว” การรวมพลังใจเป็น “หนึ่งเดียว” จะมีพลานุภาพอันยิ่งใหญ่…และจะสามารถปกป้อง…”สถาบันอันเป็นที่รักยิ่ง” ของพวกเราได้…และอีกไม่นานนี้ประชาชนชาวไทยจะมี “ผู้นำ” คนใหม่ที่ ไม่ได้มาจากพรรคพลังประชาชน…และไม่ใช่มาจากพรรคประชาธิปัตย์…หรือพรรคการเมืองใดๆในปัจจุบัน
    <O:p</O:p
    หากท่านที่ได้อ่านบทความหนึ่งที่ผมได้เขียนเตือนไว้ว่า…ผู้ที่เล่นหุ้นให้ดูดีๆ…ธนาคาร ? ไปย้อนอ่านดู แต่หลายท่านที่ได้มาพบผมที่บ้าน และผมได้พูดถึงเรื่องหุ้นคงจะยิ้มหน้าบาน ถ้าคุยให้ฟังแล้วทำตาม...
    <O:p</O:p
    วันนี้ผมขอนำดวงของ นายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะพล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์...ที่ผมเขียนให้นิตรสาร Who? และได้ลงไปแล้วเพียงแต่ลงไม่หมดอาจจะเป็นเพราะเนื้อที่จำกัดก็ได้…แต่วันนี้ท่านจะได้อ่านต้นฉบับแบบไม่มีเซนเซอร์…คือยกมา “ทั้งดุ้น” ซึ่งอาจจะผิดพลาดได้เช่นกัน ก็ต้องขออภัยด้วยครับ
    <O:p</O:p
    ดวงของ นายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เกิดวันที่ 31 ส.ค. 2490 ปีกุน วันอาทิตย์ มีดิถีธาตุน้ำ ฤดูฝน ตามวันเดือนปีเกิดที่ให้มานี้ ถือว่าในพื้นดวงมีเคราะห์ติดอยู่เพราะวันเกิดของท่านเป็นวันมะเมียที่เป็นอริกับปีชวดปีนี้ และหากว่าท่านเกิดช่วงเวลา 11:00 – 13:00 หรือ 21:00 – 24:00น. ยิ่งเลวร้ายกับเจ้าชะตานี้มาก เพราะมีธาตุอริมากในปีนี้ และเมื่อดูตามดวงนี้ก็ถือว่า “มาเร็วไปเร็ว” เหมือนน้ำป่าทะลักมาถล่มทลายแล้วก็จากไป ในปีนี้ท่าน นายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แม้จะได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะกรรมผลักดันก็ตาม เจ้าชะตายังต้องเจอกับสารพัดปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาไม่สิ้นสุด

    ถ้าจะว่ากันตามดวงจริงๆ แล้วใน เดือนตุลาคมนี้ ท่านนายกสมชาย คงต้องเครียดมากทั้งปัญหาในพรรคและปัญหาส่วนตัวหรือของคนในครอบครัว แต่ด้วยความที่ท่านนายกมีความสุขุมเยือกเย็นในบุคลิกที่ดูจากภายนอก ก็คงจะสามารถประคับประคองดวงของท่านที่เต็มไปด้วยบาดแผลถึงเดือนธันวาคม 2551นี้ และรอการยุบพรรคพลังประชาชนคงจะอยู่ในเดือนธันวาคมหรืออาจจะเลยข้ามไปเป็นต้นปี 2552 เป็นอย่างช้า “แต่อย่าประมาทกับเดือนตุลาคม” และเดือนพฤศจิกายน เพราะท่านนายกอาจมีสิทธิ์ประสบอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นได้เช่นกันระวัง “ปลาตายน้ำตื้น”…

    ในขณะเดียวกันท่านนายกสมชาย ก็อาจจะได้รับใบสั่งให้ ยุบสภา ก่อนที่ศาลจะสั่งยุบพรรคพลังประชาชนก็เป็นไปได้สูง ถ้ามติวาระการประชุมได้ผ่านงบประมาณปีพ.ศ. 2552 เรียบร้อยแล้ว…หากนายกสมชายทนพิษบาดแผลทางการเมืองไม่ไหวเพราะคำสั่งจากศาลออกมาเร็ว ก็คงจะต้องจบชีวิตทางการเมืองเร็วกว่าเดือนธันวาคมนี้ และถึงผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม อนาคตทางการเมืองของท่านนายกสมชาย ก็คงจะต้องยุติลงชั่วคราว เพราะต้องย้ายเข้าเป็นสมาชิกบ้านเลขที่ 111รุ่น 2 พร้อมพวกพ้องอีกจำนวนมากที่เตรียมตัวรออยู่แล้ว

    แต่ถึงแม้ว่าท่านนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปชั่วคราวก็ตามท่านก็ยังมีบทบาทอยู่ แม้จะอยู่เบื้องหลังก็ตามท่านก็ยังเป็น…แกนนำ…ทางสมองของพรรคใหม่ที่ได้ตั้งขึ้นมารอเรียบร้อยแล้วนั่นคือ พรรคเพื่อไทย (ผู้เขียนไม่ทราบว่าท่านนายกสมชายได้เป็นสมาชิกหรือกรรมการบริหารพรรคพลังประชาชนหรือไม่ ถ้าเป็นกรรมการบริหารพรรคก็หนีไม่พ้นต้องถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง) และท่านก็ยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่

    เส้นทางชีวิตของท่านจะดีขึ้นในปี 2553 – 2554 ถึงแม้ว่าในช่วงนั้นท่านยังไม่มีสิทธิ์ทางการเมืองก็ตามขอพียงแต่ให้ระวังในปี 2551 – 2552 เท่านั้น ถ้าผ่านปีที่ว่าไปได้ แต่ปี 2555- 2556 ดวงของท่านไม่ดี จะมีปัญหาและอุปสรรคใหญ่ ในปีนี้ถือว่าท่านได้มาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้วแต่น่าเสียดายที่…ดีช่วงสั้นๆ…และดีเพราะความจำเป็น เพราะ “เมียสั่งลุย” โถน่าสงสารท่านเหมือนกัน…ระวังไม่มีแผ่นดินให้อยู่ ถ้าอยู่ได้ต้อง “อำมหิต” สุดๆทีเดียว
    <O:p</O:p
    หมอนิด<O:p</O:p
    30 ก.ย. 51
    <O:p</O:p
    ดวงของ พล.ต.อ. โกวิท วัฒนะ เกิดวันที่ 11 มี.ค. 2490 ปีกุน วันอังคาร มีดิถีธาตุดิน ฤดูใบไม้ผลิ หากดูเผินๆแล้วเหมือนกับดวงดี แต่เมื่อดูจากฐานดวงของท่านทั้งหมดแล้ว ก็อดเป็นห่วงท่านไม่ได้ ถึงแม้ว่าท่านจะได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเกียรติกับท่านอย่างสูงยิ่งในชีวิตของท่านก็ตาม ผมกลับเห็นว่าท่าน โกวิท วัฒนะ กำลังเดินขึ้นไปบนหอคอยงาช้างที่สูงส่ง…แต่!

    ท่านโกวิท วัฒนะ กำลังฆ่าตัวตายทางการเมือง ด้วยการกระเด็นตกจากหอคอยงาช้างลงมาและเกรงว่าท่านจะถูก…เขาควาย…เสียบเข้าเต็มอกในอีกไม่นานนี้ เพราะว่าในฐานดวงของท่านมีธาตุน้ำอยู่มาก และปีนี้ก็เป็นธาตุน้ำและธาตุดิน ซึ่งไม่ส่งผลบวกกับดวงของท่านโกวิท มีแต่กลับมาซ้ำเติมให้ดวงของท่านให้เลวร้ายยิ่งขึ้น อย่าได้ดีใจว่าท่านได้ตำแหน่งใหญ่ ผมกลับมองว่าท่านกำลังมารับกรรมครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของท่าน ยิ่งท่านสั่งการใดๆลงไปให้ลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านไปปฎิบัติ

    รับรองได้ว่าจะยิ่งจะทำให้ท่านทรุดหนักขึ้น เพราะจากการสั่งของท่านโดยตรงอีกทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านก็ไม่สามารถปฎิบัติได้สำเร็จด้วยความราบรื่นเรียบร้อย แม้ว่าตำรวจของท่านจะเข่นฆ่าหรือทำร้ายประชาชนได้สมใจคนบางคนก็ตาม นั่นคือจุดจบของท่านทันที เพราะดวงของท่านตกยาวอย่างน่าเป็นห่วง หากจะพูดแบบชาวบ้านปากตลาดก็เรียกว่า…ดวงซวยต่อเนื่องหลายปี…ทีเดียว

    ท่านอย่าเหลิงว่าได้เป็นรองนายก และได้เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย เพราะนั่นคือสุสานทางการเมืองของท่านอย่างแน่นอน ขอให้ท่านเชื่อผมเถอะ ผมคิดว่าท่านคงจะจำผมได้ เพราะท่านเป็นคนให้วันเดือนปีเกิดของท่านกับผมเอง ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งแถวเมืองทองธานี ก่อนที่จะเกิดรัฐประหาร และงานที่ยิ่งใหญ่วันนั้น อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ก็ไปร่วมงานด้วยเช่นกัน หากท่านไม่เชื่อคำทำนายของผมในวันนี้ท่านจะเสียใจไปตลอดชีวิตของท่านทีเดียว ผมขอรับรอง…

    หากถอยได้ขอให้รีบถอนตัวโดยด่วน ก่อนที่จะเสียคนตอนแก่ เพราะนักการเมืองจะพาท่านลงนรก รับรองอีกครั้ง ท่านทำงานนี้ไม่สำเร็จ 100% รัฐบาลจะเป็นฝ่ายแพ้ประชาชนล้านเปอร์เซ็นต์…คอยดูคำทำนายของหมอนิดก็แล้วกันครับท่านโกวิท วัฒนะ คงไม่เกินเดือนตุลาคม นี้ ก็จะได้เห็นแล้วว่าบวกหรือลบ สำหรับท่าน มันไม่ช้าหรอกครับท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยโกวิท วัฒนะ
    <O:p</O:p
    หมอนิด<O:p</O:p
    1 ก.ย. 51
    <O:p</O:p
    ดวงของ พล.ต.อ. จงรัก จุฑานนท์ เกิดวันที่ 6 เม.ย. 2593 ปีขาล วันพฤหัส มีดิถีธาตุทอง ฤดูใบไม้ผลิ ดวงของท่านมีความโชคดี แต่ตั้งอยู่ในคราวซวยที่ปนมา ด้วยอย่างเหลือเชื่อที่ว่าท่านโชคดีนั้น ก็เพราะท่านมีดิถีธาตุทอง ฤดูใบไม้ผลิ ได้ธาตุน้ำ ในปี 2550 และปี 2551 นี้มาส่งเสริมธาตุทองของท่านให้มีประกายซึ่งถือว่าให้คุณกับท่าน จงรัก เป็นอย่างมาก จนได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือมีอำนาจมากขึ้นอย่างไม่คาดคิด…แต่!

    ที่ผมบอกว่า…ตั้งอยู่บนความซวย…นั้น (ต้องขออภัยที่ใช้สำนวนชาวบ้าน) เพราะอายุของท่านจงรัก ปีนี้อายุ 58 ถือว่าอายุให้โทษ ถึงแม้ว่าท่านจะได้ตำแหน่งดีอย่างไรก็ตาม ถือได้ว่าเป็นทุกขลาภ และคิดว่า…ทุกข์…จะมากกว่าลาภ ที่ได้รับมา เพราะภารกิจที่ได้รับมอบหมายมานั้นหนักหนาสาหัสเป็นอย่างยิ่ง “และยากกว่าการเข็นตูดควายขึ้นเขา” งานนี้ท่านจงรักมีแต่เสียกับเสียจะเสียมากหรือเสียน้อยเท่านั้น เพราะถ้าหากว่าท่านจงรัก สั่งการจัดการลุยปราบผู้ชุมนุมรุนแรงผลเสียก็จะกระทบกับท่านกลับมารุนแรงเช่นกัน แต่ถ้าไม่ทำหรือทำได้ไม่เต็มที่ก็จะถูกผู้บังคับบัญชาตำหนิเอาได้เช่นกัน

    ทางที่ดีท่านจงรัก ควรจะสงวนตัวเอาไว้ดีกว่า ถ้าทำตามสั่งก็เตรียมตัวรับกรรมได้เลย เพราะปีนี้ อายุของท่านให้โทษอยู่ระวังจะทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงอีกทั้งปีหน้า พ.ศ. 2552 ที่เป็นธาตุดินซึ่งไม่ได้มาส่งเสริมดวงของท่าน แล้วยังจะซ้ำเติมธาตุทองของท่านให้หมดรัศมีได้อีกด้วย คิดว่ายศและตำแหน่งที่ท่านได้มานี้คงจะเป็นตำแหน่งที่ดีและสูงที่สุดแล้วจึงอยากจะให้ท่านรักษาให้สะอาดและตลอดไป แต่เกรงว่าจะมีการโยกย้ายไปในที่ๆไม่อยากจะไปซึ่งสามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ภายในปีนี้และปีหน้าเช่นกัน และปี พ.ศ. 2553

    ซึ่งเป็นปีขาล มีดิถีธาตุทองและธาตุไม้ ก็ยังไม่ส่งเสริมดวงของท่านอีก จึงคิดว่าท่านต้องรีบตระเตรียมทำแต่ในสิ่งที่ถูกต้องจะดีที่สุด ไม่ควรเต้นตามสั่ง เดี๋ยวจะเดือดร้อนตัวท่านเอง เพราะดวงของผู้บังคับบัญชาของท่านก็ดวงไม่ดี เดี๋ยวจะพากันไปตายซากคาตำแหน่ง ที่สำคัญ “ประชาชน” ผู้ไม่มีอาวุธและชุมนุมโดยสงบ…ท่านจงรักต้องคิดให้ดีว่าจะอยู่ฝ่ายใดในเมื่อมีคนบ้าเปิดโอกาสให้เลือกฝ่ายแล้ว ก็ควรจะรีบแสดงออกทันที ว่าจะอยู่ฝ่ายเหลืองหรือฝ่ายแดง! ขอให้คิดทบทวนให้ดีว่า ทุกครั้งที่ประชาชนมาชุมนุม ไม่เคยมีรัฐบาลไหนอยู่ได้สักครั้งเดียว / นอกจากต้องฆ่าประชาชนที่บริสุทธิ์ให้หมดไปอย่างน้อยก็เกือบครึ่งประเทศ !
    <O:p</O:p
    หมอนิด<O:p</O:p
    8 ก.ย. 51
    <O:p</O:p
    ดวงทั้ง 3 ท่านที่ได้ลงมาให้อ่านมาแล้วนี้ขอให้ใช้สติพิจารณา…แต่อย่าเพิ่งเชื่อ “คนบ้า” คนนี้และขอให้จำไว้ว่า “เงิน” สามารถซื้อหลายๆอย่างได้… แต่ซื้อ “ความตาย” และซื้อ “กรรมเวร” ไม่ได้เท่านั้น
    <O:p</O:p
    สรุปรัฐบาลนายกสมชาย วงศ์สวัสดิ์ “พัง” และคงต้อง “เผ่น” เนอะ VIP นี่ครับ ตำรวจ…โดนระนาว (เตือนแล้วไม่ฟัง) ตำรวจนายอื่นผมไม่รู้ดวง…แต่ “ระบมแน่” หลายคน

    ฟ้าประทาน…ประชาสุขใจขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
    <O:p</O:p
    สำหรับท่านที่เพิ่งจะเปิดอ่านวันนี้…ขอให้ย้อนกลับไปอ่านบทความ “มีทวงคืน” ที่เพิ่งจะลงเมื่อวันที่ 9 ต.ค. เอง และผมขอกราบขอบพระคุณทุกท่านที่เมลมาให้กำลังใจผมจำนวนมาก…<O:p</O:p
    ขอกราบขอบคุณทุกท่าน
    <O:p</O:p
    จาก หมอนิด (กิจจา ทวีกุล)<O:p</O:p
    10 ต.ค. 2551

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2008
  9. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    รัสเซียทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเป็นครั้งแรก


    [​IMG]

    เมอร์มังซ์ 11 ต.ค. – โฆษกกองทัพเรือรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปเป้าหมายในมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นครั้งแรกในวันนี้ โดยขีปนาวุธดังกล่าวเป็นชนิดซีเนวา ยิงจากเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ ทูลา ที่ประจำการอยู่ในทะเลแบเรนต์ในมหาสมุทรอาร์คติก

    การทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งนี้ ประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ของรัสเซียได้ไปชมการทดลองยิงด้วย การทดลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่กำหนดเป้าไว้ที่เส้นศูนย์สูตรในมหาสมุทรแปซิฟิก แทนที่จะเป็นเป้าที่ติดตั้งไว้ที่ฐานทัพคูรา บนคาบสมุทรกัมชาตกาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา. - สำนักข่าวไทย

    2008-10-11 17:32:17


    เรือรบรัสเซียเทียบท่าลิเบีย ก่อนเดินทางร่วมซ้อมรบกับเวเนซุเอลา


    [​IMG]

    ลิเบีย 12 ต.ค. - เรือรบรัสเซียจอดเทียบท่าในลิเบีย ก่อนเดินทางต่อไปร่วมซ้อมรบกับเวเนซุเอลา

    เรือรบของรัสเซีย 3 ลำ รวมทั้งเรือลาดตระเวนพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธ และเรือสนับสนุน ล่องจอดเทียบท่าเรือกรุงทริโปลีของลิเบีย หยุดพักเป็นเวลา 2 วัน ก่อนเดินทางมุ่งหน้าสู่ทะเลแคริบเบียน เพื่อร่วมซ้อมรบกับเวเนซุเอลา การเคลื่อนพลทางทะเลของรัสเซียเข้าทะเลแคริบเบียนครั้งนี้ ถือว่าใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคสงครามเย็น

    ทั้งนี้ เวเนซุเอลาต้องการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซียมากขึ้น และหวังเพิ่มบทบาทของรัสเซียในภูมิภาคละตินอเมริกา นอกเหนือจากให้รัสเซียช่วยกดดันสหรัฐอีกทางหนึ่งด้วย. -สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 06:11:29



    ----------------------------------------------------------

    ประเด็นนี้น่าจับตาเพราะเค้าลางแห่งสงครามใกล้เข้ามามีการหาแนวร่วม ในเวทีโลกอย่างชัดเจน
     
  10. JCkula

    JCkula สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +3
    ฮึ

    อะไรจะเกิด ก็ให้มันเกิด
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ธุรกิจเสื้อผ้า-สิ่งทอ กระทบหนัก กสิกรไทยแนะ SMEs ปรับตัวรับวิกฤต</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 ตุลาคม 2551 17:45 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    นายธนาคารเตือนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ปรับตัวรับผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก แนะประกันค่าเงินบาท เพราะค่าเงินบาทผันผวน จี้รัฐลงทุนโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ (เมกะโปรเจกต์) ต่อเนื่อง สร้างเม็ดเงินหมุนเวียน กระตุ้นการใช้จ่ายผู้บริโภค

    นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงปัญหาวิกฤติสถาบันการเงินในสหรัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลก ว่าธุรกิจเอสเอ็มอี จะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวในทางอ้อม เพราะกลุ่มเอสเอ็มอีผลิตสินค้าส่งให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมส่งออก นอกจากนี้กลุ่มเอสเอ็มอีที่ต้องพึ่งพาตลาดท่องเที่ยวอาจได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวสหรัฐและยุโรปลดลง โดยจะเห็นผลกระทบได้อย่างชัดเจนในปีหน้า ขณะที่ภาคการเงินได้รับผลกระทบจากเม็ดเงินไหลออก ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด

    นายปกรณ์ กล่าวว่า แม้สถาบันการเงินไทยจะมีสภาพคล่องในระบบอยู่ประมาณ 400,000-500,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอต่อการปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายเล็ก แต่กลุ่มเอสเอ็มอีมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ทำให้การกู้เงินจากสถาบันการเงินค่อนข้างยาก ดังนั้นจึงต้องดูแลสภาพคล่องของตัวเองให้ดี ในส่วนของธนาคารไม่ได้เข้มงวดในหลักเกณฑ์การปล่อยกู้มากขึ้นกว่าเดิม โดยจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะขึ้นในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อติดตามลูกค้าเอสเอ็มอีที่อนุมัติสินเชื่อไปแล้วอย่างใกล้ชิด และเข้าช่วยเหลือลูกค้าที่เริ่มส่งสัญญาณว่าจะมีปัญหาทางด้านการเงิน

    อย่างไรก็ตาม ธุรกิจเอสเอ็มอีในกลุ่มเสื้อผ้าและสิ่งทอน่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนในอุตสาหกรรมอื่นจะได้รับผลกระทบรุนแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับการกระจายตลาดส่งออกไปยังตลาดใหม่ ๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ควบคุมต้นทุนการผลิตและหากธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ควรลงทุนปรับปรุงหรือซื้อเครื่องจักรใหม่ เพราะค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำ ทำให้ต้นทุนการลงทุนใหม่ลดลง และสถาบันการเงินควรให้การสนับสนุนด้านความรู้ควบคู่ไปกับการปล่อยสินเชื่อ

    ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวด้วยว่า ในปีนี้การเติบโตของเศรษฐกิจและการขยายตัวของธุรกิจเอสเอ็มอีมาจากธุรกิจส่งออกสินค้าเกษตร แต่ในปีหน้าการเติบโตของเศรษฐกิจคาดว่าจะมาจากการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ ซึ่งรัฐต้องเร่งสานต่อการลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ เพื่อนำร่องการลงทุนในภาคเอกชน และกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปีหน้าต้องปรับตัวพึ่งตลาดส่งออกน้อยลง หาตลาดใหม่ทดแทนตลาดเดิม และทำประกันค่าเงินบาท เนื่องจากภาวะค่าเงินบาทผันผวน โดยคาดว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับคงที่ หลังจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ร้อยละ 3.75 เพราะแรงกดดันอัตราเงินเฟ้อลดลง ขณะที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มีทิศทางปรับลดลง แต่ต้องรอดูสถานการณ์ที่ชัดเจนอีกระยะหนึ่ง

    ที่มา http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9510000120259
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน จากแผ่นดินไหวรุนแรงในเชชเนีย

    [​IMG]

    เชชเนีย 13 ต.ค. - เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในดินแดนเชชเนีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และบาดเจ็บอีกนับร้อย

    สำนักข่าวหลายแห่งของรัสเซีย รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.3 ริกเตอร์ เมื่อเวลาราว 12.00 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น ในดินแดนเชชเนีย ทางภาคใต้ของรัสเซีย มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองกรอสซี ซึ่งเป็นเมืองเอกของแคว้น ตามมาด้วยแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว (อาฟเตอร์ช็อก) หลายครั้ง ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 100 คน

    นอกจากนี้ ยังสร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่าง ทั้งถนน สายส่งไฟฟ้า และโทรคมนาคม รวมถึงอาคารบ้านเรือนจำนวนมาก โรงเรียนและโรงพยาบาลหลายแห่ง ขณะนี้ชาวบ้านราว 52,000 คน ใน 3 เขต ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ด้านรัฐบาลรัสเซียได้ส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยออกไปช่วยค้นหาผู้รอดชีวิตแล้ว. - สำนักข่าวไทย

    2008-10-13 04:16:05

    รัสเซียทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล

    [​IMG]

    รัสเซีย 12 ต.ค. – รัสเซียทดสอบขีปนาวุธโทโปลจากฐานยิงทางภาคเหนือ โดยมีประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟเดินทางมาตรวจสอบด้วยตนเอง

    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การทดสอบขีปนาวุธโทโปลมีขึ้นเมื่อเวลา 14.23 น.ตามเวลาในประเทศไทยท่ามกลางฝนตกพรำ ๆ โดยยิงจากฐานปล่อยจรวดกลางป่าทางภาคเหนือและมีเป้าทดสอบอยู่ที่คาบสมุทรคัมชัตกาในมหาสมุทรแปซิฟิก ขีปนาวุธอาร์เอส-12เอ็ม โทโปล นี้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เรียกว่าเอสเอส-25 ซิคเคิล มีพิสัยทำการสูงสุดถึง 10,000 กิโลเมตร และสามารถบรรจุหัวรบน้ำหนัก 550 กิโลตัน. –สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 15:19:40

    นักลงทุนสิงคโปร์ประท้วงขาดทุนจากตราสารหนี้เลห์แมน

    [​IMG]

    สิงคโปร์ 12 ต.ค. – นักลงทุนชาวสิงคโปร์หลายร้อยคน ไปชุมนุมกันที่สวนสาธารณะในวันนี้ เพื่อแสดงความไม่พอใจที่ขาดทุนจากการซื้อตราสารหนี้อนุพันธ์ที่ออกโดย เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้งส์

    บรรดาผู้ชุมนุมซึ่งมีทั้งนักลงทุนที่เป็นผู้เกษียณ คนชนชั้นกลาง และชั้นแรงงาน ต่างขาดทุนจากการลงทุนในตราสารหนี้อนุพันธ์ ระยะ 5 – 7 ปีที่ธนาคารท้องถิ่นจำหน่ายให้เหมือนเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย ให้ผลกำไรราวร้อยละ 5 สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้เพียงร้อยละ 0.5 สำนักงานการเงินสิงคโปร์ซึ่งทำหน้าที่เหมือนธนาคารกลาง เผยว่า มีชาวสิงคโปร์ราว 8,000 คน ซื้อตราสารหนี้อนุพันธ์ของ เลห์แมน บราเธอร์ส ผ่านธนาคารและบริษัทนายหน้า 9 แห่ง มูลค่ารวม 508 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 12,000 ล้านบาท)

    ปัญหาการขาดทุนของบรรดานักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ เป็นผลจากวิกฤติสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ด้อยคุณภาพในสหรัฐ ที่สร้างความเสียหายให้กับตลาดเงินทั่วโลก และทำให้ เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ที่ประกาศล้มละลายไปเมื่อเดือนก่อน

    นอกจากสิงคโปร์แล้ว เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นักลงทุนในฮ่องกงหลายร้อยคน ชุมนุมเรียกร้องขอเงินคืนเต็มจำนวน จากการลงทุนในพันธบัตรที่ เลห์แมน สนับสนุน หลังจากฝ่ายบริหาร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ได้เสนอแผนการให้ธนาคารท้องถิ่น และผู้จำหน่ายพันธบัตรซื้อคืนพันธบัตร โดยจะตัดสินใจเรื่องราคาในภายหลัง

    แต่นักลงทุนส่วนมากไม่ยอมรับแผนดังกล่าว เพราะเห็นว่าแผนนี้จะช่วยชดเชยการลงทุนของพวกเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และว่า ธนาคารไม่ได้ชี้แจงว่าพันธบัตรที่พวกเขาซื้อไปนั้น เกี่ยวข้องกับเลห์แมน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ประมาณว่า นักลงทุนฮ่องกงมีการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเลห์แมน ราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 68,000 ล้านบาท).-สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 12:34:21

    อังกฤษจะประกาศแผนฟื้นฟู 4 ธนาคารใหญ่

    [​IMG]

    ลอนดอน 12 ต.ค. – อังกฤษจะประกาศแผนฟื้นฟูธนาคารรายย่อยครั้งใหญ่วันพรุ่งนี้ (13 ต.ค.) หลังธนาคารใหญ่ 4 แห่งยื่นขอความช่วยเหลือรวมกว่า 35,000 ล้านปอนด์ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท)

    หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ของอังกฤษรายงานว่า แผนฟื้นฟูครั้งนี้จะส่งผลให้ทางการเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดในธนาคารเอชบีโอเอสซึ่งเป็นผู้ออกสินเชื่อรายใหญ่ที่สุดของอังกฤษและธนาคารรอแยล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ที่ต่างก็ประสบปัญหาขาดสภาพคล่อง โดยรอยัลแบงก์ออฟสก๊อตแลนด์ต้องการเงินช่วยเหลือ 15,000 ล้านปอนด์ (ราว 900,000 ล้านบาท) เอชบีโอเอสต้องการเงินช่วยเหลือ 10,000 ล้านปอนด์ (ราว 600,000 ล้านบาท) ส่วนธนาคารลอยด์ส ทีเอสบีซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเข้าซื้อกิจการเอชบีโอเอสต้องการเงินช่วยเหลือ 7,000 ล้านปอนด์ (ราว 420,000 ล้านบาท) และธนาคารบาร์คเลย์สสต้องการเงินช่วยเหลือ 3,000 ล้านปอนด์ (ราว 180,000 ล้านบาท) .-สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 11:19:10

    จีนประสบความสำเร็จถอดพันธุกรรมแพนดายักษ์

    [​IMG]

    เซี่ยงไฮ้ 12 ต.ค. – จีนประสบความสำเร็จลำดับพันธุกรรมแพนดายักษ์ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อมาตรการปกป้องแพนดายักษ์ไม่ให้สูญพันธุ์

    สำนักข่าวซินหัวอ้างถึงนายหวัง จุน นักวิจัยประจำสถาบันพันธุกรรมศาสตร์กรุงปักกิ่งระบุว่า ข้อมูลลำดับพันธุกรรมของแพนดายักษ์จะเป็นตัวไขคำตอบว่าเหตุใดสัตว์ชนิดนี้จึงมีอัตราการเกิดต่ำ รวมทั้งอาจนำมาใช้กระตุ้นให้แพนดาตกลูกได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังอาจช่วยควบคุมโรคระบาดในหมู่แพนดายักษ์ ปัจจุบันคาดว่ามีอยู่ในธรรมชาติไม่ถึง 2,000 ตัว

    สถาบันพันธุกรรมศาสตร์กรุงปักกิ่งเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในโครงการถอดรหัสพันธุกรรมแพนดายักษ์ระหว่างประเทศซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ โดยจากการศึกษาที่ผ่านมาพบหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีว่าแพนดายักษ์อาจเป็นสายพันธุ์ย่อยหนึ่งของหมีดำ. –สำนักข่าวไทย

    2008-10-12 12:05:57

    ที่มา http://news.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2008
  13. เจนัย

    เจนัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    1,036
    ค่าพลัง:
    +3,237
    "ดูแต่หอยสิ ไม่มีมือไม่มีตีน มันยังหากินได้เอง ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย..."

    "ขายอย่าให้แพง คนเขาจะได้กินลง ฉันขายถูกๆ เอาไปเถอะ ซื้อไปแกงให้พอหม้อ..."


    "มีก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน ไม่ขอใคร คนเราอดตาย หายาก ถ้าไม่เจ็บไม่ไข้นะ..."

    "ชีวิตคนเหมือนสะพาน มีขึ้น มีลง มีสูง มีต่ำ พอสุดท้าย ก็ตาย..."



    ขอไว้อาลัยปู่เย็นด้วยครับ ปู่เป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆด้านของลูกของหลาน โดยเฉพาะที่ปู่บอกว่า "สุดท้ายก็ตาย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2008
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"สมเด็จพระราชินี" จะเสด็จฯ พระราชทานเพลิงศพ "น้องโบว์"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 ตุลาคม 2551 11:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังขณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ ในเวลา 16.00 น.วันนี้ ณ วัดศรีประวัติ

    วันนี้(13 ต.ค.) สำนักราชเลขาธิการ เปิดเผยว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี จะเสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังขณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ ในเวลา 16.00 น.วันนี้ ณ วัดศรีประวัติ ซึ่งได้สร้างความปลื้มปีติให้กับครอบครัวระดับปัญญาวุฒิเป็นอย่างมาก

    ส่วนบรรยากาศงานพระราชทานเพลิงศพของน้องโบว์ในขณะนี้มีเพียงญาติสนิทและเพื่อนเข้าร่วมงานเพื่อเตรียมการรับเสด็จ ทั้งนี้ กองงานออกแบบและก่อสร้างพลับพลาพิธีได้เตรียมการจัดสถานที่เพื่อการรับเสด็จในครั้งนี้

    ที่มา http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9510000121410
     
  15. ตากาฉ่อ

    ตากาฉ่อ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +40
    พึ่งมีโอกาศเข้ามา Dinner วันนั้นคงอิ่มแสงเทียนมาไปหน่อย

    คุณ Falkman ที่แน่ๆ วันนั้นเราทุกคนคงทานข้าวใต้แสงเทียนกัน โรแมนติกมาาาก (ปริมาณ ก็ขนาดนี้แน่5)

    แต่มีใครฝากบ่นมา Dinnerดูท่าจะไม่,uเหลือ เค้าคงลืมเรา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • wr.jpeg
      wr.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      108 KB
      เปิดดู:
      52
  16. พุทธโกมุท

    พุทธโกมุท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +2,807
    ความฝันเมื่อ 11/6/08


    เรากำลังถูกเสี้ยมให้เข้าประหัตประหารกัน โดยยักษ์ 2 ตน ขอให้ทุกท่านมีสติพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้น อย่าเข้าร่วมกับฝ่ายใด รักในหลวงอย่าลืมว่าท่านตรัสอยู่เสมอ "ให้คนไทยรู้รักสามัคคี"
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ปู่เย็น...คนไม่ธรรมดา ****</p>
    คนธรรมดาหนึ่งคน
    ทำคนทั่วประเทศ ให้เห็นการกระทำ
    พื้นฐานเมตตา พูดแล้วทำ
    ทำได้จริง ถึงเวลาสุดท้าย ไปอย่างสงบ

    เขาเป็นใคร มาจากไหน มาทำไม บอกอะไรเรา !!!

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. Thongkerd

    Thongkerd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +152
    1.คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก
    เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยทำนาย
    เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา

    2.ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง อดีตที่ผ่านมา
    น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
    พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
    เป็นประชาจนเต็มพระนคร

    3.ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน สัญลักษณ์แห่งเสื้อเหลือง
    ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
    ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร
    องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน

    4.ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส ความสุขจากการได้ใส่เสื้อเหลือง
    แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
    จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
    เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา

    5.จะมีการต่อตีกันกลางเมือง กินกันชิบหายวายป่วงขอสาบพวกมันอย่าได้เกิดมาอีกเลย
    ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
    คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
    ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร

    6.ข้าราชการตงฉินถูกประนาม โกงกินกันเข้าไป นักการเมือง ตอนนี้มันก็รวยกันทุกคนแล้ว...
    สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
    เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
    โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี

    7.ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ไม่รู้ว่าจะเข้าข้างทักษิน หรือ พันธมิตรดี ไม่รู้ว่าใครถูกใครผิด
    ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
    ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
    เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน

    8.พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ ยกเลิกพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ
    มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ เขมร แดนปราสาท พม่าขนยาบ้ามาให้ มาเล.ก็ 3 ตจวใต้ที่มันอยากได้ ดูเอาตอนนี้ว่ามันกำลังทำอะไรประเทศเรา
    เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน โลกร้อน
    พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย น้ำท่วม ดินถล่ม ออกข่าวทุกวัน


    9.แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดขึ้นแล้วและกำลังดำเนินอยู่
    เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย เศรษฐกิจยำแย่ ทุกข์ยาก ของแพง น้ำมันแพง
    เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เริ่มตายแล้วสอง กำลังจะตามมาอีกมากมาย
    เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน ยังมาไม่ถึง แต่ก็ใกล้แล้ว


    10.ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ยังมาไม่ถึง แต่ก็ใกล้แล้ว
    ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
    ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล อาจารย์ นักวิชาการ อธิการระวังไว้
    จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม เขาจะจัดการแน่นอน

    11.ความระทมจะถมทับนับเทวศ สงสารคนไทยจังเลย...

    ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
    คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
    ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง

    12.
    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว รู้แล้วว่าเป็นใคร....แต่ไม่บอกหรอก (คนที่มีคฑาไม่น่าเป็นอื่น)
    ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สงสารท่านจังเลย จุดเปลี่ยนจากถิ่นกาขาวไปหาศิวิไลย์อยู่ที่นารีคนนี้แหละ
    สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ

    13.ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม ต้องเกิดแน่นอน อย่าตายนะต้องรอดู
    หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
    เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา เมืองใหม่ที่ว่านี้อยู่แห่งใดหนอ..???? อยากรู้ถ้าไม่ตายจะได้เห็น ได้อยู่ ทำบุญไว้มาก ๆ

    14.คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น พันธมิตร นปก ทักษิโนมิก และนักการเมืองคร่ำครึโกงกิน คงจะหายจากแผ่นดินองค์ธรรมิกราชเจ้าซะที
    แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
    ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ
    นี่คือแดน ศิวิไลย์ ถ้าไม่ตาย รอดูคำทำนายนี้จะเป็นจริง


    ตอนนี้ประเทศไทยน่าจะถึงบทที่ 8-9 นะบทที่ 9 ยังไม่สมบูรณ์กำลังดำเนินอยู่อดใจรอดูรอชม สนุกกว่าหนังละครอีก
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    </p>*** โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต ****

    มหันต์ภัยไสสู่ฟ้า ข้ามแพงมาลงกลางใจ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. doodee1

    doodee1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6528 ข่าวสดรายวัน


    อังกฤษศพล้น-พิษศก.




    หนังสือพิมพ์เดลีเมล์ของอังกฤษรายงานว่า เมื่อ 12 ต.ค. วิกฤตการเงินที่ลุกลามไปทั่วโลกกำลังก่อปัญหาให้สุสานต่างๆ ทั่วอังกฤษเนื่องจากมีศพคนจนหลายร้อยศพค้างเติ่งอยู่ที่สุสานนานกว่า 2 เดือนเพราะรัฐบาลอนุมัติเงินช่วยเหลือล่าช้า โดยปกติบริษัทรับทำพิธีฝังศพในอังกฤษจะจ่ายค่าทำศพล่วงหน้าให้กับครอบครัวคนจนและจะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลในภายหลัง แต่วิกฤตสินเชื่อที่เกิดขึ้นในระบบธนาคารทำให้หลายบริษัทไม่สามารถทำเช่นเดิมได้อีก เพราะไม่แน่ว่าจะได้เงินจากรัฐบาลเมื่อไร เหตุการณ์ดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับรัฐบาลพรรคแรงงานมาแล้วเมื่อ 30 ปีก่อน เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจทำให้มีศพกองพะเนินจนล้นออกไปตั้งบนถนนรอการฝังซึ่งเป็นเสมือนสัญญาณความล้มเหลวทางการเมืองให้กับคะแนนนิยมของพรรคแรงงาน

    หน้า 7


    ธพว.หนี้เน่าท่วม-ชงคลังตั้งเอเอ็มซีสาง รับมือวิกฤตมะกันซัดเอสเอ็มอี-"กรพจน์"จี้ธปท.ลดดอก



    รายงานข่าวจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) แจ้งว่า ขณะนี้ธพว. เตรียมจะเสนอกระทรวงการคลังพิจารณาอนุมัติจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์เอส เอ็มอีแบงก์ (เอเอ็มซี) ขึ้นมา โดยรูปแบบอาจเป็นการจัดตั้งเป็นบริษัทลูกของธพว. หรือเกิดจากการร่วมทุนกับเอเอ็มซีอื่น เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของเอสเอ็มอี ที่ขณะนี้เฉพาะลูกค้าของธพว. พบว่ามีเอ็นพีแอลสูงถึง 50% ของยอดสินเชื่อทั้งหมด รวมถึงเพื่อรองรับผลกระทบจากวิกฤตการเงินสหรัฐ ที่คาดจะมีเอ็นพีแอลของเอสเอ็มอีเกิดขึ้นอีกมากทั้งจากลูกค้าธพว. และลูกค้าของธนาคารพาณิชย์อื่น สำหรับข้อเสนอการจัดตั้งเอเอ็มซีดังกล่าว เนื่องจากหากธพว. จะต้องขายสินทรัพย์ให้เอเอ็มซีอื่นจะต้องมีการเข้ามาสำรวจสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร ซึ่งอาจมีปัญหาการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้าได้ อีกทั้งเมื่อเข้ามาสำรวจข้อมูลแล้วก็ไม่สามารถประกันได้ว่าเอเอ็มซีต่างๆ จะซื้อเอ็นพีแอลของธนาคารหรือไม่

    ทั้งนี้ จากการพิจารณาเบื้องต้นพบว่าจากวิกฤตการเงินสหรัฐกระทบสภาพคล่องของเอสเอ็มอีจำนวนมาก จึงเห็นด้วยกับกรณีสมาคมธนาคารไทยเสนอขอให้กระทรวงการคลังดำเนินการโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยถูกหรือซอฟต์โลนจำนวน 2 หมื่นล้านบาท แทนธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ไม่สามารถดำเนินการได้อีก โดยกระทรวงการคลังอาจพิจารณาให้สถาบันการเงินของรัฐเป็นผู้ปล่อยเงินกู้แทนนั้น ธพว.พร้อมดำเนินการแต่ต้องจัดหาแหล่งเงินทุนให้ เนื่องจากธพว. ไม่มีสภาพคล่องส่วนเกินเพียงพอ ทั้งนี้ซอฟต์โลนที่จะปล่อยกู้ควรจะจำกัดเงื่อนไขเพียงเพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนเท่านั้น เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบกับปัญหาเงินทุนหมุนเวียนของหลายธนาคาร นอกจากนี้อยากเรียกร้องให้ภาครัฐหรือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยออกมาพูดตัวเลขจริง ไม่อยากให้ปิดบังหรือเปิดเผยเพียงข้อมูลด้านดีเพราะทำให้เอสเอ็มอีปรับตัวไม่ทัน

    อย่างไรก็ตาม หากจะให้ธพว.ดำเนินการปล่อยกู้ จะขอเสนอให้แยกบัญชีการปล่อยกู้ดังกล่าวหรือบัญชีพิเศษ (พีเอสเอ) ต่างหากจากเงินกู้ทั่วไปของธนาคาร เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อการตั้งสำรองของธนาคารหากภายหลังจะได้รับผลจากการปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเมื่อธปท.มีโครงการซอฟต์โลนก็มักจะปล่อยกู้กับธนาคารพาณิชย์มากกว่าธพว.เนื่องจากไม่เชื่อใจ ซึ่งเรื่องนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการตรวจสอบเข้มงวด

    นายกรพจน์ อัศวินวิจิตร อดีตผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า จากปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินโลกจากสหรัฐ ยุโรป ได้ส่งผลกระทบไปยังประเทศต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว หลายประเทศจึงตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยประมาณ 0.5-1% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและประชาชนในประเทศ จึงมองว่าธปท. ควรปรับอัตราดอกเบี้ยลง ส่วนจะลดลงเท่าใดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่สำคัญธปท. อาจปรับแนวคิดการดูแลเศรษฐกิจตามเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ เพื่อหันมาดูแลการขยายตัวเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากภายนอก เพราะหากดอกเบี้ยของไทยสูงกว่าประเทศอื่นเงินทุนอาจไหลกลับมา ผลักดันให้เงินบาทแข็งค่าจนกระทบการส่งออก การบริหารอัตราแลกเปลี่ยนจึงต้องสอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้าน

    หน้า 8
     

แชร์หน้านี้

Loading...